ตรวจเลือดหาว่าติดเชื้อเอดส์ ควรถือเกณฑ์3เดือนถูกต้องไหม

จากประสบการณ์การทำงานในคลินิกตรวจเลือดนาน10ปี
ของตัวผม ผมมักจะพบปัญหาของผู้ที่มีความทุกข์ใจ
เนื่องจากเคยไปเสี่ยงติดโรคเอดส์มา

ตามเกณฑ์ที่ผมคิดว่าสมควรเป็นมาตรฐานคือ
-ตรวจเลือดหาภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสเอชไอวี เมื่อเสี่ยง
มานาน 3เดือน หรือ 90 วันครับ
ไม่ได้ถือเกณฑ์นาน6เดือน

ผมจะอธิบายให้ฟังครับ บ่อยครั้งที่ผมต้องยอมเสียเวลา
กับลูกค้าที่ไม่สบายใจมาก เนื่องจากเสี่ยงครบ90วันแล้ว
เมื่อมาตรวจเลือดดังกล่าว เป็นผลลบ(Negative result)
แต่ลูกค้ายังคงกลุ้มใจอยู่ เพราะไปอ่านนิตยสาร หรือเน๊ต
มา เขาว่านาน 6เดือนครับ

กรรมของคุณจริงๆ และก็ส่งผลมาถึงผมอีกต้องนั่งอธิบาย
จนลูกค้าท่านนั้นเชื่อผม และเดินยิ้มกลับบ้านไปว่าเกณฑ์
ที่มาตรฐานที่สุดต้อง ถือเกณฑ์ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
ครับ ซึ่งกำหนดเวลาไว้ที่3เดือน

เกณฑ์ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ มีผลเป็นมาตรฐานครับ
สามารถดูได้จากข่าวทางหน้าหนังสือพิม์ ท่านคงเห็นว่าไม่มี
ท่านผู้รับเลือดจำนวนมากมาย ออกมาฟ้อง ร.พ.ว่าให้เลือดแก่
ตนเอง แล้วทำให้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี จริงไหมครับ

ในประสบการณ์ด้านนี้ ผมเจอเรื่องแปลกๆบ่อยเหมือนกัน
เช่น สามีเป็นเอดส์ ภรรยาอยู่ด้วยกันมานาน3ปี ตกใจมา
ขอตรวจเลือดทั้ง2คน ผลพบว่า สามีเป็นผลบวก แต่โทษที
ภรรยาเป็นผลลบครับ

และอีกกรณี เมียเป็นผลบวก สามีอยู่ด้วยกันนาน2ปี เป็นผลลบ
ครับ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ

ผมเปิดคลินิกมานาน10ปี เจอเหตุการณ์เช่นนี้นับสิบคู่เชียว
คุณเชื่อผมไหมครับ ว่าผมเจอเรื่องแบบนี้

อยากให้ท่านผู้อ่านกรุณานำไปแนะนำคนรอบตัวครับว่า
เกณฑ์ปลอดภัยคือ3เดือนหลังจากเสี่ยงฯมา
อย่าไปถือเกณฑ์6เดือน ผมยอมรับไม่ได้ครับ

หมายเหตุ วิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวีโดยตรงก็มีครับ
แต่เชื้อไวรัส จะไม่ค่อยออกมาในกระแสเลือดมากจึงไม่นิยม
ตรวจหาเชื้อไวรัสโดยตรง แต่ผู้ที่ติดเชื้อจะสร้างภูมิให้ตรวจ
เจอคือ anti-HIV positive

 

สารบัญความรู้ จากวสุธรรม

http://palungjit.org/threads/รับปรึกษาปัญหาเรื่องตรวจเลือดและส่งเสริมสุขภาพฟรี.220805/
http://palungjit.org/threads/รักษาโรคมึนหัว-อ่อนเพลีย-เป็นประจำ-หายด่วน-แต่ไม่หายขาด.217163/
http://palungjit.org/threads/ปราบโรคไข้เลือดออกและโรคชิคุนกุนยาได้แล้ว.220002/
http://palungjit.org/threads/คุณมีสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค-ใช้กันหรือยัง-เชิญชมที่นี่.219564/

http://palungjit.org/threads/สตอเบอ...ากนิมิตรหลวงปู่โลกอุดร-โดย-เรืองตะวัน.219195/

