ขอเล่า + ขอถาม

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย freynatt, 17 สิงหาคม 2010.

  1. freynatt

    freynatt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +35
    ในเมื่อตอนผมยังเด็กอยู่ ผมมีโอกาสได้ไปทำบุญที่ซอย สายลมบ่อยๆทั้งตอนที่ หลวงพ่อยังอยู่ และหลังจากท่าน มรณภาพแล้ว ผมก็ยังไปบ่อยๆกับแม่ เด็กๆนีทำบุญเยอะมาก แล้วมีอยู่ครั้งนึงที่ซอยสายลม ผมกับแม่ถวายสังฆทาน เสร็จแล้วก็มานั่งทางด่านหลัง แล้วผมก็มองไปข้างหน้า ผมมองเห็น หลวงพ่อฤาษี ท่านนั่งรับสังฆทานอยู่ (ตอนนั้นท่าน มรณภาพแล้ว) ผมก็มองไปท่านก็เหมือนคนปกติ ที่แปลกคือผมนะรู้แล้วว่าท่าน มรณภาพแล้ว แต่ในตอนนั้นลืม
    พอสักพักผมก็ไม่เห็นแล้ว กลายเป็นพระอีกรูปแทน ผมก็ถามแม่ว่าหลวงพ่อ
    ไปไหนแล้ว แม่บอกท่าน มรณภาพไปแล้ว ผมก็บอกเห็นหลวงพ่อ แม่บอกเห็นได้ไง ท่านมรณภาพไปแล้ว ผมเลยนึกได้ แต่ผมก็บอกแม่ว่าผมเห็นจริงๆ และผ่านมา 20 ปี เมื่อ2เดือนก่อน ผมก็ฝันเห็นท่าน กับพระอีก3รูป แม่บอกว่าท่านมาเตือนหรือเปล่า ผมนี่กลัวเลย เพราะตั่งแต่โตเป็นวัยรุ่นมา จนตอนนี้ 30 แล้ว ใช่ชีวิตแบบสุดๆ คือประมาณ ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้
    ตอนนี้เลยอยากจะตั่งต้นใหม่ ไม่ทราบว่าผมต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน


    อีกเรื่องนะครับ คือมีบทสวด บทไหน ที่เกี่ยวกับ
    พระสารีบุตร บ่างครับ
    พอดีอ่าน ประวัติพระสาวก หลายๆท่าน แต่มารู้สึกรัก พระสารีบุตรมาก
    อ่านไป ก็ร้องไห้ งงมาก กับสาวกท่านอืนกลับไม่รู้สึกอะไร


    สุดท้ายฮะ ผมรับออกแบบสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา หนังสือ ปกCD โปสเตอร์ ผมรับออกแบบเป็น ธรรมทานครับไม่เสียค่าใช้จ่าย

     
  2. worrawat_v

    worrawat_v เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,003
    ในเมื่อคุณให้ทานเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ขยับมาที่ศีลสิครับ
    พยายามรักษาศีล 5 ให้ทรงตัว ใหม่ ๆ อาจจะยาก แต่หลัง ๆ จะคล่องตัวครับ

    ถ้าคิดว่าการรักษาศีล 5 ให้ทรงตัวนั้นเป็นการยาก
    ตอนเริ่มต้นก็อาจจะลองรักษาศีลข้อที่เราคิดว่าไม่น่าจะขาดได้ง่ายก่อน
    พอกำลังใจเริ่มทรงตัว มีความรักในศีล อยากให้ศีลของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์ขึ้นแล้ว
    ขั้นต่อไปเราก็เพิ่มข้อศีลที่เราคิดว่าเราน่าจะทำได้ต่อไปเรื่อย ๆ จนครบ 5 ข้อ
    ใหม่ ๆ อาจจะมีการบกพร่องบ้าง มีศีลขาดบ้าง ถ้าพลาดไปแล้วก็ไม่เป็นไร
    อย่าไปตำหนิตัวเอง แต่ก็อย่าเห็นศีลเป็นของเล่นนะครับ
    ศีล 5 ถ้ารักษาไว้ไม่ได้ ถ้าตายไปก็โอกาสลงอบายภูมิสูง
    แต่ถ้ากำลังใจเราสามารถรักษาศีลทั้ง 5 ข้อเอาไว้ได้ อย่างต่ำ ๆ ก็ได้มาเกิดเป็นมนุษย์

