ความจริง ความเท็จ ประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

สวัสดีครับทุกๆท่าน.....เห็นกระทู้พระสมเด็จฯเงียบๆ เลยหาประเดนข้อสงสัยมาเขียนมาตั้งเป็นกระทู้ ท่านที่ผ่านไปผ่านมาลองกัดฟันกลั่นใจเข้ามาอ่านดูครับ.... ผมขอเขียนถึงพิธีบวชของสามเณรโต ในตำราหนังสือของเซียนใหญ่ๆเขียนบอกไว้ชัดเจนว่าบวชในฐานะนาคหลวงที่วัดพระแก้ว หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน บวชให้ ข้อมูลนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงครับ เพราะว่าสมเด็จพระญาณสังวร สุก(ไก่เถื่อน) เจ้าอาวาสวัดราชสิทธาราม ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ สมเด็จพระสังฆราช ในปี พ.ศ ๒๓๖๓ แต่สามเณรโตทำพิธีอุปสมบทเป็นพระพิกษุที่วัดตะไกร เมืองพิษณุโลก ในปี พ.ศ ๒๓๕๒ ห่างกันตั้ง ๑๑ปี อย่างนี้ไม่เรียกว่ามั่วโกหกบิดเบือนแล้วจะเรียกว่าอะไรครับ มีรายละเอียดพิธีการวันอุปสมบทสมเณรโตไปหาอ่านได้ใน อัตชีวประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี จากบันทึกท่านมหาอำมาตย์ตรี พระยาทิพโกษา (สอน โลหนันทน์) ในบันทึกนี้ท่านจะพบชื่อของบุคคลที่เชื่อกันนักกันหนาว่าเป็นผู้สร้างผู้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม และสร้างพระพิมพ์เนื้อผง ๘๔๐๐๐องค์บรรจุไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ในปี พ.ศ ๒๔๑๑/๒๔๑๓ คือท่านเสมียนตราด้วง ผมว่าถ้าท่านมีชีวิตอยู่จริงๆตามที่ทุกตำราเขียนบอกไว้ ท่านก็คงมีอายุไม่ต่ำกว่า๑๑๐ปีครับ หรือว่าท่านเสมียนตราด้วงท่านบูรณะวัดสร้างพระพิมพ์ขึ้นเพื่อฉลองอายุที่เกินร้อยปีของท่านหรือเปล่าน่ะ อาจจะเป็นไปได้น่ะครับ(deejai).... และอีกคนหนึ่งคือหลวงวิจารณ์เมืองพิษณุโลกในบันทึกนี้ หน้าที่ของหลวงวิจารณ์เมืองพิษณุโลกคือเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลรับรองต้อนรับจัดหาเครื่องดื่มของกินหมากพลูยาสูบที่พักเรือนรับรอง ให้ทั้งพระทั้งคนที่มาในงานอุปสมบทสามเณรโต..... แล้วหลวงวิจารณ์เจียรนัยที่เซียนใหญ่เขียนไว้ว่าเป็นตำแหน่งของช่างทองหลวงประจำราชสำนัก และเป็นผู้ที่แกะแบบแม่พิมพ์พระมาถวายท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯให้นำเอาไปใช้กดพระพิมพ์ใหญ่วัดระฆังฯที่วงการพระสมเด็จฯ ยึดถือแบบแม่พิมพ์เป็นมาตรฐานสากลมาทุกวันนี้ ตกลงตำแหน่งนี้มีหน้าที่รับผิดชอบทำอะไรกันแน่ครับ ช่างทองหลวงหรือคนดูแลต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองครับ:'(.....ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเหมือนหรือต่างกันกับตำแหน่งนักวิจารณ์อาหาร แฟชั่นเสื้อผ้า ดารานักร้อง กีฬา หนัง เพลง สังคม ละคร และการเมือง แบบที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้หรือเปล่าอ่ะครับ ใครทราบช่วยตอบที (deejai)....... ผิดถูกประการใดต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ(kiss)

 

ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาอ่านครับ

 

มีคนเขียนไว้เยอะ ต่างเกิดไม่ทันทั้งนั้น ข้อมูลอ้างหลายสาย อ่านแล้วก็ฟังไว้น่ะครับ

ส่วนพระ ถ้าเก่าจริง ธรรมชาติต้องได้

 

ขอบคุณครับท่าน พี เสาวภา

 

ประวัติสมเด็จโตพอตกมายุคหลัง ๆ พิสดารขึ้นทุกที ๆ
อ่านแต่ละครั้งไม่เหมือนกันสักที เข้าทำนองว่าพอมีคน
จับจุดบกพร่องได้ก็เขียนแก้ใหม่เป็นรอบ ๆ ไป

 

พ่อมาก กับแม่นาค ยังโกหกหลอกคนทั้งประเทศเลยครับ
อย่าไปถึงประวัติท่านเลย บอก1 เล่าต่อ 10 คน 10 อย่าง
5555 อย่าไปเชื่อเซียนพระเลยครับ เขาวาดทางให้คุณเดิน

ถ้าเดินตามทางเขาคุณจะเป็นหมูอ้วนๆ ให้เค้าเชือดดด
ขำๆๆนะครับ

 

ขอบคุณครับท่านศนิวาร

 

ไม่มีใครรู้จริงซักคนครับ
จินตนาการแต่งเรื่องขึ้นตามภาพวาด
เพราะช่วงเวลานั้น ไม่เคยมีใครคิดเขียนบันทึกประวัติศาสตร์บุคคลสำคัญ

บันทึกที่พอเชื่อได้มีอันเดียวคือ บันทึกน้ำฝน ซึ่งบอกแต่เพียง วันพิลาลัย

 

