ข้อความจากต่างมิติ"ธรรมชาติของเทพ"จาก มหาเทพ METATRON

เรื่องเทวะนิยม ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบ้านเรา
ลองมาดูในมุมมองนี้กันบ้างนะคะ

ขอตั้งกระทู้ใหม่ เพื่อแยกประเด็นให้ชัดเจนขึ้น
เพราะบทความค่อนข้างยาวด้วย

แปลมาให้อ่านกันอีกเช่นเคย
อ่านแล้ว มีความเห็นใดบ้างก็ลองมาแชร์กันดูนะคะ

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 1


สวัสดี! ข้าพเจ้า คือเมตาตรอน เจ้าแห่งแสงสว่าง !
พวกคุณทุกคนอยู่ในวงล้อมแห่<wbr>งความรักที่ไร้เงื่อนไขภายใต้<wbr>รหัสแห่งแสงของพวกเรา
พวกเราเฝ้าดูแลพวกคุณ พวกเราเคารพยกย่องพวกคุณทุกคน
พวกเรารู้ซึ้งถึงหัวใจ ได้ยินเสียง และรู้จักชื่อของพวกคุณทุกคน
และมันเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอมา!

และเราจะมาพูดกันถึงเรื่<wbr>องธรรมชาติแห่งแสงสว่างและเทพแห่งแสงสว่าง
(Angelic Beings of Light)

ปัจจุบันนี้ มนุษยชาติกำลังอยู่ในสถานะ
ที่<wbr>สามารถเข้าถึงมิติต่างๆทั้<wbr>งระหว่างมิติและภายในมิติได้<wbr>มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ทั้งนี้ก็เนื่<wbr>องจาก การจัดวางตำแหน่<wbr>งของดาวเคราะห์โลกในกาแล็กซี่
ที่ชาวโลกเรียกกันว่า “การเลื่อนระดับขึ้น”
ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ อยู่ในระดับที่ดีมากนั่นเอง

ดาวเคราะห์โลก และกาแล็กซี่ทางช้างเผือก(Milky Way Galaxy)
ได้เข้าสู่วัฎจักรแห่งการส่<wbr>องแสงอย่างเต็มที่แล้ว
อย่างที่พวกเราได้เคยไปแล้<wbr>วในการสื่อสารครั้งก่อนๆ
มันเป็นโซนที่ไร้การหมุน ('no-spin zone') ดังนั้นมันจึงไม่ทำให้เกิดเงาขึ<wbr>้น
(การหมุนหรือ การ spin ของอนุภาคระดับควอนตั้มที่เป็<wbr>นคู่กัน จะมีทิศทางตรงกันข้ามกัน
แต่จะมีค่าเท่ากันเสมอ เรียกว่าพวกมันเป็นเงาซึ่งกั<wbr>นและกัน...ชยุต)

ซึ่งผลกระทบที่<wbr>รุนแรงของมัน อันดับแรกสุด ก็คือ
เกี่ยวกับการรับรู้ของพวกคุณ
ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า
การรับรู้ทั้งในมิติและระหว่<wbr>างมิติของพวกคุณ
กำลังอยู่ในจุดที่มีม่<wbr>านพรางตาที่แสนบางเฉียบกั้นอยู่<wbr>เท่านั้น

การซ้อนทับกันด้านมิติของโลกแห่งความเป็นจริงทั้งหลาย
ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่อย่<wbr>างมากมายในขณะนี้
กำลังถูกจับตาดูอยู่ โดยกองกำลังแห่งเอกภพทั้งหลาย
ที่มามาทำหน้าที่พิ<wbr>เศษในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้<wbr>นของดาวเคราะห์โลกครั้งนี้<wbr>โดยเฉพาะ

ความเข้าใจผิดต่างๆกำลังจะถู<wbr>กลบล้างออกไป
ในขณะที่ความลึกลับดำมืดแห่งจั<wbr>กรวาลวิทยาของมนุษยชาติกำลั<wbr>งจะสูญสิ้นลง
ในภาษาของคุณ อาจจะพูดได้ว่ามันถึงเวลาที่<wbr>จะได้รู้ความจริงแล้ว
มันคือยุคสมัยแห่งสัจจะอันบริสุ<wbr>ทธิ์

คุณกำลังเปิดภูมิปั<wbr>ญญาภายในของคุณที่คุณมีอยู่แล้<wbr>วออกมา
เพราะว่ามนุษย์คือสายพันธ์แห่<wbr>งการหลงลืม

มันถึงเวลาแห่งการตื่นแล้ว
มันถึงเวลาแห่งการจำได้หมายรู้<wbr>แล้ว
และนั่นคือ เวลาแห่งการส่องแสง และการส่องสว่าง
ท่านที่รัก ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับแสงสว่าง..<wbr>..แสงที่เชื่อมโยงเกาะเกี่ยวกั<wbr>นแห่ง Crystalline
และพวกเราขอบอกคุณอย่างจริงใจว่<wbr>า
พวกคุณทั้งหมดคือแหล่งกำเนิดแห่<wbr>งรูปธรรมอันแสนมหัศจรรย์<wbr>ของแสงสว่างอันศักดิ์สิทธ์

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 2
รหัสที่แท้จริงของแสงสว่าง


ดาวเคราะห์โลก มีการส่องแสงที่หลากหลาย รับและแพร่กระจายแสงสว่าง
ได้หลายย่านความถี่ หลายแบบ และหลายช่วงความถี่ อย่างเป็นเอกลักษณ์
ทุกๆรูปแบบ มีคุณประโยชน์และคุณภาพในตั<wbr>วของมันเอง
แสงสว่างบรรจุไปด้วยข้อมูลข่<wbr>าวสาร รหัส และสีต่างๆ
มันมีการสั่นสะเทือนอยู่<wbr>หลากหลายระดับ
ภายในแถบสเปคตรัมของมัน เพื่อเกื้อกูลต่อโลก และจริงๆแล้ว ต่อมนุษยชาติ