    อีกวิธีหนึ่ง คือการรักษาศีล 5 เป็นเวลา คือ ตั้งเวลาไว้ว่าตั้งแต่ตอนนี้ ถึงตอนนั้น
    เราจะไม่ยอมให้ศีลของเราขาด ที่หลวงพ่อแนะนำในตอนแรก เช่น
    ตั้งใจไว้ว่าตั้งแต่หลับจนกระทั่งตื่น เราจะเป็นผู้ที่มีศีล 5 ทรงตัว เป็นต้น
    จากนั้น ระหว่างวัน เราก็ลองตั้งใจไว้ว่า ตั้งแต่ 8 โมงเ้ช้า จนถึงเที่ยง เราจะไม่ยอมศีลขาด
    ถ้าศีลเริ่มทรงตัว และกำลังใจเรารักในศีลมากขึ้น เราก็ค่อย ๆ เพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ จนเต็มวัน

    ขั้นต่อไป เราก็ขยับมาที่การภาวนา วิธีที่หลวงพ่อมักจะแนะนำเสมอ ๆ คือ
    อานาปานุสติกรรมฐานควบกับพุทธานุสสติกรรมฐาน
    หมายความว่าให้เราจับลมหายใจเข้าออก พร้อมกับคำภาวนาและภาพพระพุทธเจ้า

    ในส่วนของการจับลมหายใจเข้าออกนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แนว คือ
    ตามแนวมหาสติปัฎฐานสูตร - เวลาหายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า เวลาหายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออก
    หายใจเข้าสั้นหรือยาวก็รู้ว่าหายใจเข้าสั้นหรือยาว เวลาหายใจออกก็เช่นกัน
    หายใจเ้ข้าหนักหรือเบาก็รู้อยู่ว่าหายใจเข้าหนักหรือเบา เวลาหายใจออกก็เช่นกัน
    และถ้าลมหายใจมันหยุดหรือหายไป ก็ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องไปควานหา ให้รู้อยู่อย่างนั้นพอ
    ตามแนวกรรมฐาน 40 - ให้จับลมหายใจ 3 ฐาน คือ จมูก อก แล้วก็ศูนย์เหนือสะดือ
    หายใจเข้ารู้อยู่เมื่อลมกระทบจมูก อก ท้อง
    หายใจออกก็รู้อยู่เมื่อลมกระทบท้อง อก จมูก (หรือริมฝีปาก สำหรับคนที่ริมฝีปากเชิด)

    สำหรับการภาวนา จะภาวนาว่าพุทโธ สัมมาอะระหัง นะมะพะธะ นะโมพุทธายะ
    หรือคำภาวนาอื่นก็ได้ตามที่เราชอบใจ

    ส่วนภาพพระ หลวงพ่อท่านก็แนะนำให้จับภาพพระพุทธรูปองค์ใดก็ได้
    ที่เรารัก เราชอบใจ ที่ถูกกับจริตนิสัยของเรา
    (ในส่วนนี้ ถ้าัยังรู้สึกว่ายากไป ก็จับแต่ลมและคำภาวนาไปก่อนก็ได้)

    การฝึกสมาธิในส่วนนี้เป็นสมถกรรมฐาน
    คุณควรจะศึกษาในด้านของวิปัสสนากรรมฐานควบคู่กันไปด้วย
    เพื่อความก้าวหน้าในผลของการปฏิบัติ ซึ่งอาจศึกษาได้จากคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน
    หรือหนังสือกรรมฐาน 40 ของหลวงพ่อ ที่มีจำหน่าย ณ บ้านสายลมเ่่ช่นกัน

    หลวงพ่อท่านแม้จะทิ้งสังขารไปแล้ว แต่ด้วยเมตตาจิตของท่าน
    ท่านก็ยังคงตามช่วยสงเคราะห์ลูกหลานท่านเสมอ
    ในเมื่อท่านอุตส่าห์มาตามคุณแล้ว ก็ขอให้คุณรวบรวมกำลังจิต
    และมุ่งมั่นทำตามความตั้งใจที่ดีให้สำเร็จโดยเร็วนะครับ
     
