คนที่จะเข้าถึงพระนิพพานได้ อันดับแรกก็ต้องเป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย MBNY, 25 สิงหาคม 2006.

  1. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,504
    nipphan1.jpg


    buddha1.jpg



    คนที่จะเข้าถึงพระนิพพานได้ อันดับแรกก็ต้องเป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ และนอกจากนี้ก็
    ทรงอารมณ์สมาธิให้ตั้งมั่น มีปัญญารู้เท่าทันสภาวะตามความเป็นจริง เราก็มานั่งคิด ทำไม


    ศีลของเราจึงจะบริสุทธิ์ ความจริงนักปฏิบัติมักจะสนใจผิด คิดว่าการเจริญพระกรรมฐานนั้น
    จะต้องนั่งหลับตากันท่าเดียวมันจึงจะมีผล ถ้าหากว่าเป็นการฝึกด้าน
    สุกขวิปัสสโก

    สุกขวิปัสสโก นี้ ความจริงจะไม่นั่งหลับตาเลยก็ใช้ได้ มันขึ้นกับอารมณ์ใจ
    ศีลของเราจะบริสุทธิ์ได้ก็อาศัยเรามีสมาธิ
    สมาธิจะทรงตัวได้ก็เพราะอาศัยศีลบริสุทธิ์


    เป็นอันว่า อะไรเป็นเหตุเป็นผลกัน ฉะนั้นถ้าเราจะถือเหตุจริง ๆ ก็ต้องถือปัญญา คนใด

    ถ้าเป็นคนไร้ปัญญา คนนั้นหาศีลไม่ได้ และคนใดไร้ศีล บุคคลนั้นก็จะมีสมาธิไม่ได้


    ๑. ทรงศีลให้บริสุทธิ์
    ๒. เราจะรักษาศีลประเภทไหนก็ดูศีลของเรา ถ้าพระ เณรถ้าพระรักษาได้แค่ศีล ๕
    ลงอเวจีทุกองค์ เณรรักษาได้แค่ศีล ๕ ลงอเวจีทุกองค์ และก็ถ้าญาติโยมพุทธบริษัททรงศีล ๕
    ปกติ อันนี้ไม่ลงนรก ไม่ไปเกิดในอเวจี ทั้งนี้เพราะอะไร
    ก็เพราะว่า พระถ้ารักษาแค่ศีล ๕ หรือ เณรรักษาแค่ศีล ๕ จะมาห่มผ้าเหลืองอยู่ทำไม มันก็
    มีความดีเท่าฆราวาส มานั่งหลอกลวงชาวบ้าน อันนี้ไม่ถูกต้อง พระจะต้องศึกษาสิกขาบทของ
    พระให้ครบถ้วน และก็ต้องดูอภิสมาจาร ดูธรรมะบางส่วนที่มันเป็นโทษ เพราะพระจะปฏิบัติ
    เท่าฆราวาสไม่ได้ โทษหนักกว่ากัน



    [​IMG]

    สำหรับบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน ให้ถือศีล ๕ เป็นแก่นสำคัญ แต่บางท่านถือว่า
    รักษาศีล ๘ และ ฉันไม่ต้องการรักษาศีล ๕ อันนี้ลงนรก และก็มีหลายท่านที่สมาทานอุโบสถศีล
    แล้ว แต่เผอิญในกาลนอกเวลา สมมุติว่าเขามาถวายผ้าป่ากฐินสังฆทาน นอกเวลาไป พระ
    ต้องให้ศีล ๕ พอพระว่าไตรสรณคมน์เสร็จ พอจะให้ศีล ๕ วางมือ ไม่แสดงทำความเคารพ
    อันนี้ลงนรกเหมือนกัน เป็นการปรามาสในพระไตรสรณคมน์ คือปรามาสในพระพุทธเจ้า
    การว่าตามเขามันไม่ใช่ของแปลก การสมาทานศีลนี่ก็แค่ศึกษายังไม่ใช่ตัวปฏิบัติ เรามี
    อุโบสถศีล เขาให้ศีล ๕ เราก็ว่าตามได้


