ช่วยด้วยครับพลาดไปกับการปรามาสท่านพุทธทาส ตอนนี้เป็นกังวล

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย NatthaponJ, 29 มีนาคม 2017.

  1. NatthaponJ

    NatthaponJ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2016
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +275
    ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะขัดกับหลักความเชื่อของผม
    เลยปรามาสท่านไปแบบ ออกมาที่การกระทำเป็นกรรมที่สมบูรณ์แน่นอน
    กลัวว่าตายไปอาจเสี่ยงไปอบายภูมิ ผมต้องทำอย่างไรดีครับ แล้วผลกรรมจริง ๆ ผมจะโดนอะไรบ้าง
    ผมไม่ได้ศรัทธาท่านพุทธทาสนะครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ก็ขอขมากรรมบ่อยๆครับ บทขอขมากรรมหาได้ในเนท
    และควรยอม ชดเชย ชดใช้หรือยอมรบ ด้วยใจจริงๆนะครับ
    จนกระทั่งเรา ไม่ระลึกถึง ไม่นึกถึง ไม่คิดขึ้นได้ ไม่ปรุงกับเรื่องนี้
    โดยนัยยะ บอกว่า วิบากหรือกระแสจรตรงนี้คลี่คลายลงไปแล้วครับ...
    ปล.ทำบ่อยๆครับ..
     
  3. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ขอขมาต่อพระรัตนตรัย หรือ เอ่ยชื่อท่านก็ได้ครับ การขอขมาต่อพระรัตนตรัยควรจะทำบ่อยๆหลังสวดมนต์ หรือก่อนเข้านอน ควรถือศีล5 กรรมบท10 ครับ กรรมปัจจุบันสำคัญสุดครับ ควรทำจิตให้ผ่องใส หมั่นทำจิตให้อยู่ในกุศล อย่าไปเอากรรมในอดีตมาคิดมากทำให้จิตเศร้าหมอง อย่าไปกังวลในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง จิตเศร้าหมองย่อมมีทุคติเป็นที่ไปแน่นอน ให้อภัยตนเองและอย่ากลับไปทำกรรมแบบเดิมซ้ำอีกครับ
     
  4. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    ใครรำคาญโฆษณา ที่มาบดบังการสนทนาในทุกๆความเห็นที่ 2 ของทุกๆหน้าเว็บบอร์ดมั่ง ? ยกมือขึ้น แจ้งไปที่เว็บมาสเตอร์หน่อยจิ อ่าน 2 บรรทัดแรก ของ คห2 ไม่ได้ตลอดเลย


    ดูกร ท่าน จขกท
    เนื่องด้วยชาวพุทธทุกวันนี้มีความเข้าใจผิดเรื่องการปรามาส เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงข้อชี้แจงเท่าที่พอจะนั่งนึกออกดังนี้ ภาษาที่ใช้อธิบายอาจจะไม่สวยหรูนัก ก็ขอให้พยายามนึกภาพตามนิดนึงแล้วกันนะครับ

    พระพุทธเจ้าให้หลัก "กาลา"มาสูตร มาให้มนุษย์โลกเอาไว้เป็นเครื่องมือ ในการเปิด "กะลา" ขี้เกลื่อยที่มีอยู่ในสมองตัวเอง หนึ่งในข้อของหลักกะลา นั่นคือ "อย่าพึ่งเชื่ออาจารย์"

    และท่านยังให้เครื่องมือมาอีก 1 ชิ้นนั่นคือ "โยนิโสมนสิการ" หลักนี้คือการให้คิดแล้ว คิดอีก คิดย้อนไปย้อนมาให้รอบคอบ
    เช่นนี้แล้ว คุณจะกลัวนรก ไปไยครับ ? ถ้าพระพุทธเจ้าสอนว่าอย่าพึ่งเชื่อ จนกว่าคุณจะพิสูจน์ได้เอง ว่าคำสอนนั้น"จริง" ตรงทาง เป็นทางสายเอกที่จะไปสู่ "อริยมรรค" แต่ก็ต้องขอเตือนว่า หลักการนี้คืออย่าเชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตนเองนะครับ นั่นก็คือ "ให้ทำด้วยตนเอง ได้ผลแล้วจึงค่อยเชื่อ"
    " และต้องเป็นคำสอนที่เป็นทางสายเอกเท่านั้น" ในแง่ขอศาสนา ในแง่ทางโลกก็เอาไปปรับใช้เองตามความเหมาะสม

    "พระพุทธเจ้าที่สอนให้ไม่เชื่ออาจารย์ แปลว่าท่านสอนให้ลงนรกรึเปล่าหละ"

