ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไม่มีใครไปสาปเขาหรอก พวกเขาทำเองทั้งนั้น จากเนื้อหาบทความที่ว่า "อังกฤษทิ้งอาวุธให้โรฮิงญา เพื่อจะเอาไว้เป็นกันชนไม่ให้ญี่ปุ่นตามเข้าไปถึงอินเดีย สถานการณ์นี้เป็นรอยแผลสำคัญเลยที่เกิดขึ้น" นั้นควรจะเพิ่มความจริงเข้าไปด้วยว่า [อังกฤษได้สัญญาว่าหากชาวมุสลิมสนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตร พวกเขาจะได้รับ "พื้นที่แห่งชาติ" อย่างไรก็ตาม กองกำลังของโรฮีนจากลับพยายามที่จะทำลายหมู่บ้านของชาวยะไข่แทนที่จะต่อต้านญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว ความขัดแย้งระหว่างยะไข่กับโรฮีนจาจึงเกิดขึ้น]
    https://th.m.wikipedia.org/wiki/การกบฏโรฮีนจาในพม่าตะวันตก

    โรฮิงญา ชนชาติที่ถูกสาป
    วันพฤหัสบดี ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560, 08.47 น.

    เป็นปัญหาที่ยาวนานและเป็นเรื่องที่ชาวโลกจับตามอง กับกรณีความขัดแย้งใน เมียนมา ระหว่าง “รัฐบาลพม่า” กับกลุ่มชนชาว “โรฮิงญา” (“โรฮีนจา” หรือที่ทางการเมียนมาพยายามให้เรียกว่า “เบงกาลี”) ที่ปรากฏเป็นข่าวเสมอว่ารัฐบาลเมียนมามีนโยบายค่อนข้างรุนแรง เพื่อกดดันให้กลุ่มชนดังกล่าวออกไปจากประเทศ ทำให้เกิด “คลื่นผู้อพยพ” เข้าไปยังบังกลาเทศบ้าง หรือเป็น “มนุษย์เรือ” /ฝ่าคลื่นลมทะเลมาแวะใน “ประเทศไทย” ก่อนเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือไปไกลถึงออสเตรเลีย

    ชนชาวโรฮิงญาที่เป็นรู้จักของสังคมไทย เมื่อปรากฏหลุมศพขนาดใหญ่ของชาวโรฮิงญาในจังหวัดทางภาคใต้ของไทยนำไปสู่การสืบสวนจับกุมในข้อหาค้ามนุษย์กับผู้ต้องหาหลายราย อาทิ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตนายทหารสังกัด กองอำนวยการรักษาความสงบภายใน (กอ.รมน.) ซึ่งศาลได้อ่านคำพิพากษาในคดีนี้ไปเมื่อ 19 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา ทว่ารัฐบาลไทย ฝ่ายความมั่นคงไทย และสังคมไทย ต้องกลับมาอยู่ในภาวะกังวลกับผู้อพยพโรฮิงญาอีกครั้ง หลังรัฐบาลพม่าดำเนินการปราบปรามชาวโรฮิงญาอย่างรุนแรง ช่วงปลายเดือน ส.ค. 2560

    บ่ายวันที่ 13 ก.ย. 2560 ที่งานเสวนาเรื่อง “โรฮิงญา : เรื่องที่ใกล้ตัวกว่าที่คิด” ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในงานนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเมียนมาคนหนึ่งของไทยอย่าง รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ บอกเล่าประวัติศาสตร์ที่ฟังแล้วคงไม่ผิดนัก หากจะบอกว่าชาวโรฮิงญานั้นเป็น “ชนชาติที่ถูกสาป” เพราะอยู่ในดินแดนที่ไม่มีใครต้องการ และไปที่ไหนก็ไม่ค่อยจะมีใครอยากอ้าแขนรับ