 

ตอบคำถามที่ส่งอีเมลล์มาถาม

พอดีมีผู้อ่านสนใจสอบถามมาทางอีเมลล์ ผมจึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ครับ
โดยไม่เอ่นนามผู้ถาม

ถาม HIV จากการทำทันตกรรมมีจริงไหมคะ
ตอบ ถ้าเป็นในเมืองตามคลินิกหรือหน่วยงานด้านสาธารณสุข จะระวังมากในเรื่องนี้
ส่วนใหญ่วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้กับผู้ป่วย จะใช้แบบใช้ครั้งเดียว
หรือจะอบฆ่าเชื้อแล้วทั้งสิ้น จึงไม่น่าเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นครับ
เว้นแต่ เกิดจากหน่วยงานที่มีผู้ใช้บริการมากๆ อาจพลั้งเผลอนำเครื่องมือที่ใช้แล้ว
มาใช้ซ้ำโดยไม่ได้ผ่านการทำลายเชื้อ ก็จะเกิดการแพร่เชื้อได้ครับ

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย คุณควรสอบถามผู้ให้บริการ ก่อนการใช้บริการ
ว่าได้ทำความสะอาดอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วไหม ก็จะป้องกันเหตุดังกล่าวได้ครับ

ถาม การตรวจเชื้อHIV ที่3เดือนแล้วไม่เจอแล้วมีคนเคยตรวจเจอหลัง 3 เดือนไหมคะ ขอบคุณค่ะ
ตอบ ไม่เคยพบเลยครับ แต่จะสามารถพบได้ในคนที่ร่างกายไม่สมบูรณ์มาก เช่น คนที่ยากจนมากไม่ได้รับประทานอาหารหมู่โปรตีน(เนื้อสัตว์,นม,ถั่วและ
ไข่)เลย เนื่องจากระบบภูมิต้านทานจะทำงานได้โดยเราต้องทานอาหารหมู่
โปรตีนเสมอ เมื่อร่างกายขาดสารโปรตีน จึงไม่สามารถพัฒนาสร้างสารภูมิต้าน
ทานได้ จึงอาจใช้เวลาในการพัฒนานานกว่า 3 เดือน

ปัจจุบันในเมืองไทยไม่มีผู้ป่วยที่ภาวะดังกล่าว จึงไม่เคยพบครับ
วสุธรรม

 

ตอบคำถามที่ส่งอีเมลล์มาถาม2

ถาม
บังเอิญแฟนเคยมีแฟนมาก่อนน่ะค่ะ ละเค้าค่อนข้างเจ้าชู้เลยไปตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ผลออกเป็นดังนี้ค่ะ Anti-Hiv : (Non-reactive by IC) โดยเค้าอธิบายวิธีการตรวจ IC = Immunochromatographic Method ละมาดูผ่านเวปหลายๆๆเวปเค้าบอกว่าเป็นการตรวจแบบเร็ว ผิดพลาดได้ ตรวจที่รพ.เอกชนแถวบ้านอ่าค่ะ สอบถามนิดนึงอ่าค่ะว่าวิธีการตรวจที่ดิฉันและแฟนตรวจมานี่เชื่อถือได้แค่ไหนคะต้องตรวจใหม่มะคะ

ตอบ
หมายถึง ผลเลือดเป็นปกติครับ มาตรฐานเชื่อถือได้ครับ
โดยต้องพิจารณาภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อฯประกอบด้วย
ว่าใน ระหว่าง3เดือนย้อนหลังไป แฟนคุณได้ไปเสี่ยงอีกไหมครับ
ถ้าไม่ได้ไปเสี่ยงมาเลย ก็สบายใจได้ครับว่าไม่มีปัญหา

วิธีดังกล่าวถ้าเสี่ยงมานาน45วันก็จะตรวจพบเป็นผลบวกแล้ว
วิธีที่มีความไวในการตรวจฯ มากๆจะพบ ผลบวกปลอมได้