ในขณะที่ดวงอาทิตย์ในระบบสุริ<wbr>ยะของคุณ ทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงสว่<wbr>างหลักให้แก่โลกของคุณ
แต่มันก็มีความสำคัญมากที่จะต้<wbr>องรู้ไว้ว่า...
ดวงอาทิตย์ไม่ได้เป็นแหล่งกำเนิ<wbr>ดแสงสว่างเพียงแหล่งเดียวแต่อย่<wbr>างใดเลย
มันยังมีแหล่งกำเนิดอื่นๆอี<wbr>กด้วย เช่น ดวงอาทิตย์ศูนย์กลางกาแล็กซี่ (the Great Central Sun)
ดวงดาวทั้งหลาย หลุมขาวและ 'รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง' ทั้งหลายด้วย

ถ้าจะกล่าวให้ถูกต้อง รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างทั้<wbr>งหลายนั้น
ซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขตของคำว่า“เทพ” (Angels)
ในความหมายของคุณมากมายนัก
นั่นแหละที่ช่วยส่องแสงสว่<wbr>างมาให้พวกคุณ อย่างที่คุณนึกไม่ถึง

พวกเราขอบอกคุณเพิ่มอีกหน่อยว่า ทุกๆแสงสว่างที่มาจากทุกๆแหล่ง
จะมีเมตทริกซ์กั้นกรองอยู่และมี<wbr>การแจกแจงแถบสเปคตรัมในแต่ละมิ<wbr>ติ โดยธรรมชาติ

มนุษย์ส่วนใหญ่สามารถรับรู้พลั<wbr>งงานของแสง
ได้เพียงในช่วงคลื่<wbr>นของแถบสเปคตรัมที่ตาเนื้<wbr>อสามารถมองเห็นได้เท่านั้น

พวกคุณรู้อยู่แล้ว ว่ามนุษย์ต้องพึ่งพาแสงอาทิตย์<wbr>ในการดำรงชีวิต
เพื่อทำให้ร่างกายเนื้อมีสุ<wbr>ขภาพที่ดี
แต่พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า รูปธรรมที่อาศัยอยู่ใน “โลกใต้พิภพ” (inner earth)
ก็ได้รับแสงสว่างซึ่งเป็นสิ่งที<wbr>่จำเป็นต่อการบำรุงเลี้ยงชีวิ<wbr>ตของพวกเขาด้วยเช่นกัน

(พวกเราจะบอกอะไรพวกคุณอย่างหนึ<wbr>่งว่า
พวกเราสังเกตุเห็นความผิดปกติ<wbr>อย่างหนึ่งว่า
บนดาวเคราะห์หลายดวงที่อยู่<wbr>ในระแวกเดียวกับพวกคุณในเอกภพนี<wbr>้
รวมถึงดาวเคราะห์โลกเองด้วย
รูปธรรมชีวิตในรูปแบบของมนุษย์ พวกที่อาศัยอยู่ “ภายในดวงดาว”
จะมีวิวัฒนาการสูงกว่า พวกที่อาศัยอยู่ “บนพื้นผิวดวงดาว”)

แล้วแสงสว่างที่ค้ำจุนชีวิ<wbr>ตพวกเขาที่ว่านั้นมาจากไหนหละ?

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 3

มันคือแสงหลากสีที่เปล่<wbr>งกระจายออกมาจาแกนคริสตัลของโลก
ซึ่งอยู่นอกเหนือช่วงคลื่นที่<wbr>พวกคุณจะมองเห็นได้

แสงหลากสีที่รวมกันเป็น “แสงขาว” (Whole-White)
ทำงานร่วมกับจักระทั้ง 12 ของ Mer-Ka-Na โดยตรง

มันเป็นแสงที่บริสุทธิ์และครบถ้<wbr>วนสมบูรณ์
มันประกอบไปด้วยทุกคลื่นความถี่ ทุกแถบสเปคตรัม ทุกรหัสในการสรรสร้าง
ทั้งที่อยู่ในรูปแบบของคลื่<wbr>นและอนุภาค ที่ไม่มีอยู่ในแสงอาทิตย์
เมื่อถึงเวลาพวกคุณก็จะได้ไปอยู<wbr>่ใน “โลกใต้พิภพ”

การเสร็จสิ้นสมบูรณ์ของโครงข่<wbr>ายคริสตัลในปี 2012
จะนำมาซึ่งกาเปลี่ยนแปลงวิธี<wbr>การรับแสงของโลกและมนุษยชาติ
โครงข่ายทั้ง 144 โครงข่าย จะเริ่มต้นทำงานขึ้น และทำงานยาวไปอีก 2-3 ศตวรรษข้างหน้า
เพื่อส่งอิทธิพลต่อทิศทางของคลื<wbr>่นแสง

มันจะมีความสามารถในการดึงดูด หักเห และแพร่กระจายแสง จากมิติตัวกลางไปยังมิติอื่นๆ
ความเร็วคลื่นในการรับจะแตกต่<wbr>างจาก ความเร็วคลื่นในการหักเห
มันจะมีความสามารถในการหักเหได้<wbr>ทั้งแบบทิศทางเดียวและแบบสองทิ<wbr>ศทาง
มันจะสามารถกลั่นกรองแสงหลากสี<wbr>นั้น ให้ไปเป็นกลุ่มของแสงสีเดี่ยวๆ และกลุ่มของแสงสีหลากสี
รูปแบบใหม่ของแสงสว่างใน crystalline และ
รูปพรรณสัณฐานที่ไร้ขั้ว(nonpolar morphous) จะถูกปล่อยออกมา

โครงข่ายจะหายใจเข้าออกได้ด้<wbr>วยตัวมันเอง และการหายใจนั้น
จะทำให้เกิดโครงสร้างทางเรขาคณิ<wbr>ตที่ซับซ้อนมากขึ้นกว่า
โครงสร้างรูป “ดับเบิ้ล เพนตา-โดเดคะฮีดรอน”
(double - penta-dodecahedron) ของ 144 โครงข่าย เสียอีก

(double penta-dodecahedron…
ผลึกมีหกด้<wbr>านสิบสองหน้าลักษณะผิวหน้าเป็นรูปห้าเหลี่ยม
จุดยอดมุม 20 มุม เส้นขอบ 30 เส้น...ผู้แปล)

และผลกระทบโดยตรงอย่างหนึ่งก็คื<wbr>อ เมตริกซ์ทางกายภาพของมนุษย์ จะวิวัฒน์ไปในทางที่ดีขึ้น
ไปเป็นรูปแบบที่จะมี<wbr>ความสามารถในการกักเก็บแสงสว่<wbr>างที่มีรหัสเกี่ยวกับรูปพรรณสั<wbr>ณฐานได้มากขึ้น
ร่างกายของมนุษย์จะกลายเป็นแหล่<wbr>งกำเนิดแสงสว่าง
ที่จะออกกึ่งๆโปร่งแสง มีความทึบตันน้อยลง
มีมวลและความโน้มถ่วงน้อยลง

