ข่าวสาร วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี โดยเพจมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

กิจกรรมงานมาฆบูชา วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖-งานวันมาฆบูชาวัดสมาคมศิษยวัดท่าซุง เมืองวิสบาเดน ได้จัดงานวันมาฆบูชาขึ้นเพื่อให้ญาติโยมลูกหลานหลวงพ่อฯได้มีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาหาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็ปไซค์วัดสมาคมศิษย์วัดท่าซุง เมืองวิสบาเดนhttp://sihtwatthazung.jimdo.comภาพโดย:ชูชัยโพสโดย:Mk






ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันนี้วันพระ ตรงกับวันอังคาร แรม ๘ ค่ำ เดือนสาม (๓) ปีมะโรง
ขอให้ท่านมีความสุขในธรรม

การปฏิบัติพระกรรมฐาน: การสร้างบารมี

ผู้ถาม:- “หลวงพ่อคะ ไม่ทราบว่าหนูพอจะสร้างบารมีไหวไหมคะ…?”

หลวงพ่อ:- “บารมี เขาแปลว่า กำลังใจ หนู ก็พยายามกระตุ้น ๆ มัน อารมณ์ของเรามันมี ๒ อารมณ์ อารมณ์ที่เป็นกุศลอย่างหนึ่ง อารมณ์ที่เป็นอกุศลอย่างหนึ่ง
คำว่า กุศลนี่เขาแปลว่าฉลาด อกุศลแปลว่าไม่ฉลาด ที่ไม่ฉลาดก็เพราะสร้างอารมณ์ที่มีความเร่าร้อนเกิดขึ้น นี่เรียกว่าอารมณ์ไม่ฉลาด ทีนี้อารมณ์ที่ไม่ฉลาดมันมีกำลังมาก มันคุมกำลังใจเราไว้มากมานานแล้ว เราก็ต้องแพ้มันบ้างชนะมันบ้าง นี่เราพยายามค่อย ๆ คุมมันจนกว่ามันจะแพ้
อย่าลืมนะ บารมีแปลว่ากำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็มในด้านของความดี

๑.ทานบารมี เราคิดจะสงเคราะห์คนและสัตว์อื่นแทนที่จะคิดเบียดเบียน

๒.ศีลบารมี มีศีลนี่เขาแปลว่าปกติ เราต้องรักษาอารมณ์ไว้อย่าให้มันผิดปกตินะ ปกติของคนและสัตว์มีความรู้สึกว่า
ข้อ ๑ ร่างกายของเรา เราไม่ต้องการให้ใครมาทำร้ายร่างกาย ไม่ต้องการให้ใครมาฆ่า เรามีความคิดอย่างไร สัตว์อื่นและบุคคลอื่นก็มีความคิดเหมือนเรา เราก็เว้น
ข้อ ๒ ทรัพย์สินของเรามีอยู่ เราไม่ต้องการให้ใครมาลักมาขโมยยื้อแย่งของเราไป เรามีความคิดเห็นเช่นไร คนอื่นเขาก็มีความคิดเห็นเหมือนเรา เราก็เว้น
ข้อ ๓ คนรัก เราไม่ต้องการให้ใครมาแย่งคนรักฉันใด คนอื่นเขาก็ไม่ต้องการให้แย่งคนรักเหมือนกัน
ข้อ ๔ วาจาที่เรารับฟังต้องการความจริง คนอื่นเขาก็ต้องการความจริงเหมือนกัน
ข้อ ๕ เราไม่ต้องการเป็นคนบ้า ชาวบ้านเขาก็ไม่ต้องการให้เราบ้า
ก็รวมความว่า อาการทั้ง ๕ อย่างนี้ คือ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม มุสาวาท ดื่มสุราเมรัย ต้องไม่มีสำหรับเรา ถ้าเราพลาดไปข้อใดข้อหนึ่ง แสดงว่าเราผิดปกติ ใช่ไหม…
ถ้าจะสร้าง บารมีที่ ๓ คือ เนกขัมมะบารมี
ต้องแยกออกเป็น ๔ คือ เนกขัมมะบารมีของศีล ๕ เนกขัมมะบารมีของศีล ๘ เนกขัมมะบารมีของศีล ๒๒๗ แล้วก็เนกขัมมะบารมีของพระอริยเจ้า ข้อหลังนี่ฉันตั้งเอง อ้าว…ไม่งั้นเนกขัมมะบารมีเขาแปลว่าถือบวช ก็เจ๊งหมด ชาวบ้านรักษาไม่ได้
เนกขัมมะบารมีของศีล ๕ ก็คือ เราไม่สนใจกับรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศซึ่งไม่เนื่องกับเรา คู่ครองของใครก็ไม่ไปยื้อแย่งใคร
เนกขัมมะบารมีของศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ นี่ต้องพยายามระงับอาการ ๕ อย่าง ให้มันครบถ้วน นั่นก็คือว่า
๑.กามฉันทะ อารมณ์ต้องไม่ข้องในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ แต่ไม่ใช่ตัดเลย เนกขัมมะบารมีนี่สำหรับเรื่องศีลเราแค่ยับยั้ง
๒.เราจะต้องพยายามระงับความโกรธ ความพยาบาท ในบางขณะ มันไม่ใช่ทุกขณะนะ
๓.ระงับความง่วงขณะทำความดี
๔.จะไม่ยอมให้จิตฟุ้งซ่านไปนอกอารมณ์ที่เราต้องการ คือเป็นด้านอารมณ์ของความดี
๕.จะไม่สงสัยในผลปฏิบัติที่ความดีเกิดขึ้น คือผลของความดีที่เกิดจากการปฏิบัติเราจะไม่สงสัย ขณะที่เรารวบรวมกำลังใจให้จิตทรงตัวในด้านของความดี จะต้องป้องกันในเหตุ ๕ ประการ ไม่ให้เข้ามายุ่งกับจิต นี่ก็ต้องถือเป็นบางเวลานะ
สำหรับเนกขัมมะบารมีของพระอริยเจ้า ต้องทำลายให้มันพังไปเลย
๑.กามฉันทะ ต้องไม่มีในจิต คิดฆ่าตลอดเวลา
๒.ความโกรธ ความพยาบาท ต้องไม่ให้มันมีเหมือนกัน ต้องพยายามฆ่ามันเรื่อย จนหมด
๓.ไม่ยอมให้ความง่วงเข้ามาครอบงำ ในขณะปฏิบิตความดี
๔.จะไม่ยอมให้จิตฟุ้งซ่านไปนอกอารมณ์ดีที่เราตั้งไว้คือ นิพพาน
๕.จะไม่สงสัยในผลปฏิบัติที่ความดี
ถ้าหากว่าสามารถฆ่านิวรณ์ ๕ ประการนี้ได้เมื่อไร เป็นอรหันต์ได้เมื่อนั้น ต้องฆ่าทีละตัวสองตัวนะ ฆ่าทีเดียวหมดพระพุทธเจ้าอาย ใช่ไหม…
อันดับแรกแค่ ระงับยับยั้งก่อนนะ ต้องยั้งเป็นเวลาก่อน จะคิดฆ่ามันทีเดียวหมดมันไม่ได้ ถ้าฆ่าทีเดียวหมดได้ก็ดี ยิ่งดี แต่ว่ามันเป็นไปได้ยาก”
จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 2 หน้า 64-67
โพสต์โดย achaya



