คำ 3 คำอันตรายสุด ๆ เหนี่ยวรั้งการพัฒนาสุดๆ

¤ พวกใครพวกมัน
¤ ไม่มองตัวเองเสียก่อน
¤ ก็อยากโง่เองนิ่

3 คำนี้ถ้ายังอยู่ในหัวคนไทย จะไม่สามารถพัฒนาได้ทันประเทศเพื่อนบ้านได้เลย

ดังนั้น ต้องไม่คิดและไม่ใช้คำ 3 คำนี้ในวงการนักพัฒนา
ถ้าลบออกจากสมองไม่ได้
ต่อให้มีการเลือกตั้ง
มีส.ส.
มีรัฐบาลเลือกตั้งได้อีกก็พัฒนาไม่ทันเพื่อนบ้าน
แค่ประเทศมาเลย์เราก็ตามไม่ทันและเขมรกำลังจะแซงเราแล้ว
เพราะเราไปติดอยู่กับคำ 3 คำ
ทำให้ไม่สนใจที่จะกอบกู้ให้รัฐสร้างกฏเกณฑ์เพื่อเป็น
มาตรการดูแลพลเมืองที่เสียภาษีโดยเท่าเทียมกัน

 

หากผู้ใดเคยมีเคยใช้ทัศนะเช่นนี้
ทางเดียวที่ลบมันออกได้คือ ในเตาเผาบนเมรุ
หรือไม่ก็ต้องเจริญสติ เจริญภาวนาจนจิตบริสุทธิ์
แล้วค่อยมาช่วยพิจารณาแก้ปัญหาให้สังคมใหม่

 

ที่ไทยเรายังมีพวกใครพวกมันได้ เพราะไทยเราอยู่กันอย่างสันติ ไม่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเอง
แต่เขมรนั้น ไม่มีพวกใครพวกมันแล้ว มีแต่พวกกู เพราะพวกอื่นก็ฆ่ามันไปหมดแล้ว
เหลือแต่กูพวกเดียวเนี่ยะ ก็เลยไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนา
ลองดูเขมรในปัจจุบันซิ ใครกุมอำนาจในประเทศ อยู่ในอำนาจมาแล้วกี่ปี
มีการผลัดเปลี่ยนผู้นำไหม กษัตริย์มามีอำนาจทางการเมืองไหม ?

 

ถ้าไทยจะเอาแบบเขมร ก็ต้องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเอง
คือให้เหลือเฉพาะ ฝ่ายเจ้า หรือฝ่ายที่อยากจะล้ม....
พอเหลือแค่พวกเดียวแล้ว ทีนี้การพัฒนาก็ง่ายขึ้น ? (เป็นแบบนั้นรึเปล่า)

 

มาเลย์ สิงคโปร์ไม่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์
แต่ที่ประชาชนไม่ตีกันเนื่องจากรัฐใช้มาตรการ
ฆ่าความโง่ ฆ่าความเป็นปัจเจก ด้วยการศึกษา
ให้รู้สถานะที่แท้จริงของประเทศตนเอง
ว่าเป็นอย่างไร และจะใช้ต้นทุนประเทศที่มีอยู่
หารายได้มาบำรุงพลเมือง และสาธารณูปโภค
ให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขอย่างไร
ในที่สุดก็พาประเทศ
ไปสู่การพึ่งพาตนเองได้...โดยปราศจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

 

ผมถือว่า เป็น 3 ประโยคในหัว ก็แล้วกัน

¤ พวกใครพวกมัน
¤ ไม่มองตัวเองเสียก่อน
¤ ก็อยากโง่เองนิ่


3 ประโยคนี้ มันเป็น "อีโก้" ที่ติดตัวคนไทยไปแล้วล่ะครับ ลบออกยาก ถึง ยากที่สุด อะ 55555+

 

ไม่มีใครเกิดความเบิกบานกับคำว่า " ช่วยไม่ได้ก็อยากโง่เอง"
หรือ " ทำอะไร ไม่มองตัวเอง"

มีแต่ฟังแล้วสลดใจทุกคน.....เหมือนหนึ่งว่าเราทำผิด 100% อยู่คนเดียวสิ่งแวดล้อมเราไม่มีส่วนเลย...มันก็ไม่ใช่
ตย.คนพิการยังต้องได้รับการจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม

คนปกติก็ควรได้รับการจัดการสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม
เพราะฐานะทางเศรษฐกิจและทักษะการการใช้ชีวิต
มีเด่นมีด้อยไม่เท่ากัน. ...เเต่เรื่องพื้นฐานรัฐควรจัดให้เท่า
เทียมกันจึงจะเรียกว่าเจริญ ใช่มิใช่

 

รัฐจะรุ่งเรืองต้องมาจากวิสัยทัศน์ที่แจ่มชัด
เพื่อชาติของพลเมือง
พลเมืองจะมีวิสัยทัศน์ที่มีอุดมการณ์เพื่อชาติเพื่อเผ่าพันธุ์

ต้องรู้ประวัติศาสตร์ชาติของตนเอง
จึงจะไม่สามารถถูกบ่อนทำลายจากภายนอก
ที่ไม่หวังดี
แต่หวังผลประโยชน์จากแผ่นดินของเรา

 

ต้องเอา คำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้า มาช่วยวิเคราะห์ ถึงจะไม่หลงประเด็น

โง่ ในทาง สาสนังคำสอน หมายถึง อวิชชา .....ให้ยกเลิก โง่ ที่เป็นเรื่อง
การวัดผลการจำได้ นกแก้วนกขุนทอง ไปเสีย

ไม่เช่นนั้น จะ งง ยกตัวอย่าง บิลเกต มาร์คซักเคอร์ สตีปจ๊อบยักษ์ภุมเทวดา
สามคนนี้ โง่ เรียนไม่จบ !! แต่ในทางธรรม จะเป็น คนที่ฉลาด ไม่ตีบตัน
ในภูมิธรรม(ปัญญาธรรม)

ทีนี้ ถ้าสามารถเอาคำ อวิชชา แทนคำว่า โง่ ได้

มันจะไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ สรพพสัตว์เป็นแสนโกฏิจักรวาล ล้วนอยู่ใน อำนาจอวิชชา

แล้วก็เพราะ อวิชชานั่นแหละ จึงมองกิเลสที่ตนไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้ เป็นเรื่องปรกติมนุษย์

และพวกใครพวกมัน ก็สะท้อนออกมาจาก การมองกิเลสตนไม่ออก จึงทำให้เกิด
การ เข้ากันด้วยธาตุ ด้วยพฤติกรรมเดียวกัน

ดังนั้น การบริหาร ไม่ใช่ไป จัดสรรทรัพยากร ให้เท่าเทียมกัน เพราะ คนโง่มัน
ไม่รู้จัก ถึงเอาไปใช้ก็ใช้แบบโง่ๆ มีแต่เรื่องเรือหาย

การจัดสรร ให้เป็นไปตามธรรม พอเพียงแก่ความสามารถ จึงจะพัฒนาประเทศได้

เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เราสามารถส่งเสริมคนดี(คนฉลาดทาง
ธรรม ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจอวิชชาเกินไปนัก)ให้เข้ามา บริหาร รับทรัพยากรไปใช้

คนดีที่มีจิตพ้นอวิชชาตามกำลัง จะนำพาความ สงบ สันติ มายังแผ่นดิน ฝนตก
ต้องตามฤดูกาล ไม่มีภัยพิบัติ มีคถาดูดทรัพย์ที่มองไม่เห็น ที่ยังไม่มา ก็ขอ
ให้เข้ามา

 

ยกตัวอย่าง กรณี แก้ปัญหา 1สถาณีรถไฟฟ้า ไม่เชื่อมต่อ

ท่าน นายกฯ บอกว่า ไม่ได้สนใจว่า ใครจะดี หรือ ไม่ดียังไง
แต่ก็ให้โอกาส ทุกกลุ่ม ทุกคน ได้เจรจา จัดสรร(กิเลส)ตาม
แต่จะพอใจกันทุกฝ่าย ก็ให้เวลาไปแล้ว 3ปี ก็ยังเถียงกัน
เรื่อง ทรัพยากร ที่ควรได้ ไม่จบ

ถ้าไม่จบ เดี๋ยว ท่านจะเอามาทำเอง วันเดียวก็ จบ !!!