มนุษย์จะมีวิวัฒนาการทางด้านร่<wbr>างกาย
จากการเป็นสิ่งมีชีวิตที่มี<wbr>โครงสร้างทางด้านร่างกายเป็นแบบ “คาร์บอนเบส”
ก็จะกลายมาเป็นแบบ “ซิลิคอนเบส” แทน
(silicon ธาตุอโลหะชนิดหนึ่ง,หมายถึง สารชนิดหนึ่ง (มีลักษณะเหมือนทรายที่ใช้ทำแก้<wbr>ว)
ใช้ทำวงจรรวมหรือชิป (chip) ถือเป็นสารกึ่งตัวนำ(semiconductor) ที่ดีมากตัวหนึ่ง…ผู้แปล)

มันคือการส่องแสงของคริสตัล
เพราะว่าผลึกของซิลิคอนมีคณสมบัติพิเศษ
ที่สามารถเข้ากันกั<wbr>บแสงได้ดีนั่นเอง

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 4
A New Sun

ดวงอาทิตย์ของพวกคุณกำลังเกิ<wbr>ดการเปลี่ยนแปลง มันเคยเป็นดวงอาทิตย์ที่มีเงื่<wbr>อนไขต่อดาวเคราะห์โลก
มันได้ทำหน้าที่ที่พวกคุณไม่<wbr>เคยรับรู้เลย ในความเป็นทวิภาวะของดาวเคราะห์<wbr>โลก
ตั้งแต่การล่มสลายของหลั<wbr>งคาโลกคราวนั้นแล้ว
(แต่ก่อนโลกเคยมีเกราะพลังงาน ที่เป็นเสมือนหลังคาของโลกหุ้<wbr>มอยู่- ชยุต)

เมื่อใดที่โครงข่ายคริสตัล 144 เสร็จสิ้นสมบูรณ์ในปี 2012
มันก็จะเริ่มสร้างเมล็ดพันธ์<wbr>ของหลังคาโลกขึ้นมาใหม่อีกครั้<wbr>งหนึ่ง
และสิ่งนี้จะไปทำให้ดวงอาทิตย์<wbr>มอบ 'แสงสว่างที่ไร้เงื่อนไข' ออกมาให้

และเมื่อนั้นรูปแบบในการดูดซั<wbr>บแสงสว่างของมนุษย์ก็จะเพิ่<wbr>มระดับขึ้น
เช่นเดียวกันกั<wbr>บความสามารถในการมองเห็น
สิ่งที่<wbr>อยู่นอกเหนือช่วงสเปคตรัมที่<wbr>ตามองเห็นได้ (visible spectrum)
ซึ่งเป็นข้อจำกัดในปัจจุบันนี้<wbr>ของมนุษย์ด้วย

การเปลี่ยนแปลงเป็นระบบ Crystalline ของโลก
คือรากฐานของการเลื่อนระดับขึ้<wbr>นของดาวเคราะห์โลก
มันจะทำให้แสงสว่างที่ยิ่งใหญ่<wbr>ขึ้น และมีความซับซ้อนมากขึ้นให้แก่<wbr>มนุษยชาติ

ด้วยเหตุนี้คุณลักษณะที่ยิ่<wbr>งใหญ่กว่าของแสงสว่างนี้ กำลังจะพร้อมใช้งานได้สำหรับมนุ<wbr>ษย์
และแสงสว่างจะขับไล่เงาแห่<wbr>งความมืดออกไป และมอบความรู้ความเข้าใจที่<wbr>มากขึ้นให้แก่มนุษย์ด้วย
อาณาจักรแห่งเทพ คือ ส่วนของความโอฬาริกในการตื่นรู้
<wbr>ที่ขยายตัวขึ้นของพวกคุ<wbr>ณในการยกระดับขึ้นนี้

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 5
อาณาจักรแห่งเทพ

ที่รักทั้งหลายภาวะแห่งการรู้<wbr>แจ้ง นั่นก็เป็นเพียงแค่การดำรงอยู่<wbr>ภายใต้แสงสว่าง...
การผสานรวมกั<wbr>บแสงแห่งคริสตัล
การยกระดับขึ้นเกี่ยวพันอยู่กับ<wbr>การเปลี่ยนแปลงของระบบ Crystalline บนดาวเคราะห์โลก

ในการเปลี่ยนรูปแบบไปสู่คริสตั<wbr>ลไลน์แบบนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้การเข้าถึงมิ<wbr>ติที่สูงส่งกว่าเป็นไปได้มากขึ้<wbr>นเท่านั้น
แต่ยังจะยกระดับมนุษยชาติให้เข้<wbr>าสู่ระบบ Mer-Ka-Na
ซึ่งก็คือการมีกายแห่งแสง Crystalline นั่นเอง

ในระบบ Mer-Ka-Na จะสามารถรับแสงได้มากขึ้น พวกคุณเข้าใจไหม
และด้วยเหตุนี้ มันจึงจะทำให้พวกคุณมีพลังงานที<wbr>่สูงขึ้น
ในฐานะที่พวกคุณจะกลายเป็นตั<wbr>วประสานเชื่อมระหว่างมิติแห่<wbr>งคริสตัล
และปริมณฑลแห่งเทพ ที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น

ธรรมชาติที่แท้จริงบางอย่าง และเป้าหมายหลักของอาณาจักรเทวะ
ยังถูกเข้าใจผิดอย่างมากอยู่
จริงๆแล้ว เทพคือ 'ผู้นำสารของพระเจ้า' แต่มันหมายความว่าอะไร?