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

กำหนดการ “งานหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ และ งานทำบุญประจำปีวัดท่าซุง 2556”

** วันเสาร์ ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2556 **

เวลา 9.00 น. ท่านพระครูสังฆรักษ์ สุรจิต สุรจิตโต รองเจ้าอาวาส วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ทำพิธีบวงสรวง ที่โรงหล่อพระปฐม (บ้านช่างเนียร) และพรมน้ำพระพุทธมนต์ ที่แบบพิมพ์หุ่นหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ 19 องค์ จากนั้นคณะพระสงฆ์เริ่มนำสวดบทพุทธคุณ อิติปิโสฯ ๑๐ จบ (ตามกำลังวันเสาร์) แล้วสวดต่อด้วยบทชะยันโต และงานหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์นี้ จะทยอยเททองหล่อไปทั้งวันจนกว่าจะเสร็จ

(ท่านใดที่มีความประสงค์จะนำทองคำ หรือ เครื่องประดับเช่น แหวน จี้ ต่างหู หรือเครื่องประดับอื่นๆ ที่ทำจากทองคำ มาร่วมหล่อด้วย *** ขอความกรุณานำอัญมณี เช่น เพชร พลอย แก้ว ต่างๆ ออกจากตัวเรือน *** ให้เหลือแต่ ทองคำล้วนๆ !! *** เพราะถ้าใส่อัญมณีลงในเตาหลอมแล้ว อัญมณีจะระเบิด อาจทำอันตรายแก่ช่างเททอง และทำให้ผิวของพระที่หล่อไม่สวยงาม)

เวลา 11.00 น. พระภิกษุสงฆ์ฉันอาหารเพล ที่โรงหล่อพระนั้น

เวลา 16.00 น. ทำพิธีบวงสรวง พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๑, รัชกาลที่ ๕, รัชกาลที่ ๖, รัชกาลที่ ๗, และพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ด้านหน้ามหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง

เวลา 18.00 น. พระสงฆ์วัดท่าซุงเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นสวดพระอภิธรรมถวายแด่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ฯ ที่ศาลา ๑๒ ไร่ วัดท่าซุง

** วันอาทิตย์ ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 **

เวลา 8.00 น. ทำพิธีบวงสรวงที่ศาลท่านท้าวเวหน (พระภูมิเจ้าที่ประจำวัดท่าซุง) ข้างมณฑปพระศรีอาริย์
เวลา 10.30 น. พระเถรานุเถระที่นิมนต์มาเจริญพระพุทธมนต์ ที่ศาลา ๑๒ ไร่
เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารแด่พระมหาเถรานุเถระ และพระสงฆ์

ข้อมูลจาก:http://www.facebook.com/LPsaksit
โพสต์โดย:Mk



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

สำรวจฝายที่ดำเนินการสร้างก่อนหน้าไปแล้ว อ.อมก๋อย
โพสต์โดย:Mk

เป็นโครงการฝายน้ำที่เริ่มทำเมื่อปี 2554 จากแหล่งน้ำไหลในธรรมชาติเส้นเล็กๆ ที่มีบ้างไม่มีบ้าง ในช่วงเวลา 2 ปี

ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

ภาพ: คุณสุพัฒน์ ,คุณน็อต, คุณโอ๋, จเร5, คุณจริยา
ส่งภาพจาก: MK
ผู้ให้โพสต์: เด็กวัดหลวงตาแสง
ผู้โพสต์:Admin Chai














ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ห้า
วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๘:๐๐ น.
ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนสี่(๔) ปีมะโรง จุลศักราช ๑๓๗๔
ที่พระอุโบสถ วัดจันทาราม (ท่าซุง)

ท่านที่ไม่สะดวกมาร่วมงานที่วัด มีคำแนะนำตามนี้
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1569

โพสต์โดย Mk



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

กำหนดการ “งานทำบุญประจำปีวัดท่าซุง”
วันเสาร์ – อาทิตย์ ๙ – ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖

วันเสาร์ที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๖ (แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๓)
เวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุน ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ที่สวนป่าไผ่
(ถ้าหากญาติโยมท่านใดมีความประสงค์จะร่วมทำบุญเลี้ยงภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ก็ขอให้นำปัจจัยไปร่วมทำบุญกับคณะกองทุนได้โดยไม่ต้องนำอาหารไป)
เวลา ๑๑.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุน ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ที่สวนป่าไผ่
เวลา ๑๖.๐๐ น. ท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมล ทำพิธีบวงสรวงที่พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๑, รัชกาลที่ ๕, รัชกาลที่ ๖, รัชกาลที่ ๗ และสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่หน้ามหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร
เวลา ๑๘.๐๐ น. พระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุงเจริญพระพุทธมนต์ (ธัมมจักกัปปวัตรสูตร) ที่ศาลา ๑๒ ไร่ จบแล้วเจ้าภาพไทยทานถวายเครื่องไทยทาน ต่อจากนั้นพระภิกษุสงฆ์สวดพระอภิธรรมถวายกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ จบแล้วเจ้าภาพถวายผ้าบังสุกุลและถวายเครื่องไทยทาน ดร.ปริญญา นุตาลัย นำอุทิศส่วนกุศล พระสงฆ์ให้พร
(หากญาติโยมท่านใดมีความประสงค์จะถวายผ้าบังสุกุล ถวายได้หลังจากเจ้าภาพถวายเครื่องไทยทานแล้ว)
*** วันเสาร์ เวลา ๑๒.๐๐ น. มีฝึกมโนมยิทธิที่วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร ตามปกติ ***
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖ (แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๓)
เวลา ๐๖.๐๐ น. เจ้าหน้าที่ร้านอาหารกองทุน ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ที่สวนป่าไผ่
(ถ้าหากญาติโยมท่านใดมีความประสงค์จะร่วมทำบุญเลี้ยงภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ ก็ขอให้นำปัจจัยไปร่วมทำบุญกับคณะกองทุนได้โดยไม่ต้องนำอาหารไป)
เวลา ๐๗.๓๐ น. ท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมล ทำพิธีบวงสรวงที่ท้าวเวหน (ศาลพระภูมิวัด) ที่ข้างมณฑปพระศรีอาริย์
เวลา ๐๘.๓๐ น. ท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมล ทำพิธีบวงสรวงที่ศาลา ๑๒ ไร่
เวลา ๐๙.๐๐ น. พระภิกษุสงฆ์และเจ้าหน้าที่เตรียมต้อนรับ พระธรรมปริยัติโมลี เจ้าคณะภาค ๓, พระราชอุทัยกวี เจ้าคณะจังหวัดฯ และพระเถรานุเถระที่นิมนต์มา
เวลา ๑๐.๓๐ น. พระเถรานุเถระเจริญพระพุทธมนต์ที่ศาลา ๑๒ ไร่
เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่ พระธรรมปริยัติโมลี, พระราชอุทัยกวี และพระเถรานุเถระที่นิมนต์มา รวมทั้งพระอาคันตุกะที่ศาลา๑๒ ไร่
พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพไทยทานถวายเครื่องไทยทาน เสร็จแล้วอาราธนา พระธรรมปริยัติโมลี เจ้าคณะภาค ๓ กล่าวสัมโมทนียกถา ดร.ปริญญา นุตาลัย นำอุทิศส่วนกุศลพระสงฆ์ให้พรเป็นอันเสร็จพิธี
(ทั้งนี้ในวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๖ ตรงกับ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๔ ซึ่งเป็นวันเสาร์ ๕ ทางวัดได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถในเวลา ๑๘.๐๐ น.)

ข้อมูลจาก MK
โพสต์โดย achaya



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

รายนามเจ้าภาพถวายไทยธรรม งานประจำปี
วันที่ ๙,๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖

รายนามเจ้าภาพถวายไทยธรรม
แด่พระสวดธัมมจักกกัปปวัตนสูตร
วันเสาร์ที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๗.๓๐ น.

