ตามหาลูกหลานพญานาคที่มาเกิด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย MANENAKA WANGKATEKEAW, 13 มีนาคม 2013.

  1. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    "บ่วงนาคบาศก์แก้ว"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06062.JPG
      DSC06062.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.7 MB
      เปิดดู:
      220
    • DSC06061.JPG
      DSC06061.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      81
    • DSC06060.JPG
      DSC06060.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      109
  2. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    ที่มาของมงคล ๓๘ ประการ

    มนุษย์เราไม่ว่าหญิงหรือชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ ยากจนหรือมั่งมี ล้วนแต่ต้องการสิ่งที่ดีงาม เป็นมงคล แก่ชีวิตของตนทั้งสิ้น แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่ามงคลคืออะไร และอะไรที่เป็นมงคล

    นานมาแล้วในสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่เสด็จอุบัติบังเกิดขึ้น ได้มีการถกเถียงกันในชมพูทวีป ว่าอะไรเป็นมงคล ต่างคนต่างก็แสดงสิ่งที่เป็นมงคลตามความเห็นของตน แต่ไม่อาจตกลงกันได้ว่า อะไรแน่เป็น มงคล การถกเถียงกันมิได้เกิดขึ้นในหมู่มนุษย์เท่านั้น หากได้ลุกลามไปถึงพวกเทวดาและพรหม ในสรวงสวรรค์ ด้วย ถึงกระนั้นก็ยังหาข้อยุติไม่ได้จวบจนเวลาล่วงไป ๑๒ ปี สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าคือพระพุทธเจ้าของเรา พระองค์นี้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พวกเทวดาในดาวดึงส์เทวโลกจึงได้พากันเข้าไปเฝ้าท้าวสักกะเทวราช ( คือพระ อินทร์ ) ผู้เป็นพระราชาในภพดาวดึงส์ทูลถามถึงมงคล ท้าวสักกะตรัสถามว่า ท่านทั้งหลายได้ทูลถามเรื่องนี้กับ พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วหรือยัง เมื่อทรงทราบว่ายัง จึงได้ทรงตำหนิว่าพวกท่านได้ล่วงเลย พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ทรงแสดงมงคลแล้วกลับมาถามเรา เป็นเหมือนทิ้งไฟเสีย แล้วมาถือเอาไฟที่ก้นหิ้งห้อย ตรัสแล้วชวนกันไป เฝ้าพระพุทธเจ้าที่พระวิหารเชตวัน ใกล้กรุงสาวัตถีในแคว้นโกศล ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควร ท้าวสักกะ ทรงมอบหมายให้เทวดาองค์หนึ่งเป็นผู้ทูลถามเรื่องนี้

    ในเวลานั้นเทพเจ้าในหมื่นจักรวาล เนรมิตกายให้ละเอียดมาแออัดประชุมกัน เพื่อมงคลปัญหาในที่ นั้นด้วย จนพระเชตวันสว่างไสวไปทั่วด้วยรัศมีกายของเทวดาเหล่านั้น ถึงกระนั้นก็มิอาจบดบังพระรัศมี ซึ่ง เปล่งออกจากพระกายของพระพุทธเจ้าได้ เทวดาองค์ที่ได้รับมอบหมายให้ทูลถามมงคลปัญหากะพระพุทธเจ้า ได้ทูลถามปัญหากะพระพุทธเจ้าว่า "เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นอันมากหวังอยู่ซึ่งความสวัสดี ได้พา กันคิดสิ่งที่เป็นมงคล (แต่ไม่อาจคิดได้) ขอพระองค์โปรดตรัสบอกอุดมมงคล"

    พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสให้ทราบว่า มงคลมีอยู่ ๓๘ มงคล ด้วยพระคาถา ๑๐ คาถาใน มงคลสูตร๑ ตามลำดับดังนี้

    คาถาที่ ๑. มี ๓ มงคลคือ

    ๑. อเสวนา จ พาลานํ การไม่คบคนพาล
    ๒. ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา การคบบัณฑิต (คือ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย)
    ๓. ปูชา จ ปูชนียานํ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา

    คาถาที่ ๒. มี ๓ มงคลคือ
    ๔. ปฏิรูปเทสวาโส จ การอยู่ในประเทศ (ถิ่น) ที่สมควร
    ๕. ปุพฺเพ จ กตปุญฺญตา การได้กระทำบุญไว้แล้วในปางก่อน
    ๖. อตฺตสมฺมาปณิธิ จ การตั้งตนไว้ชอบ


    คาถาที่ ๓. มี ๔ มงคลคือ
    ๗. พาหุสจฺจญฺจ การสดับตรับฟังมาก
    ๘. สิปฺปญฺจ การศึกษาศิลปะ
    ๙. วินโย จ สุสิกฺขิโต วินัยที่ศึกษาดีแล้ว
    ๑๐. สุภาสิตา จ ยา วาจา วาจาสุภาษิต

    คาถาที่ ๔. มี ๔ มงคลคือ
    ๑๑. มาตาอุปฏฺฐานํ การบำรุงมารดา
    ๑๒. ปิตุอุปฏฺฐานํ การบำรุงบิดา
    ๑๓. ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห การสงเคราะห์บุตรและภรรยา
    ๑๔. อนากุลา จ กมฺมนฺตา การงานไม่อากูลคั่งค้าง

