ชาดกกับพุทธภูมิที่ต้องศึกษา

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Sirius Galaxy, 8 ธันวาคม 2015.

  1. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    กากาติชาดก ชาดกว่าด้วยนางกากี

    สรุปชาดก
    พระราชา คืออดีตชาติ พระพุทธเจ้า
    คนธรรพ์ นามว่า นฏกุเวร มาเกิดเป็นภิกษุรูปหนึ่งในสมัยพุทธกาล ผู้มีความกระสันอยากสึก
    พญาครุฑ ไม่ปรากฏ ว่ามาเกิดเป็นอะไรในสมัยพุทธกาล
    นางกากี เป็นมเหสี ของพระราชา( พระโพธิสัตว์) ไม่ปรากฏ ว่ามาเกิดเป็นอะไรในสมัยพุทธกาล

    จากชาดกเรื่องนี้ นำมาศึกษาถอดบทเรียนได้ว่า
    1. ความสวยถือเป็นภัยอย่างหนึ่ง ที่ทำให้บุรุษลุ่มหลง เกิดตัณหา กามราคะ อยากมีเพศสัมพันธ์ ทำให้แก่งแย่ง และผิดศีล5 ข้อกาเมฯ
    2. ทั้งพญาครุฑ และ คนธรรพ์ ล้วนทำผิดศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาฯ
    3. กากี ถูก พญาครุฑ ฉุดลักลอบมาทำเมีย ทั้งใช้มนต์ และกำลัง จึงตกเป็นเมีย
    4. คนธรรพ์ ใช้อุบายหลอกล่อนางกากี จึงได้ร่วมประเวณีกับนาง
    5. กากี ยังถือว่า นางยังมีบารมีอ่อน หรือบารมีทางด้านศีลยังอ่อน จึงไม่สามารถคุ้มครองตัวเธอได้ รวมทั้งบารมีทางด้านปัญญาที่ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ และเป็นเพราะผลของกรรมในอดีตด้วย
    6. ชาตินี้เป็นชาติวัดกำลังใจพระโพธิสัตว์ ว่าจะรังเกียจ ผลักไส ไล่ส่ง หรือเข้าใจ และยอมรับในตัวเธอ และยอมรับในชะตากรรม

    คำถาม
    นางกากี มาเกิดเป็น พระนางพิมพา ใช่หรือไม่?
     
  2. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    สุสันธีชาดก ว่าด้วยนางผิวหอม

    อดีตชาติพระพุทธเจ้า ในขณะเป็นพระโพธิสัตว์ เสวยพระชาติเป็นพญาครุฑ แปลงเป็นมาณพหนุ่มเข้าไปเล่นสกากับพระราชาเมืองพาราณสี นามว่า พระเจ้าตัมพราช (ซึ่งเป็นอดีตชาติของพระอานนท์) โดยมีพระนางสุสันธี เป็นพระมเหสี

    วันหนึ่ง พญาครุฑโพธิสัตว์ และพระนางสุสันธี ได้พบเห็นหน้ากัน จากนั้น พญาครุฑโพธิสัตว์ ได้ลักลอบพานางกลับไปยังพิภพของตนและสมสู่นางเป็นภรรยา

    หลังจากนั้น พระเจ้าตัมพราช ได้ให้คนธรรพ์ชื่อว่า อัคคะ ไปทำการสืบ และพาพระนางสุสันธีกลับคืนมา ซึ่งคนธรรพ์ ได้พบพระนางแล้ว ก็สมสู่กับพระนางอีก

    สรุป ทั้งพญาครุฑโพธิสัตว์ และคนธรรพ์ ต่างก็ผิดศีลข้อ กาเมสุมิจฉาฯ

    สรุปประชุมชาดก
    พระเจ้าตัมพราช ได้มาเกิดเป็นพระอานนท์
    พญาครุฑโพธิสัตว์ คือ อดีตชาติพระพุทธเจ้า
    คนธรรพ์ นามว่า อัคคะ ไม่ปรากฏ ว่ามาเกิดเป็นอะไรในสมัยพุทธกาล
    พระนางสุสันธี ไม่ปรากฏ ว่ามาเกิดเป็นอะไรในสมัยพุทธกาล
     
