คุยกันประสาศิษย์ ตอนคุยไปแจกไป

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ขุนพลลุ่มน้ำป่าสัก, 10 มีนาคม 2009.

  1. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    สวัสดีค่ะ คุณลูกวัดท่าซุง,ทีมพลังงานพลังจิต

    ก่อนอื่นขออนุโมทนาและขอบคุณในความหวังดีของคุณแก่สมาชิกในกระทู้นี้

    หากคุณติดตามมาจะทราบได้ว่า เด็กๆ รู้จักกันจากกระทู้แจกฟรี โดยขุนพลขอพระรูปหล่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งดิฉันเองก็ให้มาตลอด ทั้งองค์พระวิสุทธิเทพ ทั้งเหรียญ ทั้งหนังสือ ทั้งพระคำขาว พระชานหมาก โดยทุกคนที่ขอมาได้เคยเสียเงินอะไรแม้แต่บาทเดียว รวมมูลค่าจากวันที่คุณขุพพลตั้งกระทู้และปิดกระทู้รวมมูลค่าที่ดิฉันได้ทำบุญกับวัดและบ้านสายลมไปประมาณหนึ่งแสนกว่าบาท ดิฉันเรียกตัวเองได้อย่างเต็มปากว่า ดิฉันเป็น "ลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ" เพราะดิฉันให้ด้วยใจและไม่ได้หวังอะไรตอบแทน ดิฉันรู้จักหลวงพ่อดีเท่ากับอายุของดิฉันคือ สี่สิบกว่าปี แก่นแท้ของคำสอนหลวงพ่อซึ่งก็คือคำสอนขององค์สมเด็จพระศาสดาคืออะไร ดิฉันได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งพอควรและมากพอที่จะให้คำแนะนำหลานๆ ที่ยังต้องการคำชี้นำที่ไม่หวังประโยชน์อะไร

    ดิฉันไม่กล้าและอาจเอื้อมนำพระิิิอริยสงฆ์เจ้ามาล้อเล่นเพื่อหาชื่อเสียงให้ตัวเอง หรือเพื่อมั่วนิ่มว่าตัวเองดีอย่างนั้นอย่างนี้ ่ทุกคนที่ได้เข้ามารู้จักกันย่อมทราบดีว่า "ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยอวดตัวเอง" ซึ่งคงอธิบายความเป็นตัวฉันได้เป็นอย่างดี

    คำแนะนำของคุณก็คือคำแนะนำของดิฉันที่มีให้แก่พระชัยภัทร เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเช่นกัน ว่า เืมื่ออยู่ในที่สาธารณะย่อมไม่ควรแสดงอะไรให้เป็นที่เสื่้อมเสียงชื่อเสียงของครูบาอาจารย์ และที่สำคัญยิ่งต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ทุกคนทราบดีค่ะว่า เมื่อสนิทกัน ปรึกษากันได้ ก็รักกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนมีแต่ "ให้" และ "ให้" เมื่อยิ่งให้ จิตใจก็สว่างขึ้น เพราะไ้ด้ขัดเกลาความถือว่า นี่คือของเราออกไปได้บางส่วน และนี่คือทานอันบริสุทธิ์ และเมื่อสนิทกันมากขึ้นการพูดเล่นกันจึงเป็นเรื่องปกติของวิสัยปุถุชน พวกเด็กๆ เองก็ทราบดีว่าไม่ควรอยู่ในกระทู้ที่เป็นวิชาการแลกเปลี่ยนข้อธรรมะกัน จึงได้ย้ายบ้านไปต่างหากซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาจะได้คุยกัน ปรึกษากัน อย่างญาติสนิทมิตรสหายจริงๆ ขดหยักในสมองพวกเขามีมากพอค่ะที่จะทราบว่า เมื่อไหร่คือเล่น เมื่อไหร่คือสอน

    ถูกต้องค่ะ หลวงพ่อท่านสอนให้เรานึกถึงนิพพานเป็นอารมณ์ เพราะนี่คือการฝึกมรณานุสติที่ท่านได้กรุณาสอน เพราะจิตสุดท้ายก่อนออกจากร่างจะเป็นตัวตัดสินชาติภพที่จะไปถือกำเนิดต่อไป เมื่อนึกถึงนิพพานเ็ป็นอารมณ์ จิตย่อมพุ่งขึ้นข้างบนเสมอ เสวยบุญตามที่ตัวเองกระทำมา หมดบุญก็จุติกำเนิดกันใหม่ตามคิวของกระแสกรรมที่วิ่งตามมา

    แก่นคำสอนของหลวงพ่อที่คุณยกมานั้นถูกต้องทุกประการ หากแต่ขาดข้อสำคัญไปข้อหนึ่งคือ ท้ายสุดแล้วหลวงพ่อสอนให้เราเจริญวิปัสสนากรรมฐานหรือสติปัฏฐานสี่ ให้รู้จักปล่อยวาง อย่ายึดมั่นถือมั่น ทรงพรหมวิหารสี่ ทรงศีลให้บริสุทธิ์ ฝึกสติให้เห็นการเกิดดับของจิต รู้เท่าทันอาการของจิตเสมอ เพราะเมื่อคุณเห็นการเกิดดับของจิตแต่ละดวงว่ามัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จริง ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอน เมื่อนั้นคุณก็เห็นอริยสัจสี่ เมื่อนั่นคุณเห็นไตรลักษณ์ ละกิเลสได้ทั้งหมด ไม่เหลือแม้แต่กิเลสอย่างละเอียด (อยากไปนิพพาน ก็เป็นกิเลส เป็นความอยาก แต่เป็นอย่างละเอียด) นี่แหละคือ ทางสายเอกเข้าสู่พระนิพพาน

    หลวงพ่อท่านมีวิสัยทัศน์กว้างไกลนัก ในสมัยนั้นหากจะทำให้ศิษยานุศิษย์เข้าวัดและปฏิบัติธรรม ก็ต้องทำให้พวกเขาทั้งหลายเห็นว่า สวรรค์ นรก มีจริง ท่านจึงได้นำมโยมยิทธิมาเป็นเครื่องล่อ ให้โยมเข้าวัดและปฏิบัติ เพราะเมื่อโยมปฏิบัติและเห็นจริงว่า นอกจากภูมิมนุษย์แล้ว ยังมีภพภูมิละเีอียดอีกมากที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ นอกจากขัดเกลาจิตใจให้สะอาดเพียงพอ และท้ายสุดท่านก็จะสอนให้ศิษยานุศิษย์ทุกคนฝึกสติปัฏฐานสี่เพื่อเดินเข้าสู่พระนิพพานอย่างแท้จริง

    ดิฉันรับรองได้ค่ะว่า เด็กๆ ในกระทู้ไม่มีเจตนาแม้แต่จะคิดปรามาสพระรัตนตรัย ทุกคนรักและเคารพหลวงพ่อเช่นเดียวกันกับคุณค่ะ

    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับความเห็นของคุณ ขอโมทนาค่ะ หากคำพูดใดของฉันหรือการพูดเล่นเกินไปของเด็กๆ ทำให้คุณขุ่นเคืองใจ ขออย่าได้ถือโทษกันเลย อย่าลืมนะคะ หลวงพ่อสอนว่า ดูคนให้ดูที่เจตนา การกระทำพิสูจน์ตัวเองได้ดีกว่าคำพูดเสมอค่ะ.

    Point is taken. Actions speaks louder than words.

    May Lord Buddha's compassion go with you.

    Kind regards,
    Anyanatt Grotz
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2009
  2. pinkdemon

    pinkdemon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +157
    ตรงตัวแดงที่บอกว่า คนเดียวกันโพสหลายกระทู้นี่ ขอความกรุณาชี้แจงให้ชัดเจนได้หรือไม่คะว่า หมายถึงใคร และอย่างไร งงค่ะ เพราะไม่เคยกระทำการดังที่คุณกล่าวถึงข้างบน

    ขอบคุณค่ะ
     
  3. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    สวัสดีค่ะ คุณลูกวัดท่าซุง,ทีมพลังงานพลังจิต

    ก่อนอื่นขออนุโมทนาและขอบคุณในความหวังดีของคุณแก่สมาชิกในกระทู้นี้


    หากคุณติดตามมาจะทราบได้ว่า เด็กๆ รู้จักกันจากกระทู้แจกฟรี โดยขุนพลขอพระรูปหล่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งดิฉันเองก็ให้มาตลอด ทั้งองค์พระวิสุทธิเทพ ทั้งเหรียญ ทั้งหนังสือ ทั้งพระคำขาว พระชานหมาก โดยทุกคนที่ขอมาได้เคยเสียเงินอะไรแม้แต่บาทเดียว รวมมูลค่าจากวันที่คุณขุพพลตั้งกระทู้และปิดกระทู้รวมมูลค่าที่ดิฉันได้ทำบุญกับวัดและบ้านสายลมไปประมาณหนึ่งแสนกว่าบาท ดิฉันเรียกตัวเองได้อย่างเต็มปากว่า ดิฉันเป็น "ลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ" เพราะดิฉันให้ด้วยใจและไม่ได้หวังอะไรตอบแทน ดิฉันรู้จักหลวงพ่อดีเท่ากับอายุของดิฉันคือ สี่สิบกว่าปี แก่นแท้ของคำสอนหลวงพ่อซึ่งก็คือคำสอนขององค์สมเด็จพระศาสดาคืออะไร ดิฉันได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งพอควรและมากพอที่จะให้คำแนะนำหลานๆ ที่ยังต้องการคำชี้นำที่ไม่หวังประโยชน์อะไร

    ผมรู้ว่าพวกท่านทั้งหลายมีเรื่องบารมีสูง
    ผมเลยตอบไปใน กระทู้นึ้ ณ. 15-03-2009 03:02 AM
    ผมขอชมเชยว่า พวกท่านเป็นคนที่ดี เป็นคนที่มีเรื่องทานบารมีสูง ในเรื่องทานบารมี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยกล่าวกับหลวงพ่อว่า ก็สามารถไปนิพพานได้
     
  4. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ดิฉันไม่กล้าและอาจเอื้อมนำพระิิิอริยสงฆ์เจ้ามาล้อเล่นเพื่อหาชื่อเสียงให้ตัวเอง หรือเพื่อมั่วนิ่มว่าตัวเองดีอย่างนั้นอย่างนี้ ่ทุกคนที่ได้เข้ามารู้จักกันย่อมทราบดีว่า "ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยอวดตัวเอง" ซึ่งคงอธิบายความเป็นตัวฉันได้เป็นอย่างดี

    ผมไม่ได้ว่าคุณนี่ครับ ผมไม่ได้ว่าใครเลยน่ะครับแค่กล่าวว่า บางครั้งอ่านไปหัวเราะไปแต่การกันเองมันก็ต้องมีขอบแคบ การกันเองไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่อยากให้รู้กาละเทศะเวลา อันไหนควร อันไหนไม่ควร สิ่งไหนควร สิ่งไหนไม่ควร ถ้าทําได้ผมว่าครอบครัวนึ้จะต้องอบอุ่นขึ้นแน่ ครับ การที่เข้าตักเตือนก็เพราะอยากให้อยู่ในขอบเขตที่ควรจะเป็นครับ (smile)
     
  5. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    คำแนะนำของคุณก็คือคำแนะนำของดิฉันที่มีให้แก่พระชัยภัทร เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเช่นกัน ว่า เืมื่ออยู่ในที่สาธารณะย่อมไม่ควรแสดงอะไรให้เป็นที่เสื่้อมเสียงชื่อเสียงของครูบาอาจารย์ และที่สำคัญยิ่งต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ทุกคนทราบดีค่ะว่า เมื่อสนิทกัน ปรึกษากันได้ ก็รักกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนมีแต่ "ให้" และ "ให้" เมื่อยิ่งให้ จิตใจก็สว่างขึ้น เพราะไ้ด้ขัดเกลาความถือว่า นี่คือของเราออกไปได้บางส่วน และนี่คือทานอันบริสุทธิ์ และเมื่อสนิทกันมากขึ้นการพูดเล่นกันจึงเป็นเรื่องปกติของวิสัยปุถุชน พวกเด็กๆ เองก็ทราบดีว่าไม่ควรอยู่ในกระทู้ที่เป็นวิชาการแลกเปลี่ยนข้อธรรมะกัน จึงได้ย้ายบ้านไปต่างหากซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาจะได้คุยกัน ปรึกษากัน อย่างญาติสนิทมิตรสหายจริงๆ ขดหยักในสมองพวกเขามีมากพอค่ะที่จะทราบว่า เมื่อไหร่คือเล่น เมื่อไหร่คือสอน

    ผมต้องขออนุโมทนาด้วยน่ะครับ โมทนาด้วยครับเรื่องทานบารมี แต่ที่คุณกล่าวว่าว่า "วิชาการแลกเปลี่ยนข้อธรรมะกัน" นั้นไม่ใช่น่ะครับกระทู้นึ้เป็นกระทู้นักปฏิบัติธรรมและที่ศึกษาธรรมะน่ะครับ สามารถแลกเปลี่ยนพูดคุยได้ทั้งในเรื่องสาระและไม่สาระปละปลายแต่ต้องอยูในขอบเขตที่ควรจะเป็น แต่อย่างที่ผมบอกคือ กระทู้นึ้เป็นกระทู้หลวงพ่อ จึงเป็นกระทู้การปฏิบัติธรรม บวกสาระเรื่องจริงอิงนิทาน ต่างๆๆ คุยกันฉันท์มิตรแต่ต้องอยู่ในกรอบครับ บางครั้งผมอยู่ในกระทู้ยังมีการพูดเล่นๆๆบางเลยแต่ผมก็ต้องพิจารณาครับว่าเขียนไปจะดีไหม เขียนไปจะมีผลเสียแก่หลวงพ่อหรือเปล่า

    "อย่างญาติสนิทมิตรสหายจริงๆ ขดหยักในสมองพวกเขามีมากพอค่ะที่จะทราบว่า เมื่อไหร่คือเล่น เมื่อไหร่คือสอน"

    ผมตักเตือนในฐานะผู้ปฏิบัติธรรมสายหลวงพ่อครับ ว่าอันไหนควร อันไหนไม่ควร จุดประสงค์คือต้องการให้กระทู้นึ้อยู่ในกรอบและพุดคุยกันอย่างไร้ข้อกังหาติเตียนใดๆๆ ครับ "ต่อไปจะได้เป็นส่วนรวมของลูกศิษย์หลวงพ่อมาสนทนากัน " บางอย่างต้องปรับปรุงก็ต้องว่าไปตามนั้น อันไหนดีผมก็ต้องชม แต่ยังไงก็แล้วแต่ ผมต้องกล่าวอย่างเป็นกลาง ครับ จะให้ผมติอย่างเดี่ยวคงไม่ได้ จะให้ชมอย่างเดี่ยวคคงไม่ได้ ถ้ากล่าวอะไรผิดไปขออภัยอภัยน่ะครับ เพราะผมก็ไม่ใช่ลุกศิษยืหลวงพ่อ ครับ แค่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมในปฏิปทาของหลวงพ่อ เพราะผมอะรๆๆก็ยังไม่ครบเ ผมคิดว่าผมทําได้ผมถึงจะกล่าวๆๆ ไม่ใช่มาโม้ไปวันว่า "ฉันลูกศิษย์หลวงพ่อนะ " ผมไม่ชอบ ผมชอบที่จะดูข้อวัตรปฏิปทาหลวงพ่อ ฟังธรรมะมากกว่า มากอวดอ้างว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ถ้ายังไม่ดีพอผมคิดว่าผมจะไม่กล่าวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มีนาคม 2009
  6. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ถูกต้องค่ะ หลวงพ่อท่านสอนให้เรานึกถึงนิพพานเป็นอารมณ์ เพราะนี่คือการฝึกมรณานุสติที่ท่านได้กรุณาสอน เพราะจิตสุดท้ายก่อนออกจากร่างจะเป็นตัวตัดสินชาติภพที่จะไปถือกำเนิดต่อไป เมื่อนึกถึงนิพพานเ็ป็นอารมณ์ จิตย่อมพุ่งขึ้นข้างบนเสมอ เสวยบุญตามที่ตัวเองกระทำมา หมดบุญก็จุติกำเนิดกันใหม่ตามคิวของกระแสกรรมที่วิ่งตามมา

    แก่นคำสอนของหลวงพ่อที่คุณยกมานั้นถูกต้องทุกประการ หากแต่ขาดข้อสำคัญไปข้อหนึ่งคือ ท้ายสุดแล้วหลวงพ่อสอนให้เราเจริญวิปัสสนากรรมฐานหรือสติปัฏฐานสี่ ให้รู้จักปล่อยวาง อย่ายึดมั่นถือมั่น ทรงพรหมวิหารสี่ ทรงศีลให้บริสุทธิ์ ฝึกสติให้เห็นการเกิดดับของจิต รู้เท่าทันอาการของจิตเสมอ เพราะเมื่อคุณเห็นการเกิดดับของจิตแต่ละดวงว่ามัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จริง ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอน เมื่อนั้นคุณก็เห็นอริยสัจสี่ เมื่อนั่นคุณเห็นไตรลักษณ์ ละกิเลสได้ทั้งหมด ไม่เหลือแม้แต่กิเลสอย่างละเอียด (อยากไปนิพพาน ก็เป็นกิเลส เป็นความอยาก แต่เป็นอย่างละเอียด) นี่แหละคือ ทางสายเอกเข้าสู่พระนิพพาน

    ใช่ครับอย่างที่คุณกล่าวมาผมเห็นด้วย กล่าวได้ชอบแล้ว แต่อันนึ้ผมสงัสัยนิดหนึ่งครับ เสวยบุญตามที่ตัวเองกระทำมา หมดบุญก็จุติกำเนิดกันใหม่ตามคิวของกระแสกรรมที่วิ่งตามมา คุณหมายถึง นิพพาน หรือ พรหมโลก เทวโลก ขอโมทนากับพี่ท่านมากๆๆๆๆที่กล่าวถึงธรรมะได้ชอบแล้วครับ แต่การไปนิพพานมันก็เป็นเรื่องยากน่ะครับ พระโสดาก็เป็นยาก สําหรับผมน่ะครับเพราะเมื่อเรานํามาพิจารณาดีมันมีหลายองค์ประกอบอยู่ครับ
     
  7. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    หลวงพ่อท่านมีวิสัยทัศน์กว้างไกลนัก ในสมัยนั้นหากจะทำให้ศิษยานุศิษย์เข้าวัดและปฏิบัติธรรม ก็ต้องทำให้พวกเขาทั้งหลายเห็นว่า สวรรค์ นรก มีจริง ท่านจึงได้นำมโยมยิทธิมาเป็นเครื่องล่อ ให้โยมเข้าวัดและปฏิบัติ เพราะเมื่อโยมปฏิบัติและเห็นจริงว่า นอกจากภูมิมนุษย์แล้ว ยังมีภพภูมิละเีอียดอีกมากที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ นอกจากขัดเกลาจิตใจให้สะอาดเพียงพอ และท้ายสุดท่านก็จะสอนให้ศิษยานุศิษย์ทุกคนฝึกสติปัฏฐานสี่เพื่อเดินเข้าสู่พระนิพพานอย่างแท้จริง

    แต่ผมคิดว่ามโนมยิทธิผมว่าที่พูดมาก็ถูกน่ะครับแต่ว่า ผมคิดว่าจุดประสงค์ของหลวงพ่อคงไม่ใช่แค่นั้นมั่งครับ พรหมโลก เทวโลกคงไม่ใช่ แต่ท่านต้องการให้เราเห็นว่า เราเกิดมาหลายภพหลายชาติ เป็นเทวดา เป็นพรหม เป็นสัตว์นรก กันหมด ให้พิจารณาถึงไตรลักษณ์และโทษของการไปนรก ให้คนกลัวการทําบาป ทําแต่กรรมดี กรรมชั่วละเว้น ให้เราเบื่อทุกสิ่งทุกอย่างให้เรานึกนิพพานเป้นอารมณ์ไม่ใช่เหรอครับที่ท่านเคยกล่าวว่า เวลาว่างๆๆหรือทุกขณะจิตให้ส่งจิตไปพระนิพพานเป็นอารมร์ไม่ใช่หรือครับ จิตมีสภาพจำดังนั้นจิตก็ชินกับนิพพาน ตอนตายอย่างที่คุณบอกเปรียบเสมือนช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม เข้าภพภูมิ ถ้าเราส่งจิตไปนิพพาน และตอนนั้นเรามีนิพพานเป็นอารมณ์และขณะจิตตอนนั้นคิดว่า ร่างกายไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ทรัทย์สมบัติก้ดี เทวโกล พรหมโลกเราไม่ต้องเราต้องไปพระนิพพานที่เดี่ยว ผมคิดว่า ถ้าตอนนั้นตัดสังโยชรณ์ ผมว่านิพพานก็คงไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ว่า ถ้าไม่ได้อย่างนอกใจเราก็จับพระนิพพาน อย่างต่ำก็คงไม่ต่ำกว่า เทวโลกมั่งครับ แต่ยังไงก้ดี นิพพานเป้นของยาก สําหรับปถุชนและผมด้วย ถ้านักปฏิบัติธรรมมีความเพียรทางธรรมผมว่าน่าจะสามารถไปพระนิพพานได้ ผมว่าอย่าพูดถึงพระนิพพานเลย สังโยชรณ์ก็ยากแล้ว ดูจิตรู้จิต ตอนนคึ้ดีกว่าครับ พิจารณาเรื่องสังโยชรณ์ มรณานุสติดีกว่าครับ อย่างที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ว่า "นิพพานไม่ใช่ภาษาพูด ภาษาเขียน แต่เป็นการปฏิบัติ " ถ้าปฏิบัติตามธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อนั้นเห็นตคาถต

    ศิษยานุศิษย์ทุกคนฝึกสติปัฏฐานสี่เพื่อเดินเข้าสู่พระนิพพานอย่างแท้จริง

    ขอโมทนาด้วยครับ

    ถ้าผมกล่าวผิดอย่างไรขออภัยทุกท่านด้วยน่ะครับเพราะผมก็ไม่ใช่นักปฏิบัติรรมที่เก่งอย่างใดเป็นผู้ปกิบัติตามที่ทําได้ครับ ขอให้เพื่อนๆๆนักปกิบัติธรรมรวมถึงลูกศิษย์หลวงพ่อ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ช่วยตักเตื่อนถ้าข้าพเจ้ากล่าวผิดอย่างไร เพราะความรุ้ของข้าพเจ้าเปรียบประดุจเศษเถถ้าธุลีในอนันตจักรวาล ครับ
     
  8. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ดิฉันรับรองได้ค่ะว่า เด็กๆ ในกระทู้ไม่มีเจตนาแม้แต่จะคิดปรามาสพระรัตนตรัย ทุกคนรักและเคารพหลวงพ่อเช่นเดียวกันกับคุณค่ะ

    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับความเห็นของคุณ ขอโมทนาค่ะ หากคำพูดใดของฉันหรือการพูดเล่นเกินไปของเด็กๆ ทำให้คุณขุ่นเคืองใจ ขออย่าได้ถือโทษกันเลย อย่าลืมนะคะ หลวงพ่อสอนว่า ดูคนให้ดูที่เจตนา การกระทำพิสูจน์ตัวเองได้ดีกว่าคำพูดเสมอค่ะ.


    Point is taken. Actions speaks louder than words.

    May Lord Buddha's compassion go with you.

    Kind regards,
    Anyanatt Grotz

    โมทนา สาธุครับ กล่าวได้ชอบแล้ว

    นิพพานะ ปัจจโย โหตุ

    สาธุๆๆๆๆ
     
  9. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ขอขอบพระคุณพี่ pinkdemon ที่เข้ามาตอบในเรื่องต่างๆๆผมรับทราบแล้วน่ะครับและได้ตอบไปตามความเป็นจริงและความคิดเห้นส่วนตัวถูกผิดประการใดต้องขออภัยน่ะครับและทุกๆๆท่านด้วย ขอให้ทุกท่านมีความสุขกายสบายใจ ขอให้บรรลุมรรคผลในชาติปจัจุบันนึ้เทอญ hello3


    pinkdemonและขุนพลลุ่มน้ำปาสัก ผู้ก่อตั้งกระทู้ ในเจตนาที่ดีในการให้ทานน่ะครับ และ เจตนาที่ดีในการสนทนาธรรมพูดคุยปะสากัลยาณิมิตรที่ดี ต้องขอชอบพระคุณ ทุกท่านสามารถเข้ามาโพสได้ตามปรกติในกระทู้แต่ขอให้อยู่ในสิ่งที่ควรจะเป็นแค่นั้นเองน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มีนาคม 2009
  10. พระชยภัทร อนามโ

    พระชยภัทร อนามโ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,667
    ค่าพลัง:
    +728
    ขออนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านนะครับ

    พอดีว่าพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปถวายพระพุทธสีหิงหน้าตัก 4 ศอกเนื้อสำริด นำถวายที่วัสะตือสิงหื จังหวัดอยุธยา ร่วมอนุโมทนาบุญกันนครับ

    ตอนนี้ก็เตรียมจัดของที่จะไปในวันพรุ่งนี้ยังไม่เสร็จเลยครับ
     
  11. ขุนพลลุ่มน้ำป่าสัก

    ขุนพลลุ่มน้ำป่าสัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +634
    คิดแล้วน่าเหนื่อยนะครับ การที่จะทำอะไรให้ถูกใจกับทุกคนทุกวัยทุกความคิด
    ทุกคนมีเจตนาที่ดี แต่มีภูมิความรู้ภูมิธรรมที่ไม่เท่ากัน การระบายออกมาเป็นตัวหนังสือและข้อความจึงไม่เป็นดังความรู้สึกที่ต้องการ บางครั้งก็ใช้กระทู้ต่างๆ เป็นที่พักผ่อน สันทนาการเพราะเครียดกับงานบ้าง การเรียนบ้าง ครอบครัวบ้าง พอมาเจอคนที่รักสิ่งๆ เดียวกันคุยกันแล้วทุกใจ ก็ปลดปล่อยความรู้สึกต่างๆ ออกมา โดยลืมไปว่าเมื่อกดส่งข้อความไปแล้วปรากกขึ้นกระทู้แล้วจะมีคนมาอ่านมากมาย ผลที่ออกมาบนกระทู้จึงปรากฏข้อความที่มีสาระ บ้างไม่มีสาระบ้าง แล้วก็เลยไม่สามารถแยกกาลเทสะได้
    เครียดอะไรกันมากแนอะกับเรื่องโลกๆ
    จิต ความคิด สติ คืออะไรหน่อ
     
  12. สัณหวัช

    สัณหวัช สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +20
    มีความสุขทุกคนนาครับๆๆๆๆ จิตใจเบิกบานกระชุ่มกระชวย
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,148
    ค่าพลัง:
    +21,318
    เป็นกำลังแรงใจให้ในสิ่งที่ทำครับ...
     
  14. num_mon

    num_mon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    579
    ค่าพลัง:
    +912
    สาธุ ครับป้า....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...