งมงายจังเลย คนไทย

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เฮ้ออออ, 15 พฤศจิกายน 2004.

  1. Jackey

    Jackey บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ..

    ผมอ่านข้อความของคุณที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษมา
    อยากจะตอบให้เป็นบุญว่า

    ผมเป็นคนที่เกิดในศาสนาพุทธและไม่เคยเข้าวัด ตอนนี้ผมศึกษาอยู่ในประเทศที่ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลัก
    ตอนผมกลับไปกรุงเทพครั้งแรก มีคนชวนผมไปปฏิบัติธรรมที่ยุวพุฒิกสมาคม
    ด้วยความที่ผมอยากพิสูจน์ว่า มันมีอะไรดีนักหนา ถึงแม้เป็นของฟรี
    แต่ถ้าไปแล้วให้นั่งเฉยๆทั้งวัน แค่ฟรีอย่างเดียวมันคงไม่มีคนไปหรอกครับ
    ความคิดของผมหลังจากกลับมาจากที่นั่น ได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
    ผมเชื่อมั่นว่าพุทธศาสนา(พุทธศาสนา จริงๆก็ไม่ใช่ศาสนาแหละ) อธิบายทุกอย่างเป็นธรรมชาติ
    ทุกอย่างพิสูจน์ได้ ขึ้นอยู่กับว่า"จะลงมือทำหรือไม่" เท่านั้นเอง
    แค่คิดว่า ศาสนามันไม่มีอยู่จริง เป็นของที่คนคิดขึ้น ก็ถูกของคุณครับ
    แต่ว่าพุทธศาสนานั้น เดิมทีก็ไม่ได้เรียกว่าศาสนาอยู่แล้ว แต่จะเรียกว่า"ธรรมชาติของชีวิตมากกว่า"
    ลองไปดูศาสนาคริสต์ก็ได้ครับ Google ดูเกี่ยวกับพระเยซู จะมีหลาย"Article"มากๆ
    ที่เขียนความยาวเป็นสิบหน้ากระดาษว่า"พระเยซู"อาจจะเป็นตัวละครที่คนเขียนขึ้น
    เหมือนกับ"อาคีลิส" เทพเจ้าของกรีซ ที่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเหมือนกัน
    (http://www.nobeliefs.com/exist.htm)

    น่าเสียดายนะครับ ที่เกิดมาในศาสนาพุทธ ยังไม่ทันลงมือพิสูจน์ความจริง
    แล้วก็หนีจากมันไปซะแล้ว เพรชมันอยู่ในมือ แต่ดันไปคิดว่ามันเป็นหินได้
    ไอสไตล์เคยพูดว่า
     
  2. Jackey

    Jackey บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ...

    ปล.
    คนศาสนาคริสต์อีกตั้งเท่าไหร่ที่ทำโยคะ หรือนั่งสมาธิเดินจงกรม
    มันไม่เกี่ยวกับศาสนาหรอกครับ ของพวกนี้
    คำพูดของคุณเกี่ยวกับศาสนามันถูกต้องชัดเจน
    แต่ว่าพุทธนั้นไม่ใช่ศาสนา แต่เป็น"ธรรมชาติของชีวิต" แยกแยะให้ออก
     
