ข่าวสาร วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี โดยเพจมูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

to the album: รวมภาพงานทำบุญประจำปี ๒๕๕๖ — at วิหารแก้ว 100 เมตร วัดท่าซุง อุทัยธานี.



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

to the album: รวมภาพงานทำบุญประจำปี ๒๕๕๖ — at ศาลา 12 ไร่ วัดจันทาราม(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี.



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

คณะต่างๆที่มาร่วมบุญเลี้ยงอาหารฟรีที่ 4 ไร่



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

รายนามพระเถระที่นิมนต์



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

to the album: รวมภาพงานทำบุญประจำปี ๒๕๕๖.



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พระธรรมปริยัติโมลี เจ้าคณะภาค ๓ กล่าวสัมโมทนียกถาเนื่องในงานประจำปี

(ฟังเสียงได้ที่)http://www.4shared.com/mp3/rGdfulhc/__online.html

ภาพโดย Kitisak
โพสต์โดย Mk



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

รายชื่อเจ้าภาพทำฝายกั้นน้ำที่ อำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่

๑.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ คุณจรรยา ตันจันทร์พงศ์ ( ๒ ฝาย) เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐
๒.ชื่อฝาย “ท่านแม่ศรี” เจ้าภาพ คณะอ้อ, เจิ้น,พี่ตู่ เป็นเงิน ๕,๕๔๐
๓.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ คุณพรนุช คืนคงดี เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔.ชื่อฝาย “ศักดิ์ศรชัย” เจ้าภาพ คุณพิสัณห์ – ปรียานุช ศักดิ์ศรชัย และครอบครัว เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ คุณสมทรง ประดับแก้ว เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๖.ชื่อฝาย “บุญเยี่ยม” คุณแพรว อุณหพัฒนา พร้อมครอบครัว เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗.ชื่อฝาย “บริษัทโอลิเวอร์ออยทูลส์ จำกัด” เจ้าภาพ คุณกิจจา (แหม่ม) กาญจนบรรณ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๘.ชื่อฝาย “แหม่ม กิจจา” เจ้าภาพ คุณกิจจา (แหม่ม) กาญจนบรรณ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๙.ชื่อฝาย “จุฑาวรรณ” เจ้าภาพ คุณจุฑาวรรณ โอฬารวัฒน์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๐.ชื่อฝาย “พูนสุข” เจ้าภาพ คุณจุฑาวรรณ โอฬารวัฒน์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๑.ชื่อฝาย “พลังใจ” เจ้าภาพ คุณสุมาลี อนันต์พลังใจ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๒.ชื่อฝาย “อาชาไนย” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๓.ชื่อฝาย “นางฟ้า เทวดา” เจ้าภาพ คุณภัคชาดา หิรัณย์เตชะ – คุณกฤษณะพงศ์ มหาเปารยะ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๔.ชื่อฝาย “หมอฟัน” เจ้าภาพ ท.พ.หญิง ลัดดา จารุวัสตร์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๕.ชื่อฝาย “ท่านผู้หญิง” เจ้าภาพ พ.ต.อ.หญิง ท่านผู้หญิง วงศ์พรรณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๖.ชื่อฝาย “สกายลักค์” เจ้าภาพ ___ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๗.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ คุณเพ็ญนิภา – สุรีย์พันธิ์ บุญวิสุทธิ์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๘.ชื่อฝาย “คณะอัศวพลังกูล” เจ้าภาพ คณะอัศวพลังกูล เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๑๙.ชื่อฝาย “แสงฟ้า” เจ้าภาพ คุณปรีชา พึ่งแสง – คุณศิริลักษณ์ ศรีฟ้า เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๐.ชื่อฝาย “พุดตาน (จเร)” เจ้าภาพ พุดตาน (จเร) เป็นเงิน ๖,๓๔๐
๒๑.ชื่อฝาย “วัฒนศักดิ์” เจ้าภาพ คุณกรรณิการ์ – คุณวัฒนศักดิ์ – คุณนิตยา – คุณชญานิษฐ์ – ด.ญ.วรันธร ตั้งสมชัย เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๒.ชื่อฝาย “กรรณิการ์” เจ้าภาพ คุณกรรณิการ์ – คุณวัฒนศักดิ์ – คุณนิตยา – คุณชญานิษฐ์ – ด.ญ.วรันธร ตั้งสมชัย เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๓.ชื่อฝาย “เจ้าคุณ” เจ้าภาพ คุณธงชัย บุณยรัตน์ ธนะสกุลประเสริฐ และลูกหลาน เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๔.ชื่อฝาย “สายใจ” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๒๐๐
