ชื่อของพระพุทธเจ้าตั้งขึ้นจากอะไร?

ชื่อของพระพุทธเจ้าตอนที่ท่านตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแต่ละองค์มีชื่อต่างกัน
ผมเรยอยากทราบว่า พระพุทธเจ้าแต่ละองค์มีเกณฑ์การตั้งชื่อจากอะไรหรอคับแบบว่า ได้ชื่อมาจากไหนหรอคับเชิญท่านผู้รู้ช่วยตอบหน่อยนะคับ[b-wai]

 

ผมสนใจเรื่องนี้มากครับ...

อยากรู้เหมือนคุณ ธรรมจักร เลยครับ.....

มาสนทนากัน..

 

*-* แจมๆ

 

พระพุทธเจ้าไม่ได้ตั้งชื่อเอง แต่เกิดขึ้นแก่พระองค์เอง เรียกว่า พระเนมิตตกนาม
ี่ที่ชื่อว่า พระมหาบุรุษ เพราะเสด็จออกบรรพชา แสวงหาพระสัมมาสัมโพธิญาณ
ที่ชื่อว่า พระอรหันต์ เพราะได้บรรลุธรรมพิเศษ ได้ถึงความบริสุทธิ์ จากกิเลสอาสวะ
ที่ชื่อว่า พระสัมมามัมพุทธเจ้า เพราะ ตรัสรู้ชอบโดยลำพังพระองค์เอง
ที่ได้ชื่อว่า พระศาสดา เพราะ เป็นครูสั่งสอนเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย

 

โธ่ น้องอ้นครับ
เล่นเซ็นเซอร์ XXX แบบนี้ อดรู้ของดีเลยอ่ะ
มีตัดเศียรด้วย สุดยอดครับ

 

แหม......น่าอิจฉามารศรี หนูอ้นจังเยยที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต ส่วนผมคงเป็นได้อย่างเก่งก็แค่คนเต็มบาทเท่านั้น แต่ตอนนี้รู้ว่ายังไม่เต็มบาท ได้แต่เก็บเล็กผสมน้อยไปทีละสตางค์สองสตางค์ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะครบบาทซักที เมื่อหนูอ้นสำเร็จบรรลุพระโพธิญานแล้ว อย่าลืมสงเคราะห์ผมด้วยนะครับ ไม่รู้ว่าพอจะมีวาสนาหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ขออนุโมทนาล่วงหน้าไว้ตรงนี้เลยละกัน

สวัสดีที่ยังขี้อิจฉาอยู่
จากคนที่ยังไม่เต็มบาทจริงจริ้ง....

 

ของตัวเองก็มี ไว้ฝึกดูเองเดะ

 

ไม่ต้องห่วงครับ...

คนอิจฉาๆนี่ ส่วนใหญ่ก็พอๆกันแหละครับ ..ไม่ก็ดีกว่า

 

ได้ความรู้มากเลย ขอบคุณครับ

 

น้องอ้นครับ
ผมยังสงสัยเรื่อง บารมีพิเศษของพระพุทธเจ้าแต่ละองค์
ช่วยอธิบายด้วยครับผม
ขอบคุณครับ

 

บารมีพิเศษ เป็น กำลังใจพิเศษที่สร้างมาด้วยความเป็น นิสัย เมตตาส่วนตัว เมตตาเฉพาะอย่าง เป็นความต้องการช่วยจริงๆ ถึงจะมีโอกาสตัดสินใจเลือกสร้างบารมีพิเศษได้ .. เพราะตามปรกติแล้ว เฉพาะบารมีธรรมดา ก็อ่วมพอแรงแล้ว .. มารเขากั้นไว้หมด ..กำลังใจต้องเข้มข้นพิเศษ เข้มข้นมาก.. คล้ายๆกำลังใจในการปรารถนาพุทธภูมิแต่เพียงอย่างเดียว(ที่ผมรู้เป็นแบบนี้นะ ท่านอื่นรู้จริงกว่าผมก็ไม่ทราบ แต่ผมก็พูด พอๆที่ผมตีความได้ไปก่อน ขอให้ท่านอื่นใช้วิจารณญาณ เพราะตามเป็นจริงแล้วผมก็ยังไม่รู้ชัดเจนเหมือนกัน)

....

บารมีพิเศษ ที่ผมพอทราบๆจากไหนก็ช่างเถอะนะ .. ส่วนใหญ่จะเป็นตำราแหละ

1. รัศมีของพระฉัพพรรณรังสี หลายกิโลเมตร หรือว่าครอบคลุมทั้งโลกเลย .. อันนี้เป็นกำลังใจการเสียสละ เสมอต้น เสมอปลาย เพื่อหวังในการช่วยสรรพสัตว์ .. ไม่ได้อาลัยในชีวิต ในเลือดเนื้อ (ก็เพราะท่านทรงอยู่ซึ่ง ฌาน 4 + เมตตาบารมี) ... การเสียสละแบบนี้ เป็นสิ่งที่กำลังใจต้องสูงมาก ...
(*** สำหรับท่านที่กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ หรือจะไม่ไหวแน่ๆเรย อย่าไปคิดแบบนั้น.. เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะของท่านเอง เป็นเรื่องของกำลังใจที่จะทราบเองในเวลาสมควร .. กำลังใจเป็นของเฉพาะบุคคล .. ดังนั้นท่านจะทำบุญ บารมีประการใด ..ถ้าหากจะทำก็ไม่ใช่เรื่องที่ท่านต้องง้อใคร...)

