จับได้ว่าสามีมีเมียน้อย

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย ruxkonthai, 4 ตุลาคม 2007.

  1. ruxkonthai

    ruxkonthai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    เมื่อปี2548จับได้ว่าสามีมีเมียน้อย เขารับปากว่าจะเลิกตอนนั้นเขาบอกว่าเขาขอเวลาซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ จนเราตัดใจไม่ตามไม่หึงหวง คิดว่าเราไม่รักเขาแล้วแต่ต้องทนอยู่ด้วยกันเพราะญาติผู้ใหญ่ให้เห็นแก่ลูกเรามีลูกด้วยกัน2คนกำลังจะเข้าวัยรุ่น เราเคยขอหย่าแต่เขาไม่ยอมเพราะเขากลัวจะต้องขายบ้านแบ่งสินสมรสให้เรา เขาให้เราอยู่เหมือนตกนรกทั้งเป็น อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป ต่อมาเขาก็ทำตัวเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เราตายใจว่าเขาเลิกกันแล้วและเราก็ไม่ได้ตามเขาด้วย งานของเขาทำให้เขาไม่ได้อยู่กับเราตลอดหลายๆวันถึงจะกลับบ้านเราไม่สามารถรู้ได้เลย ว่าเขาจะเลิกกันจริงหรือเปล่า
    แต่วันนี้เราจับได้ว่าเขายังไม่เลิกกันจริงๆ เราอยากหย่ากับเขาเราควรทำอย่างไรดี ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าเรารู้แล้วที่เขายังไม่เลิกกัน เราควรเฉยไว้แล้วอยู่บ้านให้เขาให้เงินใช้หรือออกไปทำงานเก็บเงินเพราะอนาคตเราคงฝากชีวิตไว้กับเขาไม่ได้ พอเรามีรายได้เขาก็ไม่ให้เงินเรา เขาก็มีไปให้เมียน้อยมากขึ้น
    ตอนนี้เราอยู่กันแบบชืดๆความรักมันหมดไปแล้ว
     
  2. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ในเมื่อคุณยังไม่รู้เลยว่าจะเอาอย่างไรดี ยังสับสนอยู่ ก็อย่าเพิ่งไปโวยวาย เพราะถ้าโวยวายไปตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ทะเลาะกันแล้วยังต้องมองหน้ากันอยู่ทุกวัน คุณก็ยังหาทางออกไม่ได้ เขาก็ยิ่งอยากออกไป แล้วเดี๋ยวเขาจะระวังตัวมากขึ้นครับ

    คุณน่าจะถามตัวเองให้ดีๆ ว่าต้องการอะไร เข้าใจคุณก็แต่งงานกันมานานพอสมควรแล้ว ถ้าคิดว่าฝากอนาคตไว้กับเขาไม่ได้แล้ว ก็ต้องวางแผนซะแต่เนิ่นๆ
    ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าตัดสินใจบนพื้นฐานของอารมณ์อยากเอาชนะ หรือ ประชดประชันกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  3. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,518
    ค่าพลัง:
    +27,187
    อยู่ชืดๆก็ทำใจให้สบายกับความชืด
    เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขา
    เราทำอะไรถึงจะเป็นเรื่องของเรา
    ทำหน้าที่ตัวเองไปให้ดีที่สุด
    ไม่เหมือนตกนรกหรอก
    สบายกว่านรกเยอะ
     
  4. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    สบายนะ มีเงินให้ใช้ด้วยไม่ต้องเหนื่อย เลี้ยงลูกต่อไปค่ะ พาลูกไปวัดบ่อยๆนะคะ ปิดเทอมพาลูกไปถือศีล8ปฏิบัติธรรมที่วัด ความดีจะเอาชนะทุกอย่างได้ค่ะ คุณโชคดีกว่าหลายๆคนนะ ที่เค้าไม่มีโอกาสได้ไปไหนเลย ไม่มีโอกาสที่จะไปแสวงบุญที่ไหน รีบคว้าไว้ค่ะ พาลูกไปด้วยนะ รับรองลูกคุณจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
     