    คาถาที่ ๕. มี ๔ มงคลคือ
    ๑๕. ทานญฺจ ทาน การให้
    ๑๖. ธมฺมจริยา การประพฤติธรรม
    ๑๗. ญาตกานญฺจ สงฺคโห การสงเคราะห์ญาติ
    ๑๘. อนวชฺชานิ กมฺมานิ การกระทำการงานที่ไม่มีโทษ

    คาถาที่ ๖. มี ๓ มงคลคือ
    ๑๙. อารตี วีรตี ปาปา การงดการเว้นจากบาป
    ๒๐. มฺชชปานา จ สญฺญโม การสำรวมจากน้ำเมา
    ๒๑. อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย

    คาถาที่ ๗. มี ๕ มงคลคือ
    ๒๒. คารโว จ ความเคารพ
    ๒๓. นิวาโต จ การอ่อนน้อมถ่อมตน
    ๒๔. สนฺตุฏฺฐี จ ความสันโดษ
    ๒๕. กตญฺญุตา ความกตัญญูรู้คุณ
    ๒๖. กาเลน ธมฺมสฺสวนํ การฟังธรรมตามกาล

    คาถาที่ ๘. มี ๔ มงคลคือ
    ๒๗. ขนฺตี จ ความอดทน
    ๒๘. โสวจสฺสตา ความเป็นผู้ว่าง่าย
    ๒๙. สมณานญฺจ ทสฺสนํ การเห็นสมณะ
    ๓๐. กาเลน ธมฺมสากจฺฉา การสนทนาธรรมตามกาล

    คาถาที่ ๙. มี ๔ มงคลคือ
    ๓๑. ตโป จ ความเพียรเผากิเลส
    ๓๒. พฺรหฺมจริยญฺจ การประพฤติพรหมจรรย์
    ๓๓. อริยสจฺจานทสฺสนํ การเห็นอริยสัจ
    ๓๔. นิพฺพานสจฺฉิกิริยา จ การทำนิพพานให้แจ้ง

    คาถาที่ ๑๐. มี ๔ มงคลคือ
    ๓๕. ผุฏฺฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ จิตของผู้ใดถูกโลกธรรมกระทบแล้วไม่หวั่นไหว
    ๓๖. อโสกํ ความไม่เศร้าโศก
    ๓๗. วิรชํ จิตที่ปราศจากธุลี คือกิเลส
    ๓๘. เขมํ จิตที่ถึงความเกษมจากโยคะ

    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงมงคล ๓๘ ด้วยพระคาถา ๑๐ คาถาเหล่านี้แล้ว ได้ทรงแสดงอานิสงส์ ของมงคลไว้ในคาถาสุดท้าย ( คือคาถาที่ ๑๑ ) ว่า "เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายกระทำมงคลทั้งหลายดังนี้ แล้ว เป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุกสถาน ข้อนั้นเป็นมงคลอันสูงสุดของ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้น"

    พระไตรปิฎก เล่ม ๒๕ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ข้อ ๕-๖
     
  3. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117


    อานิสงส์การร่วมบุญสร้างพระธาตุเจดีย์

    การสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หรือ อัฐิธาตุของบุคคลที่ควรบูชาได้แก่ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นการสร้างมงคลให้กับตนเองอย่างสูงสุด เมื่อตายไปย่อมไปสู่สุคติโลกสวรรค์ย่อมได้ดวงตาเห็นธรรมและบรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย การมีส่วนร่วมสร้าง พระเจดีย์จะมากหรือน้อย ถ้าทำด้วยความเลื่อมใส ก็ย่อมได้อานิสงส์มากมาย ดังตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ท่านได้อ่านต่อไปนี้

    พระเถระรูปนี้ในชาติก่อนมีส่วนร่วมสร้างเจดีย์ เพียงท่านใส่ก้อนปูนขาวลงในช่องแผ่นอิฐ ซื่งประชาชนกำลังก่ออิฐสร้างเจดีย์อยู่ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ด้วยจิตใจที่เลื่อมใส อำนาจแห่งบุญนั้นได้บันดาลให้ท่านไปเกิดในสวรรค์ แลโลกมนุษย์ถึง ๙๔ กัปป์ พอมาถึงสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดม ท่านได้มาบวชในพระพุทธศาสนาท่านคือ พระสุธาบิณฑิยเถระ

    และยังมีเรื่องเล่าจาก พระมหาโมคคัลลานะเถระ ว่าท่านได้พบเทพบุตรตนหนึ่งมีวิมานสวยงามวิจิตรตระการตา แวดล้อมด้วยนางฟ้าจำนวนมาก มาฟ้อนรำขับร้องให้เบิกบานใจ และเทพบุตรตนนี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือเทพบุตรทั้งปวง ท่านจึงถามเทพบุตรตนนั้นว่า เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้หรือ ท่านถึงมีอานุภาพมากมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ เทพบุตรตนนั้นตอบว่า แต่ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้ออกบวชอยู่ ๗ พรรษา และเป็นสาวกของพระศาสดานามว่า สุเมธ ต่อมาได้ดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุของท่านบรรจุไว้ในรัตนเจดีย์ซึ่งห่อหุ้มด้วยข่ายทองคำ ท่านได้ชักชวนประชาชนให้ไปสักการบูชาด้วยความเลื่อมใส กุศลจะส่งผลให้ขึ้นสวรรค์ ด้วยบุญนี้เองทำให้ข้าพเจ้าได้มาเสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานนี้เอง