    13(4).jpg
    รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์

    อาจารย์สุเนตร เล่าถึง “ประวัติศาสตร์กระแสหลัก” ของเมียนมา ที่มองว่าชาวโรฮิงญาเป็น “คนนอก” (Foreigner) เป็นชาวต่างด้าวต่างชาติ ไม่ใช่ “ชนดั้งเดิม” ในแผ่นดินเมียนมาอย่างกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ อาทิ มอญ ไทยใหญ่ กะเหรี่ยง ว้า ฯลฯ ขณะเดียวกัน พื้นที่ที่ชาวโรฮิงญาอยู่อาศัยนั้น เรียกว่า “อาระกัน” (Arakan) หรือ “ยะไข่” เดิมก็เป็นรัฐอิสระเช่นกัน กระทั่งในปี 2327 (ค.ศ.1784) อาณาจักรพม่าจึงสามารถยึดครองดินแดนอาระกันได้สำเร็จ ซึ่งก็มีเรื่องเล่าว่า ชาวอาระกันที่นับถือศาสนาอิสลาม “หนีตาย” ออกจากเมืองไปเป็นจำนวนมาก

    12(4).jpg แผนที่ดินแดน “อาระกัน” (Arakan) หรือ “ยะไข่” (Rakhine)

    ภาพจากเว็บไซต์ https://joshuaproject.net/people_groups/13207/BM

    แต่นั่นก็ตามมาซึ่ง “ปัญหาใหม่” นั่นคือกลายเป็นว่าพม่ามีพรมแดนติดกับ “เอเชียใต้” ซึ่งตกอยู่ใต้อิทธิพลของ “อังกฤษ” มหาอำนาจโลกตะวันตกขณะนั้น และเมื่อเกิดเหตุกระทบกระทั่งจนพม่ากับอังกฤษทำสงครามกันในปี 2367 - 2368 (ค.ศ.1824 - 1825) ผลคือพม่าเป็นฝ่ายแพ้ และต้อง “เสียอาระกัน” ให้กับอังกฤษ โดยถูกผนวกรวมเข้ากับอินเดียและบังกลาเทศ ซึ่งช่วงนี้เองที่การโยกย้ายถิ่นฐานไปมาของผู้คนระหว่างบังกลาเทศกับอาระกันเกิดขึ้นทั่วไป

    “ช่วงที่เข้ามากันมาก คือช่วงต้นคริสตศวรรษที่ 20 (ค.ศ.1900 หรือ พ.ศ.2443 เป็นต้นมา) อังกฤษต้องการใช้แรงงานคนแขกซึ่งก็มีหลายเผ่า แต่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม จึงมีการนำคนจากฝั่งโน้น (บังกลาเทศ) เข้ามาจำนวนมาก จะรู้ได้อย่างไรว่าโรฮิงญากลุ่มไหนอยู่เก่าแก่ หรือกลุ่มไหนอังกฤษนำเข้ามา แต่รัฐบาลพม่าเหมาเอาทั้งหมดว่าเข้ามาหลัง ค.ศ.1824” อาจารย์สุเนตร ระบุ

    นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เมียนมาท่านนี้ เล่าต่อไปว่า เมื่ออังกฤษนำคนแขกมุสลิมเข้ามา ก็มีปัญหาระหองระแหงกระทบกระทั่งกันบ้างกับชาวพื้นถิ่นที่เป็น “ชาวพุทธ” แต่เหตุการณ์ที่เป็น “รอยร้าว” ระหว่างชน 2 กลุ่ม อยู่ในช่วง “สงครามโลกครั้งที่ 2” เมื่อพม่าที่ขณะนั้นตกเป็นอาณานิคมอังกฤษ “ขบวนการกู้เอกราชพม่า” ได้จับมือกับ “ญี่ปุ่น” เพื่อหวังให้กองทัพลูกพระอาทิตย์มาขับไล่มหาอำนาจตะวันตกออกไป ในทางตรงกันข้าม กองทัพอังกฤษก็ได้ทิ้งอาวุธจำนวนมากไว้ให้ชาวโรฮิงญาในอาระกัน เพื่อต่อสู้กับญี่ปุ่นเช่นกัน