  5. BirdSoul

    BirdSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,020
    เป็นฉันคงอกแตกตายแน่ ถ้าเจอสภาพแบบนี้
    เห็นใจค่ะ ถ้าคุณอยู่เหมือนตกนรกทั้งเป็นก็ไม่ควรทนแล้ว
    คุณจะยอมให้ชีวิตที่มีค่าของคุณรับสภาพความทุกข์ไปตลอดหรือ
    คนเราควรจะอยู่อย่างมีความสุขมากกว่า ชีวิตคนเรามันไม่ได้ยืนยาว
    นักหนา น่าจะเลือกอยู่อย่างมีค่าและมีความสุข ในเมื่อเค้าไม่เห็นคุณค่า
    เราแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องง้อ
    แต่คุณต้องเลือกปฎิบัติโดยวิธีที่เหมาะสม
    เปิดใจคุยกับเค้าใหม่ พูดกันให้เข้าใจ อย่าใช้อารมณ์หล่ะ
     
  6. สราวุธ ลำพูน

    สราวุธ ลำพูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +302
    เราสุข เราทุกข์ มันก็เกิดจากใจ เกิดจากใจ ก็ต้องดับที่ใจ อย่ายึดมั่นถือมั่นเลยนะคุญ ขอเป็นกำลังใจให้นะ
     
  7. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    ปัญหาโลกแตกน่ะ

    ค่อยๆคิดหาทางออกนะครับ อย่าไปใจร้อนลงไม้ลงมือทะเลาะกัน
    ของแบบนี้ บางทีมีมาได้ แต่ไปเองก็มี อย่าวู่วาม ให้ทำใจ

    คนที่มีปัญหาแบบนี้ เมืองไทยมีหลายหมื่นคน เพียงแต่จะบอกกับสังคมหรือเปล่าเท่านั้น
     
  8. ruxkonthai

    ruxkonthai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและคำแนะนำค่ะ
     
  9. phanuwatbkk

    phanuwatbkk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +11
    คุณ Ruxkhonthai ครับ สภาพจิตใจผมไม่แตกต่างกับคุณเท่าไรนัก อาจจะแย่กว่าตรงที่รักเค้ามาก ชีวิตเคยคิดว่าไม่ว่าเราจะเจออะไรที่ลำบากแค่ไหน หรือทุกข์ขนาดไหน เมื่อเรากลับบ้าน ยังมีคนที่มีความหมายกับเราอย่างแท้จริงคอยเป็นคนให้กำลังใจ เช่น พ่อทำต่อเพื่อลูกและเรานะ คำนี้แหละที่ติดอยู่ในใจแล้วมันค้างเป็นสัญญาเก่าว่า ทำไมเมื่อก่อนเธอพูดแบบนี้ ทั้งๆที่เธอมีคนอื่นในใจแล้ว และหลังการจับได้ ก็รู้สึกว่า ทำไมเล่นละครต่อหน้าเรา พอฉากนี้ถูกเปิดเผย ก็กลายเป็นอารมณ์โกธรแค้น สาดเสียเทเสียว่า ไม่เคยให้ความรักแก่เธอ ผมคงหอมแก้มเธอทุกวันไม่ได้ เพราะจิตใจที่จะดำเนินชีวิตเรื่องงานก็แย่พอแล้ว , ผมเลือกที่จะหย่าไปแล้ว แต่ไม่อยากให้คนอื่นทำตามผม และผมวางแผนที่จะออกไปใช้ชีวิตของผมเอง และบอกกับตัวเองว่า ถึงนอนไม่หลับตลอดเดือนที่ผ่านมา แต่ถ้าอะไรๆมันดีกับชีวิตผมกับลูกก็ขอให้มันสำเร็จ และลุล่วงไปด้วยเถิด แต่เหมือนกับว่ายังติดแรงดึงรั้งอะไรสักอย่าง ทำให้ผมทำใจได้ค่อยข้างยาก อาจจะเพราะแต่งงานอยู่กินกันมาประมาณ 10 ปีแล้ว จึงตัดสินใจได้ลำบากเอามากๆ สภาพผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับศพเดินได้ครับ (มันกลัวๆกล้าๆและไม่หนักแน่นเอาเลย) บุญที่ผมได้ทำไว้ขอให้ส่งผลเป็นกำลังใจแก่คุณให้ผ่านพ้นไปด้วยดีครับเช่นกันครับ
     
  10. thanyaka

    thanyaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +2,497
    ให้กำลังใจคุณ ทั้งสอง ชีวิตคนเรามันสั้นถ้าคิดว่าอีกกี่นาที..อีกกี่ช.ม อีกกี่วันวัน..อีกกี่ปี..เราจะตาย..มันก็คงทุกข์ไม่ถึงร้อยปี..ชีวิตก็ดำเนินต่อไป
    มันคงทุกข์อยู่ที่ใจสุขก็ที่ใจ..ถ้าแก้ตรงนี้ได้มันก็คงสุขขึ้นนะ...
     