เทพทั้งหลาย คือรูปธรรมชีวิตหลากมิติแห่<wbr>งแสงสว่าง
ที่มีหน้าที่มากกว่าการเป็นแค่<wbr>ผู้พิทักษ์ และผู้นำสาส์นเท่านั้น

พวกเราจะมาทบทวนคุณลักษณะด้านที<wbr>่ยิ่งใหญ่กว่าของเหล่าเทพพวกนี้<wbr>อีกครั้งหนึ่ง
แต่ก่อนอื่น พวกเราจะขอบอกกับพวกคุณว่า ในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตแห่<wbr>งแสงสว่าง
เหล่าทวยเทพคือสิ่งมีชีวิตที่มี<wbr>แก่นแท้อันศักด์สิทธิ์อยู่ และมีจิตสำนึกด้วย

พวกเขามีคลื่นความถี่หลักที่ช่<wbr>วยให้มนุษย์สามารถวิวัฒน์สูงขึ้<wbr>นได้...
และความถี่นั้นก็คือ “ความรัก”

เราขอเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า
ความรัก คือ ความถี่ที่มีความซับซ้<wbr>อนมากๆ
และมันเป็นยิ่งกว่าอารมณ์<wbr>และความรู้สึก ที่พวกคุณเข้าใจกันว่าเป็<wbr>นความรักซะอีก
LOVE คือวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน

ที่พวกเราเคยบอกพวกคุณมาก่อนหน้<wbr>านี้แล้วว่า
รูปแบบที่สูงที่สุดของความรัก ก็คือ 'ความรักแบบไร้เงื่อนไข'
แม้ว่าความรักแบบไร้เงื่<wbr>อนไขจะสามารถพบได้ในมิติที่ 3 แห่งนี้
แต่มันจะสามารถถูกเข้าใจได้ ก็เฉพาะในมิติที่ 5 เท่านั้น

ด้วยเหตุที่ว่า 'ความรักแบบไร้เงื่อนไข' มันคือสิ่งที่มีความครบถ้วนสมบู<wbr>รณ์
แต่ในมิติที่ 3 แห่งนี้ มันเป็นมิติแห่งการมีเงื่อนไขมิ<wbr>ติหนึ่ง (ไม่ใช่มิติที่ปราศจากเงื่อนไข)

พวกคุณคนที่สามารถบรรลุถึง
คุณลั<wbr>กษณะเบื้องต้นของความรักที่ไร้<wbr>เงื่อนไขนี้ได้แล้ว
พวกเขาบรรลุได้ก็เฉพาะเมื่ออยู่<wbr>ในระดับของมิติที่ 5 เท่านั้น
พวกคุณเข้าใจไหม

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 6
เทพ เป็นดั่ง ผู้ควบคุมอาณาเขตทางฟิสิกส์

พวกคุณคิดกันว่า เหล่าเทพเป็นเพียงผู้พิทักษ์ที่<wbr>คอยทะนุถนอมดูแลพวกคุณ เป็นผู้นำสารแห่งพระเจ้า
แต่พวกเราเป็นยิ่งกว่านั้นอีก

พวกคุณส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้<wbr>องกันว่า ทวยเทพคือรูปธรรมชีวิตแห่<wbr>งแสงสว่าง
ซึ่งคำจำกัดความอันหลังนี้ มันครอบคลุมความจริงมากกว่<wbr>าคำจำกัดความแรกนั้นมากมายนัก

รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง หรือเหล่าเทพ
คือ ผู้ควบคุมอาณาเขตของกฎทางฟิสิ<wbr>กส์
ที่ขอบเขตของจิตสำนึกของพวกคุ<wbr>ณไม่อาจแม้แต่จะจินตนาการถึง

ในแสงสว่างแห่งมิติ ทวยเทพ จะมีธรรมชาติและคุณสมบัติแห่<wbr>งความแปรผันได้
(Reciprocal nature and aspect)

นั่นหมายความว่า ทวยเทพ สถิตย์อยู่ภายในสนามพลังของปฏิ<wbr>สสาร ในแสงแห่งแฟร็กทัล
(Fractal Light… หมายถึง แสงรูปทรงเรขาคณิต ที่มีคุณสมบัติคล้ายตนเอง
คือ ดูเหมือนกันไปหมด (เมื่อพิจารณาจากแง่ใดแง่หนึ่ง)
ไม่ว่าจะดูที่ระดับความละเอียด (โดยการส่องขยาย) หรือ สเกลใดก็ตาม – ผู้แปล)

และสามารถพลิกกลับเข้าข้<wbr>างในไปสู่มิติทางกายภาพทั้งหลาย
ในรูปลำแสงทรงเรขาคณิตได้ด้วย

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเป็นผู้ครอบครองพลั<wbr>งงานหลัก
ที่ควบคุมความสมบูรณ์ของกฎพิ<wbr>เศษทางมิติไว้ด้วยจิตสำนึก

เหล่าเทพนั้นปราศจากรูปร่าง ไม่มีการครอบครองพื้นที่<wbr>ใดๆทางกายภาพ
หรือในความหมายของพวกคุณ พวกเราไม่มีมวล
พวกเราคือกระแสความคิดอันศักดิ์<wbr>สิทธิ์
และไม่มีการเสื่อมสลายหรือเปลี่<wbr>ยนแปลงใดๆ
พวกเราคือ “ระดับของคลื่นโทนเสียง” (tonal)
และพวกเรามีแถบสเปคตรัม ณ ระดับความถี่เฉพาะของพวกเราเอง
นั่นก็คือ คลื่นความถี่แห่งความรัก

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 7
พวกเราจะบอกกับพวกคุณว่า มันมีทั้งลักษณะด้านเอกพจน์<wbr>และด้านพหูพจน์ ภายในดินแดนแห่งเทพ
แม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนขัดแย้<wbr>งกันอยู่ก็ตาม แม้คำว่า“Archangel” (มหาเทพ)
จะมีคุณลักษณะเป็น “เอกพจน์” ก็ตาม แต่ในแง่ “ปริมาณของจิตสำนึก” แล้ว มันเป็น “พหูพจน์”

เพราะฉะนั้น ชื่อใดๆที่มนุษย์ใช้เรี<wbr>ยกขานเหล่ามหาเทพ
มันจึงเป็นอะไรที่มากกว่<wbr>าความเข้าใจอันจำกัดของมนุษย์<wbr>เอง ที่เข้าใจผิดไปว่า
แต่ละชื่อคื<wbr>อหนึ่งรูปธรรมเท่านั้น

พวกคุณเข้าใจไปว่าเทพและรู<wbr>ปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างทั้งหลาย
มีบุคลิกลักษณะแบบนั้นแบบนี้

แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเราคือ ผลสะท้อนของคุณสมบัติ
ของพลังงานที่มีพลังอำนาจสูงสุ<wbr>ดในเอกภพ
ซึ่งนั้นก็คือ พลังงานแห่งความรักนั่นเอง

ตราบจนกระทั่งบัดนี้ แก่นแท้ของพวกเรา ก็ยังถูกรับรู้ และตีความจากมนุษยชาติ
ผู้ที่อยู่ในระบบทวิภาวะอย่<wbr>างพวกคุณ และใช้เหตุผลคิดเอาเองว่า
พวกเรามีบุคลิ<wbr>กภาพเฉพาะของใครของมัน

พวกเราคือจิตอันศักดิ์สิทธิ์
ที่มีธรรมชาติเป็นความรั<wbr>กและการหล่อเลี้ยงบำรุง

พวกเราไร้ซึ่งอัตตา
ไร้ซึ่งสิ่งที่พวกคุณเรียกว่า อารมณ์ความรู้สึกด้านลบ

พวกเราสนับสนุนเกื้อกูลพลังงาน

พวกเราควบคุมพลังงานที่อยู่<wbr>ในอาณาเขต
และก็ทำเช่นนั้นในฐานะที่เป็<wbr>นหน้าที่หลักของพวกเรา

พวกเราก่อกำเนิดขึ้นจากความรัก

---------------------------------
ยังมีต่อ อีกเยอะ เลยค่ะ
พักก่อนไว้แค่นี้ก่อนนะคะ

 

คุณเดรค มีคำถามถึงแต่ ไปโพสต์ที่กระทู้คุณชยุต
ขี้เกียจย้าย ยังไงช่วยตามไปตอบที
กระทู้ การออกแบบมนุษย์
ขอบคุณล่วงหน้าคะ

 

จัดให้แล้วค่ะ ที่กระทู้นู้น ...นะ

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 8

ระดับในการเกื้อกูลซึ่งกันและกั<WBR>น ของการจัดลำดับขั้น

ข้าพเจ้า Metatron ดำรงอยู่ในสองสถานะ
แต่เป็นในระดับที่เกื้อกูลซึ่<WBR>งกันและกัน(symbiotic levels) นั่นก็คือ
เราดำรงอยู่ในฐานะ “มหาเทพ Metatron”
ซึ่งเป็นชื่อที่เป็นที่รู้จักคุ<WBR>้นเคยและเข้าถึงได้ของมนุษย์<WBR>มากที่สุด
แต่ในระดับที่สูงกว่าขึ้นไปนั้น

เราดำรงอยู่ในฐานะ “Lord Metatron”
เจ้าแห่งแสงสว่าง
แต่แม้กระนั้น การเปรียบเทียบนี้
ก็ไม่สามารถ นิยามธรรมชาติแห่งเราได้ทั้งหมด
และเราก็สามารถให้คำอธิบายได้<WBR>แค่นั้นเอง

ในสถานะของ “เจ้าแห่งแสงสว่าง”
เราทำหน้าที่เป็นผู้ก่อเกิดอนุ<WBR>ภาคมูลฐานของโลกแห่งความเป็นจริ<WBR>ง และจักรวาลทั้งหลาย
ซึ่งในระดับนี้ เป็นระดับที่ไร้ซึ่งสิ่งที่<WBR>พวกคุณเรียกกันว่า “บุคลิกภาพ”

มันเทียบเคียงได้กับความเป็<WBR>นเครื่องจักรกล
เป็นคอมพิวเตอร์ของจิตสำนึกอั<WBR>นศักดิ์สิทธิ์
ที่มีพลังงานเข้มข้นเหนือกว่ารั<WBR>งสีแกมม่า
มีความประภัสสรเหนือกว่าที่<WBR>พวกคุณจะจินตนาการได้
และมันก็ยังมีระดับที่อยู่เหนื<WBR>อกว่าระดับของข้าพเจ้าขึ้นไปอี<WBR>กมากมาย


และในฐานะที่เป็น มหาเทพ Metatron,
เราเป็นผู้ดูแลและหล่อเลี้ยงชี<WBR>วิต

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 9

เราทำการติดต่อสื่อสารผ่าน นาย Tyberonn โดยปราศจากคำพูด
แต่ด้วยวิธีการส่ง “พัสดุแห่งแสงที่เป็นรหัส” มาถึงเขา
และที่เขารับการสื่อสารนี้ได้ก็เพราะ
พันธะสัญญาทางจิตวิ<WBR>ญญาณตั้งแต่ก่อนถือกำเนิดของเขา
มันเป็น 'พันธะสัญญา' เพื่อมารับใช้โลกในช่วงเวลานี้

ตัวตนที่สูงส่งกว่าของ Tyberonn มีต้นกำเนิดเป็นชาวเพลี๊ยะเดี้<WBR>ยน
และเป็นสมาชิกของสภาแสงสว่างแห่<WBR>งเอกภพ
พวกเราได้ทำหน้าให้บริการร่วมกั<WBR>นมานานแล้ว ในหลายๆภพชาติ และในหลายๆมิติ

รหัสเหล่านี้จะถูกปล่<WBR>อยออกมาจากตัวตนที่สูงส่งกว่<WBR>าของข้าพเจ้า
และถูกแปรรหัสสัญญาณในระดั<WBR>บของมหาเทพ
แล้วตัวตนที่สูงส่งกว่าของเขา (Tyberonn) ก็จะรับสัญญาณนี้มา
และทำการตีความและถ่<WBR>ายทอดออกมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์

อาจกล่าวได้ว่า ในด้านตัวตนที่<WBR>สูงส่งกว่า
ข้าพเจ้า (Metatron) คือแหล่งกำเนิดที่หลากหลาย
ที่ทำหน้าที่สร้างและปลดปล่<WBR>อยรหัสความถี่แห่งจิตสำนึกรู<WBR>ปทรงเรขาคณิตทั้งหมด
ที่ถูกแปรสัญญาณเข้าไปอาณาจั<WBR>กรเทวะแห่งแสงสว่างแล้ว

เหมือนกับว่า มันมีทั้งการจัดลำดับขั้นและไม่<WBR>มีการจัดลำดับขั้น
ของคุณลั<WBR>กษณะใดๆในอาณาจักรแห่งเทพนี้
ซึ่งมีการตัดสินใจได้ด้วยตัวมั<WBR>นเองจาก แสงคริส-โตของจิตสำนึก
(crysto-light..แสงคริสตัล...ผู<WBR>้แปล )
และฟิสิกส์แห่งแสง