    “อังกฤษทิ้งอาวุธให้โรฮิงญา เพื่อจะเอาไว้เป็นกันชนไม่ให้ญี่ปุ่นตามเข้าไปถึงอินเดีย สถานการณ์นี้เป็นรอยแผลสำคัญเลยที่เกิดขึ้น ส่วนรอยแผลอันที่ 2 คือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีปรากฏการณ์การแยกประเทศ เช่นมีปากีสถานตะวันตก ปากีสถานตะวันออก (ปัจจุบันคือบังกลาเทศ) โรฮิงญาก็มีกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อแยกประเทศเช่นกัน อย่างที่มีชื่อออกมาคือ Arakanistan ในช่วงนั้น ซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายที่รัฐบาลพม่าจะยอมให้เกิด” อาจารย์สุเนตร กล่าว

    11(2).jpg “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ทางรถไฟที่สร้างขึ้นจากชีวิตเชลยศึกในกองทัพญี่ปุ่น มุ่งให้เป็นเส้นทางเดินทัพเข้าสู่พม่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

    ท่าทีของพม่าหลังได้รับเอกราชจากอังกฤษใหม่ๆ ในปี 2491 (ค.ศ.1948) รัฐบาลพม่าในขณะนั้น “แม้จะยังไม่ยอมรับชาวโรฮิงญาเป็นชนเผ่าหนึ่งของประเทศ แต่ก็ได้ให้สิทธิเสรีภาพพอสมควร” ชาวโรฮิงญาตั้งสมาคม ชมรมต่างๆ อย่างเปิดเผย ถึงขนาดมีสถานีวิทยุเป็นของตนเอง ทว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไป เมื่อเกิดการยึดอำนาจในปี 2505 (ค.ศ.1962) โดยผู้นำฝ่ายทหาร นายพล “เน วิน” (Ne Win) จากนั้นก็เป็นที่ทราบกันดีว่า แผ่นดินพม่าได้เข้าสู่ “ยุคมืด” เพราะมีการ “ปิดประเทศ” และเปิดฉากสมัยแห่ง “ระบอบเผด็จการ” ยาวนานนับทศวรรษ

    22(1).jpg

    นายพล “เน วิน” (Ne Win) ผู้นำพม่าเข้าสู่ยุคเผด็จการปิดประเทศ

    อาจารย์สุเนตร กล่าวว่า เมื่อ เน วิน ขึ้นครองอำนาจ ท่าทีของรัฐบาลพม่าต่อชนชาวโรฮิงญาได้เปลี่ยนไปแบบ “จากยืดหยุ่นสู่กวาดล้าง” โดยเฉพาะในปี 2521 (ค.ศ.1978) รัฐบาลทหารพม่าได้ใช้นโยบาย Operation Nagamin เข้าควบคุมพื้นที่อาระกัน โดยอ้างว่า “เพื่อรักษาความสงบ” หรือก่อนหน้านั้น ในปี 2517 (ค.ศ.1974) มีการออกกฎหมาย “ยกเลิกบัตรประชาชน” ของชาวโรฮิงญา และในปี 2525 (ค.ศ.1982) ได้ยกระดับสู่การ “ยกเลิกทุกสิทธิ” ที่ชาวโรฮิงญาเคยมีเหมื่อนชนกลุ่มอื่นๆ หรือก็คือการไม่ยอมรับ “การมีตัวตน” ของโรฮิงญาบนแผ่นดินพม่าอีกต่อไป