  11. แย้มจิต

    แย้มจิต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +73
    รอยร้าวที่แตกสลาย

    เกิดเป็นคนก็มีแต่ทูกข์แทบทั้งนั้น เพิ่งจับได้ว่าสามีนอกใจเมื่อคืน เพราะผู้หญิงโทรมา เหมือนหัวใจแตกสลายไม่คิดเลยว่าคนที่เรารักและไว้ใจมา14ปีจะทรยศ เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน กว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันก็แสนลำบาก หัวใจเขาทำด้วยอะไรหนอ ไม่สงสารเมียก็น่าจะสงสารลูก2คนที่ยังเล็ก ความผิดอะไรให้อภัยทุกอย่างแต่เรื่องนี้รับไม่ไหวจริง ๆ ตอนนี้หมดเรี่ยวแรงและกำลังใจเหลือเกิน คำขอโทษคำแก้ตัวไม่ช่วยให้เราดีขึ้นเลย คิดจะเลิกแต่เขาไม่ยอม อ้างรักลูก แต่ตอนทำไม่คิดคิดแค่ว่าสนุก เรารู้สึกย่ำแย่เหลือเกินร้องให้ทั้งวัน กลัวจะเลี้ยงลูกคนเดียวไม่ไหวคนเล็กเพิ่งจะขวบกว่า จะอยู่กันต่อไปก็ไม่รู้จะทำใจไม่ได้ สงสารก็แต่ลูก นี่หรือชีวิต(cry)
     
  12. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    คุณคะใจเย็นๆค่ะ เค้าเป็นเพื่อนกันหรือเปล่าคะ :)ผู้หญิงกับผู้ชายสมัยนี้ต้องทำงานร่วมกันนะคะ เค้าอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้นะคะ
     
  13. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ชอบคำนี้มากครับ "สบายกว่านรกเยอะเลย" จริงแท้ที่สุด

    ขอเป็นกำลังใจกับผู้มีความทุกข์ ทุกท่าน ไม่ว่าทุกข์น้อยหรือทุกข์ใหญ่

    โปรดระลึกไว้เสมอครับว่า ทุกปัญหามีทางออก เมื่อหลุดจากพันธนาการที่ใจเราสร้างขึ้นไว้เอง (ไม่ว่าจะเห็นว่าทรัพย์นั้น คนนั้น เป็นของเราหรือของเขา) ความสุขใจจะบังเกิดครับ นึกถึงพระพุทธเจ้าไว้ให้มั่นครับ
     
  14. นพสร

    นพสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    549
    ค่าพลัง:
    +1,176
    เข้ามาดู
     
  15. phoenix2008

    phoenix2008 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +0
    สงสารทุกคนที่เจอปัญหาแบบนี้มาก เคยคิดจะเลิกกับสามีเหมือนกันเมื่อเกือบ10ปีมาแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ดีใจที่ไม่เลิก เมื่อไรที่อกุศลกรรมให้ผลจะทำให้มีแต่ทุกข์และปัญหามากมาย ขอเพียงคุณและครอบครัวทำบุญทำแต่ความดีสมำเสมอร่วมกันและหันมาปฏิบัติธรรมบ้าง รู้จักยอมรับและให้อภัยกัน ต่อไปทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นเพราะผลบุญให้ผลจะมีความสุขทั้งครอบครัว ขอให้ทุกคนแก้ปัญหาด้วยปัญญา ใช้หลักธรรมของพระพุทธองค์ดำเนินชีวิต เมื่อเห็นทุกข์จึงจะเห็นธรรม จะได้ไม่หลงในโลกและไปนิพพานซะชาตินี้ดีมั้ยคะ
     
  16. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,673
    เป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ ขอให้มีจิตใจที่เข้มแข็ง และสงบเป็นสุขค่ะ ^^
     
  17. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,504
    (f) (f)

    เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ต้องคิดมาก ..คิดเบาก็เบา คิดหนักก็หนัก



