คำพยากรณ์อภิมหาภัยพิบัติหลังกึ่งพุทธกาล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Rama bodhisattva, 14 ตุลาคม 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    ถ้าสนใจลองเปิดอ่านดูนะครับ เพื่อจะได้เป็นการเตรียมตัวและเตรียมการสำหรับในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้าอันใกล้ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร นั่นเป็นสิ่งที่บุคคลจะรับข้อมูล เป็นสิทธิส่วนบุคคลในการรับข่าวสารข้อมูล ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับบุคคลที่สนใจนะครับ ไม่มากก็น้อย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    เห็นโพสท์กระหน่ำเลย แต่เรื่องลุงเชียงใหม่เนี่ยมันเป็นเรื่องหลอกลวงที่มาจากในบอร์ดนี้ คือมันมีคนนึงสมัครซะหลายล็อกอินแล้วก็ปลอมตัวเข้ามา เป็นลุงซะนานเลย ไปๆมาๆปลอมมาเป็นหลานบอกว่าลุงทิ้งบันทึกให้ ทิ้งช่วงไประยะหนึ่งก็ปลอมตัวเข้ามาใหม่ แล้วก็เข้ามาเป็นระยะๆ มันมีเป็นสิบล็อกอินได้มั้ง

    จนมีวันนึงมีคนจับโกหกได้ว่าไอ้นี่แหละลุงเชียงใหม่ มันเลยเข้ามาลบโพสท์ลุงเชียงใหม่ที่มีเนื้อเรื่องที่คุณเอามานี่แหละเกลี้ยงเลย แล้วก็ลบโพสท์ของตัวเองในอีกชื่อหนึ่งด้วย

    ทีนี้ดันมีคนหน้ามืดตามัวอยากอ่านเรื่องโกหกต่อเลยไปอ้อนวอนแอดมินให้ขุดขึ้นมาใหม่ มันก็เลยยังมีอยู่ในบอร์ดนี้แหละ ชื่อกระทู้บันทึกของพระคุณลุงอะไรซักอย่าง
     
  3. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    หลักฐานน่ะมีอยู่แล้ว เข้าใจเรื่องหลักฐานเชิงสภาพแวดล้อมมั้ย จะท้าวความให้ฟังเท่าที่จำได้นะ
    มันมีล็อกอินสมมุติชื่อต.เต่า ก็มาเขียนเรื่องโลกแตกนี่แหละ แนะนำให้คนไปขุด ไปสร้างอะไรที่ตอนเหนือ ต้องเสียเงินสะสมอาหารโน่นนี่นั่น แต่ทีนี้มันเขียนมากไป โพสท์มาเป็นปี เขียนไปเขียนมา มันมีสำนวนบางอย่างที่มันไปเหมือนลุงเชียงใหม่ มันเป็นลักษณะเฉพาะน่ะ จะเปลี่ยนมากี่ล็อกอินมันก็ยังมีเผลอไปใช้สำนวนเดิมๆ

    เราก็เลยส่งข้อความไปบอกว่า เรารู้นะว่าคุณคือลุงเชียงใหม่ ถ้าไม่อยากมีปัญหาเชิญลบกระทู้ซะ(มีอำๆไปบ้างนิดๆหน่อยๆ) ทีนี้มันหลอกคนมานานไง ในกระทู้คนก็หลงเชื่อกันเยอะ มีไปสร้างที่หลบภัยอะไรกัน เสียเงินเยอะแยะ นี่ถ้าเค้าเอาเรื่องขึ้นมาแย่เลย

    ส่งข้อความไปแป๊บเดียว นายต.รีบล็อกอินเข้ามาในชื่อลุงเชียงใหม่เลย(ล็อกอินลุงเชียงใหม่นี่มันหายไปหลายปีแล้ว) แล้วก็ลบกระทู้ลุงเชียงใหม่ทิ้ง(แต่มันดันมีคนอยากอ่านเรื่องโกหกต่อ ไปขอแอดมินให้เอากลับมา) แล้วก็ไปลบที่อยู่ รูปรถมอเตอร์ไซค์อะไรๆที่เกี่ยวกับตัวเองในล็อกอินต.เต่าทิ้ง แล้วก็หายวับไปเลยนับแต่บัดนั้น

    แต่มันยังไม่วายโกหกนะ เจี๋ยมเจี้ยมส่งข้อความมาหาข้าพเจ้าว่า มันได้ล็อกอินหลานลุงเชียงใหม่พร้อมกับล็อกอินลุงเชียงใหม่มาเพราะไปเป็นสมาชิกอะไรนี่แหละ ข้าพเจ้าเลยบอกมันไปว่าไปไกลๆเลย ใครเชื่อก็บ้าแล้ว หลังจากนั้นยังไม่เห็นล็อกอินขาประจำนั้นอีกเลย555

    ข้างบนคือหลักฐานเชิงแวดล้อมนะ ส่วนที่เป็นหลักฐานที่จับต้องได้ก็ยังมีข้อความที่โต้ตอบกับไอ้นายต.เต่า ยังเก็บไว้อยู่เลย เป็นข้อความที่นายนี่ยอมรับว่าตัวเองใช้ล็อกอินของหลานลุงแล้วก็ลุงเชียงใหม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2017
  4. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    จริงๆจับผิดกระทู้บันทึกลุงนี่ไม่ยากหรอก ตอนนั้นเคยบอกไว้ด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นมันมีคนไปซื้ออะไรเยอะแยะ หมดเงินไปหลายเลย ก็เลยไม่ฟังกัน

    เหมือนที่เอามาลงในกระทู้นี้เรื่องบันทึก คือคุณสามารถเอามาลงได้ทีเดียวทั้งเรื่องเลยใช่มั้ย คือในนิยายลุงเชียงเนี่ย ลุงแกใช้คอมเป็น ไปอ่านดูก็ได้ แกยังโปรโมทเว็บนี้เลยว่าแกทิ้ง user nameกับpasswordไว้ ดังนั้นบันทึกมันก็ต้องเป็นไฟล์นึง พอเอามาโพสท์มันก็ต้องโพสท์ได้ทีเดียวทั้งเรื่องเลย แต่ในกระทู้บันทึกเนี่ย หลานลุงมโนแกเล่นบันทึกทีละตอน สองตอน บางโพสท์ก็ไม่กี่บรรทัด ทีนี้บอร์ดเวลาโพสท์มันจะมีวันเวลาบอกไว้ กว่าแกจะโพสท์เสร็จทั้งหมดปาไปเป็นวันๆเลย คือโพสท์ไปแล้วก็คิดเนื้อเรื่องไป

    คนเราพอเห็นว่าเป็นบันทึกของพระคุณลุง มันก็เลยมโนไปว่าต้องเป็นบันทึกเล่มๆเก่าๆเขียนไว้ให้หลาน ความจริงก็คือล็อกอินมโนลุงเชียง เป็นขาประจำบอร์ดนี้อยู่แล้ว หาอ่านได้ในหน้าท้ายๆของห้องนี้ ลุงแกอยู่ในยุคปัจจุบันของเรา มีมือถือ มีเน็ตเล่น ความจริงไม่ต้องบันทึกก็ได้ ใช้โทรหากันสะดวกกว่า

    นี่ย้อนอดีตยังขำไม่หาย คือไม่รู้มีอะไรเข้าสิง ในกระทู้มีคนไปสร้างอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะเลย ที่ฮาๆก็มีโปรเจ็คสร้างเรือดำน้ำ มีการพูดว่ากลุ่มเราจะเป็นผู้สืบสานโลกต่อไป แล้วก็มีให้ตุนยาละลายเสมหะไว้กินตอนโลกแตกเพราะป้องกันอะไรซักอย่างได้ มีตุนน้ำมัน200แกลลอนไว้ในบ้านด้วย นี่ถ้าเราเป็นเพื่อนบ้านนี่หนาวเลย 555
     
  5. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    โต้ตอบกับคนอย่างคุณมาเยอะแล้วจริงๆ แล้วคนเหล่านั้นก็หายไปหมดเพราะหมดเงิน ถามจริงคุณได้อ่านจนตลอดมั้ยที่เอามาลง ผมอ่านมามากกว่าสิบรอบ ถ้าคุณจะเตรียมแบบในนิยาย คุณต้องไปอยู่ภาคเหนือ ต้องไปอยู่ตู้คอนเทนเนอร์ ตัดขาดโลกภายนอก ไปเป็นคนป่า อันนี้หรือเตรียมตัวที่ดี รู้มั้ยมันมีคนเชื่อจริงๆและไปอยู่แบบนั้นจริงๆ ผลสุดท้ายหืดกำเริบเกือบตาย

    แล้วก็แสดงว่าไม่ได้อ่านที่โพสท์ไว้ตลอด หลักฐานแวดล้อมแบบนั้น จนไอ้ต้นเรื่องหายหัวไปแล้วครับ

    แล้วตรรกะคุณก็แปลกๆ พิสูจน์เรื่องในนิยายไม่ได้แสดงว่าไม่มีหลักฐานว่าจริงไม่จริง อย่างนี้เรื่องโดเรมอนมันก็อาจเป็นเรื่องจริงได้ดิ เพราะไม่มีหลักฐาน

    ล็อกอินหลายอันที่ปลอมมา มันก็ไม่ได้ทรัพย์อะไรนะ แต่หลายปีที่ผ่านมา มันก็มาเกือบทุกปีแหละ เปลี่ยนชื่อมาโพสท์หวังกระแสหรือมันโรคจิตก็ไม่รู้ได้ เรื่องก็เดิมๆ แล้วก็จะโพสท์รัวๆช่วงปลายปี ประมาณตุลา พฤศจิกา ธันวา พอต้นปีก็หายไป หรือบางปีเราพอมีเวลาไปไล่บี้ มันก็หายไป แล้วก็ไปสมัครล็อกอินใหม่มาอีก จริงๆแอดมินรู้นะ ล็อกอินเปลี่ยนแต่ไอพีมันเหมือนเดิม
     
  6. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    หึ หึ อ่านดูดีๆคุณ อีก2ไฟล์เราไปแตะหรือเปล่า ใครเอาบันทึกลุงเชียงมโน ถ้ามีเวลาเราเข้าไปทั้งนั้นแหละ 55

    นี่แสดงว่าไม่ได้อ่านบันทึกลุงเชียงให้มันตลอดเลยเนอะ อุตส่าห์เอามาลงก็ต้องอ่านให้ครบสิ ลุงมโนแกบอกหลานให้ซื้อตู้คอนเทนเนอร์ ให้ตุนอาหารเตรียมไว้ ซื้อชุดป้องกันไข้หวัดนก แล้วไปอยู่หมู่บ้านพุทธบุตรซึ่งเป็นหมู่บ้านลึกลับ ตัดขาดโลกภายนอก ก็เหมือนไปอยู่ป่านั่นแหละ คือคุณอ่านให้ละเอียดก่อนนะ ใจเย็นๆ จะเอามาลงก็อ่านเองก่อนก็ดี

