จริงหรือไม่ว่าผู้หญิงห้ามฝึกกสิณ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 2 พฤศจิกายน 2012.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ปีทีแล้วเราได้มีโอกาสไปวัดยานาวาที่เมืองไทยเพราะเรามีญาติที่ป่วยเป็นมะเร็ง เราไปเจอคุณลุงคนนึงแกฝึกกสิณจนครบทุกกองแล้วแกบอกว่าพลังบุญที่ได้ณาณ 4 ที่เกิดจากกสิณ ทำให้แกหายจากมะเร็งลำไส้...... แกจึงบอกให้เราลองฝึกดูแล้วไปสอนญาติที่เป็นมะเร็งที่ยุโรป...... เราก็เลยซื้อชุดกสิณกลับไปฝึกที่ยุโรป เรามาเรียนอยู่ที่นี้ ก็ฝึกและก็สอนญาติที่ป่วยให้ฝึกด้วย แต่เพราะไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ค่อยก้าวหน้า..... แต่ก็ถึงขั้นเห็นแสงสีม่วงเป็นจุดเวลาหลับตาหรืออยู่ที่มืดปรากฏว่าวันนึงแม่เราก็โทรมาหาจากเมืองไทย.... บอกว่าไปหาร่างทรงพ่อปู่อะไรสักอย่างที่คนแนะนำให้ไป..... แม่บอกว่าร่างทรงนั้นเป็นผู้หญิงแต่ทรงพ่อปู่ และบอกแม่ให้มาบอกเราว่า บอกลูกให้ลูกเลิกเพ่งกสิณซะ เพราะกสิณนั้นสำหรับเพศพรมจรรย์ หมายถึงผู้ชายเท่านั้นที่ฝึกได้ อย่างลูกเธอนะไม่ต้องฝึกกสิณมันสูงเกิน ชินนบัญชรก็ไม่ต้องสวด มันสูงเกินไป นั่งสมาธิก็สูงเกินไป ให้กินเจอาทิตย์ละ 2วันพอ และสวดเจ้าแม่กวนอิม??

    มันทำให้เรางงเป็นไก่ตาแตก ร่างทรงแต่ไม่รู้แม้กระทั้งว่าเรานั้นเป็นหญิงพรมจรรย์ แล้วมีการแบ่งแยกว่าผู้หญิงนั่งสมาธิ ฝึกกสิณไม่ได้

    คำถามก็คือสิ่งที่ร่างทรงว่านั้นถูกต้องหรือไม่ว่าผู้หญิงห้ามฝึกกสิณ?
     
  2. phutsa

    phutsa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    261
    ค่าพลัง:
    +852
    ผมไม่รู้ว่าร่างทรงจริงหรือไม่นะครับ แต่ถ้าผมลองเปรียบเทียบดูพระองคุลีมารท่านฆ่าคนมามากมายท่านยังปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมได้ แล้วถึงคุณจะเป็นผู้หญิงแต่ก็ไม่ได้ไปทำกรรมหนัก ๆ ขนาดนั้นทำไมจะปฏิบัติธรรมไม่ได้ หรือมั่นใจว่าไม่เคยทำอนันตริยกรรมก็สามารถปฏิบัติธรรมได้แน่นอนครับ และฝึกกสิณก็เป็น 1 ในกรรมฐาน 40 ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ครับ ผมว่าร่างทรงนั้นไม่ถูกต้องแล้วครับ
     
  3. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ขึ้นชื่อว่า กำลังของบุญกุศล เป็นสิ่งที่วิเศษยิ่งนัก สิ่งใดไม่เกินกฎแห่งกรรม กำลังของบุญกุศล บันดาลให้ได้ทุกอย่าง กำลังของบุญนี้ ก็ได้มาจากหลายทางด้วยกัน การฝึกกสิณ ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ก็ยังมีทางที่ได้บุญกุศลมากกว่าการฝึกกสิณ

    ส่วนเรื่องคำถามที่ถาม ขอตอบว่า การบำเพ็ญ สร้างบุญกุศลบารมี ยิ่งเป็นการบำเพ็ญที่จะได้บุญกุศลบารมีมาก จะยิ่งมีผู้ขัดขวางมาก