    ถ้าสามีเขามีความสุขก็ให้เขาไปเถอะค่ะ
    เราดูแลลูกอยู่กับบ้านนี่ล่ะมีความสุขดี


    ถือว่า พวกเขาเกิดมาเพื่อทดสอบกำลังใจของเราชาตินี้ :cool:

    (rose) (rose)

    อยากให้ลองอ่านเรื่องของนางอุตตรา สตรีนางนึงสมัยพุทธกาล
    ในตำนานพระพุทธรูปปางชี้อสุภ อ่านแล้วจะรู้สึกหลงรักเธอมากๆ

    (f)


    สมัยพุทธกาล ที่พระนครราชคฤห์ มีหญิงนครโสเภณีคนหนึ่งรูปงามมาก ทั้งฉลาดในการร่ายรำและขับร้อง
    จับใจของบุรุษให้มัวเมา หลงติดอยู่ในความงามของรูปและความไพเราะของเสียงขับร้อง ทั้งในท่าทีของ
    การร่ายรำ มีมีสตรีใดเทียม สตรีนี้ชื่อว่า นางสิริมา เป็นน้องสาวของนายแพทย์ชีวก โกมารภัจจ์ บุรุษทีมี
    ความประสงค์จะขอเข้าร่วมนอนด้วยจะต้องจ่ายทรัพย์ให้แก่นาง ๑,ooo กหาปนะต่อ คืน เท่ากับคืนละ
    ๔,ooo บาท ในสมัยนั้น ซึ่งค่าของเงินแพงมาก ดังนั้นนางสิริมาจึงอยู่ในฐานะเป็นนครโสเภณีชั้นสูง
    ได้รับยกย่องในเวลานั้น​

    วันหนึ่ง นางอุตตราเสฏฐินี ผู้เป็นภรรยาของท่านเสฏฐีบุตรในพระนครราชคฤห์ แต่ท่านเสฏฐีบุตรผู้นี้เป็น
    มิจฉาทิฎฐิ ส่วนนางอุตตราเป็นอุบาสิกา มั่นคงในพระพุทธศาสนา นับแต่นางได้จากเรือนมาอยู่ร่วมกับ
    ท่านเสฏฐีบุตรแล้ว ไม่มีเวลาได้บำเพ็ญทานรักษาศีล และฟังพระธรรมเทศนาเลย เป็นความลำบากใจมาก
    สุดที่จะทนทานได้ นางจึงส่งคนไปแจ้งเรื่องความเดือดร้อนให้ท่านปุณณเสฏฐีผู้เป็นบิดาทราบ พร้อมกับ
    ขอเงินก้อนหนึ่งเพื่อเอาบำเพ็ญกุศล เมื่อนางอุตตราได้เงินมาสมใจแล้ว จึงได้ขอโอกาสทำบุญต่อสามี
    ๑๕ วัน​

    โดยนางจะไปหานางสิริมา มาปฏิบัติแทนตัว ครั้นสามียินยอมแล้ว นางก็ให้ไปเชิญนางสิริมา
    มาพบ และขอร้องนางสิริมาให้ช่วยอนุเคราะห์รับธุระปฏิบัติสามีให้ ๑๕ วัน โดยจะยอมจ่ายเงินตอบสนอง
    งานให้ตามระเบียบ แม้อาหารการบริโภคก็จะไม่ให้เดือดร้อน จะบำรุงให้มีความสุขทุกประการ ตลอดเวลา
    ที่มารับหน้าที่แทนชั่วคราวนั้น​

    ครั้นนางสิริมาตกลงรับหน้าที่เป็นภริยาชั่วคราวแทนตัวแล้ว นางอุตตราก็ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าที่
    พระเวฬุวันวิหาร กราบทูลเรื่องของนางให้ทรงทราบดีแล้ว ก็ทูลอาราธนาให้พระองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์
    เสด็จไปเสวยอาหารบิณฑบาตที่เรือนตน ตลอดเวลา ๑๕ วัน พระศาสดาทรงพระมหากรุณาได้ทรงอนุเคราะห์
    พาพระสงฆ์ไปทรงภัตตกิจ ที่เรือนนางอุตตราอุบาสิกา และทรงแสดงธรรมโปรดทุกวัน นางอุตตราก็นำทาส
    และคนใช้ในบ้านเข้าโรงครัวใหญ่ จัดทำอาหารด้วยมือของนางเองอยู่ตลอดเวลาด้วยศรัทธาและปีติ
    ปราโมทย์เป็นอย่างยิ่ง​