สรุปว่าถ้าผลเป็นดังกล่าว ก็สบายใจได้ครับ
วสุธรรม
ถาม
ขอบคุณมากค่ะ อย่างนี้แสดงว่าดิฉันกับสามีไม่จำเป็นต้องไปตรวจใหม่แล้วใช่ไหมคะหากภายใน3เดือนไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงการตรวจครั้งนั้นก็เชื่อถือได้ แล้ววิธีที่กล่าวมานี้ที่แจ้งมาว่า วิธีที่มีความไวในการตรวจฯ มากๆจะพบ ผลบวกปลอมได้ แล้วลบปลอมมีมะคะ
ตอบ
วิธีIC เป็นวิธีเดียวกันกับการทดสอบการตั้งครรภ์น่ะครับ
จากประสบการณ์ ไม่เคยตรวจพบลบปลอมในการทดสอบการตั้งครรภ์ครับ
คือหญิงคนไหนที่เพิ่งตั้งครรภ์ได้นานประมาณ 14วันก็จะตรวจพบเป็นผลบวกแล้ว
ผมไม่เคยเจอลูกค้าหญิงมาตรวจทดสอบการตั้งครรภ์โดยวิธีICเป็นผลลบ
แล้วกลับมาต่อว่าผม ว่ามีผลลบปลอมเลยครับ

การตรวจanti-HIVก็เช่นกันครับ
ถ้าคุณไม่สบายใจ ก็ควรนับเวลาจากตรวจครั้งที่1ให้ครบ3เดือน
แล้วไปตรวจอีกครั้งก็ได้ครับ

แต่ในความเห็นของผมคิดว่าคุณน่าจะสบายใจได้ครับ
วสุธรรม<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ถาม
Sensivity 100.00/Specificity 99.98ตรงนี้คืออะไรอ่าคะ รบกวนอีกนิดนึงค่ะขอบคุณมากค่ะ
ตอบ
ยินดีครับ สงสัยอะไรถามได้ครับ
sensitivity 100 =ความไวในการตรวจวิเคราะห์ ตรวจ100ราย พบ100ราย ไม่พบ0ราย
specificity99.98=ความจำเพาะต่อการตรวจวิเคราะห์ /ตรวจ10000ราย ให้ผลถูกตรงความจริง9998ราย ให้ผลผิดไม่ตรงฯ2ราย
วสุธรรม
ถาม
อีกนิดนึงนะคะประเด็นสุดท้ายหลังจากอ่านผ่านเวปไซด์แล้วมีข้อสงสัยจะถาม การตรวจแบบECLIAกะIC มันเหมือนหรือต่างกันอย่างไงคะ
ตอบ
การตรวจวิธีECLIA(Enzyme chemiluminesence immuno assay)
เป็นวิธีที่ใช้เครื่องตรวจอัตโนมัติมีเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ
เนื่องจากเครื่องตรวจจะแพงมากๆ หลายล้านบาท
มีความไวในการตรวจสูงมาก ความจำเพาะก็สูงและค่าตรวจก็แพง
เพราะเทคโนโลยี่ของฝรั่ง(ภูมิปัญญา)สูงมาก
คนไทยผลิตไม่ได้ ผมไม่ค่อยสนใจเพราะแพงแบบOver

การตรวจวิธีIC(Immunochromatographic)
เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้เครื่องตรวจ แต่ก็ทำงานได้ตามจุดม่งหมายเดียวกัน
คนไทยผลิตได้<o></o>
ผลงานที่ได้ออกมา ก็ไม่ต่างกันมากครับ
เช่น
กรณีตรวจanti-HIV= reactive
anti-HIV(ECLIA)=reactive
anti-HIV(IC)=reactive