    การว่าตาม ให้ว่าด้วยการยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า คือว่าศีลนี่พระพุทธเจ้าว่า ศีล ๕ เราได้
    มาจากพระพุทธเจ้า เป็นพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์
    นำมาให้เรา จิตใจเราครบถ้วนพระไตรสรณคมน์ และเวลาปฏิบัติจริง ๆ เราปฏิบัติในสิกขาบท
    มันไม่เสียหายอะไร
    มีญาติโยมเมืองน่านมาบอกว่า
    เวลาเขารักษาอุโบสถศีล เวลาให้ศีล ๕ เขาเอามือลง
    อันนี้ไปเป็นมานะทิฎฐิถือตัวถือตน เป็นกิเลสที่หยาบหนัก และก็เป็นการปรามาสในพระไตร-
    สรณคมน์ อันนี้เวลาเจริญกรรมฐานไปดูคนพวกนี้นะ ครูนำไปดูคนพวกนี้ว่าในนรกเกลื่อน เข้าใจ
    ว่าตนดี

    การรักษาศีลของบรรดาท่านพุทธบริษัท เขาเลือกทำลายพาลกัน พาลตัวแรกมันจะ
    ไม่ยอมให้เรารักษาศีล เราก็เก็บความเป็นพาลในใจของเราเสีย เข้ามารักษาศีลให้ครบถ้วน
    การรักษาศีลนี่เขารักษากันอย่างนี้คือ
    ๑. ไม่ทำลายศีลด้วยตนเอง
    ๒. ไม่ยุยงส่งเสริมให้บุคคลอื่นทำลายศีล และก็
    ๓. ไม่ยินดีเมื่อคนอื่นทำลายศีลแล้ว


    อันนี้เป็นพุทธพจน์ขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วนะ ในอุทุมพริกสูตร
    การรักษาศีลของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าต้องดูตามกำลัง พระพุทธเจ้า
    ท่านไม่มีการเครียด ท่านปฏิบัติตามความเหมาะสม ถ้าไม่ดีแต่งอย่างนั้นไม่ได้ก็ต้องดู
    นางวิสาขา
    นางวิสาขาท่านมี เครื่องมหาลดาปสาธน์ ราคา ๑๖ โกฏิ เสื้อตัวนี้เป็นทองคำล้วน ส่วนใดที่เป็น
    ด้ายก็ใช้เงินแทนด้าย ประดับเฉพาะแก้วมณี ๒๐ ทะนาน มีแก้วอื่นมากกว่านั้นนะ คือตั้งแต่
    ข้อเท้าจนถึงนกยูงรำแพนบนหัว ราคาขนาดนั้น แต่นางวิสาขาทรงเครื่องนี้ตลอดเวลา พระพุทธเจ้า
    ท่านก็ไม่เคยคิดว่าเลยใช่ไหม จะถือว่าเขาแต่งเกินไปไม่ได้ เพราะเขามีอย่างนั้น และเวลาเรา
    เข้าสังคมก็เหมือนกันปล่อยหน้าเซียว ๆ เข้าไปเดี๋ยวเขาหาว่าผีโขมดเข้ามา เดี๋ยวก็จะยุ่งกัน
    เราก็แต่งตามเขานะ แต่ว่าอยู่บ้านเราก็ไม่ได้สนใจเกินไป เราก็ใช้แป้งทาหน้าบ้าง ทาได้ ทา
    เฉพาะความเหมาะสมอยู่เป็นสุข ใช่ไหม ไม่ไปอวดใครเพื่อกิเลสอันนี้ไม่ถือ ต้องดูแค่พอดี ๆ นะ
    คือเรื่องของพระพุทธเจ้านี่ท่านไม่มีอะไรเครียด มีแต่พอดี




