ชมอัฐิธาตุและพระธาตุ 28 พระอรหันต์ ณ พระธุตังคเจดีย์ วัดอโศการาม

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย J.Sayamol, 20 ธันวาคม 2009.

  1. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อำเภอเชียงดาว จังหวัด<WBR>เชียงใหม่

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

    นามเดิม บัว โลหิตดี เกิดเมื่อปี พ.ศ.2456 ณ บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โยมบิดาชื่อ นายทองดี โลหิตดี โยมมารดาชื่อ นางแพง โลหิตดี มีพี่น้องจำนวน 16 คน มีนิสัยเด็ดเดี่ยว จริงจัง ขยันขันแข็ง รักความสัตย์ความจริง มีความกตัญญูกตเวทิตาท่านบวชเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2477 เมื่ออายุ 21 ปี ณ วัดโยธานิมิตต์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ด้วยเหตุที่โยมบิดาขอให้บวช เมื่อบวชเรียนได้ศึกษาพระพุทธประวัติ เกิดความซาบซึ้งและสนใจที่จะบวชต่อ จึงตั้งใจไว้ว่าจะบวชเรียนให้ได้เปรียญธรรม 3 ประโยค จึงจะออกปฏิบัติคราวท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ท่านได้พบหลวงปู่มั่นครั้งแรก เกิดความศรัทธาเลื่อมใสอย่างยิ่ง หลังจากศึกษาปริยัติจนจบเปรียญธรรม 3 ประโยคแล้ว จึงได้ติดตามหลวงปู่มั่น และได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ที่วัดป่าหนองผือ อ.หนองผือนาใน จ.สกลนคร เพื่อศึกษาข้อวัตรการปฏิบัติจากท่าน

    หลวงตาได้เมตตาเล่าว่า หลังจากจบปริยัติแล้ว ท่านได้มีความสงสัยว่า พระอรหันต์มีจริงหรือไม่ และหากมีจริงแล้ว ในยุคนี้สมัยนี้พระอรหันต์จะยังมีอยู่หรือไม่ หากมีอยู่จริง จะขอฝากตัวเป็นศิษย์ เมื่อได้พบและฟังธรรมจากองค์หลวงปู่มั่น ท่านได้ลงใจกราบหมอบราบและนับถือหลวงปู่มั่นเป็นอาจารย์ฝากเป็นฝากตายกับท่านได้อย่างแท้จริง

    หลวงตาได้เคยเล่าถึงครั้นเมื่อไปถึงหนองผือใหม่ ๆ พระทุกรูปประดุจพระอริยเจ้า ต่างรักษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ทุกองค์อยู่ในท่าแห่งความเพียร ไม่ว่าบิณฑบาต ปัดกวาดลานวัด ทำกิจสงฆ์ ยืน เดิน นั่ง นอน ล้วนอยู่ในอิริยาบถความเพียรตลอดเวลา เปรียบเหมือนนักมวยที่ขึ้นสู่เวทีก็ต้องอยู่ในท่าต่อสู้ตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นถึงหลับ เมื่อตื่นก็กำหนดสติ มิให้เผลอไปกับความง่วงมึนซึมใด ๆ ใจพร้อมอยู่กับการภาวนา ปฏิปทาของครูบาอาจารย์สายธุดงค์กรรมฐานส่วนใหญ๋มักจะแสวงหาที่สงบเงียบ ซึ่งเหมาะแก่การบำเพ็ญธรรม เช่นป่า ป่าช้า ถ้ำ เงื้อมผา ปฏิปทาของหลวงตามหาบัวก็เช่นกัน ท่านมักเข้าป่าเขาลึกตามลำพัง ผ่านดงเสือสัตว์ร้าย อดทนต่อสู้กับความยากลำบากต่าง ๆ ทั้งความอดอยาก ความหนาวเหน็บกลางป่าเขา ฝากเป็นฝากตายไว้กับธรรม เร่งความพากเพียรอย่างอุตสาหะ อดอาหาร 15 วันสลับกับการผ่อนอาหาร บางคราวท่านไม่ออกมาบิณฑบาตจนชาวบ้านแตกบ้านกันมาหา เพราะเกรงจะเจ็บป่วยหรือได้รับอันตราย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  3. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    ท่านปฏิบัติธรรมได้หลักได้เกณฑ์ครั้งสำคัญเมื่อคราวพิจารณาทุกขเวทนา ด้วยการอธิษฐานจิตนั่งสมาธิไม่ขยับกายตั้งแต่ย่ำค่ำจนรุ่งเช้า เพียรพิจารณาต่อสู้กับเวทนาอันกล้าประดุจไฟโหมทั้งร่าง แต่ก็ไม่ยอมถอนคำสัจจ์ ทนแผดเผากิเลส และที่สุดทุกข์ที่โหมดับได้ด้วยความตั้งมั่นของใจและการพิจารณาทางปัญญา ค้นหาความจริงของทุกขเวทนาจนพบ สามารถแยกกายแยกเวทนาและจิตได้ จิตเกิดรวมใหญ่ เวทนาดับสนิทอย่างน่าอัศจรรย์ ถอนสมาธิเวลาเช้า ปรากฎร่างกายเบาจิตมีกำลัง เกิดความอาจหาญเชื่อมั่นในธรรมที่ปฏิบัติ หลังจากเข้ากราบและรับอุบายธรรมจากองค์หลวงปู่มั่น การปฏิบัติก็ก้าวหน้าเป็นลำดับ กิเลสก็เบาบางลง เกิดความสุขอัศจรรย์ หลังจากนั้น ความเพียรท่านราบรื่นอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2493 ท่านได้ครองธรรมสมความมุ่งหวัง ณ หลังเขาวัดดอยธรรมเจดีย์ เวลา 23.00 น.
    จากนั้น ท่านได้ออกโปรดสัตว์สืบทอดพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับครั้งพุทธกาล โดยโปรดโยมมารดา และได้ตั้งวัดป่าบ้านตาดเมื่อปี พ.ศ.2498

    ท่านเล่าว่า เมื่อครั้งมาตั้งวัดป่าบ้านตาดใหม่ ๆ เวลานั้นที่นั่นเป็นดงชุกชุมไปด้วยสัตว์ มีทั้งเก้งกวาง หมูป่า งูเหลือม งูจงอาง เสือดาว เสือใหญ่ แต่เสือใหญ่คือเสือโคร่งไม่ค่อยเข้ามาในเขตวัด ส่วนเสือดาวมักเข้ามากินหมา เพราะเห็นจากรอยที่มาคาบหมาไป หมาในเวลานั้นจึงมักอยู่ติดพระ ไม่กล้าห่างตลอดเวลา

    ในยุคสมัยแรก ท่านได้ทุ่มเทการสั่งสอนที่พระภิกษุ เพื่อให้มีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสืบศาสนา เวลานั้นจึงมีแต่พระเป็นส่วนใหญ่ มีฆราวาสก็น้อยมาก พระภิกษุที่มาขอปฏิบัติก็เลือกรับเฉพาะผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติขัดเกลากิเลส และมุ่งในธรรมจริง ๆ และความที่ฆราวาสมาอยู่ปฏิบัติธรรมน้อย อาหารและลาภปัจจัยต่าง ๆ จึงไม่มากนัก จึงเป็นการส่งเสริมให้เกิดความสดวกต่อการขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง

    ปฏิปทาการสอนสั่งพระภิกษุของท่าน สืบทอดตามอย่างหลวงปู่มั่นทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งในเรื่องพระธรรมวินัย ข้อวัตรปฏิบัติต่าง ๆ ท่านใส่ใจกวดขันพระเณรอย่างยิ่ง หากถึงคราวควรดุก็ดุ ควรว่าก็ว่า แต่ก็เต็มไปด้วยเหตุผลน่าฟังและน่าพิจารณา บางวันบางคืนแม้ดึกสงัดซึ่งยังไม่ใช่เวลาควรจำวัด ท่านก็จะเดินไปตรวจตามกุฎิโดยไม่ใช้ไฟฉาย หากหลวงตาพบเห็นใครจำวัดพักผ่อน ไม่มีความเพียรปรากฏ และพบเกิน ๓ ครั้ง ก็จะถูกไล่ออกจากวัดในเวลารุ่งเช้าทันที เพื่อไม่ให้พระเณรนอนใจในการขัดเกลากิเลสอันเป็นต้นเหตุทุกข์ทั้งหลาย จากที่พระเณรมีความเพียรอยู่แล้ว ทำให้ไม่กล้าประมาทต่อความเพียรยิ่งขึ้นไปอีก พระหลายรูปจึงได้หลักใจจากการไปอยู่ศึกษาปฏิบัติกับท่าน
    ในยุคนั้น ครูบาอาจารย์สายศิษย์หลวงปู่มั่น มักไปเยี่ยมเยียนกันตามโอกาสอำนวย หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี ท่านก็เป็นอีกองค์หนึ่งที่ได้ไปเยี่ยมหลวงตา และได้กล่าวกับศิษย์ของท่านถึงปฏิปทาของหลวงตามหาบัวว่า "ท่านอาจารย์มหาบัวเป็นครูบาอาจารย์ที่รักษาข้อวัตรปฏิบัติตามอย่างหลวงปู่มั่นได้มากที่สุดในสมัยนี้"

    กิตติศัพท์ของหลวงตามหาบัวได้เรื่องลือไปตามสำนักกรรมฐานต่าง ๆ พระในสายกรรมฐานหลายรูปจึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาศึกษาที่นี่ เมื่อพอได้หลักแล้ว หลวงตาท่านก็จะให้ย้ายออกเพื่อเปิดโอกาสให้พระผู้มาใหม่มาอยู่แทน

    ส่วนเทปและหนังสือธรรมะของท่านได้กระจายไปสู่วัดต่าง ๆ เช่น หนังสือประวัติหลวงปู่มั่น หนังสือปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น , ความลึกลับซับซ้อนของจิตตวิญญาณ , อวกาศของจิต อวกาศของธรรม , ปัญญาอบรมสมาธิ ฯลฯ เทปธรรมะอบรมพระ-อบรมฆราวาสอีกหลายพันกัณฑ์ ท่านอบรมสั่งสอนอยู่หลายรุ่น จนกระทั่งมีผู้ที่พอจะยังศาสนาให้เป็นไปอยู่หลายท่าน หลวงตาท่านจึงเริ่มโปรดฆราวาสมากขึ้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  4. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    เมื่อมีฆราวาสเข้ามามากขึ้น ปัจจัยที่ได้จากผู้มีจิตศรัทธาก็เพิ่มขึ้น หลวงตาท่านได้รวบรวมนำไปสงเคราะห์จุดที่ขาดแคลน เช่น โรงพยาบาลที่ห่างไกลกันดาร สถานสงเคราะห์ที่ขาดแคลนอาหาร ทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ของกินของใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงผู้ยากไร้ที่ท่านได้พบเห็นระหว่างทาง ไม่ว่าทั้งคนหรือสัตว์ก็ตาม

    นอกจากนั้น ท่านก็ยังได้รักษาผืนป่า ท่านได้เคยเทศน์ปรารภแสดงความเห็นห่วงผืนป่าที่นับวันจะหมดไป พระรุ่นต่อ ๆ ไปจะหาที่สงัดได้ยากกว่าในอดีต ท่านได้กล่าวถึงผลกระทบที่มีต่ออากาศและฤดูกาลซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและแหล่งน้ำที่หมดไปเป็นจำนวนมาก จึงได้ซื้อที่ดินรักษาผืนป่าต้นน้ำ เช่นที่น้ำหนาว ท่านได้ซึ้อที่ไว้เป็นหลายพันไร่ และมอบหมายให้พระไปอยู่ปฏิบัติธรรมและดูแลรักษาป่า ท่านได้ช่วยล้อมรั้ววัดป่าหลายแห่งเนื้อที่หลายพันไร่ตามจังหวัดต่าง ๆ
    ผืนป่าใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ เป็นต้นแหล่งน้ำคือฝนที่ให้ชีวิตแก่คนและสัตว์ทั้งหลาย เป็นแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อโลก และเป็นที่ภาวนาของพระผู้มุ่งความหลุดพ้นเพื่อสืบศาสนาให้ชาวไทยและชาวโลกได้มีพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไว้เป็นที่พึ่ง และเป็นเนื้อนาบุญต่อไปในภายภาคหน้า

    เมื่อปี 2529 นับเป็นโอกาสและโชควาสนายิ่งของชาวกรุง ที่ได้มีคุณตาท่านหนึ่งมีจิตศรัทธาถวายที่ดินที่พุทธมณฑล เพื่อหลวงตาได้มีที่พำนักใกล้กรุงเทพ และจะได้เป็นที่โปรดญาติโยม โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงอีสาน ที่แห่งนั้นคือ สวนแสงธรรม
    ท่านเดินทางมาเทศน์โปรดฆราวาสเป็นระยะ ฆราวาสหลายท่านไม่เคยรู้จักพระกรรมฐานก็ได้รู้จัก ทั้งข้อวัตรและการปฏิบัติ และหลายท่านได้พบความอัศจรรย์ในธรรมที่ท่านรู้เห็นจากในเนื้อธรรมที่ท่านเทศน์ อุบาสกผู้ที่มีศรัทธาแก่กล้าก็สละตัวออกบวช ส่วนอุบาสิกาก็เข้ามาปฏิบัติธรรม ณ สวนแสงธรรม ทั้งติดตามไปอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านตาด เทปและหนังสือธรรมะของท่านก็ได้เริ่มกระจายอย่างกว้างขวางในกลุ่มฆราวาสแต่นั้นมา
    หลังจากแสดงธรรมช่วงเช้า หลวงตากลับกุฏิแล้วมักได้เห็นท่านเดินจงกรมแทบทุกครั้ง จนลูกศิษย์เห็นจนชินตา (กุฏิหลังแรกของหลวงตาที่สวนแสงธรรม)


    จนกระทั่งเกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ประชาชนประสบความเดือดร้อน ตกงานเป็นจำนวนมาก บริษัทห้างร้านปิดกิจการ ขณะที่ความวิกฤติครั้งนี้บ่งบอกชัดเจนว่าไม่มีท่าทีจะฟื้นตัวได้ง่าย ๆ ประชาชนจำนวนมากหมดหนทางทำกิน สถิติการฆ่าตัวตายจึงเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

    หลวงตาท่านทราบและมีความเมตตาสงสารชาวไทยยิ่ง แม้ในวัย 85 ซึ่งกำลังอาพาธด้วยโรคมะเร็งลำไส้ และไม่มีท่าทีว่าจะหาย จนท่านต้องสั่งทำเมรุหน้าวัดเพื่อเตรียมงานไว้แล้ว แต่ท่านก็ยังปรารภห่วงใยพี่น้องชาวไทยและพระศาสนา จนกระทั่งมีผู้เชิญหมอจีนจากไต้หวันมารักษาท่านจนหาย ท่านจึงได้จัดตั้งโครงการช่วยชาติขึ้น โดยใช้ชื่อว่าโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    ในวันอันเป็นมหามงคลยิ่งต่อชาติไทย คือวันที่ 12 เมษายน 2541 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จเปิดงานโครงการ ฯ โดยทรงเป็นองค์ประธานฝ่ายฆราวาส จึงนับเป็นวาสนาของชาวไทยที่หน่อเชื้อกษัตริยาเจ้าทรงเข้าร่วมกอบกู้วิกฤติของชาติในครานั้นด้วย

    และเป็นมหามงคลอันยิ่ง หลังหลวงตาได้เปิดโครงการช่วยชาติได้ไม่กี่วัน ในหลวง และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทรงกราบนมัสการหลวงตามหาบัว ณ สวนแสงธรรม ทรงสนทนาเป็นการส่วนพระองค์และร่วมถวายพระราชทรัพย์เข้าโครงการช่วยชาติ เมื่อเย็นวันที่ 28 เมษายน 2541

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  5. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    ผู้คนจำนวนมาก หลั่งไหลมาร่วมงานผ้าป่าช่วยชาติ (สวนลุมพินี)

    หลังจากนั้นเป็นต้นมา โครงการช่วยชาติโดยหลวงตาพระมหาบัวฯ ก็ได้รับการต้อนรับจากคนไทยทั่วทุกภาค ได้รับบริจาคทั้งทองคำและดอลล่าร์ โดยทองคำที่ได้จากการบริจาค ณ ปัจจุบัน คือ 11,637.5 กิโลกรัม หรือ 11 ตันเศษ และดอลล่าร์ได้ 10,214,600 เหรียญสหรัฐ รวมสินทรัพย์ทั้งหมดได้ 10,299,941,153.50 บาท (จากบันทึก ณ อัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 19 ธค.50)
    ทองคำที่ได้รับการบริจาคเข้าสู่โครงการช่วยชาติ เพื่อเตรียมนำมาหลอมเป็นแท่งให้ได้น้ำหนักแท่งละ 12.5 กก.ความบริสุทธิ์ 99.99%
    หลวงตาท่านได้เริ่มต้นโครงการช่วยชาติ ด้วยวัย 85 ปี ตรากตรำเดินทางไปตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเทศน์โปรดพี่น้องชาวไทยและรับเงินบริจาคเพื่อชาติ จนอายุได้ 92 ปี จึงสิ้นสุดโครงการช่วยชาติเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2547
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในงานปิดโครงการช่วยชาติฯ ณ เวทีสวนอัมพร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2547

    ปัจจุบันอายุท่านย่างเข้า 95 ปี ดำรงอยู่ในสมณเพศที่สะอาดบริสุทธิ์ถึง 74 พรรษา ในวัยชรานี้ ท่านก็ยังให้ความสงเคราะห์คนทุกข์คนยาก ช่วยเหลือโรงพยาบาล ทั้งมอบอุปกรณ์การแพทย์ และสร้างอาคารจำนวนมาก ทั้งในหน่วยราชการ ตลอดจนถึงช่วยเหลือบ้านสงเคราะห์สัตว์ รวมแล้วนับหมื่นล้านบาท

    นอกจากนี้ ยังมีอาคารและเครื่องมือต่าง ๆ ที่หลวงตาบริจาคให้ทั้งโรงพยาบาลสถานสงเคราะห์อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถนำมาลงหมดได้ในที่นี้

    ย้อนเวลาในช่วงใกล้ปิดโครงการช่วยชาติ ฯ (ประมาณต้นปี 47) ท่านอาจารย์ทอง เจ้าอาวาสวัดอโศการามได้มากราบเรียนปรึกษากับหลวงตาในเรื่องการบูรณะพระธุตังคเจดีย์ เนื่องจากมีการทรุดตัว หลวงตาจึงได้ให้ความช่วยเหลือ โดยใช้งบประมาณในการซ่อมแซมมากถึง 70 กว่าล้านบาท

    หลวงตาได้ปรารภถึงความสำคัญของพระธุตังคเจดีย์ เช่นที่ได้เทศน์ไว้ ดังเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พุทธศักราช 2548 เรื่อง ลงได้จริงในหัวใจแล้วไม่หวั่นกับอะไร

    "ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์วิเศษสดๆ ร้อนๆ เหมือนครั้งพุทธกาล แล้วคราวท่านสร้างเจดีย์ธุดงค์ 13 คราวนี้ โดยที่ท่านอาจารย์ลี ท่านเป็นต้นเหตุริเริ่มขึ้นมาเป็นมหามงคลแก่พี่น้องชาวไทยเราเป็นอย่างมาก ทีนี้เจดีย์นั้นชำรุดทรุดโทรมมาก เราซ่อมแซมใหม่ ตกลงกันกับท่านทอง เราเป็นหัวคิดว่างั้นเถอะ เราจะพยายามอาราธนาพระธาตุของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย นับแต่หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นลงมา และครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เป็นลูกศิษย์ พ่อแม่ครูจารย์มั่นของเรานี้ เวลาท่านล่วงไปแล้วอัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุน้อยเมื่อไร รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 20 องค์ ที่ท่านล่วงไปแล้วอัฐิกลายเป็นพระธาตุๆ นั้นคือพระอรหันต์แต่ละองค์ๆ ในครั้งพุทธกาลกับครั้งนี้เสมอกันหมด เข้าใจ"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    รูปหล่อหลวงตาพระมหาบัว ภายในพระธุตังคเจดีย์

    เกศาของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ที่อัญเชิญไว้ ณ พระธุตังคเจดีย์ หน้ารูปหล่อของท่าน
    ขอเล่าเกร็ดที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้เขียนได้มีโอกาสพบเห็นเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจ คือเส้นเกศาของหลวงตามหาบัวที่บรรจุในผะอบ เกิดเม็ดสีดำเล็ก ๆ จำนวนมาก มีลักษณะเป็นเงามันสวยงามระยิบระยับ ส่วนเกศานั้นไม่พบ ผู้เป็นเจ้าของได้เล่าว่าเกศาของหลวงตานี้ได้เก็บมานานนับ 10 ปีแล้ว ซึ่งในขณะนั้นหลวงตาท่านยังไม่สูงวัยมากนัก ยังมีเส้นผมสีดำ หลังจากนั้น ปลายเดือนเมษายน 2551 ได้ไปดูแลหิ้งพระ ก็พบผะอบปรากฏลักษณะดังกล่าว
    จากภาพ ผะอบที่บรรจุเกศาหลวงตามหาบัว ไม่ปรากฏเส้นเกศา แต่มีวัตถุลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีดำเป็นมันเงาสวยงาม
    เมื่อสำรวจดู พบว่าที่ก้นผะอบ จะมีเส้นเกศาเล็ก ๆ ปรากฏอยู่ และมีลักษณะสั้นลงกว่าเดิมประมาณ 5-6 ส่วน
    ภาพขยาย 200 เท่า จะเห็นความมันเงาสวยงามคล้ายลักษณะของพระธาตุอย่างชัดเจน เป็นไปได้ว่า เส้นเกศาของท่านได้กลายเป็นพระธาตุ เช่นของครูบาอาจารย์บางองค์ที่เคยปรากฎ

    ปัจจุบัน หลวงตาพระมหาบัว ท่านยังพำนักอยู่ ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี หากผู้ใดมีจิตศรัทธา ก็สามารถเดินทางไปกราบนมัสการท่านได้ในเวลาเช้าของทุกวัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  7. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี(ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร


    ชาติกำเนิดและชีวิตปฐมวัย

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต เกิดเมื่อ วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2454 ที่บ้านกุดสระ อำเภอหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี บิดาชื่อนายคูน เสวตร์วงศ์ มารดาชื่อ นางแพง เสวตร์วงศ์ เป็นบุตรคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้อง 8 คน อาชีพของครอบครัว คือ ทำนา ท่านศึกษาในโรงเรียนชั้นประถม ปีที่ 2 ก็ต้องออกมา ในวัยเยาว์ท่านได้มีโอกาสรับใช้พระธุดงค์ที่จาริกมา ในละแวกบ้านซึ่งมีส่วนช่วย หล่อหลอมจิตใจให้ใฝ่ในทางธรรม

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา

    เมื่ออายุได้ 18 ปี บวชเป็นเณร เมื่ออายุครบเกณฑ์ก็ได้บวชเป็นพระตามประเพณี จากนั้นก็ลาสิกขา มาครองเรือนได้ประสพความเป็นอนิจจัง ทุกขัง แห่งสังขาร และการพลัดพราก ครั้นปี พ.ศ.2486 บวชเป็นพระมหานิกายที่วัดบ้านยางมีพระครูคูณเป็นอุปัชฌาย์ พรรษาแรกก็สอบนักธรรมโทได้ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2488 ท่านได้ญัตติเข้าในคณะธรรมยุต ที่วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ครั้งเป็นพระเทพกวีเป็นอุปัชฌาย์ และให้ท่านไปพำนักฝึกการปฏิบัติกับหลวงปู่บุญมี ชลิตโต ที่วัดโพธิ์ชัย หนองน้ำเค็ม อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นวัดที่เจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ เคยอาราธนาท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ไปพำนักครั้งที่ท่านกลับจากเชียงใหม่ และหลวงปู่บุญมี เคยได้รับการศึกษาอบรมกับท่านพระอาจารย์มั่น และดำเนินปฏิปทาตามพระบุพพาจารย์ ถวายตัวต่อ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ออกพรรษาปี พ.ศ.2488 แล้ว ได้กราบลาหลวงปู่บุญมี วัดโพธิ์ชัย หนองน้ำเค็ม เพื่อไปนมัสการ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งมาพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร พระหล้า เขมปัตโต ออกเดินทางด้วยเท้าค่ำไหนก็ปักกรดจำวัดได้แวะ พักบำเพ็ญความเพียรที่ถ้ำพระเวสก์อยู่ระยะหนึ่งจากนั้นก็ออกเดินทาง จุดหมายก็คือวัดป่าบ้านหนองผือนาใน ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในกิตติศัพท์แห่งปฏิปทาบารมีธรรมของพระเดช พระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทำให้พระหล้า เขมปัตโต อุสาหะ วิริยะ ดันด้นมาจนถึงสำนักป่าแห่งนี้ ความสงบร่มรื่นเป็นสัปปายะสถานแห่งผู้บำเพ็ญ สมณะกรรม โอกาสทองแห่งชีวิตก็มาถึงพระหล้า เขมปัตโต มีโอกาสเข้าไปกราบแทบเท้าท่านพระอาจารย์ใหญ่ สัจจะวาจาแห่งผู้กล้าเอ่ย "ขอมอบกายถวายชีวิตต่อพระอาจารย์ผูกขาดทุกลมปราณ " ท่ามกลาง คณะสงฆ์คณะศิษย์ที่อยู่ร่วมสำนัก อาทิ ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน , พระอาจารย์วัน อุตตโม พระอาจารย์ทองคำ จารุวัณโน หลวงปู่มั่น ท่านเมตตาปฏิสันฐานบอกให้พระเณรนำบริขารไปที่กุฏิว่าง

    เมื่อล่วงถึง 5 วัน ก็เข้าไปกราบเท้าขอนิสัยกับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต องค์ท่านก็ได้กรุณารับ การพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน พระหล้า เขมปัตโต ได้รับเมตตาจากท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ให้คำแนะนำสั่งสอน ให้อุบายธรรมอันเป็นสิ่งที่ท่านจดจำสำนึกตลอดมา

    ในพรรษาปี พ.ศ.2489 ท่านได้จำพรรษาเฝ้าฝึกศึกษาปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์มั่นและถวาย การปฏิบัติครูอาจารย์ด้วยความเคารพ ณ วัดป่าบ้านหนองผือนาใน ซึ่งเป็นขุมคลังแห่งพุทธิปัญญา วิปัสสนากรรมฐานแห่งยุคสมัย และยังได้รับเมตตาธรรมจากพระเถราจารย์ ตลอดจนสหธรรมมิกร่วมสำนัก

    หลังออกพรรษา ปี พ.ศ.2489 ได้ติดตามท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ออกวิเวกไปตามป่าเขา ต่อมาได้มีโอกาสพบท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ที่ถ้ำบ้านไผ่ และท่านก็เมตตาช่วยเหลืออนุโมทนา ในกิจธุดงค์ด้วยดี เมื่อได้เวลาอันควรพระอาจารย์หล้า เขมปัตโต ก็เดินทางกลับมากราบ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน และมีโอกาส ถวายการปฏิบัติรับใช้พ่อแม่ครูอาจารย์ ด้วยความเคารพศรัทธา กระทั่งปี พ.ศ. 2492 ได้บังเกิดเหตุที่นำความเศร้าสลดมาสู่พระอาจารย์หล้า เขมปัตโต อย่างใหญ่หลวงคือพระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ผู้เปรียบประดุจร่มโพธิ์แก้วของท่าน ได้ละสังขาร จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ คงเหลือไว้ซึ่งคุณูปการเอนกอนันต์แห่งธรรมและข้อวัตรปฏิบัติอันยอดเยี่ยม พระอาจารย์หล้า เขมปัตโต ได้รับเป็นภาระธุระในกิจน้อยใหญ่ โดยไม่เกี่ยงเพื่อบำเพ็ญกุศลถวายท่าน พระอาจารย์ใหญ่ ที่ตนมอบกายถวายชีวิตด้วยเศียรเกล้า

    เมื่อถวายเพลิงสรีระหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแล้ว ท่านจึงติดตามหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ออกวิเวก และมีโอกาส ติดตามหลวงปู่เทสก์ลงไปทางใต้แถบจังหวัด ภูเก็ต-พังงา และจำพรรษาที่ 6 ที่ โคกกลอย พระอาจารย์หล้า ธุดงค์ไปในเกาะภูเก็ต พังงา และจังหวัดตรัง ช่วงระยะหนึ่งจึงกลับมา กรุงเทพฯ พักที่วัดบรมนิวาส 5-6 วันแล้วกลับไปอีสาน จุดหมายคือ วัดบ้านห้วยทราย (หรือวัดวิเวกวัฒนาราม) อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านพำนักอยู่ที่นี่ พระอาจารย์หล้า ได้พำนักร่วมกับ ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน 3 พรรษา

    ปลายปี พ.ศ.2500 ชาวบ้านบ้านแวงหนองสูงใต้ มากราบนิมนต์ ท่านไปพำนักที่ภูจ้อก้อ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต จึงได้มาพำนักที่ ภูจ้อก้อ หรือวัดบรรพตคีรี ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) บ้านแวง ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ตั้งอยู่บนภูเขา ทิวทัศน์งดงามร่มรื่นมีก้อนหินน้อยใหญ่เรียงรายงดงาม ศาสนสถานแห่งนี้ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ท่านเป็นผู้นำศรัทธา ในการสร้างเพื่อถวายไว้เป็น ศาสนสมบัติ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ท่านเป็นพระธุดงคกรรมฐานที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ธรรมเทศนาของท่าน เป็นธรรมะพระป่าที่เข้มข้นตรงไปตรงมา

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ในปัจฉิมวัย ท่านอาพาธด้วยโรคาพยาธิ และในที่สุด ท่านมรณภาพ ด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2539 ก่อนมรณภาพ ท่านขอให้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล เพียง 3 วัน จากนั้นให้ฌาปนกิจอย่างเรียบง่าย ชีวิตสมณะของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต เป็นชีวิตพระป่า พระธุดงคกรรมฐานที่องอาจ กล้าหาญเด็ดเดี่ยว แต่นอบน้อมต่อครูอาจารย์ผู้มีพระคุณเป็นที่สุด

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2009
  8. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    หลวงปู่สีลา อิสฺสโร วัดป่าอิสสระธรรม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร

    ท่านเป็นพระมหาเถระฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เิดิมนั้นท่านบวชในฝ่ายมหานิกาย จนมีพรรษามากได้เป็นพระอุปัชฌาย์ มีลูกศิษย์มากมาย ต่อมาท่านได้ถวายตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น และแปรญัตติเป็นฝ่ายธรรมยุตเพื่ิอความสะดวกทางสังฆกรรม ท่านได้ปฏิบัติธรรมกรรมฐานจนมีชื่อเสียงขจรไกล

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  9. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    พระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสีปาลิวัน ตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

    พระเดชพระคุณพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล ป.ธ. ๙) เป็นพระมหาเถระผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ เป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริตฺโต ที่สำคัญรูปหนึ่ง ท่านชำนาญทั้งทางคันธุระและวิปัสสนาธุระ ทรงความรู้ในทางพระพุทธศาสนาซึ่งหาได้ยากยิ่งนักในคณะกรรมฐานยุคปัจจุบัน ท่านละทิ้งเกียรติยศตำแหน่งในการบริหารคณะสงฆ์ มุ่งเพียงเกียรติอันยิ่งใหญ่คือนิพพาน ละจากความเป็นพระบ้านเข้าสู่ความเป็นพระป่าได้อย่างสนิทใจ เป็นแบบอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังที่หลงติดจมในลาภยศสรรเสริญได้เป็นอย่างดี

    ท่านมีอุปนิสัยพูดจริงทำจริง เรียนจริงปฏิบัติจริง บากบั่นมุมานะ ไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคที่มาถึง รักสงบ สำรวมระวัง ปฏิบัติตนเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ไม่ชอบคลุกคลี ซื้อตรงต่อธรรมวินัย หนักแน่นด้วยหิริโอตตัปปะธรรม มักน้อย สันโดษ เรียบง่าย มีระเบียบ บริบูรณ์ด้วยข้อปฏิบัติในไตรสิกขา ได้ถวายตัวเป็นศิษย์อยู่ฝึกอบรมกรรมฐานกับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ณ วัดหนองผือนาใน จังหวัดสกลนคร ท่านได้บำเพ็ญคุณประโยชน์ไว้ในพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก ทั้งด้านการศึกษา ด้านการปกครอง ด้านการเผยแพร่ ตั้งแต่บรรพชาอุปสมบทจนตลอดอายุขัย

    ท่านเกิดเมื่อวันพุทธที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ เดือน ๑๒ ปีฉลู ณ หมู่บ้านโพน ตำบลโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นบุตรของนายสังข์ และ นางค้อม ภูสาหัส

    บรรพชาเมื่ออายุ ๑๗ ปี ณ วัดสุทธจินดา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อุปสมบทอายุ ๒๑ ปี ในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ โดยมี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระโพธิวงศาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระธรรมปิฎก เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ปีพุทธศักราช ๒๔๗๕ สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก
    ปีพุทธศักราช ๒๔๗๗ ๒๔๘๑ สอบไล่ได้เปรียญธรรม ๓ ๗ ประโยค สำนักเรียนวัดสุทธจินดา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
    ปีพุทธศักราช ๒๔๘๒ สอบไล่ได้เปรียญธรรม ๘ ประโยค สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
    ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ สอบไล่ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค สำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร พร้อมกับเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)

    ...เมื่อครั้งได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่นกัณฑ์ครั้งแรกเรื่อง โทษของการเกิด และกัณฑ์ที่สองเรื่อง มุตโตทัย (ธรรมะเป็นเครื่องพ้น) ท่านถึงกับลุกจากที่นั่งไปกราบท่านพระอาจารย์ทั่น พร้อมกล่าวคำปฏิญาณเป็นภาษาบาลีว่า สาสเน อรํ ทตฺวา ขอมอบกายถวายชีวิตนี้แก้พระพุทธศาสนา ชีวิตทั้งชีวิตนี้ขอมอบไว้ในพระศาสนา ขอให้ท่านพระอาจารย์เป็นสักขีพยานด้วย
    จากนั้นตราบจนสิ้นอายุขัย ท่านได้กระทำสัจวาจานั้นให้เป็นที่ปรากฏแก่ชนทั้งหลายถึงความเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรสผู้บริสุทธิ์หมดจดงดงามในธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    <!--coloro:#FF0000-->
     
  10. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    หลวงปู่ผาง ปริปุณฺโณ วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2009
  11. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ วัดป่าเขาน้อย ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  12. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดภูทอก จ.หนองคาย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    พระอาจารย์ชา สุภัทโท วัดหนอง<WBR>ป่าพง จ.อุบลราชธานี

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  14. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.<WBR>ปทุมธานี

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  15. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
     
  16. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=19468[/MUSIC]
     
  17. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  19. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
     
  20. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...