    นั่นคือเรื่องราวในอดีต แต่ในวันนี้ที่ประชาคมโลกถามหา “อองซานซูจี” (Aung San Suu Kyi) ว่าหายไปไหน? ทำไมไม่พูดอะไรเกี่ยวกับวิกฤติโรฮิงญาบ้าง ทั้งที่เคยถูกยกย่องเป็น “วีรสตรีนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” จนได้รับ “รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ” (Nobel Peace Prize) ในปี 2534 (ค.ศ.1991) ในขณะที่ถูกรัฐบาลทหาร SLORC และ SPDC สั่งจองจำในบ้านพักของเธอเอง กระทั่งในเวลาต่อมาถูกปล่อยตัวและกลับมามีบทบาทสำคัญทางการเมืองอีกครั้ง เมื่อพม่าปฏิรูปการเมืองสู่ประชาธิปไตย และพรรค NLD ของเธอชนะเลือกตั้งในปี 2558 (ค.ศ.2015)

    14(3).jpg “อองซานซูจี” (Aung San Suu Kyi)

    นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เมียนมาท่านนี้ อธิบายสภาพสังคมเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจ คือ “2 พรรคใหญ่” ในการเมืองเมียนมา คือ พรรค NLD ของนางอองซานซูจี กับ พรรค USDP หรือพรรคการเมืองของ “ฝ่ายทหาร” ซึ่งถือเป็น “คู่แข่ง” ของพรรค NLD โดยตรง แน่นอนว่าในสังคมประชาธิปไตย “ฐานเสียง” จากประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ทว่านั่นคือ “โชคร้าย” เพราะชนชาวพม่า “ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ และไม่ชอบโรฮิงญา” ประเด็นโรฮิงญาจึงเป็นเรื่อง “ต้องห้าม” ที่นักการเมืองทุกรายไม่ควรเอ่ยปากพูดถึง

    “ไม่ว่าจะ NLD หรือ USDP ต่างคาดหวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน ซึ่งกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นพุทธ ดังนั้นถ้ารัฐบาลแสดงทีท่าเห็นอกเห็นใจมุสลิมโรฮิงญา ก็จะถูกต่อต้านจากประชาชน หมวกที่อองซานซูจีสวมอยู่ขณะนี้คือหมวกนักการเมือง ไม่ใช่หมวกของผู้ชนะรางวัลโนเบลสันติภาพ ฉะนั้นเขาก็ต้องระวัง ถ้าไปทำอะไรมากคะแนนเสียงจะเสีย” อาจารย์สุเนตร กล่าว

    นอกจากพรรคการเมืองใหญ่ระดับชาติแล้ว ยังมี “ตัวแปร” อื่นๆ เช่น พรรคการเมืองท้องถิ่นรัฐอาระกัน แน่นอนว่ามีแนวทางแบบ “พุทธหัวรุนแรง” ไม่ต่างจากชนชาวพม่าส่วนใหญ่ที่มองโรฮิงญาเป็นคนนอก ความสำคัญของพรรคการเมืองนี้ต่อรัฐบาลกลางเมียนมา คือ “พรรครัฐบาลเอาชนะเลือกตั้งที่อาระกันไม่ได้” ทำให้ขั้วการเมืองรัฐบาลต้องให้ความใส่ใจอย่างมาก หรือแม้แต่ “ภาคประชาชน” ในรัฐอาระกัน ที่จำนวนมากก็เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวของชาวพุทธที่ไม่เอาชาวโรฮิงญา แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ และยังมีกลุ่มย่อยอื่นๆ ออกไปอีก