๒๕.ชื่อฝาย “แม่ศรี” เจ้าภาพ คุณสิริกร ภาวิษย์พร (เกต) เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๖.ชื่อฝาย “เธียรพนธ์” เจ้าภาพ คุณเธียรพนธ์ (โต) สารีรัตน์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๗.ชื่อฝาย “ประณัฏฐ์ญา” เจ้าภาพ คุณประณัฎฐ์ญา สารีรัตน์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๘.ชื่อฝาย “วัฒนวัลย์” เจ้าภาพ คุณวัฒนวัลย์ สารีรัตน์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๒๙.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ คุณพัชรา อัสสรัตนานนท์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๐.ชื่อฝาย “หลวงพ่อฤาษี” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๑.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ คุณวิโรจน์รัตน์ – คุณรมิดา ปิติธนานพ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๒.ชื่อฝาย “เซี้ยง” เจ้าภาพ คุณปิโยรส พยางค์พัฒนไพศาล เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๓.ชื่อฝาย “สามารถ” เจ้าภาพ คุณสามารถ เหลี่ยวเจริญ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๔.ชื่อฝาย “ตั้ง” เจ้าภาพ คุณวัชรพงศ์ ศรีหนองห้าง เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๕.ชื่อฝาย “แม่ไม้เพลงไทย” เจ้าภาพ แม่ไม้เพลงไทย ( ๒ ฝาย) เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐
๓๖.ชื่อฝาย “คณะกองทุน” เจ้าภาพ คณะกองทุน เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๗.ชื่อฝาย “ท่านแม่ศรี” เจ้าภาพ คุณวิมาลี ศิรประภาชัย และ คุณชนิดา จารุประกาย เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๘.ชื่อฝาย “ทองคำ” เจ้าภาพ คุณสิริกาญจน์ ชนัฐโชติหิรัญ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๓๙.ชื่อฝาย “Mr.Shake” เจ้าภาพ คุณสุขขา อ่อนจิตต์, คุณณชญาดา ชูชัยศรี ( ๑๐ ฝาย) เป็นเงิน ๕๐,๐๐๐
๔๐.ชื่อฝาย “ใหญ่กว่าฟ้า” เจ้าภาพ คุณใหญ่ – คุณฟ้าใส (คุณกิมเตียง, คุณสมพงษ์, คุณนภัสสรณ์) ( ๒ ฝาย) เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐
๔๑.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ พระครูประสิทธิสรการ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔๒.ชื่อฝาย “คณะนวดแผนไทย อู่วารี” เจ้าภาพ คณะนวดแผนไทย อู่วารี เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔๓.ชื่อฝาย “ลูกหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๕๐๐
๔๔.ชื่อฝาย “ธิยาดา” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔๕.ชื่อฝาย “พ่ออุดร” เจ้าภาพ คุณนุวรี ศิริวัฒนกุล และครอบครัว เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔๖.ชื่อฝาย “กำแพงเพชร” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔๗.ชื่อฝาย “อรญา” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔๘.ชื่อฝาย “คณะเดินตามรอยเท้าพ่อ” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๔๙.ชื่อฝาย “ลูกหลานหลวงพ่อ” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๐.ชื่อฝาย “อัญชณา” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๑.ชื่อฝาย “อุทัย – ฐิติมา” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๓๒๐
๕๒.ชื่อฝาย “รวยโคตรๆ” เจ้าภาพ คุณอรนุช รุจิราวรรณ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๓.ชื่อฝาย “รวยไม่เลิก” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๔.ชื่อฝาย “ฉิมพลิน” เจ้าภาพ คุณเศรษฐา – คุณอุษา ชัยมหาวงศ์ ( ๒ ฝาย) เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐
๕๕.ชื่อฝาย “สมหวัง” เจ้าภาพ คุณสมหวัง เดชศิริอุดม เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๖.ชื่อฝาย “กฤติวรรณ” เจ้าภาพ คุณกฤติวรรณ เดชศิริอุดม เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๗.ชื่อฝาย “สรชัช” เจ้าภาพ ด.ช.สรชัช เดชศิริอุดม เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๘.ชื่อฝาย “เดชศิริอุดม” เจ้าภาพ ครอบครัวเดชศิริอุดม เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๕๙.ชื่อฝาย “ครอบครัวเล็งเลิศผล” เจ้าภาพ ครอบครัวเล็งเลิศผล เป็นเงิน ๕,๑๐๐
