ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ใกล้เข้าเข้าไปอีกนิด ชิดเข้าไปอีกหน่อย... วิกเตอร์ ยานูโควิช อดีตผู้นำยูเครนที่ถูกยึดอำนาจเสนอให้ภูมิภาคดอนบาสส์ทำประชามติกรณียูเครนไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์ก เข้าทางปูตินอีกแล้ว
    ------------

    วันที่ 24 ก.พ.60 BBC พาดหัวข่าวว่า "ยานูโควิชเรียกร้องให้ทำประชามติเกี่ยวกับสถานะของภูมิภาคดอนบาสส์ หากกรุงเคียฟล้มเหลวในข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์ก" (Yanukovych Calls for Donbass Status Referendum if Kiev Fails Minsk Deal)

    อดีตประธานาธิบดี Viktor Yanukovych แห่งยูเครนเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย, ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ นายกรัฐมนตรีแองเกล่า แมร์เกิล แห่งเยอรมัน, ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส และประธานาธิบดีแอนด์รเซจ ดูด้า แห่งโปแลนด์ รวมทั้งเหล่าผู้นำในสภาอียูด้วย โดยเรียกร้องให้มีการทำประชามติเกี่ยวกับสถานะของภูมิภาค Donbass ในยูเครนตะวันออกเฉียงใต้ กรณีกรุงเคียฟไม่ยอมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง

    "ในสถานการณ์ที่รัฐบาลปัจจุบันของยูเครนล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อตกลงกรุงมินส์ก มีความจำเป็นที่จะต้องเริ่มการทำประชามติเกี่ยวกับสถานะของดอนบาสส์" อดีตประธานาธิบดียานูโควิชเขียนไว้ในจดหมายที่ส่งถึงบรรดาผู้นำระดับโลก

    อดีตผู้นำยูเครนได้เสนอให้เชิญผู้นำของสาธารณรัฐ Donetsk และ Lugansk ร่วมในกระบวนการสร้างความปรองดองที่ประกอบด้วยรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และยูเครนด้วย

    ยานูโควิชยังได้เรียกร้องให้บรรดาผู้นำโลก "ริเริ่มการก่อตั้งคณะกรรมการพิเศษจาดสภาอียูเพื่อสังเกตการณ์เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมต่างๆที่เกิดขึ้นที่จตุรัสไมดาน" ด้วย

    ความขัดแย้งในภูมิภาคดอนบาสส์ปะทุขึ้นในเดือนเมษายน 2014 จากการปะทะและต่อสู้กันของประชาชนท้องถิ่นกับกลุ่มที่ทำรัฐประหารในไมดานในกรุงเคียฟซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ซึ่งโค่นอำนาจของประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ที่มีความชอบธรรมตามกฎหมายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2014

    ประชาชนในภูมิภาคโดเน็ทส์กและภูมิภาคลูกังส์ก (ลูฮานส์ก) ได้จัดให้มีการทำประชามติและประกาศเป็นสาธารณรัฐประชาชนแห่งโดเน็ทส์ก และสาธารณรัฐประชาชนแห่งลูกังส์ก จากนั้นกรุงเคียฟก็มีปฏิบัติการทางทหารเผชิญหน้ากับประชาชนท้องถิ่นที่แข็งข้อ (ต่อกองทัพของฝ่ายรัฐบาลกลาง จนนำไปสู่สงครามในภาคตะวันออกของยูเครนระหว่างกองทัพฝ่ายรัฐบาลยูเครนกับกองทัพฝ่ายกบฏยูเครนซึ่งฝ่ายหลังนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย และฝ่ายรัฐบาลยูเครนได้รับการสนับสนุนจากแก๊งนาโต้)

    ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 กองทัพของกรุงเคียฟ และฝ่ายที่สนับสนุนการประกาศเอกราชภูมิภาคดอนบาสส์ได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพ ในกรุงมินส์ก เมืองหลวงของประเทศเบลารุส ข้อตกลงฉบับนี้กำหนดให้มีการหยุดยิงทั้งหมด ให้มีการถอนอาวุธต่างๆออกาจากเส้นปะทะ (เขตสู้รบ) ในดอนบาสส์ รวมทั้งการปฏิรูปรัฐธรรมนูญซึ่งจะให้สถานะพิเศษแก่สาธารณรัฐประชาชนโดเน็ทส์กและลูกังส์ก แม้ทั้งสองฝ่ายจะได้ทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว (โดยมีผู้นำของรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และเบลารุสซึ่งเป็นเจ้าภาพสถานที่จัดประชุมเป็นพยาน) แต่ก็ยังมีการละเมิดการหยุดยิงอยู่บ่อยครั้ง ทั้งสองฝ่ายต่างก็กล่าวโทษกันไปมาว่าละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายอนุสนธิสัญญาดังกล่าว

    [ปัจจุบันนี้นายวิคเตอร์ ยานูโควิช ลี้ภัยอยู่ที่รัสเซีย โดยอาศัยอยู่ที่เมือง Rostov-on-Don ในแคว้น Rostov ทางภาคใต้ของรัสเซียใกล้กับชายแดนโดเน็ทส์ก โดยอยู่ในบ้านเช่าหลังเล็กๆแห่งหนึ่งในชุมชนญาติฝ่ายแม่ของเขา วิคเตอร์เกิดที่โดเน็ทส์กในยูเครนตะวันออก ฐานเสียงของเขาอยู่ในยูเครนตะวันออก และตอนนี้กำลังเดินสายพูดคุยกับบุคคลสำคัญทางการเมืองในพื้นที่เพื่อกลับมาเล่นการเมืองในยูเครน (ตะวันออก) อีกครั้ง TASS รายงาน

    ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ก้าวแรกของปูตินคือประกาศรับรองพาสปอร์ตและเอกสารประจำตัวต่างๆของประชาชนในสองสาธารณรัฐแห่งนี้ จากนั้นคาดว่าอาจจะจัดให้มีการเลือกตั้งหรือทำประชามติอะไรซักอย่างเกี่ยวกับอนาคตของดอนบาสส์ ซึ่งล่าสุดนายวิคเตอร์ก็เสนอให้ดอนบาสส์ทำประชามติถ้ารัฐบาลกลางของยูเครนยังพยายามยื้ออยู่แบบนี้

    เมื่อมีการทำประชามติอย่างเป็นทางการเหมือนกับกรณีของไคร์เมีย รัสเซียก็จะสามารถส่งกองทัพของตนเองเข้าไปในยูเครนตะวันออกได้อย่างเปิดเผย หากได้รับการร้องขอจากดอนบาสส์ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าดอนบาสส์จะทำประชามติให้ตัวเองมีสถานะอะไร แต่ถ้าทำประชามติให้ดอนบาสส์เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเหมือนไคร์เมีย ปูตินบอกว่าหวานหมู สหรัฐ อียู แก๊งนาโต้ก็จะออกมาชักดิ้นชักงออีกรอบ แล้วก็ตามด้วยการแซงชั่นรัสเซียในข้อหารุกรานและยึดดินแดนของยูเครนอีกครั้ง - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    23/02/2560
    ----------
    https://sputniknews.com/…/201702221050931743-yanukovych-do…/
    https://www.rt.com/…/378211-yanukovich-interview-crime-ukr…/
    https://www.rt.com/n…/378262-yanukovich-maidan-crimes-eu-us/
    http://tass.com/world/932302

    [​IMG]
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช นาโต้กำลังแบ่งเค้กกลุ่มประเทศบอลติกและโปแลนด์โดยยกเรื่องภัยคุกคามจากรัสเซียมาขู่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเดนมาร์กยึดเอสโตเนีย แคนาดายึดลัตเวีย เยอรมันยึดลิทัวเนีย สหรัฐหัวหน้าแก๊งจับมือกับอังกฤษและโรมาเนียยึดโปแลนด์ ส่วนสี่ประเทศเจ้าบ้านก็หลงระเริงดีใจว่ามีพันธมิตรมาคุ้นกันให้แล้ว ที่ไหนได้ตัวเองกำลังตกเป็นเมืองขึ้นของพวกนักล่าอาณานิคมสมัยใหม่นั่นเอง
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    The Washington Post หนึ่งในสำนักข่าว Fake News อันดับต้นๆของสหรัฐขึ้นสโลแกนใหม่ว่า "Democracy Dies in Darkness" (ประชาธิปไตยตายในความมืด) หลังนางฮิลลารี่แพ้เลือกตั้งให้กับทรัมป์
    -------------
    https://sputniknews.com/us/201702231050963971-democracy-dies-in-darkness-twitter/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2017
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    พวกกบฏฝ่ายค้านซีเรียในเมือง Serghaya หรือ Sirghaya เขตชนบทของกรุงดามัสกัสยอมวางอาวุธเข้ามอบตัวกับกองทัพของฝ่ายรัฐบาลซีเรียเข้าร่วมกระบวนการปรองดองเพื่อรับการนิรโทษกรรม (22 ก.พ.60)
    ----------------


    https://www.youtube.com/watch?v=tHG5kcb3jKM
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2017
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    บางส่วนซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายที่ยอมแพ้แต่ไม่ยอมวางอาวุธก็จะขอย้ายไปรวมกับพรรคพวกที่จังหวัด Idlib หรือเดินทางกลับประเทศของตนเองโดยมีรถทัวร์ปรับอากาศมารับถึงที่ มีเจ้าหน้าที่ยูเอ็น กาชาดสากลและองค์กรจันทร์เสี้ยวแดงคอยอำนวยความสะดวกให้ เป็นพวกหน่วยงานและองกรณ์ที่เมื่อวานนี้ดราม่าโวยวายว่าถูกโจรไม่ทราบฝ่ายดักปล้นสิ่งของบรรเทาทุกข์กลางทาง แทนที่จะบอกว่าส่งเสบียงอาหารและอาวุธต่างๆไปให้พวกผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ al-Waer (20 ก.พ.60)
    ------------------

    https://youtu.be/PFVgPSHbC4w
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2017
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เอาแล้วไง ไทยแลนด์โมเดลหรืออเมริกาโมเดล? กลุ่มผู้ประท้วงโปร-ผู้อพยพ ยึดสนามบินมิวนิกต่อต้านการส่งตัวผู้อพยพและผู้ขอลี้ภัยชาวอัฟกานิสถานในเยอรมันกลับประเทศ ก่อนหน้านี้มีบางคนบอกว่า ประเทศที่เจริญแล้วเขาไม่ยึดสนามบินหรือสถานที่ราชการเหมือนบางประเทศหรอกนะ แล้วนี่อะไรครับ? (22 ก.พ.60)
    ------------------

