ความริษยา (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 31 พฤษภาคม 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]


    ผู้มีความริษยานั้น ทำอะไรรุนแรงได้ร้อยแปด แม้เป็นความไม่จริงก็พูดได้ ใส่ร้ายได้ มุ่งเพียงเพื่อความฉิบหายของผู้ถูกริษยาเท่านั้น

    อำนาจความมุ่งร้ายต่อผู้ที่ถูกริษยารุนแรงนักหนา
    คิดพูดทำอะไรได้ทุกอย่าง
    มุ่งพียงเพื่อทำลายชื่อเสียงเกียรติยศของผู้ถูกริษยา
    ผู้ถูกถือว่าเป็นศัตรูร้าย
    น่าจะลืมสนิทถึงบาปกรรมที่ตนกำลังทำว่า
    กำลังนำชีวิตไปนรกเพราะบาปกรรมนั้น


    บาปกรรมที่เจ้าตัวผู้กระทำรู้ดีว่า เป็นบาปกรรมที่ตนทำขึ้นจริง ๆ ผู้ตกเป็นเหยื่อไม่มีส่วนทำชั่วดังถูกยกขึ้นอ้างถึงเลย

    ควรสงสารบรรดาผู้ที่ไม่ได้มีความริษยาด้วยแม้แต่น้อยและก็มีจิตใจห่วงบ้าน เมืองมากเกินไป ไม่อยากให้คนเลวเชิดหน้าชูตาอยู่ในบ้านเมืองอย่างคนดี อย่างที่ทำให้ใคร ๆ หลงเข้าใจว่าเป็นคนดี

    ผู้ห่วงบ้านห่วงเมือง ห่วงผู้คนในบ้านในเมืองไทยว่าจะมีคนชั่วอยู่ร่วมสังคมคนดี จึงตัดสินใจทำหน้าที่ช่วยสถาบัน ด้วยการคิดพูดเต็มความสามารถเพื่อให้ความไม่ดีของผู้นั้นปรากฏประจักษ์แก่คน ทั่วไป

    โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ความจริง คือไม่ได้รู้ว่าผู้ตกเป็นเหยื่อความริษยานั้นตีหน้าหลอกหลวงว่า เป็นคนดีทั้งที่เป็นคนไม่ดีสารพัดจริงหรือไม่ หรือว่าเพียงถูกกล่าวหา

    อย่างไรก็ตาม ความรักความห่วงใยสถาบันก็ทำให้ตัดสินใจให้ความปกป้องคุ้งครองเต็มที่ ประกาศให้รู้กันว่า คนไม่ดีกำลังเข้ามามีบทบาททำลายบ้านเมืองไทยที่รัก ให้ทำลายเขาเสียก่อน

    แผนการทำลายเพื่อรักษาสถาบันที่รักของไทยจึงเริ่มกระทำกันอย่างจริงจัง กระเทือนไปทั่ว ผู้เป็นเหยื่อความริษยาที่ก็ยืนยันกับตัวเองและกับผู้ที่เชื่อในความดีของ ผู้ตกเป็นเหยื่อริษยาว่า คนเหล่านั้นกำลังทำบาปที่ร้ายแรงนักหนาจะพาความวุ่นวายเดือดร้อนรุนแรงมาสู่ ประเทศชาติ

    การทำลายคนดีมีหรือจะไม่บาป
    แม้จะรู้สึกว่าทำเพื่อชาติก็ตาม
    แต่เมื่อผู้ต้องรับเคราะห์กรรมอย่างน่าเศร้าเสียใจที่สุดเป็นคนดี
    การทำร้ายคนดีให้เดือดร้อนนักหนา
    จะคิดอย่างไร จะอ้างอย่างไร
    ก็ไม่พ้นต้องรับบาปอันเกิดแต่กรรมของตนแน่
    เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วเพียงไรเท่านั้น


    ที่มา::
     
  2. willma.

    willma. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +62
    นั่นสินะ อิจฉาไปก็เท่านั้น..
    อิจฉาไปก็มีแต่ตัวของเราเองที่ทุกข์ใจ..
    เฮ้อ อ อออ.. ชีวิตหนอ ออ

    อนุโมทนาค่าา ^^
     
  3. ปรินิพาน

    ปรินิพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +176
    อนุโมทนาสาธุค่ะ อย่าซื้อใจคนด้วยการกระทำนั้น

    ผลสุดท้ายชีวิตมันก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น
     
  4. hi5

    hi5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +701
    ความริษยา และความโลภ ของบางคน
    คือสาเหตุของความวุ่นวายหายนะของบ้านเมืองในขณะนี้
     
  5. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321
    Anumothana Sathu
     
  6. Phra Atipan

    Phra Atipan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,301
    ปัจจุบันปัญหาทางสังคมไทยถ้ามองแบบครึ่งๆกลางๆ คนไทยบางส่วนตกเป็นเครื่องมือของ คนอิจฉาริษยา ความที่ไม่รู้ บริโภคข่าวสารที่ผิดโดยขาดการวิเคราะไตรตรองให้ละเอียด ทุกวันนี้ปัญหาบ้านเมืองมันเลยบานปลายที่ แก้ไม่ตกครับ เพราะไม่ยอมแก้ที่ต้นเหตุ ดันไปแก้ที่ปลายเหตุ
     
  7. piaprakhueng

    piaprakhueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,022
    ค่าพลัง:
    +2,500
    โมทนา สาธุ สาธุ อยากให้ สื่อมวลชนไทย ลดการ อิจฉาริษยา

    ลงซัก 50% ประเทศไทย จะ สงบกว่านี้เยอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...