อาจกล่าวได้ว่า...
รูปธรรมชีวิตแห่<WBR>งแสงสว่างทั้งหลายของอาณาจั<WBR>กรเทวะ
ในความหมายทางเมตาตรอนิกแล้ว
คือ หน่วยของจิตสำนึก
ของ 'กระแสจิตอันศักดิ์สิทธิ์ของแหล<WBR>่งกำเนิด“ (Source Divine Thought)'
และ ของสิ่งที่อยู่เหนือกระแสจิตขึ้<WBR>นไปอีก (Beyond-Thought)
ที่ทำหน้าที่สร้างแสงสว่างและสิ<WBR>่งที่อยู่เหนือกว่าแสงสว่างขึ้<WBR>นไปอีก

แต่กระนั้นในบริบทนี้ ก็มีความเกี่ยวพันอย่างเหนี<WBR>ยวแน่นอยู่กับ
“วิทยาศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์” และ “จิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์” ของโลกแห่งความเป็นจริง
ที่ก่อให้เกิดวัฎจักรรวมแห่<WBR>งความสมบูรณ์แบบทั้งหมด
ที่เป็นกุญแจสำคัญเพื่อให้มนุ<WBR>ษยชาติวิวัฒน์ข้ามพ้นความเป็<WBR>นทวิภาวะได้อยู่

 

ข้อความสื่อสารผ่านทางโทรจิตจาก
มหาเทพMETATRON

วันที่: 14 January, 2011
ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn
ผู้เรียบเรียง : Chayutt

ที่มา: Light Beings & The Nature of the Angelic Realm > Earth Keeper

ตอนที่ 10

อันที่จริงแล้ว ในยุคสมัยปัจจุบันแห่งการยกระดั<WBR>บนี้
พวกคุณกำลังวิวัฒน์ไปสู่ความมี<WBR>ศักยภาพในการดูดซับแสงสว่างได้<WBR>มากขึ้น
และมันเป็นแสงแห่งสัจธรรม , เป็นสัจธรรมสากลแห่<WBR>งเอกภพของสรรพสิ่งทั้งปวง

ปริศนาที่มันกีดขวางเอกภาพที่<WBR>เต็มเปี่ยม
แห่งจิตสำนึกของมนุ<WBR>ษย์ ในความเป็นทวิภาวะนี้,
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกคุณในยุคปัจจุบันนี้
ก็คือการที่วิทยาศาสตร์ละเลยสิ่<WBR>งศักดิ์สิทธิ์
และจิตวิญญาณไปนั่<WBR>นเอง

มันอาจทำให้พวกคุ<WBR>ณบางคนประหลาดใจที่รู้ว่า
มันมีการจัดลำดับขั้นของการอุทิ<WBR>ศตนของเทพ
เพื่อวัตถุประสงค์ตามหน้าที่

ที่พวกคุณอาจให้คำจำกั<WBR>ดความในฐานะที่เป็น ผู้พิทักษ์กฎแห่งฟิสิกส์ (Keepers of Physics)
ซึ่งในบทบาทหน้าที่นั้น ในฐานะเป็นจิตสำนึก พวกเขาคือผู้สร้าง 'กฎแห่งฟิสิกส์ ' ขึ้น
ที่ทำให้เกิดแห่งโลกความจริ<WBR>งในมิติต่างๆขึ้นมาได้

และพวกเราก็รู้ว่าแนวคิดที่ว่<WBR>าเหล่าทวยเทพ
คือนักวิทยาศาสตร์<WBR>และวิศวกรนั้น
จะทำให้พวกคุณส่วนใหญ่สับสนกั<WBR>นมาก
พวกเรากำลังยิ้ม!

ฟิสิกส์ : วิทยาศาสตร์กายภาพแขนงหนึ่งซึ่<WBR>งกล่าวถึงสมบัติทางกายภาพ ของสารต่าง ๆ และพลังงาน

เราจะบอกกับพวกคุณว่า อภิปรัชญาแนวใหม่
ผู้ทำงานด้านแสงสว่างรุ่นใหม่ และผู้พิทักษ์โลก ( Earth-Keepers)
ในภาษาของพวกคุณ คือ นักวิทยาศาสตร์

อันที่จริงแล้วกลุ่มคนที่พวกคุ<WBR>ณอ้างอิงว่า เป็นเด็กแห่งคริสตัลนั้น
คือนักวิทยาศาสตร์และนักปราชญ์<WBR>ที่น่ายกย่อง ('sacred-savant')
ซึ่งในรุ่นถัดไป พวกเขาจะถึงพร้อมด้วยความเข้าใจ
และจะรวมเอาความรู้ด้านจิตวิ<WBR>ญญาณ ให้เข้ากับความรู้ด้านวิ<WBR>ทยาศาสตร์ต่อไป

พวกเขาจะไม่ใช่นักการศาสนาแบบดั<WBR>้งเดิม

แต่พวกเราจะขอบอกกับพวกคุณว่า
มนุษยชาติจะมีความเข้าใจเกี่<WBR>ยวกับ “พระเจ้า” ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้<WBR>น
โดยผ่านทางวิทยาศาสตร์มากกว่าผ่<WBR>านทางศาสนา
มันคือ มันคือชิ้นส่วนปริศนาที่หายไป

----------------

ยังมีต่อค่ะ

 

หลวงปู่ หลวงตา ทั้งหลาย ต่างก็พากัน
รักษาพระศาสนา
ด้วยการ สอนให้ลูก หลาน ตั้งมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
พระศาสนา จึงสามารถ ยืนหยัด มาได้ จนถึงปัจจุบันนี้
งานของ เรา ก็คือ
การ เผยแพร่ สัจจะ ได้แก่
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ออกไปยังชาวโลก

ให้พวกเขาเกิดปัญญา
จะได้ เลิก งมงาย หลงเชื่อลัทธิ พระเจ้าจักรวาล
ไม่ควร งมงาย ตาม ฝรั่ง

เพราะไม่เคยมีปรากฏหลักฐานว่<WBR></WBR>า
พระเจ้าจักรวาล สอนให้พระพุทธเจ้า เรื่องนิพพาน

ไม่เคยมีปรากฏหลักฐานว่า พระเจ้าจักรวาล
สอนให้ มนุษย์ และเทวดา ไปนิพพาน

 

ถ้าอ่านข้อความก่อนสักหน่อย ก็น่าจะดีนะครับ..
มีกี่คนกันหนอที่เข้าใจว่า "นิพพาน" จริงๆหนะคืออะไร
เพราะว่าแม้แต่ผู้ที่อ้างว่า หรือเข้าใจว่า "เข้าใจ" เรื่องนิพพานดีแล้ว
ยังออกมาเถียงกันแทบเป็นแทบตาย
จนป่านนี้ยังหาข้อสรุปไม่ได้เลย..