  3. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ผมเป็นผู้หนึ่งที่ปรารถนาพุทธภูมิ แบบวิริยะธิกะ
    เหตุที่นำชาดก 2 เรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพื่อเตือนใจตน สอนใจตน
    และเรื่องก็คล้ายๆกับชีวิตจริงในปัจจุบันของผม
    แต่ผมกลับไม่ค่อยรู้สึกว่าทุกข์มาก รู้สึกเป็นเรื่องธรรมดา
    และยอมรับและเข้าใจในตัวเธอ
    คือ หญิงชายก็เหมือนๆกัน บางชาติเป็นชาย บางชาติเป็นหญิง
    หรือแม้แต่ในชาติเดียวกัน ผ่าตัดแปลงเพศ เปลี่ยนเป็นหญิงเป็นชายได้โดยง่าย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2015
  4. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    ชาดกเรื่องนี้ ผิดปกติหลายอย่าง
    1) นาง"สุสันธี" จริงๆ บาลีเขาแปลว่า "เอวงาม" ตรงๆ แต่ชาดกกลับแปลว่า นางผิวหอม

    2) ชาดกเรื่องอื่นๆ ทั่วไป หากพระพุทธเจ้าจะแก้ให้ใคร ท่านจะระลึกชาติ
    เรื่องราวของคนนั้นเพื่อให้เกิดกำลังใจด้วย .. แต่เรื่องนี้กลับไม่มีบุคคลนั้นเกี่ยวเลย

    3) ชาดกเรื่องนี้ พระโพธิสัตว์มีเรื่องทำไม่ดีอยู่ด้วย ซึ่งผิดกฎการสั่งสอน
    เพราะการเล่าเรื่องไม่ดีของตนจะต้องสอนเรื่องโทษของการทำไม่ดี
    แต่เรื่องนี้ กับสอนเรื่องอื่น ซึ่งการทำเช่นนี้ ย่อมยากที่จะสร้างศรัทธาความเลื่อมใสในผู้ฟังได้
     
  5. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    ข้อ 4) ถ้าจะเล่าเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอดีตชาติของบุคคลนั้น
    ในกรณีนี้ ทำไมท่านไม่เล่าเรื่อง นางกากี หรือ เรื่องกากาติชาดก จะไม่ดีกว่าเหรอ?
     
  6. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    ถ้าพระราชาไม่ถือโทษโกรธนางกากี นางกากีจะยอมไม่ถือความพระราชาได้หรือ อันนี้มันต้องว่ากัน
     
  7. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    คนทุกคนมีเศษกรรมเกี่ยวกับข้อกาเม ติดตัวอยู่ด้วยกันทุกคน จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ละประเภท
    1 พวกที่มีเศษกรรมกาเม น้อยมากๆ รวมถึงไม่มีเลย จะเป็นพวกไม่มีเพศ ก็คือตั้งแต่พรหมขึ้นไป
    2 พวกที่มีเศษกรรมกาเม น้อย ก็เป็นเพศชายที่ใจเป็นชายแท้ไม่เบี่ยงเบน
    3 พวกที่มีเศษกรรมกาเม มากขึ้นหน่อยก็เป็นเพศหญิงที่ใจเป็นหญิงแท้ไม่เบี่ยงเบน
    4 พวกที่มีเศษกรรมกาเม มากสุด คือพวกที่มีใจ ผิดเพศ ทั้งหลาย
    5 พวกที่มีหัวกรรมกาเม เต็มๆ คือพวกที่กำลังถูก ทรมาน ชดใช้กรรมอยู่ใน นรกขุมกาเม