    แล้วคุณเอาแต่อ่านบันทึกโพสท์เดียว เราอุตส่าห์ท้าวความให้เห็นภาพรวมๆที่มาที่ไป จะแนะนำให้นะ คุณไปหาชื่อลุงเชียงใหม่แล้วก็ชื่อวิกรม อ่านให้ละเอียดทุกโพสท์ อยู่ในเว็บบอร์ดนี้แหละ คุณจะได้รู้ว่ามันมีอีกหลายโพสท์ทั้งแผนที่ต่างๆว่าควรจะอพยพไปอยู่ที่ไหน มีโพสท์หลานกับลุงส่งกระแสจิตโต้ตอบกันในยุคที่โทรถึงกันได้ ตอนแรกเป็นล็อกอินลุง แล้วก็กลายมาเป็นหลาน ท้ายสุดเป็นนาย ต. สร้างบทบาทตัวละคร จนโดนจับได้ถึงมาลบทิ้ง

    ก็ตัวละครลุงเชียงใหม่มันเป็นตัวละครตัวนึงในหลายๆล็อกอินที่สร้างมา แล้วบันทึกที่เขียนในล็อกอินลุงเชียงใหม่มันจะเป็นจริงได้ยังไง คือมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย
     
  7. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    พระกรรมฐานแห่งเมืองสุพรรณ
    คำทำนายที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญผู้เป็นศิษย์ ไว้ และหลวงพ่อสนองได้พูดอีกครั้งในสถานีโทรทัศน์พุทธภูมิ999 ของวัดสังฆทาน
    และได้นำมาลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สังฆทานนิวส์ เป็นหนังสือพิมพ์ที่ทางวัดจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ธรรมะต่างๆ แจกฟรีเป็นธรรมทานทุกเดือน

    ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับคำทำนายเรื่องภัยพิบัติที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ไว้ มีดังนี้

    หนังสือพิมพ์วัดสังฆทานนิวส์
    ฉบับที่ 87 ประจำวันที่ 1-31 ธ.ค. 2553
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ" (หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ)
    ....อาตมาไม่เคยคิดจะอยู่ที่เจริญ มาอยู่สังฆทานกะว่าอายุ 45 ปีจะเข้าป่า วางแผนไว้อย่างดี เดี๋ยวทำเสร็จยังกับตัวเองเนรมิตได้ อายุ 45 ปี ยังไม่มีอะไร ทำมา 45 ปี วัดเจริญฉันไปแล้ว มันไปไม่ได้เราคนหมู่มาก ต้องสงเคราะห์ญาติ ไปก็ต้องเอากันไปให้หมด ภัยมาเราไม่ปกป้องคนเขาลงเราต้องปกป้อง หลวงปู่สังวาลย์ท่านพยากรณ์ไว้ ที่จริงอาตมาไม่อยากออกทีวีหรอกเพราะเดี๋ยวคนจะตื่นตัว แต่ก็ดีแล้วพวกที่คนทั้งหลายมันหลงมันจะได้เบาลง แต่ว่าบางทีอาจจะด่าเราก็ได้ ว่าหลวงพ่อเพ้อเจ้อ.. หลวงปู่สังวาลย์พูดให้ฟัง บอก...สนอง...ไม่ช้าพวกเราก็ตายแล้ว แต่โลกนี้จะเดือดร้อน แต่ถ้าเราอยู่ถึงก็จะเห็นภัย 3 อย่าง น้ำจะท่วมภาคใต้ ฝั่งตะวันตกตายกันเยอะ ครั้งที่1 แล้วก็ตายไม่เท่าน้ำท่วมกรุงเทพ กรุงเทพนี่ น้ำท่วมมาก ท่วมตึก 4 ชั้นเลย สนอง...เตรียมน้ำมันรถไว้ให้ดีนะ เตรียมรถให้ดี อย่าใช้ รถเก่านะ ถ้ามันท่วมกรุงเทพเนี่ย ฝนจะตก 7 วัน 7คืน ฟ้าจะมืดหมด ไม่มีแสงอาทิตย์ แสงตะวัน แล้วไฟดับหมด เงินไม่มีค่า เงินไม่มีความหมาย เอาข้าวตากไว้ดีกว่า ตอน 7วัน 7คืน.. อาตมาอดได้ไม่ตายหรอก แต่คนอื่นจะตายหรือเปล่า เพราะอาตมาเคยอดมาตั้ง19วัน 15วันอดได้ มีน้ำอยู่ได้เพราะผ่านวิกฤตินี้มาแล้ว แต่พวกคนไม่เคยอดกิน 3มื้อนี่วันจะตายหรือเปล่า จะท่วมกรุงเทพคนจะตายกันเยอะ ท่านบอกเราที่วัดอีกครั้งหนึ่ง เวลาฝนตก 7วัน 7คืน ถ้าน้ำท่วมมาถึงชลบุรีโกยเลยนะ ไปโน้นเลย สระบุรีไปเขาใหญ่เลยจะไม่ตาย...
    เราจะโกยไปทำไมคนเดียวล่ะ คลื่นยักษ์มาถึงชลบุรีท่วมภูเขามาเลย ท่วมไปถึงวัดทุ่งน่ะ วัดทุ่งนี่เรานั่งพื้นน้ำเปียกหัวเรือเลยนะ น้ำไปสุดนครสวรรค์...เราบวชมานานเชื่อเราสิ


    แล้วก็จะเกิดสงครามพระ สงครามพระจะไปลุกทุกหย่อมหญ้าเลย สงครามพระจะเกิด เชื่อเราไหม ก็ยังไม่เห็น เชื่อก็ไม่ได้จะไม่เชื่อก็ไม่ได้ นั่งเฉยก่อน เรากรรมฐานมานาน ท่านบอกว่ามันเป็นกรรมของคนไทย ไปดูสิเดี๋ยวเราตาย วัดทุ่งก็เหมือนกับวัดหลวงพ่อสำเภาที่ลพบุรีน่ะ เมื่อตอนหลวงพ่อเภาอยู่นี่เจริญมาก คนกรุงเทพขึ้นอุดมสมบูรณ์มาก ทุกวันนี้วัดเงียบเลย อยู่ที่ลพบุรี เราอยากจะพาพวกลูกศิษย์ไปดู ตอนที่หลวงปู่สังวาลย์อยู่อุดมสมบูรณ์ เราอยากจะพาไปดู มันจะได้รู้ว่า สิ้นเราแล้วเนี่ยสุนัขก็อดข้าว...ท่านพูดไว้นะ (อ่านต่อฉบับที่ 88...)


    ต่อฉบับที่ 88 ประจำวันที่ 1-31 ม.ค. 2554
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ"
    หลวงปู่สังวาลย์พูดเรื่องอนาคตให้ฟังต่อไปว่าให้เตรียมตัวไว้นะ เราก็ถามว่า หลวงพ่อแก้ไม่ได้เลยเหรอ พอไม่นานน้ำก็ท่วม ท่วมภาคใต้ เกิดสึนามิ ตอนนั้นอาตมากลับมาจากต่างประเทศมีเงินแค่ 4,000 บาท บอกให้บัญชีดูเงินว่ามีเงินพอไหม ไม่ใช่เงินในธนาคารนะ เงินอยู่ในตู้บริจาคน่ะ มีแค่ 4,000 บาท เอา 4,000 บาทไปซื้อของเลย เอารถบัสไปเลยซื้อของ แล้วซื้อแก๊สไปช่วยภาคใต้ คลื่นสึนามิ บ้านช่องหายหมดแล้วคนก็ไม่มีบ้าน บ้านก็ไม่มีคน บอกกันว่าอยู่ที่วัด บ้านน้ำเค็ม เราก็ส่งของไปอีก ก็หาเอาเงินซื้อพอไปถึงที่ ก็จริงอย่างหลวงปู่ว่า คนจะตายกันเยอะ เคยเล่าไปแล้ว ไม่เล่าต่อแล้ว นี่คือคำพยากรณ์ของครูบาอาจารย์

    เหลืออีกสองอย่างที่ยังไม่จริง ยังไม่ถึง ศึกพระ กับน้ำท่วมกรุงเทพ คนจะตายกันเยอะตายมากกว่าคราวนี้ท่านไม่บอกปีนะ ท่านเตือนบอกให้ระวังตัว เตือนเราว่าให้ดูฝนตก 7วัน 7คืน ฟ้ามืด ไฟจะดับหมด สงสัยจะมีพายุอย่างแรง ไฟฟ้าสงสัยจะดับหมด แต่อาตมาจะมีวิธีไป เดี๋ยวจะพาไป ไม่ตื่นตูม เป็นคนไม่ตื่นตูม เชื่อก็เชื่อแต่ไม่ตกใจ จะไปอย่างสวยๆ ถ้าจะตายก็ตายอย่างเตรียมตัวตายก่อน ตายยิ้มตาย อาตมาจะไม่ร้องไห้
    เพราะฉะนั้นคนเรานะมันต้องตาย วิบัติมันเกิดขึ้น เราไม่อยากให้เกิดวิบัติ วิบัติอย่างนี้เราไม่อยากได้ แต่ว่าป้องกันไม่ได้................

    ***********************************************
     
  8. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    วันฟ้าดับ คำทำนาย มหาภัยพิบัติ วันสิ้นโลก
    MThai News : กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากมีผู้นำบทความเรื่อง วันฟ้าดับ โพสในเว็บไซต์ดัง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆ และมีการส่งต่อกันจำนวนมาก

    โดยบันทึกดังกล่าวมีชื่อว่า บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ ซึ่งได้บอกถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นใน วันฟ้าดับ และภาพคนล้มตายมากมาย ซึ่งบทความดังกล่าวได้เขียนไว้ดังนี้

    ………………………………………………………………………………………………….

    บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลาน ๆ เรื่องภัยพิบัติ

    เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของพระคุณลุงออกนำมาเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไป กว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญาณ ของพระคุณลุง โดยที่ผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดในใจผมซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึก ที่เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปผมสิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจผมแล้ว

    ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ
    1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง


    1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

    วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญาณทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขาว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆ ไว้ หลังจากบันทึกนี้ลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่มีการเตรียมการกันนั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ให้หลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและ คณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญาณนั้น กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้นถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้า จิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆเพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคน สัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หมั่นเจริญมรณะสติ เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญาณทัศนะของลุง เพื่อให้หลาน จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างตามเหตุและปัจจัย แต่ เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนซึ่งวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง


    เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่า วันฟ้าดับ ก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิฐาน ไปยังวันก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่) ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้ชัดเจนทั้งขนาด และความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่พลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ


    ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่าง ๆ จะตื่นกลัววิ่งหนีแบบ ไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม่แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ ๆ กับมนุษย์ ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ ๆ กัน

    ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและ ที่ ๆ มีการเตรียมการอพยพขอให้หลาน ๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่ หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บน รถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบ ลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือ ๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคนอยู่ในที่ห้องแข็งแรงของเรา หรือคนที่ อยู่นอกพื้นที่ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ไหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหูนอนกลิ้งเกลือก ไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคน ที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหูให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้

    หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรงและสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะ ขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามนั้นนิมิตลุงอาจจะมี เพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียงเพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา ที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิงกลับไป ในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิง ออกมาอีก หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่ม ๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูมฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้

    ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอบฟ้าแดงจ้า จนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่ง จากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลุงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำ ๆ เหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือ ของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้ ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่น แม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าอเนจอนาถมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื้ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปะสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแบบที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ด้วย

    ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให้เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์ ภาพที่เกิดมาลุงรู้สึกเศร้า ใจกับญาณทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนา สาหัสกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห็นการคร่ำครวญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเตรียมมรณะสติไว้เลย ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้นรูปฌานและอรูปฌาน 4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องอเนจอนาถซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพ คนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะ ๆ มากบ้างน้อยบ้างภาพเพดาน สิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง

    แต่วิกรมมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังคนที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยักษ์ ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กลาดเกลื่อน เต็มไปหมด แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิฐานไปยังหลังจากนี้แล้วกลับอเนจอนาถ ยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งหมดในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่อง กับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญาณทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา

    ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลาน ๆ ด้วย

    …………………………………………………………………




    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

    วิกรมที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามาก และที่มอบให้หลานเพราะ หลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิตรวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ในระดับที่ จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดีแต่ ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป บันทึกในส่วนนี้ลุงขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุง จะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมาก ที่ลุงต้องรีบบันทึกเพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยังหลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน

    วิกรม ในส่วนของพื้นที่ ๆ ได้มีการจัดเตรียมไว้นั้นที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ใกล้ลงมานั้นและรับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มนั้นลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลาน ๆ จะร่วมกันพิจารณา บันทึกในส่วนก่อนลุงเล่าถึงเรื่อง มีก้อนน้ำแข็งที่ตกมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องแข็งแรงนั้นขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริม เหล็กกันกระแทกด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้เป็นห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็นหลัง จากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้นถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็น ตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

    เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมาเพราะว่า ภาพที่ลุงเห็นถัดไปก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ้กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภูมิพล และหลาย ๆ เขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลายแต่ ขอบ ๆ เขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดิน มีรอยร้าว และมีน้ำกัดเจาะเข้าไป จนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้านจน สุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพน้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น

    ที่เชียงใหม่บ้านเราได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าทีอื่น ๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัด-แม่กวง แตกพังทลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อนจะกวาด บ้านเรือนที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาล ที่ติดแม่น้ำปิงเห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูก ๆ และแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อยก็ เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมากเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่า เขื่อนแม่กวง

    ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทลายจากก่อนหน้านั้นผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกันเพราะเขื่อนบ้านเราอยู่ใกล้เขื่อนน้ำเดินทางเพียง สองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแลคงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาด ไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถว สันทราย เมือง สันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน ลุงจะเตือน ป้าแดงของหลาน และญาติของเราแล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา แต่การสูญเสียบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบไม่ได้ ลุงเห็นภาพ เจดีย์วัดอรุณ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึงกรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน ลุงย้ำตอนนี้ขอให้เลือกพื้นที่ อย่างไรก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใคร ที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหว แล้วสายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ ๆ ปลอดภัยก่อนเพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

    อดคิดถึงเชียงรายพะเยาไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่จีนสร้างไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ แตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็หมายถึงมีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่ หลานอย่าแปลกใจเลย ที่จุดปลอดภัยของ เชียงรายอยู่ที่ดอยตุง มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะว่า ในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้นใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใด ๆ คงไม่ใช่ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยง ๆ ๆ พอ ๆ กับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อน น้ำแข็งจะร่วงมาจากฟ้า เพราะฉะนั้นเวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมาอย่าออกจากห้องเพราะ มันจะเป็นแสงฟ้าแลบ และจะตามด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลาน ๆ อย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสงเพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่ บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงให้เตรียมไว้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิด ให้อยู่ในห้องแข็งแรง นั้นอีก 3 วันหรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมดที่เตรียมไว้ 4 วัน จึงออกมาจากห้องแข็งแรงได้

    ในช่วงที่อยู่ในห้องแข็งแรง ขอให้หลาน นำน้อง ๆ และลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินเพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊ก กับหนูบ๊วย สวดด้วยอย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้ วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้อง ทานอาหารแห้ง ๆ อย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน

    ย้ำเรื่องการออกจากห้องแข็งแรง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็ก ๆ โดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมี เชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้ว ตรงกันก็คือวันฟ้าดับนั้นประมาณ 3 วัน ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลาเพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ

    ในส่วนที่อื่น ๆ หลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกร่างจนชำนาญนั้นก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่น ๆ ได้

    วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ไหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุงที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว

    …………………………………………………………………




    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ

    วันนี้วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้

    วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณหภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหาร เพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่า สองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลและคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้

    ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อในระหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กาง อีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้อง ๆ หลาน ๆ ไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบาย ๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็ก ๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป้ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อย ๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ

    เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็ก ๆ ได้ ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญาณให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้จะได้ประมาณสถานการณ์ได้

    ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไปถนนคนเดินกรุงเทพไม่เหลือ สภาพให้จำได้ ลุงกำหนดจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่อเนจอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากเท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจระเข้ ที่ภูเขาทอง ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่

    ลุงเห็นภาพซากเขื่อนที่จังหวัดตาก แตกกวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหารบางคนใส่สูทอยู่เลยแต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่น ๆ มีการฆ่ากัน ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด

    ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาว ๆ อายุประมาณ 40-50 ปี อีกองค์ อ้วน ๆ คล้ำ ๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ย ๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ไหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่าลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ย ๆ และมีวัดบนภูเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์ หรือลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญาณทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ ๆ กายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญาณทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้

    หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ได้ ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้าย ๆ กันถึงความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วยลุงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคนที่เกิดมาร่วมกัน

    ผู้โพสต์บันทึกพระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลาน ๆ ก่อนออกบวช
    วิกรม หลานพระคุณลุง

    …………………………………………………………………





    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

    บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลานก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อ ติดตามพระอาจารย์โสณะซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวช ตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากอยู่แล้วเพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลาย ปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูก ๆ หลาน ๆ และช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสา จนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้

    บันทึกนี้ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้วต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่าพระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้วและมีเวลาศึกษาอะไรนาน ๆ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลาย ๆ ภาษา และถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต ลุงได้ถามว่าพระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดียในสมัย พระเจ้าอโศกเพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้ม ๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องละ ลุงเลยบอกว่าเพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เลี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และที่ลุงมั่นใจเพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระ อาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด

    วิกรม สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้เป็นการบันทึกที่ผ่านญาณทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ ๆ กายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้น ๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำให้การผูกจิตข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร

    สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลานก็คือ ต่อไปประเทศไทยหลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่าในญาณที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือขึ้นผิดทาง ที่เราเคยเห็นมาโลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว

    ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่าง ๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสานยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเล สูงเท่าตึก 5 ชั้น 7 ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดินตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้วก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลากินเป็นอาหารอีกมากมาย ภาคใต้คนจะเหลือน้อย จริง ๆ ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเราก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และกว่าน้ำจะลดลง จำนวนตายมากจนคนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญาณที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญาณเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง

    คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำ กลับกินไม่ได้เลยกลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้ายคนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไป

    ทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาศจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าอธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ ก็คงจะลำบากหน้าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิตน่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ด เพาะเห็ด ที่ให้พะดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้ นานพอสมควร ที่หลาน ๆ จะได้ปรับตัวกันได้

    หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์กับหลานไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้ อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่น ๆ ขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลุงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวจสอบและสับเปลี่ยนยา อาการหลอดในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย

    ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้อง ๆ หลาน ๆ ฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ ให้ ลุงเขียน Username และ Pass ไว้ที่หน้าจอแล้วถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเว็บพลังจิตก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความพร้อม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลาน ๆ ด้วย สิ่งใด ๆ ที่ลุงได้ล่วงเกินหลาน ๆ และทุกคน โปรดเมตตาอหสิกรรมลุงด้วยลุงหมอของหลาน ๆ ทุกคน

    วิกรมหลาน พระคุณลุงคนเชียงใหม่ โพสต์
    ข้อความในบันทึกใด ๆ ที่มาจากบันทึกนี้ก่อให้เกิดอกุศลกรรมกับผู้ไดโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้กระผมด้วยครับ
    วิกรม

    ขอบคุณข้อมูลจากบอร์ดพลังจิต

    Mthai News
     
  9. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    ปี 2030! ดวงตะวันจะหลับใหล เกิดยุคใหม่โลกแห่งน้ำแข็ง
    เสียงเตือนจริงจังของนักวิทย์ สิบปีจากนี้ดวงตะวันจะหลับใหลสู่นิทรา เกิดยุคใหม่ที่หนาวเหน็บ “ยุคน้ำแข็ง”
    ลองนึกภาพว่าตัวเรายืนอยู่บนธารน้ำแข็งใหญ่ยักษ์ โดยที่อากาศรอบๆตัวเรามีอุณหภูมิที่ติดลบ (แข็งแน่ๆ งานนี้) ทั้งๆที่เรานั้น…ยืนอยู่ในแทบพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย จากที่เราเคยชินในสภาพอากาศที่ร้อนจัดแต่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่หนาวจัดมันจะเป็นอย่างไร? มันก็คงไม่ต่างอะไรจากที่หมีขั้วโลกจะเริ่มตอนกินปลาโลมาเป็นอาหาร เพราะตอนนี้โลกของเรากำลังเปลี่ยนเข้าสู่ช่วง “The Maunder Minimum” หรือ “ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก” หรือเรียกอีกอย่างว่า “Mini Ice Age”

    ยุคน้ำแข็ง อุณหภูมิของโลกจะลดลงต่ำสุดเป็น -150 องศาเซลเซียส ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและไม่มีชีวิตจะถูกแช่แข็งกันหมด เข้าสู่ช่วงการจำศีล ของพระอาทิตย์





    “คำทำนายวันโลกาวินาศ” หลายคนคงเคยได้ยิน ได้ฟังในชีวิตประจำวันมาไม่มากก็น้อย เกี่ยวกับสาเหตุการเกิดภาวะโลกร้อน, การแพร่กระจายของไวรัส, ภูเขาไฟระเบิด, ภัยพิบัติ, น้ำท่วม และอีกมากมายต่างๆ นานา โดนล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ดวงอาทิตย์จะเข้าสู่ห้วงจันทรา (หลับใหล) โลกจะเปลี่ยนก้าวสู่ “ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก” แม้แต่ทะเลสาบยังกลายเป็นน้ำแข็ง ที่หนาทึบยาวนานทั้งปี ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสภาพการณ์ของโลกโดยตรง!



