ด่วน! เชิญร่วมอนุโมทนา และร่วมทริปงานบวงสรวงพระธาตุจอมกิตติ ,พระธาตุดอยตุง 29-30 พย.51

​

พอดีหญิงมีทริปด่วนมาแจ้งให้ทราบ คือทริปงานบวงสรวงพระธาตุจอมกิตติ อ.เชียงแสน และพระธาตุดอยตุง อ. แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ในวันเสาร์ที่ ๒๙ และวันอาทิตย์ที่ ๓๐ พย. ตามลำดับ ที่หญิงและคณะฯ จะเดินทางไป เดิมทีจัดเป็นรถตู้ VIP จำนวน ๑๐ ที่นั่งและเต็มหมดทั้ง ๑๐ ที่นั่ง แต่เนื่องจากมีกระแสข่าวเรื่องการปฎิวัติทำให้สมาชิกขอยกเลิกการเดินทางไปส่วนหนึ่ง ทำใ้ห้ตอนนี้มีที่นั่งว่างจำนวน ๔ ที่นั่ง หญิงเลยขออนุญาตนำมาวางให้ญาติธรรมที่สนใจจะร่วมเดินทางไปด้วยกันได้อ่านและท่านที่ไม่ได้ไปได้อนุโมทนาบุญร่วมกัน โดยมีหมายกำหนดการ ดังนี้

วันศุกร์ที่ ๒๘ พย.๕๑
๑๗.๓๐ น. จุดนัดพบ หน้า รร.หอวัง ฝั่งเซ็นทรัล
๑๘.๐๐ น. ออกเดินทาง

วันเสาร์ที่ ๒๙ พย.๕๑
๐๖.๐๐ น. เดินทางถึง จ.เชียงราย แวะสักการะวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ิ์ใน อ.เมือง อาทิ อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช , วัดพระแก้ว, วัดพระธาตุดอยจอมทอง และวัดร่องขุน (ถ้ามีเวลาพอ) ออกเิดินทางต่อไป อ.เชียงแสน แวะสักการะวัดพระธาตุเจดีย์หลวง , วัดสังฆาแก้วดอนหัน

๑๔.๐๐ น. เดินทางถึงวัดพระธาตุกิตติ พักผ่อนตามอัธยาศัย
๑๖.๐๐ น. ร่วมพิธีบวงสรวง
๑๗.๓๐ น. เดินทางไปวัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่้ฟ้าหลวง พักค้างแรมที่วัดพระน้อยดอยตุง

วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พย.๕๑
๐๔.๐๐ น. ตื่นทำธุระส่วนตัว
๐๕.๐๐ น. เดินขึ้นพระธาตุดอยดุง ระยะทางประมาณ 1 กม. ร่วมพิธีบวงสรวง
๐๘.๐๐ น. เตรียมตัวเดินทางกลับ ระหว่างทางแวะสักการะรอยพระพุทธบาท ๔ รอย ที่ อ. แม่ริม จ.เชียงใหม่ และสักการะพระพุทธชินราช ที่ จ.พิษณุโลก
๒๒.๐๐ น. ถึง กท.โดยสวัสดิภาพ

ค่าใช้จ่ายประมาณคนละ ๑,๕๐๐ บาท (หญิงจะคิดหารค่าใช้จ่ายเท่ากันตามจริงจากจำนวนคนที่ร่วมเดินทาง อาจจะน้อยลงถ้าจำนวนสมาชิกเต็มทุกที่นั่ง)

หมายเหตุ
- ให้เตรียมเสื้อสีชมพูสำหรับสวมใส่วันเสาร์ และเสื้อสีแดงสำหรับวันอาทิตย์ (เฉพาะเสื้อสีแดงให้สวมใส่เฉพาะร่วมทำพิธีบวงสรวงที่วัดพระธาตุดอยตุงเท่านั้น)
- สำหรับท่านที่สนใจร่วมเดินทาง ให้ติดต่อหญิงได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑-๗๓๕๙๒๖๑
- ขออนุโมทนา กับญาติธรรมที่ได้ฝากเงินร่วมทำบุญ ดังรายนามดังต่อไปนี้