    “โรฮิงญายังเป็นปัญหาเรื่องสีผิว เพราะมีสีผิวต่างจากคนพม่าชัดเจน ภาษาก็คนละภาษา แถมศาสนายังแตกต่าง ปัญหาของโรฮิงญาจึงเห็นภาพว่ามีกลุ่มยะไข่พุทธกับโรฮิงญาที่ขัดแย้งกัน ทั้งๆ ที่ในอาระกันไม่ได้มีแค่ 2 ชาติพันธุ์ แต่กลุ่มที่เด่นๆ คือยะไข่พุทธกับมุสลิมโรฮิงญา พอเป็นแบบนี้รัฐก็วางตัวยาก จะเอนเอียงสนับสนุนไปทางไหน? แน่นอนก็ต้องทางพุทธ แล้วพอเป็นแบบนี้มันก็ข้ามพรมแดนแล้ว ไม่ได้อยู่แต่ในรัฐยะไข่เท่านั้น แต่กระจายไปพม่าส่วนอื่นๆ ที่เป็นชาวพุทธด้วยกัน ก็มีความเคลื่อนไหวต่อต้านโรฮิงญา” อาจารย์สุเนตร กล่าวย้ำ

    สุดท้ายเมื่อถามหา “กลไกระหว่างประเทศ” เช่น ประชาคมอาเซียน อาจารย์สุเนตร ระบุว่า รัฐบาลพม่ายืนยันเสมอว่า “นี่คือเรื่องภายในของฉัน คนอื่นอย่าเข้ามายุ่ง” ดังนั้นแล้ว ชะตากรรมของชาวโรฮิงญา จึงต้อง

    “เคว้งคว้าง” อย่างไม่รู้ที่สิ้นสุด!!!

    SCOOP@NAEWNA.COM

    http://www.naewna.com/likesara/292023
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2017
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    อพยพ 20,000 ทั่วกรุงมอสโค หลังถูกขู่บึ้มหลายแห่ง อะไรแว้... แค่ปูตินขาย S-400 ให้แอร์โดกันแค่นี้ ถึงกลับขู่บึ้มกันเลยรึ? เอ... หรือจะเป็นเพราะว่าพวกไอซิสในซีเรียกำลังพ่ายแพ้ให้กับกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียอย่างหนัก วันก่อนรัสเซียแถลงว่าตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลซีเรียสามารถยึดพื้นที่คืนจากพวกไอซิสและพวกกบฏได้แล้ว 85% เหลืออีกแค่ 15% เท่านั้น
    ---------------
    https://www.rt.com/news/403195-moscow-malls-university-evacuation/
    .
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สำนักข่าว TASS ของรัฐบาลรัสเซียรายงานว่า มีการโทรขู่บึ้มถึงเกือบ 100 สาย ในกรุงมอสโค
    ------------
    http://tass.com/society/965491
    .
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวดี กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียสามารถยึดโรงกลั่นน้ำมันและแก๊สใกล้เมือง Deir ez-Zor คืนจากพวกขบวนการก่อการร้ายไอซิสได้แล้ว เยสสสสส! นักข่าวของ RT ในพื้นที่ยืนยัน (14 ก.ย.60)
    ----------
    https://www.rt.com/news/403296-oil-fields-syria-army/
    https://www.almasdarnews.com/article/liberated-syrian-gas-fields-begin-pump-fuel-first-time-years/
    .
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    หลังจากที่สหรัฐล้มเหลวในการพยายามอายัดทรัพย์ (ปล้น) ผู้นำเกาหลีเหนือ มะกันก็มามุกใหม่ด้วยการยัดข้อหา "เกาหลีเหนือขโมยเงินดิจิตัลของเกาหลีใต้" เอาเข้าป๊ะ!

    FB_IMG_1505389301634.jpg FB_IMG_1505389285392.jpg FB_IMG_1505389298334.jpg

    ----------

    วันที่ 13 ก.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "เกาหลีเหนือถูกกล่าวหาว่าหาเงินเพิ่มด้วยการขโมยเงินบิทคอยจากการแฮ็ก" (North Korea Accused of Raising Money by Stealing Bitcoins in Hack Attacks)