  3. พงศกร

    พงศกร บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    น่ากรุณามาก

    คุณ Kobe ครับ ในสมัยพุทธกาลมีความเชื่อหลักที่ผิดอยู่สองแนว คือเกิดมาชาตินี้ชาติเดียวตายแล้วสูญ กับชีวิตนี้เป็นวิญญาณขึ้นอยู่กับพระเจ้าต้องทรมานตัวทำยัญกรรมเพื่อไปสู่พระเจ้า ผมจะไม่พูดถึงหลักธรรมมากนัก แต่จะพูดเรื่องวิทยาศาสตร์เพียวๆ
    คุณ Kobe คงทราบแล้วนะครับว่า ยุคหลังไอน์สไตน์นี้เรามีวิธีการอธิบายจักรวาลอยู่ ๒๖ มิติ สรุปง่ายๆว่า มีความเป็นไปได้ว่ามีจักรวาลซ้อนจักรวาล ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ถ้าเราสามารถเข้าไปในมิติอื่นได้ เราก็จะมีชีวิตของเราเองต่างออกไป แปลว่าอะไรครับ แปลว่า ไม่ได้มีเพียงสิ่งที่มองเห็นเท่านั้นที่วิทยาศาสตร์รับรอง แนวคิดว่า วิทยาศาสตร์จะรับรองเฉพาะสิ่งที่สัมผัสได้ หรือ empiricalism นั้นเกิดมาจากเดส์การ์ดในศตวรรษที่ ๑๘ แต่ในยุคไอน์สไตน์ความคิดนั้นไม่มีใครเชื่อครับ ยกตัวอย่างทฤษฎีสัมพันธภาพ รถสองคันวิ่งความเร็วเท่ากัน ทำไมจากที่เราเป็นจุดสังเกตจึงเห็นวัตถุในรถอีกคันอยู่นิ่ง อันนี้เป็นตัวอย่างพื้นๆครับ ฝรั่งเขาก็ไม่เชื่อเรื่องสัมผัสทั้ง ๕ เท่านั้นอีกต่อไปแล้ว แต่เขาจะใช้เครื่องมือในการวัดมากขึ้น ในรูปของพลังงานคลื่นครับ ไม่ว่าจะเป็นแสง แม่เหล็ก ก็เป็นคลื่นเหมือนกัน
    เอาละทีนี้มาที่ศาสนา เอาเฉพาะศาสนาพุทธนะครับ ความจริงมีฮินดู หน่อยๆ เรื่อง reincarnation หรือตายแล้วเกิด มีนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำชื่อ Prof. Ian Stevenson M.D. เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ และ เป็นหมอด้วยของมหาวิทยาลัย เวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐ(โปรดเข้าใจว่าเป็นประเทศเจ้าแห่งวิทยาศาสตร์) ศึกษาปรากฎการณ์การระลึกชาติ โดยมีกระบวนการควบคุมทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้างวด ที่คุณเรียกว่า Scientific method นั่นแหละ คืออย่างน้อย คนที่ระลึกชาติไม่ได้ไปที่ๆเป็นชาติก่อนมาก่อน มีการปลอมตัวคนในชาติที่แล้วไม่ให้จำได้ ฯลฯ มีการบันทึกอย่างละเอียด พบว่ามนุษย์ตายแล้วเกิดใหม่ และ บางคนมีสัญลักษณ์จากชาติเก่าติดมาด้วย เช่นถูกยิ่ง ถูกแทง จะมีรอบปานติดมา นอกจากนั้น ยังมีการพบว่า สัตว์มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็มีต้องเดินทางไปดูที่จริงๆ อะไรอย่างนี้เป็นต้น ที่น่าสนใจคือ มีคนต่างศาสนาเกิดไปข้ามประเทศ ข้ามศาสนา เช่นมีคนเลบานอนศาสนาอิสลาม มาเกิดเป็นศาสนาอื่น ที่ปรากฎเป็นสารคดีในรายการ Discovery ก็คือคนยิวถูกนาซีทรมานตายในเยอรมนี แล้ว มาเกิดเป็นคนอเมริกัน ตอนนี้แกไปช่วยคนยิวในอเมริกาทอดขนมปังแบบยิวอยู่ มีตัวมีตน ฝรั่งไปทำการทดสอบกัน จนแน่ใจจึงทำเป็นรายการสารคดีฝรั่ง ให้ฝรั่งดู แล้วมาให้คนไทยดูจะได้เชื่อต่อไป
    ปัญหาของคนไทยนี่ก็คือ ในบางกลุ่ม บางพวก แม้ในปัจจุบัน ไปเรียนบ้าง ไปเป็นคนใช้บ้าง ให้ฝรั่งแล้วเชื่อว่าฝรั่งดีเลิศ ก็หยิบความคิดเขามา งูๆ ปลาๆ