    ครั้นวันที่ ๑๔ นางอุตตราได้ตระเตรียมอาหารเป็นการใหญ่ ด้วยพรุ่งนี้จะถวายอาหารวันสุดท้ายแล้ว ขณะนั้น
    เสฏฐีบุตรสามีของนางอุตตราซึ่งเป็นมิจฉาทิฎฐิ ยืนอยู่บนเรือน มองดูอยู่ที่หน้าต่าง เห็นภรรยาสาละวนอยู่
    ด้วยการครัว ดูเนื้อตัวผ้าผ่อนเปรอะเปื้อนก็นึกด้วยอารมณ์ขันในใจว่า​

    "บัดซบจริงๆ ภรรยาของเรานี่ จะนั่งเป็นสุขอยู่บนเรือนสิไม่ชอบ" แล้วก็หลบเข้าเรือนไป
    ขณะนั้นนางสิริมายืนเคียงข้างอยู่ เห็นเสฏฐีบุตรยิ้มๆ แล้วหลบไปเช่นนั้น กลับคิดไปเรื่องรักๆใคร่ๆ ว่า
    เสฏฐีบุตรคงจะไม่พอใจนางอุตตราเป็นแน่ อาศัยที่นางสิริมาอยู่ในฐานะเป็นภริยาชั่วคราว มีความสุข
    และเกียรติอันสูง ลืมตัวไปว่าเขาจ้างมา เข้าใจว่าตนเป็นภรรยา เป็นแม่เรือนของท่านเสฏฐีบุตร ก็เกิดความ
    หึงหวง บันดาลโทสะขึ้นมาผลุนผลันลงจากเรือนตรงไปที่โรงครัว คว้าเอาทัพพีในมือคนทอดขนม ตักน้ำมัน
    ในกะทะกำลังเดือดพล่าน เทรดนางอุตตราตั้งแต่ศีรษะลงไปจนทั่วตัว .

    ด้วยอำนาจเมตตาจิตที่นางอุตตรามีอยู่ในนางสิริมา มิได้มีความโกรธเคืองในการเบียดเบียนนั้นเลย โดยนึกว่า
    นางสิริมาเป็นเพื่อนร่วมบุญกุศลใหญ่ครั้งนี้ ถ้านางสิริมาไม่ช่วยรับภาระแม่เรือนให้แล้ว ที่ใหนตนจะมีโอกาส
    ได้ทำบุญ ดังนั้นน้ำมันที่ราดลงบนศีรษะของนางจึงเย็นเหมือนน้ำหอมที่ชะโลมบนผิวกาย มิได้ระคายผิวกาย
    ให้แสบร้อนแม้แต่น้อย​

    ขณะนั้น บรรดาคนครัวทั้งหมด พากันตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง ด้วยคิดไม่ถึงว่านางสิริมาจะมาทำร้ายนายผู้หญิง
    ของตนถึงเพียงนั้น และแล้วในทันใดนั้นเองก็เครียดแค้นแทนนาย พากันถลันเข้าจิกผมนางสิริมากระชากมา
    ตบให้ล้มลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้น ปากก็พร่ำด่าเสียงสนั่นลั่นครัว ​

    มิทันที่คนครัวทั้งหมดที่พากันวิ่งประดังเข้ามาลงมือตุ๊บตั๊บซ้ำเติมนางสิริมาให้ถึงด้วยความเครียดแค้น
    นางอุตตราได้ลุกถลันยกมือขึ้นพร้อมกับห้ามว่า "อย่า ! อย่า !! ลูกทุกคนหยุด ถอยออกไป ลูก ! เจ้าไปทำร้าย
    เพื่อนรักของแม่ทำไม ว่าแล้วก็เข้าไปประคองนางสิริมาให้ลุกขึ้น ลูบเนื้อลูบตัว พูดให้นางสิริมาเบาใจ
    หายความสะดุ้งหวาดกลัว เตือนความรู้สึกให้คืนสู่สภาพเดิม​

    เมื่อนางสิริมาได้สติรู้สึกตัวว่า ตนหาใช่แม่เรือน หาใช่เจ้าของบ้านนี้ไม่ แท้เป็นเพียงคนรับจ้างนางอุตตรามา
    ปฏิบัติสามีของเธอ ก็ละอายใจรู้สึกว่าตนประพฤติผิดมาก ยิ่งเห็นนางอุตตราไม่โกรธตอบซ้ำแสดงความมี
    ไมตรีจิตด้วยวาจาและกิริยาน่ารักใครเช่นนี้ ก็ยิ่งเพิ่มความเคารพยำเกรงซาบซึ้งในคุณสมบัติของนางอุตตรา
    เป็นทวีคูณ จึงก้มลงกราบแทบเท้านางอุตตราร้องขอโทษ ด้วยถ้อยคำอันแสดงชัดว่าตนได้ทำผิดอย่างน่า
    สงสาร​

    นางอุตตรากล่าวว่า หากแม่สิริมารู้สึกว่าทำผิดไปจริงๆ ฉันก็พลอยดีใจด้วย และถ้าแม่สิริมายังยินดีจะขอให้
    อดโทษแล้ว ควรจะไปขอกะพระสัมพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นพระบิดาที่เคารพสูงสุดของดิฉัน
    "ฉันยินดีปฏิบัติตามคำของเธอทุกประการ" นางสิริมาสารภาพ​

    "แต่ฉันยังไม่รู้จักกะพระสัมพุทธเจ้า ซึ่งเธออ้างว่าเป็นพระบิดาที่เคารพสูงสุดของเธอนี่"
    "ไม่เป็นการลำบากเลย แม่สิริมา" นางอุตตราเปิดทาง "พรุ่งนี้พระสัมพุทธเจ้าจะเสด็จมาเสวยเช้าที่เรือนฉัน
    พร้อมด้วยพระสงฆ์หลายรูปด้วยกัน แม่สิริมาปลีกเวลามาเฝ้าพระองค์ที่เรือนฉันซีน๊ะ พระบิดาของฉันพระทัย
    ดีมาก จะทรงเอ็นดูเธอ ฉันคิดว่าเธอจะเลื่อมใสและเคารพรักในพระเมตตาของพระบิดาฉันมากทีเดียว"​

    "คนอาภัพอย่างฉันเช่นนี้ หากพระสัมพุทธเจ้าจะทรงพระกรุณาโปรดอย่างเช่นเธอว่า ก็ดูจะมิเป็นคนมีวาสนา
    มากไปรึ แม่อุตตรา !"​

    "เอาเถอะ แม่สิริมา เธอจะเห็นเอง ว่าแต่พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมก็แล้วกัน"​

    "ฉันจะมาตามเวลา" นางสิริมาพูดแล้วก็กราบลานางอุตตราขึ้นเรือนไป​

    รุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ได้เสด็จไปเรือนนางอุตตรา เพื่อภัตตกิจตามกำหนดอาราธนา
    นางอุตตราได้พานางสิริมาพร้อมด้วยหญิงคนใช้เข้าเฝ้าถวายอภิวาท พร้อมด้วยกราบทูลเรื่องที่เกิดขึ้น
    ประกอบ เพื่อให้ทรงพระกรุณาประทานอดโทษให้นางสิริมา กับเพื่อให้ทรงแสดงธรรมโปรดอีกด้วย
    พระศาสดาทรงพระกรุณาประทานอภัยโทษ และทรงอนุโมทนาในธรรมจริยาของนางอุตตรา พร้อมกับ​

    ตรัสคาถาประทานด้วยว่า :-

    บุคคลควรจะชำนะความโกรธของเขา
    ด้วยความไม่โกรธของเรา
    บุคคลควรจะชำนะความไม่ดีของเขา
    ด้วยความดีของเรา
    บุคคลควรจะชำนะความตระหนี่ด้วยความเสียสละ
    บุคคลควรจะชำนะคนพูดพล่อยๆ ด้วยคำจริง

    แล้วได้ทรงประทานพระธรรมเทศนาโปรดนางสิริมากับหญิงคนใช้ให้ตั้งอยู่ในพระโสดาปัตติผล
    ในวันรุ่งขึ้น นางสิริมาได้ทูลอาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระสงฆ์ไปเสวยอาหารบิณฑบาตในเรือน
    ของตน ประกาศตนเป็นอุบาสิกาในพระพุทธศาสนา พร้อมกับจัดตั้งนิพัทธาหารถวายพระสงฆ์ ขอให้
    พระภัตตุเทศก์จัดพระภิกษุมารับอาหารบิณฑบาตในที่เรือนของตนวันละ รูป ทุกวัน จำเดิมแต่นั้นนางสิริมา
    ก็หยุดกิจการนครโสเภณี บำเพ็ญกุศลฝักใฝ่อยู่แต่ในกองบุญในพระพุทธศาสนา
    ต่อมาไม่นานนางสิริมาได้ป่วยด้วยโรคปัจจุบัน คือเพียงแต่เวลาเช้ายังลุกขึ้นใส่บาตรพระ รูป ที่เข้ามารับ
    บาตรที่เรือนได้ พอเวลาเย็นก็ถึงแก่กรรม​

    พระเจ้าพิมพิสารได้ส่งราชบุรุษให้ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค กราบทูลว่า บัดนี้นางสิริมา น้องสาวหมอชีวก
    ได้ถึงแก่กรรมเสียแล้ว จะทรงโปรดประการใด พระเจ้าค่ะ ในฐานะที่เธอเป็นสาวิกาของพระองค์
    พระศาสดาตรัสสั่งให้ราชบุรุษกลับไปทูลว่า ขอให้รอการเผาศพนางสิริมาไว้ก่อน โดยให้เจ้าพนักงานนำศพ
    นางสิริมาไปรักษาไว้ที่สุสานต่อล่วง วันแล้วจึงให้เผาได้ .

    พระเจ้าพิมพิสาร ได้โปรดให้ปฏิบัติตามพระพุทธประสงค์ทุกประการ ครั้นเวลาล่วงไปได้ วัน ศพนางสิริมา
    ก็ขึ้นพองเต็มที่ น้ำเหลืองไหลออกจากทวารทั้ง กลิ่นศพเหม็นตระหลบสุสาน พระเจ้าพิมพิสารโปรดให้
    เจ้าพนักงานจัดงานพระราชทานเพลิงศพนางสิริมา โดยประกาศให้ประชาชนไปพร้อมกันที่สุสาน แม้พระองค์
    พร้อมด้วยเสวกามาตย์ราชบริพารก็จะเสด็จ ทั้งได้โปรดให้กราบทูลพระศาสดาทรงทราบด้วย ​

    ครั้นพระศาสดาทรงทราบแล้ว ก็โปรดให้ประกาศแก่ภิกษุทั้งหลายให้ไปพร้อมกันเพื่อเยี่ยมศพนางสิริมา
    ที่สุสาน ในงานพระราชทานเพลิงศพนางสิริมา ณ บ่ายวันนี้​

    ครั้นได้เวลา พระศาสดาพร้อมด้วยพระสงฆ์ ก็เสด็จไปยังสุสานนั้นได้ทรงนำพระสงฆ์ประทับยืนทอดพระเนตร
    ดูศพอยู่ข้างหนึ่ง ภิกษุณีสงฆ์ก็ยืนอยู่ข้างหนึ่ง พระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยราชบริพารก็ประทับยืนอยู่ข้างหนึ่ง
    เหล่าอุบาสกอุบาสิกา ประชาชนชายหญิง ก็พากันยืนสงบกิริยาดูอยู่ข้างหนึ่ง​

    พระศาสดาทรงรับสั่งถามพระเจ้าพิมพิสารว่า "มหาบพิตรใครนั่น"
    "น้องสาวชีวก ชื่อ สิริมา พระเจ้าค่ะ"
    "นั่น ! นางสิริมา ถวายพระพร"
    "ใช่ พระเจ้าค่ะ"
    "ถ้าเช่นนั้น ขอมหาบพิตรได้โปรดให้ขายทอดตลาดนางสิริมา ใครให้ ๑,ooo กหาปนะั ก็ให้รับเอานางสิริมา
    ไปได้ทันที"​

    ครั้นพระเจ้าพิมพิสารโปรดให้ประกาศตามพระพุทธพจน์แล้ว ก็หามีผู้ใดใครผู้หนึ่งมารับซื้อไม่ ดังนั้น จึงโปรดให้
    ลดราคาลงโดยลำดับคือ ห้าร้อย กหาปนะ , สองร้อยห้าสิบ , สองร้อย , หนึ่งร้อย , ห้าสิบ , สิบห้า , สิบ กหาปนะ ,
    ห้า กหาปนะ , หนึ่ง กหาปนะ , ครึ่ง กหาปนะ , บาท , มาสก , กากนิก ,แม้ลดลงจนที่สุดของราคาแล้ว
    ก็ยังไม่ปรากฎคนซื้อ ในที่สุดก็โปรดรับสั่งว่า "ให้เปล่า" ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีคนรับ จึงได้กราบทูลพระศาสดาว่า
    "แม้แต่ให้เปล่า ก็ไม่มีคนต้องการพระเจ้าค่ะ"​