    การวิจัยชิ้นใหม่ของนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบวิธีการทำนายรอบดวงอาทิตย์ที่ถูกต้องขึ้นและแม่นยำมากขึ้น พร้อมเตือนชาวโลกอย่างจริงจังในระหว่างรอบแสงอาทิตย์ปี 2020 – 2030 (ประมาณช่วง พ.ศ. 2563-2573) จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Maunder minimum” ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 1646 – 1715 (พ.ศ. 2189 – 2258) ถูกเรียกว่ายุคน้ำแข็งขนาดเล็ก ที่ทำให้แม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนตอนนั้นกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดทั้งสายอีกด้วย



    ในปัจจุบันนี้ โลกของเราได้วิวัฒนาการไปมาก รวมทั้งความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถทำนายรอบดวงอาทิตย์ได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง ว่าในรอบ 11 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงบนดวงอาทิตย์ขึ้น หรือ “จุดดับของดวงอาทิตย์ ” (Sunspot) และในรอบที่ 25 ของรอบดวงอาทิตย์ (ที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 – 2040) คลื่นสองคลื่นจะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากภาวะโลกร้อนได้หมด


    แสงอาทิตย์จะลดลงถึงร้อยละ 60% ในช่วงปี 2030 ถึง 2040 และก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก โดยอุณหภูมิโลกจะลดต่ำลง เมื่อถึงรอบที่ 26 รอบดวงอาทิตย์ คลื่น 2 คืนนี้จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนได้อย่างเต็มรูปแบบ


    ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ บอกว่า เพียงแค่คลื่น 2 คลื่นนี้เกิดการรวมตัวกัน เทียบกับรอบของดวงอาทิตย์ในปัจจุบันนี้จะสามารถทำนายอนาคตได้อย่างถูกต้องถึง 97% เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรารู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ


    อย่างไรก็ตาม การเกิดยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก จะสามารถลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนได้จริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ ๆ คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น ร้อนจัด เย็นจัด หนาวจัด แต่ที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์เนื่องจากปัจจุบันมนุษย์เราได้รบกวนสิ่งต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปริมาณไขมันไดออกไซด์ในอากาศการเพิ่มกรีนเฮาส์แก๊สและการอุตสาหกรรมที่มหาสมุทร ดังนั้นในอีก 14 ปีข้างหน้าที่จะถึงนี้ ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะประเชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัด แต่บางประเทศอย่างประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกมากขึ้น และระดับของน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีพื้นที่อีกมากมายที่ต้องจมใต้บาดาลแทน เนื่องจากน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

    http://jingro.com/th/science-and-te...that-2030-a-mini-ice-age-is-coming-very-soon/
     
  10. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    เรื่องลุงเชียงใหม่เนี่ยมันเป็นเรื่องหลอกลวงที่มาจากในบอร์ดนี้ คือมันมีคนนึงสมัครซะหลายล็อกอินแล้วก็ปลอมตัวเข้ามา เป็นลุงซะนานเลย ไปๆมาๆปลอมมาเป็นหลานบอกว่าลุงทิ้งบันทึกให้ ทิ้งช่วงไประยะหนึ่งก็ปลอมตัวเข้ามาใหม่ แล้วก็เข้ามาเป็นระยะๆ มันมีเป็นสิบล็อกอินได้มั้ง

    จนมีวันนึงมีคนจับโกหกได้ว่าไอ้นี่แหละลุงเชียงใหม่ มันเลยเข้ามาลบกระทู้ลุงเชียงใหม่ที่มีเนื้อเรื่องที่เอามาลงเกลี้ยงเลย แล้วก็ลบโพสท์ของตัวเองในอีกชื่อหนึ่งด้วย

    ทีนี้ดันมีคนหน้ามืดตามัวอยากอ่านเรื่องโกหกต่อเลยไปอ้อนวอนแอดมินให้ขุดขึ้นมาใหม่ มันก็เลยยังมีอยู่ในบอร์ดนี้ ชื่อกระทู้บันทึกของพระคุณลุงอะไรซักอย่าง

    ลุงมโนแกบอกหลานให้ซื้อตู้คอนเทนเนอร์ ให้ตุนอาหารเตรียมไว้ ซื้อชุดป้องกันไข้หวัดนก แล้วไปอยู่หมู่บ้านลึกลับ ตัดขาดโลกภายนอก ก็เหมือนไปอยู่ป่านั่นแหละ

    ตัวละครลุงเชียงใหม่มันเป็นตัวละครตัวนึงในหลายๆล็อกอินที่สร้างมา แล้วบันทึกที่เขียนในล็อกอินลุงเชียงใหม่มันจะเป็นจริงได้ยังไง คือมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยแค่ใช้ความเป็นเหตุเป็นผลธรรมดาๆ
     
  11. Unexpected

    Unexpected เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +1,513
    นี่ก้อาจเปนลุงในล็อคอินใหม่มาโพสเองก้ได้นะตัวเอง 55 แบบไม่อยากให้ลืมกันไรงี้
     
  12. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    คำทำนายที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญผู้เป็นศิษย์ ไว้ และหลวงพ่อสนองได้พูดอีกครั้งในสถานีโทรทัศน์พุทธภูมิ999 ของวัดสังฆทาน
    และได้นำมาลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สังฆทานนิวส์ เป็นหนังสือพิมพ์ที่ทางวัดจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ธรรมะต่างๆ แจกฟรีเป็นธรรมทานทุกเดือน

    ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับคำทำนายเรื่องภัยพิบัติที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ไว้ มีดังนี้

    หนังสือพิมพ์วัดสังฆทานนิวส์
    ฉบับที่ 87 ประจำวันที่ 1-31 ธ.ค. 2553
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ" (หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ)
    ....อาตมาไม่เคยคิดจะอยู่ที่เจริญ มาอยู่สังฆทานกะว่าอายุ 45 ปีจะเข้าป่า วางแผนไว้อย่างดี เดี๋ยวทำเสร็จยังกับตัวเองเนรมิตได้ อายุ 45 ปี ยังไม่มีอะไร ทำมา 45 ปี วัดเจริญฉันไปแล้ว มันไปไม่ได้เราคนหมู่มาก ต้องสงเคราะห์ญาติ ไปก็ต้องเอากันไปให้หมด ภัยมาเราไม่ปกป้องคนเขาลงเราต้องปกป้อง หลวงปู่สังวาลย์ท่านพยากรณ์ไว้ ที่จริงอาตมาไม่อยากออกทีวีหรอกเพราะเดี๋ยวคนจะตื่นตัว แต่ก็ดีแล้วพวกที่คนทั้งหลายมันหลงมันจะได้เบาลง แต่ว่าบางทีอาจจะด่าเราก็ได้ ว่าหลวงพ่อเพ้อเจ้อ.. หลวงปู่สังวาลย์พูดให้ฟัง บอก...สนอง...ไม่ช้าพวกเราก็ตายแล้ว แต่โลกนี้จะเดือดร้อน แต่ถ้าเราอยู่ถึงก็จะเห็นภัย 3 อย่าง น้ำจะท่วมภาคใต้ ฝั่งตะวันตกตายกันเยอะ ครั้งที่1 แล้วก็ตายไม่เท่าน้ำท่วมกรุงเทพ กรุงเทพนี่ น้ำท่วมมาก ท่วมตึก 4 ชั้นเลย สนอง...เตรียมน้ำมันรถไว้ให้ดีนะ เตรียมรถให้ดี อย่าใช้ รถเก่านะ ถ้ามันท่วมกรุงเทพเนี่ย ฝนจะตก 7 วัน 7คืน ฟ้าจะมืดหมด ไม่มีแสงอาทิตย์ แสงตะวัน แล้วไฟดับหมด เงินไม่มีค่า เงินไม่มีความหมาย เอาข้าวตากไว้ดีกว่า ตอน 7วัน 7คืน.. อาตมาอดได้ไม่ตายหรอก แต่คนอื่นจะตายหรือเปล่า เพราะอาตมาเคยอดมาตั้ง19วัน 15วันอดได้ มีน้ำอยู่ได้เพราะผ่านวิกฤตินี้มาแล้ว แต่พวกคนไม่เคยอดกิน 3มื้อนี่วันจะตายหรือเปล่า จะท่วมกรุงเทพคนจะตายกันเยอะ ท่านบอกเราที่วัดอีกครั้งหนึ่ง เวลาฝนตก 7วัน 7คืน ถ้าน้ำท่วมมาถึงชลบุรีโกยเลยนะ ไปโน้นเลย สระบุรีไปเขาใหญ่เลยจะไม่ตาย...
    เราจะโกยไปทำไมคนเดียวล่ะ คลื่นยักษ์มาถึงชลบุรีท่วมภูเขามาเลย ท่วมไปถึงวัดทุ่งน่ะ วัดทุ่งนี่เรานั่งพื้นน้ำเปียกหัวเรือเลยนะ น้ำไปสุดนครสวรรค์...เราบวชมานานเชื่อเราสิ


    แล้วก็จะเกิดสงครามพระ สงครามพระจะไปลุกทุกหย่อมหญ้าเลย สงครามพระจะเกิด เชื่อเราไหม ก็ยังไม่เห็น เชื่อก็ไม่ได้จะไม่เชื่อก็ไม่ได้ นั่งเฉยก่อน เรากรรมฐานมานาน ท่านบอกว่ามันเป็นกรรมของคนไทย ไปดูสิเดี๋ยวเราตาย วัดทุ่งก็เหมือนกับวัดหลวงพ่อสำเภาที่ลพบุรีน่ะ เมื่อตอนหลวงพ่อเภาอยู่นี่เจริญมาก คนกรุงเทพขึ้นอุดมสมบูรณ์มาก ทุกวันนี้วัดเงียบเลย อยู่ที่ลพบุรี เราอยากจะพาพวกลูกศิษย์ไปดู ตอนที่หลวงปู่สังวาลย์อยู่อุดมสมบูรณ์ เราอยากจะพาไปดู มันจะได้รู้ว่า สิ้นเราแล้วเนี่ยสุนัขก็อดข้าว...ท่านพูดไว้นะ (อ่านต่อฉบับที่ 88...)


    ต่อฉบับที่ 88 ประจำวันที่ 1-31 ม.ค. 2554
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ"
    หลวงปู่สังวาลย์พูดเรื่องอนาคตให้ฟังต่อไปว่าให้เตรียมตัวไว้นะ เราก็ถามว่า หลวงพ่อแก้ไม่ได้เลยเหรอ พอไม่นานน้ำก็ท่วม ท่วมภาคใต้ เกิดสึนามิ ตอนนั้นอาตมากลับมาจากต่างประเทศมีเงินแค่ 4,000 บาท บอกให้บัญชีดูเงินว่ามีเงินพอไหม ไม่ใช่เงินในธนาคารนะ เงินอยู่ในตู้บริจาคน่ะ มีแค่ 4,000 บาท เอา 4,000 บาทไปซื้อของเลย เอารถบัสไปเลยซื้อของ แล้วซื้อแก๊สไปช่วยภาคใต้ คลื่นสึนามิ บ้านช่องหายหมดแล้วคนก็ไม่มีบ้าน บ้านก็ไม่มีคน บอกกันว่าอยู่ที่วัด บ้านน้ำเค็ม เราก็ส่งของไปอีก ก็หาเอาเงินซื้อพอไปถึงที่ ก็จริงอย่างหลวงปู่ว่า คนจะตายกันเยอะ เคยเล่าไปแล้ว ไม่เล่าต่อแล้ว นี่คือคำพยากรณ์ของครูบาอาจารย์

    เหลืออีกสองอย่างที่ยังไม่จริง ยังไม่ถึง ศึกพระ กับน้ำท่วมกรุงเทพ คนจะตายกันเยอะตายมากกว่าคราวนี้ท่านไม่บอกปีนะ ท่านเตือนบอกให้ระวังตัว เตือนเราว่าให้ดูฝนตก 7วัน 7คืน ฟ้ามืด ไฟจะดับหมด สงสัยจะมีพายุอย่างแรง ไฟฟ้าสงสัยจะดับหมด แต่อาตมาจะมีวิธีไป เดี๋ยวจะพาไป ไม่ตื่นตูม เป็นคนไม่ตื่นตูม เชื่อก็เชื่อแต่ไม่ตกใจ จะไปอย่างสวยๆ ถ้าจะตายก็ตายอย่างเตรียมตัวตายก่อน ตายยิ้มตาย อาตมาจะไม่ร้องไห้
    เพราะฉะนั้นคนเรานะมันต้องตาย วิบัติมันเกิดขึ้น เราไม่อยากให้เกิดวิบัติ วิบัติอย่างนี้เราไม่อยากได้ แต่ว่าป้องกันไม่ได้................