1. ดร.ปริญญา – คุณกรรณิการ์ – ดร. สุกัญญา นุตาลัย
2. คุณกฤษฎา – คุณเกศินี นุตาลัย
3. คณะคุมรถสายลม
4. คณะคุมรถสายลม
5. คณะคุมรถสายลม
6. ครอบครัว พ.ท. สมัย ศรีหนองห้าง
7. คุณชิน – คุณศุภวรรณ พันธุ
8. คุณวิมาลี ศิรประภาชัย
9. คุณสุมาลี อนันต์พลังใจ (ตช.)
10. คุณสุกัญญา ตั้งศุภวัฒนกิจ (ตช.)
11. คุณวันทภรณ์ พรกิตติโชติเจริญ (ตช.)
12. คุณสามารถ – คุณเสาวลักษณ์ ทิพย์รัตน์
13. คุณชนิดา จารุประกาย
14. คุณภัคชาดา – คุณพงศ์ศิริ หิรัญเตชะ – คุณกฤษณะพงศ์ มหาเปารยะ (ตช.)
15. ลูกหลานบ้านสายลม
16. ลูกหลานบ้านสายลม
17. ดร. สุวรรณี อัศวกุลชัย
18. คุณทิพย์อัปสร เทพาและลูก
19. คุณกิจจา กาญจนบรรณ (ตช.)
20. คุณสุเพลิน อภิศักดิ์ศิริ
21. คุณไพฑูรย์ หาญสมภพและครอบครัว
22. คุณยุวดี ประพจนาภรณ์ และครอบครัว
23. ศิษย์เก่าโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระวิทยา
24. คุณวิชชุ – คุณนพวรรณ ศรีทอง (ตช.)
25. คุณวีระพันธ์ – คุณประไพ สุนทราญ
26. คุณสิริกร ภาวิษย์พร
27. คุณพัชรา อัสสะรัตนานนท์
28. คุณรสวันต์ – คุณศิริวรรณ – คุณสุพัตรา – คุณจารุภัทร อัศวพลังกูล (ตช.)
29. คุณรุ่งเรือง เชษฐ์เจริญรัตน์และลูกหลาน
30. คุณชูชื่น กลิ่นละมัย
31. คุณนพรุจ – คุณสุวภัทร ลัคคะพร
32. ว่าที่ รต. สมจิตต์ กาญจนรุจีรัตน์
33. คุณบุญเรือน ภู่อำไพ – คุณวินิจ – คุณมลิษา – คุณบัณรส จุฑาภาคย์
34. คุณสุภาวดี – คุณปริญญา รักซ้อน (ตช.)
35. คุณธิยาดา สมบูรณ์พร
36. คุณนริสรา มานะพจนาวงศ์ – คุณธนน โกสิยะจินดา – คุณยอดชาย – คุณนัฏฤทัย ฉายาชวลิต
37. อ.บุปผาชาติ พงษ์ประดิษฐ์
38. คุณบัลลังค์ – คุณอรนิชา เมี่ยงบัว
39. คุณสมทรง ประดับแก้ว
40. คุณชัญญานุช นันทขว้าง
41. คุณนภ อุบลทิพย์

รายนามเจ้าภาพถวายไทยธรรม
แด่พระสวดพระอภิธรรม
วันเสาร์ที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๙.๐๐ น.

1. คุณสมพงษ์ พรปทุมชัยกิจ
2. คุณอุโฆษ ปทีปกมล
3. คุณจุไรรัตน์ กาญจนพบู
4. คุณลัดดา เบญโชติเดช
5. คณะลูกหลานหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
6. คณะบ้านพรหลวงพ่อ อยุธยา

รายนามเจ้าภาพถวายไทยธรรม
แด่พระเถรานุเถระ
วันอาทิตย์ ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๑.๐๐ น.