    ส่วนพระมหากัสสปะเถระนั้น ท่านได้พบเปรตตนหนึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่า มีหนอนกินปาก นอกจากนี้ยังถูกยมบาลเฉือนปาก แล้วราดน้ำให้แสบร้อน จึงถามถึงผลกรรมของเปรตนั้น ทราบว่าแต่ก่อนตอนเป็นมนุษย์ ตนเป็นชาวนครราชคฤห์ได้ห้ามมิให้บุตร ภรรยา บูชาพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับเล่าถึงพวกที่มีความคิดและกระทำเหมือนตน ส่วนภรรยา และบุตรของตนได้ไปเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ มีวิมานสวยสดงดงาม เพราะอานิสงส์ที่ได้ไปใหว้พระบรมสารีริกธาตุ สำหรับตนเองนั้นตั้งใจไว้ว่า หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง จะทำการบูชาพระสถูปเจดีย์ให้มากอย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ในครั้งพุทธกาล พระเจ้าปัสเสนทิโกศล ได้เสด็จไปยังเมืองสาวัตถีพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารเป็นอันมาก ครั้นถึงหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำพระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นทรายขาว ผ่องบริสุทธิ์ยิ่งนัก ทรงมีพระทัยเลื่อมใสอย่างแรงกล้า ได้รับสั่งให้ช่วยกันก่อกองทรายให้เป็นรูปเจดีย์ถึง ๘๔,๐๐๐ องค์ มองดูเป็นทิวแถวสวยงาม เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เสร็จแล้วได้เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่บุบผารามมหาวิหาร แล้วได้ทูลถามถึงอานิสงส์ แห่งการก่อเจดีย์ทราย พระพุทธเจ้าตรัสว่า ขอถวายพระพรมหาบพิตร ผู้มีศรัทธาแรงกล้าได้ก่อเจดีย์ทรายถึง๘๔,๐๐๐ องค์ หรือแม้แต่องค์เดียว ก็ย่อมได้รับอานิสงส์มาก จะไม่ตกนรกตลอดร้อยชาติถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง มีชื่อเสียงเกียรติยศไปทั่วทุกทิศ จากนั้นจะได้ไปสวรรค์เวยทิพย์สมบัติ การก่อเจดีย์ทรายเป็นเรื่องของผู้มีความฉลาด มีความคิดดี ได้ทำเป็นประเพณีมาแล้วในอดีต แม้พระตถาคตเองก็เคยทำมาแล้วในครั้งเป็นพระโพธิ์สัตว์ ในครั้งนั้นตถาคตยากจนมาก มีอาชีพตัดฟืนขาย วันหนึ่งได้พบทรายขาวสะอาดมากในราวป่า ก็มีจิตใจศรัทธาผ่องใส วันนั้นได้หยุดตัดฟืนทั้งวัน ได้กวาดทรายก่อเป็นเจดีย์โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก แล้วเปลื้องผ้าห่มของตน ฉีกทำเป็นธงประดับไว้ เพื่อบูชาพระติสสะสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอฐิษฐานจิตขอให้เป็นปัจจัยแห่งพระโพธิ์ญาณในอนาคตกาล ครั้นเมื่อตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อยู่ ๒ พันปีพิพย์ เมื่อสิ้นอายุขัย ได้อุบัติมาเกิดเป็นพระตถาคตนี้เอง สำหรับพระเจ้าปัสเสนทิโกศลนั้นก็ได้รับพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า

    และพระมหากัสสปเถระ ยังได้กล่าวถึงประวัติและผลบุญแห่งการสร้างพุทธเจดีย์ของท่านไว้ดังนี้

    ในครั้งที่พระพุทธเจ้ามีนามว่าปทุมมุตตระ พระองค์ได้ปรินิพพานแล้วพระมหากัสสปเถระได้ชักชวนหมู่ญาติมิตร และประชาชน ให้มาร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้ากันเถิด ทุกคนมีจิตเลื่อมใส ปิติอิ่มเอมใจ จึงได้ช่วยกันสร้างเจดีย์สูงค่าเสร็จลงด้วยความเรียบร้อย เจดีย์สูงร้อยศอก สร้างปราสาท ห้าร้อยศอก สูงตระหง่านจรดท้องฟ้า ทุกคนมีจิตปิติเบิกบานในอานิสงส์บุญที่ได้พากันทำไว้ เมื่อท่านตายไปแล้วได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อยู่บนยานทิพย์เทียมด้วยม้าสินธพพันตัว วิมานของท่านสูงตระหง่านเจ็ดชั้น มีปราสาทหนึ่งพันองค์ ซึ่งสร้างด้วยทองคำ ศาลาหน้ามุขสร้างด้วยแก้วมณี ส่องแสงสว่างเจิดจ้าไปทั่วสารทิศ ทั้งยังมีอำนาจเหนือเทวดาทั้งปวง เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ในกัปป์ที่หกหมื่นในภัทรกัปป์นี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ ครอบครองอาณาเขตไปถึง ๔ ทวีป มีแก้วแหวนเงินทองมากมาย ประชาชนมีความสุขสำราญเหมือนดั่งเมืองบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และชาติสุดท้ายได้มาเกิดในสกุลพราหมณ์ที่ร่ำรวย แต่สละทรัพย์ออกบวช จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ การไหว้พระธาตุถือเป็นการเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง เพราะการบูชาพระธาตุ อันเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญมาสู่ผู้ที่บูชา รวมทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ได้จากการกราบไหว้บูชา ยิ่งหากใครบูชาด้วยจิตใจศรัทธาอันบริสุทธิ์ และหมั่นกราบไหว้เมื่อมีโอกาส อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุ จะดลบันดาลให้เกิดสิริมงคลในชีวิตแก่ตัวผู้บูชา