    ฝรั่งเขาไม่ชอบมีศาสนา เพราะ เขาไม่เชื่อคริสตศาสนา ถามว่า คริสตศาสนาผิดหรือเปล่า ตอบว่าไม่ใช่ โมเสส หรือ พระเยซู อาจมีความเชื่อมโยงกับพระเจ้าของเขา แต่เมื่อโรมันครองอำนาจ จึงใช้ศาสนจักรทำการปกครอง ตรงนี้ที่ฝรั่งเขาไม่ชอย และคุณ Kobe ก็พลอยไม่ชอบศาสนาตามฝรั่ง ลองศึกษาประวัติศาสตร์ยุโรปครับ สมัยกลาง นักบวชฝรั่งฆ่าคนไปเป็นล้านที่ไม่เชื่อฟังคริสตจักร แม้แต่กาลิเลโอ ที่มีผู้อ้างไปก็เพิ่งได้รับการยกโทษการประณามเมื่อปี 2004 นี้เอง แล้วทำไมฝรั่งกลายเป็นไท ได้ ก็เพราะเทคโนโลยีการพิมพ์ที่แพร่หลายจากจีน ไป อาหรับ เข้ายุโรป เกิดโรงพิมพ์ของกูเต็นเบิร์ก เลยพิมพ์ไบเบิลออกมามากมาย ราคาถูก ศาสนาไม่ได้ถูกทำเป็นสิ่งลี้ลับเพื่อผลประโยชน์ของพระอีกต่อไป คนยุโรปเลยเห็นว่า การตีความศาสนาว่าโลกแบนพระอาทิตย์ ดวงดาว หมุนรอบโลก ตามความเชื่อของนักบุญในสมัยจักรวรรดิ์โรมันตะวันออกนั้นผิด
    แล้ว ทราบหรือไม่ครับ พระพุทธเจ้า แม้ว่าจะไม่โปรดที่จะพูดเรื่องโลก เรื่องจีกรวาลเพราะไร้สาระ แต่ก็มีที่ทราบตรัสไว้ว่า "....โลกนี้กลมนะ ไม่ใช่แบน..." โลกแบบนี้มีอีกมาก มีคนอยู่อาศัยเช่นเดียวกันอีกมาก ฯลฯ เมื่อกว่า ๒๕๐๐ ปีมาแล้ว เทียบดูได้กับ ยุคมืดทางปัญญาที่โรมันใช้ศาสนาปกครองคน บรูตัสที่ประกาศก่อนหน้ากาลิเลโอว่า น่าจะมีคนอยู่ในดาวดวงอื่น ถูกไฟเผาทั้งเป็น
    ผมคิดว่า ผมเข้าใจฝรั่งนะครับ ที่เขาจะไม่ยอมรับศาสนา แต่จะเรียนให้ทราบว่า ฝรั่งกำลังศึกษาปรากฎการณ์ทางจิตอย่างมโหฬาร เช่น ในมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน (สหรัฐอีกแล้ว) ใช้เครื่องแสกนสมอง พระธิเบตชาวฝรั่งเศส(เป็นดอกเตอร์ทางวิทยาศาสตร์ครับ บวชมา ยี่สิบปี เก่งทางสมถะด้านการแผ่เมตตา) พบว่าเมื่อแผ่เมตตานั้น สมองส่วนหน้าจะทำงาน และ มีความสุข จึงคิดจะเสนอให้มีการฝึกสมาธิเพื่อการสร้างสุขภาพจิต และ สุขภาพกายที่ดี เป็นต้น
    ประการสุดท้ายที่ผมได้กล่าวไว้ในหัวข้อคือ การที่เราบังเอิญสมาทาน หมายถึงรับ ที่จะเป็นพุทธศาสนิกชน แล้ว เปลี่ยนศาสนา เป็นกรรมหนัก เรียกว่าครุกรรม เป็นรองแต่การ ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ (ซึ่งฝรั่งไม่สนใจ) การทำสงฆ์ให้แตกกัน และ การทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อเลือด นิดเดียวเท่านั้น บวกกับที่มีจิตประทุษร้าย ก่อวจีกรรมทุจริตคือการเขียนเอกสาร จาบจ้วงพุทธศาสนา ก็เป็นกรรมมากอีกเช่นกัน ดังนั้น จึงขออนุญาตที่จะมีกรุณาอยากให้ท่าน Kobe พ้นทุกข์ได้จริงๆ ขอให้มีโอกาสกลับใจ วิการกลับใจไม่ให้คุณ Kobe และ คห.๑ เสียหน้า คือ พยายามศึกษาวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมครับ พยายามให้เป้นคนมีเหตุมีผล จากนั้น ศึกษาประวัติศาสตร์หรืออารยธรรมตะวันตกครับ จะได้ทราบว่า รากเหง้าของฝรั่งที่เขาคิด เขาเชื่อเรื่องต่างๆนั้น เกิดจากอะไร ศึกษาการวิจัยเรื่อง reincarnation ที่คุณยกขึ้นมานั้นแหละครับ ใช้search ทาง internet นี่แหละครับไม่ต้องไปเสียเงินซื้อหนังสืออะไร แล้วจะตกใจว่า ความรู้ของท่าน คห.๑ และ คุณ Kobe อยู่ประมาณปลายศตวรรษที่ ๑๙ เองครับ เราอยู่สมัย ศตวรรษที่ ๒๑ แล้วครับ กรุณาทราบด้วย
    อ้อ เผื่อท่านหาข้อมูลไม่เจอ จะว่าคนในเว๊บ นี้ไร้สาระอีก ปกติกายทิพย์ที่เขาถอดเดินทางไปไหนต่อไหนกันนี้นะครับ มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของฝรั่งครับว่า มีความหนาแน่นน้อยกว่า วัตถุ จึงเดินทะลุกำแพงได้ แต่ มีมวลหนาแน่นกว่า ไฟฟ้า ครับ ถ้าสร้างสนามไฟฟ้าล้อมรอบคนถอดจิตได้จะติดครับ และ คนถอดจิตได้ที่ว่าไม่ใช่คนในกลุ่มของ เว๊ปนี้ครับ เป้นฝรั่งและทดลองกันมานานแล้วตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวจริง บันทึกต่างๆมีสมบูรณ์ ลองหาเพิ่มเติมดูครับ
    ขอความสวัสดี ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ได้มีกับท่านผู้อ่านด้วยครับ
     