    พระศาสดาทรงชี้ศพนางสิริมา พร้อมกับรับสั่งแก่ภิกษุทั้งหลายพวกเธอจงดูนั่น ! สตรีรูปงาม เป็นที่รักใคร่ของ
    มหาชนในนครนี้ แต่ก่อนจะได้ชมนางหนึ่งวันจะต้องจ่ายทรัพย์ให้นางถึง๑,ooo กหาปนะ บัดนี้แม้จะให้เปล่า
    ก็ไม่มีคนต้องการ ภิกษุทั้งหลาย รูปกายนี้ถึงความสิ้นไปเสื่อมไปอย่างนี้แหละ ท่านทั้งหลาย จงพิจารณาดู​

    อัตตภาพอันอาดูรให้ตระหนักเถิด แล้วตรัสคาถาประทานธรรมเทศนาแก่มหาชนที่ประชุมอยู่ในสุสานนั้น :-
    "สูเจ้าพิจารณาดูร่างกายที่ตกแต่งให้งดงามด้วยอาภรณ์พรรณต่างๆเพียบพร้อมด้วยอังคาพยพน้อยใหญ่
    มีทวารทั้ง สำหรับเป็นทางให้สิ่งปฏิกูลไหลเข้าไหลออกอยู่เป็นประจำ ปรุงแต่งขึ้นด้วยกระดูกหลายร้อยท่อน
    อาดูรด้วยความไม่สบายเหมือนเป็นไข้ อันจะต้องแก้ไขด้วยการผลัดเปลี่ยนอิริยาบถอยู่เสมอ ที่มหาชนมี
    ความใคร่กันอยู่โดยมาก แต่หาความยั่งยืนมั่นคงมิได้เลย ในที่สุดก็แปรสภาพมาเป็นเช่นนี้ ซึ่งทุกคนก็ต้อง
    เป็นเช่นนี้เหมือนกัน"​

    พระธรรมเทศนาได้อำนวยอริยมรรคอริยผลแก่มหาชนที่ประชุมอยู่ ณ ที่นั้นเป็นอันมาก .



    จบตำนานพระพุทธรูป ปางชี้อสุภ แต่เพียงนี้ .


     
  18. mare2514

    mare2514 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +1
    เป็นคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหาเดียวกันกำลังเเก้ปัญหาอยู่ใจมันเจ็บจนชาไปทั้งตัวทำใจลำบากอยากเกินทำใจคงต้องใช้เวลารักษาแผลได้อ่านข้อความของคุณๆทำให้มีกำลังใจมากขึ้นอย่างน้อยก็ไม่ได้ทุขอยู่คนเดียว
     
  19. /_สายฟ้า_/

    /_สายฟ้า_/ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +999

    ใจเย็นๆครับ ลองถามตัวเราเองดูว่าเราต้องการอะไรในตอนนี้ ผมแนะนำว่าให้จับกรรมฐานกองใดกองหนึ่งไว้เป็นที่พึ่งของชีวิต พระรัตนไตรคือที่พึ่งอันสูงสุดครับ คนที่ได้ฌาณ จะรวยเป็นร้อยล้านก็สามารถทำได้ครับ
     
  20. ruxkonthai

    ruxkonthai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    ขอบคุณค่ะสำหรับทุกกำลังใจ จากวันที่โพสมาถึงวันนี้ เรายังอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่มีความสุข 3วันดี 4วันทะเลาะ ตอนนี้ก็ทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงคนใหม่ เขาเจ้าชู้พร้อมที่จะนอกใจเราได้ตลอดเวลา เลยทำใจต่อไปนี้จะอยู่เพื่อลูก จะไม่พูด ไม่ยุ่งกับเขาอีก ขอปรึกษาค่ะ ระหว่างยอมรับสภาพอยู่บ้านดูแลลูกและรอใช้เงินเขา กับเราออกไปทำงานเก็บเงินไว้ใช้เองและเก็บสำหรับอนาคตแต่เป็นงานที่ ต้องไปต่างจังหวัดไกลบ้านห่างลูกดิฉันควรตัดสินใจเลือกอะไรดีค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...