    พุทธคุณ แนวทางคำสอน การปฏิบัติ ของพระพุทธองค์นั้น ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชัง มีแต่เมตตาไม่มีประมาณ ไม่มีเลือกเพศ ไม่มีเลือกสถานะ แม้ในยุคพุทธกาล หญิงบ้าสติไม่ดี ผัวตาย ลูกตาย พระพุทธองค์ ก็โปรดให้มีสติ ให้เห็นธรรมะ แม้โจรฆ่าคนนับพัน พระพุทธองค์ก็โปรด ให้มีสติ เห็นธรรมะ
    แม้ในสมัยนั้น อินเดียยังมีการแบ่งชั้นวรรณะชัดเจน พวกพราหมณ์เหยียดหยามวรรณะอื่นๆ ว่า เป็นพวกที่ต่ำกว่าตน พระพุทธองค์บอกว่า ทุกวรรณะเท่าเทียมกัน คนในทุกวรรณะบ้างทำดี บ้างทำชั่ว ชั้นวรรณะต่างๆ ไม่ใช่สิ่งที่จะแบ่งแยกดำขาว แต่อยู่ที่การกระทำของคนต่างหาก
     
  4. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    คำว่าเพศพรหมจรรย์ ไม่น่าจะแปลว่า ผู้ชายนะครับ
    แต่น่าจะแปลว่าบุคคลผู้ประพฤติตนไปในทางแห่งประเสริฐ นั่นคือ มรรค ๘ นั่นเอง

    จริงๆแล้วบุคคลผู้มีใจรักในการเจริญพระกรรมฐาน
    และมีใครพูดจาตัดรอนให้เลิกเสียนั้น ผลกรรมนั้นหนักหนานัก

    ถ้าอย่างนั้นอุบาสิกาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อฤาษีจะเป็นอย่างไรละครับ
    เพราะปฏิบัติกสิณกันเป็นอุตสาหกรรมขนาดนั้น

    อนึ่ง กรรมฐาน ถ้าจะให้ดีก็ควรมีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติ
    มิฉะนั้นจะเกิดอาการท้อถอยสับสน และเลิกลาได้ง่าย
    ฝึกกสิณควรจะมีเป้าหมายที่ฌานสมาบัติ
    ฝึกให้ได้ ให้ถึง แล้วค่อยพิจารณาต่อดีกว่า
     
  5. ปัญฺญาวโร

    ปัญฺญาวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +923
    ปฏิบัติที่ใจ ใจเป็นประธาน กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กุศลกรรมก็ดี อกุศลกรรมก็ดี ไม่สำเร็จที่มโนกรรมก่อนขึ้นชื่อว่าไม่มี ที่ได้ยินมาอาจหมายถึงเพ่งโทษของ ธรรมดานิสัยแห่งสตรี ที่เป็นอุปสรรค์ต่อการเจริญกสิณ (ความคิดส่วนตัวโปรดใช้วิจรณญาณ) เช่น สตรีชอบของสวยงาม อาจยึดติดนิมิตง่าย สำนักสมัยก่อนอาจจำกัดสิทธิ์สตรีเพราะกลัวนักปฏิบัติชาย จะไม่มีสมาธิ พระอรหันตสาวกฝ่ายภิกษุณียังมีมากมายเลย
     
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาตอบ จะเอาไปเล่าให้คุณแม่ฟังนะคะ จะได้ไม่เชื่ออะไรผิดๆจากพวกร่างทรงrabbit_sleepy
     
  7. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    แสงสีม่วงที่เห็น ยังไม่หมดคับยังมีอีกหลายสี คนทำสมาธิย่อมเห็นได้ แต่นี้แค่เริ่มต้นคับผมบอกได้เลย ญานทรรศนะเปิดจะเห็นมากกว่านี้คับ

    ต้องเป็นเพศพรมจรรย์อาจจะใช่คือ ชายหรือหญิงก็ได้ แต่ต้องรักษาศีลและงดเว้นจากการเสพกามคับ ให้กินเจนั้นก็ดีคับ แต่สู้รักษาศีล บำเพ็ญเพียรทางจิตไม่ได้คับทางนี้ถึงนิพานได้

