ขอแนะนำ บทสวด สอนเจ้ากรรมนายเวร

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย ลัก...ยิ้ม, 22 มิถุนายน 2005.

  1. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    ขอเชิญผู้สนใจเข้าไปอ่านบทสวดมนต์ สอนเจ้ากรรมนายเวรได้ตามเวปข้างล่างนี้ค่


    http://buddhabhumi.info/friend_story/teach_jaokamma.htm
     
  2. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,331
    บทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวรและเพื่อ่ให้เกิดพลังคุ้มครองตัวเองและผู้ป่วย



    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (สวด 3 จบ)



    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

    สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วัญญูหีติ(อ่านว่า วิญญูฮีติ)

    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ



    สัพเพสัตตา อะเวราโหนตุ อัพภยาปัชฌา โหนตุ อะนีฆาโหนตุ สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ (เมตตา)
    สัพเพ สัตตา สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ (กรุณา)
    สัพเพ สัตตา ลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ (มุทิตา)
    สัพเพ สัตตา กัมมัสสะกา กัมมะทายามา กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ กัมมะปฏิสสะระณา ยัง กัมมัง
    กริสสันติ กัลญาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ (อุเบกขา)


    ทุกกโต ทุกขะฐานันติ วะทันติ พุทธา
    นะ หิ เวเรนะ สะมันตีธะ กุทาจะนัง อะเวเรนะ จะ สัมมันติ เอสะ ธัมโม สะนันตะโนฯ
    พุธโธ พุทธัง รักษา ธัมโม ธัมมัง รักษา สังโฆ สังฆัง รักษาฯ พุทโธ พุทธัง อะระหัง
    ธัมโม ธัมมัง อะระหัง สังโฆ สังฆัง อะระหังฯ พุทโธ พุทธัง กัณหะ ธัมโม ธัมมัง กัณหะ
    สังโฆ สังฆัง กัณหะ อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง ภะวันตุเม (สวดเพื่อผู้อื่น ภะวันตุ เต)


    นะสาเปเส พุรุอะกัง ปะริปัตตัง ปะริขันตัง มัจจุราชา นะ ภาสะติ มิจจุราชา นะ ปัสสะติฯ
    สุญญะโต โลกัง อะเวกขัสสุ บุญชู (สมมุติคนป่วยชื่อ บุญชู)
    สะทา สะโต เอวัง โลกัง อเวกขันตัง มัจจุราชา นะ ปัสสะติฯ



    อิมัง สัจจะ วาจัง อธิฎฐามิ ทุติยัมปิอิมัง สัจจะ วาจัง อธิฏฐามิ ตะติยัมปิอิมัง สัจจะ วาจัง อธิฏฐามิ
    โย ทัณเฑนะ อทัณเฑสุ อัปปะทฎเฐสุ ทุสสะติ ทะสันนะมัญญัตตะรัง ฐานัง ขิปปะเมวะ นิคัจฉะติ
    เวทะนัง ผะรุสัง ชานิง สะรีสัสสะวะ เภทะนัง คะรุกัง วาปิอาพาธัง จิตตักเขปัง วะปาปุเณ
    ราชะโต วา อุปะสัคคัง อัพภักขาณัง วะ ทารุณัง ปะริกขะยัง วะ ญาตีนัง โภคานัง วะ ปะภังคุณัง
    อะถะวาสสะ อะคะรานิ อัคคิ ฑะหะติ ปาวะโก กายัสสะ เภทา ทุปปัญโญ นิระยัง โส อุปะปัชชติฯ
    หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว ขะยะ วะยะ ธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติ
    อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจาฯ


    อุทิฎฐัง โข เตนะ ภะคะวะตา ชานะตา ปัสสะตา อะระหะตา สัมมาสัพพุทเธนะ โอวาทะ
    ปาฎิโมกขัง ตีหิ คาถาหิ ขันตี ปะระมังตะโป ตีติกขา นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา นะ หิ
    ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต สัพพะปาปัลสะ อะกะระณัง
    กุสะลัสสูปะสัมปะทา สจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะสาสะนังฯ อนูปะวาโท อะนูปะฆาโต
    ปาฏิโมกเข จะ สังวะโร มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง ปันตันจะ สะยะนาสะนัง
    อะธิจิตเต จะอาโยโค เอตัง พุทธานะสาสะนันติฯ


    คำแปลบทสวดมนต์สอนเจ้ากรรมนายเวรและเพื่อให้เกิดพลังคุ้มครองตัวเองและผู้ป่วย

    ขอให้สรรพสัตว์ผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกัน
    ทั้งหมดทั้งสิ้น อย่ามีเวรต่อกันเลย อย่าพยาบาทปองร้ายกันเลย อย่ามีความ
    ทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย ขอให้มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย
    ทั้งสิ้นเถิด (แผ่เมตตา)

    ขอให้สรรพสัตว์ ฯลฯ จงพ้นจากความทุกข์โดยประการทั้งปวงเถิด(แผ่กรุณา)

    ขอให้สรรพสัตว์ ฯลฯ อย่าได้ปราศจากและอย่าได้พลัดพรากจากสมบัติและบุคคล
    ที่เป็นที่รัก ที่ตัวมีอยู่เถิด (แผ่มุทิตา)

    สรรพสัตว์ ฯลฯ มีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
    มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทำกรรมใดไว้จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม จักได้รับผลแห่งกรรมนั้น(แผ่อุเบกขา)
    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างตรัสสอนไว้ว่า ทำทุกข์แก่ท่าน ทุกนั้นจะมาถึงตน