    อานิสงส์ในการสร้างกุศลกับพระบรมสารีริกธาตุ

    ถวายฉัตรยอดพระเจดีย์ —-> ได้รับการเคารพยกย่อง เกิดในชาติตระกูลสูง มีสง่าราศี

    ถวายทองคำ —-> ผิวพรรณงาม เปล่งปลั่ง อุดมมั่งคั่ง

    ถวายเงิน —-> ใจสว่างไสว อยู่เย็นเป็นสุข

    ถวายอัญมณี —-> รัศมีกายทิพย์สว่าง มีราศรี มักประสบโชคดี

    ถวาย, บรรจุพระเครื่อง —-> มีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรค มักมีคนช่วยเหลือเวลามีปัญหา

    ถวายแผ่นทองคำเปลวปิดองค์พระเจดีย์ —-> มีราศีผิวพรรณงาม ใจสว่าง อบอุ่นใจ

    ถวายอิฐ หิน ปูน ทราย —-> มีแต่ความมั่นคงในชีวิต ใจคอหนักแน่น ไม่โลเล

    สร้างองค์พระเจดีย์ —-> มักได้สิ่งอันพึงปรารถนา สุขภาพดี ไม่มีวันอดตาย

    ถวายธงหลากสีประดับองค์พระธาตุ —-> มีสง่าราศี กายทิพย์สว่าง

    ถวายโคมไฟให้แสงสว่าง เทียน —-> ใจสว่าง ชีวิตสะดวกสบาย มีอุปสรรคน้อยลง มีปัญญาธรรมสูงขึ้น เบิกทางสู่ทิพยเนตร

    ถวายดอกไม้อันบริสุทธิ์ต่างๆ —-> สุขสงบใจ ใจสะอาดสดชื่นผ่องแผ้ว

    ถวายธูป เครื่องหอมต่างๆ —-> อบอุ่นมั่นคงในใจ ใจสว่างมีอุปสรรคน้อยลง มีกลิ่นกายสะอาด รู้สึกสดชื่นเสมอ

    ถวายแผ่นหินปูพื้นพระเจดีย์ —-> มีบริวารดี มีสมาธิดีขึ้น มีเวลาปฏิบัติธรรมมากขึ้น

    ถวายกระจกสีประดับองค์พระเจดีย์ —-> กายทิพย์สว่าง มีสง่าราศี มีคนศรัทธา เห็นความดีในตัว

    ถวายผ้าเหลืองครอง(หุ้ม)องค์พระเจดีย์ —-> เพิ่มเนกขัมมบารมี ใจสงบขึ้น มีโอกาสได้วิมุตติธรรมเร็วขึ้น

    สรงน้ำพระธาตุ —-> ใจสะอาดสงบสว่างขึ้น กายและใจชุ่มชื่นแจ่มใส สุขภาพดี

    ถวายข้าว อาหาร เวรข้าวบูชาพระธาตุ —-> อุดมสมบูรณ์ อิ่มอกอิ่มใจ สุขภาพดี

    เวียนเทียนรอบองค์พระเจดีย์ —-> เพิ่มวิสัยปัจจัยแห่งกุศลธรรม เป็นสิริมงคล ช่วยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น สะอาดขึ้น

    แสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อพระธาตุจากใจจริง —-> เป็นที่เคารพยกย่อง มักไม่มีใครเข้าใจผิดหรือ

    มองอะไรผิดๆ ได้บารมีวิมุตติธรรมจากพระบรมธาตุ พาไปสู่วิสุทธิมรรค ผล นิพพานได้เร็วยิ่งขึ้น

    เป็นเจ้าภาพหรือมีส่วนช่วยจัดงานฉลองพระธาตุ —-> ประสบสุขในชีวิตโดยทั่วไปแทบทุกด้านอุดมมั่งคั่ง มีคนเคารพยกย่องช่วยเหลือเสมอ

    บูรณซ่อมแซมเจดีย์พระธาตุ —-> สุขภาพดี อายุยืน รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดี มีฐานะมั่นคง

    สร้างเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ —-> ชีวิตมั่นคงสุขสมปรารถนาทุกด้าน เป็นที่เคารพยกย่อง ได้มรรคผล นิพพานเร็วขึ้น

    ถวายภาชนะบรรจุพระบรมธาตุในเจดีย์ —-> มีชีวิตมั่งคง ปลอดภัย มั่งคั่ง มีบริวารดี มีเกียรติ เป็นที่ยกย่อง

    ถวายบทสวด เทปสวดมนต์สวดบูชาพระธาตุ —-> เป็นที่ยกย่องสรรเสริญจากคนทุกหมู่เหล่า ได้ยินได้พบแต่สิ่งที่ดีงาม เสียงใสไพเราะ มีวาจางดงาม มีสมาธิดีขึ้น

    พระปุฬินถูปิยเถระ ซึ่งเป็นพระอรหันต์ในครั้งพุทธกาลได้กล่าวถึงผลที่ท่านได้รับจากการที่ท่านเคยสร้างพระสถูปเจดีย์ไว้ดังนี้