๖๐.ชื่อฝาย “ประกายแก้ว” เจ้าภาพ สุภาวดี ปริญญา รักซ้อน เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๖๑.ชื่อฝาย “มาย แพสชัน” เจ้าภาพ คุณณภัทร ทยุมณี เป็นเงิน ๕,๓๒๐
๖๒.ชื่อฝาย “ลัคกี้” เจ้าภาพ คุณนงลักษณ์ โกวัฒนะ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๖๓.ชื่อฝาย “ป้อม (มาลี จิวราช)” เจ้าภาพ คุณเกษม – มาลี จิวราช จิตติมา, จุฑาทิพย์, นพศักดิ์,ณรงค์ฤทธิ์,จักรกฤษณ์ จิวราช เป็นเงิน ๖,๐๐๐
๖๔.ชื่อฝาย “คณะครูฝึกสายลม” เจ้าภาพ คณะครูฝึกสายลม เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๖๕.ชื่อฝาย “พระสร้าง” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๖๖.ชื่อฝาย “ลูกแม่ตุ๋ย” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๖๗.ชื่อฝาย “สหธรรมิก” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๖๘.ชื่อฝาย “บริษัท สปีด เพรส จำกัด” เจ้าภาพ คุณลัดดา เบญโชติเดช เป็นเงิน ๕,๕๐๐
๖๙.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ คุณเรณู – คุณคำนวณ สัตยาชัย เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗๐.ชื่อฝาย “คณะรวมใจภักดิ์” เจ้าภาพ คณะรวมใจภักดิ์ เป็นเงิน ๕,๑๐๐
๗๑.ชื่อฝาย “ทีปะนาถ” เจ้าภาพ คุณจิตต์อารีย์ – คุณประพัฒน์ ทีปะนาถ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗๒.ชื่อฝาย “เสริมศรี” เจ้าภาพ คุณสุดา เสริมศรี เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗๓.ชื่อฝาย “สปัน” เจ้าภาพ คุณนรลักษณ์ ยันตะวงศ์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗๔.ชื่อฝาย “ธรรมโรจน์” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗๕.ชื่อฝาย “ติ๊ง” เจ้าภาพ คุณพัชรบูรณ์ (ติ๊ง) เป็นเงิน ๕,๕๐๐
๗๖.ชื่อฝาย “พระนิพพาน” เจ้าภาพ คณะอนุพงษ์ อ่ำรัศมี เป็นเงิน ๕,๑๓๐
๗๗.ชื่อฝาย “สาวจันท์” เจ้าภาพ สาวจันท์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗๘.ชื่อฝาย “กักเงิน” เจ้าภาพ คุณวิจารณ์ หีบพร และคณะ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๗๙.ชื่อฝาย “แสงสีทอง” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๖,๘๖๙
๘๐.ชื่อฝาย “หลวงตาแจ่ม” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๖,๑๔๐
๘๑.ชื่อฝาย “เจ้าคุณภาวนากิจวิมล” เจ้าภาพ สุภาวดี ปริญญา รักซ้อน เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๘๒.ชื่อฝาย “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” เจ้าภาพ สุภาวดี ปริญญา รักซ้อน เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๘๓.ชื่อฝาย “มายิน – คาเฟ่ทูออล” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๖,๐๐๐
๘๔.ชื่อฝาย “วนิชอาภาพรรณ์” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๒๐๐
๘๕.ชื่อฝาย “เปรม – ปลื้ม” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๘๖.ชื่อฝาย “ตามรอยฯ” เจ้าภาพ พระชัยวัฒน์ อชิโต เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๘๗.ชื่อฝาย “รัตนรัชชานนท์” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๘๘.ชื่อฝาย “วีณา” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๘๙.ชื่อฝาย “น้องซัน ซัน” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๙๐.ชื่อฝาย “รัชนี” เจ้าภาพ คุณรัชนี สินทวีวงศ์ เป็นเงิน ๕,๑๐๐
๙๑.ชื่อฝาย “ปทีปกมล” เจ้าภาพ คุณอุโฆษ ปทีปกมล เป็นเงิน ๕,๓๐๐
๙๒.ชื่อฝาย “พิงค์” เจ้าภาพ คุณนุสรา – เลิศรัตน์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๙๓.ชื่อฝาย “ป้ายี” เจ้าภาพป้ายี, ป้าพุ่ม และคณะศาลาเก่า เป็นเงิน ๕,๑๙๐
๙๔.ชื่อฝาย “แม่ทองย้อย (อธิมาย)” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๔๗๐
๙๕.ชื่อฝาย “บ้านเดือน ๘” เจ้าภาพ อุมาภรณ์ อมรสันต์ เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๙๖.ชื่อฝาย “จงใจรักษ์” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๔๐
๙๗.ชื่อฝาย “ที เอฟ พี” เจ้าภาพ ____ เป็นเงิน ๕,๐๔๐
๙๘.ชื่อฝาย “—-” เจ้าภาพ พระครูประสิทธิสรการ และคณะศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นเงิน ๕,๐๐๐
๙๙.ชื่อฝาย “หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ” เจ้าภาพ พระภาวนากิจวิมล เป็นเงิน ๕,๐๐๐