    ที่มา : โอวาทหลวงพ่อเล่ม ๓http://www.sitluangpor.com/ovat/ovat_3/ovat3.html
     
  2. r-nisong

    r-nisong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +394
    พนมนี้ว ต่างธูปเทียน เหนือนเศียรนี้
    น้อมศรีษะ อัญชุลี แทนบัวขาว
    ใต้แสงธรรม ล้ำพิสุทธิ์ ผุดผ่องพราว
    ประนมกร จรดเกล้า ภาวนา
    ขอถวาย กายใจ ไว้เป็นศิษย์
    ยึด พระพุทธ ด้วยจิต ศรัทธากล้า
    ยึด พระธรรม คำสอน ชี้มรรคา
    ปฏิปทา พระสงฆ์ ผู้ส่องทาง
    ขอให้ครู อบรม บ่มนิสัย
    นำศิษย์ให้ รู้คิด ทำจิตว่าง
    ลดกิเลส ภายใน ให้เบาบาง
    ใจสว่าง ทางสงบ พบ นิพพาน...
    กราบเท้า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่เคารพ ด้วยเศียรเกล้า...
     
  3. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    ปรารถนานิพพานครับ...ถึงแม้ว่าไม่ได้นิพพานในชาตินี้...
    ชาติหน้าเกิดมาก็ขอให้ได้เกิดในตระกูลสัมมาฏิฐิเพื่อสร้างบุญบารมีต่อไป...
    สาธุ...สาธุ...สาธุ...อนุโมทามิ
     
  4. ri_thai13

    ri_thai13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ก้าวไปในบุญ

    ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะคะ

    ก้าวไปในบุญ จากหนังสือ ก้าวไปในบุญ จาก พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) คัดลอกบ้างส่วน เกี่ยวกับการ อนุโมทนา

    โยมทำบุญแล้ว พระก็อนุโมทนา แต่ถ้าโยมทำบุญเพราะพระชวน อาจจะเสี่ยงต่ออเนสนา

    เวลาโยมทำบุญเสร็จแล้ว พระก็จะอนุโมทนา ที่ว่าอนุโนทนาก็คือ แสดงความพลอยยินดีด้วยกันโยนที่ได้ทำบุญเพราะโยมทำดีงามถูกต้องแล้ว พระก็ยอมรับหรือแสดงความเห็นชอบ
    ในการอนุโมทนานั้นพระก็จะบอกว่า บุญที่ทำนี้เกิดผลเกิดอานิสงส์อย่างไร ทานมีผลอย่างไร ภาวนามีผลอย่างไร เราเรียกสั้นๆ ว่า "อนุโมทนา"
    แต่อนุโมทนานี้พระจะพูดเมื่อโยมทำแล้ว ว่าที่โยมทำจะเกิดผลอย่างนั้นอย่างนี้มีผลดีทั้งโลกนี้และโลกหน้า ดังที่พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสแสดงอานิสงค์ของบุญไว้ หมายความว่า บุญประเภททาน ก็ดี บุญประเภทศีลก็ดี บุญประเภทภาวนาก็ดี พระองค์ได้แสดงอานิสงค์ไว้

    อานิสงศ์นั้นพระพุทธเจ้าตรัสเน้นประโยนช์ที่มองเห็นก่อนแล้วจึงลงท้ายด้วยผลในภพหน้า ว่าตายแล้วไปสวรรค์ เช่นในเรื่องศิล พระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสก็ได้ตรัสอานิสงส์ของศิล 5 ว่า

    1. คนที่มีศิล อาศัยความไม่ประมาท จะทำให้เกิดโภคะ ได้มาก คนไม่มีศิล อย่างคนที่เต็มไปด้วยอบายมุข ย่อมปล่อยชีวิตตกต่ำ มัวหมกมุ่นวุ่นวายมัวเมาในเรื่องของสิ่งเหลวไหล จึงไม่เอาใจใส่ ไม่ขยันทำมาหากิน เรียกว่าตกอยู่ในความประมาทก็เสื่อมทรัพย์ อับชีวิต
     
  5. soonram

    soonram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2007
    โพสต์:
    719
    ค่าพลัง:
    +1,406
    กราบ..กราบ..กราบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...