    ผู้หญิงย่อมฝึกได้คับถ้าจิตน้อมไปตามกระแสพระธรรมแล้ว และอีกประการคือไม่ควรใช้ร่างทรงแล้วคับ เมื่อเราเข้ามาในศาสนาพุทธแล้ว ให้เคารพใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จะดีกว่า และศึกษาพระธรรมคำสอนโดยละเอียดคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  8. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ขึ้นชื่อว่ากุศลธรรม ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ควรกระทำให้มากคับ เพราะไม่รู้เลยความตายจะมาเยือนเมื่อใด

    อัปฺปกญฺจิทํ ชีวิตมาหุธีรา ... ปราชญ์กล่าวว่าชีวิตนี้น้อยนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ไม่รู้เรื่องกสิณ ก็อย่าพูดให้ผิดทางเลย

    เวลาเขาฝึกกสิณหนะ เขาให้เห็นสีเดียว ไม่ใช่เห็นหลายสี มันจะกลายเป็นกสิณโทษ

    ทำบาปลงไปอีกแล้ว เพราะอวดรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้

    ไม่ต้องเชื่อผมหรอกนะ แต่หาอ่านเรื่องกรรมฐาน 40 หมวดกสิณ ดูเอาเอง

    ส่วนถ้ายังอยากเถียงเรื่อง สีหลายๆ สี ให้ไปเถียงที่กระทู้นี้เอา

    http://palungjit.org/threads/ก-สิ-ณ-น้ำ-อาโปกสิณ.369609/
     
  10. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    คนที่สอนคุณเค้าถึงอภิญญา6รึยัง แต่ก็ไม่ว่ากัน เชิญคุณฝึกไปว่าจะได้อภิญญาสักอย่างไหม หวังว่าไม่แก่ก่อนนะอินทรบุตร

    ส่วนวิธีผมฝึก ผ่านมาไม่ถึง3เดือน ได้ญาน ฌานและดูอดีตชาติได้เริ่มเห็นโลกวิญญาน และพระที่ฝึกไปไม่ถึง4พรรษา ก็มีอภิญญา5แล้วและอาจจะถึงอภิญญา6(ต้องคนมีอภิญญาถึงดูได้ว่าใครถึงไหน) มีทั้งพระและโยมเป็นหลายร้อยท่านได้อภิญญามากน้อยต่างกันไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2012
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ทำตัวเป็นผู้รู้ได้ตลอดนะอินทรบุตร ขนาดยังไม่ได้อภิญญาอะไร เก่งจิงๆ
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    คุณลุงคนที่แนะนำเราให้ฝึกกสิณแกบอกว่าตัวแกฝึกได้ครบทุกกองแล้ว เป็นกสิณสายของพระพุทธเจ้า จะฝึกง่ายมีหลักการดีกว่ากสิณฤษีคะ อย่างถ้าได้กสิณสีแล้วกสิณธาตุดินน้ำลมไฟก็จะได้เองไม่ยาก ที่แกฝึกจะใช้บอร์ดกระดาษทรูกลมตรงกลาง อย่างถ้าจะฝึกกสิณไฟก็เอาบอร์ดนั้นไปตั้งตรงหน้าไฟแล้วเพ่งวงกลมไฟในช่อง และทำแบบเดียวกันกับกสิณอากาศก็เอาบอร์ดมีรูกลมไปตั้งส่องท้องฟ้า หรือหน้าต่าง และทำแบบเดียวกันกับกสณน้ำ อาโป และก็กสิณ ดิน ลม

    แกบอกว่ากสิณน้ำจะมีโทษ ถ้ากำหนดไว้ในสัญญา (เพ่งได้ในสมาธิโดยไม่ต้องเพ่งจากบอร์ดกสิณแล้ว) นานเกิน 1 ชั่วโมง.... จะโดนกสิณน้ำตี แกบอกทำให้ตัวกระเด็นจนอาจบาทเจ็บได้.... และก็บอกว่าคนฝึกกสิณจนได้ฌาณ 3 ขึ้นไปจะมีอายุเพิ่มขึ้น... ถ้าจะตายหรือกำลังป่วยเป็นมะเร็งอะไรอยู่ก็จะหายกันเพราะเจ้ากรรมนายเวรจะตามไม่ทัน เพราะเราจะมาอยู่ระดับพรหมแล้ว พวกบาปกรรม โรคร้ายต่างๆของเจ้ากรรมนายเวรมันจะกลัวไม่กล้า และหยุดทำร้ายเรา เพราะถ้ามันทำอะไรคนที่กำลังจะไปเกิดเป็นพรหม ตัวเจ้ากรรมนายเวรจะบาปหนัก