    การชดใช้กรรมก็จะเป็น วัฐจักร คือ จาก 5 ไป 4 -> 3 -> 2 ->1
    หากใครทำ ผิดข้อ กาเม อีก ก็จะวนไป เริ่มที่ 5 อีก เป็นกงกรรม กงเกวียน วนเวียนไปไม่สิ้นสุด จนกว่าจะสามารถ หลุดพ้นออกจาก วัฐสงสารได้สำเร็จ
    ด้งนั้นทางที่ดี คือ
    1 ลด
    2 ละ
    3 เลิก
     
  8. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    พ้นจากนรกแล้ว ก็ยังไปใช้เศษกรรมต่อในภพเปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็มีเพศไม่สมประกอบ ถ้าหากยังขาดสติปัญญาอีก ก็ทำผิดข้อกาเมฯ ซ้ำอีก หรือบางคน บางท่าน ก็มีอาชีพเป็นหญิงโสเภณี หญิงขายบริการ บางคนบางท่านก็ถูกข่มขืน
     
  9. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    แต่งนิทานเรื่องเกิดใหม่เอาอย่างนี้จะสนุกกว่านะ

    นางกากี ไปเกิดเป็นชายที่มั่งคั่ง เพราะผลของความบริสุทธิ์ใจของนาง

    พระยาครุฑและคนธรรพ์ ไปเกิดเป็นเมียของนางกากีที่เกิดใหม่นั้น

    พระราชา ด้วยความโฉดเขลาจึงไปเกิดเป็นชายยากไร้อยู่ได้ด้วยความเมตตาของนางกากีที่เกิดใหม่ ถูกผู้อื่นเกลียดชังด้วยผลของกรรมชั่วที่ทำกับนางกากีไว้
     
  10. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    catt3
     
  11. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..เห็นด้วยกับพี่ชาย โดยเฉพาะข้อ6.. มองลงไปลึกๆ คล้ายๆกับความรู้สึกที่จะต้องบริจาคเมียให้กับคนอื่น เราจะทำใจยอมรับได้ไหม!?
     
  12. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,161
    ขอออกความเห็นที่แตกต่างไปสักหน่อย แต่จากประสบการณ์และความรู้เท่าที่มี

    เรื่องกามราคะเป็นของร้ายกาจ ไม่ว่าจะผู้ใดก็มีแต่โทษเสมอ สิ่งที่พระโพธิสัตว์จะต้องเจอเพื่อทดสอบและสร้างบารมีนั้นจะต้องละเอียดกว่าทั่วไป ธรรมดาถ้าคนทั่วๆ ไป เรื่องของคู่ครอง การยอมรับได้ว่าผ่านผู้ชายมามากแล้วจะทำใจยอมรับได้ไหม ย่อมต่างกับธรรมดาของพระโพธิสัตว์ ถ้ากำลังบารมีที่จะต้องสร้างต่างกันมาก เรื่องราวที่จะต้องเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวสร้างกำลังใจจะต้องละเอียดซับซ้อนกว่าปกติแน่

    ดังนั้นกิเลสที่อยู่ภายในใจพระโพธิสัตว์จะต้องถูกดึงขึ้นมาให้มากที่สุด เพื่อที่จะถอนออกไปให้หมดจดที่สุด ซึ่งต่างกับสาวกที่เพียงถอดถอนกิเลสเพียงแค่บารมี 10 ก็เพียงพอที่จะเข้าถึงมรรคผลแล้ว แต่พระโพธิสัตว์จะต้องละเอียดไปกว่านั้นเสมอ

    ดังนั้นเรื่องราวที่เจอไม่ว่าจะมีเหตุใดก็ตาม ในการสร้างบารมีจะต้อง มีเรื่องให้หนักกว่าคนทั่วไป และผลลัพธ์จะไม่ใช่เรื่องของผลของเหตุการณ์ แต่เป็นเรื่องผลของจิตใจที่สละออก ซึ่งในทุกๆ เรื่องจะต้องเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกว่าบารมีจะครบทั้ง 30 ทัศ

