ดูง่ายๆการทำงานของ วงจรปฏิจจสมุปบาทครับ..

แค่เราคิด-นึก ..กุศล-อกุศล รัก เกลียด เกิดในใจ
วงจรปฏิจจสมุปบาท..ก็เกิดทันที เช่น คิดอกุศล เวทนาเกิด(เวทนาสาม-สุข-ทุกข์ ในการคิด-นึก)..อริยสัจจย์4.. ทำงานทันทีเช่นกัน หากเรานึกถึงรูปหน้าคนที่เราไม่ชอบ เกลียด-โกรธ ก็เกิดทันที..เพราะจิตส่งวิญญาณ1ใน 6 คือมโนวิญญาณไปผัสสะกับรูป -นามรูป ในใจบนขันธ์5..
เห็นไหมครับเขาทำงานซ้อนกันใน "จิต" แค่คิดนึก เท่านั้น..หากเราเริ่มฝึกตัดผัสสะ..เวทนาก็ไม่เกิด เราก็จะอยู่กับปัจจุบันขณะทันที หากเราตัดผัสสะได้จริง สมาธิมั่นคงจริงขณะนั้น ..อริยสัจจ์4 ก็ไม่เกิด (เวทนาหาย)..ใช่ไหมครับ
ชวนสนทนาธรรมครับ ผิดถูกไม่เป็นไร พูดเพราะๆทะเลาะกันได้ อิอิ

 

ขออนุญาตนะครับ ไม่ได้เข้ามากวนอะไร คือจะถามว่า เวลาที่เห็นเนี่ย เห็นเป็นวงจรฯ ขึ้นมาเองเลยหรือเปล่าครับ หรือว่าใช้วิธีคิดเทียบเคียงไปตามขอบเขตของสัญญาความจำได้ที่มี ถ้าเห็นเป็นวงจรฯ ไม่มีความเห็นครับ แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง คือมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าหากรู้ตัวอยู่ว่านี่กำลังคิดทบทวนไปตามระบบ แต่ก็ไม่ควรลืมว่ามันเป็นการคิด มันเป็นโลกของความคิดของเรานะครับ ทีนี้อย่างที่เคยได้กล่าวไปแล้ว โลกของความคิดนี่คิดใครคิดมัน แต่ความจริงเป็นแบบไหนนี่ยังไม่แน่ ถูกมั้ยครับ

 

รบกวนอธิบายการตัดผัสสะด้วยค่ะ ปรางไม่ค่อยเข้าใจ เพราะไม่เคยปฏิบัติแบบละนันทิ คือเข้าใจแบบบ้านๆตามความคิดตัวเองว่า พอตัวเองเริ่มติดใจในนิวรณ์ ซึ่งปรางชอบติดนอนติดขี้เกียจ ปรางก้อจะนอนให้น้อยและขยันทำงาน นอกนั้นก้อสวดมนต์ตามปกติค่ะ

สำหรับปรางจะตัดผัสสะต้องมีสติเกิดรึเปล่าคะ ไม่ค่อยเข้าใจแฮะ =_=

 

ยินดีครับ..ทางสายพระป่าเราสอน ให้เอาตำราวางไว้บนหิ้งก่อนแล้วาฝึกสมาธิ(หลวงปู่มั่น-หลวงตามหาบัว)..แต่สาย พุทธวจน ท่านสอนให้สั่งสม สุตตะ สั่งสมความรู้ให้มากให้จำได้หมั่นท่องจำหรือจะใช้ความเข้าใจก็จะง่ายเข้าในภาพรวมครับ หากเราไม่มีสุตตะ เราจะเอาข้อมูลจากไหนมาสอนจิตให้หลุดพ้นจากอกุศลเล่าครับ ดังนั้นควรเรียนปริญัตติหรือสะสมสุตตให้มากๆไว้ก่อนเป็นแผนที่ครับ

ตอบที่ถาม สัญญา-สมมุติ เรามีอยู่แล้วทุกคนคือ..ความจำในสุตตะ วงจรปฏิจจสมุปบาท ทั้งวงจร แต่ในการปฏิบัติ เราแค่ตัด(ผัสสะ) "นึก-คิด" เท่านั้น
อกุศลเกิด เราก็ตัดทิ้ง(เรียกละนันทิ) หากเป็นกุศลเกิดเราก็เจริญ หากเป็นอกุศลก็ตัดทิ้งใช้หลัก "สัมมัปปทาน4 ..หากเป็นอกุศล เราก็ดึงกลับมาที่กาย เราเรียกว่าการละ นันทิ ครับความเพลินติด ..วิญญาณ(ตัวรู้) จะเกาะที่กาย ตลอดเวลา ในชีวิตประจำวันเราก็ฝึกแบบนี้ละครับ แล้วสังเกตุนะครับ สมาธิก็จะเกิดง่ายเหตุเพราะ จิตเราเป็นกุศลมากกว่าอกุศล..จิตพร้อมจะตั้งใจมั่นหากกุศลครอบงำอยู่บ่อยๆตลอดเวลาก้ดียิ่งครับ จิตจับที่กาย กุศลจะหลั่งไหลเข้าสู่จิตตลอดเวลา นี่เป้น พุทธวจน ที่ไม่ขัดกับความจริงครับ