    แล้วลุงคนนี้แกก็ยังบอกอีกว่ากสิณเป็นการเจริญวิปัสสนาแบบเดียวที่สามารถใช้ฤทธิ์ได้ พอตายไปจะไปอยู่ชั้นพรหมไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว และเตรียมตัวติวเข้มในชั้นพรหมเพื่อรอการเข้านิพพาน และในชั้นพรหมนั้นทุกคนจะเพศเดียวกันหมดก็คือ ไม่มีเพศ เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ใครมีประสบการณ์ตรง จริงเท็จยังไง เพิ่มเติมได้นะคะ
     
  13. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อันนี้ฟังดูแปลกๆ นะครับ กสิณเป็นอุบายรวมกำลังสมาธิจิต เพื่อเป็นบาทฐานของสมาธิ ในการวิปัสสนา แต่ตัวของมันเอง ไม่ใช่การยกพิจารณา การวิปัสสนา ไม่สามารถทำให้เกิดฤทธิ์ได้ เพราะกระบวนการขั้นตอนของการวิปัสสนา คือ การตามดูตามรู้การทำงานของจิต ตามธรรมชาติ ไม่ใช่การแต่งแต้มปรุงจิต ซึ่งกสิณ ยังเป็นขั้นตอนของการปรุงจิตอยู่

    เรื่องของเจ้ากรรมนายเวร นี่เขาก็อธิบายผิดนะครับ กฎแห่งกรรม ไม่ได้ทำงานแบบนั้น ที่เรียก เจ้ากรรมนายเวรนี่ บางทีไม่ได้มีตัว มาคอยจิกให้เราใช้ผลของกรรมเสียตลอดทุกครั้ง ลองหาอ่านคำสอนของพระอรหันต์หลายๆ องค์ดูครับ แล้วเรื่องที่ว่า เจ้ากรรมนายเวรกลัว อันนี้ก็ผิดอีกเช่นกัน ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดเลย ก็คือ พระพุทธเจ้า กับ พระโมคคัลลานะ

    เป็นพระพุทธเจ้า บุญบารมีมากขนาดไหน ชั้นพรหมเทียบกันไม่ติดเลย ตอนไปโปรดท้าวผกาพรหม ท่านก็โปรดโดยการไปเดินจงกรมอยู่บนศีรษะของพรหมนั่นแหละ แม้ขนาดนั้น กายสังขารของพระพุทธเจ้า ก็ยังต้องรับวิบากกรรม พระโมคคัลลานะ เป็นพระอัครมหาสาวก เรื่องฤทธิ์เดชนี่ ไม่มีพรหมผู้ใดเทียบได้ ท่านก็ยังต้องโดนทุบจนกระดูกแหลก เพราะกรรม
    ดังนั้น ไม่สามารถอ้างได้หรอกครับ ว่าถ้าอาทิสมานกาย กลายเป็นพรหมแล้ว จะหายได้จากทุกโรค มันหายได้เฉพาะสิ่งที่กฎแห่งกรรม พอจะผ่อนหย่อนให้ได้บ้าง เท่านั้นเอง

    ต้องบอกว่า ความรู้ทางพุทธศาสนาของลุงคนนี้ ยังคลาดเคลื่อนหลายอย่าง ผมแนะนำว่า ถ้าต้องการกำลังบุญเพื่อหายจากโรคต่างๆ ฝึกตามแนวทางของหลวงพ่อจรัญ ดีกว่าครับ ท่านเป็นพระอริยเจ้าแล้ว แนวคำสอนของท่าน ช่วยคนหายจากมะเร็งแล้วมากมาย

