ตั่งแต่ศึกษาธรรม คุณไปไกลถึงไหนกันเเล้ว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฟำี่ิอกาี, 6 พฤษภาคม 2017.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ไม่แยกแบบนั้น

    ผมแยกแค่ ..ใครหลง ใครไม่หลง
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ไม่น่าไช่สาระ สำคัญ
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็ โอกาสในการรับรู้ ในการดูตัวเอง เพื่อพิจาณา ที่จะได้เห็น ตนเองเกิดดับ ไง ทุกคนรับโอกาส ผมไม่ผิดนะ...ผมทำตามที่ผมต้องทำ
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา....ทั้งนั้น...กล่าวโทษผม.ได้ไง
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็นี่ไง...พวกชอบพูดว่า ไม่มีอะไรในอะไร
    แต่สุดท้าย ก็ยึดติดใน สมมุติ ...หลงสมมุติ ไง
    เป็นกลางๆ ไม่อ้างศีล ไม่เข้าใจงั้นเหรอ
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ไม่ดีกว่า...เบื่อละ
    คุยกัน ไม่รู้เรื่อง...
    ตัวใครตัวมัน แล้วกัน
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็จบ แบบนี้แหล่ะ
    อยู่กับตัวเอง ดีกว่า...
     
  8. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +1,919
    จะไปไกล หรือไปใกล้แค่ไหน ท้ายที่สุดก็มาวนเวียนอยู่ที่เว็บนี้ อ่านบ้างตอบบ้าง ครับ

    1.ยัง
    2.ไม่รู้ซิ ทำไมต้องใช้คำว่า แอบ ?
    3.ไม่รู้ซิ ถ้าคิดว่าดีกว่า = พวกหลงตัวเอง แย่กว่า=ดูถูกตัวเอง
    4.น่าจะอีกเยอะ
    5.ความรู้ตัว กับ ความตั้งมั่น หล่ะมั้ง แล้วแต่ใครจะนิยาม
    6.ตอนเผลอ
    7.แค่ อ่านเว็ปบอร์ดนี้ หรือไล่ตอบกระทู้นี้ก็เห็นแล้ว
    8.เพราะเบื่อ ก็เลยมาตอบ กระทู้ ให้ดูมีอะไรทำ ให้หายเบื่อ
    9.ทำไมต้องแอบ ? ทำไมไม่เปิดเผยเลยหล่ะ
    10.ไม่รู้
     
  9. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ไม่อยากคุย อิอิ แต่จะถามว่า คุณอ่านไม่ออก จะให้สรุปเรื่องอะไรขอรับ
     
  10. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ตกลงว่า สมช.พลังจิตที่ปรากฎนามนี่ ทะเลาะกันหรือขอรับ เอ้า ทะเลาะก็ทะเลาะ แต่ว่าเราทะเลาะกัน ก็ให้มีสาระบ้าง อย่างผมเงี้ย เรียกว่าชวนทะเลาะ ได้ความรู้มีสาระ อิอิ

    อ๋อ ไม่เชื่อหรอ ตามใจงั้น :D
     
  11. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ตั่งแต่ศึกษาธรรม คุณไปไกลถึงไหนกันเเล้ว
    มีคำถามว่า

    1 คุณคิดว่าคุณดีพอยัง
    ตอบ คิดว่าอยากดีกว่านี้อีกค่ะ เพราะติดความดี ชอบให้มีคนชมเชย

    2 คุณแอบหนีกิเลสหรือไม่
    ตอบ หนีคือไม่ภาวนาดูสภาวะใช่มั้ย คิดว่าหนีค่ะ แต่หนีเฉพาะตอนท้อแท้

    3 คุณเห็นว่าคนอื่นดีกว่าหรือแย่กว่าคุณหรือไม่
    ตอบ เห็นประจำค่ะ จะเปรียบเทียบตลอด เพราะไม่มั่นใจในคุณความดีของตนเอง

