คำเทศน์ของผู้มาทรงกระดานบางตอนจากหนังสือพรสวรรค์ โดยคณะพรสวรรค์ (รวมเล่ม1-2-3)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย yeen, 29 พฤษภาคม 2006.

  1. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +3,656
    รูปปกหนังสือครับ จากเวบพระรัตนตรัย


    [​IMG]



    คำเทศน์ของ เสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์


    24 มกราคม 2522
    <o></o>

    ดูๆ ก็แปลกนะ เรื่องที่บนกูทั้งหลายนั้น ไม่ใช่ความสามารถของกูหรอกที่ทำได้ คือทำให้เขาสำเร็จดังบน แต่อยู่ ด้วยโชค ความดี บุญวาสนาของเขา และที่สำคัญคือ ความพยายาม ส่วนกูนั้นเป็นเพียงผู้จัดทำบุญวาสนานั้นให้ตรงตามจังหวะ วาระกรรมเท่านั้น เขาก็หาว่ากูศักดิ์สิทธิ์ ความศักดิ์สิทธิ์นั้น อยู่ที่กำลังใจของเรา


    18 กรกฎาคม 2522

    ( ถาม - อยากให้ลูกน้องปกครองง่าย )
    <o>
    เมื่อเวลาเกิดเรื่องให้ว่าคาถา โหตุ โหตุ อาภากโร อิมสมิงโหตุ โหตุ
    ท่องทุกเช้าก็ดี กูให้คนของกูคุมตัวต่อตัว<o></o>


    --------------------------------------
    พระบรมราโชวาท ร.1
    <o></o>

    25 กันยา 2518
    <o></o>

    จะขอให้ลูกหลานไทยทั้งหลาย จงตั้งจิตมั่น แผ่อุทิศบุญบารมีส่วนกุศลให้แก่พี่น้อง บิดา มารดา บุพการีทั้งปวง และอุทิศให้แก่อริราชศัตรูในพิธีกฐิน ขอขอบใจทุกคน
    (หมายเหตุ:- การอุทิศให้ศัตรู มีผลให้ศัตรูแพ้ภัยตัวเอง)
    <o></o>

    ทรงตอบคำถาม
    ขึ้นชื่อว่ากษัตริย์ หาความสบายไม่ได้<o></o>
    อย่าวิตกกังวลไปมาก ชาติเราไม่ถึงกับอดตาย เป็นไปตามวาระ
    <o></o>
    <o></o>
    -----------------------------------</o>

    จากหนังสือพรสวรรค์ โดยคณะพรสวรรค์ (รวมเล่ม1-2-3)


    **เรื่องไหน คิดว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ยังไม่เคยอ่าน จะทยอยพิมพ์มาเรื่อยๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2006
  2. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +3,656
    เอ่อ ไอ้ตัวแลบลิ้นมันขึ้นมาทำไมเนี่ย ไครรู้ ช่วยบอกผมที -__-"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2006
  3. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +3,656
    คำเทศน์ของท่าน ธรรมภิกษุ

    ท่านธรรมภิกษุเป็นสมาชิกคณะพรสวรรค์ เมื่อถึงมรณกรรมไปแล้วกลับมาคุยกับคณะพรรคได้ ชื่อข้างบนของท่านคือ ธรรมภิกษุแต่เวลาสนทนายังให้สรรพนาม อ๋อย’’ และแสดงเพศหญิง เพื่อเป็นเครื่องจำได้หมายรู้ เคยใช้สรรพนามกับไครก็คงใช้ตามเดิม ในการสนทนากับหลายๆคน จะไม่แยกเป็นรายบุคคล

