จันทร์นวล นาคนิยม - ณ ที่ที่พระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อลาพุทธภูมิ(ลูกศิษย์บันทึกเล่ม 1)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย sutthida, 20 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. sutthida

    sutthida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +3,388
    จันทร์นวล นาคนิยม - ณ ที่ที่พระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อลาพุทธภูมิ [​IMG]
    [​IMG] จันทร์นวล นาคนิยม - ณ ที่ที่พระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อลาพุทธภูมิ
    (๑ คนจากลูกศิษย์ ๖ คน รุ่นแรก วัดโพธิ์ภาวนาราม อ.เมือง จ.ชัยนาท)
    ผู้เขียนเป็นข้าราชการ อยู่จังหวัดชัยนาท วันพระ ผู้เขียนจะไปทำบุญที่วัดโพธิ์ฯ เป็นประจำ
    พบหลวงพ่อที่วัดโพธิ์ ตอนนั้นหลวงพ่อเป็นลูกวัด อยู่ที่วัดโพธิ์ภาวนาราม มีกุฏิหลังเล็กๆ ปลูกอยู่ใกล้ต้นโพธิ์ใหญ่ ตอนเช้าหลวง
    พ่อจะออกบิณฑบาตโปรดสัตว์เป็นประจำทุกวัน

    ณ ต้นโพธิ์ต้นนี้แหละที่หลวงพ่อลา พุทธภูมิ ไม่กลับมาเกิดอีก เพราะเห็นทุกข์มากเหลือเกิน เมื่อหลวงพ่อไม่มาเกิดอีก ลูกหลาน
    บริวารทั้งหลายก็จะพาไปด้วยจะหมดหรือไม่หมดหรือมากน้อยแค่ไหน ก็จะพยายามจนถึงที่สุด

    ผู้เขียนพบหลวงพ่อที่วัดโพธิ์นี่เอง ไปวัดทำบุญได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อบ่อยๆ ฟังแล้วรู้สึกเข้าใจง่ายและปฏิบัติตามได้ และไป
    รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อบ่อยๆ เข้า ตอนเย็นเลิกจากทำงาน อาบน้ำทานข้าวก็ชวนกันไปวัดกราบหลวงพาอขอฟังธรรมะ หลวง
    พ่อสอนจากศีล ๕ กรรมบถ ๑๐ ประการ ตอนนั้นหลวงพ่อยังไมรับลูกศิษย์เรียนสมถะ วิปัสสนากรรมฐาน

    ต่อมาท่านหลวงปู่ปาน ท่านสั่งให้หลวงพ่อรับลูกศิษย์กรรมฐานได้ หลวงพ่อเมตตารับผู้เขียนเป็นลูกศิษย์ รวมทั้งหมด ๖ คน วิธี
    กรรมการรับลูกศิษย์ครั้งนั้น มีดังนี้ หลวงพ่อพาพวกเรา ๖ คนนั่งเรือไปที่วัดงิ้ว ให้ไปรับต่อหน้าพระประธานในโบสถ์ วัดงิ้ว เวลา
    นั้นที่วัดโพธิ์ยังไม่มีโบสถ์ ผู้ที่จะไปรับเรียนกรรมฐาน ต้องเตรียมของดังนี้

    ๑. เทียนแท้หนัก ๑ บาท ๕ เล่ม
    ๒. ดอกไม้ ๕ กระทง
    ๓. ข้าวตอก ๕ กระทง
    ๔. ถาด ๑ ใบ

    เริ่มจุดเทียนตั้งในถาดทั้ง ๕ เล่ม รอบล้อมด้วยกระทงข้าวตอกและดอกไม้ พร้อมแล้วหลวงพ่อ ชุมนุมเทวดา นำนมัสการพระ
    รัตนตรัย รับศีล๕ และสมาทานพระกรรมฐาน ทุกคนนั่งสงบฟังหลวงพ่ออธิบายธรรมะ เรียนแบบสุกขวิปัสสโก ในหมวด อานา
    ปานุสสติ ภาวนาว่าพุทโธ เวลานั้นยังไม่มีเรียนแบบมโนมยิทธิ

    ลูกศิษย์ทุกคนจะไปรวมกันรับฟังธรรมะจากหลวงพ่อตอนเวลา ๑๘.๓๐ น. ภึง ๒๐.๐๐ น.ก็กลับบ้านเป็นบางครั้งที่จะได้ไปร่วม
    กันนั่งฝึกสมาธิ เพราะสถานที่ไม่มีที่กุฏิหลวงพ่อก็เล็กมาก ตอนนั้นไม่มีหนังสือคู่ปฏิบัติกรรมฐาน ไม่มีเทปธรรมะ ได้อาศัยไป
    ฟังหลวงพ่อบ่อยๆ แล้วต่างคนก็ต่างไปฝึกนั่งสมาธิกันที่บ้าน หลวงพ่อมีเมตตา เขียนคู่มือการปฏิบัติใส่สมุดเล่มเล็กให้ไปอ่าน
    และศึกษา

    พระเดชพระคุณของหลวงพ่อมากมายหาที่เปรียบมิได้ พยายามอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ลูกๆ หลานๆ ทุกคนให้ได้ แม้หลวงพ่อจะ
    ลำบากหรือจะเจ็บไข้ได้ป่วย หลวงพ่อไม่เคยบ่น ใครทำดี ปฏิบัติได้ดีหลวงพ่อก็ชม และให้กำลังใจ ถึงลูกศิษย์ ลูกๆ หลานจะ
    มากแค่ไหน