    ตัวอย่างถ้าพระโพธิสัตว์จะต้องโดนเรื่องกามราคะ อาจจะต้องวัดกันขนาดที่ว่า ญ ที่ตนรักไปได้กับชายมากมาย ทำดีกับคนอื่น ทำร้ายกับท่าน หลอกลวงสารพัด จุดที่จะชี้วัดคือจะแน่วแน่ที่จะมั่นคงในศีลห้าได้ไหม ไม่น้อยใจ ไม่ล้มเลิกที่จะรัก ญ คนนั้น และสุดท้ายจะยอมรับเธอมาในฐานะคู่ครองได้อย่างบริสุทธิ์ใจไหม ถ้ายอมรับได้ก็ถือว่าผ่าน ถ้าทำใจไม่ได้เลิกเสีย หาคนใหม่ ก็ต้องเริ่มสร้างกำลังใจกันใหม่ ก็อาจจะต้องเกิดชาติใหม่ถึงจะสร้างโจทย์เดิมเพื่อทดสอบได้อีก

    อย่างชาดก 10 ชาติสุดท้าย ถามว่าพระพุทธเจ้าเพิ่งจะมาทำบารมีสละลูกเมียเป็นทานชาติเดียวหรือ คงไม่ใช่อย่างแน่นอน พระองค์คงจะต้องสละลูกเมียมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถทำให้ถึงความบริสุทธิ์ได้ทั้งหมด จนถึงชาติสุดท้ายที่สามารถทำได้จนหมดจบบริบูรณ์

    โดยส่วนตัวที่ตอบความเห็นด้านนี้เพราะสร้างบารมีด้านนี้โดยเฉพาะเลย โดนจัดเต็มทุกอย่าง รักและปรารถนาดีให้หมดตัวเป็นหนี้สิ้นท่วมหัว สอนธรรมก็สอน อภัยให้นับไม่ถ้วน ขนาดถึงกับยอมให้ไปนอนกับชายอื่นตามสบาย ส่วนเราต้องข่มใจ ซื่อสัตย์ อดทน และพร้อมจะให้อภัยเสมอ บอกยากครับว่ามันทรมานขนาดไหน แต่ก็ผ่านมาได้ ซึ่งทำให้เข้าใจเลยว่าการสร้างบารมีจริงๆ มันเป็นอย่างไร
    การที่ต้องแลกด้วยชีวิตมันใช้กำลังใจขนาดไหน แต่เรื่องทั้งหมดภายนอกไม่มีอะไรมาก อย่างมากคนก็มองว่าเราบ้าแค่นั้น แต่สิ่งที่เราได้จะอยู่ภายในใจเราเสมอ

    สรุปคืออยากจะบอกว่าถ้าเรื่องพระโพธิสัตว์ไม่มีอะไรง่าย ทุกอย่างยากมาก เรื่องที่พระองค์ทรงตรัสให้เราฟังเป็นเพียงแค่เศษธุลีของเรื่องจริงทั้งนั้น มีแต่เพียงพระโพธิสัตว์ด้วยกันเท่านั้นถึงจะหยั่งถึงว่าเป็นจริงขนาดไหน
     
  13. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    สาธุ ขออนุโมทนาครับ
    เป็นบทความ ประสบการณ์ ที่ดี มีประโยชน์ น้อมนำมาศึกษา พิจารณาครับ
     
  14. choksila58

    choksila58 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    631
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,059
    ..เรื่องแบบนี้มันจะเป็นอะไรที่วัดใจและใจแทงใจกันมากก ดูสิมันจะละได้ไหม? มันจะโกรธแค้นไหม? มันจะอายไหม? เป็นของเราจริงๆไหม? สารพัดความคิดที่จะเกิดขึ้นเลย ทดสอบปัญญาและกำลังใจมากทีเดียว..

    ใครคิดได้ไม่ทันนี่ ถึงกับหน้ามืดทีเดียว
     
  15. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +792
    เป็นความเห็นส่วนตัวว่า ไม่ใช่ครับ
    เพราะพระนางพิมพา อดีตชาติครั้งที่พระสุเมธดาบสได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรก พระนางเสวยชาติเป็นกุมารีวัยน่าจะ ๑๗ ปี นางยังไม่มีสามีและนางได้ถวายดอกบัวครึ่งหนึ่งที่นางมีให้พระสุเมธดาบสด้วย นางนับเป็นผู้มีวาสนาทางธรรมต่อพระสุเมธดาบสก่อนแล้ว จึงสามารถให้ดอกบัวพระสุเมธดาบสได้ นางมีบุญจนได้เข้าพบและถวายดอกไม้และทำทางเดินถวายพุทธองค์และสาวกด้วย จึงเป็นผู้มีบุญมากแล้ว ประการสุดท้าย การที่นางตั้งจิตตรงขอตามพระโพธิสัตว์ในขณะที่เป็นสาวโสด จิตนางมีความมั่นคงในทางธรรมต่อโพธิสัตว์แล้วครับ กระแสจิตนี้ คือ รักมั่นเพียงหนึ่งเดียวครับ และชาดกต่างๆ ที่เอ่ยนามพระนางพิมพานั้น เห็นแต่เรื่องรักมั่นคงและยิ่งใหญ่เท่านั้น

    ประการสุดท้าย ตอนที่พระนางลาพุทธองค์เพื่อเข้านิพพาน พระนางพิมพาไม่ได้ขมาลาโทษเรื่องนี้
    อีกอย่างพระนางพิมพา เป็นผู้มีอภิญญาใหญ่เพียงไม่เกิน ๔ องค์ (ถ้าจำไม่ผิด) เมื่อคำนวณเวลาบำเพ็ญเพื่อเป็นพระโสดาบันของพระภิกษุตามท้องเรื่อง ชาติชาดกที่เล่าไม่ควรเกินหนึ่งอสงไขยเท่านั้น ซึ่งพระนางพิมพาบารมีมากไปไกลเกินกว่าจะอยู่ในสภาพแบบกากีตั้งสมัยพุทธทีปังกรครับ
    (ประกอบพิจารณาจากอานิสงค์ของบุคคลที่ได้ทำบุญต่อพุทธเจ้าแล้ว จึงตอบได้ว่า กากีไม่ใช่พระนางพิมพาครับ เพราะเมื่อ ๔ อสงไขยกว่าได้ทำบุญและตั้งจิตมหากุศลต่อหน้าพุทธองค์แล้ว)
     
  16. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    แม่พิมพาเป็นนางแก้วที่พิเศษ ดอกบัวอีกครึ่งนางถวายพระพุทธเจ้า
    ตั้งจิตอธิฐานขอมีส่วนร่วมก่อตั้งศาสนา ด้วยอำนาจแห่งบารมีสี่อสงไขยของนางจะรองรับศาสนาตั้งแต่นี้ไปจนศาสนาครบห้าพันปี
     
  17. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    ครั้นเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช พระนางยโสธราทรงเกิดความเศร้าโศกพระทัยยิ่งนัก
    ได้ทรงละเว้นการตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับนานาประการ .. และในระหว่างนั้น

    - คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงนุ่งห่มผ้าย้อมฝาด พระนางก็เปลี่ยนชุดทรงมานุ่งห่มผ้าย้อมฝาดด้วย
    - คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะบรรทมบนพื้นไม้ พระนางก็บรรทมบนพื้นไม้ด้วย
    - คราใดที่พระนางได้ยินข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะทรงอดพระกระยาหาร พระนางก็ทรงอดพระกระยาหารด้วย
    - ไม่ว่าจะได้ข่าวว่าพระสวามีทรงปฏิบัติตนอย่างไร พระนางพิมพาก็ทรงปฏิบัติตนเยี่ยงนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...