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    นาย Abu-Zakariya al-Britani พลเมืองอังกฤษ มือระเบิดฆ่าตัวตายด้วยคาร์บอมบ์ใกล้ฐานทัพของอิรัคทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองโมซูลเมื่อวันก่อนนี้ เคยได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลอังกฤษจำนวน £1,000,000 ($1,250,000) จากการติดคุก Gitmo เป็นเวลา 12 ปี ซึ่งเป็นคุกลับของ CIA สหรัฐที่อ่าวกวนตานาโมในคิวบา พอหลุดจากคุกออกมาก็ได้รับเงินค่าปิดปากจากรัฐบาลอังกฤษ และก็ไปเข้าร่วมกับขบวนการก่อการร้ายไอซิสในอิรัค แหม… สหรัฐใช้เวลาถึง 12 ปีและงบไม่ต่ำว่า 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐในการฝึกมือระเบิดฆ่าตัวตายขึ้นมาหนึ่งคนนะนี่ (22 ก.พ.60)
    -------------

    https://www.youtube.com/watch?v=Atn0l4BHn8Y
    https://www.rt.com/uk/378234-suicide-bomber-mosul-guantanamo/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]
    Narudsaruk Likitcharoenkron

    ข่าวร้ายมาอีกแล้วล่ะ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หน่วยงานวิจัยแผ่นดินไหวของรัฐบาลญี่ปุ่นออกมาเปิดเผยว่า ได้ค้นพบรอยเลื่อนแห่งใหม่ใต้แผ่นดินของเกาะญี่ปุ่น ซึ่งรอยเลื่อนเหล่านี้มีโอกาสที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรงได้ถึง แม็กนิจูด 7 ( M7 )

    รอยเลื่อนแห่งใหม่ที่ค้นพบอยู่ในภูมิภาคคันโต จูโคะคุ และคิวชูตามลำดับ จากที่เคยมีอยู่แล้วก่อนหน้านี้ 97 แห่ง ค้นพบใหม่อีก 16 แห่ง รวมเป็นทั้งหมด 113 แห่ง 〜

    เชื่อกันว่ารอยเลื่อนที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ใต้เปลือกโลกบนแผ่นดินของญี่ปุ่นนั้นมีถึงกว่า 2,000 แห่งเลยทีเดียว ในจำนวนนี้หน่วยงานวิจัยแผ่นดินไหวได้คัดเลือกเอาเฉพาะรอยเลื่อนที่มีขนาดความยาวเกินกว่า 20 กิโลเมตรขึ้นไปมาวิเคราะห์หาข้อมูลรายละเอียด เนื่องจากมันมีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างสูงในอนาคต ดังนั้นรัฐบาลต้องมีข้อมูลที่ต้องใช้เตรียมพร้อมในการวางแผนการรับมือและฝึกซ้อมเตือนภัยให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตนั้นๆนั่นเอง 〜

    ในครั้งนี้มีการค้นพบรอยเลื่อนแห่งใหม่อีก 2 แห่งในภูมิภาคคันโต 8 แห่งในภูมิภาคจูโคะคุ และ 6 แห่งในเกาะคิวชู ซึ่งรอยเลื่อนเหล่านี้ถูกจัดเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยกำหนดให้เป็นรอยเลื่อนที่มีอันตรายก่อนหน้านี้แล้ว นั่นคือรอยเลื่อน อิโตอิกาวะ แถวๆเมืองชิสึโอกะ และรอยเลื่อน
    มิโนบุ ซึ่งอยู่แถวๆอำเภอฟุจิโยชิดะ จังหวัดยามะนาชิ และแถวๆบริเวณรอบๆภูเขาไฟฟุจินั่นแหละครับ 〜

    นอกจากนั้นก็มีรอยเลื่อนชินจิ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่จังหวัดชิมาเนะ รอยเลื่อนมิโดริกาวะที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่จังหวัดคุมาโมโตะเมื่อปีที่แล้วอีกด้วย เวรกรรมจริงๆน้อ 〜

    รัฐบาลบอกว่า จากความเสียหายของการเกิดแผ่นดินไหวขนาด แม็กนิจูด 6.8 ที่จังหวัดนีงาตะในปี 2004 ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมารัฐบาลได้ทำการประเมินค่ารอยเลื่อนขนาดเล็กที่ยังคงซุกซ่อนอยู่ใต้ผืนโลกอีกที ทั้งนี้ก็เพื่อใช้คำนวณถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ภายในสามสิบปีข้างหน้านี้ 〜

    โดยรัฐบาลได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดคือการใช้ระบบคลื่นเสียงวัดการเคลื่อนตัวของผืนดิน เพื่อใช้ในการกำหนดบ่งชี้ความยาวของรอยเลื่อนเหล่านี้จากทั้งภายใต้ผืนดินและบนผิวหน้าดิน ภายในสามสิบปีนับจากนี้ไปมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากรอยเลื่อนในทั้งสามภูมิภาคที่ค้นพบใหม่และในบริเวณอื่นๆอีกด้วยอย่างค่อนข้างแน่นอนล่ะครับท่าน
    จบข่าวร้ายภาคเช้า 〜

    http://headlines.yahoo.co.jp/hl?a=20170222-00000101-asahi-pol
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัฐบาลอาจจะมาปฏิรูปหน่วยงานในไม่ช้า ? ทำไมยังจะต้องฟันธงอีเอสไอเอว่าจะศึกษาเพิ่มหรือเริ่มใหม่ หน่วยราชการก็ควรเชื่อฟังนายกรัฐมนตรี เคารพมาติ ครม.

    กฟผ.ไม่ฟันธงอีเอชไอเอโรงไฟฟ้ากระบี่ ศึกษาเพิ่มหรือเริ่มใหม่ คาดสัปดาห์หน้ารู้ผล 18:08 | 22 กุมภาพันธ์ 2560 | 725

    [​IMG]


    กฟผ.เผยยังไม่ชัดเจนว่า EHIA โรงไฟฟ้ากระบี่ และ EIA โครงการท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหินคลองรั้ว จะเดินหน้าอย่างไร จะประสานกับ สผ.เพื่อหาความชัดเจน ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดความเข้าใจให้ตรงกันเพราะมีคณะกรรมการไตรภาคีเข้ามาร่วมด้วย คาดรู้ผลสัปดาห์หน้า

    วันนี้ (22 ก.พ.2560) นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโฆษก เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า EHIA โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และ EIA โครงการท่าเทียบเรือคลองรั้วจะเดินหน้าต่ออย่างไร เนื่องจากมีผู้เข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มเติมคือ คณะกรรมการไตรภาคีเข้ามีส่วนร่วมด้วย จึงจะขอหารือสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) ก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนสัปดาห์หน้า

    “เมื่อหารือแล้ว จึงจะมองเห็นแนวทางว่าจะให้ไตรภาคีเข้ามามีส่วนร่วมมากน้อยอย่างไร ในรูปแบบใด แม้ว่าจะไม่ได้มีขั้นตอนตามกฎหมายก็ตาม แต่ กฟผ.เห็นว่าควรจะให้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น” นายสหรัฐ กล่าว

    ส่วนประเด็นที่ สผ.ได้ให้ กฟผ.ส่งข้อมูลเพิ่มเติม 17 ประเด็นใหญ่ 143 ประเด็นย่อย ตามรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม รองผู้ว่าการ กฟผ.ระบุว่า มีการส่งข้อมูลไปให้ครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว แต่ให้มีการถอนคำชี้แจงกลับออกมาก่อน

    “ตอนนี้คำตอบทั้งหมดที่ สผ.ทั้งการขอข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนจะต้องชี้แจงเพิ่มเติมอย่างไร จะทำเพิ่มแค่ไหน จะถามเพิ่มเติมอะไรบ้าง จะมีคำถามใหม่หรือไม่ จะประสาน สผ.สัปดาห์หน้าพร้อมกับเรื่องแนวทางว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป” รองผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

