ดวงมรณกรรม หรือ ชะตาถึงฆาต

ดวงมรณกรรม หรือ ชะตาถึงฆาต

หลักเกณฑ์การพิจารณา

๑. มีบาปเคราะห์ร้ายมาทับลัคนา หรือดาวเจ้าเรือนลัคน์ ยิ่งมากดวงเท่าไร ยิ่งให้โทษมากเท่านั้น และถ้าหากมาจากเรือนมรณะด้วยแล้ว ต้องระวังให้มาก

๒. มีบาปเคราะห์ร้ายมาทำมุมกากะบาด เล็ง ปลายหอก ห้อมล้อมลัคนาหรือดาวเจ้าเรือนลัคนา ยิ่งมากดวงเท่าไร ยิ่งให้โทษมากเท่านั้น

๓. ลัคนาจร หรือ ดาวเจ้าเรือนลัคนา จรอยู่ในภพมรณะ หรือจรร่วมกับดาวมรณะในพื้นดวง

๔. ดาวอังคาร (๓) ซึ่งเป็นดาวฆาต มักจะทับลัคน์ จรร่วมกับดาวเจ้าเรือนลัคน์ หรือทำมุมให้โทษแก่ลัคนา หรือดาวเจ้าเรือนลัคน์

๕. ดาวเสวยอายุ เสวยแทรก มักจะเป็นดาวบาปเคราะห์ หรือไม่ก็เป็นดาวที่เป็นเจ้าเรือนภพทุสถานะ หรือ ดาวลอยในภพทุสถานะ (อริ มรณะ วินาศนะ)

๖. ผู้ที่อายุสั้น , ตายด้วยอุบัติเหตุ หรือ ฆ่าตัวตาย ในพื้นดวง ดาวเจ้าเรือนลัคน์มักจะอยู่ในภพมรณะ และมักจะมีดาวมรณะ หรือดาวอังคาร (๓) มาสัมพันธ์กับลัคนา เช่น กุมลัคน์ ลอยเหนือศีรษะขณะเกิด (ภพกัมมะ) และถูกบาปเคราะห์ร้าย หรือ หลายดวง ทำมุมให้โทษ (กุม เล็ง กากะบาด ปลายหอก ห้อมล้อมหรือบีบเรือน)

๗. หากอยากรู้ว่าจะตายในวัยใด ให้พิจารณาดาวครองวัยในพื้นดวงว่า สัมพันธ์กับดาวเจ้าเรือนมรณะ หรือดาวอังคาร มากน้อยเพียงใดหรือไม่ , ไปอยู่ในภพมรณะหรือไม่ หรือถูกดาวบาปเคราะห์เบียนให้โทษมากน้อยเพียงใด หากกุมดาวมรณะ จรอยู่ในภพมรณะ หรือถูกเบียนมาก ๆ จากบาปเคราะห์ ถือว่า วัยนั้นเป็นวัยตกอับ เป็นวัยเคราะห์ร้าย ต้องระวัง

๘. ในดวงที่ชะตาถึงฆาต ส่วนมากดาวสำคัญ ๆ เช่น จันทร์ (๒) (โหรโบราณใช้แทนลัคนา) พฤหัสบดี (๕) หมายถึง สุขภาพร่างกาย การมีชีวิต (ภาษาบาลีเรียก ชีโว) และอาทิตย์ (๑) ดาวแห่งแสงสว่าง ธาตุไฟ ตัวก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต จะถูกบาปเคราะห์เบียนอย่างมากทุกดวง

๙. ยังมีกฎเกณฑ์การพิจารณาปลีกย่อยอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ทำไมถึงตายด้วยอาวุธปืน , ทำไมถึงฆ่าตัวตาย , ทำไมถึงตายในน้ำ , ทำไมถึงตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ฯลฯ ก็ต้องไปอ่านและศึกษาเอาจากดวงตัวอย่าง และหมั่นจดจำเคล็ดวิชาเอา ที่ให้ไว้ใน ๘ ข้อนั้น เป็นการพิจารณาในหลักกว้าง ๆ ทั่วไป อาจจะมีอะไรที่ไม่เข้าหลัก ๘ ข้อก็ได้ เคยเจอเหมือนกัน แต่น้อยรายมาก หรือแทบจะไม่พบเห็นเลย ส่วนมากที่ตาย ๆ กัน ไม่พ้น ๘ ข้อ ที่ให้ไว้ไปได้หรอก ไม่เชื่อ เรามาพิสูจน์จากดวงในตำรา และจากประสบการณ์จริง ๆ กันหน่อยเป็นไง (b-smile) (b-hmm) [b-hi]

 

<h3>พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร. ๔<h3>
<img scr="http://www.lekpluto.com/pics/p01_001.jpg"></img>
พระองค์ทรงประชวรด้วยพิษไข้มาเลเรีย หรือ ไข้ป่า หลังจากเสด็จกลับจากประพาสชมสุริยุปราคาที่หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๔๑๑ ทรงพระประชวรได้เดือนกว่า ก็เสด็จสวรรคต ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๑๑ สิริพระชนมายุได้ ๖๓ พรรษา เต็ม ย่าง ๖๔ พรรษา อีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน

ในวันสวรรคต จะเห็นว่ามีดาวอาทิตย์ (๑) เจ้าเรือนวินาศนะ (เทียบเท่าบาปเคราะห์) ทับพระราชลัคนา โดยมี เสาร์ (๗) และ เกตุ (๙) โยคหน้า อังคาร (๓) โยคหลัง จันทร์ (๒) กับพฤหัสบดี (๕) คู่ศัตรู เล็ง มฤตยู (๐) ทำมุมกากะบาด โดยมีพลูโต (พ) เจ้าเรือนมรณะ และเนปจูน (น) ทำมุมร่วมธาตุ

ให้สังเกตว่าพระองค์ท่านสวรรคตเพราะพิษไข้ เป็นเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ ต้องพิจารณาดาวเจ้าเรือนศุภะ และภพศุภะ จะเห็นว่ามีพลูโต (พ) เจ้าเรือนมรณะ จรร่วมกับเนปจูน บาปเคราะห์ใหญ่ ในภพศุภะ โดยมีดาวแบคคัส (บ) เจ้าเรือนภพศุภะอยู่ด้วย หนำซ้ำยังถูกเสาร์ (๗) และเกตุ (๙) เล็ง ราหู (๘) ทำมุมกากะบาด เบียนแบคคัส (บ) อย่างยับเยิน

พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุได้ ๖๓ พรรษา ลัคนาจรเข้าภพสหัชชะที่ราศีพิจิก จะเห็นว่าถูกเบียนจากบาปเคราะห์ร้ายทุกดวง คือ เสาร์ (๗) เกตุ (๙) กุม เนปจูน (น) พลูโต (พ) เล็ง ราหู (๘) กากะบาด อังคาร (๓) ร่วมธาตุ มฤตยู (๐) ทำมุมปลายหอก ดาวเสาร์ (๗) ที่ครองวัย ๖๑ ถึง ๗๐ ปี เสวยอายุ ที่ต้องสวรรคตในวัยนี้ เพราะเสาร์ (๗) ในพื้นดวงถูกเบียนมากจากบาปเคราะห์ทุกดวง คือ มฤตยู (๐) เจ้าเรือนอริ กุม, เกตุ (๙) เล็ง , พลูโต (พ) เจ้าเรือนมรณะ ทำมุมร่วมธาตุ โดยมีเนปจูน (น)โยคหน้า อังคาร (๓) โยคหลัง ดาวเนปจูน (น) บาปเคราะห์ ที่จรอยู่ในภพศุภะ พร้อมกับพลูโต (พ) เจ้าเรือนมรณะ เสวยแทรก จึงเป็นเหตุต้องทำให้พระองค์ทรงทนพิษไข้ป่าไม่ไหว สวรรคตในวันนี้

 

ทำไม post รูปไม่ได้เนีย

 

<img scr="http://www.lekpluto.com/pics/p01_002.jpg">http://www.lekpluto.com/pics/p01_002.jpg</img>
ทรงพระประชวรด้วยพระโรคฝีในท้อง และเสด็จสวรรคตอย่างกระทันหัน ในขณะที่มีพระชนมายุไม่มากนัก จะเห็นว่ามีดาวมฤตยู (๐) และเกตุ (๙) ทับพระราชลัคนา โดยมี พลูโต (พ) เสาร์ (๗) และอังคาร (๓) บาปเคราะห์ล้วน ๆ ทำมุมเสริม เนปจูน (น) เล็ง ราหู (๘) ทำมุมปลายหอก

ดาวศุกร์ (๖) เจ้าเรือนภพศุภะ ถูกราหู (๘) เล็ง เสาร์ (๗) กับอังคาร (๓) ที่เบียนให้โทษอยู่ในภพศุภะนั้น ทำมุมกากะบาด โดยมี พลูโต (พ) และ เนปจูน (น) ทำมุมปลายหอกทิ่มแทง

พระองค์เสด็จสวรรคตในขณะที่มี พระชนมายุ ๔๕ พรรษา อยู่ในวัยของดาวอังคาร (๓) ซึ่งเป็นเกษตร หากดูผิวเผิน ก็ไม่น่าจะสวรรคตในวัยนี้ แต่ถ้าดูดี ๆ พิจารณาถึงหลักความเป็นจริง อย่าลืมว่า อังคาร (๓) นั้นเป็นดาวฆาต หรือ ดาวมรณะโดยตรง ยิ่งเป็นเกษตรด้วยแล้ว ยิ่งให้โทษมากกว่าธรรมดาหลายเท่าตัว เท่ากับพระองค์มีดาวมรณะลอยเหนือศีรษะขณะพระราชสมภพนั่นเอง ดูให้ลึกอีกนิดก็ได้ จะเห็นว่า อังคารนั้น มีเสาร์ (๗) เจ้าเรือนวินาศนะ ทำมุมร่วมธาตุ พระองค์ไม่ทราบล่วงหน้าว่ามีฝีในท้องมาก่อน มารู้อีกทีก็กำเริบอย่างรวดเร็ว และสวรรคตกระทันหัน ด้วยอิทธิพลของเสาร์ (๗) วินาศนะที่ทำมุมกับอังคาร ตัวมรณะ นอกจากนั้น อังคาร (๓) ยังมีราหู (๘) อาทิตย์ (๑) คู่ศัตรู และพุธ (๔) ดาวเจ้าเรือนมรณะ นำหน้า เป็นศูนยพาหะ ถือว่าให้โทษ ที่สำคัญก็คือ มฤตยู (๐) คู่อุบัติเหตุ หรือการผ่าตัด คู่ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกผันกระทันหันกับอังคาร (๓) ทำมุมกากะบาด โดยมี เนปจูน (น) พลูโต (พ) เกตุ (๙) ทำมุมปลายหอก เมื่ออังคาร (๓) ถูกเบียนมาก แม้จะไม่จัง ๆ แบบ กุม เล็ง หรือกากะบาดทุกจุด แต่ถ้าโดนหนักอย่างนี้ ถือว่า อังคารเปราะ จึงต้องสวรรคตในวัยของอังคาร คือ ๔๑ ถึง ๕๐ ปี

อายุ ๔๕ นั้น ลัคนาจรตกอยู่ในภพศุภะ ที่ราศีตุลย์ บ่งบอกถึงเรื่องราวในปีนี้ว่า จะต้องข้องแวะกับเรื่องสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ ยิ่งลัคนาจร กุมเสาร์ (๗) กับ อังคาร (๓) และถูกเบียนมากมายอย่างนี้ ไม่ควรประมาท เพราะอาจทำให้ประชวรหนักถึงกับสวรรคตได้ และดาวที่เสวยแทรก คือ เนปจูน (น) บาปเคราะห์ที่อยู่ในพื้นดวงนั้น ก็ถูกเบียนมากไม่น้อยไปกว่าอังคาร คือ เกตุ (๙) พลูโต (พ) กุม ราหู (๘) กับ มฤตยู (๐) ทำมุมร่วมธาตุ ดังนั้น จึงทำให้พระองค์ต้องเสด็จสวรรคตในปีที่เนปจูนเสวยแทรกนี้

 

ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแล้ว ผมก็สามารถวิเคราะห์ได้ จะจับโน่น ชนนี่ จะจับขี้ ชนเยี่ยวก็สมเหตุสมผลทั้งนั้นแหละ

 

เยี่ยม นี่หลักวิชาของท่า อ.พลูหลวง ผมก็ใช้อยู๋ ตอนนี้มีดาวแบคคัสขึ้นมาแล้ว ยินดีที่ได้รู้จัก คุณ พงษ์ศิริ ท่าน อ.พลูหลวงนี่เค้าว่าเป็นอ.ของพระเจ้าอยู๋หัวรัชกาล ปัจจุบันด้วย ท่านอ.พลูหลวงนั้นเป็นอ.สอนวิชาศิลปะด้วย The World นี่ พูดออกมาว่า "พอเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็สามารถวิเคราะห์จับโน่น ชนนี่ จะจับขี้ ชนเยี่ยวก็สมเหตุสมผลทั้งนั้นแหละ" อย่างนี้นี่หากเค้าเอาเรื่องขึ้นมาคุณซวยนะ คุณลองคิดดู ว่า สบประมาทอาจารย์ของในหลวงนี่มีความผิดรึเปล่า คุณ พงษ์ศิริ ยังไงรบกวนท่าน ช่วยพิสูจน์เค้าให้ดูหน่อยซิครับ ว่าเป็นเรื่องจริง ดูดวงให้เค้าไปเลย ผมจะเอาใจช่วย

 

ขอบคุณครับ ที่ผมเอามาลงนี้เพราะว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจนะครับ ผมไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลย

อันนี้แล้วแต่ใครจะเชื่อ ใครจะยอมรับ มันร้อยพ่อพันแม่ครับ บางทีเห็น ๆ กันเข้าใจกันแต่ไม่ยอมรับก็มี (เพราะถ้ายอมรับแล้วตนเองอาจไม่สบายใจไง)