    “…เราเป็นชฎิลผู้มีตบะกล้ามีนามว่า นารทะ เราอยู่ในป่าผู้ที่จะสั่งสอน เราก็ไม่มี ใครๆ ที่จะตักเตือนเราไม่มี เราไม่มีอาจารย์และอุปัชฌาย์ สิ่งที่ควรบูชาเราควรแสวงหาเหมือนกัน เราจักได้ชื่อว่าเป็นผู้มีที่พึ่ง ครั้งนั้นเราได้ไปแม่น้ำชื่อ อเมริกา ตะล่อมเอาทรายมาก่อเป็นเจดีย์พระสถูปของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราได้ทำสถูปนั้นให้เป็นนิมิต เราก่อพระสถูปที่หาดทรายแล้วปิดทอง แล้วเอาดอกกระดึงทอง ๓,๐๐๐ ดอก มา บูชา เราเป็นผู้มีความอิ่มใจ ประนมกรอัญชลี นมัสการทั้งเวลาเย็น เวลาเช้า ไหว้พระเจดีย์เหมือนถวายบังคมพระพุทธเจ้าในที่เฉพาะพระพักตร์ ฉะนั้นในเวลาที่กิเลสและความตรึกเกี่ยวด้วยกามเกิดขึ้น เราย่อมนึกถึง เพ่งดูพระสถูปที่ได้ทำไว้ เราประพฤติอยู่เช่นนี้ได้ถูกพระยามัจจุราชย่ำยี เราทำกาลกิริยา ณ ที่นั้นแล้วได้ไปยังพรหมโลก เราอยู่ในพรหมโลกนั้นตราบเท่าหมดอายุ แล้วมาบังเกิดในไตรทิพย์ได้เป็นจอมเทวดาเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๘๐ ชาติ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๓๐๐ ชาติ และได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์โดยคณานับมิได้ เราได้เสวยผลของดอกกระดึงทองเหล่านั้น ดอกกระดึงทอง ๒๒,๐๐๐ ดอก แวดล้อมเราทุกภพ เพราะเราได้เป็นผู้บำรุงพระสถูปฝุ่นละอองย่อมไม่ติดกับตัว ที่ตัวเราเหงื่อไม่ไหล เรามีรัศมีแผ่ซ่านออกจากตัว พระสถูปเราได้สร้างไว้ดีแล้ว เราได้บรรลุบท (ธรรม) อันไม่หวั่นไหวก็เพราะได้ก่อสถูป ผู้ปรารถนาจะกระทำกุศล ควรเป็นผู้ยึดเอาสิ่งที่เป็นสาระ ความปฏิบัตินั่นเองที่เป็นสาระเมื่อถึงภพ (ชาติ) สุดท้าย เราเกิดในสกุลพราหมณ์มหาศาลอันมั่งคั่ง ในพระนครสาวัตถี เราได้เห็นพระ สถูปเสมอ จึงระลึกถึงเจดีย์ขึ้นได้นั่งอาสนะอันเดียวได้บรรลุอรหัตแล้ว เราได้บรรลุอรหัตตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ เราแสวงหาพระพุทธเจ้า เราได้เห็นพระธรรม จึงออกจากเรือนบรรพชาในสำนักของพระศากยบุตรกิจ ที่ควรทำในศาสนาของพระศากยบุตร เราได้ทำสิ้นแล้ว ข้าแต่พระ ผู้มีความเพียรอันยิ่งใหญ่ สาวกของพระองค์เป็นผู้ล่วงพ้นเวรภัยทุกอย่าง ล่วงพ้นความเกี่ยวข้องทั้งปวง นี้เป็นผลแห่งพระสถูปทอง…”
     
  4. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ถวายปัจจัย เดือน มิถุนายน 2556 ( ยอดณ.วันที่ 24 มิย. 56 )
    ยอดสะสมเป็นเงิน 5,000 บาท

    เหล่าลูกหลาน....ทั้ง 3 โลก 3 ไตรภพ
    สวรรค์ มนุษย์ บาดาล

    ร่วมสร้างบุญสร้าง
    "พระมหาธาตุเจดีย์ เกศแก้ว จุฬามณี ศรีอริยเมตไตย"

    คุณ นันทิชา สายสวาท 1,000 บาท
    ขออนุโมทนาบุญด้วย ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.9 MB
      เปิดดู:
      171
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2013
  5. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ผมได้รับแหวนที่ พี่รุ่นที่4
    ท่านสละมอบให้... เป็นแหวนที่เสด็จมาเอง... เทพเทวา...พญานาค
    ท่านมาร่วมบุญ ร่วมสร้าง
    "พระมหาธาตุเจดีย์ เกศแก้วจุฬามณี ศรีอริยเมตไตย"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06113.JPG
      DSC06113.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      84
  6. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ลูกแก้วเสด็จมา...
    ให้ผู้ที่มาร่วมบุญกับพี่"พญานาครุ่นที่ 4"
    เพื่อร่วมสร้างถาวรวัตถุ ในพระพุทธศาสนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06111.JPG
      DSC06111.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      62
    • DSC06112.JPG
      DSC06112.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      60
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2013
  7. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117

    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) ตอบปัญหาธรรม
    [​IMG]
    ผู้ถาม :- "หลวงพ่อครับ คนเราเกิดมานี่นะครับ ต้องสร้างทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว อันนี้เป็นเพราะว่าเนื่องจากผลของกรรมเก่า หรือว่าเราสร้างขึ้นใหม่ครับ…?"