    4 มีอะไรที่ต้องปรับปรุงอีก
    ตอบ เจริญอสุภกรรมฐานให้มากหน่อยได้ไหม(บอกตัวเอง) และอย่าท้อแท้กับวิบากกรรมมาก

    5 สติกับสมาธิ คุณแยกได้ไหม
    ตอบ แยกได้แต่ต้องมีควบคู่กันเวลาภาวนา เช่นสวดมนต์ ต้องมีสติและจดจ่อกับคำสวด(ความระลึกได้ต้องมีตลอดการสวดมนต์) และเมื่อเราตั้งใจสวดมนต์จนกระทั่งจิตเป็นอารมณ์เดียวกับคำสวด สมาธิก้อเกิดขึ้นแล้ว

    6 สติมีตอนไหนบ้าง
    ตอบ สติควรระลึกได้อยู่เสมอกับปัจจุบันขณะว่าเราทำอะไรอยู่ ไม่ปล่อยกายใจให้ใหลไปตามกระแสอารมณ์

    7 เห็นกิเลสความวุ่นวายของคนอื่นมั่งเปล่า
    ตอบ เห็นตลอด แต่ต้องก้ที่ตัวเรา

    8 เห็นความเบื่อบ้างไหม
    ตอบ เบื่อเสมอๆ เพราะชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

    9 เรายังแอบพอใจอะไรบ้าง รูป รส กลิ่น เสียง เพศ
    ตอบ ไม่แอบนะ ตรงๆเปิดเผยเลย มีความทะยานอยากมาก ขนาดทำสมาธิยังอยากได้ความสงบ

    10 หมั่นพิจาราณา ธรรม ทุกวัน ทุกเวลาเเค่ไหน
    ตอบ ตอนนี้เรียนเหนื่อยมาก เดินจงกลมนั่งสมาธิไม่ไหว แถมยังติดช้อปปิ้งจึงสงบยาก
     
  12. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ำบัญญัติผิดๆ-
    :);):mad:อจ. วรณ์นิ
    เอาหลักการๆๆๆ ห้ามเอ่ยถึงตัวบุคคล เอาหลักการ ทุกคนจะคิดได้เอง ไม่บาป ไม่กรรม กะลามาสูตร 10 ครับ
     
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ความฝัน

    เรื่องน้ำนั้น ยกให้เป็นของ สายกระผม กับ พระพิรุณ
    เราพิจารณาถึงความแห้งแล้ง และ การไม่มีน้ำใช้
    และ น้ำในเขื่อนแทบไม่เหลือ จึงเห็นสมควรว่า
    ตั้งแต่ ก่อนสงกรานต์เป็นต้นไป ตัวเรานี้
    ขออัญเชิญ น้ำที่ตกในมหาสมุทร ให้ขึ้นมาตกบนแผ่นดิน
    ยังดินแดนสุวรรณภูมิ ถิ่นรวมพระอริยะเจ้า
    จึงขอเชิญเหล่า พญานาคา ให้นำน้ำฝนมาตกที่นี่ก่อน
    เหมือนดังปีที่เกิด สึนามิ
    โดยครั้งแรก ให้ลองตกลงมาเจ็ดวันก่อน
    เพื่อเป็นการเตือนล่วงหน้า
     
  14. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ถ้าขนาดนั้น ไปบอก พระอาทิตย์ ไม่ง่ายกว่าหรือครับ ให้ลดความร้อนลง ความแห้งแล้งจะได้ลดน้อยลง

    จะให้ฝนตก 7 วัน ยังความวุ่นวาย ฉิบหาย ให้ ดินแดนสุวรรณภูมิ ถิ่นรวมพระอริยะเจ้า ไปเพื่อการอันใด ?