    [ข่าวนี้สื่อรัสเซียเอามาจากสื่อของสหรัฐ ก่อนหน้านี้ พอเกิดปัญหาต่างๆขึ้น สหรัฐก็มักจะพูดว่า "ฝีมือรัสเซีย/รัสเซียทำ" (Russia DID it.) หลังจากถูกรัสเซียตอกกลับไปจนหน้าหงายนับครั้งไม่ถ้วน อินเทรนด์หน่อย ตอนนี้กระแสรุมกินโต๊ะเกาหลีเหนือกำลังมาแรง ลงมันที่เกาหลีเหนือนี่แหละ แต่หนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการคอรัปชั่นมากที่สุดก็คือ "เกาหลีใต้" - ผู้แปล]

    สื่อมะกันรายงานว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้เตือนว่า เกาหลีเหนือกำลังเริ่มปฏิบัติการโจมตีด้วยการแฮ็ก เพื่อสะสมเงินบิทคอยและเงินดิจิตอลอื่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรที่โหดที่สุดต่อเกาหลีเหนือโดยสหประชาชาติ (จริงๆแล้วโดยสหรัฐ แต่ใช้ยูเอ็นเป็นเครื่องมือ)

    "ตั้งแต่เดือนพฤศภาคม 2017 เป็นต้นมา พวกเราได้สังเกตการณ์ผู้กระทำซึ่งเป็นชาวเกาหลีเหนือซึ่งกำหนดเป้าหมายอย่างน้อยไปที่การแลกเปลี่ยนเงินดิจิตัลสามแห่งของเกาหลีใต้ โดยสงสัยว่ามีเจตนาที่จะขโมยเงินทุน" รายงานของบริษัทตาไฟ (FireEye) ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ที่มีการซื้อขายอย่างเปิดเผยและทำกำไรสูงกล่าว

    [บริษัทนี้ (FireEye, Inc.) เป็นของสหรัฐ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Milpitas รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 โดย Ashar Aziz ชาวอเมริกันเชื้อสายปากีสถานด้วยเงินสนับสนุนจากกองทุนรวม Sequoia Capital ของสหรัฐอีกนั่นแหละ เคยรับงานตรวจสอบกรณีที่บริษัทต่างๆถูกแฮ็ก ในปี 2012 นาย Dave DeWalt อดีต CEO ของบริษัท McAfee เจ้าของโปรแกรมป้องกันไวรัสชื่อดังของค่ายสหรัฐเข้าร่วมงานกับ FireEye ในตำแหน่งประธานบริษัท - ผู้แปล]

    ตาไฟรายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ "อาจจะ" มีความสนใจในสกุลเงินเสมือน (virtual currencies) ก็ได้ เพราะว่าเงินเหล่านี้มีความปลอดภัยและเป็นความลับ ทำให้พวกเขาเคลื่อนย้ายเงินไปที่ไหนๆตามที่พวกเขาต้องการโดยไม่ต้องเจอกับการถูกตรวจสอบจากระบบธนาคารระหว่างประเทศ

    [ตอนนี้ผมสนใจแต่นุกและขีปนาวุธเท่านั้นครับ คิมน้อยไม่ได้กล่าว ก็ในเมื่อคุณบริษัทตาไฟบอกว่าเงินประเภทนี้มันปลอดภัย แล้วทำไมถึงพยายามกล่าวหาเกาหลีเหนือซึ่งถูกดูถูกมาโดยตลอดว่า "โลเท็ค ด้อยพัฒนา" ขโมยไปได้หละครับ? - ผู้แปล]

    "พวกเราได้ประจักษ์แล้วว่าการคว่ำบาตรเป็นคันเร่งอันใหญ่ที่ขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมประเภทนี้" Luke McNamar นักวิจัยผู้เขียนรายงานฉบับนี้กล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg "พวกเขาอาจจะมองว่าเป็นวิธีที่ไม่สิ้นเปลืองในการทำให้เป็นเงินสด"

    [ที่พูดมานี่มีหลักฐานอะไรสนับสนุน "การมโน" บ้างไหม? ไม่มีครับ เขานั่งเทียนเขียนขึ้นมาล้วนๆ สันดานพวกเขาเป็นเช่นนั้น และมันก็กำลังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมใหม่ในวงการการเมืองและสื่อกระแสหลักของพวกตะวันตกซะด้วย - ผู้แปล]