ถูกต้องครับ ขอบคุณครับท่าน peng2524

 

อ่านไปสองรอบแล้วสำหรับประวัติสมเด็จโต โดยท่านพระยาทิพยโกษา ตามความเห็นผมนั้นผมเชื่ออันของท่านพระยาทิพยโกษาเขียนนะท่าน ดูจากภาษาที่ใช้บอกเล่านั้นเป็นภาษาเก่าจริง แต่บางครั้งก็ไม่กล้ามั่นใจว่าอันไหนแน่คือประวัติของสมเด็จโตท่านจริงๆ ที่รู้ๆถ้าท่านนำพระสมเด็จไม่ว่าจะเป็นวัดระฆัง วัดบางขุนพรหม วัดเกศไชโย แบบที่เหมือนเซียนพระเข้าบอกไว้ก็รับรองว่าท่านได้เงินกลับบ้านแน่นอน แต่ในขณะที่อีกพวกที่เล่นอีกประวัตินึง เมื่อเรานำพระสมเด็จตามที่พวกนี้บอกไปขายเค้า ก็กลับขายไม่ได้ แล้วแบบนี้ท่านจะเล่นพระแบบไหนและจะเชื่อประวัติสมเด็จโตแบบที่ใครเป็นคนเขียนกันล่ะท่าน

 

จะว่าไปผมก้ดูพระสมเด็จดูพระไม่เปนหลอกครับ

สมัยพุทธกาลว่ากันว่า โลกแบนนนเป็น 4เหลี่ยม
สมัยโคลัมบัสท่องเรือเจอแผ่นดินใหม่
สมัยนี้ท่องอวกาศหามนุษย์ต่างดาวว (ถ้าย้อนกลับถามศาสนจักรว่ามีมนุษย์นอกโลกจะโดนตัดคอ เผาไฟนอกรีด)
สมัยผมเดกบั้งไฟพญานาค...วันนี้ภาพลักษณ์ต้องมาก่อน

ส่วนพระสมเด้จนั้นเป็นเพียงกุสโลบาย การตลาดเท่านั้น
คนที่ซื้อพระสมเด็จได้ ต้องเปนคนใจดีบุญวาสนาสูง รวย รวยถึงรวยม๊าก และดูพระไม่เป้นต้องอาศัยตาเซียน
ส่วนเซียนพระก็ชูว่ามีพระแท้ๆราว 200 กว่าองค์เท่านั้น ผมว่ามีหลักแสนๆองค์ครับ

อย่างนึงเราต้องยอมรับว่าเซียนพระ เก่งกว่า นักวิทย์ศาสตร์ และนักประวัติศาสตร์
ตอบกระทู้แบบความเห้นส่วนตัวครับไม่มีไรมากคับ

 

ขอแสดงความคินเห็นนะครับ



เล่นในสิ่งทีถนัดแล้วก็คิดว่าดูแล้วจบด้วยตัวเองแล้วค่อยเป็นค่อยไป


ส่วนสมเด็จนั้น หาเจอก็ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ จะขายให้เซียนถ้าแพงเขาก็เช่ายากไม่แพง เหมือนราคาที่เขาขายหรอกครับ เผลอเอาไปให้เขาดูเขาก็บอกว่าไม่ใชไม่นิยม ทำนองนี้


เอาแค่เรียนรู้ไม่โดนหลอกให้เสียตังง่ายๆก็โอเคแล้วนะครับผมว่า

 

ผมขอขอบคุณทุๆท่านที่กรุณาแวะเข้ามาแสดงความเห็น เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากๆๆครับ ตอนนี้ผมสังขารไม่อำนวยครับ โรคปวดแขนกำเริบตึงไปหมดซีก กราบขออภัยทุกๆท่านด้วยครับ

 

สมเด็จไงก็สมเด็จครับยังเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์และยังเล้นลับเสมอหาข้อยุติยากครับ เอาแค่ชอบครับ ส่วนเรื่องป่วยผมก็ขอให้สิ่งศักศิษช่วยคุ้มครองให้ทุเลานะครับ

 

ถ้าว่ากันด้วยเรื่องพระเครื่อง นักวิทยาศาสตร์กับนักประวัติศาสตร์ ไม่ใช่สายที่ศึกษามาโดยตรงนะครับ นักประวัติศาสตร์ บางคนศึกษาศิลปะในแต่ละยุคก็จริงแต่ไม่ได้ลงไปในรายละเอียดของพระเครื่องนะครับ ส่วนนักวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นในเมืองไทยไม่มีสายตรงเกี่ยวกับพระเครื่องครับ จะมีแค่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ที่รับตรวจวัตถุโบราณด้วย คาร์บอน 14 แต่ต้องบดพระเครื่องนะครับ เท่าที่ดู น่าจะหาคนที่ใจถึงมายืนยันผลการตรวจไม่ได้ รวมถึงประเด็นความแม่นยำของเครื่องตรวจที่มีในไทย เท่าที่ทราบ ทาง สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ก็มีแต่ออกมาเตือนให้ระวัง มิจฉาชีพที่ปลอมผลตรวจพระเครื่องนะครับ ส่วนมิจฉาชีพกลุ่มนี้ไม่รู้จะใช่กลุ่มที่ออกมาบอก เกี่ยวกับพระสมเด็จไร้ที่มา ว่าเป็นพระที่สร้างขึ้นโดย ใคร ตรวจคาร์บอน 14 ได้อายุเท่าไหร่ แล้วนำมาขายให้คนที่ เชื่อในข้อมูลดังกล่าวที่ว่ามา รึเปล่าอันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคลไป

 

ขอบคุณครับท่าน ae noi