    มนุษย์นะครับ ไม่มีทางคิดตรงกัน เหมือนกันได้หมด 100 % ถ้าการที่เราไม่ได้คิดเหมือนท่าน แล้วกลายเป็นว่า
    "ปรามาส" ผมว่าธรรมชาติแมร่งลำเอียงแล้วครับ ใครได้ตำแหน่งครูบาอาจารย์ไปครอง แล้วเอ็งเสือกไม่คิดเหมือนข้า เอ็งไปนรกแน่ๆ ว่าแล้วอาจารย์คนนั้นก็หัวเราะแบบตัวโกงในละคร วะฮะฮะ ฮะ ฮะ(กรุณาจินตาการภาพตาม)


    รู้ไหม ปรามาส เกิดจากอะไร แล้วก็มา ขู่ ฟ่อ ฟ่อ เรื่องนรก สวรรค์เนี่ย
    .
    .
    .
    .
    นั่นคือการยึดติดตัวบุคคลไงครับ


    ถ้าใช้หลัก นำคำสอนท่านมา เปรียบเทียบ ใช้งาน นำแต่สิ่งดีๆของแต่ละท่านมาใช้ สิ่งเสียๆของท่านเราไม่ยุ่ง
    รับประกันได้ว่า "ท่านจะฉลาดขึ้นอีก 3 กิโลขีด" เพราะท่านจะมีครูบาอาจารย์ได้พร้อมกันทีเดียว"หลายร้อยคน"
    เหตุจากที่ท่านไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคลในครูบาอาจารย์ นั่นเอง " ผล มาจาก เหตุ"



    "อย่าเลย วักกลิ ร่างกายอันเปื่อยเน่าที่เธอเห็นนี้ จะมีประโยชน์อะไร? ดูกรวักกลิ ผู้ใดแล เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่า ย่อมเห็นธรรม. วักกลิเป็นความจริง บุคคลเห็นธรรม ก็ย่อมเห็นเรา บุคคลเห็นเราก็ย่อมเห็นธรรม."


    นี่คือหลักการ " ปัญญา ควบคู่ กับไป ศรัทธา" โดยให้อินทรีย์ มันเสมอกัน


    น่าจะสบายใจขึ้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2017
  5. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    เรียนท่านที่รำคาญโฆษณานะครับ
    ผมใช้วิธีกดรีเฟรชครับ
    เดี๋ยวมันก็หายไปเองครับ
     
  6. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ถ้าเราไม่ชอบแนวทาง คำสอนของท่านพระพุทธทาส ก็ไม่ผิด
    แต่ถ้าไปด่าท่าน แบบนี้ผิดครับ
    ถ้าเราเคยด่าท่าน ใส่ร้ายท่าน เฉพาะตัวเองก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ากระทำผ่านสื่อ กระจายให้คนอื่นรู้ แบบนี้เราก็ได้ทำอกุศลกรรมไปแล้ว
    กรรมนี้จะทำให้เราไปที่ไหนๆก็มีคนเกลียด คนนินทาว่าร้ายเรา

    เราก็อาจจะต้องใส่ความดี ชื่นชมคำสอนของท่านผ่านสื่อ หรือ คัดเลือกคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ได้ นำเสนอผ่านสื่อ และสำนึกในความผิดพลาด ด้วยการกล่าววาจาต่อพระพุทธรูประลึกในความผิดของเรา ดังพระอาบัติที่ท่านกล่าวความผิดของตน ทำแบบนี้จะได้พอเติมน้ำให้เกลือมันเจือจางไปได้
     
  7. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    30 refresh ก็ไม่หายอะจิ ปอลิง ศิษย์โง่ใช้ chrome

    ชีวิตมันเศร้า เลียอมยิ้มแก้กลุ้มดีกั่ว คริคริ
     
  8. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
  9. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ผมใช้ ad block ครับ ไม่มีโฆษณามากวนใจ เวลาเปิดดูยูทูปหรือเว็บ แนะนำครับ ส่วนปรามาส ก็ คือ การ ดูหมิ่น การ ดูหมิ่น ก็ คือ อกุศลจิต ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเชื่อหรือไม่เชื่อ ตรงนี้แยกออกจากกันให้ชัดเจนครับ พระพุทธเจ้าเทศน์จบ ถามท่านพระสารีบุตรว่า เชื่อที่เราพูดหรือ ท่านพระสารีบุตรตอบว่า ไม่เชื่อ การไม่เชื่อของพระสารีบุตรไม่ใช่การดูหมิ่น การดูหมิ่น การดูถูก ผู้อื่นว่าเลวกว่าตน ต่ำกว่าตน โง่กว่าตน เป็นเรื่องของคนที่ยังห่างไกลคำว่า "ธรรม"
     
  10. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    อ่าเครๆ รับทราบ แอดบล๊อก
    แต่การไม่เชื่อ มันก็มีอกุศลจิตเกิดขึ้น มีการปรามาสในใจ เพียงแต่ยังไม่มี วจีกรรม กายกรรมเปียงยางออกมา
    เมื่อมี วจีกรรม ออกมา ก็เป็นธรรมดา ที่จะโดนชกปากจากอีกฝ่ายไป ขอขมาไปมันก็จบไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
    จขกท say sorry ไป ก็จบแล้ว คิดมากไปปวดหมอง เรื่องนรก สวรรค์ สู้เอาเวลามาปฏิบัติธรรม กันดีกั่ว

    เอิ้กๆ^^
     
  11. NatthaponJ

    NatthaponJ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2016
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +275
    ขอบคุณทุกท่านมากครับที่มาช่วยตอบ ผมได้รับคำตอบให้ตัวเองแล้ว ผมไม่ได้พลาดในครั้งนี้
    แต่ผมก็ขอขมา หลวงพ่อพุทธทาส ด้วยใจจริง บทเรียนครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนที่นับถือศาสนาพุทธแบบผม ถ้าพลาดไปแล้วก็อันตรายมาก ครั้งหน้าผมจะหุบปากกับหยุดพฤติกรรมแบบนี้ ไม่เสี่ยงอีกดีกว่า
    ขอปิดกระทู้ได้เลยครับ
     
  12. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    [๕๔๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดแลพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำบาป ไว้อย่างไรๆ เขาจะต้องเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติ พรหมจรรย์ของผู้นั้นย่อมมีไม่ได้ โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ ย่อม ไม่ปรากฏ ส่วนผู้ใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษนี้ทำกรรมที่จะต้องเสวยผลไว้ด้วย อาการใดๆ เขาจะต้องเสวยวิบากของกรรมนั้นด้วยอาการนั้นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ของผู้นั้นย่อมมีได้ โอกาสที่จะทำที่สุดแห่งทุกข์โดย ชอบย่อมปรากฏ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรมแม้เล็ก น้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้ ทำบาปกรรม เพียงเล็กน้อย เช่นนั้นแหละ บาปกรรมนั้นย่อมให้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อย ไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะส่วนที่มาก บุคคลเช่นไร ทำบาปกรรมแม้เล็กน้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ไม่ อบรมกาย ไม่อบรมศีล ไม่อบรมจิต ไม่อบรมปัญญา มีคุณน้อย มีอัตภาพเล็ก มีปรกติอยู่เป็นทุกข์ เพราะวิบากเล็กน้อย บุคคลเห็นปานนี้ ทำบาปกรรมแม้เล็ก น้อย บาปกรรมนั้นก็นำเขาเข้านรก ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเช่นไรเล่า ทำ บาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้นเหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อย ไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะส่วนมาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้อบรมกาย อบรมศีล อบรมจิต อบรมปัญญา มีคุณไม่น้อย มีอัตภาพใหญ่ มีธรรมเป็นเครื่องอยู่หาประมาณมิได้ บุคคลเช่นนี้ทำบาปกรรมเล็กน้อยเช่นนั้น เหมือนกัน บาปกรรมนั้นให้ผลทันตาเห็น แต่ส่วนน้อยไม่ปรากฏ ปรากฏเฉพาะ แต่ส่วนมาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษพึงใส่ก้อนเกลือลงในขันใบ น้อย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน น้ำในขันเพียงเล็กน้อยนั้น พึง เค็มดื่มกินไม่ได้ เพราะก้อนเกลือโน้นใช่ไหม ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่าใช่ พระเจ้าข้า ฯ
     
  13. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966

    +++ เหตุที่กังวล เพราะ .....................................

    +++ แล้วเหตุใด ตอนนี้จึงรู้สึก .............
    +++ ความเชื่อ คือ อะไรก็ตามที่ "มโนไปเอง แล้วยึดติดตามนั้น อย่างรุนแรง"

    +++ ความเชื่อ เป็นเรื่อง "น่าอนาถทางจิต" ชนิดหนึ่ง ที่อยู่คนละปลายกับ ความปล่อยวาง
    +++ เกิดจาก "อัตตา" บาดเจ็บอย่างสาห้ส เพราะ "มโน" โดนหักดังป๊อก

    +++ ความคลั่งแค้นเกิดขึ้น เพราะต้องการ "รักษา มโนเอาเอง ของตนเอาไว้" ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่า อะไร จริง/เท็จ

    +++ ธรรมกลาย / นาซีใหม่ / white supremacy / IS และอื่น ๆ ก็เป็นผลพวงมาจาก "ความเชื่อ ที่มโนขึ้นมาเอง แล้วยึดมโนนั้น ๆ อย่างรุนแรง"

    +++ เสริมความแข็งแกร่งของ มโน นั้น ๆ ด้วย "เหตุผล" อันน่าหลงไหล พิศดาร

    +++ ยิ่งมา ยิ่งถลำลึก ยิ่งถอนตัวไม่ขึ้น เพราะ "โดนกลบฝัง" ด้วยเหตุผลอันพิศดาร แต่ พิกลพิการ นั้น ๆ

    +++ สัจจธรรมนั้น พิสูจน์ได้ โดยไม่ต้องใช้ เหตุผลอันพิศดารใด ๆ
    +++ ณ ขณะที่ "ฝังตัวในมโนนั้น ๆ" มันก็เป็น อบาย อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ตัวเอง เท่านั้นแล....
    +++ "จองเวร" กับผู้ใด เมื่อได้สำนึกแล้ว ก็ให้ "ขอขมา" กับผู้นั้นแบบ ตรงไปตรงมา "อย่า" เลี่ยงไป ขอขมากับอย่างอื่น ตรงนี้ เป็นการแก้แบบตรง ๆ ในวงจรจิตของคุณเอง

    +++ หารูปของ ท่านพุทธทาส แล้วกล่าวคำ "ขอขมา" ออกมาจากจิต ด้วยนิสัยใจจริง ไม่ต้องท่องบาลีใด ๆ ก็ได้ ตรงนี้ เป็นการแก้แบบตรง ๆ กับบุคคลที่ส่งผลลัพธ์ตรง กับวงจรจิตของคุณเอง
    +++ ผลกรรม ฝ่ายอกุศลทั้งหมด สรุปออกมาได้คำเดียว คือ ทุกข์ (อบาย)

    +++ ผลกรรม ฝ่ายกุศลทั้งหมด สรุปออกมาได้คำเดียว คือ สุข (สบาย)
    +++ ทั้งหมดเป็นเรื่อง ที่อยู่ข้างใน "วงจรจิต มโน ของคุณคนเดียว" ไม่ใช่ วงจรของ ท่านพุทธทาส

    +++ คุณจะ ศรัทธา/ไม่ศรัทธา ในตัวท่าน ท่านก็ไม่สนใจคุณหรอก เพราะ ท่านไม่ได้ "ตามล่าศรัทธางมงาย" แบบไอ้พวก ธรรมกลาย

    +++ แต่ "วงจร" กรรม/เวร/วิบาก มันหมุนอยู่ใน "วงจร" จิตของคุณเอง ซึ่ง ทั้งหมดล้วน ๆ นี้ "อัตตาของคุณเอง" เป็นผู้ "รับไปตรง ๆ"

    +++ จริง/เท็จ อยู่ที่ "สติ-ปัญญา" ของตัวคุณเอง

    +++ เหตุผลกลนัย ทั้งหมดที่เกี่ยวพันกันใน วงจรจิตของคุณขณะนี้ รวมทั้ง วิธีแก้ไข ก็ได้มอบไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เอวังก็มีด้วยประการะฉะนี้ ......
     
  14. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    ถึงเราจะไม่ศรัทธาท่าน แต่ท่านก็อยู่ในเพศพระ หากหลงไปปรามาสเข้า ก็สามารถไปขอขมาต่อหน้าพระพุทธรูปได้ครับ หรือระลึกถึงเมื่อไหร่ ก็น้อมจิตกราบขอขมาท่านได้ทุกเวลา

    หรือจะไปกราบขอขมาต่อหน้าพระพุทธรูปที่เราเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ครับ ถ้าอยู่ที่บ้าน ถ้ามีพระพุทธรูปที่บ้านก็ขอขมาต่อหน้าพระที่บ้านได้ ถ้าไม่มีก็น้อมใจกราบขอขมาท่านได้ โดยนึกว่าตอนนี้เรากำลังกราบขอขมาพระต่อหน้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    นึกถึงเมื่อไหร่ก็กราบขอขมาเมื่อนั้น ทำไปเรื่อย ๆ ครับ ทำทุกวัน นึกเมื่อไหร่น้อมใจกราบเมื่อนั้น นอกจากจะเป็นการสำนึกผิดแล้ว เรายังได้บุญตรงที่นึกถึงพระตลอดอีกด้วยครับ ได้กำไร 2 ต่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...