    ส่วนเรื่องกสิณที่ถูกต้อง ท่านแสนสวาท คงจะมาอธิบายให้เร็วๆ นี้ ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  14. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ผมเสริมหน่อยนะครับ ที่บอกว่าขึ้นชั้นพรหมแล้วก็บอกจะติวเข้มนั้น มันบ่อแน่ดอกนาย พรหมบางท่านก็หลงในสุข หลงในฤิทธ์ เพราะชั้นพรหมยังมีกิเลสอยู่ ซึ่งเป็นกิเลสละเอียด ซึ่งบรรดาเหล่ามารชั้นบิ๊กๆก็อยู่ที่ชั้นพรหมกันทั้งนั้น
    เมื่อติดสิ่งที่บอกไปนานนนนนจนลืมตัว จนหมดอายุขัย ต้องลงมาเกิดใหม่อยู่ดี
    ลองนึกดูสิครับว่าเหมือนเรามีทุกอย่างที่อยากได้เราจะเพลินไปกับมันไหม องค์ศาสดาจึงสอนให้เราละกิเลสให้หมดสิ้นไปตอนเป็นมนุษย์นี่แหละครับ เพราะมนุษย์มีทุกข์ เลยเห็นทุกข์ง่าย และสอนเรื่องทุกข์ก็เลยง่ายไปด้วยครับ

    ส่วนเรื่องเวรกรรมนั้น ชั้นไหนๆกรรมก็ตามทันครับ มีแต่ที่นิพพานเท่านั้นที่กรรมไปไม่ถึง ตราบใดที่เรายังมีขันธ์อยู่ ก็ก้มหน้ารับเถิดครับ ขนาดพระอรหันต์ท่านยังไม่หนีเลย เพราะท่านทราบดีว่ากรรมทำร้ายได้แค่ขันธ์เท่านั้น ส่งไปไม่ถึงจิตท่านหรอก
    แต่ที่บางคนยังไม่ส่งผลก็เนื่องมาจากบุญกุศลที่ทำไว้ส่งผล แต่อยากชาตินี้บุญไม่เคยทำแต่จะหวังไม่ให้เจ้ากรรมนายเวรเล่นงานมันบ่อได้ดอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  15. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ยารักษาโรคมะเร็ง



    ....................
     
  16. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ดิฉันได้รับคำขอร้องจาก saber ให้เข้ามาอ่านกระทู้ของคุณ
    ดิฉันก็เป็นพวกที่คนเขาเรียกว่าเป็นคนมีองค์ หรือบางคนเรียกว่าร่างทรง
    แต่ไม่แนะนำให้ใครเป็นร่างทรง และไม่ค่อยเชื่อร่างทรงเท่าไร

    ก่อนอื่น คุณควรเข้าใจว่า กสิณแต่ละกอง มันคนละจริตกันก่อน
    หากเข้าใจเรื่องนี้ ก็ฝึกกองที่ถูกต้องกับตน ก็ง่าย และเร็วได้
    กสิณสี หรือวรรณกสิณ เป็นกสิณที่ถูกกับโทสะจริต หรือโกรธน้อย ๆ
    หากถูกกับจริตของคุณก็ฝึกกสิณสีได้ และได้ผลง่ายกว่า

    ทีนี้ ต้องเครียร์เรื่องร่างทรงออกไปก่อน
    ว่า ร่างทรงเป็นได้ทั้งทรงเทพ และ ทรงผี นะ ต้องเข้าใจข้อนี้
    เพราะอะไรจึงพูด เพราะบารมีที่สร้างไม่บริสุทธิ์ ก็เป็นทางของมารแทรกได้
    เลยไม่ใช่เทพ ทีนี้ก็แนะกันผิด ๆ เข้าป่าไปก็มี
    คนดี ๆ นี่ ผีหรือมารแทรกได้ง่าย เพราะเป็นหน้าที่เขาต้องมาทำ
    โดยเฉพาะเวปธรรมะ นี่ มารเยอะกว่าเทพนะ