    ***********************************************
     
  13. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    ปี 2030! ดวงตะวันจะหลับใหล เกิดยุคใหม่โลกแห่งน้ำแข็ง
    เสียงเตือนจริงจังของนักวิทย์ สิบปีจากนี้ดวงตะวันจะหลับใหลสู่นิทรา เกิดยุคใหม่ที่หนาวเหน็บ “ยุคน้ำแข็ง”
    ลองนึกภาพว่าตัวเรายืนอยู่บนธารน้ำแข็งใหญ่ยักษ์ โดยที่อากาศรอบๆตัวเรามีอุณหภูมิที่ติดลบ (แข็งแน่ๆ งานนี้) ทั้งๆที่เรานั้น…ยืนอยู่ในแทบพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย จากที่เราเคยชินในสภาพอากาศที่ร้อนจัดแต่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่หนาวจัดมันจะเป็นอย่างไร? มันก็คงไม่ต่างอะไรจากที่หมีขั้วโลกจะเริ่มตอนกินปลาโลมาเป็นอาหาร เพราะตอนนี้โลกของเรากำลังเปลี่ยนเข้าสู่ช่วง “The Maunder Minimum” หรือ “ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก” หรือเรียกอีกอย่างว่า “Mini Ice Age”

    ยุคน้ำแข็ง อุณหภูมิของโลกจะลดลงต่ำสุดเป็น -150 องศาเซลเซียส ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและไม่มีชีวิตจะถูกแช่แข็งกันหมด เข้าสู่ช่วงการจำศีล ของพระอาทิตย์





    “คำทำนายวันโลกาวินาศ” หลายคนคงเคยได้ยิน ได้ฟังในชีวิตประจำวันมาไม่มากก็น้อย เกี่ยวกับสาเหตุการเกิดภาวะโลกร้อน, การแพร่กระจายของไวรัส, ภูเขาไฟระเบิด, ภัยพิบัติ, น้ำท่วม และอีกมากมายต่างๆ นานา โดนล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ดวงอาทิตย์จะเข้าสู่ห้วงจันทรา (หลับใหล) โลกจะเปลี่ยนก้าวสู่ “ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก” แม้แต่ทะเลสาบยังกลายเป็นน้ำแข็ง ที่หนาทึบยาวนานทั้งปี ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสภาพการณ์ของโลกโดยตรง!



    การวิจัยชิ้นใหม่ของนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบวิธีการทำนายรอบดวงอาทิตย์ที่ถูกต้องขึ้นและแม่นยำมากขึ้น พร้อมเตือนชาวโลกอย่างจริงจังในระหว่างรอบแสงอาทิตย์ปี 2020 – 2030 (ประมาณช่วง พ.ศ. 2563-2573) จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Maunder minimum” ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 1646 – 1715 (พ.ศ. 2189 – 2258) ถูกเรียกว่ายุคน้ำแข็งขนาดเล็ก ที่ทำให้แม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนตอนนั้นกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดทั้งสายอีกด้วย



    ในปัจจุบันนี้ โลกของเราได้วิวัฒนาการไปมาก รวมทั้งความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถทำนายรอบดวงอาทิตย์ได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง ว่าในรอบ 11 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงบนดวงอาทิตย์ขึ้น หรือ “จุดดับของดวงอาทิตย์ ” (Sunspot) และในรอบที่ 25 ของรอบดวงอาทิตย์ (ที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 – 2040) คลื่นสองคลื่นจะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากภาวะโลกร้อนได้หมด


    แสงอาทิตย์จะลดลงถึงร้อยละ 60% ในช่วงปี 2030 ถึง 2040 และก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก โดยอุณหภูมิโลกจะลดต่ำลง เมื่อถึงรอบที่ 26 รอบดวงอาทิตย์ คลื่น 2 คืนนี้จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนได้อย่างเต็มรูปแบบ


    ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ บอกว่า เพียงแค่คลื่น 2 คลื่นนี้เกิดการรวมตัวกัน เทียบกับรอบของดวงอาทิตย์ในปัจจุบันนี้จะสามารถทำนายอนาคตได้อย่างถูกต้องถึง 97% เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรารู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ


    อย่างไรก็ตาม การเกิดยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก จะสามารถลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนได้จริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ ๆ คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น ร้อนจัด เย็นจัด หนาวจัด แต่ที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์เนื่องจากปัจจุบันมนุษย์เราได้รบกวนสิ่งต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปริมาณไขมันไดออกไซด์ในอากาศการเพิ่มกรีนเฮาส์แก๊สและการอุตสาหกรรมที่มหาสมุทร ดังนั้นในอีก 14 ปีข้างหน้าที่จะถึงนี้ ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะประเชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัด แต่บางประเทศอย่างประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกมากขึ้น และระดับของน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีพื้นที่อีกมากมายที่ต้องจมใต้บาดาลแทน เนื่องจากน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

    http://jingro.com/th/science-and-te...that-2030-a-mini-ice-age-is-coming-very-soon/
     
  14. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    วันฟ้าดับ คำทำนาย มหาภัยพิบัติ วันสิ้นโลก
    MThai News : กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากมีผู้นำบทความเรื่อง วันฟ้าดับ โพสในเว็บไซต์ดัง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆ และมีการส่งต่อกันจำนวนมาก

    โดยบันทึกดังกล่าวมีชื่อว่า บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ ซึ่งได้บอกถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นใน วันฟ้าดับ และภาพคนล้มตายมากมาย ซึ่งบทความดังกล่าวได้เขียนไว้ดังนี้

    ………………………………………………………………………………………………….

    บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลาน ๆ เรื่องภัยพิบัติ

    เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของพระคุณลุงออกนำมาเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไป กว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญาณ ของพระคุณลุง โดยที่ผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดในใจผมซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึก ที่เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปผมสิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจผมแล้ว

    ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ
    1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง


    1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

    วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญาณทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขาว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆ ไว้ หลังจากบันทึกนี้ลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่มีการเตรียมการกันนั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ให้หลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและ คณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญาณนั้น กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้นถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้า จิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆเพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคน สัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หมั่นเจริญมรณะสติ เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญาณทัศนะของลุง เพื่อให้หลาน จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างตามเหตุและปัจจัย แต่ เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนซึ่งวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง


    เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่า วันฟ้าดับ ก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิฐาน ไปยังวันก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่) ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้ชัดเจนทั้งขนาด และความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่พลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ


    ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่าง ๆ จะตื่นกลัววิ่งหนีแบบ ไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม่แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ ๆ กับมนุษย์ ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ ๆ กัน

    ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและ ที่ ๆ มีการเตรียมการอพยพขอให้หลาน ๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่ หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บน รถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบ ลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือ ๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคนอยู่ในที่ห้องแข็งแรงของเรา หรือคนที่ อยู่นอกพื้นที่ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ไหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหูนอนกลิ้งเกลือก ไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคน ที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหูให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้

    หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรงและสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะ ขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามนั้นนิมิตลุงอาจจะมี เพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียงเพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา ที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิงกลับไป ในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิง ออกมาอีก หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่ม ๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูมฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้

    ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอบฟ้าแดงจ้า จนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่ง จากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลุงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำ ๆ เหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือ ของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้ ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่น แม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าอเนจอนาถมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื้ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปะสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแบบที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ด้วย

    ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให้เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์ ภาพที่เกิดมาลุงรู้สึกเศร้า ใจกับญาณทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนา สาหัสกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห็นการคร่ำครวญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเตรียมมรณะสติไว้เลย ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้นรูปฌานและอรูปฌาน 4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องอเนจอนาถซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพ คนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะ ๆ มากบ้างน้อยบ้างภาพเพดาน สิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง

    แต่วิกรมมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังคนที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยักษ์ ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กลาดเกลื่อน เต็มไปหมด แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิฐานไปยังหลังจากนี้แล้วกลับอเนจอนาถ ยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งหมดในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่อง กับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญาณทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา

    ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลาน ๆ ด้วย

    …………………………………………………………………




    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

    วิกรมที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามาก และที่มอบให้หลานเพราะ หลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิตรวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ในระดับที่ จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดีแต่ ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป บันทึกในส่วนนี้ลุงขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุง จะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมาก ที่ลุงต้องรีบบันทึกเพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยังหลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน

    วิกรม ในส่วนของพื้นที่ ๆ ได้มีการจัดเตรียมไว้นั้นที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ใกล้ลงมานั้นและรับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มนั้นลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลาน ๆ จะร่วมกันพิจารณา บันทึกในส่วนก่อนลุงเล่าถึงเรื่อง มีก้อนน้ำแข็งที่ตกมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องแข็งแรงนั้นขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริม เหล็กกันกระแทกด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้เป็นห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็นหลัง จากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้นถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็น ตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

    เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมาเพราะว่า ภาพที่ลุงเห็นถัดไปก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ้กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภูมิพล และหลาย ๆ เขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลายแต่ ขอบ ๆ เขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดิน มีรอยร้าว และมีน้ำกัดเจาะเข้าไป จนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้านจน สุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพน้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น

    ที่เชียงใหม่บ้านเราได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าทีอื่น ๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัด-แม่กวง แตกพังทลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อนจะกวาด บ้านเรือนที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาล ที่ติดแม่น้ำปิงเห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูก ๆ และแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อยก็ เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมากเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่า เขื่อนแม่กวง

    ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทลายจากก่อนหน้านั้นผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกันเพราะเขื่อนบ้านเราอยู่ใกล้เขื่อนน้ำเดินทางเพียง สองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแลคงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาด ไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถว สันทราย เมือง สันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน ลุงจะเตือน ป้าแดงของหลาน และญาติของเราแล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา แต่การสูญเสียบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบไม่ได้ ลุงเห็นภาพ เจดีย์วัดอรุณ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึงกรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน ลุงย้ำตอนนี้ขอให้เลือกพื้นที่ อย่างไรก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใคร ที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหว แล้วสายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ ๆ ปลอดภัยก่อนเพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

    อดคิดถึงเชียงรายพะเยาไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่จีนสร้างไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ แตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็หมายถึงมีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่ หลานอย่าแปลกใจเลย ที่จุดปลอดภัยของ เชียงรายอยู่ที่ดอยตุง มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะว่า ในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้นใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใด ๆ คงไม่ใช่ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยง ๆ ๆ พอ ๆ กับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อน น้ำแข็งจะร่วงมาจากฟ้า เพราะฉะนั้นเวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมาอย่าออกจากห้องเพราะ มันจะเป็นแสงฟ้าแลบ และจะตามด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลาน ๆ อย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสงเพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่ บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงให้เตรียมไว้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิด ให้อยู่ในห้องแข็งแรง นั้นอีก 3 วันหรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมดที่เตรียมไว้ 4 วัน จึงออกมาจากห้องแข็งแรงได้