    นอกจากนี้รองผู้ว่าการ กฟผ.ยังบอกอีกด้วยว่า มีการถอดบทเรียนจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินด้วย ว่าที่เกิดปัญหาประชาชนได้รับผลกระทบตั้งแต่ก่อนปี 2535 เพราะไม่มีการติดเครื่องดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เมื่อติดตั้งเครื่องจนครบในปี 2541 หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีก ส่วนโรงไฟฟ้ากระบี่จะมีการป้องกันปัญหาโดยการติดเครื่องดักก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตั้งแต่แรก นอกจากนี้ยังจะติดเครื่องดักไนโตรเจนออกไซด์ ฝุ่นขนาดเล็ก และสารปรอท โดยบอกว่าจะไม่เกิดปัญหาเช่นที่เคยเกิดขึ้นที่แม่เมาะ




    https://news.thaipbs.or.th/content/260393
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เครือข่ายปกป้องอันดามันฯ ออกแถลงการณ์ยื่น 4 ข้อ ปรับรูปแบบ EIA-EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ 15:45 | 22 กุมภาพันธ์ 2560 | 619

    [​IMG]


    เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ออกแถลงการณ์ พร้อมยื่น 4 ข้อเสนอในการจัดทำ EIA-EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ใหม่ โดยต้องตั้ง คณะกรรมการกลางในการจัดทำรายงาน โดยรวมต้นทุนสิ่งแวดล้อมด้วย มั่นใจโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่มีทางได้เกิดที่ จ.กระบี่

    วันนี้ ( 22 ก.พ.2560) เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ที่ผ่านมา เครือข่ายปกป้องอันดามัน ออกแถลงการณ์ หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำ EIA และ EHIA ใหม่ กรณีก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ โดยมีเนื้อหาดังนี้

    แถลงการณ์เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ฉบับที่ 3 / 2560

    ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำ EIA และ EHIA ใหม่ กรณีก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ถ้า EIA ทำไม่ได้ ก็ไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจังหวัดกระบี่ รวมถึงให้ทำรายงานผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงการดำเนินโครงการ หรือ EHIA เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงโดยรัฐบาลได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับสูงเข้ามาดูแลนโยบายและยุทธศาสตร์ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

    เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินมีข้อเสนอเพิ่มตามที่ได้เจรจากับผู้แทนรัฐบาลคือแม่ทัพภาคที่1 ว่าต้องมีการจัดทำรายงานในรูปแบบใหม่ที่ยุติธรรมตรงตามหลักวิชาการ ดังนี้

    1.ในกระบวนการจัดทำครั้งใหม่นี้ต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พศ.2535 คือเป็นการจัดทำเพื่อประเมินทางเลือกการพัฒนาที่เหมาะสมของพื้นที่ โดย มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเป็นกลางขึ้นมาชุดหนึ่งทำหน้าที่กำกับกระบวนการทั้งหมด และให้หน่วยงานนิติบุคคลที่มีความเป็นกลางเป็นผู้ดำเนินการจัดทำรายงานไม่ใช่ให้ กฟผ.จ้างบริษัทมาดำเนินการจัดทำเหมือนรูปแบบเดิมที่ผ่านมา

    2.ในด้านเนื้อหาการจัดทำต้องมีลักษณะสำคัญดังนี้
    2.1 การจัดทำ SEA (Strategic Environmental Assessment) ให้แน่ใจว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินจะสอดคล้องและอยู่ร่วมกับแผนพัฒนากระบี่ 2020 ต้องมีการประเมินทางเลือกในการผลิตไฟฟ้า อื่นๆ เช่น พลังงานหมุนเวียน (ชีวมวล แสงอาทิตน์ ลม) ในระดับที่มีรายละเอียดเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าถ่านหินและประเมินผลกระทบทั้ง 3 มิติตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน (เศรษฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และ สังคม)

    2.2 ต้องทำการประเมินผลกระทบเป็นมูลค่าความเสียหายออกมาเป็นค่าตัวเลขในรูปต้นทุนภายนอก (Externality) หากไม่มีมาตรการลดผลกระทบ โดยต้องบอกได้ว่าภาคส่วนใดถูกผลักภาระต้นทุนภายนอกนี้ไป ทั้งนี้ต้องรวมต้นทุนเชิงนิเวศ (Ecological Service) ไว้ด้วย

    2.3 การดำเนินการคำนวณต้นทุนภายนอก (Externality) ควรอิงงานวิจัย โดยใช้นักวิจัยที่เป็นกลาง และ น่าเชื่อถือทางวิชาการ มีเอกสารอ้างอิง หรือ เป็นวิจัยตรงในพื้นที่ โดยให้นักวิชาการจัดทำข้อมูลที่ถูกต้อง

    2.4 เมื่อกำหนดมาตรการลดผลกระทบแล้วต้องประเมินความเสียหายออกมาเป็นค่าตัวเลข (มูลค่าบาท) (Externality) และ ต้องบอกได้ว่าใครที่จะได้รับผลกระทบนี้ไป ทั้งนี้ต้องรวมต้นทุนเชิงนิเวศ (Ecological Service) ไว้ด้วย และ ต้องมีการซื้อประกันความเสี่ยงกับธนาคารหรือสถาบันเอกชนที่ขายประกันเท่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากมีมาตรการลดผลกระทบแล้ว โดยให้เน้น ภาคประมง ท่องเที่ยว และ เกษตรกรรม

    2.5 ต้องเอาต้นทุนภายนอกที่ต้องทำการประกันนี้ไปรวมกับต้นทุนภายใน และ ใช้ประกอบการประเมินว่าการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจะคุ้มทุนหรือไม่โดยต้องมีคณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องของการประเมิน

    3.ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้นนอกจากอยู่ในคณะกรรมการแล้วจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยรัฐต้องไม่ใช้อำนาจฝ่ายปกครองในการเกณฑ์คนมาสนับสนุน ฝ่ายความมั่นคงจะต้องไม่ใช้กองกำลังมากีดกันผู้เห็นต่างอย่างที่เคยเกิดขึ้น

    4.การจัดทำรายงานครั้งนี้จะต้องเป็นรายงานที่อยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ ไม่ใช่การจัดทำรายงานในพื้นที่ปกติทั่วไป ซึ่งต้องมีรายละเอียดการประเมินจำนวนมาก โดยรายงานทั้ง 2 ฉบับ คือ โรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเรือขนถ่านหิน ต้องใช้เวลาจัดทำตามระบบนิเวศจริง นั่นคือระยะเวลาจัดทำต้องมากพอในการศึกษารายละเอียดการประเมินแต่ละประเด็น โดยอาจต้องใช้เวลาการประเมินแต่ละฉบับไม่ต่ำกว่า 3-5 ปี

    เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินยืนยันว่าหากดำเนินการจัดทำรายงานตามหลักวิชาการ โรงไฟฟ้าไม่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าพื้นที่ใดในโลก เพราะไม่มีเทคโนโลยีที่ลดผลกระทบได้ มิพักต้องพูดถึงว่ากระบี่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ (แรมซ่าไซด์) และเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวที่มีระบบนิเวศสวยงามสมบูรณ์ 1 ใน 10 ของโลก โรงไฟฟ้าถ่านหินจึงไม่มีทางเกิดขึ้นบนแผ่นดินกระบี่โดยเด็ดขาด

    เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน

    22 กุมภาพันธ์ 2560


    http://news.thaipbs.or.th/content/260391
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]
    ตื่นตะลึงไปทั้งโลก!! "นาซ่า" แถลงข่าวใหญ่ "พบระบบสุริยจักรวาลแห่งใหม่" อาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่ด้วย (คลิป - รายละเอียด)
    Publish 2017-02-23 06:04:43

    สำนักข่าวเอพี รายงาน การแถลงข่าวใหญ่ของนาซ่า เมื่อกลางดึกวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 ตามเวลาประเทศไทย โดยให้ข้อมูลว่า คณะนักวิจัยองค์การการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ นาซา ได้มีการค้นพบระบบสุริยจักรวาลแห่งใหม่ เป็นดาว 7 ดวงขนาดใกล้เคียงกับโลก โคจรรอบดาวดวงหนึ่ง ในจำนวนนี้ 3 ดวงอยู่ในสภาพแวดล้อมและระดับอุณหภูมิที่เป็นไปได้ว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตอยู่ด้วย


    [​IMG]


    การค้นพบครั้งนี้เกิดจากการศึกษา จากกล้องโทรทรรศน์สำรวจอากาศ ที่ติดตั้งอยู่ในประเทศชิชี ได้ตรวจพบกลุ่มดาวดังกล่าวห่างออกไป 40 ปีแสง โดยดาวทั้ง 7 ดวงนั้นมีการโคจร รอบดาวอีกดวง แต่สิ่งที่น่าสนใจพบว่า กลุ่มดาวดังกล่าวนั้น อย่างน้อยมี 3 ดวง อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ด้วย






    นายโธมัส เซอร์บูเชน รองผู้อำนวยการกรมภาระกิจวิทยาศาตร์ ของนาซ่า กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้อาจเป็นจิ๊กซอว์สิ้นสำคัญที่ช่วยไขปริศนาการค้นหาสภาพแวดล้อมที่สิ่งมีชีวิตสามารถอาศัยอยู่ได้ในห้วงจักรวาลนี้