 

ดูคำตอบข้างต้นเลยครับ

 

พอคิดตัด สติก็เกิดแล้ว จะอ่อนจะแรงก็อยู่ที่ความเพียรมากหรือน้อย และจิตเรา เสพกุศลมากกว่าอกุศลรึไม่ครับ

 

ถ้าเรา นึกคิด กุศล อกุศล...วงจรจะเกิดทันที...งั้นเหรอ...(.นึกว่ามันเกิดอยู่แล้ว.วงจรน่ะ)น่ะ...อริยสัจสี่มันทำงานตรงไหนเหรอ

แล้ว ถ้า..เราไม่นึก ไม่คิดล่ะ ก็ไม่มีวงจรเกิดงั้นเหรอ..ถ้าเราหลับ วงจรก็ไม่เกิดงั้นเหรอ..อิอิ อริยสัจสี่ ก็จะไม่ทำงาน อย่างงั้นเหรอ

เหรอ....อิอิ..เข้ามาทะเลาะด้วยการคิดเอาเองนะเนี่ย...ค้นคว้าทำไม ไร้สาระ

 

ชอบตรงที่บอกว่าละนันทิ แล้วกุศลเกิดง่าย ยิ่งเกิดมากเท่าไหร่ยิ่งดี

 

ข้าพเจ้าปฏิบัติตามพุทธวจนแค่เรื่องหมวดทานและเดรัจฉานวิชา จับเอามาแค่บางแง่ที่ถูกจริต มันก้อช่วยขัดเกลาจิตใจได้เยอะ เช่นเรื่อง จาคสัมปทา ข้าพเจ้านำไปปฏิบัติตามแล้วมีความสุขมาก เพราะชอบทำทาน แต่เรื่องขันติกับโสรัจจะยังทำไม่ได้เท่าไหร่

 

สายลป.มั่นไม่ถูกกับจริตจขกท.หรอคะ

 

พี่จร เข้าใจถูกแล้วครับ วงจรปฏิจจฯล เขาเกิดอยู่แล้วตลอดเวลาเพราะจิตเกิด-ดับ ตลอดเวลาตามพุทธวจน ..แต่ เราจะตัดจิต..ไม่ให้เกิด-ดับ..เพื่อหนีสังสารวัฏฏ์ยังไงเล่าครับ เพื่อตัดวงจรปฏิจจสมุฯล ใหม่ๆนั่นเอง

 

ไม่ใช่ครับ..ผมฝึกมาหมดแล้วเลยศึกษาเปรียบเทียบ มันคนละแนวครับ หลวงปู่มั่นนั่นสาย สมาธินำ แต่พุทธวจน นี่สายปัญญา-สมาธิ จะมาพร้อมกันครับ

 

อนุโมทนาครับ

 

แต่ก็เกิดการเพลินติดเหมือนกันนะครับกุศลนี่.. ถึงจุดเราก็ต้องตัดให้ลง อุเบกขาเวทนาครับ ไม่งั้นเดี๋ยวติดสุข

 

เงียบทำไมล่ะ...

คนปกติ มันมีอวิชชา อยู่แล้วมิไช่เหรอ จึงมาเกิดอีก และการมีอวิชชา ก็หมายถึง มีขันธ์ครบ มีวงจรอยู่แล้วครบ....ทำไมต้อง รอให้นึกให้คิดล่ะ ถึงจะเกิดมีวงจร...

ที่เอามาถามเนี่ย คิดเอาเองล้วนๆนะ ไม่ได้อ่านตำราไหน ไม่ได้ค้นมาจากกูเกินไหน...มโนมานึกถาม เองแหล่ะ..ไม่อ้างพุทธวจนะ ด้วย..ไม่อยากเหมือน..จขกท

อิอิ

 

ปัญญามาพร้อมสมาธิคืออะไรคะ ข้าพเจ้าเคยปฏิบัติแต่ปัญญานำสมาธิ

 

นึกว่า จะไม่ตอบ....อะพิโธ่....เพื่อตัดวงจรใหม่ๆ...ไปตัดมันทำไมวงจรใหม่ๆ ก็พูดมาเองว่า ถ้าไม่นึกไม่คิด วงจรก็จะไม่เกิด..จะไปกระทำพิธีรีตองตัดมันเพื่ออะไรกันวงจรใหม่ๆที่ คิดเองนึกเอง....... ก็ไม่นึกไม่คิดก็ไม่เกิดวงจรแล้ว ..ว่าม๊ะ

อีกอย่าง ถ้าวงจรเก่า เขาเกิดอยู่แล้ว..แล้วทำไมไม่ไปพูด ค้นคว้า นึกคิด หาวิธีตัดวงจรเก่านั่นล่ะ...ผ่านเฉยมาทำไมกัน..พูดสิ ค้นคว้าสิ นึกคิดสิ...ที่จะตัดวงจรเก่าน่ะ

อิอิ หรือ ไม่รู้วิธี ทำไม่เป็น ยังไม่ค้นคว้า ยังไม่นึกยังไม่คิด งั้นเหรอ

 

อ้อติดธุระเพิ่งมาครับ..พี่จรนี่ไม่ยอมเข้าใจ การตัดวงจรปฏิจจฯล นั้นหากไม่มีสมาธิจิต กำลังจิตเราจะไม่พอตัด เราจะตัดมันแบบแผล็บๆแล้วเกิดใหม่ไปตลอดชีวิตไม่ได้..สมาธิสามารถกั้นราคะได้เจโตวิมุต วิปัสสนาจะทำลายอวิชชาให้เรา ไม่ต้องการมาเกิดอีก พจ.ท่านตัดวงจรวัฏฏะสงสารไม่มาเกิด-ไม่มีการเกิดของขันธ์5 อีก ด้วยการตัดวงจรปฏิจจฯวงนี้
จิต เกิด-ดับ ตลอดเวลาไปตลอดวัน-ตลอดปี-เราจะห้ามมิให้ผัสสะเกิดขึ้นแบบถาวรไมไ่ด้..หากจิตไม่มีสมาธิที่กำลังแรงพอ จิตเขาเกิดตลอดเวลา เกิด-ดับ เกิด-ดับ..เมื่อเราตายในชาตินี้ จิตที่เกิดใหม่ก็จะไปสร้างขันธ์5 ใหม่ตามที่จิต เกิด-ดับ และคุ้นชินกับการเกิด-ดับใหม่นั้นไปเรื่อย..(จิตไปเกาะที่ใด ภพก็เกิดที่นั่น ตัณหาราคะคือน้ำที่ย้อมติด ชาติการเกิดของขันธ์5..ชรา มรณะ ก็เกิดครบทันที ปรากฏทันที เราเรียกสังขตะธาตุเกิดปรากฏ ..(นิพพาน คือ อสังขตะธาตุเกิดแต่ไม่ปรากฏ)
เกิดทุกภพ ภูมิเช่นชอบ หมา -คน-เทวดา เวลาตายจิตก็จะไปสร้างขันธ์5บ้าง ขันธ์ 4 บ้าง ตามภพภูมิที่ตนเองเสพติดคุ้นชินเข้าใจรึยังครับ ทำเป็นทรงภูมิแต่ไม่รู้เขาเรียก เก๊ก เก๊กซิม อิอิ

 

ผมเขียนง่ายๆเหมือนกันครับ ปัญญาสร้างสมาธิ สมาธิอบรมปัญญาหรือ ปัญญาอบรมสมาธิ แค่บัญญัติศัพย์ครับเหมือนกัน
จะเห็นได้ชัดเจนว่า พุทธวจน จะสร้างสมาธิด้วยการละนันทิ เป็นหลัก..จะเรียกว่าใช้ปัญญานำก็ไม่ผิดครับ สาธุ
แต่สายหลวงปู่ จะตัด สุตตะ ปริยัติ ให้วางไว้เลยนำมาใช้ทีหลังเมื่อสมาธิเกิดก่อน แต่ศิลนำครับ ต้องบริสุทธิ์ หากไม่บริสุทธิ์เป็นเกิดเรื่องที่ต้องแก้อาการทางจิตแบบไม่รู้จบเลยครับ

 

ฝ่ายแดงแย็บซ้าย
ฝ่ายน้ำเงินตัดลำตัว
ฝ่ายแดงฮุคขวา
ฝ่ายน้ำเงินเจาะยาง
ไม่จบซักกระทู้
กระทู้ก่อนก็ค้างเติ่ง
มากระทู้ใหม่นี้อีกและ
จะตั้งทำไมกันมากมายเนี่ย
อ่านไปอ่านมาดูเหมือนจะมีคนเชื่อว่า พระคึกฤทธิ์ เป็นพระอรหันต์แฮะ
ถ้าจะบอกว่าโจมตีตัวบุคคล .......ไม่ได้โจมตีแค่กังขา
การภาวนาน่ะ มันมี สมาธิอบรมปัญญา ปัญญาอบรมสมาธิ สมาธิและปัญญาเกื้อหนุนกัน
จริงๆมันเป็นแค่ช่วงเวลาในการภาวนา ไม่ได้แบ่งว่าคนแบบนี้ต้องสมาธินำ คนแบบนี้ต้องปัญญานำ
ส่วนเรื่องนันทิน่ะ มันก็คือตัณหา3น่ะแหละ
ตัดยังไงหว่า ละยังไงหว่า ที่เถียงกันนี่สงสัยมีแต่อริยบุคคลขั้นสูงแหงเลย
นั่งบนภูต่อดีกว่า