    ลองนึกซิๆๆ ตกตั้ง 7 วัน พระสงฆ์ หรือ อริยะเจ้า จะทำกิจที่ต้องทำทุกวัน เช่น ออกบิณฑบาต กันยังไง แล้วใครอยากจะออกมาใส่บาตร
     
  15. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    เมื่อวานนี้เกลือก็เค็ม มาวันนี้เกลือก็ยังเค็มอยู่เหมือนเดิม
    มีการเสี้ยมให้เกลือไปทำอะไรต่างๆนาๆ เฮ๊ยเกลือไปทำอย่างนั้นสิ เฮ๊ยเกลือคิดอย่างนี้สิ
    เฮ๊ยเกลือเพิ่มมุมมองตรงนี้เข้าไปสิ ก็กลายเป็นว่าเกลือนี้ได้อะไรเพิ่มมาต่างๆนาๆเลย
    ถึงจะถูกเพิ่มผสมไปในอะไรต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรๆที่ต้องไปลดคุณค่า
    ความเป็นเกลือ เกลือยังไงก็อย่างงั้น เกลือแบบคงเส้นคงวาไม่ได้ไปไหนไกล

    แต่ก็รู้สึกอยู่เหมือนกันว่าบางทีเกลือออกไปไหนรึป่าว
    โดยการเติมเชื้ออันนั้นอันนี้มาใส่แทนเกลือ แล้วคิดไปเองแล้วเอออวยเอง
    อ่ออันนั้นเกลือแน่เลย อะอ้าวเกลืออันนั้นดับไปแล้ว
    อ่ออันนี้เกลือแน่เลย อะอ้าวเกลืออันนี้ดับไปอีกแล้ว
    เลยไม่รู้ว่าอันไหนกันแน่คือเกลือ อันไหนออกรสเค็มๆได้อันนั้นหละก็คงจะเป็นเกลือ
    แล้วก็อุปทานไปว่า เกลือนี้คงจะมีหลายประเภทกระมัง
    เกลือจริงๆอาจจะไม่ได้บอกอะไรๆกับเราเลย แต่ตัวเสี้ยมได้ ยุได้ พูดได้ นี้อาจจะไม่ใช่เกลือ

    มีความเห็นมาช้วยแจมเท่านี้ครับ ^_^
     
  16. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    อยู่ในมุมของคุณมากครับ เข้าไม่ถึง สั้นๆว่า งง ครับ

    ท่อนเเรกคือ สื่อการปรุงเเต่ง เเละเราควรมีสติรู้เเยกไว้เกลือมีอยู่ น้ำมีอยู่ น้ำตาลมีอยู่ กระทิมีอยู่ รวมๆเเล้วอร่อย

    ท่อนสองไปยาก คือจะสื่อว่า เราเอาจิตเราไปรวมกับกิเลสปรุงเเต่งเเละเข้าใจว่ากิเลสเนี่ยเเหละตัวกุ กุชอบกุไม่ชอบ อบหรือไม่ก็เกิดขึ้นตั่งอยู่กับไปอยู่ดี เเต่ก้ยังเป็นตัวกุอยู่ เนี่ยเเหละกู ซึ่งไม่มีสติรู้เเยกเเยะ

    ดังนั้นเราต้องเจริญสมาธิสติให้ละเอียด เป็นผู้ดูตัวเรา เเละคุมไว้ให้เหมาะสม เเละอื่นๆ
     
  17. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    อ่านๆดูความหมายที่จะสื่อกันดูแปลกๆกันอยู่
    เห็นว่าชื่อกระทู้ศึกษาธรรม แล้วไปถึงไหน
    ผมก็ใช้ภาษาแบบผมตามที่เวลาสังเกตกับตัวเองนี้หละครับ ภาษาคุยกับตัวเอง