    หลวงพ่อเคยพูดไว้ว่าคนเราจะเหมือนกันทุกคนไม่ได้ คนเรานี้เปรียบเหมือนบัวสี่เหล่า
    บัวชนิดที่ ๑ คือบัวที่พ้นน้ำขึ้นมาแล้ว
    บัวชนิดที่ ๒ คือบัวที่ปริมผิวน้ำ
    บัวชนิดที่ ๓ คือบัวที่อยู่ในน้ำ
    บัวชนิดที่ ๔ คือบัวที่อยู่ในดินโคลน
    หลวงพ่อมีเมตตามากๆ พยายามสอนแล้วสอนเล่าเขียนคู่มือปฏิบัติ และหนังสืออื่นๆ หลายเล่ม ออกเทปธรรมะให้ทุกคนได้
    อ่านฟังปฏิบัติมรรคได้ผลแล้วจะได้ถึงซึ่งพระนิพพาน

    ตัวผู้เขียนมานึกตัวของตัวเอง เรานี้หนอคงจะเป็นเหล่าที่ ๔ ที่อยู่ในดินโคลน แต่มาดีใจที่เห็นพวกน้องๆ ลูกๆ หลานๆ ส่วนมาก
    ท่านเก่งๆ กันเกือบทุกคน ไปเที่ยวนรกไปเที่ยวสวรรค์ เห็นผีเห็นเทวดา ส่วนตัวผู้เขียนไม่เห็นอะไรเลย ถ้าหากท่านไม่จงใจให้
    เห็น ทั้งหลับตาก็มืดไปหมด จนเวลานี้ไม่ค่อยได้นั่งหลับตาแล้ว ลืมตามองยังจะเห็นอะไรดีๆ ได้ อะไรๆ หมายถึง เห็นคน เห็น
    สัตว์ ต้นไม้ เห็นสิ่งต่างๆ ที่รอบตัวเรา ที่เกิดขึ้นมาเป็นเพื่อทุกข์ที่เกิดแก่ เจ็บ ตาย สบายใจไม่เป็นทุกข์

    แต่ก็มีเหตุการที่ประทับใจ หลายๆ อย่าง เกิดขึ้นหลังจากที่ได้เข้ามาปฏิบัติ ฝึกสมาธิจิต เป็นศิษย์ของหลวงพ่อ
    ผู้เขียนจะเล่าให้ฟังสักเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒ ได้ติดตามคณะของหลวงพ่อและหลวงปู่ธรรมชัย วัดทุ่งหลวงไปประ
    เทศอินเดีย คณะทั้งหมดไปพักที่วัดไทยพุทธคยา วันหนึ่งผู้เขียนได้ติดตามหลวงปู่ธรรมชัยไปขึ้นเขาคิชฌกูฎ ไปกันหลายคน
    แต่หลวงพ่อไม่ได้ไป บางคนก็อยู่กับหลวงพ่อ

    หลวงปู่พาไปกราบนมัสการ ที่ๆ เคยเป็นกุฏิขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และที่ตั้งกุฏิของพระอานนท์ ที่อยู่บนยอดเขา
    คิชฌกูฎ เมื่อขึ้นไปถึงแล้วทุกคนก็ปลาบปลื้มปิติก้มกราบนมัสการ ส่วนหลวงปู่กราบแล้วก็สวดมนต์ หลงปู่ชอบสวดดังๆ พวกเรา
    ก็พนมมือฟะงหลวงปู่สวดมนต์เพลินไปจนตัวผู้เขียน เกิดนิมิต เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลอยมาบนอากาศ มีรัศมีสวย
    งามมาก ท่านเมตตาให้เห็น เห็นแบบพระพุทธรูปแบบอินเดียที่มีรัศมีรอบพระเศียร เพราะว่าผู้เขียนไม่เคยเห็น จึงประทับใจใน
    เหตุการณ์ครั้งนี้มาก ก็มีความอยากได้พระรพุทธูปอย่างที่นิมิตนั้น

    เมื่อรถพาไปนมัสการในที่ต่างๆ ผู้เขียนก็พยายามหาซื้อเผื่อจะมีจำหน่ายบ้างแต่ปรากฏว่าไม่มีจำหน่ายเลย พอใกล้วันจะกลับประ
    เทศไทย พวกเราต่างคนต่างไปหาซื้อของที่ระลึกจากอินเดีย ในวัดที่ไปพักนั้น ตอนกลางคืนจะมีคนอินเดียนำของมาขายหลาย
    อย่างหลายชนิด ผู้เขียนก็ออกหาซื้อของเช่นกัน แต่ก็ไม่วายที่จะถามหารูปพระพุทธรูปที่อยากได้ ปรากฏว่าไม่มีจำหน่ายเลยหมด
    หวังก็หอบข้าวของกลับเข้าห้องพัก ตรงทางที่จะขึ้นบันไดนั่นเอง มีรูปพระพุทธเจ้าองค์เล็กเท่าปลายนิ้วก้อย เป็นรูปที่อัดลงหินแบบ
    ล็อกเกตห้อยคอ ก็ดีใจมากหยิบขึ้นมาดูเป็นรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงตามที่นิมิตไดไว้บูชา สาธุ


    ที่มา เว็บแดนนิพพานค่ะ
     
  2. ตำสั่วปู ปลาร้า

    ตำสั่วปู ปลาร้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +462
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2008

แชร์หน้านี้

Loading...