1. ม.ล.เอื้อมสุขย์ กิติยากร
2. คุณทรงศักดิ์-คุณบงกช เทวธีรรัตน์ (ตช.)
3. คุณกฤษณะพงศ์ มหาเปารยะ และคุณภัคชาดา – คุณพงศ์ศิริ หิรัณย์เตชะ (ตช.)
4. คุณอัญชัญ ศุทรัตน์
5. คุณสุภรณ์ สีละยุทธโยธิน
6. คุณสุดา เสริมศรี (ตช.)
7. คุณนิตยา ธรรมสันติ
8. คุณสุนทรี สัจพจน์
9. คุณลักขณา ใจดี
10. คุณณชญาดา ชูชัยศรี
11. คุณสุขขา อ่อนจิตต์
12. คุณภัคภร ทองกระจ่างเนตร (ตช.)
13. คุณอุสา – คุณพงษ์ศักดิ์ ธีรนิพัทธ์และครอบครัว (ตช.)
14. พ.อ.(พิเศษ) ประโยชน์ – พ.ท.หญิงนงลักษณ์ บุณยไวโรจน์และครอบครัว (ตช.)
15. คุณนุสรา รุนสำราญ
16. คุณอรุณศรี – คุณลัดดา เล็งเลิศผล
17. คุณเลิศรัตน์ แซ่ลี้ – คุณเม่งเส็ง แซ่โอ้ว
18. คุณมาลี – คุณเกษม จิวราช
19. คุณสมพงษ์ พรปทุมชัยกิจ
20. คุณเลอสรรค์ – คุณจุฑาวรรณ โอฬารวัฒน์
21. คุณประดับวงศ์ นิลประสิทธิ์
22. คุณเนตรนภิศ เกษมจิตร์และคุณสุภา ธนะสกุลประเสริฐ
23. คุณนัฎกนก ผุสดี, คุณสุวรรณา ธนะสกุลประเสริฐ, คุณชูใจ เอี้ยวอักษร
24. คุณโศภิษฐ์ สดสี
25. คุณวไลลักษณ์ สดสี
26. คุณพาณิชย์ – คุณกาญจนา – ด.ช.อินทรัตน์ – ด.ช.ภูมิใจ สดสี
27. คุณขวัญใจ – คุณอนันต์ ชลชวลิต
28. คุณพันเลิศ – คุณพรพันธุ์ สดสี
29. คุณรัชนี – คุณฑิฆัมพร เอิบประสาทสุข (ตช.)
30. คุณธงชัย – คุณบุณยรัตน์ ธนะสกุลประเสริฐ (ตช.)
31. คุณศิริพร มงคลชัยดิษฐ์ – คุณสุมิตร มหันตคุณ
32. คุณอภิวันทน์ – คุณโชคศักดิ์ หล่อจิตรเสียง
33. คุณโกวิท โชติรัตนกุล
34. คุณสกลชัย โชติรัตนกุล
35. คุณประพัฒน์-คุณนพวรรณ-คุณอมรพล-คุณสุกัญญา-คุณชุติมา ทีปะนาถ
36. คุณเซี่ยมง้อ แช่ปัง – คุณอนงค์ – คุณยุบล นวรัตน์รุ่งโรจน์ (ตช.)
37. คุณรสวันต์-คุณศิริวรรณ-คุณสุพัตรา-คุณจารุภัทร อัศวพลังกูล (ตช.)
38. คุณพิมพา วงศ์งามนิจ และ คุณสุกรี มณีวงศ์วัฒนา
39. คุณรัตนา ชินบุตรานนท์
40. คุณชุมนุมพร ชวนานนท์
41. คุณจรรยา แซ่ปึง
42. คุณบุญมี-คุณกิมบ๊วย วงศ์วาสน์ (ตช.)
43. คุณธัญญพัตร์ – คุณธนิตพงศ์ พีรธำรงสิทธิ์และครอบครัว
44. คุณสุวิมล ไวยรัชพานิชย์และครอบครัว
45. อ.ศิวาภรณ์ โพธิศรี (ตช.)
46. คุณเทพกัญญา กลิ่นแย้ม (ตช.)
47. คุณปกรณ์ – คุณบุญสม คล้ายจินดา (ตช.)
48. คุณหิรัญชัย – คุณรุ่งนิภา วงศ์วาสน์ (ตช.)
49. คุณสราวุฒิ – คุณเพ็ญศักดิ์ สุตวัฒน์ (ตช.)
50. คุณกิติพงษ์ – คุณพรเพ็ญ วงศ์วาสน์ (ตช.)
51. คุณเทวรัตน์ – คุณนงนุช วงศ์วาสน์ (ตช.)
52. คุณพิษณุ – คุณส่งเง็ก ชาติวรรณวงศ์ (ตช.)
53. คุณโรจนี – คุณคุณสมบัติ อนุตรโสฬศ (ตข.)
54. คุณโสภณ อึ้งธีรเดชวรกุล (ตช.)
55. คุณอรุณี จิวสังข์ (ตช.)
56. คุณจำลอง โพธิ์นา (ตช.)
57. คุณสมทรง โสธนกุล (ตช.)
58. คุณสำรวย แซ่แต้และญาติ
59. คุณปรีชา พึ่งแสง – คุณศิริลักษณ์ ศรีฟ้า
60. คุณใหญ่ เกาะกูด (ตช.)
61. คุณกลาง โพธาราม (ตช.)
62. คุณกฤษณะพงศ์ ลายอักษรและครอบครัว
63. คณะครูโรงเรียนพระสุธรรมเถรวิทยา
64. คุณสุภาวดี – คุณปริญญา รักซ้อน (ตช.)
65. คุณพัชรา อัสสรัตนานนท์
66. คุณธงไชย – คุณนุกูล – คุณนฤมล – คุณชลธิชา – คุณสโรชา มาสมบูรณ์
67. คุณปองภพ – คุณสินีนาฎ เหลืองเจริญวัฒนะ
68. คุณโยธิน – คุณสุพัตรา ศุภภิญโญพงศ์
69. คุณภิรัศชกาณฑ์ อัครอุดมโรจน์
70. คุณเกียรติศักดิ์ – คุณณุสภา อมรปิยกิจ
71. คุณณรงค์ สุขเกษม
72. ห้างไฟฟ้าไทยลพบุรี
73. คุณวรินทร์กาญจน์ ภูสิธรรมโชติและครอบครัว
74. คณะศิษย์เมืองบัว
75. คณะดินดีไม้สวย
76. คุณเกรียงศักดิ์ – คุณรัมทีย์ ลิ้มดิสพร
77. กลุ่มชุมชนมโมยิทธิ
78. คุณศักดิ์ชัย-คำหล้า-ทิพย์สุดา-ปฐมาภรณ์ พุดซ้อน
79. พลโทพัลภล-มาลินี โชติเรขา
80. คุณเพิ่มสิน ศิริรัตน์อัสดรและครอบครัว
81. คุณอุโฆษ ปทีปกมล
82. คุณเลิศพงศ์-นลินรัตน์-นิธิโรจน์-ชมปวีณ์-ชนม์สิตา-สุพิชญา พลเรืองฤทธิ์
83. คุณสมทรง ประดับแก้ว
84. คุณปุญญพัตน์ จำรัสผลเลิศและครอบครัว
85. บริษัทอาร์ทีอะกริเทค จำกัด
86. คุณดวงฤดี สุวรรณชีพ
87. คุณจุไรรัตน์ กาญจนพบู
88. คุณเยาวลักษณ์ มิตรศรัทธา
89. ม.ล.ภาวินี สันติศิริ
90. ม.ล.จีรเศรษฐ์ ศุขสวัสดิ์
91. คุณภูมิพัฒน์ กุลเตชิตทรัพย์ และครอบครัว
92. คุณขนิษฐา เนียวกุล และครอบครัว
93. คุณสุรีรัตน์ ภิยโยดิลถชัย