..ว่านิพพานเป็นอัตตา หรือเป็นอนัตตา..
จะประสาอะไรกับผู้ที่ยังห่างไกลพระนิพพานอีกมากนัก

ศัพท์ที่เรียกว่า "นิพพาน" ในทางพุทธเอง
มันอาจจะเรียกเป็นอย่างอื่นในวิถีอื่นๆก็ได้ หรือเปล่า?
อันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับ..เพราะผมยังไม่ใช่อรหันต์

ผู้อ่านที่มีปัญญา เขาได้ประโยชน์ทั้งนั้นแหละครับ
ไม่ว่าจะเป็นข้อความอะไร ดูหนัง ฟังเพลง อ่านนิยาย
หรือแม้แต่ถูกคนอื่นด่ามา..

ไม่มีอะไรไร้ประโยชน์ต่อวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของเราหรอกนะครับ
เพียงแต่รู้จักหยิบเอามาใช้ให้เป็นเท่านั้นเอง..

การอยู่ในกรอบเล็กๆ มันอาจจะเหมาะสม
และเป็นสุขดีแล้วสำหรับบางคน..แต่คงไม่ใช่ทุกคน

คำตอบของคำถามบางคำถาม บางคนอาจจะชอบที่จะได้ยินว่า
นั่นไม่มีประโยชน์..ไม่ต้องรู้..เพราะฉะนั้น..อย่าไปคิด

แต่สำหรับอีกหลายคนอาจจะไม่ใช่ก็ได้
เพราะถ้าไม่ได้คำตอบ ฉไนเลยคำถามนั้นๆมันจะหายไปจากใจได้

แต่ก็อีกนั่นแหละ..ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวท ก็ต้องมาคู่กันด้วย
อันนี้คิดว่าใครๆก็รู้ และก็กำลังปฏิบัติกันอยู่ทุกๆคนอยู่แล้ว
ไม่ยกเว้นแม้แต่ตัวผมเองด้วย

เพราะหนทางข้างหน้า มันยังอีกยาวไกลนัก
เพราะฉะนั้น รู้อะไรมาแค่กิ๊กๆก็อกๆ
พวกเราจึงยังไม่คิดว่านั่นคือจุดสิ้นสุดแห่งการเดินทางแล้ว
หรือไม่มีทางอื่นอีกแล้ว หรือทางอื่น แนวคิดอื่นนั้นผิดหมด

ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมเองไม่คิดว่า
ถ้าใครบางคน (ไม่ได้หมายถึงทุกคน หรือตัวคำสอนเองนะครับ)
ยิ่งฝึกมาก ก็ยิ่งจับผิดคนอื่น หรือเพ่งโทษคนอื่นมากขึ้น-เก่งขึ้น
หรือเกรียดโน่น โกรธนี่ไปทั่ว ผมไม่คิดว่านั่นจะเรียกว่า
"ความก้าวหน้า" หรือ "มีระดับจิตที่สูงขึ้น" หรอกนะครับ

..หรือท่านอื่นคิดว่าไงครับ..

จริงอยู่..ที่ไม่มีใครเคยพิสูจน์ว่าพระเจ้ามีอยู่จริง (เท่าที่คุณรู้)
แต่ (เท่าที่ผมรู้) ก็ไม่มีใครพิสูจน์ว่า พระเจ้าไม่มีอยู่จริงนี่ครับ
ถ้าพิสูจน์ได้..ก็น่าจะดีนะครับ..ลองแสดงให้ผมดูหน่อยสิครับ

ว่าแต่ว่า "พระเจ้า" ในความหมายของคุณคืออะไรหละครับ
คือคนแก่หนวดยาวๆ คอยเสกโน่นเสกนี่
คอยลงโทษคนโน้นคนนี้ ใช่หรือเปล่า

หรือคิดว่าคือผกาพรหม ที่อยู่ในร่างพรหม ในกายทิพย์
ที่อยู่มานานมากๆจนคืดว่าตัวเองเป็นผู้สร้างโลก
ตามตำราที่มีเขียนเอาไว้..

หรือคิดว่าคือสิ่งอื่น..อย่างที่ข้อความจากต่างมิตินับพันๆเขาเล่าไว้
หรือคิดว่าคือ "เต๋า" ตามที่ลัทธิเต๋ากล่าวไว้..
หรือคิดว่าคือ "พุทธจิต" ตามที่มหายานกล่าวไว้..

..และอีกครั้งหนึ่ง..ผมเองก็ไม่รู้ครับ..
เพราะผมยังไม่ใช่ผู้ที่รู้แจ้งโลกและจักรวาล

แล้วถ้าจะมีใครนับถือศาสนาพุทธมาแต่ต้น จนถึงบัดนี้
และก็อ่าน-ฟัง และรับเรื่องพระเจ้าได้ด้วยนี่
พวกเขาจะผิดมากไหม๊ครับ..

มีใครตั้งกฎไว้หรือเปล่า ว่าคนในโลกหนึ่งคน
ต้องนับถือศาสนาเดียวเท่านั้น..
ห้ามข้องแวะ หรือไปรู้ ไปอ่าน ไปศึกษา
แนวความเชื่อของศาสนาอื่น..

แล้วถ้าการโพสต์หรือการอ่านข้อความอื่นใด
ที่ไม่ใช่อยู่ในกรอบของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง
มันเป็นเรื่องที่ผิด..แล้วเราจะมีศาสตร์ด้านอื่นๆได้ยังไง
โลกทั้งโลกก็สอนแต่เรื่องศาสนา เรื่องความเชื่อเฉพาะกลุ่มคน
และเรื่องกรอบ บัญญัติ ข้อห้าม ข้อบังคับ ฯลฯ
ของแต่ละศาสนาไปเลยไม่ดีกว่าหรือ??