2. จำนวนบริวารมีมากมายหากเทียบกับองค์อื่นๆ ... นี่ก็เป็นกำลังใจในการช่วยเหมือนกัน.. แต่ว่า แต่ละชาติที่ท่านบำเพ็ญ ท่านจะหนักไปในการสอนคน ชักชวนคนทำบุญ ในปริมาณมาก แทบจะทุกๆชาติ ....สำหรับตอนท่านล้มลุกคือ ตอนที่ท่านต้องการสอน แต่ท่านสอนผิด อันนี้ก็รับกรรมไปครับ ก็เมตตา แต่ว่าเป็นมิจฉาซะ หรือสอนไม่ถูกซะ แม้จะเมตตา ก็บาปครับ .... แต่สำหรับตอนท่านลุกขึ้นมาได้ ชื่อเสียง บริวาร คนช่วยเหลือท่านจะมีเยอะมากๆ สังเกตได้อย่างชัดเจน
...ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว เราจะดูเพียงชาติเดียวไม่ได้ ...ก็ค่อยๆทำไป ..หัวแข็งเข้าไว้(*** อย่าบ่นมาก...เรื่องอะไรที่ไม่ทราบก็อย่าไปสนใจ ทิ้งไปเลย ..ไม่อยากให้ทราบก็ไม่ต้องทราบ ..กักๆๆ)

3. ความสะดวกสบายในสมัยท่าน .. เช่น สมบัติมีมากมาย ไม่ต้องหาเลี้ยงชีพให้เหนื่อย มีใช้ตามสบาย ไม่อั้น .. ตามหนังสือ จะบอกว่ามีต้น กัลปพฤกษษ์อยากได้อะไรก็ไปอธิษฐานแล้วสอยเอา... อันนี้ไม่ทราบนะ รู้แต่ว่าจะมีอะไรบางอย่างที่ ต้องการอะไรก็ได้ ถ้าถามว่าถ้าต้องการอะไรใหญ่ๆ บ้าๆบอๆหนะ จะได้ไหม ก็ต้องตอบว่า สมัยนั้นจิตใจเค้าดีกันหมด คนที่ต้องการอะไรบ้าๆบอๆ เกินพอดี ก็คงไม่ได้ไปเกิดสมัยนั้น อิอิ...
...การสร้างบารมีเพื่อสิ่งนี้ พอรู้มาว่า..ทานบารมีของท่าน ต้องหนักเกือบทุกชาติ ..อาหาร การกิน สิ่งของ .. ยินดีสละได้ ทำทุกอย่าง ทำสมบัติมาได้แล้ว ท่านต้องสละ ทำเพื่อสละ ... ทำเพื่อทาน เป็นกิจวัตร ..จนถึงจุดหนึ่ง คนรับทานของท่าน จะบ่นว่า .. จะให้อะไรนักหนา..อิอิ ก็จะกลายเป็นข้อวัตรข้อหนึ่งที่ท่านปฏิบัติเป็นประจำ คือทานบารมี ...

**แต่ผมยังแยกไม่ออกว่า ทานบารมีแบบนี้จะแตกต่างกับทานบารมีในบารมี10 ของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์อย่างไร ทำไมบางองค์ก็ทำแต่ ในสมัยท่านไม่มีแบบนี้ .. ผมยัง งง อยู่

 

ถ้าบำเพ็ญมาแบบวิริยะกะ บารมีจะกดสัตว์นรกให้เกิดไม่ได้ สมัยนั้นความสบายจะมากสุดครับ

 

ใช่เลยครับ ยุคสมัยของพระพุทธเจ้าวิริยาธิกะ
เปรต อสุรกาย สัตว์นรก จะมาเกิดไม่ได้
คนที่จะมาเกิดได้ต้องมาจากเทวดา หรือ พรหม เท่านั้น
ลองคิดดูเล่นๆว่า ถ้าพระโพธิสัตว์ทั้งหลายปรารถนาแบบวิริยาธิกะกันหมด
อะไรจะเกิดขึ้น..........
[b-wai]

 

น้องอ้นครับ
อย่าลืมมาต่อนะครับ
ผมกำลังสนใจเรื่องนี้มาก
ขอบคุณครับ

 

แห่ะๆขอบคุนทุกเสียงครับ

 

ยอดเยี่ยมครับ อนุโมทนาสาธุ.........

 

.....สุดยอดมากครับ โมทนาด้วยครับ ขอให้สำเร็จสมความตั้งใจ ดีใจกับทุกท่านที่ปรารถนาสืบเชื้อสายพุทธวงศ์ ครับ สาวกภูมิบารมีอ่อนๆอย่างผมคงช่วยได้บ้างตามสภาพอ่ะครับ มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังได้นะครับ เป็นวิทยาทาน ธรรมทานครับ

 

น้องอ้นมาอธิบายเรื่องบารมีพิเศษต่อด้วยจิครับ
(b-inlove)

 

อย่าลบเลยครับ
เป็นความรู้ในส่วนพุทธวิสัยที่หาอ่านได้ยากยิ่งนัก

 

บารมีจะเต็มช้าจะว่างนานครับคนไม่ดีหมดสิทธ์มาเกิดครับอิอิ