ข่าวดี และข่าวร้ายของคนกินเหล้า

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย PalmPlamnaraks, 13 กุมภาพันธ์ 2005.

  1. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    ข่าวดี และข่าวร้ายของคนกินเหล้า

    โดย วรากรณ์ สามโกเศศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ Varakorn@dpu.ac.th มติชนรายวัน วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 28 ฉบับที่ 9805

    "ดื่มแล้วไม่ขับ" หรือ "เมาแล้วไม่ขับ" ล้วนเป็นคำขวัญเตือนใจผู้ดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ทั้งหลายให้ระวังการขับขี่ยานพาหนะเพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้

    ถ้าความเสียหายนั้นเกิดขึ้นกับตัวผู้ขับขี่เองแต่ผู้เดียวก็ไม่น่ากังวลใจเพราะเป็นการเลือกของเขาเองที่จะเสี่ยงขับรถหลังจากที่ดื่มแล้ว หากตายหรือบาดเจ็บก็ต้องยอมรับการเลือกของเขา(แม้แต่จะเป็นทางเลือกที่คนอื่นเห็นว่าโง่เขลาก็ตามที) ถึงแม้คนอื่นจะรู้ว่าเขามิได้อยู่ในสภาวะที่จะเลือกได้อย่างมีเหตุมีผลก็ตามทีเพราะเหล้าได้เข้าปากแล้ว

    ที่ต้องมีการรณรงค์ห้ามปรามกันก็เพราะคนเมาอาจก่อให้เกิดผลกระทบภายนอกที่เป็นลบ(Negative Externalities) ได้ กล่าวคือก่อให้เกิดผลเสียต่อบุคคลอื่นอย่างเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น เมาแล้วขับรถชนคนอื่นตาย หรือทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น

    คนที่ถูกกระทบด้านลบจากคนเมาที่ขับรถเท่ากับว่าเขาถูกละเมิดสิทธิ์และไม่เป็นการยุติธรรมต่อเขา เพราะเขาเป็นผู้แบกรับภาระผลจากความเมาโดยมิรู้อีโหน่อีเหน่

    การห้ามคนที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดสูงระดับหนึ่งซึ่งทำให้ขาดสมรรถนะในการขับรถเป็นเรื่องซีเรียสในประเทศที่เจริญแล้ว การป้องกันสามารถทำได้ไม่ยากนักและเป็นหนทางในการแก้ไขปัญหาการสูญเสียน้ำตาและมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างชะงัด

    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกมองว่าเป็นสิ่งเลวร้ายเพราะทำลายสุขภาพของผู้ดื่ม และทำให้เกิดโอกาสในการสูญเสีย ทุกศาสนาห้ามปรามการดื่มสุราเพราะถือว่าเป็นหนทางสู่ความเสื่อม

    อย่างไรก็ดี งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Alcoholism : Clinical and Experimental Research เมื่อเร็วๆ นี้ ชี้ให้เห็นความจริงบางอย่างที่น่าสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Princeton พบว่าในการทดลองกับหนู สารเคมีในสมองที่ทำให้หนูเพรียกหาไขมันก็จะทำหน้าที่ให้เพรียกหาแอลกอฮอล์เช่นเดียวกัน

    เมื่อนักวิจัยฉีดสาร Gelanin ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบในทั้งสมองหนูและคนเข้าไปในสมองหนู หนูจะบริโภคแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เชื่อว่าเมื่อมนุษย์ดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ต่อม Hypothalamus ในสมองผลิตสาร Gelanin เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น ยิ่งดื่มมากขึ้นก็ยิ่งผลิต Gelanin เพิ่มขึ้น ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น...เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย

    นี่คือคำอธิบายว่าเหตุใดเมื่อเริ่มกินเหล้าแล้วจึงหยุดไม่ได้ ต้องติดลมบนกินต่อไปเรื่อยๆ ยกเว้นแต่บุคคลที่มีสติระแวดระวังเท่านั้น จึงจะสามารถควบคุมตนเองไม่ให้ดื่มต่อไปอย่างไม่รู้จบได้