1. กระบือน้อย จำนวน ๒๐๐ บาท
2. LittleNon จำนวน ๖๐๐ บาท

 

ขออนุโมทนากับทุกท่านค่ะ

ณ.ตอนนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางรวมเป็นจำนวน ๘ ท่านแล้ว ยังรับได้อีก ๒ ท่าน แต่ถ้าไม่เต็มก็ไม่เป็นไร เพราะใจของญาติธรรมที่จะร่วมไปกันนั้นเกินร้อย หญิงมีเกร็ดเล็กๆ สนุกๆ ก่อนการเดินทางที่อยากจะเล่าให้ทุกคนฟังกันสักนิด

งานพิธีบวงสรวงนี้ หญิงได้รับทราบมาจากคุณเตียงว่ามีพี่ๆ ญาติธรรมทางบ้านตลิ่งชันของหลวงพี่สมปองเป็นคนจัดรถไป โดยได้จัดกันไปทั้งหมด ๑๕ คันรถตู้ คิดค่าใช้จ่ายกันคนละ ๑,๕๐๐ บาท แต่ปรากฎว่าเต็มในเวลาอันรวดเร็ว และออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืดของวันนี้ ที่เหลืออีกหลายคนจะเป็นคนทำงานที่ติดปัญหาลางานไม่ได้ก็จะเป็นรถตู้ของหลวงพี่ยุคลธรณ์ของวัดปทุมวนารามที่จะออกเดินทางในเวลา ๑๙.๐๐ น.เป็นคันสุดท้าย เรียกว่าคัน "เก็บตก" ซึ่งหญิงและคณะฯ ก็อยู่ในรถคันนี้ด้วย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คุณโยได้โทรมาเล่าให้หญิงฟังว่าญาติธรรมหลายท่านในแต่ละคันรถมีอาการป่วยมากมาย ลดหลั่นกันไปตามอาการ ไม่เว้นแม้แต่คุณโยที่อยู่ๆ ก็่มีอาการเจ็บขาจนเดินเกือบไม่ได้ หลวงพี่สมปองท่านได้บอกว่า ให้ทุกคนที่จะไปร่วมพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ไปปล่อยปลากันเสีย เพราะบุญที่ทำเป็นบุญใหญ่ทำให้ต้องมีอุปสรรคมาขวาง
แต่หญิงรับฟังก็นึกในใจว่า ตัวเองโชคดีที่ไม่เกิดอาการอะไรกับใครเขาเลย ส่วนคุณโยพอปล่อยปลาแล้วอาการก็หายอย่างน่าอัศจรรย์

พอมาเย็นของวันพฤหัสบดี คุณโยโทรมาหาหญิงว่าหลวงพี่ยุคลธรณ์อาพาธด้วยโรคปัจจุบันทันด่วน อาจจะไปไม่ได้ หลวงพี่ท่านบอกว่าให้รอดูอาการจนวินาทีสุดท้าย คือ ๑๘.๐๐ น.ของวันศุกร์ ถ้าไปไม่ได้ทุกคนต้องไปกันเอง ที่นี้ จิตตกสนิทกันเป็นแถวๆ นึกในใจว่า เอาแล้วนี่ล่ะอุปสรรคใหญ่เลยทีเดียวเชียว ทุกคนจัดแจงมองหาลู่ทางกันทันที ตกลงกันว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ ไม่มีรถไปก็ต้องไปทัวร์ คุณเตียงชวนทุกคนร่วมเดินทางไปด้วยกันโดยรถคุณอา (ศัย) โบก แต่หญิงมาคิดดูแล้ว ระยะทางไกลมากเกือบพันกิโล กว่าจะโบกถึงคงทรหดกันน่าดู เลยให้คุณเตียงเธอไปล่วงหน้ากับน้องชลอีก ๑ คน ที่เหลือสมัครใจรถทัวร์ แต่พอเช็คเวลารถและราคา ปรากฎว่า มีรถไปถึงแค่ อ.เชียงแสน และออกจาก กท.เที่ยวเดียวคือเวลา ๑๕.๓๐ เป็นรถทัวร์ชั้น ๒ อีกต่างหาก ค่ารถก็ไป-กลับตกคนละ ๑,๐๐๐ บาท แถมไปไม่ถึงต้องไปต่อรถท้องถิ่นเพื่อเดินทางต่อไปที่วัดกันอีก ด้วยความที่กลัวว่าจะไปไม่ทันพิธีร่วมบวงสรวง เท่านั้นล่ะ คิดถึงรถตู้กันขึ้นมาเลยเชียว รวมตัวกันได้เบิ้องต้น ๕ คนเพราะคุณเตียงแยกไปกับน้องชลเสียแล้ว ๒ คน ตัดสินใจเอาไงเอากัน แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ในเมื่อต้องไปรถตู้แล้วที่นั่งเหลือ หญิงเลยตัิดสินโทรและส่ง PM แจ้งเพื่อนๆ ญาติธรรมทั้งหลายจนรวมตัวกันครบในที่สุด แต่ก็มาเจออุปสรรคเมื่อวานตอนเย็น ที่อยู่ๆ รถตู้ที่ติดต่อไว้ก็งอแง อ้างเรื่องการปฎิวัติถ้าไปต้องเป็นอีกคันและต้องอีกราคาหนึ่ง ส่วนญาติธรรมบางท่านก็ไม่สบายปัจจุบันทันด่วนก็โทรมาขอยกเลิกรวมจำนวน ๔ ท่าน ที่นี้เรื่องญาติธรรมนั้นยังรอได้ แต่เรื่องหารถใหม่นี่ซิวุ่นเลย โทรไปติดต่อที่ไหน ก็บอกว่ารถไม่ว่าง มีอยู่ที่หนึ่งบอกว่าของเขามีรถอยู่ในความดูแล ๔๐ คัน พอทราบว่าหญิงจะไปงานนี้ก็บอกว่าของเขาก็ถูกจ้างไปงานนี้หมด ใจก็คิดว่า แย่แล้ว อยากจะไปตู้ก็อดกันอีกแล้ว แหม ทดสอบกำลังใจหนักดีจริงๆ เลย คิดถึงพี่คณานันท์แห่งชมรมภัยพิบัติฯ ขึ้นมาได้ รีบโทรหาบอกหญิงกำลังเดือดร้อน ขอความช่วยเหลือเรื่องรถหน่อย พี่คณานันท์ก็ดีใจหาย รีบให้เบอร์ติดต่อและอนุญาตให้อ้างชื่อได้เต็มที จนในที่สุด หญิงก็ได้รถตู้มาใหม่แทนที่รถตู้เดิมทันตามกำหนดทุกประการ รีบโทรไปขอบคุณพี่คณานันท์และอดใจไม่ได้ที่จะต้องขออนุญาตนำเรื่องเล่าเกร็ดเล็กๆ มาโพสเล่าสู่กันฟัง ไว้เดินทางกลับมาหญิงขออนุญาตนำบุญมาฝากพร้อมภาพและเล่าเรื่องระหว่างเดินทางสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่งค่ะ

 

​

เอาบุญมาฝากและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

ทริปนี้อย่างที่เล่าให้ฟังไปแล้วว่า จัดขึ้นแบบกระทันหันมาก แต่ก็สำเร็จลุล่วงลงด้วยดี โดยมีสมาชิกร่วมเดินทางไปทั้งหมดจำนวน ๘ ท่านดังนี้ หญิง , พี่ษา , พี่กร , พี่พล , เบญ, กฤศ , อ้ำ และศาล (ช่างภาพประจำคณะ) ทุกคนพร้อมกันที่หน้า รร.หอวัง ล้อหมุนเอาเวลา ๑๘.๐๐ น. ตามหมายกำหนดการทุกประการ จุดพักแรกคือ ร้านข้าวต้มผักบุ้งลอยฟ้าริมแม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก หลังจากเติมพลังกันอิ่มดีแล้ว ก็ออกเดินทางต่อไป จ.พะเยา เพราะคณะของบ้านตลิ่งชันได้ไปจอดพักผ่อนกันที่วัดอนาลโยแล้ว

เดินทางถึงวัดอนาลโยประมาณ ๐๔.๐๐ น.ของวันเสาร์ เข้าที่พักได้ก็หลับกันอย่างสบาย เพราะที่พักเป็นบ้านที่จัดอย่างสวยงามน้องๆ รีสอร์ท (ดังรูปประกอบ) ตื่นมาประมาณ ๐๖.๐๐ น.ชมความงามของทะเลหมอกเหนือกว๊านพะเยาและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และร่วมทำบุญชำระหนี้สงฆ์ ภายในวัดเรียบร้อยคณะของหญิงก็ขอแยกจากคณะบ้านตลิ่งชัน แล้วก็ออกเดินทางต่อไป จ. เชียงราย โดยแวะไหว้พระที่วัดร่องขุน อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย วัดพระแก้ว วัดพระธาตุดอยจอมทอง เสร็จแล้วเดินทางต่อไป อ.เชียงแสน แวะสักการะวัดพระธาตุเจดีย์หลวง แวะทานอาหารกลางวันกันที่ร้านในตลาดเชียงแสนแล้วก็เดินทางต่อไปที่วัดพระธาตุจอมกิตติ เพื่อร่วมพิธีบวงสรวง ถึงวัดในเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. ตรงตามที่คำนวณเวลาไว้ทุกประการ

พิธีบวงสรวงเริ่มเวลา ๑๖.๐๐ น. โดยหลวงพี่สมปอง (บ้านตลิ่งชัน) แห่งวัดท่าซุงเป็นผู้สวดนำในพิธี พิธีการเต็มไปด้วยความสงบและศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนที่ไปต่างส่งกำลังใจและรวมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เสร็จจากพิธี ทุกคณะต่างแยกย้ายกันออกเดินทางต่อไปวัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง แต่คณะของหญิงเลยไปสักการะพระธาตุที่วัดพระธาตุผาเงา เสร็จแล้วเดินทางต่อไปวัดน้อยดอยตุง ไปถึงวัดเวลาโดยประมาณ ๑๙.๐๐ น. ตกใจมากเพราะคาราวานรถตู้นับร้อยคันจอดเต็มลานจอดรถไปหมด ศาลาที่พักที่ทางวัดเตรียมไว้จำนวน ๒ หลังใหญ่ ไม่เพียงพอ ต้องเปิดศาลาใหม่เพิ่มอีก ๑ หลัง คณะของหญิงเข้าที่พักกันเรียบร้อยต่างนั่งล้อมวงทานอาหารกล่องที่ซื้อกันไปอย่างเอร็ดอร่อยท่ามกลางอากาศหนาวเย็น คืนนั้นทราบว่ามีสมาชิกสมัครใจอาบน้ำกันแค่ไม่กี่คนเพราะอากาศหนาว อุณหภูมิอยู่ที่ 3 องศา

ตื่นเช้าเวลา ๐๔.๐๐ น.ทุกคนสมัครใจแค่ล้างหน้าแปรงฟัน เพราะน้ำเย็นจัดยังกับพึ่งเทออกมาจากตู้เย็นใหม่ๆ เมื่อรวมตัวกันพร้อมประมาณ ๐๔.๓๐ น. ทุกคนแต่ละคณะต่างก็ทะยอยเดินไปตามถนนลาดยางขึ้นเขาระยะทาง ๑ กม.กันอย่างเงียบๆ อากาศเย็นแบบสบายๆ เรียกว่าเดินกันจนเริ่มร้อนเพราะไม่มีลม ต่อจากนั้นก็เดินขึ้นบันไดต่อไปอีกประมาณ ๑๐๐ กว่าขั้นแต่พอเดินถึงขึ้นบันไดขั้นสุดท้าย ก้าวเข้าสู่ลานพระธาตุ ลมก็พัดมาต้อนรับวูบใหญ่ ปิติกันมาก แต่พอถามคณะต่างๆ ที่เดินทางมาถึง ทุกคนก็บอกเหมือนกันว่า ตอนเดินไม่มีลม แต่พอขึ้นมาพ้น มีลมเย็นพัดมาต้อนรับให้คลายร้อนกันแทบทุกคณะ

พิธีบวงสรวงเริ่มเวลา ๐๕.๓๐ น. พิธีการสงบและศักดิ์สิทธิ์เหมือนเช่นเคย ที่น่าแปลกอย่างหนึ่งคือ ขณะที่หลวงพี่สมปองท่านทำพิธี ไม่มีลมเลยแม้แต่นิด บรรยากาศเงียบสงบ พอท่านนำสวดในแต่ละบทจบ ลมก็จะพัดกรรโชกมาแบบรับรู้ทีหนึ่ง แต่ตอนที่ลมสงบกลับมีเสียงระฆังกับเสียงช่อฟ้าใบระกาดังมาเบาๆ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่มีลมพัดเลย เหมือนเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมาร่วมพิธีและร่วมรับรู้ตลอด

เสร็จจากพิธี คณะของหญิงแยกตัวออกมาแวะพักทานอาหารเช้ากันที่ อ.แม่ฟ้าหลวง และเดินทางต่อไปที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาท ๔ รอย ตามที่ตั้งใจกันมานาน ระยะทางไกลมากเป็นทางแคบๆ รถสวนกันแทบไม่พ้น ขึ้นเขาลดเลี้ยวเคี้ยวคดวนเวียนเหมือนงูกินหางไปมาตลอด หญิงเกิดอาการเมารถทั้งๆ ที่ไม่เคยเมาด้วยความตั้งใจแรงกล้าสามารถอดกลั้นได้อย่างดี แต่พอมาถึงวัดลงจากรถได้ก็อาเจียนจนไม่เหลือ

ไหว้พระธาตุ ร่วมกันสักการะรอยพระพุทธบาท และทำบุญกับทางวัดพร้อมทั้งทานอาหารกลางวันเสร็จ คณะออกเดินทางต่อมาที่ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก มากราบนมัสการหลวงพ่อสมบูรณ์แห่งวัดป่าสมบูรณ์ธรรม พร้อมทั้งร่วมถวายปัจจัยและสิ่งของที่ชาวคณะร่วมแรงร่วมใจกันซื้อถวาย ออกเดินทางจากวัดแวะพักทานข้าวเย็นแต่เป็นมื้อดึกของพวกเราทุกคนกันที่ร้านข้าวต้มร้านเดิม และเดินทางต่อกลับถึง กท.โดยสวัสดิภาพเอาเวลา ๐๓.๐๐ น.ของเช้าวันจันทร์

ทริปนี้ชาวคณะเลยอิ่มกันทั้งกายและใจ อิ่มบุญอิ่มท้องกันมาถ้วนหน้า ส่วนรูปภาพเนื่องจากตอนนี้เว็บมีปัญหาเรื่องการแนบไฟล์ภาพทำให้ลงภาพได้ยาก ไว้มีเวลาหญิงจะรีบนำรูปมาลงให้ดูกันค่ะ

 

น่าอิจฉามากๆเลยครับคุณหญิง ^^"

ผมไม่มีโอกาศได้ไป ต้องขออนุโมทนาด้วยนะครับ