    ในช่วงที่อยู่ในห้องแข็งแรง ขอให้หลาน นำน้อง ๆ และลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินเพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊ก กับหนูบ๊วย สวดด้วยอย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้ วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้อง ทานอาหารแห้ง ๆ อย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน

    ย้ำเรื่องการออกจากห้องแข็งแรง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็ก ๆ โดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมี เชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้ว ตรงกันก็คือวันฟ้าดับนั้นประมาณ 3 วัน ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลาเพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ

    ในส่วนที่อื่น ๆ หลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกร่างจนชำนาญนั้นก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่น ๆ ได้

    วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ไหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุงที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว

    …………………………………………………………………




    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ

    วันนี้วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้

    วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณหภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหาร เพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่า สองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลและคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้

    ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อในระหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กาง อีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้อง ๆ หลาน ๆ ไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบาย ๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็ก ๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป้ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อย ๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ

    เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็ก ๆ ได้ ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญาณให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้จะได้ประมาณสถานการณ์ได้

    ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไปถนนคนเดินกรุงเทพไม่เหลือ สภาพให้จำได้ ลุงกำหนดจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่อเนจอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากเท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจระเข้ ที่ภูเขาทอง ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่

    ลุงเห็นภาพซากเขื่อนที่จังหวัดตาก แตกกวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหารบางคนใส่สูทอยู่เลยแต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่น ๆ มีการฆ่ากัน ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด

    ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาว ๆ อายุประมาณ 40-50 ปี อีกองค์ อ้วน ๆ คล้ำ ๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ย ๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ไหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่าลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ย ๆ และมีวัดบนภูเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์ หรือลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญาณทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ ๆ กายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญาณทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้

    หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ได้ ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้าย ๆ กันถึงความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วยลุงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคนที่เกิดมาร่วมกัน

    ผู้โพสต์บันทึกพระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลาน ๆ ก่อนออกบวช
    วิกรม หลานพระคุณลุง

    …………………………………………………………………





    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

    บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลานก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อ ติดตามพระอาจารย์โสณะซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวช ตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากอยู่แล้วเพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลาย ปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูก ๆ หลาน ๆ และช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสา จนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้

    บันทึกนี้ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้วต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่าพระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้วและมีเวลาศึกษาอะไรนาน ๆ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลาย ๆ ภาษา และถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต ลุงได้ถามว่าพระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดียในสมัย พระเจ้าอโศกเพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้ม ๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องละ ลุงเลยบอกว่าเพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เลี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และที่ลุงมั่นใจเพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระ อาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด

    วิกรม สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้เป็นการบันทึกที่ผ่านญาณทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ ๆ กายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้น ๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำให้การผูกจิตข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร

    สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลานก็คือ ต่อไปประเทศไทยหลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่าในญาณที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือขึ้นผิดทาง ที่เราเคยเห็นมาโลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว

    ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่าง ๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสานยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเล สูงเท่าตึก 5 ชั้น 7 ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดินตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้วก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลากินเป็นอาหารอีกมากมาย ภาคใต้คนจะเหลือน้อย จริง ๆ ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเราก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และกว่าน้ำจะลดลง จำนวนตายมากจนคนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญาณที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญาณเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง

    คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำ กลับกินไม่ได้เลยกลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้ายคนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไป

    ทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาศจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าอธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ ก็คงจะลำบากหน้าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิตน่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ด เพาะเห็ด ที่ให้พะดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้ นานพอสมควร ที่หลาน ๆ จะได้ปรับตัวกันได้

    หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์กับหลานไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้ อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่น ๆ ขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลุงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวจสอบและสับเปลี่ยนยา อาการหลอดในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย

    ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้อง ๆ หลาน ๆ ฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ ให้ ลุงเขียน Username และ Pass ไว้ที่หน้าจอแล้วถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเว็บพลังจิตก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความพร้อม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลาน ๆ ด้วย สิ่งใด ๆ ที่ลุงได้ล่วงเกินหลาน ๆ และทุกคน โปรดเมตตาอหสิกรรมลุงด้วยลุงหมอของหลาน ๆ ทุกคน

    วิกรมหลาน พระคุณลุงคนเชียงใหม่ โพสต์
    ข้อความในบันทึกใด ๆ ที่มาจากบันทึกนี้ก่อให้เกิดอกุศลกรรมกับผู้ไดโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้กระผมด้วยครับ
    วิกรม

    ขอบคุณข้อมูลจากบอร์ดพลังจิต

    Mthai News
     
  15. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    เรื่องลุงเชียงใหม่เนี่ยมันเป็นเรื่องหลอกลวงที่มาจากในบอร์ดนี้ คือมันมีคนนึงสมัครซะหลายล็อกอินแล้วก็ปลอมตัวเข้ามา เป็นลุงซะนานเลย ไปๆมาๆปลอมมาเป็นหลานบอกว่าลุงทิ้งบันทึกให้ ทิ้งช่วงไประยะหนึ่งก็ปลอมตัวเข้ามาใหม่ แล้วก็เข้ามาเป็นระยะๆ มันมีเป็นสิบล็อกอินได้มั้ง

    จนมีวันนึงมีคนจับโกหกได้ว่าไอ้นี่แหละลุงเชียงใหม่ มันเลยเข้ามาลบกระทู้ลุงเชียงใหม่ที่มีเนื้อเรื่องที่เอามาลงเกลี้ยงเลย แล้วก็ลบโพสท์ของตัวเองในอีกชื่อหนึ่งด้วย

    ทีนี้ดันมีคนหน้ามืดตามัวอยากอ่านเรื่องโกหกต่อเลยไปอ้อนวอนแอดมินให้ขุดขึ้นมาใหม่ มันก็เลยยังมีอยู่ในบอร์ดนี้ ชื่อกระทู้บันทึกของพระคุณลุงอะไรซักอย่าง

    ลุงมโนแกบอกหลานให้ซื้อตู้คอนเทนเนอร์ ให้ตุนอาหารเตรียมไว้ ซื้อชุดป้องกันไข้หวัดนก แล้วไปอยู่หมู่บ้านลึกลับ ตัดขาดโลกภายนอก ก็เหมือนไปอยู่ป่านั่นแหละ

    ตัวละครลุงเชียงใหม่มันเป็นตัวละครตัวนึงในหลายๆล็อกอินที่สร้างมา แล้วบันทึกที่เขียนในล็อกอินลุงเชียงใหม่มันจะเป็นจริงได้ยังไง คือมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยแค่ใช้ความเป็นเหตุเป็นผลธรรมดาๆ
     
  16. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    พระกรรมฐานแห่งเมืองสุพรรณ
    คำทำนายที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญผู้เป็นศิษย์ ไว้ และหลวงพ่อสนองได้พูดอีกครั้งในสถานีโทรทัศน์พุทธภูมิ999 ของวัดสังฆทาน
    และได้นำมาลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สังฆทานนิวส์ เป็นหนังสือพิมพ์ที่ทางวัดจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ธรรมะต่างๆ แจกฟรีเป็นธรรมทานทุกเดือน

    ข้อความที่เกี่ยวเนื่องกับคำทำนายเรื่องภัยพิบัติที่หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก บอกหลวงพ่อสนอง กตปุญโญ ไว้ มีดังนี้

    หนังสือพิมพ์วัดสังฆทานนิวส์
    ฉบับที่ 87 ประจำวันที่ 1-31 ธ.ค. 2553
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ" (หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ)
    ....อาตมาไม่เคยคิดจะอยู่ที่เจริญ มาอยู่สังฆทานกะว่าอายุ 45 ปีจะเข้าป่า วางแผนไว้อย่างดี เดี๋ยวทำเสร็จยังกับตัวเองเนรมิตได้ อายุ 45 ปี ยังไม่มีอะไร ทำมา 45 ปี วัดเจริญฉันไปแล้ว มันไปไม่ได้เราคนหมู่มาก ต้องสงเคราะห์ญาติ ไปก็ต้องเอากันไปให้หมด ภัยมาเราไม่ปกป้องคนเขาลงเราต้องปกป้อง หลวงปู่สังวาลย์ท่านพยากรณ์ไว้ ที่จริงอาตมาไม่อยากออกทีวีหรอกเพราะเดี๋ยวคนจะตื่นตัว แต่ก็ดีแล้วพวกที่คนทั้งหลายมันหลงมันจะได้เบาลง แต่ว่าบางทีอาจจะด่าเราก็ได้ ว่าหลวงพ่อเพ้อเจ้อ.. หลวงปู่สังวาลย์พูดให้ฟัง บอก...สนอง...ไม่ช้าพวกเราก็ตายแล้ว แต่โลกนี้จะเดือดร้อน แต่ถ้าเราอยู่ถึงก็จะเห็นภัย 3 อย่าง น้ำจะท่วมภาคใต้ ฝั่งตะวันตกตายกันเยอะ ครั้งที่1 แล้วก็ตายไม่เท่าน้ำท่วมกรุงเทพ กรุงเทพนี่ น้ำท่วมมาก ท่วมตึก 4 ชั้นเลย สนอง...เตรียมน้ำมันรถไว้ให้ดีนะ เตรียมรถให้ดี อย่าใช้ รถเก่านะ ถ้ามันท่วมกรุงเทพเนี่ย ฝนจะตก 7 วัน 7คืน ฟ้าจะมืดหมด ไม่มีแสงอาทิตย์ แสงตะวัน แล้วไฟดับหมด เงินไม่มีค่า เงินไม่มีความหมาย เอาข้าวตากไว้ดีกว่า ตอน 7วัน 7คืน.. อาตมาอดได้ไม่ตายหรอก แต่คนอื่นจะตายหรือเปล่า เพราะอาตมาเคยอดมาตั้ง19วัน 15วันอดได้ มีน้ำอยู่ได้เพราะผ่านวิกฤตินี้มาแล้ว แต่พวกคนไม่เคยอดกิน 3มื้อนี่วันจะตายหรือเปล่า จะท่วมกรุงเทพคนจะตายกันเยอะ ท่านบอกเราที่วัดอีกครั้งหนึ่ง เวลาฝนตก 7วัน 7คืน ถ้าน้ำท่วมมาถึงชลบุรีโกยเลยนะ ไปโน้นเลย สระบุรีไปเขาใหญ่เลยจะไม่ตาย...
    เราจะโกยไปทำไมคนเดียวล่ะ คลื่นยักษ์มาถึงชลบุรีท่วมภูเขามาเลย ท่วมไปถึงวัดทุ่งน่ะ วัดทุ่งนี่เรานั่งพื้นน้ำเปียกหัวเรือเลยนะ น้ำไปสุดนครสวรรค์...เราบวชมานานเชื่อเราสิ


    แล้วก็จะเกิดสงครามพระ สงครามพระจะไปลุกทุกหย่อมหญ้าเลย สงครามพระจะเกิด เชื่อเราไหม ก็ยังไม่เห็น เชื่อก็ไม่ได้จะไม่เชื่อก็ไม่ได้ นั่งเฉยก่อน เรากรรมฐานมานาน ท่านบอกว่ามันเป็นกรรมของคนไทย ไปดูสิเดี๋ยวเราตาย วัดทุ่งก็เหมือนกับวัดหลวงพ่อสำเภาที่ลพบุรีน่ะ เมื่อตอนหลวงพ่อเภาอยู่นี่เจริญมาก คนกรุงเทพขึ้นอุดมสมบูรณ์มาก ทุกวันนี้วัดเงียบเลย อยู่ที่ลพบุรี เราอยากจะพาพวกลูกศิษย์ไปดู ตอนที่หลวงปู่สังวาลย์อยู่อุดมสมบูรณ์ เราอยากจะพาไปดู มันจะได้รู้ว่า สิ้นเราแล้วเนี่ยสุนัขก็อดข้าว...ท่านพูดไว้นะ (อ่านต่อฉบับที่ 88...)