    จอมป้ายสีเดินหน้ามโนต่อไปอีกว่า "แต่มันก็มีปัจจัยอื่นด้วย: คุณก็เงินดิจิตัลมีค่ามากตั้งแต่ต้นปีนี้ ดังนั้นคุณจึงเห็นการแลกเปลี่ยนเงินดิจิตัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกาหลีใต้ ซึ่งก็กลายเป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผลนะ" ตั้งแต่ต้นปีนี้ ค่าเงินบิทคอยเพิ่มขึ้นจาก $963 มาอยู่ที่ $4,222

    รายงานข่าวระบุว่า การกล่าวหาที่ใหญ่หลวงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ซึี่งเกาหลีเหนือถูกกล่าวหาว่าโจมตีเว็บไซต์ Bithumb ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงโซล และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนเงินเสมือนจริงที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก แฮ็กเกอร์ได้โจมตี Bithumb ด้วยการโจมตีแบบ spear phishing attack โดยการใช้อีเมล์และมัลแวร์เพื่อขโมยเงินดิจิตัล

    ไม่ได้มีการคำนวณยอดการสูญเสียทั้งสิ้นใน Bithumb แต่ผู้ใช้งานรายบุคคลรายงานว่ามีเงินหลายแสนดอลลาร์ถูกขโมยไปจากบัญชีของพวกเขา

    [มีหลักฐานไหมว่าเกาหลีเหนือทำ? ไม่มีอีกแล้ว แต่ขอสงสัยเกาหลีเหนือเอาไว้ก่อน เพราะว่าเขาจน เขาต้องออกปล้นมั๊ง? แต่ได้ที่ยกพวกไปปล้นกลางวันแสกในอิรัค อัฟกานิสถาน ลิเบีย ซีเรีย เยเมน และยูเครนนั่นคือแก๊งไหนหละ? - ผู้แปล]

    ในเดือนเมษายน เงินจำนวนประมาณ $5 ล้านถูกขโมยไปจากเว็บไซต์ Yapizon สำหรับแลกเปลี่ยนเงินบิทคอยของเกาหลีใต้ แต่ก็ "ไม่มีหลักฐาน" ที่บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังของการแฮ็กในครั้งนี้

    McNamara จอมป้ายสีเขียนอีกว่า "ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าสกุลเงินดิจิตัล ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่เกิดใหม่ กำลังตกเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจของระบอบ (เกาหลีเหนือ) ซึ่งปฏิบัติการในหลายทาง เช่นบริษัทก่ออาชญากรรมขนาดใหญ่"

    "ในขณะที่ปัจจุบันนี้เกาหลีเหนือบางอย่างที่โดดเด่นทั้งในแง่ของเจตจำนงเพื่อก่ออาชญากรรมทางการเงิน และการครอบครองความสามารถในโลกไซเบอร์ของพวกเขา ดูเหมือนว่าเอกลักษณ์ของการผสมผสานกันนี้จะไม่ยาวนาน เนื่องจากมหาอำนาจในโลกไซเบอร์อาจจะมีศักยภาพที่ใกล้เคียงกัน"

    [เหลือเชื่อ พวกนี้สามารถปั้นน้ำเป็นตัวได้จริงๆ และบอกว่า "อำนาจในโลกไซเบอร์อาจจะมีศักยภาพที่ใกล้เคียงกัน" หมายถึงใครหรือครับ? ทรัมป์อย่าหันหน้าหนีไปทางอื่นสิ