    นอกจากงานวิจัยนี้แล้ว U.S. National Institutes of Health ได้ตีพิมพ์บทความอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการบริโภคแอลกอฮอล์ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ สรุปว่าโดยเฉลี่ยผู้ชายที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สองแก้วต่อวัน(มิได้หมายความว่าดื่มเท่าใดก็ได้ตราบที่ไม่เปลี่ยนแก้วสองใบนี้) และผู้หญิงที่ดื่มหนึ่งแก้วต่อวันจะมีความเสี่ยงต่ำที่สุดจากการตาย เพราะการดื่มพอควรเช่นนี้อาจป้องกันไม่ให้เป็นโรคหัวใจ(Coronary Heart Disease) นอกจากนี้ ดูเหมือนจะลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย

    สถาบันนี้เตือนว่าการดื่มหนึ่งแก้วต่อวันจะให้ผลดีมากกว่าการดื่มปริมาณรวมทั้งหมดในหนึ่งวัน

    สิ่งที่สถาบันนี้ไม่ได้เตือนก็คือ หญิงมีครรภ์นั้นห้ามดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะมีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่ามีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสมองและระบบประสาทของเด็กในครรภ์

    การตีพิมพ์งานวิจัยที่ชี้ให้เห็นผลดีของการดื่มแอลกอฮอล์แต่พอควรเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่ง เพราะข้อสรุปนี้ไม่ใช่ของใหม่ มีงานวิจัยหลายชิ้นก่อนหน้านี้ที่ได้ข้อสรุปเดียวกัน เพียงแต่ไม่กล้ายืนยันอย่างเป็นทางการเนื่องจากเกรงการโจมตีจากพวกเคร่งศาสนาทั้งหลายในโลก

    นอกจากนี้ ก็เกรงการล้ำเส้นการดื่มแต่พอควร(Moderate Drinking) เนื่องจากสาร Gelanin ในสมองนั้นไม่เข้าใครออกใคร การระบุความจริงดังกล่าวอาจเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนดื่มสุราเพิ่มขึ้นจนเมามายเสียสติและก่อให้เกิดผลกระทบภายนอกในด้านลบได้มากมายด้วย

    คนดื่มสุราล้ำเส้นอาจไม่ตายด้วยโรคหัวใจและเบาหวาน แต่อาจตายด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง(Alcoholism) หรือโรคตับแข็งและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวพันกับการดื่มแอลกอฮอล์แทนก็เป็นได้

    ตราบที่สาร Gelanin ยังมีผลให้เกิดการดื่มเพิ่มขึ้น ตราบนั้นจะต้องมีการระแวดระวังในการนำ "การดื่มประเภท Moderate" ที่กล่าวว่ามีประโยชน์ไปปฏิบัติ

    สิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่งก็คือ มนุษย์ทุกคนไม่มีความสามารถในการควบคุมสติในการดื่มได้เท่ากัน และมีทฤษฎีชี้ว่าแอลกอฮอล์มีผลต่อการกระตุ้นสมองซีกขวาซึ่งเป็นด้านที่เกี่ยวกับจินตนาการและการสร้างสรรค์ ในขณะที่ทำให้สมองซีกซ้ายที่เกี่ยวกับความจำและความรับผิดชอบทำงานน้อยลง

    ข่าวดีคือดื่มเหล้าแต่พอเหมาะอาจทำให้ไม่เป็นโรคหัวใจ แต่ข่าวร้ายก็คือหากไม่มีสติในการดื่ม อาจตายด้วยอีกหลายโรคและมีพฤติกรรมที่น่ารังเกียจแทน





    (b-evil2) (b-angry) :p
     
  2. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 มกราคม 2006

แชร์หน้านี้

Loading...