โพสต์โดย Mk



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันนี้วันพระ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีมะโรง
ขอให้ท่านมีความสุขในธรรม

การปฏิบัติพระกรรมฐาน: ทำยังไงจึงจะไม่มีทุกข์

ผู้ถาม:- “ขอนมัสการครับ กระผมขอทราบว่า สภาวะจิตสงบ จิตเป็นสมาธิ จิตเป็นภวังค์ จิตเป็นเอกัคคตารมณ์ มีสภาวะแตกต่างกันอย่างไรครับ…?”
หลวงพ่อ:- “ถามมา ๔ ข้อ แต่ตอบได้ ๒ ข้อ มันแตกต่างกันแค่จิตเป็นภวังค์อย่างเดียว นอกนั้นอย่างเดียวกัน จิตสงบ จิตเป็นสมาธิ จิตเป็นเอกัคคตารมณ์ ก็คือจิตเป็นสมาธิ ก็หมายความว่าจิตตั้งอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง อย่างโยมอยากจะไปขโมยควายเขา ตั้งใจว่าควายบ้านนี้กูขโมยแน่ นี่เป็นสมาธิ คือตัวตั้งใจอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งเขาเรียกว่าสมาธิ แต่ว่าสมาธิแบ่งออกเป็น ๒ อย่าง คือ สัมมาสมาธิ กับ มิจฉาสมาธิ ตั้งใจขโมยควายเขา เป็นมิจฉาสมาธิ ถ้าตั้งใจสร้างความดี เป็นสัมมาสมาธิ”
ผู้ถาม:- “ตาม ที่กระผมอ่านในตำรา เขาบอกว่าจิตขึ้นมารับอารมณ์ชั่วขณะจิต พอหมดไปแล้วบอกว่าจิตเป็นภวังค์ แต่ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ จึงขอเรียนถามหลวงพ่อว่า จิตเป็นภวังค์ หมายความว่าอย่างไรครับ…?”
หลวงพ่อ:- “คำว่า ภวังค์ นี่ก็คือ อารมณ์ปกติ ส่วนมากคนมักเข้าใจกันผิด พอจิตตกมีสภาพวูบดิ่ง จิตทรงตัว บอกว่าเป็นภวังค์ อย่างนี้ไม่ใช่นะ พูดง่าย ๆ อารมณ์ธรรมดานี่แหละ อารมณ์ไม่ได้ความนี่เอง
เอาเรื่องง่าย ๆ ไม่ดีกว่าหรือ…พระพุทธเจ้าท่านสอนง่ายกว่านี้มีเยอะ ทำไมถึงชอบยาก ๆ กินหมูมีกระดูกมาก กินปลามีก้างมาก มันจะดีรึ เอาอย่างนี้ดีกว่า ทำยังไงที่จะไม่ให้จิตคบกับนิวรณ์ ๕ ได้ มีประโยชน์มากกว่าตั้งเยอะ อย่างที่โยมว่าอีกหลายชาติก็ยังไม่ถึงนิพพาน ระวังมันจะมีมานะ ไปนั่งเถียงกัน แกไม่รู้จักขณะจิต พังเลย เราแย่ คนที่คิดน่ะแย่ มานะนี่หยาบมาก ยกยอดทิ้งไปเลย ไปงั้นไม่มีทางไป
ที่ว่ามานะ ฉันอ่านมาแล้ว ฉันหมุนมาแล้ว จึงเลิก โยมยังไม่เลิก เพราะว่าศัพท์ประเภทนี้มัน เหมาะสำหรับคนสมัยนั้น คนสมัยนี้ไม่ควรจะใช้ศัพท์สมัยนั้นมาก เพราะว่าอุปนิสัยของคนไม่เท่าคนสมัยนั้น คำสอนแต่ละคำสอนแต่ละช่วงจะเหมาะสำหรับคนแต่ละสมัย คนที่สั่งสมอบรมมาดีแล้ว ถ้าเราไปพูดยาวแทนที่จะดี กลับทำให้รำคาญ เพราะคนพวกนี้ใกล้เต็มที่ ไอ้คนจะถึงประตู ไปอธิบายต้นทางมันก็รำคาญ ใช่ไหม…ว่าไง โยม มีอะไรอีกไหม…?”
ผู้ถาม:- “ขออาราธนาหลวงพ่อเทศน์เรื่อย ๆ ไปครับ”
หลวงพ่อ:- “ฉันก็เหนื่อยน่ะซิ เครื่องกัณฑ์มีรึยังล่ะ นิมนต์เทศน์ก็ต้องติดเครื่องกัณฑ์ ถ้าอธิบายไม่ต้องติด”
ผู้ถาม:- “นิมนต์หลวงพ่ออธิบายต่อไปเรื่อย ๆ ครับ”
หลวงพ่อ:- “เอายังงี้ดีกว่า คิดแต่เพียงว่า เราจะทำอย่างไร จึงจะวางภาระในขันธ์ ๕ เสียได้ เอาตรงนี้แหละ นั่งดูว่าร่างกาย เกิด แก่ เจ็บ ตาย ควรจะมีอีกไหม ถ้าเราต้องการมันอีก เกิดมากี่ชาติ เราก็มีสภาพแบบนี้ มีทุกข์แบบนี้ ทำยังไงจึงจะไม่มีทุกข์ ที่จะไม่มีทุกข์ได้ก็คือ
๑.ตัดโลภะ ความโลภ โดยการให้ทาน เจริญจาคานุสสติกรรมฐานเป็นอารมณ์
๒.ตัดโทสะ ความโกรธ ให้ทรงพรหมวิหาร ๔ หรือ กสิณ ๔ หรือ ตัดมานะ ความถือตัวถือตน ว่าเราดีกว่าเขา เราเสมอเขา เราเลวกว่าเขา
๓.ตัดโมหะ ความหลง โดยการใช้ปัญญาพิจารณา และยอมรับนับถือตามความเป็นจริง คือว่าเกิดมาแล้วก็ต้องมีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย มันเป็นธรรมดา ก็เท่านี้แหละ ยากไหม…?”
ผู้ถาม:- “ฟังดูก็ไม่ยากหรอกครับ แต่ทำไม่ค่อยจะได้ แต่ก็จะพยายามครับ”

จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม 2 หน้า 47-49
โพสต์โดย achaya



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

ฟังเสียง…พระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุงเจริญพระพุทธมนต์ (ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) ที่ศาลา ๑๒ ไร่
http://www.4shared.com/mp3/uPKPyglZ/2556_.html
โพสต์โดย Mk



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

ฟังเสียง…พระภิกษุสงฆ์วัดท่าซุง สวดพระอภิธรรมถวายกุศลแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ที่ศาลา ๑๒ ไร่
http://www.4shared.com/mp3/RI5m1Yt6/2556_.html

ภาพโดย คณะรวมใจภักดิ์
โพสต์โดย Mk



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

อุทิศส่วนกุศลแด่ท่านผู้มีคุณ งานประจำปี ๑๐ มี.ค ๒๕๕๖
อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้วตั้งแต่ต้นตลอดจนถึงการบำเพ็ญกุศลในวันนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศผลบุญทั้งหมดนี้ แด่ท่านบรรพชน ทั้งพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ฆารวาส และเทพยดาทั้งปวง ผู้อุปถัมภ์ค้ำชูวัดตั้งแต่เริ่มสร้างใน พ.ศ.๑๘๖๓ ให้ยั่งยืนสถาพร มาจนถึงทุกวันนี้ ขอท่านผู้มีพระคุณทุกท่านโปรดโมทนา ผลบุญทั้งหมดนี้ ขอจงโปรดคุ้มครองรักษาวัดท่าซุง ให้อยู่คู่พระศาสนาตลอดไป และโปรดอภิบาลรักษาพระภิกษุสงฆ์สามเณร และศิษย์วัดท่าซุงทุกท่านทุกคน ให้ตั้งมั่นในสัมมาทิฏฐิ ตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ฯ…

http://www.4shared.com/mp3/GPyClI3V/2556__.html

โพสต์โตย Mk



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พิธีบวงสรวงที่พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๑, รัชกาลที่ ๕, รัชกาลที่ ๖, รัชกาลที่ ๗ และสมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่หน้ามหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร

ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

เตรียมงานพิธีพุทธาภิเษก



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ห้า วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๘:๐๐ น. ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนสี่(๔) ปีมะโรง จุลศักราช ๑๓๗๔ ที่พระอุโบสถ วัดจันทาราม (ท่าซุง)

ท่านที่ไม่สะดวกมาร่วมงานที่วัด มีคำแนะนำตามนี้
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1569

ภาพโดย Kitisak, Jariya , Toung
โพสต์โดย Mk, chai



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

โต๊ะหมู่วางแก้วจักรพรรดิ์



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

งานหล่อหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
โพสต์โดย Mk


ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

งานประจำปี ๒๕๕๖ สวดพระอภิธรรม คืนวันเสาร์
โพสต์โดย MK


ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

งานประจำปี ๒๕๕๖ วันอาทิตย์
โพสต์โดย Mk


ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

วันนี้วันพระ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนสี่(๔) ปีมะโรง
ขอให้ท่านมีความสุขในธรรม