    14 มกราคม 2521

    ขอบคุณมากนะจ้ะ
    คุณจ้ะ ทำใจได้ไหมจ้ะ
    อ๋อยสบายดีมากเลย ได้พบทุกๆองค์ ไปไหนก็สบาย
    (ถาม เห็นสมเด็จประทานม้วนอะไร ? )
    ให้ตัดเรื่องห่วงวัด ท่านทรงให้ดูคำพยากรณ์ของวัดและหลวงพ่อ
    (ถาม -- อารมณ์ที่ทำให้จิตได้นั้น ตอนไหน )
    ก่อนตาย ถ้าทำได้ ก็ไม่พ้นวัน
    (ถาม มีความรู้สึกยังไง? )
    ทุกข์เกิด เป็นห่วงหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อท่านมา ท่านสอนว่าไม่ให้ติดในตัวบุคคล อยากให้ทุกคนรีบขึ้นไปจัง อิสระจริงๆ ไปไหนหรือหาไครก็สะดวก ได้ไปกราบพระจนชุ่มใจจริงๆ
    (ถาม ตอนเสวยวิมุตติสุข เป็นยังไง? )
    เบา อิ่มใจ สบาย เบาใจ สดชื่นเสียดายว่าเราโง่ตั้งนาน พวกเราไปได้ทุกคนเลย มีความสุขจริงๆ
    (ถาม -- ตอนไป ไปในฌาณ4หรือ? )
    ฌาน4
    ( ถาม -- งั้นคนไม่ได้ฌาณ4ทำไง? )
    ถึง แต่ไม่รู้
    (ถาม ถึงในเวลาพิจารณา หรือในเวลาทำสมาธิ ? )
    ถึงทั้งเวลาพิจารณาและอยู่เฉยๆ ตอนยังไม่ตาย อ๋อยเคยได้อะไรที่ไหน
    (ถาม อยากถามเรื่องฌาน )
    อย่าเพิ่งถามเลย ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองไปได้ยังไง ขอศึกษาก่อนนะ
    (ถาม พระรูปของสมเด็จองค์ปฐม ท่านเสกให้หรือเปล่า?)
    เดี๋ยวนี้ท่านก็เสด็จ
    (ถาม ถ้าสงสัยพระต่างๆ ว่าองค์ไหนเป็นอะไรแค่ไหน จะตอบได้หรือไม่? )
    ต้องไปทูลถาม เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นบอกได้เอง ต้องทำความเพียรต่ออีกหน่อย
    (ถาม ตอนก่อนตายคงมารับกันกระมัง ?)
    มากันมาก เห็นแล้วตกตะลึง
    (ถาม มารับก่อนสิ้นใจหรือ?)
    ใช่ สวยมากๆ สมเด็จ ทรงฉัพพรรณรังสีสวยที่สุด
    (ถาม หลวงตา บอกว่า จะไปหนักมากตอนกุมภาพันธ์ ทำไมไปเสียก่อน? )
    ขืนอยู่ก็ต้องครึ่งหลับครึ่งตื่นอย่างนั้น<o></o>


    25 มกราคม 2521

    (ถาม --ขอทราบชื่อข้างบน ?)
    ธรรมภิกษุท่านเห็นว่าอ๋อยเลี้ยงพระมามาก รู้หรือเปล่าว่าอ๋อยไปเพราะเลี้ยงพระนะ
    (ถาม จิตตอนไกล้จะดับเป็นยังไง ?)
    ตอนนั้นนะจ้ะ พิจารณาความทุกข์ของร่างกายว่ามันเลว ใจเลยสบาย คือเราอย่าไปคิดเจ็บตาม(ไปกับ)ร่างกาย อารมณ์เหมือนคนเคลิ้ม ครึ่งหลับครึ่งรู้สึก นั่นแหละจะรู้สึกเบาขึ้น เบาขึ้นเรื่อยๆ จนใจเราจับอยู่ที่พระจะเห็นพระท่านใสขึ้น นั่นแหละที่ตัวเราแยกออกโดยแท้เลย ที่จริงอ๋อยหลุดไปเกือบวันแล้วนะ อ๋อยถึงได้เห็นร่าง และได้พิจารณาร่าง(ของตัวเอง) เรามีพระชั้นเยี่ยมๆนะ จับท่านไว้ให้ดี