    ระบบดาวเคราะห์ที่ค้นพบครั้งนี้มีชื่อว่าแทรพพิสต์-1 มาจากชื่อของกล้องโทรทัศน์ในประเทศชิลีที่ค้นพบดาวเคราะห์นี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2559 โดยในขณะนั้นค้นพบดาวเคราะห์แค่3ดวงก่อน จากนั้นสถานีกล้องโทรทัศน์ภาคพื้นหลายแห่งรวมทั้งสปิตเซอร์จะออกมายืนยันการมีอยู่ของดาวเคราะห์ 2 ใน 3 ดวงที่ค้นพบนี้ ก่อนจะค้นพบดาวเคราะห์เพิ่มอีก 5 ดวง รวมเป็น 7 ดวง

    ระบบแทรพพิสต์-1 อยู่ห่างจากโลกเป็นระยะทางประมาณ 40 ปีแสง หรือประมาณ 378 ล้านล้านกิโลเมตร

    นอกจากนี้ ดาวเคราะห์ในระบบแทรพพิสต์-1 ยังหันหน้าด้านเดียวเข้าหาดาวฤกษ์ ซึ่งหมายความว่าพื้นที่ของดาวจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนตลอดไป ไม่เปลี่ยนแปลงและอาจมีสภาพอากาศแตกต่างจากโลก เช่น มีลมพัดแรงจากแผ่นดินฝั่งกลางวันไปยังฝั่งกลางคืน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในลักษณะนี้รุนแรง

    [​IMG]


    Sathaporn Tnews

    http://www.tnews.co.th/contents/bg/302522
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ยุ่งกันใหญ่! เกาหลีเหนือโทษมาเลเซียกรณี “พี่ชาย คิม จองอึน” ถูกลอบสังหาร โดย MGR Online 23 กุมภาพันธ์ 2560 11:07 น. (แก้ไขล่าสุด 23 กุมภาพันธ์ 2560 12:39 น.)
    [​IMG]
    [​IMG]
    คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย
    [​IMG]
    รอยเตอร์ - เกาหลีเหนือกล่าวโทษมาเลเซียในวันนี้ (23 ก.พ.) สำหรับการเสียชีวิตของหนึ่งในพลเมืองของพวกเขาที่นั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกล่าวหาว่ามาเลเซียว่ามี “ทัศนคติไม่เป็นมิตร” จากเรื่องแต่งของเกาหลีใต้ที่ระบุว่าสายลับเปียงยางลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ

    ตอนแรกมาเลเซียบอกกับเกาหลีเหนือว่า บุคคลที่ถือพาสปอร์ตทางการทูตรายนี้เสียชีวิตหลังจากหัวใจวายที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางระบุ

    เคซีเอ็นรายงานโดยอ้างโฆษกคณะกรรมาธิการรัฐว่า มาเลเซียเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วและเริ่มทำให้เรื่องนี้ซับซ้อนขึ้นหลังจากมีรายงานในเกาหลีใต้ว่าชายคนดังกล่าวเสียชีวิตเพราะถูกวางยาพิษ

    “สิ่งที่ควรได้รับความสนใจอย่างจริงจังมากกว่าคือความจริงที่ว่า การกระทำที่ไม่เที่ยงตรงของฝ่ายมาเลเซียเกิดขึ้นพร้อมกับการปล่อยเรื่องสมคบคิดต่อต้านดีพีอาร์เคจากทางการเกาหลีใต้” เคซีเอ็นเอรายงาน โดยใช้ชื่อย่อของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (Democratic People's Republic of Korea)

    ในรายงานข่าวการสังหารอย่างเป็นทางการชิ้นแรก เคซีเอ็นเอไม่ได้ระบุชื่อผู้ที่เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลหรือยอมรับว่า เขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ระบุแต่เพียงว่าเป็น “พลเมืองของดีพีอาร์เค”

    [​IMG]
    [​IMG]
    “รัฐบาลมาเลเซียมีส่วนต้องรับผิดชอบมากที่สุดสำหรับการเสียชีวิตของเขา เนื่องจากพลเมืองของดีพีอาร์เคเสียชีวิตในแผ่นดินของพวกเขา” รายงาน ระบุ

    เมื่อวันพุธ (22) ตำรวจมาเลเซียได้ระบุชื่อนักการทูตชาวเกาหลีเหนือและเจ้าหน้าที่สายการบินของรัฐที่พวกเขาต้องการตัวมาสอบปากคำเกี่ยวกับการฆาตกรรม คิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาวัย 46 ปีของ คิม จองอึน

    ผู้บัญชาการตำรวจแดนเสือเหลือง คาลิด อาบู บาการ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองอยู่ในมาเลเซียแต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าพวกเขาอยู่ในสถานทูตเกาหลีเหนือหรือไม่

    จนถึงตอนนี้ ตำรวจยังไม่ได้ระบุชื่อของชาวเกาหลีเหนือทั้ง 8 คนที่ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการสังหารนี้ หนึ่งรายอยู่ระหว่างการควบคุมตัว

    มาเลเซียปฏิเสธคำขอของเกาหลีเหนือที่จะให้ส่งมอบศพผู้เสียชีวิตแก่สถานทูตโดยตรง โดยระบุว่า ศพจะถูกส่งให้กับคนในครอบครัวของเขาถึงแม้ว่าจะยังไม่มีใครมารับเลยก็ตาม

    รายงานของเคซีเอ็นเอกล่าวหา มาเลเซียว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการชันสูตรศพบุคคลที่ถือหนังสือเดินทางทางการทูต

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018761
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัสเซียขออัสซาดหยุดทิ้งบอมบ์ถล่มกบฏระหว่างเจรจาสันติภาพซีเรียสัปดาห์นี้ โดย MGR Online 23 กุมภาพันธ์ 2560 02:42 น. (แก้ไขล่าสุด 23 กุมภาพันธ์ 2560 09:33 น.)
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    เอเอฟพี - รัสเซียเรียกร้องประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด หยุดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศระหว่างการเจรจาสันติภาพที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ แต่แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่จะฝ่าทางตันทางการเมืองในสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 ปี จากการเปิดเผยของทูตระดับสูงของยูเอ็นในวันพุธ (22 ก.พ.)

    ความเห็นของสตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติเพื่อสันติภาพในซีเรีย มีขึ้นก่อนหน้าการเจรจารอบใหม่ในเจนีวา ระหว่างคณะผู้แทนจากรัฐบาลซีเรียและพวกฝ่ายค้าน ที่หยุดชะงักมานานกว่า 10 เดือน

    เหตุความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและปัญหาทางตันเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของประเทศ ตอกย้ำว่าอัสซาดยังคงเป็นขวากหนามสำคัญของการเจรจาสันติภาพ

    “รัสเซียได้แจ้งกับทุกคนและตัวผมว่า พวกเขาร้องขออย่างเป็นทางการถึงรัฐบาลซีเรียให้หยุดปฏฺิบัติการบนท้องฟ้าระหว่างการเจรจา” เดอ มิสตูรา บอกกับพวกผู้สื่อข่าว

    อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงหลังคณะผู้แทนคู่อริเดินทางมาถึงเพื่อคืนสู่โต๊ะเจรจาที่มีสหประชาชาติเป็นคนกลาง ดูเหมือนโอกาสเกิดความคืบหน้าในกระบวนการสร้างสันติภาพจะมีไม่มากนัก “ผมคาดหวังถึงการผ่าทางตันหรือเปล่า? ไม่ ผมไม่คาดหวัง” มิสตูรากล่าว พร้อมเน้นว่าสิ่งที่คาดหวังได้มากที่สุดในตอนนี้คือการพูดคุยเจรจาเพิ่มเติม

    คณะผู้แทนของรัฐบาลนำโดย บาชาร์ อัล-จาฟารี เอกอัครราชทูตซีเรียประจำสหประชาชาติ ส่วนของฝ่ายค้านหลัก คณะกรรมการเจรจาระดับสูง (High Negotiations Committee - HNC) นำโดย หทัยแพทย์ นาเซอร์ อัล-ฮาริรี และทนายความโมฮัมหมัด ชาบรา

    สถานการณ์ทั้งด้านดินแดนและการทูตเปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่การเจรจาที่มียูเอ็นเป็นคนกลางคราวก่อนเมื่อเดือนเมษายน 2016 เนื่องจากพวกกบฏอยู่ในสถานะที่อ่อนแอลงอย่างมาก

    กองทัพสามารถยึดคืนฐานที่มั่นของกบฏทางภาคตะวันออกของอะเลปโป ส่วนสหรัฐฯ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยต่อต้านอัสซาดอย่างแข็งขัน บอกว่ากำลังทบทวนทุกแง่มุมในนโยบายซีเรีย หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018692
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตะวันตกต้องจับตา รัสเซียเตรียมจัดตั้งกองกำลังทำสงครามข้อมูลข่าวสาร โดย MGR Online 22 กุมภาพันธ์ 2560 23:32 น.
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    รอยเตอร์ - กองทัพรัสเซียจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจสำหรับทำสงครามสารสนเทศ จากการเปิดเผยของเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมแดนหมีขาวเปิดเผยในวันพุธ(22ก.พ.) ความเคลื่อนไหวที่อาจเพิ่มความกังวลแก่ตะวันตกที่มองมอสโกในฐานะผู้สนับสนุนข่าวเท็จ