  4. ในไร่

    ในไร่ บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    โอ้ น่าสงสารจริงๆ ขาดอธิษฐานบารมี กรรมเลยมาบัง
     
  5. nay_ohho

    nay_ohho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +120
    ผมได้ปริญญา สาขาฟิสิกส์ แต่ผมเชื่อเรื่องพวกนี้ ตั้งแต่เด็กๆ ถ้ามี จิตศาสตร์ หรือไสยศาสตร์
    ผมคงจะได้ในสาขานั้น คงไม่ใช่ ฟิสิกส์หรอกนะ
     
  6. ploy

    ploy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2005
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +113
    คุณเอาอะไรมาวัดว่างมงายหรือดักดาน สิ่งที่เห็นนั้นอาจจะไม่เป็นความจริง แต่เรื่องของสัจธรรมหรืออะไรก็แล้วแต่เป็นเรื่องที่สามารถจับต้องได้มีที่มาที่ไป มีหลักของเหตุผล

    คุณอาจจะเข้าไปไม่ถึงพระธรรมก็ได้นะคะ
     
  7. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,638
    มนุษย์กลัวตาย ทั้งๆที่มนุษย์ต้องรับหน้าที่สำคัญยิ่งมาทุกคน คือ หน้าที่ตาย! อันเป็นหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มนุษย์พิสูจน์กฏไตรลักษณ์ว่าด้วย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้ด้วยตนเอง แต่ไม่ยอมพิสูจน์
    มนุษย์แปลเปลี่ยนอนิจจังตั้งแต่สังขารตน
    มนุษย์มีทุกข์เพราะสังขารตน
    ท้ายสุดก็ต้องวางสังขารไว้ในโลก
    ไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ไม่ "วาง " ไว้
     
  8. PalmPalmnaraks

    PalmPalmnaraks บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    นานาจิตตัง

    ความเห็นกับความเป็นจริงช่างแตกต่างกันมากๆ ทำความเห็นให้ตรงกับความเป็นจริงโดยศึกษาความเป็นจริงให้กระจ่างเถิด ขอบคุณที่มีพี่ๆที่เก่งๆ ตอบกระทู้ให้คนได้พิจารณาตาม ขอบคุณคนตั้งกระทู้ ขอบคุณคนไม่รู้ที่มาถาม จะได้เข้าใจกันมากๆ ธรรมดาสัตว์ทำกรรมมาต่างกันย่อมมีสภาพจิตใจที่แตกต่างกันแม้มนุษย์พี่น้องท้องเดียวกันยังไม่เหมือนกันเหตุใดเล่าคนทั้งโลกจะเหมือนกัน
    ขอฝากนะ ท่านมีความเห็นความคิดเป็นแบบใดก็ทำตามเถิด ท่านเชื่อท่านทำไป ทำอะไรก็ทำไป ถ้าท่านพอใจ แต่อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน และอย่าเอาความไม่จริงมาบอกให้คนอื่นๆเชื่อตามมันเป็นบาปหนัก



    คนที่มีความรู้ทางโลกและสิ่งภายนอกมาก เขาย่อมมีความโง่มากในเรื่องจิตใจของเขาเอง เพราะเขามีแต่เรียนรู้สิ่งที่เป็นของภายนอก แต่เขาไม่เคยเรียนรู้สิ่งที่มันอยู่ภายในใจตนเองเลย มัวแต่วิ่งตามค้นหา
     
  9. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,481
    ค่าพลัง:
    +1,831
    วิทยาศาสไม่สามารถตาม พุทศาสตร์ได้ทันห่างกันหลายขุมเลยครับ^^
    เช่น

    การกล่าวการกำเนิดจักวาลและโลก

    การบอกว่าโลกกลมมิใช่แบน

    การบอกลักษณะ ทารกในครร ตั้งแต่ปฏิสนธิถึงคลอด

    พิสูจเรื่อง เชื้อโรคแบคทีเรียๆลๆ

    เรื่องจักวาล หรือโลกธาตุ มีหลายแสนหลาย้ลานๆ วิทยาศาส ยังงมดข่งกะ "โลกแบนอยู่เล้ย" พุทศาสไปถึงขอบ จักวาลแล้วครับเพ่


    และอีกหลายอย่างมากมาย ^_^
     
  10. ผู้ไม่รู้

    ผู้ไม่รู้ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +3
    น่าสงสารคนตั้งกระทู้จังค่ะ
     
  11. ไวไว ควิก รสต้มโคล้ง

    ไวไว ควิก รสต้มโคล้ง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    ทุกอย่างพิสูจน์ได้ ขึ้นอยู่กับว่า"จะลงมือทำหรือไม่" เท่านั้นเอง
    แค่คิดว่า ศาสนามันไม่มีอยู่จริง เป็นของที่คนคิดขึ้น ก็ถูกของคุณครับ
    แต่ว่าพุทธศาสนานั้น เดิมทีก็ไม่ได้เรียกว่าศาสนาอยู่แล้ว แต่จะเรียกว่า"ธรรมชาติของชีวิตมากกว่า"
    ลองไปดูศาสนาคริสต์ก็ได้ครับ Google ดูเกี่ยวกับพระเยซู จะมีหลาย"Article"มากๆ
    ที่เขียนความยาวเป็นสิบหน้ากระดาษว่า"พระเยซู"อาจจะเป็นตัวละครที่คนเขียนขึ้น
    เหมือนกับ"อาคีลิส" เทพเจ้าของกรีซ ที่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเหมือนกัน
    (http://www.nobeliefs.com/exist.htm)

    ถึงคุณ Jacky #42

    ข้อความและลิงค์ข้างบน กล่าวพาดพิงถึงศาสนาคริสต์โดยไม่มีการพิสูจน์ให้รู้จริง....ขอความกรุณาพิสูจน์ให้เห็นจริงด้วย...

    เพราะการที่คุณมีส่วนร่วมเผยแพร่ทั้งบทความหรือแม้แต่คำพูดเล็กน้อยที่ส่อให้เชื่อว่า "พระเยซู นั้นไม่มีจริง" โดยเฉพาะ 3 บรรทัดสุดท้าย... คำพูดของคุณ...และการช่วยนำเสนอบทความกระแทกศาสนา...มันออกอินเตอร์เนต...มีคนเป็นล้านๆได้อ่าน...หากคนเป็นล้านๆเหล่านั้นเกิดความรู้สึกคล้อยตามว่า "พระเยซูคงจะเป็นตัวละครที่แต่งขึ้นเหมือนกับอาร์คีลิสอ่ะดิ" คุณซึ่งเปรียบดั่งสะพานให้คนเหล่านั้นที่หลงเชื่อเดินข้ามไป....จะพบเจอกับวิบากกรรมอะไรในศาสนาพุทธบ้าง....ผู้มีพระธรรมแก่กล้ารู้ดี...ใช่ไหม?

    แม้พระเยซูจะยกโทษให้...และกรรมที่ทำให้ที่สูงถูกเข้าใจผิดก็จะไม่ติดตัวคุณไป แต่คนคริสต์มากมายเมื่อรู้คงไม่อยากจะยกโทษให้คุณ....และถึงแม้เค้าจะอโหสิให้คุณ...กรรมที่ทำให้คนจำนวนหนึ่งโกรธเคืองกับกรรมที่ทำให้คนมากมายหลงผิดนั้น...มันติดตัวคุณไปแน่ๆใช่หรือเปล่า

    คนที่มีญาณแก่กล้ามากๆในศาสนาพุทธยังรู้เลยว่าพระองค์มีจริง...

    ศาสนาพุทธพิสูจน์ได้ด้วยญาณ..สมาธิและปฏิบัติ... คุณเองก็ยอมรับ ส่วนคริสต์ไม่รู้เรื่องญาณสมาธิ..จะเชื่อพระองค์หรือไม่..อยู่ที่ใจกับพระจิต และหากจะนำญาณสมาธิ มาพิสูจน์การมีตัวตนของพระเยซูกับปาฏิหารย์ว่าจริงหรือไม่...ก็ย่อมทำได้..

    ไม่รู้..ไม่เชื่อ..เพราะไม่เห็น เช่นคุณ kobe ยังไงเสียบาปกรรมก็ยังน้อยกว่าคุณที่รู้วิธีพิสูจน์แต่เพิกเฉย บอกซะอย่างเดียวว่าศาสนาคุณดีกว่า แล้วก๊อปลิ้งค์ของคนที่ยังไม่รู้ว่าจะหาพระเจ้าเจอได้ยังไงมาเผยแพร่ ชวนให้เขาพากันเข้าไปอ่าน แต่ไม่มีการชี้นำทางพิสูจน์ให้กับศาสนาคริสต์ที่ตกเป็นเหยื่อ ...ทั้งที่คุณซึ่งอยู่ในเว็ปปฎิบัติธรรมรู้เสียยิ่งกว่ารู้ซะอีก... คุณมีส่วนให้ร้ายคริสตศาสนาโดยคุณรู้แต่เพิกเฉย ซ้ำยังเอามาป่าวประกาศซะอีก ก็คิดเอา...

    การกระทำของคุณส่อให้เห็นชัดว่า..เฮ้ ! ทางนี้ก็มีกระทู้งมงายอีกอันหนึ่งด้วย ฉันรู้นะว่าจริงเท็จยังไง แต่ไม่บอก บอกแต่ว่าของฉันน่ะจริงแท้แน่นอน ให้คนอ่านคิดว่า "อ้าว คริสต์ก็งมงายเหมือนกันนี่" นี่หรือการกระทำของชาวพุทธ "โกรธเคืองที่ใครว่าตัวเองงมงาย...แล้วมาพาลใส่พระเยซูว่าไม่มีจริงอีก" ...จะเป็นลม

    รู้หนทางแต่ไม่คิดพิสูจน์ให้รู้แน่ว่าคริสต์นั้นจริงเท็จอย่างไร...ก็อย่ามาเสนอหน้าเอาบทความของคนตาบอดฝ่ายวิญญาณจิตมาเผยแพร่ให้คริสต์ได้เสื่อมเสีย

    ด้วยคุณจะไม่พิสูจน์มันก็เรื่องของคุณ...แต่รอใช้เอาเองก็แล้วกัน... ไม่อยากใช้ก็ช่วยพิสูจน์ด้วยตัวเองให้เห็นซึ้งกับตา...มันไม่ได้ยากเย็นอะไรสำหรับคนที่มีญาณสมาธิแก่กล้า...เชื่อ..แล้วขอโทษพระองค์ซะ... บาปกรรมไม่รู้เท่าไหร่...เฮ้อ...
     
  12. ดาวประกาย

    ดาวประกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +216
    อ่านแล้วรู้สึกว่า ต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตนเองดี แต่ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุผล ไม่มีการบังคับว่าเมื่อเกิดมาเป็นชาวพุทธแล้วต้องนับถือศาสนาพุทธตลอดชีวิต ถ้าเราไม่ศรัทธา ไม่เห็นประโยชน์ ก็เป็นสิทธิ์ของผู้นั้น ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เรานับถือและศรัทธานั้นจะสามารถทำให้เรามีความสุขได้จริง ก็สุดแล้วแต่

    ศาสนาพุทธนี้เกิดขึ้นเพื่อให้คนหันมาสนใจเรื่อง เหตุ-ผล
    เพราะเหตุนี้มี เหตุนี้จึงเกิด
    เพราะเหตุนี้ไม่มี เหตุนี้จึงไม่เกิด

    และให้ความสนใจในเรื่องกรรม ซึ่งเป็นการกระทำ ต้องการให้มนุษย์ลดการกระทำที่ไม่ดี และหมั่นทำความดี คิดดี พูดดี และมีสติปัญญาดี

    ***อื่นๆอีกมากมาย***

    ที่สำคัญเราชาวพุทธต้องละอารมณ์ให้มากขึ้นหน่อยนะ ทำใจให้เป็นอุเบกขา มีเมตตา และให้อภัยผู้ที่มีความเข้าใจไม่ตรง

    ศาสนาทุกศาสนา เปรียบเสมือนสิ่งที่เรานับถือเป็นของสูง ฉะนั้น เราไม่ควรนำมาถกเถียงกัน เป็นประเด็นให้เสียความรู้สึก

    นับถือทุกความคิดเห็น(rose)
     
  13. นิรทุกข์

    นิรทุกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +93
    ใครมีความเห็นไม่ตรงหรือขัดแย้งต้องกลายเป็นคนเลว คนขวางโลก คนไม่เอาไหน แปลกมากอัตตายังมีกันสูง แต่กลับหลงว่าสำเร็จในวิชชาต่างๆ รู้ซึ่งในธรรมะของพระพุทธองค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2005
  14. 1111

    1111 บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    งม

    ใครจะว่าคนไทยว่างมงายก็ชั่งเขา เพราะเราไม่ได้ไปเผาบ้านใคร หรื่อไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อนก็พอแล้ว ดีกว่าไม่งมอะไรเลยมีแต่วิจารณ์คนอื่น อิอิอิ
     
  15. lert

    lert Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +39
    ถามนิดเดียว ตอบกันเยอะจังครับ คนถามเลยสบายไปเลย

    ขอบคุณครับ
    เลิศ
     
  16. ไอ้ใบ้

    ไอ้ใบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,254
    ค่าพลัง:
    +7,241
    ผมเคยตอบในกระทู้ ลักษณะแบบนี้ไปแล้ว ไม่มีอะไรหรอกครับ เค้ามาลองภูมิเท่านั้นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...