    (ถาม ตอนเผามีฝนปรอย พี่อ๋อยทำหรือ ? )
    พระย่ะ
    (ถาม เริ่มตัดตอนไหน ? )
    วันที่11 นะจ้ะ ตอน3ทุ่ม รู้สึกปวดหัวมาก จะเหมือนวันอาทิตย์ ทนแทบแย่ ใจฉันก็นึกถึงหลวงพ่ออยู่ว่าท่านจะให้อยู่ต่อต้องขอไม่ทรมาน แล้วอารมณ์ก็ชักเคลิ้มๆ พิจารณาว่าร่างกายเรานี่มันทรมานจริงๆ แค่นั้นเองหลวงพ่อท่านก็ปรากฏขึ้น ใจคิดนะ แต่ไม่เหมือนหลวงพ่อตอนนี้หรอก สวยมาก ใจเลยจับที่ท่านกับสมเด็จองค์ปฐม
    พอดีตอน4ทุ่มกว่าๆ หลวงปู่(ธรรมชัย) ท่านก็มาทำพิธี ตอนนั้นจิตยังกึ่งห่วงกึ่งไม่ห่วงอยู่ ใจยังได้ยินเสียงหลวงปู่ชัดมาก เลยได้ฟังท่านสวดอะไรต่ออะไรจนเคลิ้มอีกครั้ง คราวนี้ได้พบพระมากมาย หลวงพ่อ หลวงปู่ชุ่ม หลวงปู่วงศ์ หลวงปู่คำแสนเล็ก หลวงปู่คำแสนใหญ่ท่านก็มา ท่านให้กำลังใจมากโดยเปล่งฉัพพรรณรังสี เห็นคราวนี้ติดตา พร้อมกับได้ฟังหลวงปู่อีกครั้งในเรื่องของทุกข์ ชาดก จิตก็เลยพิจารณาตามดูตัวเองที่นอนอยู่ ดูกายที่ดีกว่าสังขารขันธ์5 แล้วหลวงพ่อท่านจึงชวนไปดูที่อยู่ใหม่ ตอนนั้นสมเด็จตรัสว่ายังติดที่ห่วงงานของวัดหลวงพ่อ เป็นตัณหาอย่างหยาบๆอยู่ เลยต้องพิจารณาทบทวน ท่านทรงเมตตาแสดงภาพในอนาคตให้ปรากฏขึ้น ฉันเลยสบายใจขึ้น
    ตอนตี3 ต่อตี4 เมื่อจิตคิดทบทวนไปมาเรื่องภาระต่างๆ เรื่องวัดหลวงตา เรื่องคุณและลูกๆ พร้อมทั้งดูสังขารตัวเองว่ามีแต่จะทรุดลงๆ แล้วยังทำความลำบากให้กับอีกหลายคน ไหนๆก็จะทิ้งแล้ว ไม่ต้องให้ไครเขามาลำบากกับเราอีก เมื่อจิตคิดเพียงเท่านี้ใจเลยเป็นสุข อิ่มเหมือนกับเราตัดสินใจ ตกลงใจจะเอาอะไรอย่างหนึ่งแน่นอน นั่นแหละที่เรียกว่า วิมุตติสุข

    (ถาม --ตอนจิตออกไปไม่รู้ตัวใช่ไหม ? )
    จ้ะ เหมือนคนเคลิ้มๆ แล้วเลยไป
    (ถาม นี่เป็นฌาณ4ด้วยหรือ ? )
    จ้ะ
    (ถาม จิตไม่ได้จับพระนิพพานหรือ ? )
    จับซีจ้ะ จับอยู่ตลอด นี่เล่าให้ฟังถึงความรู้สึก
    (ถาม ทิ้งร่างไปตั้งแต่ตอนตี4หรือ ? )
    ใช่จ้ะ ร่างมันยังทำงานของมันไปจนกว่าถ่านจะหมด
    (ถาม แล้วอยู่ตรงนั้นถึงกี่โมง ถึงไปข้างบน ? )
    เคลื่อนไปอยู่เรื่อยๆจ้ะ เพราะท่านพาไปดู
    (ถาม -- ไปแล้ว เขามีพิธีอะไรบ้าง ? )
    วันนั้นแหละจ้ะ ท่านก็เรียกเป็นเอหิภิกขุ
    (ถาม กระดูกพระอรหันต์ เขาว่าต้องเป็นพระธาตุ ? )
    อยู่ที่อธิฐานจ้ะ ไครจะไปรู้ว่าจะได้เป็นล่ะจ้ะ
    (ถาม -- บนพระนิพพานมีเพศหรือเปล่า ? )
    ไม่ค่ะ
    (ถาม -- ท่านเป็นภิกษุ หมายถึงผู้ชาย ? )
    พระค่ะ เราอย่าไปติดเพศสิคะ
    (ถาม พวกสุขวิปัสสโก ไปข้างบนยังไง ? )
    กายทิพย์ยังไงคะ กายบุญ เหมือนเขาทำหุ่นไว้<o>:p</o>