    มีเสียงเข้ามา เกิดอุปทานเข้าไปตะครุบ แล้วเกิด ดับ
    ตัวเสี้ยม ตัวยุ นี้คือตัวที่มาคอยเติมต่อจากตรงนี้ ให้สิ่งที่เกิดมีเพิ่มขึ้น มีลดลง พอเพิ่มเติมไป
    ก็เป็นอุปทานไปว่า จิตส่งออก จิตอยู่ในตัว ซึ่งก็เป็นการตะครุบไปแบบ จิตหลอกว่าเป็นจิต
    เพราะตัวจิตจริงๆ เราก็ไม่ได้เห็นว่าหน้าตาเป็นยังไง
    ลวงไปเป็นรูป ลวงไปเป็นกลิ่น ลวงไปเป็นรส ลวงไปเป็นสัมผัส ก็จะเป็นการแตกแขนง
    คืออุปทานไปตะครุบ 5 ตัว เกลือจากที่เคยเป็นเกลือมีรสเดียว ก็แตกแขนงไปเป็น 5 ส่วน
    หรือจากรู้ที่ก็เพียงแค่รู้ แต่ก็ถูกแตกแขนงไปเป็น รู้รูป รู้เสียง รู้กลิ่น รู้รส รู้สัมผัส

    เรื่องให้สติรู้แยก นี้ผมก็ไม่ได้แยกอะไรนะ รู้แล้วอารมณ์เดียว อยู่แบบรสเดียวเลย
    ก่อนหน้านี้ผมพยายามทำความเข้าใจเรื่อง โลกธรรม 8 การที่ผมสานต่อมาแบบนี้
    ไม่ได้เพื่อจะออกไปแยก หรือออกไปแตกแขนงอะไรๆ ตอนจะถูกปรุงแต่งเพิ่ม
    หรือปรุงแต่งเริ่มลดน้อยถอยลง ก็ยังอยู่ในอารมณ์เดียว รสเดียว คือเกลือเหมือนเดิม
    ไม่ได้เป็นไปตามที่ปรุงแต่ง คือพยายามทำการสานต่อที่ตรงนี้ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
    ก็ยังมีตกบ่อ ตกเหวไปบ้าง แต่ก็จะพยายามทรงอารมณ์ไว้ให้เป็นอันเดียวเลย

    หากพิมพ์อันนี้แล้วยัง งง อันนี้ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงละ เพราะผมไม่ใช่นักปฏิบัติมืออาชีพ

    แล้วตอบเพิ่มเติมให้ผมด้วยก็ดีครับตรง สมาธิสติให้ละเอียด นี้หมายถึง แยกแยะแยกย่อย
    ได้ละเอียด หรือหมายถึงสามารถรับทราบได้หมดโดยไม่ต้องแยกแยะก่อน
    คือมองหน้ากันปุ๊บ มองตัวอักษรปุ๊บก็รับทราบเลยโดยไม่ได้แยกแยะก่อน

    หากแยกแยะแยกย่อยได้ละเอียดก่อนรับทราบ อันนั้นผมเรียกชื่อว่า ตัวเสี้ยม ตัวยุ
    คือมันจะมาคอยเสี้ยมไว้ก่อน ว่าเป็นอย่างนั้นนะ เป็นอย่างนี้นะ ประมาณนี้ครับ
     
  18. ฟำี่ิอกาี

    ฟำี่ิอกาี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2017
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +20
    ให้มี สติ สมาธิให้คล่องตัวครับ เห็นไว กระทบไว วางไว
    ไม่ต้องเเยกเเยะเเล้ว ถ้าเข้าใจเหตุผลต่างๆดีเเล้ว
    รู้เเล้วว่าไม่เที่ยง จะยึดถืออะไรก็ไม่ได้ รู้ วาง ๆ ๆ
    ถ้าจะไม่วาง เหตุเพราะยังอยู่ในกระแสของโลก
    ก็ใช้สติกำกับรู้ไว้ ให้ทรงตัว คล่องตัว เท่าทัน ครับ