อานิสงส์ : ถวายสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน
ผู้ถาม: “หลวงพ่อคะ ถวายสังฆทานให้พระองค์เดียวได้ไหมคะ…?”
หลวงพ่อ: ได้ แต่พระไปกินองค์เดียวพระองค์นั้นลงนรก นี่เรื่องจริงนะ อย่างฉันรับนี่ฉันรับองค์เดียว แต่ว่าองค์เดียวนี่ถือว่าเป็นผู้แทนคณะสงฆ์นะ อย่าไปกินไปใช้แต่ผู้เดียวนี่ไม่ได้ ของเขาย่อมมีอานิสงส์สมบูรณ์แบบ พระองค์เดียวหรือพระ 3 องค์ ถือว่าเป็นผู้แทนสงฆ์ พระ3 องค์ก็แบ่งไปใช้แค่ 3 องค์ไม่ได้ จะต้องไปรวมทั้งคณะ คำว่า สังฆทาน สังฆะ เขาแปลว่าหมู่
ผู้ถาม: ลูกเป็นคนยากจนมีเงินน้อย อยากจะได้อานิสงส์มากๆ ทำอย่างไรดีคะ…?
หลวงพ่อ: คืออานิสงส์จริงๆ ต้องทำบุญให้มากที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้ สมมติว่าเรามีเงินอยู่ 10 บาท จะไปมาที่นี่เสียค่ารถ 6 บาท กินก๋วยเตี๋ยว 3 บาท เหลือ 1 บาท เขียนหน้าซองเลยว่า เงินนี้ถวายสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน อันนี้อานิสงส์มากเหลือเกิน เงินจำนวนเขาไม่จำกัด เขาจำกัดกำลังใจ ถ้ากำลังมุ่งในด้านดีนะ
การทำบุญมากๆ คำว่า “ทำมาก” หมายความว่าทำบ่อยๆ แต่คำว่า “บ่อย” ไม่ต้องทุกวันก็ได้นะ คำว่ามาก หมายความว่าทำเต็มกำลังที่พึงทำ ไม่ใช่ขนเงินมามาก เวลาทำบุญต้องดูก่อนว่า ค่าใช้จ่ายเรามีความจำเป็นเพียงไร ไอ้เงินที่มีความจำเป็นอย่าเอามาทำบุญ มันจะเดือดร้อนภายหลัง และให้เหลือส่วนนั้นไว้บ้าง แล้วแบ่งทำบุญตามสมควร
และประการที่ 2 การทำบุญถ้าใช้วัตถุมากแต่กำลังใจน้อยก็มีอานิสงส์น้อย ถ้าหากใช้วัตถุน้อยมีกำลังใจมากก็มีอานิสงส์มาก อย่างสังฆทานที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทนำมานี่ลงทุนไม่มากแต่อานิสงส์มหาศาล
ความจริงถ้าจะพูดถึงอานิสงส์กันจริงๆละก็ รู้สึกว่า จะมากกว่าจัดงานที่บ้านหรือที่วัดตั้งเยอะแยะ ทั้งนี้เพราะว่าอะไร เพราะว่าถวายสังฆทานเราทำกันแบบเงียบๆไม่มีกังวล การบำเพ็ญกุศลแต่ละคราว ถ้ามีกังวลมากอานิสงส์มันก็น้อย เพราะว่าจิตที่เราเข้าสู่กุศล มันห่วงงานอื่นมากกว่า ไม่ตั้งจิตโดยเฉพาะ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการถวายสังฆทานในหมู่ตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป ตามพระวินัยท่านเรียกกันว่าคณะสงฆ์ ถ้าต่ำกว่านั้นเป็นคณะบุคคล ถ้าบุคคลเดียวเป็น ปาฏิปุคคลิกทาน ทาน โดยเฉพาะ ทีนี้การถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์เป็นหมู่นี้มีอานิสงส์มาก
เรื่องนี้ก็มีตัวอย่างคนที่มีทรัพย์น้อยทรัพย์มาก อย่าง ท่านอินทกะเทพบุตร กับ อังกุระเทพบุตร ไงล่ะ
ท่านอังกุระเทพบุตร ไง ทำบุญนอกเขตพระพุทธศาสนา เวลานั้นพระพุทธศาสนาไม่มี ตั้งโรงทาน 80 โรง ให้ทานถึงสองหมื่นปี เลี้ยงคนกำพร้า คนตกยาก คนเดินทางพอตายจากความเป็นคน ไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทวดาที่มีบุญน้อยที่สุดเพราะเขตบุญเล็กไป คนไร้ศีลธรรม ใช่ไหม …?
ตรงกันข้ามท่านอินทกะเทพบุตร เกิดเป็นคนจน พ่อตาย ตัดฟืนเลี้ยงแม่ ก็ไม่ได้ตัดขายมากมาย เอาแค่วันๆพอกินพอใช้ไปวันๆ วันหนึ่งพระสงฆ์เดินผ่านไปที่นั่น ท่านมีโอกาสถวายทานในฐานะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน คนจนจะมีอะไรมากนักใช่ไหมล่ะ เพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น อาศัยคุณความกตัญญุรู้คุณอย่างหนึ่ง แล้วก็ถวายสังฆทานหนึ่ง สองอย่างด้วยกัน ตายไปแล้วเป็นเทวดาที่มีบุญมากที่สุดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นอกจากพระอินทร์แล้วไม่มีใครโตกว่า