    พวกนักวางแผนของกองทัพรัสเซีย ก็เหมือนกับนักวางยุทธศาสตร์ของกองทัพชาติอื่นๆ ที่มองการแพร่กระจายโฆษณาชวนเชื่อมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสงครามยุคใหม่

    ความเคลื่อนไหวต่างๆของมอสโกในเรื่องนี้ ถูกจับตามองอย่างเข้มข้น หลังจากประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯกล่าวหาเครมลินใช้อิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้งอเมริกาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ช่วย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

    ขณะที่บรรดาหน่วยงานข่าวกรองต่างๆของยุโรปก็กล่าวหาเช่นกันว่า มอสโก กำลังหาทางก่อความไร้เสถียรภาพแก่รัฐบาลชาติต่างๆและมีอิทธิพลเหนือการเลือกตั้งทั้งหลายในยุโรป ด้วยการโจมตีทางไซเบอร์และปล่อยข่าวเท็จ อย่างไรก็ตามรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้แทรกแซงการเลือกตั้งของประเทศอื่นๆ

    ชอยกู กล่าวกับสภาล่างของรัสเซียว่ากองกำลังใหม่ที่มีภารกิจสงครามสารสนเทศ จะมีศักยภาพและประสิทธิภาพมากกว่าอดีตที่ผ่านมา "โฆษณาชวนเชื่อต้องฉลาด มีความสามารถและมีประสิทธิภาพ" ชอยกูเผย แต่ไม่เจาะจงว่าจะมีการจัดตั้งกองกำลังนี้ขึ้นเมื่อไหร่

    วลาดิมีร์ ชามานอฟ ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมของสภาล่างรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ว่ากองกำลังที่ปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสร้างถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านป้องกันตนเองของประเทศชาติและเพื่อเคลื่อนไหวตอบโต้ในขอบเขตด้านข้อมูลข่าวสาร

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายพลปีเตอร์ พาเวล ของสาธารณรัฐเช็ก ประธานคณะกรรมาธิการทหารของนาโต้ กล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลังข่าวเท็จที่บอกว่าพวกทหารเยอรมนีก่อเหตุข่มขืนในลิทัวเนีย พร้อมเตือนว่ายุโรปควรเตรียมตัวรับมือกับข่าวลวงที่จะไหลบ่าออกมามากกว่านี้

    ส่วน สเวน มิคเซอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนีย กล่าวว่าเขาคาดหมายว่าจะมีการโฆษณาชวนเชื่อที่เป็นปรปักษ์ออกมาจากรัสเซียมากขึ้น เนื่องจากมอสโกขุ่นเคืองต่อกรณีนาโต้เสริมกำลังทหารในชาติต่างๆแถบลอบติกซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนทางตะวันตกของพวกเขา


    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018677
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทนายความส่วนตัวทรัมป์ยืนยัน “ พบกับสมาชิกรัฐสภายูเครนในนิวยอร์กจริง” แต่ปฎิเสธไม่ได้รับแผนสันติภาพส่งให้ฟลินน์ โดย MGR Online 22 กุมภาพันธ์ 2560 22:04 น.
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    เอเจนซีส์ – ทนายความส่วนตัวของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมายอมรับกับสื่อสหรัฐฯ NBC NEWS ว่า เขาได้พบกับคนใกล้ชิดทรัมป์สุดอื้อฉาวของทรัมป์ที่เกิดในรัสเซีย และสมาชิกรัฐสภายูเครน เมื่อเดือนที่ผ่านมาในเมืองนิวยอร์ก ซิตี แต่ปฎิเสธการรายงานของสื่อนิวยอร์กไทม์สก่อนหน้านั้น โดยอ้างว่าเขาไม่ได้รับมอบแผนสันติภาพยูเครนจากคนทั้งคู่ตามที่ได้เป็นข่าวเพื่อส่งมอบให้กับอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ไมเคิล ฟลินน์

    NBC NEWS สื่อสหรัฐฯรายงานว่า ตกเป็นที่ตรวจสอบจากสื่อสหรัฐฯอย่างหนักมากขึ้นถึงความใกล้ชิด และความเกี่ยวข้องระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และรัสเซีย โดยสื่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานก่อนหน้านี้ว่า การพบปะที่เกิดขึ้นเพื่อต้องการผลักดันแผนสันติภาพยูเครนจากความพยายามของสมาชิกรัฐสภายูเครน อันเดรย์ อาร์เทเมนโก(Andrey Artemenko) ที่มีความเกี่ยวพันกับอดีตผู้นำยูเครนภายใต้การสนับสนุนจากรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และได้รับการให้คำปรึกษาจาก พอล มานาฟอร์ต (Paul Manafort) อดีตผู้จัดการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯของทรัมป์

    ทั้งนี้พบว่า มานาฟอร์ตอยู่ในกระบวนการสอบสวนของ FBI เกี่ยวกับข้อตกลงยูเครนที่อื้อฉาวของเขา และในการสอบสวน FBI ยังต้องการหาว่า มีคนใกล้ชิดกับทรัมป์หรือไม่ที่ร่วมมือกับรัสเซียในการขัดขวางการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีที่ผ่านมา

    โดยในการให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์(20 ก.พ)กับสื่อ NBC NEWS ไมเคิล โคเฮน (Michael Cohen) ยืนยันว่า เฟลิกซ์ เซเตอร์ (Felix Sater) อดีตคนสนิททรัมป์ที่มีประวัติอาชญากรได้ขอพบกับเขาเป็นการส่วนตัวในเมืองนิวยอร์ก ซิตี ในเดือนมากราคมล่าสุด ซึ่งชายคนนี้ได้นำอาร์เทเมนโกมาพบกับเขาด้วย

    “ผมยอมรับว่าการพบปะนั้นเกิดขึ้นจริง แต่ขอปฎิเสธยืนยันการพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อนี้ หรือส่งเอกสารใดๆต่อไปยังทำเนียบขาว และ/หรือต่อยังพลเอกฟลินน์” โคเฮนกล่าว และเสริมต่อว่า “ผมไม่เคยเห็นพลเอกฟลินน์ในระหว่างที่ผมอยู่ในทำเนียบขาว และผมไม่ได้ใช้เวลา 2 วินาทีในการพูดคุยในเรื่องนี้ หรือแม้แต่วินาทีเดียวด้วยซ้ำ”

    แต่อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ยังคงยืนยันกับสื่อ NBC NEWS ว่า ทางนิวยอร์กไทม์สยังคงยืนยันในการรายงานของตนเอง ที่ว่า โคเฮนได้เปิดเผยกับทางนิวยอร์กไทม์สว่า ตัวเขาเป็นผู้นำซองเอกสารที่ปิดผนึกส่งให้กับสำนักงานของฟลินน์

    และทางหนังสือพิมพ์สหรัฐฯยังชี้ต่อว่า แผนสันติภาพยูเครนที่ว่า นั้นถูกออกแบบเพื่อนำสู่การให้ประชาคมโลกยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซียจากเหตุการเข้าผนวกไครเมีย ดินแดนของยูเครน

    NBC NEWS รายงานว่า โคเฮนเป็นทนายความที่ทำงานให้กับทรัมป์และกับบริษัทของเขามาอย่างยาวนาน ในขณะที่เซเตอร์ทำงานด้านโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ร่วมกับบริษัทของทรัมป์ ซึ่งโคเฮนยอมรับว่าเขารู้จักเฟลิกซ์ เซเตอร์มานานแล้ว ซึ่งในการให้ข้อมูลของโคเฮน เขาอ้างว่า เพียงแต่ได้รับโทรศัพท์จากชายผู้นี้ ที่ระบุว่าต้องการขอพบกับตัวเขาโดยเป็นการพบปะที่ใช้เวลาไม่นานในเมืองนิวยอร์ก ซิตี โดยในการสนทนา โคเฮนรับรู้ว่าเซเตอร์จะนำเพื่อนไปด้วย แต่ทางทนายความประจำตัวของทรัมป์อ้างว่า ไม่ทราบว่าคนที่เขาจะพบนั้นเป็นสมาชิกรัฐสภายูเครน ที่กำลังมีแผนจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนคนต่อไป

    ซึ่งโคเฮนย้ำว่า เขาไม่มีความสนใจด้านการเงินในการพบปะ และอีกทั้งไม่ได้ถูกจ้างเพื่อการออกมาพบกับเซเตอร์และอาร์เทเมนโก และ โคเฮนอ้างว่า ตัวของสมาชิกรัฐสภายูเครนผู้นี้ได้กล่าวกับเขา ว่ามีข้อมูลที่เป็นเอกสารเกี่ยวกับการคอร์รัปชันของผู้นำยูเครนคนปัจจุบัน ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก โดยสื่อนิวยอร์กไทม์ส์ได้รายงานคำพูดของอาร์เทเมนโก ที่กล่าวว่า เขาได้รับการสนับสนุนจากแผนการของเขาจากที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน

    แต่อย่างไรก็ตาม โคเฮน กล่าวว่า หากว่าเขาได้นำซองเอกสารปิดผนึกที่มีแผนสันติภาพยูเครนอยู่ด้านในส่งมอบให้กับทำเนียบขาว โดยโคเฮนตั้งคำถามว่า “แล้วจะยังไง” และกล่าวต่อว่า “มีสิ่งใดที่ผิดอย่างนั้นหรือ”

