ขอไฟล์ ทิพยมนต์ ของท่านพ่อลี ใครมีบ้างครับ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย kuna, 21 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. kuna

    kuna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +158
    คือผมอยากจะหาโอกาสพิมพ์หนังสือบทสวดมนต์ ทิพยมนต์ ของท่านพ่อลี ธัมมธโร ใครมีเป็นไฟล์ pdf ขอความเมตตาส่งให้ผมด้วยนะครับ
    อีเมล์นี้เลย : plumblueboy@hotmail.com
    หรือมาโพสไว้ในกระทู้นี้ก็ได้ครับ

    ขออนุโมทนาบุญ ขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,449
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    แจกหนังสือสวดมนต์ "ทิพยมนต์" ของท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม และเชิญร่วมสร้าง


    ตามลิงค์ข้างบนเลยค่ะ

    ทิพย์มนต์

    https://www.youtube.com/watch?v=SMkUq7XuPhQ


    ทิพยมนต์....มนต์ของท่านพ่อลี
    ....ทิพยมนต์ นี้ ได้เขียนขึ้นเป็นสายบรรทัดเครื่องจูงใจของผู้
    ปฏิบัติให้บรรลุถึงความบริสุทธิ์ เพราะมนต์หมวดนี้ย่อมให้ผลดีแก่
    ผู้ท่องบ่น เพราะเป็นเรื่องในตัวของตัวเอง ธรรมดาคนที่เกิดมา
    ย่อมอาศัยอยู่ในธาตุทั้ง ๖ ธาตุเหล่านี้ สะสมขึ้นด้วยการกระทำของตนเอง ดีบ้าง ชั่วบ้าง เมื่อเป็นเช่นนี้ ธาตุเหล่านี้ย่อมลงโทษแก่ผู้อาศัยอยู่เปรียบเหมือนกับเด็ก มันเป็นสิ่งที่คอยรบกวนใจอยู่เสมอ ฉะนั้น การสวดมนต์ ก็เท่ากับว่าเราเลี้ยงเด็กบำรุงเด็กให้ได้รับความสมบูรณ์ เมื่อเด็กได้รับความสมบูรณ์เช่นนั้นแล้ว ผู้ใหญ่ย่อมได้รับความสะดวกสบาย ฉะนั้นถ้าใครเสกบ่นเท่ากับว่าเราเลี้ยงเด็กแล้วด้วยอาหาร เรากล่อมเด็กแล้วด้วยเพลงอันไพเราะ คือพุทธคุณ อำนาจพุทธคุณนี้ อาจจะทำธาตุของตนให้บริสุทธิ์ขึ้นเป็นธาตุกายสิทธิ์ เหมือนแร่ธาตุท่ี่มีอยู่ในโลกย่อมแล่นหรือดึงดูดถึงกันได้ทุกวินาที หรือเปรียบเสมือนสายไฟฟ้า ส่วนมนต์คาถาที่สวดเปรียบเหมือนกระแสไฟ มุ่งไปทิศใด ย่อมถึงที่นั้นๆ อาจที่จะทำให้ดินฟ้าอากาศเป็นมงคล เพราะมนต์หมวดนี้ เป็นมนต์กปิลฤาษีปนอยู่ด้วย ตามเรื่องที่เล่าไว้ดังนี้
    ....ในอดีตกาล มีฤาษีตนหนึ่งไปเจริญทิพยมนต์อยู่ในป่าสัก ณประเทศอินเดีย ตามตำนานเล่าว่า ในป่านั้นเป็นมหามงคล เช่นต้นไม้ทั้งหลายสับเปลี่ยนกันเกิดดอกออกผลอยู่ตลอดทุกฤดูกาลมีน้ำใสสะอาด สัตว์ตัวไหนเจ็บป่วยวิ่งผ่านเข้าไปกินน้ำในที่นั่น อาการป่วยนั้นจะสูญสิ้นไป ใบหญ้าและเถาวัลย์สดชื่นอยู่เป็นนิจ สัตว์ที่ดุร้ายและโหดร้ายเบียดเบียนกัน เมื่อเข้าไปผ่านในสถานที่นั้น ก็ราวกับว่าเป็นเพื่อนเป็นมิตรกันเอง สัตว์ทั้งหลายก็อาศัยป่านั้นอยู่ โดยความรื่นเริง กลิ่นโสโครกซากสัตว์ต่างๆ ที่ตายในที่นั้นไม่ปรากฏ ถ้าหากว่าความตายจะมาถึงตนก็ต้องดิ้นรนหนีไปตายที่อื่น ในที่นี้พวกชาวศากยสกุลวงศ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ไปตั้งเมืองหลวงในที่นั้น เรียกว่า กรุงกบิลพัสตุ์ ซึ่งยังเป็นบ้านเมืองมาจนบัดนี้ (แคว้นเนปาล)
    ...นี่เกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งกบิลฤาษีได้ไปเจริญทิพยมนต์อยู่ในที่นั้น วิธีเจริญของฤาษีตนนั้น
    ....วาระแรก เขาได้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ได้เจริญมนต์หมวดนี้อยู่ตลอดเวล ๗ วัน
    ....วาระที่ ๒ เขาหันหน้าไปทางทิศอุดร
    ....วาระที่ ๓ เขาได้หันหน้าไปทางทิศใต้