ข้อมูลจาก MK
โพสต์โดย Admin Chai และ achaya



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พระครูสังฆรักษ์สุรจิต รองเจ้าอาวาสวัดท่าซุง
ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์
เบ้าหล่อพระ



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พระสงฆ์ และพุทธบริษัทที่มาร่วมพิธี



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พุทธบริษัทที่มาร่วมพิธี



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

เททองตามเบ้า



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

คณะจัดเลี้ยงแนะนำเมนูของหวานที่จะจัดเตรียมเลี้ยงพระเถระในวันอาทิตย์
บัวลอยเผือกแบบโบราณ ขนมปอบแปบไส้ถั่วกวนโรยงา



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

เตรียมความพร้อม ผ้าภูษาโยง



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

เก็บเครื่องไทยทาน เพื่อเตรียมสวดรอบที่ ๒



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พิธีบวงสรวง

“เมื่อวันก่อนได้เห็นพิธีบวงสรวงของหลวงพ่อ อยากกราบเรียนถามว่า ทำไมจึงต้องมีพิธีบวงสรวงครับ…?”

เราเรียกพิธีบวงสรวง ตามศัพท์ไสยศาสตร์นะ แต่ความจริงมันไม่น่าจะเรียกว่าบวงสรวง จะเรียกชื่อคนอื่นก็ไม่รู้จัก
“ควรจะเรียกว่าอะไรดีล่ะครับ…?”

อันนั้นล่ะคือ การเชิญเทวดา บวงสรวงคือเชิญท้าวจาตุมหาราชพร้อมทั้งอินทกะและบริวาร แต่พิธีนี้ไม่ใช่พิธีที่เราจะสร้างขึ้นมาเองได้ คือว่าสมัยหลวงพ่อปาน ท่านเริ่มทำการก่อสร้าง

ท้าวเวสสุวัณกับอีก ๓ องค์ มาหาท่านในขณะที่เจริญพระกรรมฐาน บอกว่าท่านทำงานนี้เป็นบุญเป็นกุศล ผมขอโมทนาด้วย ถ้ามีงานสำคัญเกิดขึ้นขอให้บวงสรวงด้วยวิธีนี้ ท่านบอกแม้แต่คำสวด คำสวดบทมหาสมัยในตอนท้าย อภิกามุง ภิกขุนัง ท่านตัดออก เอา อัฏฐังสุ แทน แล้วก็ของทุกอย่างท่านสั่งทั้งหมด และของที่มีอยู่ให้ทำตามนั้นแล้วก็จะมาช่วยงาน เป็นอันว่าเชิญเทวดาท่านมารับทราบ แล้วก็จะขอร้องให้ท่านช่วย มันอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก พิธีนั้นถ้าทำขึ้นมาถ้ามีอะไรควรรู้ท่านจะบอก
“เป็นอันว่าบวงสรวงนี้ควรจะเรียกว่าเชิญเทวดานะครับ”
ใช่ คือท่านมาบอกพิธีกรรมเอง และก็บอกคาถาบทสวด ต่อมาฉันก็เรียนต่อจากหลวงพ่อปาน ก่อนจะเรียนต่อ หลวงพ่อปานท่านก็ถามท้าวเวสสุวัณก่อนว่า รับหรือไม่รับ ถ้ายอมรับก็ทำพิธีนี้ได้ ถ้าไม่ยอมรับเราทำพิธีนี้ก็ไม่มีผล ท่านไม่ช่วย ท่านก็บอกยอมรับ รับก็ทำต่อมาได้

“อย่างหลวงพ่อขึ้น ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา อย่างนึ้ พระพุทธเจ้าท่านจะเสด็จไหมครับ….?”