    โดยก่อนหน้านี้โคเฮนตกเป็นผู้ต้องสงสัยในข่าวแฟ้มลับของทรัมป์ที่ถูกเปิดเผยโดยอดีตเจ้าหน้าที่สายลับอังกฤษ ซึ่งมีรายงานว่า โคเฮนได้เดินทางไปยังปรากเพื่อพบกับสายลับรัสเซีย

    แต่ทว่าในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ NBC NEWS ในวันจันทร์(20 ก.พ) ทนายความส่วนตัวทรัมป์ออกมายืนยันว่า วันเวลาที่ปรากฎตามข่าวอ้างว่า มีการพบปะเกิดขึ้นในปรากนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วโคเฮนนั้นอยู่กับลูกชาย และสนทนากับโคชบาสเก็ตบอลที่มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์นแคลิฟอร์เนีย


    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018667
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คาดจีน'วัดใจ'ทรัมป์ สร้างอาคารที่อาจใช้เป็น'ฐานยิงจรวด'บนเกาะเทียมทะเลจีนใต้ โดย MGR Online [​IMG]22 กุมภาพันธ์ 2560 22:09 น.
    [​IMG]
    [​IMG]
    ภาพที่กองทัพเรือสหรัฐฯเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2015 โดยมาจากภาพวิดีโอซึ่งเครื่องบินตรวจการณ์ พี-8 เอ โปไซดอน ลำหนึ่งถ่ายไว้ แสดงให้เห็นเรือขุดของจีนหลายลำในน่านน้ำรอบๆ เกาะปะการัง “มิสชีฟ” ทั้งนี้ มิสชีฟ เป็นจุดหนึ่งซึ่งข่าวระบุว่าจีนกำลังไปสร้างอาคารที่อาจใช้เป็นฐานยิงขีปนาวุธ
    [​IMG]
    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - จีน “ลองของ” วัดใจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โดยสร้างอาคารคอนกรีตกว่า 20 หลังขึ้นบนเกาะเทียมหลายแห่งในทะเลจีนใต้ จนใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และคาดว่าจะถูกใช้เป็นฐานติดตั้งขีปนาวุธพิสัยไกลชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศ เจ้าหน้าที่อเมริกัน 2 รายให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ทางด้านปักกิ่งแถลงในวันพุธ (22 ก.พ.) ว่า กำลังดำเนินกิจกรรมก่อสร้างตามปกติและติดตั้งเครื่องป้องกันตามความจำเป็นตามสิทธิระหว่างประเทศ

    พัฒนาการล่าสุดนี้คงจะทำให้ประธานาธิบดีโทรัมป์ ถูกตั้งคำถามว่าจะตอบโต้จีนหรือไม่และอย่างไร หลังจากที่เคยขู่มาตลอดว่าจะใช้ไม้แข็งกับปักกิ่งในประเด็นทะเลจีนใต้

    จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางเรือถึง 1 ใน 3 ของโลก โดยที่ บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม ก็อ้างสิทธิ์ด้วยเช่นกัน ขณะที่รัฐบาลทรัมป์กล่าวหาว่าจีนเข้าไปถมแนวปะการังในทะเลจีนใต้สร้างเป็นเกาะเทียมขึ้นมาหลายเกาะอย่าง “ผิดกฎหมาย”

    เจ้าหน้าที่อเมริกัน 2 คนผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า อาคารคอนกรีตซึ่งมีหลังคาพับเก็บได้นี้ถูกสร้างขึ้นบนเกาะปะการังซูบี, มิสชีฟ และเฟียรี ครอสส์ อันเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสแปรตลีย์ โดยที่จีนได้เข้าไปสร้างรันเวย์สำหรับเครื่องบินทหาร-ขึ้นลงเอาไว้แล้วด้วย ดังนั้นจึงอาจถือได้ว่าเป็นการเพิ่มระดับกิจกรรมทางทหาร

    “จีนไม่เข้าไปสร้างอะไรในทะเลจีนใต้ไว้เปล่าๆ แน่ และสิ่งปลูกสร้างพวกนี้ก็ดูคล้ายกับอาคารที่ใช้ติดตั้งแท่นยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ เราจึงคาดคะเนได้ว่ามันมีวัตถุประสงค์เพื่อการนั้น” เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ คนหนึ่งระบุ

    เจ้าหน้าที่อีกคนให้ข้อมูลเสริมว่า อาคารเหล่านี้ยาวประมาณ 20 เมตร และสูง 10 เมตร

    ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมอเมริกัน (เพนตากอน) แถลงยืนยันว่าสหรัฐฯ ยังยึดถือแนวทาง “ไม่แผ่ขยายแสนยานุภาพทางทหารในทะเลจีนใต้” และขอให้ประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์ทั้งหลายปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ

    ในกรุงปักกิ่ง เกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงในวันพุธ (23 ก.พ.) ว่า เขาทราบว่ามีรายงานข่าวเรื่องนี้ออกมา แต่เขาไม่ได้พูดว่าจีนกำลังวางแผนติดตั้งขีปนาวุธบนเกาะเทียมเหล่านี้จริงหรือไม่

    “จีนกำลังดำเนินกิจกรรมการก่อสร้างตามปกติในดินแดนที่เป็นของตนเอง รวมทั้งติดตั้งประจำการสิ่งปลูกสร้างด้านการป้องกันดินแดนที่จำเป็นและเหมาะสม ซึ่งเป็นสิทธิธรรมดาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศสำหรับชาติอธิปไตยทั้งหลาย” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว

    ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ระหว่างให้การต่อวุฒิสภาอเมริกันเพื่อขอการอนุมัติรับรองให้เข้าดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ได้สร้างปมขัดแย้งกับจีนด้วยการเสนอให้สหรัฐฯ ปิดกั้นไม่ให้ปักกิ่งเข้าไปใช้ประโยชน์จากเกาะเทียมที่พวกเขาสร้างขึ้น

    อย่างไรก็ดี ทิลเลอร์สันได้ออกมาใช้ภาษาที่นุ่มนวลขึ้นในภายหลัง ส่วน ทรัมป์ เองก็พยายามลดความตึงเครียดด้วยการรับปากว่าจะเคารพหลัก “จีนเดียว” ระหว่างคุยโทรศัพท์กับประธานาธิบดี สี่ จิ้นผิง เมื่อวันที่ 10 ก.พ.

    เกร็ก โพลิง ผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลจีนใต้จากสถาบันเพื่อยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศศึกษา (CSIS) ในกรุงวอชิงตัน กล่าวไว้ในรายงานเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วว่า รัฐบาลจีนเริ่มนำอาวุธยุทโธปกรณ์ไปติดตั้งบนเกาะเทียมทั้ง 7 แห่งแล้ว ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน และขีปนาวุธสกัดกั้น

    แหล่งข่าวของรอยเตอร์ชี้ว่า อาคารเหล่านี้อาจถูกใช้ติดตั้งแท่นยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ ซึ่งจะช่วยขยายศักยภาพด้านการป้องกันภัยทางอากาศของจีนให้ครอบคลุมหมู่เกาะเทียมทั้งหมด แต่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าปักกิ่งจะส่งขีปนาวุธเข้าไปติดตั้งเมื่อใด

    ทางด้าน เปอร์เฟ็กโต ยาซาย รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ แถลงในวันอังคาร (21) ว่า อาเซียนรู้สึกเป็นกังวลเรื่องที่จีนส่งระบบอาวุธเข้าไปติดตั้งในทะเลจีนใต้ และขอให้มีการเจรจาเพื่อยับยั้งมิให้สถานการณ์บานปลาย

    ยาซาย ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า “สถานการณ์” ใดที่สร้างความกังวลต่ออาเซียน แต่ย้ำว่าทางกลุ่มหวังให้จีนและสหรัฐฯ ร่วมกันปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

    เจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ไม่เป็นภัยคุกคามต่อกองกำลังสหรัฐฯ ในภูมิภาคมากนัก เนื่องจากมองเห็นได้ชัดเจนและอาจถูกโจมตีได้ง่าย แต่ดูเหมือนจีนจะต้องการ “หยั่งเชิง” ผู้นำมือใหม่อย่าง ทรัมป์ มากกว่า

    “มาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมก็ควรเป็นไปในเชิงการเมือง และต้องไม่กระตุ้นให้เกิดการยกระดับปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ”

    อย่างไรก็ดี แชส ฟรีแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนและอดีตรัฐมนตรีช่วยกลาโหมสหรัฐฯ กลับมองว่าสิ่งปลูกสร้างเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ทางทหาร และมุ่งตอกย้ำการอ้างกรรมสิทธิ์ของจีนมากกว่าจะเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองถึงสหรัฐฯ

    “คนในวอชิงตันอาจจะคาดเดาว่านี่เป็นการส่งสัญญาณถึงเรา แต่อย่าลืมว่าเราไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้อ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้” ฟรีแมน กล่าว

    “ในความเห็นผม เราไม่ควรไปท้าทายอธิปไตยของจีนเหนือหมู่เกาะเหล่านั้น ถ้าจะมีการท้าทายเกิดขึ้นก็ควรกระทำโดยเวียดนาม หรือฟิลิปปินส์ หรือมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งหลัก”

    รัฐมนตรี ทิลเลอร์สัน เคยตอบคำถามคณะกรรมการความสัมพันธ์ต่างชาติของวุฒิสภาเมื่อเดือนที่แล้วว่า การที่จีนสร้างเกาะเทียมขึ้นมา และนำเอาทรัพย์สินทางทหารเข้าไปประจำการยังเกาะเหล่านั้น “ก็เหมือนกับการที่รัสเซียยึดไครเมีย” ไปจากยูเครน

    อย่างไรก็ดี ในการเขียนตอบคำถามของวุฒิสภาหลังจากนั้น ทิลเลอร์สัน ได้ใช้ภาษาที่อ่อนโยนขึ้น โดยระบุว่าหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร “จะต้องสามารถจำกัดการเข้าถึงและใช้ประโยชน์” ของจีนจากหมู่เกาะที่อาจจะเป็นภัยคุกคาม

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018668
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อิหร่านเตือนมะกันอาจโดนตบหน้าฉาดใหญ่ หากทำอะไรโง่ๆ โดย MGR Online [​IMG]22 กุมภาพันธ์ 2560 21:00 น.
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    เอเจนซีส์ - กองกำลังของอิหร่านระบุในวันพุธ (22 ก.พ.) ขณะดำเนินการซ้อมรบว่า สหรัฐอเมริกาควรจะคิดเรื่อง "ถูกตบหน้าฉาดใหญ่" หากยังประเมินสมรรถภาพในการป้องกันประเทศของอิหร่านต่ำเกินไป

    หลังจากเริ่มงานในเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็ได้ลั่นวาจาว่าจะเข้มงวดกับอิหร่านให้หนัก ทั้งยังเตือนหลังอิหร่านทำการทดสอบขีปนาวุธเมื่อวันที่ 29 มกราคม ว่าอิหร่านกำลังเล่นกับไฟ

    "เจ้าศัตรูรายนี้ไม่ควรที่จะประเมินอะไรผิดๆ และมันจะต้องถูกตบหน้าฉาดใหญ่ หากทำเรื่องผิดพลาดแบบนั้น" พล.อ.โมฮัมหมัด พัคพูร์ ผู้บัญชาการกำลังภาคพื้นดินของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านกล่าว

    ในวันพุธ กองกำลังดังกล่าวได้ปิดฉากการซ้อมรบที่กินเวลานาน 3 วัน ด้วยจรวด ปืนใหญ่ รถถังและเฮลิคอปเตอร์ เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากทรัมป์ออกมาเตือนอิหร่านเรื่องทดสอบขีปนาวุธ

    "การฝึกซ้อมนี้คือข้อความสำหรับเจ้าพวกหยิ่งผยองว่าอย่าทำอะไรโง่ๆ ทุกคนคงได้เห็นแล้วในวันนี้ ถึงพลังอำนาจที่เรามี" เขากล่าว

    กองกำลังของอิหร่านระบุว่า มีการทดสอบจรวดขั้นสูง รวมถึงใช้โดรนในการฝึกซ้อมรบ 3 วันครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคกลางและตะวันออกของอิหร่าน

    ทั้งนี้ อิหร่านเคยระบุว่า โครงการขีปนาวุธของตนนั้นมีไว้เพื่อปกป้องประเทศ และไม่เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับบรรดาชาติมหาอำนาจเมื่อปี 2015

    ขณะเดียวกันก็มีความตึงเครียดเกิดขึ้นกับอิสราเอล เมื่อนักวิเคราะห์ทางทหารที่ทัสนิมระบุว่า กลุ่มฮิสบอลเลาะห์ซึ่งเป็นมิตรกับอิหร่านอาจให้ชาวอิหร่านสร้างเครื่องยิงขีปนาวุธ Fateh 110 เพื่อเอาไว้ใช้ยิงจากในเลบานอน โดยเล็งเป้าโจมตีไปที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในเมือง Dimona ของอิสราเอล

    ไซเยด ฮัสซัน ผู้นำฮิสบอลเลาะห์ ได้บอกไว้เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า กลุ่มของเขา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการที่จะยุติการยึดครองเลบานอนของอิสราเอล อาจทำการโจมตีเมือง Dimona

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018654
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มาเลย์ระบุ2หญิง'รู้'กำลังใช้ยาพิษ ขอสอบปากคำ'นักการทูตโสมแดง'
    โดย MGR Online 22 กุมภาพันธ์ 2560 20:54 น.
    [​IMG]
    [​IMG]
    ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย คอลิด อบู บาการ์ (กลาง) แถลงข่าวในวันพุธ (22 ก.พ.) ขณะที่จอภาพแสดงภาพของ ฮยอน กวางซอง เลขานุการโทสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตำรวจต้องการตัวมาสอบสวนเนื่องจากพัวพันการลอบสังหาร คิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำโสมแดง
    [​IMG]
    เอเจนซีส์ - ตำรวจมาเลเซียเรียกร้องเกาหลีเหนือ ส่งตัวนักการทูตคนหนึ่งเข้าให้ปากคำ เชื่อเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารคิม ยองนัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำโสมแดง พร้อมยืนยันผู้ต้องหาหญิง 2 คนที่จับได้ก่อนหน้านี้ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีในการใช้สารพิษทามือและป้ายหน้าเหยื่อ ด้านสถานทูตเปียงยางขำหนัก ถามกลับเป็นไปได้อย่างไรที่หญิงสาวทั้งคู่ชีวิตยังรอดมาได้ถ้าใช้วิธีการแบบนั้น แถมกระทุ้งให้กัวลาลัมเปอร์ปล่อยตัว “สองผู้บริสุทธิ์”

    ในวันพุธ (22 ก.พ.) คอลิด อบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซีย แถลงว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดต่อให้ผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนืออีก 2 คนเข้าให้ปากคำ โดยคนหนึ่งนั้นเป็นเลขานุการโทของสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ ส่วนอีกคนเป็นเจ้าหน้าที่สายการบินแอร์ โคระยอ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

    คอลิดแสดงความหวังว่า สถานทูตเกาหลีเหนือจะให้ความร่วมมือและยอมให้ตำรวจมาเลเซียสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งคู่โดยเร็ว ไม่เช่นนั้น มาเลเซียอาจต้องบังคับนำตัวมาสอบปากคำ

    ตำรวจมาเลเซียบอกว่า ยังไม่ทราบว่ายาพิษที่คนร้ายใช้สังหารคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เป็นสารชนิดใด เท่าที่รู้คือ สารดังกล่าวมีอานุภาพร้ายแรงกระทั่งทำให้คิมเดินทางไปไม่ถึงโรงพยาบาล ก็เสียชีวิตกลางทาง

    คอลิดยังแจกแจงว่า ผู้ต้องสงสัยหญิง 2 คนที่จับได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว รู้ดีว่าตัวเองกำลังจัดการกับสารพิษและได้รับคำสั่งให้รีบล้างมือหลังเสร็จภารกิจ โดยอ้างอิงคลิปจากกล้องวงจรปิดในสนามบินที่เผยให้เห็นว่า หญิงสาวทั้งคู่เดินหนีจากคิมโดยพยายามกางแขนห่างจากลำตัว และรีบไปล้างมือทันทีหลังจู่โจมทำร้ายคิม

    ผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียสำทับว่า ผู้หญิงทั้งคู่ได้ฝึกฝนวิธีการเช่นนี้มาก่อนแล้วในห้างสรรพสินค้า 2 แห่งในกัวลาลัมเปอร์ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า รัฐบาลเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่ แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ ผู้เกี่ยวข้องหลายคนเป็นชาวเกาหลีเหนือ

    ตำรวจมาเลเซียกำลังติดตามตัวผู้ต้องสงสัยเกาหลีเหนือ 7 คน ซึ่งรวมถึงสองคนที่ประกาศล่าสุดเมื่อวันพุธ(22) ที่เชื่อว่ายังอยู่ในมาเลเซีย ขณะที่มีผู้ต้องสงสัย 4 คนหนีออกนอกแดนเสือเหลืองตั้งแต่วันเกิดเหตุ และเชื่อว่า ขณะนี้เดินทางกลับไปเปียงยางแล้ว ตำรวจมาเลเซียยังเชื่อว่า บุคคลเหล่านี้เป็นผู้จัดหายาพิษ

    ก่อนหน้านี้ ตำรวจมาเลเซียจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีลอบสังหารคิมได้ 4 คน เป็นชายมาเลเซีย 1 คน, ชายเกาหลีเหนือ 1 คน และหญิงสาวเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งหญิงแดนอิเหนาบอกว่า ตัวเองถูกชักชวนไปออกรายการทีวีประเภทอำกันเล่น ทว่า คอลิดยืนยันว่า ทั้งคู่รู้ดีว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

    อย่างไรก็ตาม ในวันพุธ (22) เช่นกัน สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ผู้หญิงทั้งคู่พูดความจริงและเรียกร้องให้มาเลเซียปล่อยตัวทั้ง 2 คน โดยระบุว่า ของเหลวที่หญิงสาวสองคนใช้เป็นมุกอำไม่ใช่ยาพิษ และว่าคิมน่าจะเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นมากกว่า

    คำแถลงดังกล่าวตั้งคำถามว่า หากหญิงทั้งคู่สัมผัสสารพิษจริงคงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้

    ขณะเดียวกัน การระบุสาเหตุการตายของคิมกลายเป็นงานที่ยากเย็น ทางการแดนเสือเหลืองแถลงเมื่อวันอังคาร (21) ว่า ไม่พบอาการหัวใจวายหรือรอยถูกของแหลม เช่น เข็มแทงบนร่างกายคิม และต้องรอผลการวินิจฉัยของห้องปฏิบัติการต่อไป

    การระบุสารพิษที่มือสังหารใช้เป็นงานท้าทายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสารนั้นมีปริมาณน้อยและไม่ได้เข้าสู่เซลล์ไขมันในเนื้อเยื่อผิวหนังของเหยื่อ เวลาเดียวกัน หากเข้าสู่กระแสเลือดอย่างเดียว สารพิษนั้นก็จะถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วมาก ยิ่งไปกว่านั้น แม้พบแล้วว่า เป็นสารชนิดใด ก็ยังต้องนำไปจับคู่ว่าตรงกับอาการของคิมก่อนเสียชีวิตด้วย

    ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า มาเลเซียอาจต้องพึ่งพาสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญและมีอุปกรณ์ขั้นสูง เช่น สถาบันในญี่ปุ่นหรือห้องปฏิบัติการอาชญากรรมของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ในการค้นหาสารพิษลึกลับนี้

    คดีนี้สร้างความพิศวงงงวยอย่างยิ่งแก่นักนิติพิษวิทยาที่ศึกษาการฆาตกรรมด้วยยาพิษ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้บอกว่า การโจมตีในสนามบินเป็นหนึ่งในคดีประหลาดที่สุดเท่าที่เคยพบในตำรา และยังพากันสงสัยว่า เหตุใดมือสังหารหญิง 2 คนดังกล่าวจึงเดินออกจากที่เกิดเหตุในสภาพปกติดีทุกประการทั้งที่จับต้องสารที่มีฤทธิ์ถึงตาย

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018649
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    'รบ.ทรัมป์'เพิ่มเล่นงาน'คนลอบเข้าเมือง' เร่งรัดเนรเทศ-กระทบ'โรบินฮูด'นับล้าน โดย MGR Online [​IMG]22 กุมภาพันธ์ 2560 21:00 น.
    [​IMG]
    [​IMG]
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯกับเหล่าคณะที่ปรึกษาประจำทำเนียบขาว
    [​IMG]
    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - คณะบริหารทรัมป์ออกคำสั่งใหม่ที่มีเป้าหมายกวาดล้างผู้ลักลอบเข้าเมือง คาดส่งผลต่อคนต่างด้าวที่แอบพำนักอาศัยในอเมริกา หรือ “โรบินฮูด” เกือบทั้ง 11 ล้านคน ซึ่งหลายล้านคนในจำนวนนี้ตั้งรกรากในเมืองลุงแซมมานาน แต่กำลังเสี่ยงสูงที่จะถูกเนรเทศเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ทางด้านบรรดากลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างวิจารณ์ว่า มาตรการนี้เป็น “การล่าแม่มด”

    จอห์น เคลลี่ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (ดีเอชเอ) ที่เป็นผู้ออกคำสั่งนี้ในรูปของบันทึก 2 ฉบับเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 ก.พ.) ยืนยันว่า แนวทางใหม่เหล่านี้มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่กลายเป็นภาระต่อทรัพยากรและกำลังคนของรัฐบาลอย่างมหาศาลท่วมท้น รวมทั้งยังคุกคามความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะคลื่นการลักลอบเข้าเมืองบริเวณชายแดนทางภาคใต้ของสหรัฐฯ

    ทว่า เบน คาร์ดิน ส.ว.คนสำคัญของพรรคเดโมแครตและเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภา เตือนว่า แนวทางใหม่เช่นนี้กลับจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน

    ด้านบิล เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กประกาศว่าจะไม่ยอมเปลี่ยนตำรวจของทางนครให้กลายเป็นเจ้าหน้าที่คนเข้าเมือง หรือเปลี่ยนเรือนจำของเมืองกลายเป็นคอกขังชั่วคราว เพื่อตอบสนองนโยบายการเนรเทศที่รังแต่จะทำลายกลไกการมีส่วนร่วม ซึ่งช่วยให้นิวยอร์กซิตี้เป็นเมืองใหญ่ที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา

    ทั้งนี้ กฎใหม่เอื้อให้เจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนและเจ้าหน้าที่คนเข้าเมืองสามารถเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างง่ายดายขึ้นมาก โดยมีข้อยกเว้นเพียงไม่กี่ข้อ ซึ่งที่สำคัญคือยกเว้นให้ผู้ที่ลักลอบเข้าอเมริกาขณะที่ยังเป็นเด็ก

    ในยุคของคณะบริหารประธานาธิบดีบารัค โอบามา นั้น ก็มีการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดคดีอาญาร้ายแรง, เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ, หรือผู้ที่เพิ่งแอบข้ามพรมแดนมาได้ไม่นาน

    ทว่าคำสั่งใหม่นี้ครอบคลุมรวมไปถึงผู้ลักลอบเข้าเมืองที่ก่อคดีอาญาเล็กๆ น้อยๆ เช่น ทำผิดกฎจราจร หรือขโมยข้าวของในร้านค้า ตลอดจนผู้ที่ถูกตั้งข้อหาหรือมีแนวโน้มถูกตั้งข้อหาอาญา

    โดยบันทึกของรัฐมนตรีดีเอชเอสระบุว่า คณะบริหารทรัมป์จะ “ให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ” ในเรื่องการเนรเทศผู้ที่ละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองแทบทั้งหมด ในทุกๆ สถานที่

    บันทึกนี้เป็นการขยายผลคำสั่งฝ่ายบริหารที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามแทบจะทันทีหลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 เดือนที่แล้ว ว่าด้วยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้นและการสร้างกำแพงตลอดแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกระยะทางเกือบ 3,145 กิโลเมตร

    ในบันทึก เคลลี่ยังสั่งให้เริ่มสร้างกำแพงทันที และเปิดรับเจ้าหน้าที่ศุลกากรและการตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มอีก 15,000 คน

    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่เคลลีและเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเข้าพบประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต ที่เม็กซิโกในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่า ประเด็นหลักในการหารือหนีไม่พ้นเรื่องการลักลอบเข้าเมืองและความมั่นคงตามแนวชายแดน

    นโยบายนี้ยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ หลังจากคณะบริหารโอบามาและของจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ใช้วิธีการร่วมมือกับรัฐสภา เพื่อหาวิธีอนุญาตให้ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายที่อยู่ในอเมริกามานาน ส่วนใหญ่สามารถพำนักอยู่ต่อไป

    ทว่า ทรัมป์ให้คำมั่นตั้งแต่ช่วงหาเสียงว่า จะกวาดล้างผู้ลักลอบเข้าเมืองที่เขาตราหน้าว่า เป็นแหล่งเพาะพันธุ์อาชญากรรมและตัวถ่วงเศรษฐกิจ

    ด้านฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงสำทับว่า ทรัมป์ต้องการ “ปลดปล่อยพันธนาการ” ให้แก่พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย

    ขณะเดียวกัน ดีเอชเอสให้ข้อมูลว่า ขณะนี้มีคดีการลักลอบเข้าเมืองที่ยังอยู่ในการพิจารณาของศาลทั่วอเมริกากว่า 534,000 คดี และเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ที่พยายามลักลอบเข้าอเมริกาได้กว่า 93,000 คนเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนที่ผ่านมาเท่านั้น ซึ่งเป็นงานที่รีดเค้นทรัพยากรจำนวนมากของดีเอชเอส

    ในส่วนของกลุ่มสนับสนุนคนอพยพเข้าเมือง ซึ่งยังไม่หายวิตกหลังมีผู้ถูกจับกุมหลายร้อยคนระหว่างปฏิบัติการบุกค้นของสำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (ไอซ์) ในหลายเมืองเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ต่างแสดงความกังวลและโจมตีนโยบายใหม่ของคณะบริหารทรัมป์

    แองเจลิกา ซาลาส ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มโคเอลิชัน ฟอร์ ฮิวแมน อิมมิแกรนต์ ไรตส์ในลอสแองเจลีส ชี้ว่า รัฐมนตรีดีเอชเอสกำลังจุดชนวนการล่าแม่มดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ต่อครอบครัวผู้เข้าเมืองนับล้านๆ คน เธอประณามว่าแนวทางเหล่านี้เหมือนเป็นการไล่ล่าผู้ร้ายตัวฉกาจ และเป็นกระบวนการเร่งรัดที่ผิดกฎหมายเพื่อกำจัดผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายซึ่งอาศัยและทำงานในอเมริกา และถือเป็นแนวทางที่ขลาดเขลาต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์อย่างมาก

    โอมาร์ จัดวัต ผู้อำนวยการกลุ่มอิมมิแกรนต์ส ไรต์ส โปรเจ็กต์จากอเมริกัน ซีวิล ลิเบอร์ตี้ส์ ยูเนียน คาดว่า จะมีการท้าทายทางกฎหมายอย่างหนักแน่นต่อนโยบายใหม่นี้

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000018653
     

แชร์หน้านี้

Loading...