    หลวงพ่อ :- "ทั้งใหม่ทั้งเก่า คือกรรมเก่าบางอย่างมันให้ผลในชาติปัจจุบัน บางอย่างให้ผลในชาติต่อไป บางอย่างอีกหลายชาติจึงจะให้ผล เราเกิดมานี่ เราทำแต่กรรมดีอย่างเดียวหรือเปล่าล่ะ เคยทำกรรมชั่วบ้างไหม…?"

    ผู้ถาม :- "เคยครับ"

    หลวงพ่อ :- "ทีนี้ผลที่รับนี่ไม่แน่ ฉันตอบไม่ได้ว่าผลที่ได้รับเป็นกรรมใหม่หรือกรรมเก่า"

    ผู้ถาม :- "สิ่งที่เรากระทำลงไปเป็นสิ่งไม่ดี เป็นกรรมเก่าที่เราทำไม่ดี หรือว่าเราสร้างของเราใหม่ครับ…?"

    หลวงพ่อ :- บางทีเราก็สร้างใหม่ เพราะเราขยันสร้าง อย่าไปโทษเก่าเสมอไปเลย โทษปัจจุบันดีกว่า คือ ทุกสิ่งทุกอย่างโทษปัจจุบันไว้ดีกว่า ป้องกันตัวได้ บางอย่างก็อาศัยกรรมเก่าที่เราทำมา มันให้ผลจึงมีความเห็นผิด บางอย่างสิ่งแวดล้อมมันเกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เราเห็นผิด ก็คิดว่าไอ้กรรมเก่ามันแค่ไหนก็ช่างมัน ไม่สนใจ ทำกรรมใหม่ให้ดีไว้เสมอๆ ดีกว่า อย่าไปคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงมาแล้ว กรรมเก่ามันจะเลวมันจะชั่วก็ช่างมัน

    อย่าลืมว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้เพราะอาศัยความดีหลายอย่าง

    ๑.เราเคยมีศีล ๕ บริสุทธิ์ หรือมีกรรมบถ ๑๐ บริสุทธิ์ เราจึงเป็นมนุษย์ที่มีความสมบูรณ์ได้

    ๒.เรามีทรัพย์สินเพราะเราเคยให้ทาน

    ๓.เรามีปัญญาคิดอะไรได้บ้าง เพราะเราเคยอบรมในด้านความดี ในด้านธรรมมาก่อน

    เราต้องคำนึงถึง ๓ อย่างนี้ เพราะมันเป็นความดีเดิม

    ๑.ในเมื่อเราเป็นมนุษย์ได้แล้ว เราจะกลับไปเป็นสัตว์นรกอีกไหม…ถ้าเราทำลายศีลข้อใดข้อหนึ่ง นั่นแสดงว่ามันจะกลับไปนรกอีก

    ประการที่ ๒ เราเกิดมาเป็นคนตระหนี่ เป็นคนดีพอกลับไปเราก็ต้องกลับไปแก้ผ้าใหม่

    และประการที่ ๓ เราทำลายสติสัมปชัญญะของเราให้มันเสื่อมทรามลง เป็นการทำลายของเดิมที่เราก่อมาแล้วให้สลายตัวไป ถ้าเราคิดอย่างนี้แล้วจะดีขึ้น

    ฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงทรงสั่งสอน อย่าตามนึกถึงสิ่งที่ล่วงมาแล้ว และจงอย่าคำนึงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง พยายามรักษาความดีปัจจุบันไว้ ถ้าปัจจุบันของเราดี เพราะอารมณ์ของเราจริงๆ ไม่มีอดีตไม่มีอนาคตหรอก มันมีแต่ปัจจุบัน คือให้มีความรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อยู่เสมอ

    คืออารมณ์ทำเป็นอาจิณกรรม ถึงแม้ว่าครั้งละเล็กละน้อยมันก็ชิน อาจิณกรรมถ้าเป็นฝ่ายอกุศล มันมีโทษถึงอนันตริยกรรมได้ แต่ถ้าอาจิณกรรมฝ่ายกุศลมันก็มีผลมหันต์เหมือนกัน

    ถ้าเราไม่ตามนึกถึงมัน เรามุ่งหน้าทำแต่ความดี อันดับเลวที่สุดถ้าเราเป็นพระโสดาบัน กรรมที่ไม่ดีนั้นจะให้ผลลงอบายภูมิไม่ได้ มันจะให้ผลแต่เพียงว่าเราเกิดมาเป็นมนุษย์ใหม่เท่านั้น มันตัดอบายภูมิ ใช่ไหม…ได้กำไรตั้งเยอะ ดีไม่ดีเป็นอรหันต์เสียชาตินี้หมดเรื่องหมดราวไปเลย เพราะมันเหลือแค่เศษกรรม ใช่ไหม…ดอกเบี้ยมันนิดหน่อย เอาอย่างนั้นนะ

    จำไว้แค่นี้ก็แล้วกันนะ เอาเวลานี้ให้มันดีอยู่เสมอ อย่าไปเอาเวลาอื่นนะ เวลาปัจจุบันนี้เมื่อความรู้สึกยังมีอยู่ให้จิตมันว่างจากอารมณ์ที่เป็นอกุศล ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ให้ทรงอนุสสติ อนุสสติ แปลว่า การตามนึกถึง คือให้นึกถึงความดีอยู่เสมอ อนุสสติก็มี พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ สีลานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ กายคตานุสสติ อุปสมานุสสติ และอานาปานุสสติ