  3. bcbig_beam

    bcbig_beam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,821
    ค่าพลัง:
    +3,247
    ขอโมทนาในกุศลจิตด้วยนะครับ และขอเป็นกำลังใจให้สำเร็จสมความตั้งใจทุกประการ
    สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  4. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,631
    มีอยู่ครับ เป็นพระอรหันต์อุทานครับ

    คือเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าต้องการแสดงให้บรรดาพระสาวกเห็นถึงปัญญาของพระสารีบุตรพระองค์จึงถามพระสาวก ว่าด้วยองค์คุณแห่งพระโสดาบัน ไปจนถึงองค์คุณของพระอัครสาวก เหล่าพระสาวกตอบปัญหาต่างๆ ได้ตามที่ตนมีภูมิธรรมในชั้นนั้น ๆ จนถึงองค์คุณแห่งพระพุทธเจ้าเหล่าพระสาวกตอบไม่ได้พระพุทธเจ้าจึงให้พระสารีบุตรแสดงแทนโดยพระองค์แนะให้ พระสารีบุตรจึงวิสัชนาว่าด้วยพระปัญญาธิคุณแทนพระพุทธเจ้า เมื่อแสดงจบลงพระสารีบุตรจึงอุทานเป็นคาถาบาลี พระคณาจารย์สมัยหลัง ๆ จึงนำคาถานี้มาสวดเพื่อให้มีปัญญาดีเหมือนพระสารีบุตร

    แต่บังเอิญว่าผมจำได้ไม่หมดเดี๋ยวจะค้นให้ครับ
     
  5. ซาตานคลั่ง

    ซาตานคลั่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,449
    สำหรับผมนะ ทำง่ายๆอย่างนี้เลย
    อธิษฐาน"ข้าพเจ้าขอบูชาพระสารีบุตรด้วยศรัทธาจิตเปี่ยมล้นนี้ของข้าพเจ้าด้วยเถิด" จบ
     
  6. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,631
    พระสารีบุตรอุทานกถาเมื่อครั้งวิสัชนาพุทธวิสัย จาก ธมฺมปทฏฺฐกถา ฉฏฐมภาค ความว่า

    คงคายะ วาลุกา ขีเย ..........(คงฺคาย วาลุกา ขีเย)

    อุทะกัง ขีเย มะหัณณะเว.......(อุทกํ ขีเย มหณฺณเว)

    มะหิยา มัตติกา ขีเย.............(มหิยา มตฺติกา ขีเย)

    นะขีเย มะมะ พุทธิวาติ.........(นขีเย มม พุทฺธิวาติ)

    ความหมายดังนี้

    ถึงแม้ว่าทรายในมหาสมุทรจะสิ้นไป

    ถึงแม้ว่าน้ำในมหาสมุทรอันใหญ่จะเหือดแห้งไป

    ถึงแม้ว่าแผ่นดินอันกว้างใหญ่จะสิ้นไปแล้วก็ดี

    แต่ปัญญาของอาตมาจะได้สิ้นไปนั้นหาบ่มิได้

    ในอุปปาตสันติงมีบทสวดระลึกถึงพระสารีบุตรอยู่ดังนี้

    โลกะนาถัง ฐะเปต์วา ........... ปัญญะวันตานะ ปาณินัง

    ปัญญายะ สารีปุตตัสสะ ........ กะลัง นาคฆะติ โสฬะสิง

    สารีปุตโต มหาปัญโญ .......... ปะฐะโม อัคคะสาวะโก

    ธัมมะเสนาปะตี เสฏโฐ .......... สะทา โสตถิง กะโรตุ โน

    ยกเว้นพระโลกนาถแล้ว บรรดาสัตว์ที่มีปัญญา

    จะหาผู้ใดเสมอพระสารีบุตร แม้เพียงส่วนเสี้ยวที่ ๑๖ ก็หามิได้

    พระสารีบุตรมีปัญญามาก เป็นอัครสาวกองค์แรก

    เป็นพระธรรมเสนาบดีผู้ประเสริฐสุด ขอจงอำนวยสวัสดีแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายทุกเมื่อเทอญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...