จากหนังสือ “หลวงพ่อตอบปํญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑” หน้า ๑๕ – ๑๗
โพสต์โดย achaya



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร

 

คำชี้แจงของท่านเจ้าคุณพระภาวนากิจวิมล
เรื่องการบูรณะวิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์
และการเป่ายันต์เกราะเพชรของวัดท่าซุง

>ถอดเทปบางส่วน< ตอนที่ท่านเจ้าคุณเล่าถึงเรื่องหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ (ช่วงเวลา นาที ที่ 4.40) เรื่องที่ไปหล่อพระหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านแม่จำเนียร ช่างจำเนียรนู้น คนก็มีข่าวลือกันไปต่างๆนาๆตามความรู้ของตัวเอง มีคำพูดของหลวงพ่อ (หลวงพ่อพระราชพรหมยาน) ว่าต่อไปหลวงพ่อองค์นี้จะศักดิ์สิทธิ์ เมื่อฉันมาใหม่ๆวิหารนี้ทั้งรั่วทั้งร้างจะพังให้ได้ ไม่มีใครเข้ามาดูแลรักษาเลย ก็มีคณะคุณจ๋านี้แหละเข้าไปบูรณะสืบๆกันมาจนถึงวันนี้ ท่านสุรจิตนี่มีความรู้เรื่องงานก่อสร้างพอประมาณ ท่านทำงานกับหลวงพ่อคู่บารมีมากับหลวงพ่อ ฉันนี้เจ้าอาวาสเป็นโนเนมเลย สุรจิตนี่ดูแลช่วยหลวงพ่อก่อสร้างมาตั้งแต่ต้นเลย ตั้งแต่พ.ศ.19, 20 ขึ้นมาช่วยหลวงพ่อดูแล มีความรู้เรื่องช่าง ทำบัญชีรับจ่ายสินค้าให้หลวงพ่อ คู่กันมากระทั่งหลวงพ่อมรณภาพ ทีนี้ท่านป่วย (ท่านสุรจิต) ต้องทำบายพาสหัวใจ ถือว่าอาการก็หนักนะ พอร่างกายท่านดีขึ้น วิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์นี่โทรมมากต้องบูรณะ ท่านสุรจิตก็มาปรึกษาฉัน ก็บอกว่า เออ สุรจิตแบ่งงานนี้ไปเลยได้ไหมให้เป็นประธานงานก่อสร้างดูแล ก็ตกลงกันตามนั้น ให้ท่านสุรจิตเป็นประธานหล่อพระ เมื่อท่านสุรจิตเป็นประธานไปแล้ว เราจะไปเพิ่มอีกมีประธาน 2 ประธานก็จะดูความคล่องตัวจะไม่ค่อยดี คนก็ไปลือว่าวัดท่าซุงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตามความคิดของตัวเอง ก็ขอแจ้งให้ทราบว่าพวกเราไม่มีอะไรที่แตกความสามัคคี ไม่มีอะไรที่ไม่รักกัน ไม่มีอะไรที่ไม่ดีต่อกัน แต่คนคิดไปในด้านอกุศลก็มี ก็ขอแจ้งให้โยมทราบว่าเราปรึกษากันแล้ว ท่านสุรจิตมีความรู้พื้นฐานการก่อสร้างจากหลวงพ่อมามากมาย พระในวัดที่มาอยู่ในนี้ก็รู้กันดี ขอแจ้งให้ญาติโยมทราบว่า ไม่มีเหตุการณ์ที่ญาติโยมคิดที่เป็นอกุศลนะขอให้เข้าใจตรงนี้ >ถอดเทป เรื่องเป่ายันต์เกราะเพชร< (ช่วงเวลา นาที ที่ 11.14) เรื่องเป่ายันต์เกราะเพชรนี่เป็นความรู้ของครูบาอาจารย์สืบๆกันมา ที่เรารู้ว่าหลวงปู่ปานเป่า หลวงพ่อฤๅษีฯเป่า พวกเราอยู่กับหลวงพ่อนี่ หลวงพี่โอมา พ.ศ.15 ฉันมา พ.ศ.16 สุรจิตมา พ.ศ.19 ชัยวัฒมา พ.ศ.20 ประมาณอย่างนั้น ก็คุยกันอยู่ เราก็รู้กันอยู่ หลวงพ่อท่านมาตั้งนานนะ ท่านก็ไม่เป่า เราก็รู้ว่าท่านเป็นอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ พูดกันตรงไปเลยเนอะ ตั้งแต่ท่านอยู่ชัยนาทนู่น ท่านมาอยู่วัดท่าซุง พ.ศ. 11 12 13 14 15 16 สิบปี ยี่สิบปี ท่านก็ไม่ได้เป่ายันต์ ท่านปฏิสัมภิทาญาณนะ ท่านก็เล่าถึงหลวงปู่ปานอยู่พักนึง พิกุลทองพร้อมแล้วถึงเป่าได้ อะไรทำนองนั้น ท่านจะพูดเล่นหรือพูดอะไรก็ไม่ทราบแต่ท่านยังไม่เป่า ฉะนั้นความรู้อย่างนี้การที่จะทำอย่างนั้น เจ้าอาวาสองค์ใหม่นี่ไม่มีความสามารถที่จะทำ ขนาดปฏิสัมภิทาญาณยังต้องปฏิเสธไป อย่างเรานี่ไม่รู้จะคิดยังไง ไม่ควรคิดด้วยซ้ำ คิดแล้วก็อาจจะไม่ดี เป็นความคิดของเจ้าอาวาสองค์นี้ไม่เกี่ยวกับคนอื่น แต่ว่า การที่อยู่กับครูบาอาจารย์นี่ ก็มีความรู้ที่ท่านแนะนำมาเป็นมารยาท ผิดกับอาจารย์ต่างๆ มีอยู่คราวหนึ่ง ก็หลวงพ่อก็คุยกัน อ่านหนังสือบ้าง คนนั่นเขาทำพระหลวงปู่ปานขี่ไก่ ขี่เม่น หลวงพ่อท่านก็ติงว่า งานของครูบาอาจารย์น่ะ ถ้าเป็นสัญลักษณ์ของท่าน ศิษย์ที่ดีเขาไม่ทำกัน จะทำพระอะไรก็ทำไปไม่ได้ห้าม เป็นพุทธานุสติเป็นกุศล แต่ว่าที่เป็นสัญลักษณ์ของครูบาอาจารย์ เขาไม่ทำ ที่ครูบาอาจารย์ทำไว้ มันเป็นมารยาท ที่ลูกศิษย์กับอาจารย์เขาจะรักษากันไว้ ที่นี้ก็ถึงส่วนที่ละเอียดอ่อนที่คนที่ไม่ได้อยู่ใกล้หรืออยู่ใกล้แต่จะอวดโม้อะไรอย่างนั้น เป็นส่วนลึกๆ นี่เราควรจะรู้กัน หรือพระเราไปยังสถานที่อื่นๆ ก็เอาวัตถุมงคลของตัวเราไปแจกเพื่อจะให้เขารู้จักเรา นี่ก็ไม่ควร ไม่งาม แต่เราคล้ายๆรู้ว่างามแต่จริงๆมันไม่งาม วัด สถานที่ต่างๆเขาก็มีครูบาอาจารย์ ก็ขอให้ญาติโยมเข้าใจไว้ด้วย สมัยก่อนหลวงปู่วงศ์ ครูบาวงศ์ท่านมาที่นี่ เป็นพระที่มีชื่อเสียงของลำพูนพวกเราก็ทราบกัน พวกกระเหรี่ยงก็มาด้วย ก็พกลูกประคำของกระเหรี่ยงเป็นมันแว้บเลย กระเหรี่ยงนับซะจนมันแว้บ เรียกว่าลูกหวาย เราก็ถูกใจ อยากจะได้ ของดีๆ หลวงพ่อก็รู้ว่าพระอยากได้ พระก็ไม่มีเงิน ความคล่องตัวไม่มี หลวงพ่อบอกฉันจะให้ ได้ลูกประคำมา ไม่ต้องแล้ว อยากมานานแล้วนี่ นั่งกรรมฐานนี่คล้องคอเลย หลวงพ่อมากรรมฐานเทศน์ลูกประคำม้วนเดียวเลย ถอดแทบไม่ทันเลย ท่านก็ว่าไอ้การโชว์เนี่ย ความดีเนี่ย มันดีจริงหรือเปล่า อยากให้เขารู้ว่าเรานี่เป็นผู้ที่เคร่งสมาธิ คล้องลูกประคำให้เขารู้ว่าเคร่งสมาธิ เป็นผู้เจริญกรรมฐาน ที่นี่เป็นตัวเลวเลย มันตัวเลว เขาเรียกอุปกิเลส แสดงท่าให้เขาอย่างงั้นอย่างงี้ จริงๆแล้วเป็นอุปกิเลส โยมไปอ่านดูมารยาทในการปฏิบัติกรรมฐานก็ดี หรือมารยาทในการต่างๆไปดูตรงนั้น......เล่าเรื่องการทำสมาธิต่อ... ฟังคลิปเสียงตามลิ้งค์ http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1691
ผู้ให้โพสต์: เด็กวัดหลวงตาแสง
โพสต์โดย : Admin Chai



ที่มา มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร