เรื่องเด่น ง่าย...แต่งาม!! "อาตมาเป็นพระธรรมดา" สัมผัสชีวิตสมถะเรียบง่ายของ "ทะไลลามะ" ที่ใครๆ พูดเสียงเดียวว่า "เป็นพระที่น่ารักที่สุดในโลก"!!

ก่อนมีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งโลกนั้น "องค์ทะไลลามะ" ต้องผ่านการเคี่ยวกรำอย่างหนักทั้งในด้านปริยัติและปฏิบัติจนมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับพุทธศาสนา และรู้รอบคัมภีร์ต่าง ๆ ของนิกายทั้งสี่ ขณะเดียวกันก็มีคุณสมบัติ "ด้านใน" ที่หลายคนรู้สึกได้เมื่อได้อยู่ใกล้ชิด แม้จะไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน

ว่ากันว่า เมื่อสามสิบปีก่อน องค์ทะไลลามะเสด็จเยือนประเทศเม็กซิโก เจ้าภาพได้จัดหาคนมารักษาความปลอดภัยให้พระองค์ แต่เนื่องจากมีทุนจำกัดจึงจำต้องจ้างคนระดับล่างมาดูแลพระองค์ คนเหล่านี้พื้นเพเป็นนักเลง ชอบกินเหล้า พูดจาหยาบคาย เอะอะโวยวาย ไม่มีกิริยามารยาท

แต่หลังจากที่ได้ดูแลพระองค์แค่สองวัน พวกเขาก็รู้สึกซาบซึ้งและประทับใจพระองค์มาก ชื่นชมว่าพระองค์เป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลก และต่างก็พาคนในครอบครัวมารับพรจากพระองค์ ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านั้นนับถือคริสต์ศาสนา






แต่ถึงแม้จะได้รับคำยกย่องทั้งในฐานะผู้รู้ธรรมขั้นสูงและตัวแทนชาวพุทธที่โดดเด่นที่สุดในโลก องค์ทะไลลามะกลับมีความถ่อมตัวมาก พระองค์มักจะตรัสเสมอว่า "พระองค์เป็นพระธรรมดา"

เคยมีคนถามพระองค์ว่า "การบรรลุธรรมเป็นอย่างไร"

พระองค์ตอบว่า "อาตมาก็ไม่รู้ ... ขอให้ไปถามพระอาจารย์องค์นั้น" แล้วพระองค์ก็เอ่ยชื่อวิปัสสนาจารย์ที่อาวุโสกว่าพระองค์

เมื่อมีคนถามพระองค์ว่า "อะไรทำให้พระองค์มีความสุขที่สุด"

แทนที่จะพูดถึงสภาวธรรมขั้นสูง พระองค์กลับตอบสั้น ๆ ว่า "อาหารดีและหลับสนิท"

เคยมีคนถามพระองค์ว่า "พระองค์จำได้ไหมว่าชาติก่อนพระองค์เป็นอะไร"

พระองค์หัวเราะแล้วตอบว่า "รู้ไหม... อาตมายังจำแทบไม่ได้เลยว่าอาทิตย์ก่อนอาตมาทำอะไรบ้าง"







องค์ทะไลลามะเป็นผู้ที่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นมาก หญิงคนหนึ่งเล่าว่าเธอเพิ่งสูญเสียพ่อไป สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความเศร้า พระองค์จึงกล่าวว่า "รู้ไหม... อาตมาพิจารณาความตายวันละห้าครั้ง แต่หากว่าวันนั้นมาถึง อาตมาเกรงว่าอาตมาจะ...พลาดพลั้งไป"

มีเรื่องเล่าว่า เคยมีฝรั่งคนหนึ่งถามพระองค์ว่า "กรุณาตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าทำอย่างไรถึงจะบรรลุธรรมได้เร็วที่สุด"

พระองค์มองชายผู้อยู่ตรงหน้า พิจารณาใคร่ครวญเขาอย่างใกล้ชิดอยู่พักหนึ่ง แล้วน้ำตาก็คลอเบ้า

พระองค์กำลังจะบอกเขาหรือเปล่าว่า คนเราต้องผ่านความทุกข์ยากแสนสาหัสสักเท่าใดกว่าจะบรรลุธรรมได้ ... หรืออาจจะกำลังรู้สึกสงสารเขาอยู่ก็ได้ที่ต้องผ่านความทุกข์ยากมามากมายกว่าจะสนใจการพ้นทุกข์!!


ที่มา : http://www.visalo.org/book/WordaPdf/lamtarn_100.pdf


เรียบเรียงโดย

ณัฐวุฒิ แจ๊ดสูงเนิน : สำนักข่าวทีนิวส์
--------------
http://www.tnews.co.th/contents/342758