ถ้าใจเรานึกถึงล่ะ ขึ้น สัคเค ทีไร นึกถึงท่านก็เห็นทุกที คือว่าคาถาอะไรก็ช่าง อยู่ที่ใจเราต่างหาก ที่ว่าน่ะว่าตามพิธีกรรมเฉยๆ แต่ถ้ามุ่งแค่สัคเคก็มีผลน้อยเกินไป ทีนี้ใจเรานึกถึงใคร องค์นั้นท่านมา คือพูดเป็นสัญลักษณ์เท่านั้นเอง
“อย่างองค์เป็นๆจะมาไหมครับ…?”
จะเชิญน่ะรึ
“ระลึกถึงน่ะครับ”
ได้
“โอ…น่ากลัวเมื่อยแย่เลยองค์เก่งๆน่ะ”
ถ้าอยากนึกก็นึกไป ข้าไม่เกี่ยวเสียอย่าง แต่เขาไม่เหนื่อยหรอก เขาไม่ได้ใช้อะไรนี่ ใช้ แสงเค้ากวง นิดเดียว ไม่เหนื่อยเลย คือสามารถจะเห็นได้ จะคุยได้ แต่ตัวเขาอยู่ที่เดิมนั่นแหละ ผีมาแทน
“อ้าว…ก็ของปลอมน่ะสิครับ”
ไม่ปลอม ผีแท้มา
“เอ…ไม่เข้าใจครับหลวงพ่อ”

ถ้าใช้กำลังของอภิญญาในวินาทีเดียวกัน คนกี่แสนล้านคนต้องการพบก็พบได้ ต่างคนต่างคุยในเรื่องของตัวเองได้ ไม่ใช่ว่าแต่ละคนคุยแล้วคุยแบบเดียวกันหมด ไม่ใช่อย่างนั้น นั่นมันเป็นเรื่องของ อภิญญา นะ การใช้แสงเค้ากวงก็คือ รัศมีกำลังบุญ แผ่คลุมได้ทันที อย่างที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ฉัพพรรณรังสีนั่นแหละ มี ๖ สี พระสาวกมีไม่ถึง แต่เขามีกี่สีไม่สำคัญเขาใช้ได้เหมือนกัน แต่ทำไม่ได้เท่าพระพุทธเจ้า ถ้าเท่าพระพุทธเจ้า เรานั่งอย่างนี้ถ้าต้องการให้เราพบเราจะพบเหมือนกับท่านนั่งข้างหน้าแล้วคุยเลย พระพุทธเจ้ากำลังสูงมาก พระสาวกทำไม่ได้ ทำได้อย่างเดียว คือมาแบบผี แต่ว่าคนสามารถเห็นผีได้ก็เห็นได้เหมือนกัน แต่พระพุทธเจ้าไม่ใช่อย่างนั้น ขนาดเห็นเป็นองค์ท่านเลย
“ลักษณะเป็นยังไงครับ…?”
รูปเดิมของท่านแหละ
“เป็นมนุษย์หรือครับ…?”
ก็เป็นมนุษย์นั่นแหละ อย่าง พระวักกลิ จะโดดเขาตายยังไงล่ะ ท่านเปล่งฉัพพรรณรังสีไปข้างหน้า เหมือนพระองค์นั่งข้างหน้าเลย ท่านตรัสว่า
“บุคคลใดเห็นธรรม บุคคลนั้นเห็นเราตถาคต”
ท่านตรัสเท่านี้พระวักกลิเป็นอรหันต์เลย และท่านก็ทำเรื่อยๆนะ ไม่ใช่เฉพาะองค์นะ