    จึงควรดูกิจวัตรของร่างทรงก่อนจะนำมาเกิดความเชื่อ
    การจะเชื่อง่าย นี่ก็เป็นนิสัยที่ติดตัวของมนุษย์มา
    ดังนั้น ควรยืนอยู่บนพื้นฐานของกาลามสูตรก่อน
    พิจารณาก่อนจึงเชื่อนะ พิจารณาโดยปัญญาตนหรือปัญญาคนอื่นที่มีปัญญา
    การบอกได้ว่า คุณเป็นสาวพรหมจรรย์หรือไม่ พอได้ทิพยจักษุ ก็บอกได้เหมือนกัน
    ไม่ต้องรอเป็นส่วนหนึ่งขององค์เทพหรอก แต่นั่นก็เป็นฌานทางโลกียะ(ทางโลก)
    การตั้งดวงชาตาก็บอกได้เช่นกัน
     
  17. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ความเชื่อ กาลามสูตร
    กสิณกรรมฐาน เป็นบาทแรกที่พระพุทธองค์กล่าวว่า เหมาะกับจริตท่านใด
    กสิณแม่ธาตุ ดินน้ำไฟลม เหมาะกับทุกจริต
    กสิณสี เหมาะกับโทสะจริต
    กสิณที่เหลืออีกสอง เหมาะกับทุกจริต
    พระองค์กล่าวไว้เช่นนี้ แล้วเขาเป็นใครจึงค้านคำพระพุทธเจ้า
    เรื่องที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ ไม่ได้บอกว่า ยกเว้นอะไร
    คุณอย่างลังเลสงสัยในคำของพระองค์

    ธรรมะของพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมานานเพียงใด
    เพื่อให้ทุกคนหลุดพ้น จากวัฏฏะ แล้วเราควรจะเชื่อใครดี
    เชื่อผู้ที่สูงสุดของพระพุทธศาสนา เชื่อได้ไหม ลองใช้ปัญญาดู
     
  18. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    เมื่อทำความเข้าใจได้แล้ว
    หากต้องการให้ดิฉันแนะนำเรื่องจริตของคุณ
    ก็มีกติกา คือบริจาคเข้าวัดพระบาทน้ำพุ หากไม่สะดวกก็
    บริจาคเข้าเวปพลังจิตนี่แหละ ง่ายดี
    เกิน ๑๒ บาท เป็นอันใช้ได้ เพื่อบูชาครูบาอาจารย์ก่อน
    แล้วบอกวันเดือนปีเกิด เวลาเกิดไปที่ pm จะตอบให้ในกระทู้


    http://palungjit.org/threads/จริต-๖-เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะสม.310598/page-37
     
  19. แสนสวาท

    แสนสวาท ชมรมสุวรรณภูมิธรรม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,399
    ค่าพลัง:
    +2,488
    รู้จริต เพื่อการเจริญกรรมฐานสู่การบรรลุธรรม


    จริตมนุษย์นี้ ไซร์สำคัญนัก

    แจ้งประจักษ์ ให้รู้อุปนิสัย

    โกรธ วิตก โลภ หรืออย่างไร

    บอกได้ง่าย ได้ชัดนิสัยเดิม




    หลงไปแล้ว หรือจิตมีศรัทธา

    มี ปัญญา แก้ไข ไม่ตื้นเขิน

    รู้จริตรู้กรรมฐาน รู้กาลเพลิน

    ละตัวตนเมินได้ เข้าสู่ธรรม ......จากเวปพลังใจ Absolute
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2012
  20. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ตามจริงต้องผู้ที่ได้อภิญญา6คับ ถึงจะบอกจริตผู้อื่นได้ถูกต้อง อภิญญา5ยังไม่ใช่วิสัยเลยรู้ได้แต่อาจคลาดเคลื่อน พวกร่างทรงหรือเทพนั้นยิ่งไม่ต้องพูดเลยคับ และต้องยึดหลัก กาลามสูตรด้วย หรือไม่ก็ฝึกเองทีละอย่างดูคับ ในกรรมฐาน40ว่าวิธีไหนได้ผลกับตน เช่นได้ ญาน ฌาน ส่วนตัวผมฝึกอสุภกรรมฐาน ได้ญาน ฌานไวคับ และพระท่านก็ได้อภิญญา5ไปหลายสิบรูปอาจถึงอภิญญา6แล้วก็ได้(คนธรรมดาดูไม่ออกอภิญญา6ต้องคนมีอภิญญาถึงดูวาระกันได้ และอะไรคือทางอะไรไม่ใช่ทาง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...