เป็นการ จบ ที่จะมา ร้องโวยวายอะไรไม่ได้อีก เพราะ ให้โอกาส
" ทุกกลุ่มพวกใครพวกมัน " แล้ว

 

วันนี้อ่านกระทู้เด่น Pantip.. เรื่องคนไทยทำงานกับบริษัทเกาหลี

เอาเนื้อเรื่องสรุปคือ คนนั้นเขาเอียนกับคนเกาหลีมาก และเหมือนคนเกาหลีมองไทย
เหมือนคนไทยมองพม่า .. หลายครั้งตอนประชุมไม่เรียกประชุมด้วย พอจะคุยกันก็
ไม่คุยภาษาอังกฤษ แต่คุยเกาหลีกัน .. คุยแล้วค่อยมาบอก
เหมือนเป็นชนชั้นล่าง ชั้นกรรมกร พบกันก็ไม่จับมือทักทายด้วย

เขาบอกว่า ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนเกาหลียังตามหลังไทยอยู่เลย
ตอนนี้เขาทิ้งเราไปไกลมาก .. อยากเห็นไทยเจริญบ้าง

 

ถ้าเทียบจากความสำเร็จของเกาหลีนะ

ปัญหาของชาติไทยคือ
* ความรักชาติ และความทะเยอทะยาน เพื่อประเทศ ของคนไทยมีน้อย *
* ส่วนพอทะเยอทะยานแล้ว จะเอาเข้าตัวหมด .. *
* ก็อาจจะจริงนะว่าปัญญาอาจจะไม่ถึง แม้ว่าจะจบดอกเตอร์มาก็เถอะ *


ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่าเกาหลีเจริญกว่า แล้วทุกอย่างจะดีกว่านะ

 

ช่วงนี้ ลูกสาวลุงแมวไปเป็นพนักงานขาย
หารายได้ระหว่างเรียนภาษาอยู่ที่ซิดนีย์
ยืนขายซูชิในห้างแห่งหนึ่งให้แก่นายจ้างที่เป็นชาว
เกาหลี โดยจ่ายให้ 13 AuD/ ชม.
ตอนเลิกงานตอนเย็น
ทุกเย็นนายจ้างจะให้ซูชิหิ้วกลับมากินที่บ้าน
แถมเลี้ยงอาหารเกาหลีมื้อกลางวันฟรีอีกด้วย

ยังแปลกใจว่านายจ้างเกาหลี ใจดีจัง
คงเป็นบุญของลูกที่ได้ไปทำงานกับนายจ้างแบบนี้
กินฟรีตอนกลางวัน และมื้อเย็นมีหิ้ว
และจ่ายค่าแรงจ้างแพง
กว่านายจ้างคนไทยด้วยกัน

 

มีหลายคนบอกว่า .. คนเกาหลีที่โตและอยู่ต่างประเทศนิสัยส่วนใหญ่จะดี
ส่วนคนเกาหลีที่โตในประเทศเกาหลี ส่วนมากนิสัยไม่ดี
(ยกเว้นคนสมัยใหม่ นิสัยดีขึ้น)

 

ลูกสาวลุงสวยป่าว อย่าลืมสุภาิษิตไทย"หว่านพืชย่อมหวังผล"

 

สวยแต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องดูแล เพราะมีแผนกขายหญิง ๔ คน
ได้รับการปฏิบัตืแบบเดียวกัน..

เป็นสวัสดิการของคนงานที่จะได้ใจเพื่อทำงานอย่างมี
ประสิทธิภาพมากกว่าการบ่นหรือด่าลูกน้อง
เพื่อให้ทำงานให้ดี

 

ถามอย่างนี้ .. ตั้งกระทู้ใหม่เฉพาะเรื่องนี้เลยดีกว่าครับ

 

ไม่เป็นไรครับ ท่านYosนี่พวกกันครับ!!!
เผื่อจะพึ่งได้ในวันข้างหน้าครับ

 

อาจเป็นเพราะคนไทยไม่ชอบเด็กแนวอะครับ
แต่ไอเดียเจ๋งๆ ส่วนใหญ่ได้จากการทำไรแปลกๆแหละ
มันก็มีข้อดีข้อเสียไปตามเรื่องราวมัน
ส่วนใหญ่ฝรั่งเขาใส่มาไว้ในเกมกดหมดแล้วอ่ะ
เพราะการแสดงออกจริงๆ มันเปลืองงบ จึงจำลองในคอมพิวเตอร์ไปก่อน

 

ฟังแล้วอยากให้มีจักรแก้วบินในเมืองไทย