ที่คลินิกผมมักจะมีลูกค้าที่ตรวจมาจากโรงพยาบาลใหญ่ ว่า รพ.แจ้งว่า
ผลเลือดเป็นแบบอ่อนๆ (ผลบวกปลอม)มาปรึกษาด้วยความไม่สบายใจ
ว่าไม่เคยไปเสี่ยงใดๆเลย เพียงเจ็บป่วยบ่อยในระหว่างนี้
ซึ่งทางร.พ.นัดตรวจเลือดซ้ำในอีก1เดือนต่อไป เพื่อให้แน่ใจ
หลังจากนั้นเมื่อถึงเวลาไปตรวจซ้ำอีก ก็ได้ผลแบบเก่าอีก
ทั้งๆที่ถ้ามีความไวที่ถูกต้องก็ควรเป็น
ครั้งที่1 ผลเลือดเป็นแบบอ่อนๆ
ครั้งที่2(1เดือนต่อมา ผลควรแรงขึ้น) ผลเลือดก็เป็นแบบอ่อนๆอีก

ซึ่งผลก็ทราบอยูในใจนานแล้ว เนื่องจากเคยทำงานในแผนกนี้ มักพบผลแบบนี้
คือในกรณีผลบวก จะได้แบบอ่อนๆ กับแบบแรงปกติ

ตั้งแต่นั้นมาผมก็เลิกสนใจเทคโนโลยี่(เพื่อหลอกดูดเงินคนไทย)

ตัวอย่างเช่น เปรียบเทียบเหมือนกับ การนำทาง เวลาเราจะไปไหนเรามักดูจากแผนที่
หรือโทรถามทาง แต่ปัจจุบัน มีระบบGPS นำทางนั่นแหละ

สรุป ถ้าคุณอยากตรวจโดยวิธีECLIA เพื่อความสบายใจก็ดีครับ

<o></o>

 

มาเพิ่มพลังให้แก่กระทู้ครับ

 

เร็วขึ้นแบบนี้ก้อสร้างความสบายใจให้คนไปได้ล่วงหน้าสามเดือนเนอะพี่สวุธรรม
:z1
ไม่ต้องรอหกเดือนแล้วค่อยตรวจเนอะ

 

เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่3เดือนครับ
อ้างอิงตามคุณสมบัติผู้บริจาคเลือด
หากต้องรอระยะเสี่ยงถึง6เดือน ผลจึงจะแน่นอนจริงแล้ว
ก็แสดงว่าเกณฑ์การคัดกรองผู้ให้เลือดไม่ได้มาตรฐาน
ในปัจจุบันควรมีผู้ติดเชื้อไวรัสHIV1,2จำนวนมากมายเกิดขึ้น
จากการได้รับเลือดที่ไม่ปลอดภัย(เพราะยังไม่ครบ6เดือน)

แต่ในปัจจุบันผมไม่เห็นมีผู้รับเลือด ออกมาประกาศตนว่าติดเชื้อ
ไวรัสHIV1,2จากการให้เลือดเลย ซึ่งแสดงว่าระยะเวลาเสี่ยงนาน
3เดือนนั้นมีมาตรฐานเพียงพอครับ

ใครที่ไปให้ความรู้แก่คนอื่นว่าต้องครบ6เดือน จึงจะแน่นอนนั้น
ผมอยากเรียนให้ท่านทราบว่าท่านกำลังทำบาป ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
เพิ่มอีก3เดือน ผลกรรมนั้นจะตกสู่ท่านในกาลอนาคตแน่นอน

 

สอบถามหน่อยครับ

1 . เนื่องด้วยผมเสี่ยงมาวันที่ 4 มี.ค.54 โดยไม่ใช้ถุงยาง และผมได้ไปตรวจเลือดวันที่ 14 พ.ค.54 ผลออกมาปกติ ครับ แล้วก็ไปตรวจ anty-hiv วันที่ 13 ก.ย.54 ผลก็ปกติครับ แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจจึงไปตรวจอีกทีวันที่ 23 พ.ย.54 ที่ผ่านมาผลก็ปกติครับ ผมปลอดภัยยังครับ แต่ผมไม่มีความเสี่ยงเพิ่มนะครับ

2. ถ้ารับเชื้อมาจริงกี่สัปดาห์ถึงตรวจเจอครับ

 

90วันหรือ3เดือน
หากตรวจเลือดหาภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสเอชไอวี1,2เป็นผลลบ
คือปลอดภัยครับ
เกณฑ์3เดือนนี้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติใช้เป็นเกณฑ์สำหรับการคัดเลือกโลหิตที่ปลอดภัยให้กับผู้รับโลหิตและผลิตภัณฑ์จากโลหิตครับ อย่าคิดมากครับ ถึงเกณฑ์มาตรฐานแล้วตรวจเลือด หากปกติก็ปล่อยวาง เลิกสนใจครับ

 

ขอบคุนมากนะครับที่ให้ความกระจ่างไม่งั้นผมเก็บมาคิดทั้งวันทั้งคืนแน่ ยิ่งดูในเน็ตก็ยิ่งเครียดเพราะเค้าบอกว่า เชื้อหลบในบ้าง ตรวจหกเดือนเจอบ้าง แต่เคสผม ตรวจตอน 6 เดือน กับ 8 เดือน ผลปกติ ผมก็ดีใจแล้วผมอาจเสพข่าวมากเกินไปก็เลยเก็บมาคิด สุดท้ายปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ข้อให้พี่ วสุธรรม มีความสุขมากๆ
อย่าเจ็บ อย่าจนนะครับ ขอให้เจริญยิ่งๆขึ้นไป

 

รับรกษาโรคเอดส์ให้หายขาด สนใจติดต่อ
เบอร์โทรศัพท์ 0852976153 และเบอร์ 0831508205

 

ไม่ถูกครับ
เพราะความจริงมีคนที่ตรวจพบหลัง 3 เดือนจริงๆ แต่พบน้อย และตรวจเจอตอน 1 ปีก็ยังมีครับ ดังนั้นถ้ามาตรฐานเขาให้ตรวจ 6 เดือน ก็ตรวจ 6เดือน ไปเถอะครับ เขาวิจัยมาแล้ว

เพราะสิ่งที่เราต้องการคือความมั่นใจว่าโอกาสที่จะติดเอดส์น้อยมากหรือไม่เป็นเลยถ้าผลตรวจเป็นลบครับ

ส่วนสภากาชาดเขาไม่ได้ตรวจ anti HIV อย่างเดียวนี่ครับ เขาตรวจ antigen ด้วย

 

ก่อนอื่นต้องขอปรบมือให้คุณนักวิชาการksriutaที่กล้าแสดงตัวออกมาให้ความเห็นแบบนี้ ก็สุดแท้แต่ผู้อ่านว่าจะเชื่อถือใคร

ผมแสดงความเห็นที่ได้มาจากการทำงานสิบกว่าปีในคลินิกแลบส่วนตัว ก่อนมาเปิดคลินิกผมทำงานอยู่งานธนาคารเลือด ทำหน้าที่ตรวจเลือดผู้บริจาคเลือดก่อนนำไปให้ผู้รับเลือด ซึ่งเป็นดั่งที่คุณว่ามา คือตรวจหาแอนติบอดีย์และแอนติเจนต่อไวรัสเอชไอวี ผมรับผิดชอบงานตรงนี้อยู่นาน3ปี ตลอดเวลา3ปีผมพบว่าการตรวจหาตัวเชื้อไวรัสเอชไอวีที่เรียกว่าแอนติเจนนั้น หากพบเป็นผลบวก เมื่อได้ติดตามตรวจเลือดผู้ให้เลือดรายนี้ต่อไป ส่วนใหญ่จะเป็นผลบวกปลอม ผลบวกจริงมักพบในผู้ติดเชื้อฯแน่นอนแล้ว มักพบคู่กับแอนติบอดีย์ ผมจึงไม่เน้นสนใจในผลการตรวจหาแอนติเจนหรือตัวเชื้อฯ

การติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เมื่อมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผลไม่ได้ติด100เปอร์เซ็นต์ ผมมักพบสามีภรรยาที่มีฝ่ายหนึ่งเป็นโรคนี้อยู่ร่วมกันมา2-3ปี เมื่อมาตรวจเลือดอีกฝ่ายพบเป็นผลลบอยู่ปีละหลายๆคู่ ผมรู้สึกแปลกใจในช่วงแรกๆว่าทำไม อะไรเป็นปัจจัยทำให้อีกฝ่ายซึ่งมีเพศสัมพันธ์กันโดยไม่ใช่ถุงยางอนามัย ปลอดภัยจาการติดเชื้อ หมายถึงไม่ได้ติดเชื้อจากคู่ของตนเอง

ผมรู้สึกยินดีร่วมกันกับเขาและเธอเหล่านั้นที่โชคดี

 

ความจริงแล้วผมจำ % ไม่ได้แน่ๆนะครับ แต่ประมาณว่า ที่ 3เดือน จะเชื่อถือได้น่าจะประมาณ 96-98% ที่ 6 เดือนก็จะใกล้ๆ 100% ครับ ดังนั้นการที่แลปของคุณวสุธรรมไม่มีคนที่มีผลบวกหลังสามเดือนเลยจึงเป็นเรื่องที่พบได้ครับ แต่ถ้าตรวจเยอะขึ้นเรื่อยๆอาจเจอได้ในอนาคตครับ

เดี๋ยวนี้มันมีฟ้องร้องเยอะขึ้นครับ ผมว่าให้คนไข้เลือกเองดีกว่าว่าโอกาสเจอน้อยที่ 6 เดือน อยากตรวจอีกมั๊ยอะไรอย่างนี้นะครับ ถ้าไปบอกว่าไม่ต้องตรวจเลย เดี๋ยวเกิดฟลุ๊กเจอผลบวกมาสักคนเดี๋ยวเขาจะมาเอาเรื่องเราได้ครับ

ส่วนเรื่องสามีภรยานี้น่าสนใจมากครับ ถ้าจำไม่ผิด (ไม่ได้ติดตามนานแล้วครับ) เขาก็พยายามหาอยู่เหมือนกันครับ ว่าคนที่ไม่ติดนี่มีภูมิคุ้มกันอะไรหรือเปล่าจะได้เอามาพัฒนาวัคซีนครับ

 

สอบถามครับ

ผมเสี่ยงเป็นเอดส์มา วันที่23ธ.ค54 แล้วผมก็ไปตรวจแบบpcrในวันที่3มี.ค55
ผมเป็น เน็กกาทีบ แล้วก็ไปตรวจอีกทีตอน 23มี.ค55 ตรวจแบบ แอนตี้บอดี้ ผลออกมา
ก็เน็กกาทีบ จากวันที่เสี่ยง ถึงวันที่ไปตรวจ ก็90วันพอดี อย่างผมปลอดภัยหรือยังครับ

 

ผมไม่ทราบครับแต่มีข้อมูลดีๆมาแนะนำครับ

ชาเขียว ป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี ข้อมูลในวารสารวิทยาภูมิคุ้มกันทางการแพทย์ และโรคภูมิแพ้ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายนตี พิมพ์ไว้ว่า สารแคเทชินในชาเขียวโดยเฉพาะ EGCG มีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ชาเขียวเข้มข้นช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอวี จับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดขาว ชนิดที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราที่เรียกว่า "ทีเซลล์" (T cells) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ ถ้ามีผลการศึกษาเพิ่มเติมยืนยันผลการวิจัยดังกล่าวนี้ นักวิจัยกล่าวว่าจะนำสารในชาเขียวมาใช้ทดลองในการผลิตยาชนิดใหม่ เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อเอชไอวี

 

ผ่านครับ
เลิกคิดเลิกสนใจเรื่องนี้ปล่อยวางได้เลย
ยินดีด้วย อย่าไปหาเรื่องอีกล่ะ....

 

คุณ วสุธรรม เป็น หมอหรือเปล่าครับ ขออนุโมทนากับกุศลการให้ความรู้ที่ท่านทำ อยากให้ดูเข้าไปดูข้อมูล

PHA : People living with HIV and AIDS In Thailand. Thai บอร์ด เพื่อนๆ ชาว เฮช คอยให้กำลังใจ ผู้ติดเชื้อ

อยากจะบอกว่า การตรวจ Hiv ที่ดีที่สุด และอยากแนะนำ คือที่ คลีนิคนิรนาม ( ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ) เพราะ เค้าตรวจเกี่ยวกับด้านนี้โดยตรง สามารถตรวจ หลังเสี่ยง ได้ ภายใน 5 วัน
ให้ความน่าเชื่อถือ 95% ถ้า 1 เดือน นี่ ตรวจแล้วไม่เจอ ก็ ปิดเคสได้เลยไม่ต้องรอ 3 เดือนครับ

ที่ว่า 3 เดือน นั่นคือ เกณฑ์มาตราฐาน สำหรับ คลีนิคหรือโรงบาลทั่วไป เนื่องจาก น้ำยาและอุปกรณ์ ยัง ทันสมัยไม่เท่าคลีนิค นิรนาม แล้วที่ว่าหลัง 3 เดือน หรือ 1 ปี
ที่มาตรวจครั้งที่สองแล้วเจอเชื้อ หลังจากที่ตรวจครั้งแรกแล้วปลอดภัย ในกรณีที่ไม่ได้มีความเสี่ยงเพิ่มเติม ตามสถิติ ไม่เคยเจอ ถ้าไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติมปลอดภัยแน่นอน เพราะถ้าเกิดการผิดพลาดหรือให้ผลที่ไม่แม่นยำ ก็จะยกเลิกวิธีการหรือเครื่องมือที่ใช้ทันที ซึ่งปัญหานี้ ยังไม่เคยเกิดขึ้น หรือถ้าเกิดขึ้นจริงก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ผู้ตรวจโกหกว่าไม่ได้เสี่ยงมาทั้งๆที่จริงแล้วเสี่ยงมา หรือหากท่านใดมีการยืนยัน ว่า เจอ ก็ขอข้อมูลเพื่อเป็นการยืนยันด้วยครับ
ส่วนเรื่อง สามีเป็นลบ ภรรยาเป็นบวกประเด็นนี้ขอเอาไปเป็นคำถามกับคุณหมอก่อนครับ

อาจจะพูดตรงนะครับ เนื่องจากเรื่องแบบนี้ต้องชัดเจนครับ

เพราะคนที่เค้าเสี่ยงมา เค้าทุกข์ครับ บางทีข้อมูล ไม่ตรงหรือไม่ชัดเจน หรือ ไม่ได้ อัพเดท ก็ทำให้เข้าใจผิดกันไปใหญ่ หรือ ก็ต้อง รอกันจนถึง 3 เดือน เพราะหลายคนเข้าใจว่าต้อง 3 เดือนเท่านั้น ระหว่างช่วงรอ 3 เดือน หลายๆคนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ป่วยจนเข้าโรงบาลก็มีมาแล้ว

หากต้องการพิสูจน์ ว่าที่พิมพ์มาเป็น เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้หรือไม่ ผมยินดี นัดเจอพร้อมพาไป ไขข้อข้องใจ ที่คลีนิคนิรนาม ได้เลยครับ และหากใครมีจิตเป็นกุศลพร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ก็ไปสมัครสมาชิกในบอร์ดข้างบน
คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจ ผู้ติดเชื้อ Hiv เท่าที่พอจะทำได้ครับ ปล. ตามสถิติ เพศที่ 3 หรือ ชายรักชาย ติดเชื้อมากที่สุดครับ ใครที่มีรสนิยมทางนี้ต้องระวังให้จงหนัก​

 

ขออนุญาตแก้ข้อมูลเก่าครับ ไปค้นมาเจอแล้วจาก
TI
Duration of human immunodeficiency virus infection before detection of antibody.

AU
Horsburgh CR Jr, Ou CY, Jason J, Holmberg SD, Longini IM Jr, Schable C, Mayer KH, Lifson AR, Schochetman G, Ward JW

SO
Lancet. 1989;2(8664):637.



ที่ 6 เดือน คนที่เป็นเอดส์ จะตรวจพบ anti-HIV 95%ครับ โอกาสหลุด 5 ใน 100

ดังนั้นถ้าสงสัยมากและไม่อยากรออาจตรวจ PCR ตามที่คุณ pinrat บอกได้ครับ แต่ราคาสูงกว่าและหาที่ตรวจยากกว่าครับ

ตรวจ NAT นีเพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันครับ น่าจะดีนะครับ