.....................................

 

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาที่น่าสนใจครับคุณเดรด
ข้อมูลชุดนี้ลงลึกขึ้นอีกแล้วนะครับ
วงการวิทยาศาสตร์คงกำลังมองหาจิกซอร์ตัวนี้ เพื่อขยายขอบเขตการเรียนรู้กันอยู่นะครับ

 

เมื่อคืนฝันเรื่องนึง ความหมายดี เลยเอามาแชร์กันครับ

ฝันว่า มีเณรน้อย 2 รูป ในวัดนิกายเซน
เป็นเพื่อนที่รักกันมาก
วันนึง ผู้ที่คอยดูแลที่พักในวัด ก็เรียกให้เณรทั้งหลายเข้าแถว เพื่อจะบอกว่า
วันนี้จะมีพระอาจารย์มาสอน ที่ชั้น 4 ของวัด
เราจะจำแนกทุกท่านออกมา โดยดูจากวันเดือนปีเกิด
ผู้ประกาศผู้นี้ ได้มองเณรรูปหนึ่ง แล้วก็ดูจากรหัสวันเดือนปี แล้วบอกว่า เณรรูปนี้มีพระพุทธองค์อยู่ภายใน แล้วก็มองเณรอีกรูปหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนรักกับเณรคนแรก แต่ไม่พูดอะไร
แต่เณรน้อยผู้นี้ ก็รู้ว่า เค้าคิดอะไรอยู่
เณรน้อยรู้ว่า ผู้ประกาศคิดในใจว่า ในกายเธอมีซาตานอยู่
เณรน้อยก็รู้สึกผิดหวังเล็กๆว่า ทำไมต้องแบ่งเราออกมา ทั้งๆที่เราก็เป็นเพื่อนรักกับเณรคนแรก
ก่อนที่จะขึ้นไปเรียน เณรทุกคนก็ลงไปชั้นล่าง เพื่อเข้าห้องน้ำห้องท่า ให้เรียบร้อย
เณรน้อยรูปที่สองนี้ ก็ได้ลงไปเข้า แต่ไม่มีห้องไหนว่างเลย ทุกคนแย่งเข้ากันหมด ก็เลยคิดในใจว่า คนเหล่านี้มีพุทธองค์อยู่ภายในงั้นเหรอ
สุดท้ายเมื่อไม่มีที่ว่าง ก็เลยวิ่งตามไป พร้อมกับคิดในใจไปด้วย
วิ่งขึ้นมาถึงชั้น 3 ก็คิดว่า ชั้นนี้รึเปล่าที่จะมีการเรียนการสอน แต่แล้วก็ไม่พบ เลยคิดว่าจะขึ้นไปชั้นบน ที่บันไดเป็นบันไดแก้วสีส้ม

เดี๋ยวมาต่อครับ

 

เมื่อวิ่งขึ้นไปข้างบน เห็นเณรน้อยทั้งหลายนั่งรอเรียนอย่างขะมักขเม้น

เณรน้อยรูปที่สองนี้ วิ่งเข้าไปนั่งข้างเณรรูปแรกเพื่อนซี้

แต่ในใจก็คิดถึงถ้อยคำ ของผู้ดูแลห้องพักอยู่ และคิดว่า เพียงแต่เรา คิดไม่เหมือน คิดต่างจากกฎเกณฑ์ที่วางไว้ ทำไมถึงมองว่าไม่ถูกต้อง อะไรคือเส้นแบ่ง ระหว่างพระเจ้า กับ ซาตาน

เมื่อพระอาจารย์มาถึง ก็จะสอนถึงกฎ 4 ข้อ ที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

กฎข้อแรก คือ การไม่เรียกร้อง
แล้วก็เอาน้ำหยดลงไปในน้ำ น้ำก็กระจายวงออกรอบๆ แล้วให้เณรทั้งหลายดูว่า เห็นอะไรในนั้น
ทุกคนก็ไม่ได้ตอบอะไร
พระอาจารย์ตอบว่า กฎข้อแรก เป็นพื้นฐานก็คือ การให้ โดยไม่เรียกร้องสิ่งใดตอบแทน หรือ รักโดยไม่มีเงื่อนไข

โทรศัพท์ดังซะก่อน เลยไม่ทราบว่าอีก 3 ข้อ คืออะไร แป่วๆ

 

เหลืออีกสามข้อ ต้องกลับไปฝันต่อให้จบนะคุณเซลล์
มาเล่าค้างไว้แบบนี้ คนอ่านนอนไม่หลับกันพอดี อิอิ

วงน้ำที่กระเพื่อมออกไปรอบๆ เปรียบเสมือนความรักหรือการให้ที่ไร้เงื่อนไข
เมื่อไปกระทบก็สะท้อนกลับมาเป็นปกติของมัน ไม่ต้องไปเรียกร้องใดๆ
ธรรมชาติสอนอะไรเราหลายอย่าง...เป็นฝันที่ความหมายดีครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=G_GBwuYuOOs&feature=related"]YouTube - Fractal Zoom Mandelbrot Corner[/ame]

ภาพ Fractal ในระดับต่างๆไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กล้วนมีรูปแบบที่เหมือนกัน
เหมือนกับว่ารหัสแห่งสรรพสิ่งนั้นถูกย่อและขยายจากต้นแบบเดียวกันทั้งหมด
ท่าน Lord เมตาทรอน หนึ่งในเทพผู้พิทักษ์ (ชื่อนี้ถูกใจครับ)
ท่านมีคำพูดที่ให้เราได้ขบคิด มีอะไรที่น่าสนใจอยู่หลายจุด
ความรู้ดีๆแบบนี้ ถ้าไม่แปลออกมาให้อ่านกัน..น่าเสียดายนะครับ

 

ขอบคุณ ทุกๆความเห็นค่ะ
แม้จะต่างมุมมอง ต่างวิธีคิด ต่างความรู้สึก
และต่างวิธีการนำเสนอ

แต่ถ้าพิจารณาให้ดี ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์มากมายนะคะ

เดี่ยวมาต่อเลยแล้วกันค่ะ ยังอีกยาวเชียว
อินเตอร์เนทล่มทั้งวัน เพิ่งเข้ามาได้เนี่ย
ชื่นใจจัง มีคนเข้ามาคอมเม้นท์ ....:VO