    ผมว่าคุณเนี่ยนักปฏบัตินะ เเต่อาจจะสื่อไม่คล่องตัวเพราะไม่สั่งสอน
    เน้นกินเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2017
  19. vornloei

    vornloei สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2017
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +7
    ธรรมะคือธรรมชาติ เราไม่ต้องไปศึกษาให้มากมาย ตำรายิ่งอ่านมากยิ่งไม่เข้าใจธรรมะ อดีตกาลไม่เห็นพระอรหันต์จบปริญญาตรี โท เอก สักคน เพียงแต่เข้าใจธรรมชาติ ของจิต และปฏิบัติจิตให้มันอยู่กับธรรมชาติ เข้าใจจิต ว่าจิตต้องการอะไร ร่างกายก็เพียงธาตุหากจะพูดหยาบๆ ไม่อ้างอิงวิทยาศาสตร์ เซลล์ในตัวเราที่ประกอบเป็นร่างกาย ธรรมะไม่ได้ให้เข้าใจร่างกาย แต่ให้เข้าใจจิตภายใน การทำงานของจิตที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จะรู้ได้อย่างไรขณะปฏิบัติแล้วจิตสงบ ขณะปฏิบัติ รู้ได้ก็ต่อเมื่อความคิดของคนปฏิบัติไม่คิดออกจากนอกกาย มีสติอยู่กับตนเอง หยุดคิด ฟุ้งซ่าน ขณะปฏิบัติ เมื่อความคิดหยุดลง จิตภายในจะมีกำลัง สามารถเชื่อมระหว่างกายและจิตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เมื่อนั้นเราจะเข้าใจการทำงานของจิต หากปฏิบัติแล้วไม่เข้าใจหลักการณ์นี้ นั่งไปคิดไปแม้นเศษเสี้ยววินาทีของความคิดขณะปฏิบัติถือว่าปฏิบัติสมาธิล้มเหลว หยุดคิด ได้เมื่อใดจิตมันจะสงบ แล้วจิตจะมีกำลังขึ้น หากทำบ่อยๆ ชำนาญปาฏิหารย์ต่างๆ ดั่งเช่นพุทธกาลจะบังเกิดมี
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    ข้อสอง
    ที่ว่า แอบนั้น ในภาษาพระนักปฏิบัติ
    ก็คือ การเข้าญานทั้งแปด นั่นเอง
    โดยพระอาจารย์สายพระป่า
    จะคอยเตือน แก่เหล่าลูกศิษย์อยู่เสมอๆ ว่า


    อย่าแอบเข้าญานนักเน้อ สู้กับมันบ้าง กิเลสน๊ะ
    อย่าเอาแต่หนีเด้อ การหนีไม่ช่วยให้บรรลุธรรมเด้อ ลูกหลาน
    ต้องสู้กับมันตรงๆเท่านั้น จึงจะสามารถบรรลุธรรมได้
    ต้องทำให้เหมือน นักมวยที่ฝึกมาทั้งปี
    ถ้าเก่งจริง ก็ต้องลงมาสู้กันในสนาม
    ไม่ใช่เก่ง นอกสนาม หรือ เอาแต่หลบหลีก
    จนหมดเวลา หรือ ตายไปก่อนนั่นเอง


    ส่วนข้อสิบ
    ขนาดคุณ ถ้ายังว่าไม่ ในข้อนี้
    ก็แสดงว่า ความตั้งใจของคุณ ยังไม่แน่วแน่
    ยังไม่อาจจะครองธรรมได้
    หรือ ถึงได้แล้ว ก็ยังไม่รู้สึกถึงมัน
    แสดงว่า ขาดอาจารย์ที่เป็น พระอริยะเจ้า คอยสั่งสอน

    ขอให้แก้ไขในข้อนี้ให้ดี ต้องอย่าลืม อนุสสติ10 โดยเด็ดขาด
    อย่างน้อย ก็ให้นึกถึง พระอรหันต์ เป็นอารมณ์
    หรือ ถ้าจะให้สูงขึ้นไปอีก ให้นึกถึง พระนิพพาน เป็นอารมณ์ ก็ได้เหมือนกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...