    ต่อฉบับที่ 88 ประจำวันที่ 1-31 ม.ค. 2554
    คอลัมน์ "คุยกับหลวงพ่อ"
    หลวงปู่สังวาลย์พูดเรื่องอนาคตให้ฟังต่อไปว่าให้เตรียมตัวไว้นะ เราก็ถามว่า หลวงพ่อแก้ไม่ได้เลยเหรอ พอไม่นานน้ำก็ท่วม ท่วมภาคใต้ เกิดสึนามิ ตอนนั้นอาตมากลับมาจากต่างประเทศมีเงินแค่ 4,000 บาท บอกให้บัญชีดูเงินว่ามีเงินพอไหม ไม่ใช่เงินในธนาคารนะ เงินอยู่ในตู้บริจาคน่ะ มีแค่ 4,000 บาท เอา 4,000 บาทไปซื้อของเลย เอารถบัสไปเลยซื้อของ แล้วซื้อแก๊สไปช่วยภาคใต้ คลื่นสึนามิ บ้านช่องหายหมดแล้วคนก็ไม่มีบ้าน บ้านก็ไม่มีคน บอกกันว่าอยู่ที่วัด บ้านน้ำเค็ม เราก็ส่งของไปอีก ก็หาเอาเงินซื้อพอไปถึงที่ ก็จริงอย่างหลวงปู่ว่า คนจะตายกันเยอะ เคยเล่าไปแล้ว ไม่เล่าต่อแล้ว นี่คือคำพยากรณ์ของครูบาอาจารย์

    เหลืออีกสองอย่างที่ยังไม่จริง ยังไม่ถึง ศึกพระ กับน้ำท่วมกรุงเทพ คนจะตายกันเยอะตายมากกว่าคราวนี้ท่านไม่บอกปีนะ ท่านเตือนบอกให้ระวังตัว เตือนเราว่าให้ดูฝนตก 7วัน 7คืน ฟ้ามืด ไฟจะดับหมด สงสัยจะมีพายุอย่างแรง ไฟฟ้าสงสัยจะดับหมด แต่อาตมาจะมีวิธีไป เดี๋ยวจะพาไป ไม่ตื่นตูม เป็นคนไม่ตื่นตูม เชื่อก็เชื่อแต่ไม่ตกใจ จะไปอย่างสวยๆ ถ้าจะตายก็ตายอย่างเตรียมตัวตายก่อน ตายยิ้มตาย อาตมาจะไม่ร้องไห้
    เพราะฉะนั้นคนเรานะมันต้องตาย วิบัติมันเกิดขึ้น เราไม่อยากให้เกิดวิบัติ วิบัติอย่างนี้เราไม่อยากได้ แต่ว่าป้องกันไม่ได้................

    ***********************************************
     
  17. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    ปี 2030! ดวงตะวันจะหลับใหล เกิดยุคใหม่โลกแห่งน้ำแข็ง
    เสียงเตือนจริงจังของนักวิทย์ สิบปีจากนี้ดวงตะวันจะหลับใหลสู่นิทรา เกิดยุคใหม่ที่หนาวเหน็บ “ยุคน้ำแข็ง”
    ลองนึกภาพว่าตัวเรายืนอยู่บนธารน้ำแข็งใหญ่ยักษ์ โดยที่อากาศรอบๆตัวเรามีอุณหภูมิที่ติดลบ (แข็งแน่ๆ งานนี้) ทั้งๆที่เรานั้น…ยืนอยู่ในแทบพื้นที่ที่เป็นทะเลทราย จากที่เราเคยชินในสภาพอากาศที่ร้อนจัดแต่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่หนาวจัดมันจะเป็นอย่างไร? มันก็คงไม่ต่างอะไรจากที่หมีขั้วโลกจะเริ่มตอนกินปลาโลมาเป็นอาหาร เพราะตอนนี้โลกของเรากำลังเปลี่ยนเข้าสู่ช่วง “The Maunder Minimum” หรือ “ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก” หรือเรียกอีกอย่างว่า “Mini Ice Age”

    ยุคน้ำแข็ง อุณหภูมิของโลกจะลดลงต่ำสุดเป็น -150 องศาเซลเซียส ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดและไม่มีชีวิตจะถูกแช่แข็งกันหมด เข้าสู่ช่วงการจำศีล ของพระอาทิตย์





    “คำทำนายวันโลกาวินาศ” หลายคนคงเคยได้ยิน ได้ฟังในชีวิตประจำวันมาไม่มากก็น้อย เกี่ยวกับสาเหตุการเกิดภาวะโลกร้อน, การแพร่กระจายของไวรัส, ภูเขาไฟระเบิด, ภัยพิบัติ, น้ำท่วม และอีกมากมายต่างๆ นานา โดนล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ดวงอาทิตย์จะเข้าสู่ห้วงจันทรา (หลับใหล) โลกจะเปลี่ยนก้าวสู่ “ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก” แม้แต่ทะเลสาบยังกลายเป็นน้ำแข็ง ที่หนาทึบยาวนานทั้งปี ซึ่งอาจจะส่งผลต่อสภาพการณ์ของโลกโดยตรง!



    การวิจัยชิ้นใหม่ของนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบวิธีการทำนายรอบดวงอาทิตย์ที่ถูกต้องขึ้นและแม่นยำมากขึ้น พร้อมเตือนชาวโลกอย่างจริงจังในระหว่างรอบแสงอาทิตย์ปี 2020 – 2030 (ประมาณช่วง พ.ศ. 2563-2573) จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Maunder minimum” ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 1646 – 1715 (พ.ศ. 2189 – 2258) ถูกเรียกว่ายุคน้ำแข็งขนาดเล็ก ที่ทำให้แม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนตอนนั้นกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดทั้งสายอีกด้วย



    ในปัจจุบันนี้ โลกของเราได้วิวัฒนาการไปมาก รวมทั้งความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถทำนายรอบดวงอาทิตย์ได้อย่างแม่นยำและถูกต้อง ว่าในรอบ 11 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงบนดวงอาทิตย์ขึ้น หรือ “จุดดับของดวงอาทิตย์ ” (Sunspot) และในรอบที่ 25 ของรอบดวงอาทิตย์ (ที่จะเกิดขึ้นในปี 2030 – 2040) คลื่นสองคลื่นจะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากภาวะโลกร้อนได้หมด


    แสงอาทิตย์จะลดลงถึงร้อยละ 60% ในช่วงปี 2030 ถึง 2040 และก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก โดยอุณหภูมิโลกจะลดต่ำลง เมื่อถึงรอบที่ 26 รอบดวงอาทิตย์ คลื่น 2 คืนนี้จะช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนได้อย่างเต็มรูปแบบ


    ผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ บอกว่า เพียงแค่คลื่น 2 คลื่นนี้เกิดการรวมตัวกัน เทียบกับรอบของดวงอาทิตย์ในปัจจุบันนี้จะสามารถทำนายอนาคตได้อย่างถูกต้องถึง 97% เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรารู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ


    อย่างไรก็ตาม การเกิดยุคน้ำแข็งขนาดเล็ก จะสามารถลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนได้จริงหรือไม่ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ ๆ คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น ร้อนจัด เย็นจัด หนาวจัด แต่ที่ชัดเจนคือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์เนื่องจากปัจจุบันมนุษย์เราได้รบกวนสิ่งต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นปริมาณไขมันไดออกไซด์ในอากาศการเพิ่มกรีนเฮาส์แก๊สและการอุตสาหกรรมที่มหาสมุทร ดังนั้นในอีก 14 ปีข้างหน้าที่จะถึงนี้ ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะประเชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัด แต่บางประเทศอย่างประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกมากขึ้น และระดับของน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีพื้นที่อีกมากมายที่ต้องจมใต้บาดาลแทน เนื่องจากน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

    http://jingro.com/th/science-and-te...that-2030-a-mini-ice-age-is-coming-very-soon/
     
  18. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    วันฟ้าดับ คำทำนาย มหาภัยพิบัติ วันสิ้นโลก
    MThai News : กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากมีผู้นำบทความเรื่อง วันฟ้าดับ โพสในเว็บไซต์ดัง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆ และมีการส่งต่อกันจำนวนมาก

    โดยบันทึกดังกล่าวมีชื่อว่า บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ ซึ่งได้บอกถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันฟ้าดับ และภาพคนล้มตายมากมาย ซึ่งบทความดังกล่าวได้เขียนไว้ดังนี้

    ………………………………………………………………………………………………….

    บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลาน ๆ เรื่องภัยพิบัติ

    เรียนสมาชิกทุกท่านครับ หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของพระคุณลุงออกนำมาเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไป กว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญาณ ของพระคุณลุง โดยที่ผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดในใจผมซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึก ที่เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปผมสิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจผมแล้ว

    ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ
    1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ
    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน
    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ
    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง


    1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

    วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญาณทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขาว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆ ไว้ หลังจากบันทึกนี้ลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่มีการเตรียมการกันนั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ให้หลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและ คณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้อง ๆ และหลาน ๆ ทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญาณนั้น กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้นถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้า จิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆเพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคน สัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หมั่นเจริญมรณะสติ เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญาณทัศนะของลุง เพื่อให้หลาน จะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างตามเหตุและปัจจัย แต่ เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนซึ่งวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง


    เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่า วันฟ้าดับ ก็แล้วกัน เพราะในยามนั้น สิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิฐาน ไปยังวันก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน ก่อนหน้านั้นลุงเห็น คนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับย้อนหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังฉลองสิ้นปีใหม่) ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้ชัดเจนทั้งขนาด และความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้ เงียบจนไม่พลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ


    ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่าง ๆ จะตื่นกลัววิ่งหนีแบบ ไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม่แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุด แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ ๆ กับมนุษย์ ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อกันแม้แต่อยู่ใกล้ ๆ กัน

    ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัยและ ที่ ๆ มีการเตรียมการอพยพขอให้หลาน ๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่ หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้ว หลังอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บน รถขนาดใหญ่ที่มีการชน ภาพคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบ ลงมาทันที ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือ ๆๆๆๆๆ ขอให้หลานและทุกคนอยู่ในที่ห้องแข็งแรงของเรา หรือคนที่ อยู่นอกพื้นที่ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้น จะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ไหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหูนอนกลิ้งเกลือก ไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคน ที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหูให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้

    หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรงและสั่นต่อเนื่องกันผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเอาเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะ ขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามนั้นนิมิตลุงอาจจะมี เพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียงเพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนา ที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิงกลับไป ในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิง ออกมาอีก หลานวิกรม ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกัน ร้องไห้ เป็นกลุ่ม ๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูมฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้

    ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอบฟ้าแดงจ้า จนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่ง จากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลุงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำ ๆ เหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือ ของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้ ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่น แม้แต่วาเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าอเนจอนาถมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื้ออึงอยู่ แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปะสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้ให้สำหรับแต่ละคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแบบที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ ด้วย

    ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้วแต่ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให้เสร็จก่อนที่เดินทางไปหาพระอาจารย์ ภาพที่เกิดมาลุงรู้สึกเศร้า ใจกับญาณทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนา สาหัสกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห็นการคร่ำครวญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเตรียมมรณะสติไว้เลย ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรมและไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้นรูปฌานและอรูปฌาน 4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องอเนจอนาถซ้ำเติมมนุษย์ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพ คนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะ ๆ มากบ้างน้อยบ้างภาพเพดาน สิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนเจ็บคนตายร้องครวญคราง

    แต่วิกรมมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากอีก ลุงเห็นภาพ น้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดกำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังคนที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยักษ์ ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กลาดเกลื่อน เต็มไปหมด แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิฐานไปยังหลังจากนี้แล้วกลับอเนจอนาถ ยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งหมดในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้นไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่อง กับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตา ให้ญาณทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา

    ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลาน ๆ ด้วย

    …………………………………………………………………




    2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

    วิกรมที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามาก และที่มอบให้หลานเพราะ หลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิตรวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ในระดับที่ จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดีแต่ ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป บันทึกในส่วนนี้ลุงขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุง จะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมาก ที่ลุงต้องรีบบันทึกเพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยังหลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน

    วิกรม ในส่วนของพื้นที่ ๆ ได้มีการจัดเตรียมไว้นั้นที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ใกล้ลงมานั้นและรับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มนั้นลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลาน ๆ จะร่วมกันพิจารณา บันทึกในส่วนก่อนลุงเล่าถึงเรื่อง มีก้อนน้ำแข็งที่ตกมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องแข็งแรงนั้นขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริม เหล็กกันกระแทกด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้เป็นห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็นหลัง จากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้นถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็น ตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

    เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมาเพราะว่า ภาพที่ลุงเห็นถัดไปก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ้กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภูมิพล และหลาย ๆ เขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลายแต่ ขอบ ๆ เขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดิน มีรอยร้าว และมีน้ำกัดเจาะเข้าไป จนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้านจน สุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพน้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น

    ที่เชียงใหม่บ้านเราได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าทีอื่น ๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัด-แม่กวง แตกพังทลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อนจะกวาด บ้านเรือนที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาล ที่ติดแม่น้ำปิงเห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูก ๆ และแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อยก็ เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมากเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่า เขื่อนแม่กวง

    ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทลายจากก่อนหน้านั้นผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกันเพราะเขื่อนบ้านเราอยู่ใกล้เขื่อนน้ำเดินทางเพียง สองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแลคงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาด ไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถว สันทราย เมือง สันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน ลุงจะเตือน ป้าแดงของหลาน และญาติของเราแล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา แต่การสูญเสียบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบไม่ได้ ลุงเห็นภาพ เจดีย์วัดอรุณ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึงกรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน ลุงย้ำตอนนี้ขอให้เลือกพื้นที่ อย่างไรก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใคร ที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหว แล้วสายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ ๆ ปลอดภัยก่อนเพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

    อดคิดถึงเชียงรายพะเยาไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่จีนสร้างไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ แตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็หมายถึงมีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่ หลานอย่าแปลกใจเลย ที่จุดปลอดภัยของ เชียงรายอยู่ที่ดอยตุง มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะว่า ในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้นใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใด ๆ คงไม่ใช่ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยง ๆ ๆ พอ ๆ กับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อน น้ำแข็งจะร่วงมาจากฟ้า เพราะฉะนั้นเวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมาอย่าออกจากห้องเพราะ มันจะเป็นแสงฟ้าแลบ และจะตามด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลาน ๆ อย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสงเพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่ บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงให้เตรียมไว้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิด ให้อยู่ในห้องแข็งแรง นั้นอีก 3 วันหรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมดที่เตรียมไว้ 4 วัน จึงออกมาจากห้องแข็งแรงได้

    ในช่วงที่อยู่ในห้องแข็งแรง ขอให้หลาน นำน้อง ๆ และลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินเพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊ก กับหนูบ๊วย สวดด้วยอย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้ วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้อง ทานอาหารแห้ง ๆ อย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน

    ย้ำเรื่องการออกจากห้องแข็งแรง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็ก ๆ โดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมี เชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้ว ตรงกันก็คือวันฟ้าดับนั้นประมาณ 3 วัน ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลาเพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ

    ในส่วนที่อื่น ๆ หลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกร่างจนชำนาญนั้นก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่น ๆ ได้

    วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ไหวแล้ว ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุงที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว

    …………………………………………………………………




    3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ

    วันนี้วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลานและคณะที่เตรียมการกันมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้

    วิกรม ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำได้จะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณหภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหาร เพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่า สองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลและคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้

    ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อในระหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กาง อีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้อง ๆ หลาน ๆ ไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบาย ๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็ก ๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป้ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อย ๆ ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ

    เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็ก ๆ ได้ ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญาณให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้จะได้ประมาณสถานการณ์ได้

    ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไปถนนคนเดินกรุงเทพไม่เหลือ สภาพให้จำได้ ลุงกำหนดจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่อเนจอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากเท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจระเข้ ที่ภูเขาทอง ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหา ปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่

    ลุงเห็นภาพซากเขื่อนที่จังหวัดตาก แตกกวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหารบางคนใส่สูทอยู่เลยแต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่น ๆ มีการฆ่ากัน ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด

    ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาว ๆ อายุประมาณ 40-50 ปี อีกองค์ อ้วน ๆ คล้ำ ๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ย ๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ไหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่าลุงผ่านไป หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ย ๆ และมีวัดบนภูเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์ หรือลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญาณทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ ๆ กายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญาณทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้

    หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ได้ ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้าย ๆ กันถึงความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วยลุงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคนที่เกิดมาร่วมกัน

    ผู้โพสต์บันทึกพระคุณลุง ที่บันทึกไว้ให้หลาน ๆ ก่อนออกบวช
    วิกรม หลานพระคุณลุง

    …………………………………………………………………





    4. คนไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

    บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลานก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อ ติดตามพระอาจารย์โสณะซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวช ตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากอยู่แล้วเพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลาย ปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูก ๆ หลาน ๆ และช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสา จนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้

    บันทึกนี้ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้วต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่าพระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้วและมีเวลาศึกษาอะไรนาน ๆ ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลาย ๆ ภาษา และถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต ลุงได้ถามว่าพระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดียในสมัย พระเจ้าอโศกเพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้ม ๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องละ ลุงเลยบอกว่าเพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เลี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และที่ลุงมั่นใจเพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระ อาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด

    วิกรม สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้เป็นการบันทึกที่ผ่านญาณทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ ๆ กายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้น ๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำให้การผูกจิตข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร

    สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลานก็คือ ต่อไปประเทศไทยหลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่าในญาณที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือขึ้นผิดทาง ที่เราเคยเห็นมาโลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว

    ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่าง ๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสานยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเล สูงเท่าตึก 5 ชั้น 7 ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดินตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้วก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลากินเป็นอาหารอีกมากมาย ภาคใต้คนจะเหลือน้อย จริง ๆ ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเราก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และกว่าน้ำจะลดลง จำนวนตายมากจนคนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญาณที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญาณเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง

    คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำ กลับกินไม่ได้เลยกลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้ายคนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไป

    ทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาศจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าอธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ ก็คงจะลำบากหน้าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิตน่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ด เพาะเห็ด ที่ให้พะดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้ นานพอสมควร ที่หลาน ๆ จะได้ปรับตัวกันได้

    หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์กับหลานไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้ อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่น ๆ ขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลุงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวจสอบและสับเปลี่ยนยา อาการหลอดในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย

    ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้อง ๆ หลาน ๆ ฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็ก ๆ ทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ ให้ ลุงเขียน Username และ Pass ไว้ที่หน้าจอแล้วถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเว็บพลังจิตก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความพร้อม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลาน ๆ ด้วย สิ่งใด ๆ ที่ลุงได้ล่วงเกินหลาน ๆ และทุกคน โปรดเมตตาอหสิกรรมลุงด้วยลุงหมอของหลาน ๆ ทุกคน

    วิกรมหลาน พระคุณลุงคนเชียงใหม่ โพสต์
    ข้อความในบันทึกใด ๆ ที่มาจากบันทึกนี้ก่อให้เกิดอกุศลกรรมกับผู้ไดโปรดเมตตาอโหสิกรรมให้กระผมด้วยครับ
    วิกรม

    ขอบคุณข้อมูลจากบอร์ดพลังจิต

    Mthai News
     
  19. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8

    เรื่องลุงเชียงใหม่เนี่ยมันเป็นเรื่องหลอกลวงที่มาจากในบอร์ดนี้ คือมันมีคนนึงสมัครซะหลายล็อกอินแล้วก็ปลอมตัวเข้ามา เป็นลุงซะนานเลย ไปๆมาๆปลอมมาเป็นหลานบอกว่าลุงทิ้งบันทึกให้ ทิ้งช่วงไประยะหนึ่งก็ปลอมตัวเข้ามาใหม่ แล้วก็เข้ามาเป็นระยะๆ มันมีเป็นสิบล็อกอินได้มั้ง

    จนมีวันนึงมีคนจับโกหกได้ว่าไอ้นี่แหละลุงเชียงใหม่ มันเลยเข้ามาลบกระทู้ลุงเชียงใหม่ที่มีเนื้อเรื่องที่เอามาลงเกลี้ยงเลย แล้วก็ลบโพสท์ของตัวเองในอีกชื่อหนึ่งด้วย

    ทีนี้ดันมีคนหน้ามืดตามัวอยากอ่านเรื่องโกหกต่อเลยไปอ้อนวอนแอดมินให้ขุดขึ้นมาใหม่ มันก็เลยยังมีอยู่ในบอร์ดนี้ ชื่อกระทู้บันทึกของพระคุณลุงอะไรซักอย่าง

    ลุงมโนแกบอกหลานให้ซื้อตู้คอนเทนเนอร์ ให้ตุนอาหารเตรียมไว้ ซื้อชุดป้องกันไข้หวัดนก แล้วไปอยู่หมู่บ้านลึกลับ ตัดขาดโลกภายนอก ก็เหมือนไปอยู่ป่านั่นแหละ

    ตัวละครลุงเชียงใหม่มันเป็นตัวละครตัวนึงในหลายๆล็อกอินที่สร้างมา แล้วบันทึกที่เขียนในล็อกอินลุงเชียงใหม่มันจะเป็นจริงได้ยังไง คือมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยแค่ใช้ความเป็นเหตุเป็นผลธรรมดาๆ
     
  20. pavartee

    pavartee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +8
    ตอนต้นๆ ใครเห็นเราเหมือนพูดอยู่คนเดียว อย่าแปลกใจเน้อ เจ้าของกระทู้แกมาลบโพสท์ตัวเองทิ้งเกลี้ยงเลย 555
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...