    ....วาระที่ ๔ เขาได้ หันหน้าไปทางทิศตะวันตก
    ....วาระที่ ๕ เขาได้หันหน้าลงไปทางใต้พื้นปฐพี
    ....วาระที่ ๖ เขาได้ยกมือแหงนหน้าขึ้นไปในอากาศ ทำจิตให้สะอาดเอารัศมีของดวงดาวเป็นนิมิต
    ....วาระที่ ๗ เขาได้เจริญอานาปาน์ ปล่อยลมของเขาเอง ออกทุกทิศ โดยอำนาจแห่งกำลังจิตที่ประกอบด้วยพรหมวิหารทั้ง ๔ ที่ เรียกว่า ทิพย์มนต์ ดังนี้
    ....เล่ามานี้ตามเรื่องของชาวอินเดียเล่าให้ฟัง ต่อจากนั้นก็ให้นึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ด้วยคุณธรรมดันเลิศ จนพระองค์สามารถจะเสกธาตุของพระองค์เองให้บริสุทธิ์ยิ่งกว่าธาตุใดๆทั้งหมดในโลก เช่นพระบรมธาตุอันเป็นธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งมีปรากฏอยู่ในผู้เคารพนับถือได้ทราบข่าวว่า เสด็จมาบ้าง เสด็จหนีบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอยู่มาก สิ่งเหล่านี้ก็สำเร็จมาจากดวงจิตอันบริสุทธิ์นั้นเอง เมื่อจิตบริสุทธิ์แล้วธาตุทั้ง ๖ ก็พลอยบริสุทธิ์ไป
    ด้วย เมื่อธาตุเหล่านี้เนื่องอยู่ด้วยโลกอาจจะทำโลกให้ได้รับความชุ่มเย็นไปด้วยก็ได้ เพราะธาตุทั้งหมดย่อมเนื่องถึงกัน ถ้าพวกเราพุทธบริษัทตั้งใจประพฤติปฏิบัติเช่นนั้น เชื่อแน่ว่าต้องไปรับผลดีตามจำนวนของปริมาณ ถ้าหากว่าจิตมิได้ฝึกหัดในทางนี้มัวเมาแต่สะสมความชั่วใส่ตนแล้ว จิตก็ต้องเดือดร้อน อำนาจแห่งความร้อนของดวงจิต ก็จะทำให้ธาตุในตัวทุกส่วนร้อนเป็นไฟไปด้วยไฟเหล่านี้ก็จะต้องระบายไปในที่ ต่างๆ ทั่วโลก ความร้อนอันนี้ เมื่อมีปริมาณมากขึ้น ก็จะจับกลุ่มกันขึ้นเป็นเครื่องสนับสนุนช่วยแสงอา-ทิตย์ให้แรงกล้า แล้วก็ทำอากาศธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ให้วิบัติเปลี่ยน
    ไปโดยอาการต่างๆ เช่น ฤดูทั้ง ๓ ก็จักไม่คงที่ เมื่อเป็นเช่นนี้ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ก็จะต้องวิบัติหรือเดือดร้อนไปตามกัน ขั้นที่สุด
    ของความชั่วก็จะทำให้โลกที่เราอาศัยอยู่นี้แตกสลายไป ที่เขาเรียกว่า ไฟประลัยกัล์ป ไหม้โลก คนเราไม่ได้นึกคิด จึงเหมาให้ธรรมชาติเป็นเองเสียโดยมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ก็มิใช่นักเหตุผล เพราะสิ่งทั้งหลาย ต้องมีเหตุจงมีผล โลกที่ปรากฏอยู่ย่อมสำเร็จมาจากดวงจิตเป็นเหตุ จิตดีโลกต้องดี จิตชั่วโลกต้องชั่ว
    ....ฉะนั้น จึงได้เขียนแนวทางอบรมดวงจิตไว้ในหนังสือเล่มนี้
    เพื่อสร้างความร่มเย็นเป็นสุขต่อไป
    ...นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะ(๓ ครั้ง)
    ...พุทธัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ...ธัมมัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ...สังฆัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ...ทุติยัมปิ พุทธัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ....ทุติยัมปิ ธัมมัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ....ทุติยัมปิ สังฆัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ....ตะติยัมปิ พุทธัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ....ตะติยัมปิ ธัมมัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ....ตะติยัมปิ สังฆัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.
    ๑. วาโย จะ พุทธะคุณัง อะระหัง พุทโธ อิติปิ โส ภะคะวา นะมามิหัง,
    - อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชาจะระณะสัม ปันโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะ สาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ
    ๒. วาโย จะ ธัม เมตัง อะระหัง พุทโธ อิติปิ โส ภะคะวา นะมามิหัง,
    - ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิ ตัพโพ วิญญูหีติ ฯ
    ๓. วาโย จะ สังฆานัง อะระหัง พุทโธ อิติปิ โส ภะคะวา นะมามิหัง,
    - สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุ ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏิ ปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะ ยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชลีกะระณีโย, อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ
    ....ธาตุปะริสุทธานุภาเวนะ, สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วิมุจจันติ, อิติ อุทธะมะโธ ติริยัง สัพพะธิ สัพพัตตะตายะ สัพพาวันตัง โลกัง, เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขาสะหะคะเตนะ เจตะสา, จะตุทิสัง ผะริต๎วา วิหะระติ สุขัง สุปะติ สุขัง ปะฏิพุชฌะติ, นะ ปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ, มะนุส สานัง ปิโย โหติ อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ, เทวะตา รักขันติ, นาสสะ อัคคิ วา วิสัง วา สัตถัง วา กะมะ ติ, ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ, มุขะวัณโณ วิปปะ สีทะติ, อะสัมมุฬ๎โห กาลัง กะโรติ, อุตตะริง อัปปะ ฏิวิชฌันโต พ๎รัห๎มะโลกูปะโค โหติ. อิติ อุทธะมะโธ ติริยัง อะเวรัง อะเวรา สุขะชีวิโน, กะตัง ปุญญะ ผะลัง มัย๎หัง สัพเพ ภาคี ภะวันตุ เต, ภะวะตุ สัพ พะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา, สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภา เวนะ, โสตถี โหนตุ นิรันตะรัง อะระหัง พุทโธ อิติปิ โส ภะวะคะวา นะมามิหัง ฯ” (วิธีเปลี่ยนธาตุุ เหมือนข้อต้นทั้งหมด)
    ๑. วาโย จะ (ธาตุลม)
    ๒. เตโช จะ (ธาตุไฟ)
    ๓. อาโป จะ (ธาตุน้ำ)
    ๔. ปะฐะวี จะ (ธาตุดิน)
    ๕. อากาสา จะ (อากาศธาตุ)
    ๖.วิญญาณัญ จะ (วิญญาณธาตุ)
    ***หมวดขันธ์ ๕
    ๑.รูปัน จะ,
    ๒.เวทนา จะ,
    ๓.สัญญา จะ,
    ๔.สังขารา จะ,
    ๕,วิญญาณัญ จะ
    ***หมวดอายตนะ ๑๒
    ๑.จักขุ จะ,
    ๒.โสตัญ จะ,
    ๓.ฆานัญ จะ,
    ๔.ชิวหา จะ
    ๕.กาโย จะ,
    ๖.มะโน จะ,
    ๗.รูปัน จะ,
    ๘.สัทโท จะ,
    ๙.คันโธ จะ,
    ๑๐.ระโส จะ,
    ๑๑.โผฏฐัพพา จะ,
    ๑๒.ธัมมารัมมะนัญ จะ
    ***หมวดอาการ ๓๒
    ๑.เกสา จะ,
    ๒.โลมา จะ,
    ๓.นะขา จะ,
    ๔.ทันตา จะ,
    ๕.ตะโจ จะ,
    ๖.มังสัญ จะ,
    ๗.นะหารู จะ,
    ๘.อัฏฐี จะ,
    ๙.อัฏฐิมิญชัญ จะ,
    ๑๐.วักกัญ จะ,
    ๑๑.หะทะยัญ จะ,
    ๑๒.ยะกะนัญ จะ,
    ๑๓.กิโลมะกัญ จะ,
    ๑๔.ปิหะกัญ จะ,
    ๑๕.ปัปผาสัญ จะ,
    ๑๖.อันตัญ จะ,
    ๑๗.อันตะคุนัญ จะ,
    ๑๘.อุทะริยัญ จะ,
    ๑๙.กะรีสัญ จะ,
    ๒๐.มัตถะสุงคัญ จะ,
    ๒๑.ปิตตัญ จะ,
    ๒๒.เสมหัญ จะ,
    ๒๓.ปุพโพ จะ,
    ๒๔.โลหิตัญ จะ,
    ๒๕.เสโท จะ,
    ๒๖.เมโท จะ,
    ๒๗.อัสสุ จะ,
    ๒๘.วะสา จะ,
    ๒๙.เขโฬ จะ,
    ๓๐.สิงฆาณิกา จะ,
    ๓๑ ละสิกา จะ,
    ๓๒.มุตตัญ จะ


    ลูกศิษย์ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2016

แชร์หน้านี้

Loading...