    ถ้าเราตามนึกถึงอนุสสติอย่างใดอย่างหนึ่ง มันเป็นเรื่องของความดี ทีนี้ความดีที่เราจะไปชำระหนี้ความชั่วเดิมให้หมดไป ถ้าจะไปนิพพานรับรองไม่ได้ไปแน่ เพราะอะไร เกิดทุกชาติก็สร้างเรื่อย เสริมความชั่วอยู่เสมอ ทีนี้ทางพระพุทธศาสนาเราไม่มีการล้างบาป แต่ว่าทางพุทธศาสนาให้สร้างกำลังจิตในด้านความดี ให้มีกำลังสูง เพื่อหนีบาปให้พ้นไป ถ้าจิตติดด้านความดีฝ่ายสูงมันก็มี ๔ ขั้นคือ

    ๑. พระโสดาบัน
    ๒. พระสกิทาคามี
    ๓. พระอนาคามี
    ๔. พระอรหันต์
     
  8. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,117
    พระธาตุเสด็จ

    พระธาตุเสด็จที่บ้าน (เสด็จใต้หมอนหนุนศีรษะ) วันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย. 2556 (วันพระ)

    [​IMG]
    พระองค์มาโปรด สร้างกำลังใจในการรักษาศีลและทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 มิถุนายน 2013
  9. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    แล้วเรื่อง"อจิณไตย"ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
    เมื่อ"หลานท่านปู่พญานาคองค์หนึ่ง"...มารับของเสด็จ
    ที่เป็นสมบัติของตัวเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06115.JPG
      ขนาดไฟล์:
      0 bytes
      เปิดดู:
      98
    • DSC06116.JPG
      DSC06116.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      81
    • DSC06117.JPG
      DSC06117.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      85
  10. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    "ปู่ฤาษีจากแดนไกล"
    ผมอธิษฐานถึงท่านปู่ฤาษี...เกาะแก้วพิสดาร

    หลังจากที่ได้อัญเชิญ"พระปางเปิดโลก"
    ไปประดิษฐานยังเกาะแก้วเมื่อคราวก่อน...

    เมื่อกลับมาตั้งใจให้...พี่รุ่นที่4...อาราธนารูปเหมือนท่านไว้กราบเคารพบูชา
    และท่านก็เสด็จมาประทานให้... วันพระ ที่ 23 มิถุนายน 56
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06078.JPG
      DSC06078.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      70
    • CIMG0494.JPG
      CIMG0494.JPG
      ขนาดไฟล์:
      833.6 KB
      เปิดดู:
      63
    • CIMG0489.JPG
      CIMG0489.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      72
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2013
  11. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    "พระแก้วมณีโชติ"
    พิมพ์พระเจ้าแม่กวนอิม และพระพุทธนาคปรก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06103.JPG
      DSC06103.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      57
    • DSC06102.JPG
      DSC06102.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      61
    • DSC06104.JPG
      DSC06104.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      48
  12. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    พระแก้วมณีโชติ ที่เสด็จมานั้น จะมีกลิ่นหอมมากๆๆๆ...
    คงจะเป็นกลิ่นของสวรรค์...ตามชั้นที่ท่านอยู่....

    ผมเองตอนนี้เวลาทำอะไร...ต้องมีสติตลอดเวลา...
    ต้องไม่ละเมิดศีล...กลัว...ลงนรก
    ที่ผ่านมาก็ทำผิดศีลไว้เยอะ...ตอนนี้เลยต้องพยายาม ...กลัวสอบไม่ผ่าน


    ชาตินี้ได้เกิดเป็นมนุษย์....แล้วมีวาสนาได้พบสิ่ง"อจิณไตย"แบบนี้แล้ว...
    คงต้องเร่งปฎิบัติให้มีดวงตาเห็นธรรม....

    การบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้...ผมได้รับคำเตือนมาแล้ว...
    บางอย่างผมจะไม่สามารถ...บอกเล่าได้แล้วนะครับ


    ขอให้มนุษย์ทุกผู้ทุกนามเร่งปฎิบัติกันเถอะ...เวลาเหลือน้อยแล้ว
    ในชีวิตคนเรามันสั้น...สำรวม กาย วาจา ใจ...แล้วร่วมกัน"สวดมนต์ไหว้พระ...นั่งสมาธิ"

    ทำบุญตามกาล รักษาศีล...เจริญภาวนา....

    ส่วนใครที่รู้ตัวว่ามีหน้าที่...ที่พระเบื้องบนท่านบัญชามา...
    ก็ให้ทำอย่างสุดความสามารถเถอะ....
    ตายไปแล้วจะได้ไม่สูญเปล่านะ...
    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06079.JPG
      DSC06079.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.6 MB
      เปิดดู:
      65
    • DSC06083.JPG
      DSC06083.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      63
    • DSC06080.JPG
      DSC06080.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      61
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2013
  13. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    เดือน มิถุนายน 2556 ( ยอดณ.วันที่ 26 มิย. 56 )

    ยอดสะสมเป็นเงิน 8,000 บาท

    เหล่าลูกหลาน....
    ทั้ง 3 โลก 3 ไตรภพ
    สวรรค์ มนุษย์ บาดาล

    ร่วมสร้างบุญสร้าง
    "พระมหาธาตุเจดีย์ เกศแก้ว จุฬามณี ศรีอริยเมตไตย"

    คุณ วทัญู (ภูเก็ต) จำนวนเงิน 3,000 บาท

    ท่านนี้ร่วมบุญมา หลายครั้งแล้ว
    ขออนุโมทนาบุญด้วย ครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.9 MB
      เปิดดู:
      65
  14. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ลูกหลานของเทพเทวา... พญานาค...ทั้ง 3โลกธาตุ
    เพื่อร่วมบุญสร้าง "พระมหาเจดีย์ เกศแก้ว จุฬามณี ศรีอริยเมตไตย"


    เดือนมิถุนายน 2556

    คุณ ฉลอง และ คุณ ชิดชม ประดิษฐ์สุวรรณ เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท

    ยอดเดือน มิถุนายน 2556 (ณ.วันที่ 26 มิย. 2556)
    เป็นจำนวนเงินสะสม 18,000 บาท


    ขอนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ขอให้ท่านผู้ใจบุญ ทั้งสองท่าน...เจริญๆยิ่งในธรรมอันสูงสุด... ครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ
    อนุโมทนามิ


    1.คุณ Koongula 1,000 บาท
    2.ดร. วรรณวิทย์ แต้มทอง 500 บาท
    3.ญาติธรรม อเมริกา 1,000 บาท
    4.ไม่ประสงค์ออกนาม 1,000 บาท
    5.คุณ วรินทร์ธร 500 บาท
    6.คุณ นันทิชา สายสวาท 1,000 บาท
    7.คุณ วทัญู (ภูเก็ต) จำนวนเงิน 3,000 บาท


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.9 MB
      เปิดดู:
      75
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2013
  15. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ท่านปู่ฯ ท่านมาร่วมบุญสร้าง บารมีนะลูกหลานทั้งหลาย...
    การที่ลูกหลานได้สร้างบารมีแล้ว....
    ไม่ว่าจะไปทำบุญที่วัดไหนหรือการปฎิบัติภาวนา..

    อย่าลืมโดยเด็ดขาด...ขอให้โมทนาบุญส่วนกุศลทั้งหลายนี้...
    ให้เทพเทวา...ประจำตัว....
    ท่านปู่ท่านย่าพญานาค....
    และดวงจิตทิพย์ญาณทั้งหลาย...

    โดยการหยาดน้ำ
    และขอให้พระแม่ธรณีท่านเป็นพยานนะ...
    ให้ได้นำน้ำที่ข้าพเจ้าหยาดนี้...โมทนาบุญแด่ทุกท่าน...
    ทุกดวงจิตทิพย์ญาณ..ทั้งที่เอ่ยนามและไม่เอ่ยนามด้วยเทอญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2013
  16. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    เช้าวันนี้ได้เมล์คุยกับหลานสาว...ของท่าน"ปู่ภุชงค์นาคราช"
    ท่านมาสอนลูกหลานในการนั่งสมาธิภาวนา...
    และท่านปู่ฯมาร่วมสร้างบารมี...กับน้องเค้า...
    อีกหน่อยน้องเค้าบารมีเต็ม...
    ก็คงจะสามารถโปรด...รักษาคนได้ครับ
    ดีใจจัง..เราพบเจออีกท่านแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC05645.JPG
      DSC05645.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      63
    • DSC05661.JPG
      DSC05661.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3 MB
      เปิดดู:
      53
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2013
  17. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    "ท่านปู่ท่านเสด็จมาให้...ลูกหลาน"
    ในภายภาคหน้า..สิ่งนี้...จะเป็นสิ่งจำเป็น...
    ที่ใช้ในการสร้างบารมี...ร่วมกับท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06119.JPG
      DSC06119.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.3 MB
      เปิดดู:
      67
    • DSC06125.JPG
      DSC06125.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.9 MB
      เปิดดู:
      86
    • DSC06120.JPG
      DSC06120.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      75
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2013
  18. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    "พระพิฆเณศร์" เนื้อเหล็กไหลเจ็ดสี...สวยงามมาก...
    ศาสตราวุธของท่านยังไม่เสด็จมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06122.JPG
      DSC06122.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      59
    • DSC06123.JPG
      DSC06123.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.5 MB
      เปิดดู:
      82
    • DSC06121.JPG
      DSC06121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      49
  19. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    แสงแห่ง"หมู่เทพ... เทวา...และสิ่งศักดิ์สิทธิ์"
    ที่องค์ท่านรักษาพระบรมสารีริกธาตุ
    และพระแก้วมณีโชติ....
    ท่านมาปรากฎให้มนุษย์ได้เห็นแสงขององค์ท่านครับ
    เป็นภาพเดียวที่ท่าน...จะให้เห็นครับ
    ขอองค์ท่านเมื่อคืนนี้...ผมอยากให้มนุษย์...
    ได้เห็นแสงแห่งองค์เทพ...
    (ต้องขยายภาพถึงจะห็น...ตรงองค์พระสีแดง ครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06131.JPG
      DSC06131.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      163
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2013
  20. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    "สิ่งศักดิ์สิทธิ์...ที่สำคัญท่านเสด็จ..."มาในผอบ.....
    "พระบรมสารีริกธาตุ พระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
    สัณฐานเพชร...เป็นที่อัศจรรย์อย่างมาก ท่านเสด็จมา
    (ท่านเสด็จมาทั้งสองผอบ..สีเขียวอ่อนกับขาว)

    เมื่อ"วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2556" เวลาพี่เค้าไม่ได้แจ้งไว้

    ขอกราบนอบน้อมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง
    สาธุ สาธุ สาธุ
    อนุโมทนามิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06132.JPG
      DSC06132.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      83
    • DSC06133.JPG
      DSC06133.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.2 MB
      เปิดดู:
      78
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...