อย่างตอนเช้ามืดวันหนึ่ง พระมหากัสสป ตื่นขึ้นมาก็คิดว่า การดูอุปนิสัยของสัตว์ พระพุทธเจ้าองค์เดียวย่อมเหนื่อยมาก เราเป็นสาวกควรจะช่วยบ้าง ไม่ใช่กำลังของพระสาวกทำก็หนักเหนื่อย พระพุทธเจ้าก็ทรงเปล่งฉัพพรรณรังสี ท่านอยู่ห่างกันมาก พระมหากัสสปอยู่ ปิปผลิคูหา ก็เห็นเหมือนพระองค์นั่งอยู่ข้างหน้าตรัสว่า
“งานนี้เป็นงานของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่งานของพระสาวก เธออย่าทำเลย ตถาคตไม่เหนื่อยหรอก เป็นงานเฉพาะ”
พระมหากัสสปท่านมีความกตัญญูสูงแล้วก็ท่านทำเป็นปกติ ทีนี้เวลาพวกเราขึ้นไปพบพร้อมๆกันก็เหมือนกัน นั่นเป็นฉัพพรรณรังสี
ตอนก่อนๆฉันก็เกรงใจท่านไม่ค่อยอยากจะพบท่าน พระพุทธเจ้าไม่ควรจะแตะต้องมากเกินไปใช่ไหม มีวันหนึ่งขึ้นไปพบท่านบอกว่า
“คุณไม่ต้องวิตกกังวลหรอก ไม่ต้องกลัวบาป ฉันไม่เหนื่อยอะไร ถ้าแกคิดถึงฉันเมื่อไหร่ แกไปถึงวิมานของฉัน นั่นแหละฉันแน่” ถ้าเห็นตามทางไม่ใช่แน่เป็นฉัพพรรณรังสี แต่มีผลเสมอกัน
“พูดจารู้เรื่องกันได้หรือครับ”
เท่ากันแหละ ต่างคนต่างพูดเรื่องของตัวไงล่ะ อย่างคนหนึ่งต้องการกะปิ คนหนึ่งต้องการเกลือ ต้องการพริก ต้องการหอม ในเวลาเดียวกันได้รับคำตอบเหมือนกัน คือว่าต่างคนต่างพูดได้ นั่นเป็นด้วยกำลังบารมี ความจริงเขาบอกมีอะไรก็ถามพระพุทธเจ้า เราก็นึก เอ…พระพุทธเจ้าองค์เดียวดีไม่ดีต้องไปรอคิวถามแย่นะ ท่านเลยบอกว่า ถ้าเป็นสาธารณะทั้งโลกต้องการเห็นในวินาทีเดียวกันก็จะเห็นพร้อมกัน ใครต้องการเรื่องอะไรก็คุยเฉพาะเรื่องของตัวไป ฉันเลยเบาใจ ถ้าท่านไม่บอกเองก็แย่เหมือนกัน
“ก็แสดงว่าที่พบกันได้เยอะแยะอย่างนี้ก็อาศัยฉัพพรรณรังสี”
ก็มีผลเสมอกัน คือผลต้องการอะไรถ้าหากเราถามว่า การปฏิบัติของเรานี่ยังบกพร่องอะไร ควรจะปฏิบัติจุดไหนก่อน ท่านจะบอกมาอย่างสั้นๆให้เข้าใจ ความจริงผู้ที่สามารถพบพระองค์ได้นี่มีบุญมาก สมัยก่อนเขาเรียกปฏิบัติพระกรรมฐานเขาถือว่า ถ้าพบอาจารย์ที่เป็นมนุษย์ยังไม่ได้ปฏิบัติพระกรรมฐานแท้ ต้องปฏิบัติให้ได้อาจารย์ที่ไม่ใช่มนุษย์ ก็เลยปลุกปล้ำแทบแย่ ปลุกปล้ำมากเกินไปใช้กำลังมากเกินไป ก็ไม่พบอีกเหมือนกัน ทีนี้เมื่อพบท่านแล้ว ข้อวัตรปฏิบัติเราควรจะถามท่าน ถ้าขึ้นไปถึงท่าน จุดบกพร่องยังมีอยู่ในการตัดกิเลส เวลานี้เราควรจะทำอะไรก่อนท่านก็จะบอกมา ท่านบอกมาแล้วเราก็ปฏิบัติตามนั้น เราจะเปลี่ยนต่อไปเมื่อท่านสั่งเปลี่ยน
ฉันก็โดนหลายหนเหมือนกัน ท่านสั่งเปลี่ยนแล้วก็ลอง ขี้เกียจเปลี่ยน เปลี่ยนใหม่ก็ขลุกขลัก อารมณ์ก็ไม่เรียบใช่ไหม ท่านบอกแล้วทำได้ประเดี๋ยวก็กลับทำแบบเดิมใหม่ เสียงตวาด “กูบอกมึงไม่เอารึ” ภาษาไทยเดิม ต้องทำตามนั้น ถ้าระยะใกล้ (มรรคผล) เข้าไปท่านจะกำหนดวัน อย่างนี้ต้องทำให้ได้ภายในกี่วัน

อันดับแรกที่สุดท่านจะบอก บารมี ๑๐ ต้องครบถ้วน เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก บารมี ๑๐ นี้ต้องใช้กำลังให้ครบถ้วน กำลังใจนะ ถ้าตัวนี้ครบถ้วนทุกอย่างมันก็คล่องตัวหมด ก็มีตัวสำคัญอย่าง วิริยบารมี นี่สู้แหลก ใช่ไหม ขันติบารมี อดทน ยังไงก็ต้องสู้กันล่ะ ถ้าเป็นนักสู้ถ้าขาดความอดทนก็สู้ไม่ไหว อดทนอย่างเดียวถ้าไม่สู้ก็ไปไม่ไหว ทีนี้บารมีทั้ง ๑๐ ก็ต้องครบถ้วน กำลังใจต้องครบถ้วนตามนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะไม่ยาก แต่ก็ยากตอนต้นยาก สังโยชน์ ๓ เพราะเป็นของใหม่ ยากเท่านั้นเอง ถ้าผ่านนี้แล้วไม่ยาก อารมณ์ทรงตัวแล้ว แบบบ้านเขาปลูกอยู่เขามีบันใดใช่ไหม ถึงชานบ้านได้แล้วก็เรื่องเล็ก จะเข้าห้องไหนล่ะ เข้าห้องนอน เข้าห้องครัว เข้าห้องส้วม ก็เลือกเอาตามสบาย

ข้อมูลจาก หนังสือ “ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๑” โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน หน้า ๓ – ๙
โพสต์โดย achaya



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

บรรยากาศงานทำบุญประจำปี วันเสาร์ที่ ๙ – วันอาทิตย์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๖

ภาพโดย คณะรวมใจภักดิ์, lb, Kitisak, Toung ,P093
โพสโดย MK, Chai



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พิธีบวงสรวงช่วงเช้าที่ศาลา 12 ไร่



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

เจ้าภาพบายศรีบวงสรวง



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร