คู่บารมี และ กรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Liberation from suffering, 8 มิถุนายน 2017.

  1. Liberation from suffering

    Liberation from suffering สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีค่ะ

    อยากทราบวิธีการล้างกรรมแบบไม่ให้ส่งผลไปถึงภพภูมหน้าค่ะ

    ชาตินี้ถือเป็นโชคดีของน้องค่ะที่มีโอกาศได้รับรู้ถึงอดีตชาติของตัวเองค่ะ
    มีกรรมที่กระทำกับคนรัก คือ คู่บารมีค่ะ อดีตชาติเป็นผู้หญิงเจ้าชู้ค่ะ ทิ้งคู่บารมีของตนไปเลือกเงินทอง
    สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตของตัวเอง ด้วยการผูกคอตายค่ะ เป็นแบบนี้หลายภพหลายชาติ
    ไม่เคยได้อยู่กันแบบสมหวังค่ะ เพราะทุกชาติต้องมีเหตุให้หนีเขา แล้วจบชีวิตตัวเองทุก ๆ ชาติเลยค่ะ
    (อายุที่น้องจบชีวิตจะไล่เลี่ยกันค่ะ)


    *****และชาตินี้ก็ได้เจอคู่บารมีของตนอีกชาติหนึ่งค่ะ แต่ท่านบวชเป็นพระ
    เราเจอกัน และหวั่นไหวมาก จนกลัวใจตัวเองเลยค่ะ เจอท่านทีไร ไม่มีแรงแขนขาหมดแรงวูบๆ เหมือนจะเป็นลมตลอด

    มีคนหนึ่งไม่ขอเอ่ยนามท่านนะค่ะ ขอใช้ชื่อว่าพี่ค่ะ ที่น้องเคารพนับถือ ท่านทักว่าตอนนี้รู้สึกยังไง
    น้องเล่าไปว่าเจ็บปวดใจ ทรมานใจมากเหมือนมีมีดมาปักที่กลางใจ จุกและแน่ไปหมดเป็นทุกครั้ง
    ที่คิดจะหนีและถอยห่างจากพระองค์นั้น ทรมานมากจริงๆ ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
    พี่เลยถามต่อว่า เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ความรู้สึกแบบนี้ น้องเลยบอกว่ารู้สึกว่าจะเป็นตั้งแต่น้องรับของ
    จากพระองค์นั้นมาติดตัวค่ะ แล้วน้องก็ร้องไห้ออกมา พี่เลยขอของสิ่งนั้นจากน้อง แล้วถามต่อว่าเป็นยังไงบ้าง
    แปลกนะค่ะ น้องรู้สึกโล่งใจมาก พี่ยิ้มแล้วหันมาพูดว่า ของสิ่งนี้มันเป็นของน้องไง เป็นสิ่งที่ผูกใจของเราทั้งสอง
    หรือเรียกว่าเป็นของแทนใจ ซึ่งพระองค์นั้นก็จะมีอยู่หนึ่งอย่างเหมือนกัน

    พี่แนะนำน้องให้น้องตัด เพราะถ้าน้องเลือกที่จะเข้าไปยุ่งอีก น้องก็จะจบชีวิตเช่นเดิม คือ หนีเขาไปและจบชีวิต

    พี่ย้ำว่าถ้ายังไม่ตัดใจและดึงตัวเองออกมา ครั้งนี้จะเจ็บกว่าทุกภพทุกชาตินะ ต้องทำใจแข็งให้มากๆ

    พี่บอกว่า คู่บารมีไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันก็ได้นะ อุปถัมถ์ค้ำชูกันไปก็ได้ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันนะ
    เพราะว่าทุกชาติไม่เคยสมหวัง แก้กรรมให้หมด ปลดปล่อยตัวเองนะ เพราะเราทำกรรมกับคู่เราไว้มาก
    ให้สร้างบารมีเยอะ ๆ ภพภูมิหน้าอาจจะได้อยู่ด้วยกันใครจะไปรู้ได้ แต่ภพภูมินี้ถ้าเลือกที่จะอยู่ด้วยกัน ก็ต้องจบชีวิตตัวเองอยู่ดี



    เป็นความเจ็บปวดทรมานใจมากเลยค่ะ จะแก้ไขกรรมแบบไหนได้บ้างค่ะ
    ในใจคิดว่า ต้องการให้ท่านอยู่ในผ้าเหลืองปฏิบัติและสร้างบุญบารมีของท่านค่ะ เราจะคอยแค่อุปถัมถ์ท่านตามที่เราลั่นวาจาไป (เคยนำพานไปกราบขอขมากรรมท่านค่ะ) แต่พอหลังๆไปหาท่านมันมีแรงดึงดูดอะไรสักอย่างที่แรงมาก ถ้าเลือกที่จะไปไม่หาเลยจะเจ็บปวดทรมานใจมากค่ะจนน้ำตาไหลออกมาเองค่ะ

    ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มิถุนายน 2017
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    บัณฑิต มีความคิดเป็นกัลญาณมิตรกับตัวเราเอง
    คนพาล มีความคิดเป็นศัตรูกับตัวเราเอง

    เรื่องรักจะสมหวังหรือไม่สมหวังนั้นมันก็เรื่องหนึ่ง
    แต่เรื่องทำร้ายตัวเองเบียดเบียนตัวเองอันนั้นคนอื่นเขาไม่ได้มาทำอะไรคุณ
    จะมาต่อเหตุแบบว่า เพราะเหตุที่ไม่สมหวังในรัก จึงมีเหตุให้ต้องจบชีวิตตัวเอง
    มันก็เป็นการต่อเหตุเพราะการ ประชดประชัน
    อดีตที่ผิดพลาดชดเชยด้วยการเรียนรู้ข้อผิดพลาดและป้องกันความผิดพลาดนั้นๆไม่ให้เกิดอีก
    มีสติไม่ประมาทต่อความตาย สติแบบไหนพาไปตาย ความคิดไหนพาไปตาย
    เราก็จะไม่ไปกับ สติและความคิดในแบบนั้นๆอีก
     
  3. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +1,938
    กรรมนั้นล้างไม่ได้ แต่เบี่ยงหรือดร๊อปใว้ก่อนด้วยวิบากของกรรมอื่นที่แรงและให้ผลเร็วกว่า เท่าที่ได้ยินมา วิปัสนากัมมัฎฐานนั้นมี%สูงในการกลบเกลื่อน,เบี่ยงเบน,หักเหจากวิบากแห่งอกุศลกรรม จงเร่งทำเถิด...สาธุ !
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,200
    การขอขมาและให้อภัยกันด้วยใจจริงๆ เป็นการยกโทษออกจากใจเขา และ.ยกโทษออกจากใจเรา สิ่งที่ผ่านมาก็ทำให้ยุติได้

    ส่วนเรื่องการกระทำการที่ท่านหนี และเราฆ่าตัวตายนั่นเป็นวิบาก ที่เคยอ่านมาบอกว่าถ้าฆ่าตัวตายชาติหนึ่งจะมีวิบากกรรมซ้ำๆทุกชาติที่เกิดมาต้องฆ่าตัวตายอีก. เพราะจิตสุดท้ายของการฆ่าตัวตายมันจะฝังจำไว้ พอเกิดเหตุการณ์ใดจะมีวิบากให้ฆ่าตัวตายเสมอ ก็ด้วยกรรมของการฆ่าตัวตายนั่นแหละค่ะ. จนกว่าจะมีผู้มาชักนำทำให้เราเห็นโทษการฆ่าตัวตายเป็นบาปมาก และมีผลอย่างไร จนเข้าใจ ใช้สติปัญญาพิจารณาอบรมหาอุบายให้แก่จิตระลึกจำโทษเอาไว้ และใช้สัจจะอธิษฐานกำหนดเสมอ หากมีเหตุการณ์ใดๆจะไม่ตัดสินใจแบบเดิมอีก ใช้อธิษฐานจิตด้วยใจที่มุ่งมั่นหนักแน่นมั่นคงกำกับไว้ เพราะสิ่งนี้จะช่วยเตือนเราในจิตใต้สำนึก จะเรียกว่า อฐิษฐานบารมี ที่จะคอยกำกับจิตไว้ไม่ให้คิดฆ่าตัวตายอีก

    ส่วนเรื่องการที่ท่านต้องหนีทุกชาติ ก็เพราะในใจฝังจำเหตุการณ์ไว้ และเป็นผลวิบากของเราที่ทำให้ท่านต้องตัดสินใจอย่างนั้น การสำนึกผิดรู้ว่าทำอะไรผิด ว่าจะไม่ขอมีนิสัยอย่างนั้นอีก สร้างทุกข์แก่เขาทุกข์นั้นถึงตัว เมื่อรู้โทษว่าคืออะไรก็ขอขมาบอกกับท่านให้รู้สำนึกผิด และตั้งจิตเด็ดเดี่ยวว่าจะไม่ตัดสินใจผิดอีกแล้ว. การตัดสินใจที่ผิดคือ ความมืดที่ไม่รู้ปิดบังเอาไว้ เมื่อเห็นโทษภัยแล้ว รู้และเข้าใจแล้ว แสงสว่างของการตัดสินใจถูกต้อง เห็นถูกต้องแล้ว วงจรกรรมก็หลุดไป

    เมื่อทั้งสองยกโทษออกจากใจตนเอง ก็หมดแรงดึงดูดวิบากกรรม กรรมแบบนี้ก็หลุดพ้น ก็สามารถมาร่วมสร้างความดีงามกันได้ใหม่ค่ะ
     
  5. Liberation from suffering

    Liberation from suffering สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบคุณ jityim, สำหรับทานที่ท่านตอบน้องในครั้งนี้ค่ะ น้องจะพึงระลึกและอธิฐานจิตไว้เสมอว่าจะไม่กระทำผิดอีกค่ะ จะใช้หลักธรรมเข้าช่วยเพื่อพาตัวเองหลุดพ้นจากวิบากกรรมนี้ค่ะ สาธุ
     
  6. Liberation from suffering

    Liberation from suffering สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบคุณท่าน เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา สำหรับทานในการตอบคำถามในครั้งนี้ค่ะ
    น้องก็เชื่อมั่นในการ วิปัสนากัมมัฎฐาน ค่ะ และเร่งปฏิบัติสวดมนต์ทำสมาธิทุกวันไม่ให้ขาด ช่วงวันหยุดมีเวลาก็ไปถือศีล ทานมังสวิรัตค่ะ
     
  7. Liberation from suffering

    Liberation from suffering สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบคุณท่าน YokoKurama, มากค่ะ
    ตั้งมั่นต่อจิตใจของตนพึงระลึกเสมอว่าต้องใช้สติก่อนตัดสินใจลงมือกระทำเหตุอันใดค่ะ สาธุค่ะ
     
  8. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ก่อนอื่นก็อย่าพบเจอกับท่านอีก ทรมานช่างมัน อ่านเรื่องหลวงปู่ทั้งหลายขนาดท่านฝึกมามาก สิ่งแรกที่ท่านทำคือหนีก่อนให้พ้นกันไป ตัดใจให้ได้ถึงเอาธรรมะเข้าข่มแล้วจึงสร้างบุญบารมีของตน ท่านเป็นพระศีลสูงแล้ว ส่วนฆารวาสทำอย่างไรศีลก็มิเท่า ปฏิบัติไปตามกำลังเถอะ เป็นกำลังใจให้นะ:)
     
  9. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +406
    มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
    การทรมานเรื่องบุคคลอันเป็นคู่บารมีหรือคู่กรรมก็แล้วแต่
    การไม่สม หวัง การผิดหวัง นี้ เกิดขึ้นไม่นานก็ดับไป ไม่มีใครอยู่กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นตลอดไป
    แต่สิ่งที่น่าเศร้าใจของจิตวิญญาณ ที่ต้องรับรู้ถึงความทุกข์ที่ต้องเจอเรื่องนี้ตลอดไป
    เราคิดว่าเราเศร้าที่ต้องสูญเสีย
    แท้ที่จริงแล้ว มองเข้าไปลึกๆ ภายใน. เรากำลังเสียใจที่เราแก้ไขไม่ได้สักที

    FB_IMG_1497183767366.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2017
  10. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +406
    เรื่องของคู่ไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    ตัองรักกันจริง. คิดช่วยเหลือกันจริง
    มีน้ำใสใจจริงให้แก่กัน ก็คงร่วมฝ่าฟันไม่ยาก

    เหตุเป็นอย่างไร ผลก็เป็นอย่างนั้น
    จะบังคับผลให้เป็นอย่างที่เราต้องการ
    โดยไม่คำนึงถึงเหตุ มันไม่ได้หรอก FB_IMG_1497260657998.jpg
     
  11. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +406
    ใครที่ทุกข์ทรมานเรื่องคู่
    ทำอย่างไรก็ไม่สมหวังซักที
    ในอดีตคุณคงทำกรรมเรื่องคู่ไว้มาก
    อดีตชาติของเราก็ดูจากวันเวลาที่ผ่านมา
    ผลเป็นอย่างไรเพราะเราสร้างเหตุไว้
    เมื่อเราเจอคนไม่จริงใจ
    อย่าท้อ ขอให้เราจริงใจไปเรื่อยๆก็แล้วกัน
    แล้วสักวันเราคงจะเจอคนจริง
    ความจริงใจที่ไม่มีความจริง
    คือความจริงใจที่หลอกลวง
    ใช่หรือไม่!! เราจะเป็นผู้รู้เอง
    FB_IMG_1497260968311.jpg
    เพราะเราหลอกตนเองไม่ได้
    เมื่อเราจริง...ความจริงของเราเป็นอย่างนี้
    ใจที่รู้ความจริง ก็คือ ความจริงในใจ
    ใครไม่รู้ไม่เป็นไร สักวันก็จะได้ความจริง
     
  12. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +406
    ๑.ร่วมทุกข์ร่วมสุข
    ๒.ปล่อยวางอดีต
    ๓.ยอมเสียบ้าง
    ๔.อย่าทำลายมิตรภาพ

    สิ่งสำคัญคือ "ยอมสละตัวตน"

    เรื่องราวอันน่าประทับใจของรักแท้...

    แม่ฆ่าตัวตายเพื่อบังคับให้ฉันแต่งงานกับ "ชายหน้าแย่ที่สุดในหมู่บ้าน" หลังแต่งได้ปี ในที่สุดฉันก็ยอมนอนกับเขา สาเหตุก็เพราะคืนนั้น…

    เว็บไซต์ต่างประเทศได้มีหญิงสาวรายหนึ่งได้ตั้งกระทู้ไว้ โดยเธอได้เล่าเรื่องส่วนตัวของเธอให้ฟังว่า...ปี 2007 ฉันจากบ้านไปทำงานอีกเมือง มีแฟนใหม่ กำลังเตรียมพาเขากลับบ้านไปเจอพ่อแม่ ตอนนั้นพี่สาวก็โทรมาพอดี แล้วชีวิตฉันก็เปลี่ยนไปหมด….

    พี่สาวบอกว่า “พ่อหาผู้ชายไว้ให้แล้ว จะให้แกกลับมาแต่งงานวันที่ 23 เดือนธันวานี้” ฉันถาม “แต่งกับใครทำไมบอกกระชั้นชิดแบบนี้…” พี่สาวจงใจไม่บอก “แกกลับมาก็รู้เองแหล่ะ” ฉันเลยว่า “ถ้าไม่บอกให้ชัดๆ ก็ไม่กลับ แถมฉันมีแฟนอยู่แล้วด้วย” พี่สาวพูดต่อ “งั้นก็รีบๆเลิกกันซะ…”

    แม่กลัวฉันไม่กลับบ้านไปก่อนวันแต่ง ก็เลยให้พี่สาวที่อยู่อีกเมืองนึงมาส่งฉันขึ้นรถไฟให้เห็นกับตา กว่า 6 ชั่วโมงบนรถไฟในที่สุดฉันก็ถึงบ้าน ฉันเข้าบ้านไปเห็นเงิน 1 แสนวางอยู่บนโต๊ะ ก็เข้าใจโดยฉันทีว่าตัวเองโดนขายแล้ว แม่เข้ามาอธิบายว่า “แกเองก็รู้ว่า แกมีน้องชายที่ไม่เหมือนคนอื่น พี่แกก็แต่งไปอยู่ซะไกลแล้ว แม่ก็เลยให้แกแต่งกับคนในหมู่บ้าน ความคิดของแม่อาจจะเห็นแก่ตัว แต่ลูกเอ๊ย พ่อกับแม่แก่แล้ว อีกหน่อยถ้าพวกเราไม่อยู่ น้องแกจะเป็นยังไง แถมตอนพวกแกไม่อยู่บ้าน เวลาเก็บเกี่ยวก็ได้จุนนี่แหล่ะมาช่วย”

    ฉันโวยวายเสียงดัง “แต่หนูไม่ได้รักจุนนี่นา…” จุนเป็นผู้ชายหน้าแย่มากๆ ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอใครหน้าแย่ไปกว่าเขา ปากหนาๆ หัวล้านๆ เขาแก่กว่าฉัน 5 ปี สูงไม่ถึง 160 ฉันจะไปแต่งงานกับคนแบบนี้ได้ยังไง นี่มันบังคับให้ฉันไปลงนรกชัดๆ ฉันไม่ตกลง ยังไงก็ไม่แต่ง

    แม่เห็นฉันยืนกรานแบบนั้น ตอนก่อนนอนฉันก็ได้ยินเสียงร้องไห้ออกมาจากห้องนอนพ่อกับแม่ ก็เลยรีบไปดู แม่เชือดข้อมือตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย พวกเรารีบส่งท่านไปอนามัยในอำเภอ ตอนที่ช่วยแม่ได้แล้ว ฉันก็ไม่สามารถที่จะพูดกับท่านว่า “ไม่” อีก แม่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล 3 วัน ช่วงเวลาส่วนใหญ่ที่ฉันไปดูแลแม่บรรยากาศก็จะอึมครึม ไม่มีใครพูดอะไร

    วันที่ 23 เดือนธันวา ฉันก็ต้องแต่งงานไปจริงๆ

    คืนนั้น ฉันรีบเข้าห้องนอนล็อกประตู แถมยังเอาเก้าอี้มาขวาง จุนอยู่ข้างนอกตะโกนเข้ามา “ญา เธอหลับรึยัง?”

    ฉันไม่กล้าส่งเสียงอะไร กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาร้อนๆไหลลงมาอาบแก้ม สองมือกำแน่น

    วันต่อมาพอตื่นขึ้นมาฉันถึงเห็นว่าเขาปูผ้านอนบนพื้นหน้าห้อง เขาว่า “หิวมั้ย ผมต้มข้าวต้มให้กิน” ฉันนั่งบนโซฟาไม่พูดอะไร จ้องมองเขา คิดในใจว่าต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปชั่วชีวิต น้ำตาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัว พอเขาเห็นฉันร้องไห้ เขาก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก “ผมทำอะไรผิดรึเปล่า ญาตีผมได้เลยนะ” เขายื่นแขนให้ ฉันก็ขำ

    ฉันร้องจนแทบหมดแรงแล้วก็ถามเขา “นอนอย่างนี้ไม่หนาวหรอ” ฉันกินข้าวต้มไปถามไป


    เขาตอบ “ชินแล้วล่ะ ตอนเด็กแย่กว่านี้อีก”


    ฉันได้ยินแล้วก็ปวดแปล็บในใจ เขาน่าสงสาร ปีนี้ปาเข้าไป 33 แล้ว เขาไม่ได้โง่อะไร แค่เป็นคนซื่อๆ หน้าแต่แย่ไปบ้างเท่านั้นเอง อย่างอื่นก็ดีหมด พ่อแม่เขาแยกทางกันตั้งแต่เขายังเป็นวัยรุ่น ทำให้เขาเหลือตัวคนเดียว

    ฉันถาม “เธอใช้วิธีอะไรทำให้แม่ฉันตกลงยกฉันให้?”

    เขาว่า “ไม่มีวิธีอะไร ตอนนั้นคุยกันแล้วแม่ก็ถามว่า ‘เธอจะยอมดูแลลูกชายให้แม่มั้ย’ ผมก็พยักหน้า”

    คืนนั้น ฉันยอมให้เขาเข้ามานอนในห้อง แต่ยังไม่ยอมให้ขึ้นมานอนบนเตียง เค้าก็ปูผ้านอนกับพื้นเหมือนเดิม ครึ่งปีผ่านไป แม่ถาม “ผัวแกเขาเป็นหมันรึเปล่า ทำไมตั้งนานแล้วท้องแกยังไม่โตสักที” ฉันว่า “อย่ารีบสิแม่ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป” แม่ว่า “ให้แม่หายาหม้อมาต้มให้กินมั้ย” ฉันปฏิเสธไปทันที

    พอกลับถึงบ้าน ฉันลองคิดถึงภาพเรามีอะไรกัน แต่มองหน้าเขามาครึ่งปี เห็นฟันเหลืองๆเต็มปาก ฉันก็จูบไม่ลง

    ปี 2008 หน้าหนาว หิมะตกหนักติดต่อกันมาเป็นสัปดาห์ ฉันนอนซุกอยู่บนเตียงไม่ยอมขยับ เปิดตามาก็ดูทีวี อาหารสามมื้อจุนจะใส่ถาดมาให้ที่เตียง กินเสร็จ เขาก็เอาไปล้างเก็บให้ คืนนึงหิมะหยุดตกแล้ว เขาก็บอกฉันว่า “ผมจะพาญาไปที่นึง” ฉันพูด “หนาว ไม่อยากไป” เขาว่า “ขี่หลังผมไป…”

    สุดท้ายเขาก็พาฉันมาที่สวนเล็กๆแถวบ้านจนได้ แล้วก็ปล่อยฉันลง “ญาปิดตาก่อนเร็วๆ ผมนับถึงสามค่อยลืมตานะ”

    ฉันพูด “เล่นอะไรเป็นเด็กๆ….”

    หิมะกองพะเนินเมื่อกี้หายไปแล้ว ข้างหน้าฉันเหลือแต่ตุ๊กตาหิมะ 13 ตัว ทุกตัวมีผ้าพันคอสีแดง แถมทำหน้าตาแตกต่างกัน บางตัวยิ้ม บางตัวทำหน้ากวนๆ บางตัวกำลังอาย บางตัวทำคิ้วขมวด และด้านหน้าทุกๆตัวมีตัวอักษร รวมๆกันแล้วว่า “ ผมรักญา ผมจะดูแลญาไปตลอดชีวิต ” ฉันมองดูจุน มองเห็นมือทั้งสองข้างของเขาที่แดงเพราะหิมะกัด “เล่นอะไรเนี่ย ฉันไม่ซึ้งหรอก” แต่น้ำตาซึมออกมาทั้งสองข้าง

    จุนพูด “ผมไม่เคยเข้าไปในเมือง 30 กว่าปีมานี้ผมอยู่แต่ในหมู่บ้านเล็กๆที่นี่ ผมเห็นในทีวีเค้าทำโรแมนติกกันผมก็ทำไม่เป็น ตอนหน้าร้อนผมทำว่าวให้ ญาก็ไม่แม้แต่จะสนใจมอง ฤดูใบไม้ผลิผมเอาดอกไม้มาไว้ข้างเตียง ญาก็โยนใส่ถังขยะ ตอนนี้หิมะตก ผมก็เลยอยากปั้นตุ๊กตาหิมะให้ ผมเห็นในละครเค้าทำกันแบบนี้”

    ฉันว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้ฉันซึ้งมาก แม้ว่าจะเป็นตุ๊กตาหิมะไม่กี่ตัว แต่ฉันรับรู้ได้ถึงความรักที่เขามีให้ คืนนั้นพอกลับบ้านฉันก็เห็นว่าวกระดาษที่ฉันไม่แม้แต่จะแล ฉันบอกเขาว่า “เอาไปซ่อมสิ เดี๋ยวพอหน้าร้อนเราเอาไปเล่นกัน”

    จุนกระพริบตาถี่ๆ “ผมจะซ่อมเดี๋ยวนี้เลย…”

    ฉันหัวเราะ “จะบ้าหรอ ตอนนี้มีลมที่ไหน แล้วมันก็ถึงเวลานอนแล้วด้วย”

    นั่นเป็นคืนแรกที่ฉันกับเขานอนร่วมเตียงกัน หลังจากเขาพยายามมาเกือบปี

    ปี 2011 ฉันกับจุนออกไปทำงานต่างเมืองกัน เขาทำบริษัทตกแต่งภายใน ส่วนฉันไปเป็นสาวโรงงานทอผ้า ปี 2012 พวกเรากลับมาสร้างบ้านเล็กๆหลังใหม่ที่หมู่บ้าน ปี 2013 ฉันตั้งท้อง ปี 2014 ฉันอยู่บ้านเลี้ยงลูก จุนออกไปทำงานข้างนอก ปี 2015 จุนถามฉันว่า “เรามีลูกอีกคนดีมั้ย…”


    ตอนนี้ชีวิตของฉันดีมาก มีความสุข นี่เป็นเรื่องราวระหว่างฉันกับจุน ที่ฉันแชร์เรื่องนี้ก็เพื่อจะบอกว่า ผู้ชายหน้าตาเป็นยังไงไม่สำคัญ สำคัญคือจิตใจ โชคดีที่ฉันยอมรอจนถึงวันที่เราจะยอมรับตัวตนของกันและกันได้ ให้เวลาความรักสักหน่อย แล้วเวลาจะช่วยเป็นพยาน ว่าเขาเป็นผู้ชายที่คุณควรจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตมั้ย

    แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR
     
  13. คะนึง

    คะนึง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +406
    เห็นว่าเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันค่ะ

    จากกระทู้ สงครามภาคพื้นดิน ห้องวิทยาศาสตร์

    จึงนำมาลงไว้เพื่อพิจารณาค่ะ

    เครดิต: คุณอาเธโพส

    ความรักที่ไม่มีข้อแม้นตั้งแต่เริ่มต้น....

    สำหรับความรู้สึกของเรา ...
    หากหญิงชายใด มี...ความรักที่ไม่มีข้อแม้นตั้งแต่เริ่มต้น
    เราคิดว่ามันคือ สุดยอดของคำว่า...เสียสละ ที่แท้จริงของ.."ความรัก"...

    ใช่คะ
    มันคือ สิ่งที่เป็นกันได้ยากมากๆ
    แต่หาก ท่านใด ...ทำได้ผ่านได้
    จะรับรู้ว่า มันสุดยอดเลยแห่งความสุขในหัวใจ


    คะนึง:

    ใช่ค่ะ มันสุขละเอียด อบอุ่น และลึกซึ้ง เป็นความรักของจิตวิญญาณ เพียงแค่ลองฟังเพลงนี้ แล้วจินตนาการตามด้วยใจจริง จะมีผลต่อจิตวิญญาณของเราเองอย่างมาก จะมีความสุขลึกในห้วงของความรู้สึกที่เราอาจมอบให้ใครสักคนหนึ่ง หรือ มีใครสักคนหนึ่งมอบใหัแก่เรา ที่ใจสองดวงต่างมอบให้กัน หรือ ใจดวงใดดวงหนึ่งที่มีความงดงามของความรักที่มอบให้ แล้วสามารถดึงความรู้สึกความรักในระดับจิตวิญญาณของอีกดวงหนึ่งออกมามอบให้แก่กันและกันได้ เราจะรู้ได้เลยว่า...การเกิดมามีค่ามากแค่ไหน...กับความรักที่บริสุทธิ์ในระดับจิตวิญญาณที่มอบให้แก่กัน เหมือนน้ำอมฤตหล่อเลี้ยงชโลมใจ ในการฝ่าฟันของสรรพทุกข์ทั้งปวงค่ะ

    และ...

    คำว่า"รักที่เสียสละ" คือความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว

    "เสียสละ" คือ ยอมให้เขาได้สร้างนิสัยที่ดีๆให้เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ยอมเสียสละความรู้สึกอารมณ์ของตนเอง ให้เขาได้เกิดการกระทำที่ถูกต้องและดีงาม ที่เขาพึงจะมีให้แก่คนอื่น เพื่อจะได้สร้างนิสัยของเขาให้เกิดขึ้นมีในตน เมื่อเขาสร้างนิสัยที่ดีงามเหล่านั้นไว้เป็นนิสัย เพราะความเสียสละของเราเป็นแรงกำลังอยากให้สิ่งดีดีให้เกิดมีแก่เขา แล้ววันข้างหน้านิสัยที่ดีงามของเราจะกลับคืนตอบสนองแก่เราอย่างแน่นอน ถ้าเราเห็นแก่ตัว ไม่ยอมสละ ทำให้เขาเกิดการกระทำที่เห็นแก่ตัวกับผู้อื่น สักวันนิสัยเห็นแก่ตัวที่เขาสั่งสมไว้จะตอบสนองคืนแก่เรา

    สิ่งที่สำคัญช่วยเหลือกันผ่อนแรงวิบากกรรมของเขา ทำให้เราได้เกิดพบเจอกัน เดินในเส้นทางเดียวกัน ย่อมพบกันเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอดเส้นทาง

    ใช้ได้ทุกกรณค่ะ สำหรับ คำว่า"รักให้เป็น" คือรักที่เสียสละ. รักที่จาคะอารมณ์ "เห็นแก่ตัว"
     

แชร์หน้านี้

Loading...