    เวรจะไม่ระงับด้วยการไม่จองเวร มันเป็นเช่นนี้ไม่ว่าในกาลเวลาใดก็ตามหรือไม่ว่ากาลไหน ๆ ก็ตาม เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เท่านั้น ที่กล่าวมานี้เป็นคำสอนที่สืบต่อกันมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาลแล้ว (ซึ่ง
    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างก็ทรงยอมรับว่ามันเป็นจริงอย่างนั้น)

    ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ปกป้องคุ้มครองรักษา ทั้งคุณญาณบารมีของพระอริยะผู้ทรงอภิญญาทั้งหลาย ช่วยปกป้องคุ้มครอง ช่วยให้มีอายุยืนยาว มีผิดพรรณผ่องใส มีความสุข และ
    มีพลังคุ้มครอง เป็นเหตุให้เกิดพลังปาฏิหาริย์อันเป็นอัศจรรย์ ทำให้พญามัจจุราช(เจ้ากรรมนายเวร) ไม่พูดถึง
    และมองไม่เห็น(ข้าพเจ้าหรือผู้ป่วย)

    นี่แน่ บุญชู (สมมุติว่า คนป่วยชื่อ บุญชู) เธอจงมองโลกหรือตัวเองให้ว่างเปล่า ไม่มีตัวตน เมื่อเข้าใจมองโลก
    หรือตัวเองว่า ว่างเปล่า(ไม่มีตัวตน) มัจจุราช (เจ้ากรรมนายเวร) จะมองไม่เห็น

    ขอกล่าวย้ำ อธิฐานขอให้เป็นจริงอย่างนั้นอย่างแท้จริง ขอกล่าวย้ำเป็นครั้งที่ 2 เป็นครั้งที่ 3

    ผู้ใดประทุษร้ายหรือคิดร้ายต่อผู้ไม่เคยคิดร้ายต่อ ลงโทษผู้ที่ไม่เคยทำความผิดย่อมได้รับภัยร้ายแรง 10 ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างทันตาเห็น คือ
    . ได้รับทุกขเวทนา หรือทุกข์ทรมานอย่างแรงกล้า
    . สรีระร่างการถูกทำลาย
    . เจ็บป่วยอย่างหนัก
    . มีจิตฟุ้งซ่านอย่างหนัก อาจถึงกับเป็นบ้า
    . ถูกทางราชการทำโทษอย่างรุนแรง
    . ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดอย่างร้ายแรง
    . ญาติเสียชีวิตแทน
    . ทรัพย์สมบัติมีอันพินาศฉิบหาย
    . ไฟป่าหรือไฟไหม้บ้านชนิดไม่ทราบสาเหตุ ไม่น่าจะเกิดภัยเข่นนั้น
    ๑๐. ตายไปแล้วยังตกนรกชดใช้กรรมต่อ

    มานี่ซิ ภิกษุทั้งหลาย มา ณ บัดนี้ ฉันขอเตือนพวกเธอทั้งหลายว่าสังขารทั้งหลาย (คือสิ่งที่ประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ปรุงแต่งให้เป็นตัวตน) มีความเสื่อมสิ้นสลายไปเป็นธรรมดา พวกเธอพึงดำรงชีวิตอยู่
    ด้วยความไม่ประมาท (คือให้มีสติควบคุมเสมอ อยู่กับปัจจุบันด้วยความมีสติเสมอ)

    นี่เป็นคำสอนครั้งสุดท้าย ก่อนที่พระพุทธองค์จะปรินิพพานซึ่งตรัสสอนด้วยความเป็นห่วง

    พระพุทธองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหากรุณาธิคุณ ทรงตรัสรู้เห็นแจ้ง กำจัดกิเลสโดยพระองค์เอง ได้ทรง แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ คือหลักคำสอนสำหรับผู้จะปฏิบัติตนเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลส เป็นหลักการโดยย่อว่า ผู้ที่มุ่ต่อพระนิพพาน อันเป็นบรมสุข ต้องมีความอดทน เพียรพยายามเผาทำลายกิเลสให้สิ้นไป เพียรพยายามด้วยความ
    อดทนอดกลั้นอย่างแรงกล้าจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย (หากจะเร่งปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมาย) บำเพ็ญตัวเป็นนักบวชก็ขอให้เป็นนักบวชที่แท้จริง ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน สงบกาย วาจา ใจ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำบาปโดยประการทั้งปวง ทำแต่กุศล ชำระจิตใจให้สะอาดผ่องใส ทั้งไม่กล่าวใส่ร้ายใคร ไม่ทำร้ายใคร รักษาศีลของตน
    ให้บริสุทธิ์ รู้จักประมาณตนในการฉัน การบริโภค (ใช้สอยปัจจัย ๔) ยินดีอยู่อาศัยในที่เงียบสงัด เพียรพยายามบำเพ็ญภาวนาให้เกิด ภาวนามยะปัญญา ที่แท้จริง

    นี่แหละคือคือสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    ข้าพเจ้า(พระอานนท์เถระ) ได้สดับมาอยางนี้
     
  3. แหวนของแม่

    แหวนของแม่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +23
    ตรงบรรทัดที่ว่า "นี่แน่ บุญชู(สมมติว่าคนป่วยชื่อบุญชู)เธอจงมองโลกหรือตัวเองให้ว่างเปล่านั้นฯ" ถ้าสวดให้ตัวเองต้องใส่เป็นชื่อเราแทนรึเปล่าคะ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...