    <o></o>
    --------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2006
  4. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +3,656
    คำเทศน์ของหลวงปู่ทวด


    23 กรกฎาคม 2518

    <o>

    </o>
    วันนี้เป็นวันที่พระรัตนตรัยเกิดขึ้นครบในภพ เธอนับถือคุณแห่งพระพุทธคุณ คุณแห่งพระธรรมคุณ แห่งพระสังฆคุณ ตรงไหน?
    ตรง คุณ
    พระคุณพระรัตนตรัยนั้น มีคุณเอนกอนันต์
    พระพุทธ ทรงค้นพบ พระธรรมเป็นอริยสัจ พระสงฆ์เป็นผู้แจง นี้ยังจำแนกเป็นรายละเอียดอีกโข สุดที่จะบรรยาย
    (ตอบปัญหา)
    ถ้าลงด้วยไตรลักษณ์ ก็แจ้งแล้วลูก ใจ ใจตัวเดียวที่จะปล่อยทุกสิ่งให้พ้น
    (ถาม ความหมายของการตัดรูปนาม?)
    รูปยึดไว้ทำไม นามยึดไว้ทำไม ยึดกับติดไม่เหมือนกัน ยึด หมายถึงเราเกาะ ในสิ่งนั้นอย่างเต็มกำลัง ติดหมายว่า ยังเบากว่ายึด
    การพิจารณาวิปัสสนานั้น เป็นตัวตัดกิเลส รวมความพิจารณาเป็นตัวตัดซึ่งกิเลส รวมความพิจารณาเป็นการดับรูป ดับนาม เข้าใจไหม
    สมถภาวนา เป็นการเริ่มทำสมาธิให้เกิด เมื่อขณะใดที่ใจเรายังติดในนิวรณ์ ศีลมี สมาธิก็มี ปัญญาก็เกิด ปัญญาเกิดก็พิจารณาให้เด็ดขาด
    (ถาม -- อารมณ์กับการปราถนาต่างกันอย่างไร?)
    ตั้งใจปราถนา กับ ตั้งอารมณ์พิจารณาต่างกันมาก การตั้งใจปราถนานั้น เป็นอธิษฐานบารมี การตั้งอารมณ์พิจารณาต่างกันคือ เราต้องตั้งสติให้คงตัว สติสัมปชัญญะนั้นแปลว่าความระลึกได้ ระลึกได้ว่าขณะนี้ เราทำอะไร เป็นอะไร

    (ถาม
    การพิจารณาร่างกาย คือ ขันธ์5 ควรแยกกายกับใจหรือ?)
    พิจารณาให้รู้อย่างถ่องแท้ว่า กาย มีอะไรเป็นเครื่องประกอบ ใจ จิตนั้นมีอะไรเป็นเครื่องประกอบ กายมีขันธ์5 เป็นเครื่องประกอบใหญ่ จิตมีอารมณ์เป็นเครื่องประกอบใหญ่
    อารมณ์นั้นมีทั้งดีและไม่ดี ความพอใจ ความไม่พอใจ ความมีจิตเป็นอกุศลกับมีจิตเป็นกุศลนั้น เป็นอารมณ์ใช่ไหม
    (ถาม การพิจารณาร่างกายภายนอก ภายใน ควรหาสาเหตุกลับไปกลับมาหรือ?)
    เหตุผลนั้น ต้องชักสิ่งที่เป็นจุดอ่อนแอที่สุดของตัวเธอ เธอมัวแต่ชักจุดใหญ่ๆ ที่เป็นหลักรวม วิปัสสนาก็ไม่แตกฉาน
    (ถาม การพิจารณาต้องให้ละเอียดหรือ?)
    เราดื่มด่ำธรรมะตรงไหน ทุกคนมีจิตลึกซึ้งในธรรมไม่เหมือนกัน เราจะเที่ยวยกธรรมที่คนอื่นลึกซึ้งมาพิจารณานั้น เมื่อไหร่ล่ะถึงจะแตกฉาน
    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ธรรมของไคร ไครก็จงยกธรรมของคนนั้นขึ้นมา เป็นข้อแจ้งไม่ผิดอะไรจากความชำนาญ ความชำนาญนั้นเป็นความเพียร เธอจะเพียรอย่างเดียวไม่พอ สำหรับเวลาที่ทำบุญต้องมีพลังความพยายามด้วย
    (ถาม วิธีแก้ในเพ่งโทษชาวบ้าน)
    เพ่งโทษตัวเอง ดูในสิ่งที่เย็น
    เก่งนะ วาจา ทุกคนมีวาจาเป็นยอด มีสมองเข้าใจเป็นยอด แต่สติกับการปฏิบัติไม่รู้ละลายไปไหน

    (ถาม
    การหลุดพ้น)
    จะปฏิบัติให้หลุดพ้นหรือ ไครหลุด คนรอบๆหลุด หรือเราหลุด?
    ตัวเราหลุด ต้องพิจารณาในตัวเอง เรามีในตัว แต่ตัวไม่มีในเรา เธอมีขันธ์ มีสังขาร เรามีในตัวใช่ไม? (ตอบ มี) แต่ตัวไม่มีในเรา
    พูดแค่นี้ผู้ฟังธรรมะที่แตกฉาน จะนึกถึงอะไรก่อน? จะไม่พูดถึงทฤษฎีละ เรามีในตัว คือเรานั้นอาศัยตัวลงมาหรือขึ้นมา ทำบุญ ทำกุศลเพื่อให้พ้นซึ่งทุกเวทนา แต่เรานั้นอาศัยตัวเป็นพาหนะ เราต้องเลี้ยงดู มีหน้าที่ต่อตัว หน้าที่นั้นมีขอบเขตเพียงใด? ดูอย่าให้ขาดปัจจัย4 ให้เขาอยู่ในความพอดีแห่งปัจจัย4 แต่เรามักจะเลยไป เลี้ยงยาก เลี้ยงก็ไม่พออิ่ม เกินอิ่ม พักก็ไม่พอ มีเกินพอแต่เรานั้นชอบ ชอบเสียเหลือเกินในความพอใจของร่าง พอจนกระทั่งรับเอาความรู้สำนึกมาเป็นอารมณ์ครอบเราเสียอีก
    อารมณ์เราเข้ากินใจเราก็พัง หลงรัก หลงหวงแหนกิเลส ตัณหา อุปาทาน กินหมด เราทั้งตัว เข้าข่ายลืมตัว ไครว่าก็โกรธ ไครชมก็ชอบ ฉิบหายเข้าตัวเหมือนคำว่าโลก แปลว่า ฉิบหาย หายฉิบ
    (ถาม เราจะพ้นจากโลกได้เมื่อใด ?)
    พ้นได้เมื่อเราทำเรา ให้ ตัวไม่มีในเรา เธอทั้งหลายยังเรียกว่าพวกเธอสำนึกได้ สำนึกว่าวางใจ ไว้ใจตัวมากเกินพอ
    ตัวตาย จิตตายไหม?
    แต่ตัวตาย จิตมันนึกว่าตายด้วย

    (ถาม
    ถ้ามีการกระทบภายนอก มักจะหวั่นไหว)
    ช่างมันๆๆ ท่องเอาไว้ มีถมไป พระพุทธที่ว่าประเสริฐ เขายังด่า นับอะไรกับเราไปแน่นะ
    ทำอะไรต้องทำจริงสุดกำลัง ในเมื่อเราอยากสุดปราถนาจนเป็นอธิษฐาน เราต้องทำให้ได้ และจงได้ ไม่มีอะไรเหนือกว่าจิตของเรา จิตของเรานั้น เมื่อขัดด้วยอริยธรรมแล้วก็จะใส เป็นประกายรุ้ง ดังพระอริยเจ้าทุกองค์ แม้นเปรียบด้วยพระพุทธเจ้าก็ตาม
    โพธิสัตว์ก็ลงอเวจีได้ ยังมีโพธิสัตว์อีกหลายนาม ที่ยังเสวยทุกเวทนา แลอีกไปในที่สุด เมื่อเขาเหล่านั้นได้บำเพ็ญเพียรจนครบความดีแล้ว ก็มีสิทธิเป็นพระพุทธทุกโอกาส
    เราน่ะ มีวาสนาเพียงใด อย่าท้อถอยแม้ขณะจิต แล้วเราจะได้ไม่เสียใจ
    อย่าประมาท จงก้าวอย่างคนมีสติ<o></o>
    <o></o>
    <o></o><o>
    </o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2006

แชร์หน้านี้

Loading...