    จำเรื่องการแพร่ระบาดไวรัสเรียกค่าไถ่ WannaCry ที่แพร่ระบาดครั้งแรกได้ไหมครับ? จากการแกะรอยพบว่า มันมาจากหน่วยข่าวกรองของสหรัฐนั่นแหละ และเครื่องมือเจาะประตูหลังคอมพิวเตอร์ทั่วโลกก็ตกไปอยู่ในมือของแอ็กเกอร์กลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐ และแฮ็กเกอร์กลุ่มนั้นก็อ้างว่าส่งเครื่องมือชนิดนี้ไปให้แฮ็กเกอร์อีกกลุ่มหนึ่ง ต่อมาพัฒนาเป็นไวรัสเรียกค่าไถ่ ระบาดไปทั่วโลก

    จากนั้นหน่วยข่าวกรองและพวกรับจ้างปั้นน้ำเป็นตัวแบบรายข้างบนนี้ก็ออกมาสาดโคลนในคนอื่นว่า สงสัยเป็นฝีมือรัสเซีย บางรายบออกว่า อาจจะเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือก็ได้ ขนาดเรือพิฆาตของสหรัฐที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธ AEGIS พร้อมด้วยระบบเรดาร์ที่คุยว่าเจ๋งที่สุดในสามโลก ชนกับเรือพาณิชย์ถึงสองครั้ง พี่แกก็ยังกล้าพูดว่า สงสัยถูกรัสเซียแฮ็ก

    เพื่อให้สมมุติฐานของเซียนไซเบอร์เติมเงินค่ายสหรัฐดูสมจริงมากขึ้น แอ็ดมินจึงนำภาพบรรดาแฮ็กเกอร์ระดับพระกาฬของเกาหลีเหนือมาประกอบข่าว นั่นแหละกองทัพแฮ็กเกอร์ของคิมน้อยที่พวกสหรัฐกลัวนักกลัวหนา ฮ่าๆๆ - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    14/09/2560
    -----------
    https://sputniknews.com/asia/201709131057370034-north-korea-bitcoin-hack-heist/
    https://sputniknews.com/science/201701031049220682-bitcoin-china-currency-growth/
    http://uriminzokkiri.com/index.php?ptype=photo&pagenum=&no=5102
    http://www.todayonline.com/world/asia/north-korea-hackers-step-bitcoin-attacks
    https://www.bloomberg.com/news/arti...-step-up-bitcoin-attacks-amid-rising-tensions
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    คิมน้อยครับ พวกลิเบอร่านอาจจะบอกว่าคุณเอาปืนจี้หัวคุณครูเหล่านั้นมาถ่ายรูปหมู่เพื่อสร้างโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda) ก็ได้นะครับ

    FB_IMG_1505389611557.jpg FB_IMG_1505389615900.jpg FB_IMG_1505389622530.jpg

    ----------

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้วช่องยูทูปของสำนักข่าว Uriminzokkiri หนึ่งในสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือถูกปิดชั่วคราว โดยยูทูปของสหรัฐอ้างเหตุผลว่า ผิดระเบียบมาตรฐานคอมมิวนิตี้ ต่อมาสื่อต่างๆลงข่าวนี้ ยูทูปแสร้งหน้าบาง เปิดให้อีกรอบ ผ่านไป 1-2 วัน แวะเข้าไปดูอีกครั้ง พบว่า "จอดำ" ซะแล้ว คราวนี้ยูทูปให้เหตุผลว่า "บัญชีนี้ถูกระงับอย่างถาวรเนื่องจากคำตำหนิเกี่ยวกับข้อกฎหมาย" (This account has been terminated due to a legal complaint.)

    ปากก็บอกกับชาวโลกว่า "เสรีภาพของสื่อ" โดยเฉพาะตอนที่จะกล่าวหาและใส่ร้ายเกาหลีเหนือและประเทศอื่น และยังปั่นกระแสลวงโลกอีกว่า เกาหลีเหนือปิดหูปิดตาประชาชน เกาหลีเหนือปิดกั้นเสรีภาพของสื่อ เกาหลีเหนือไม่มีอินเตอร์เน็ท เกาหลีเหนือไม่มีเฟซบุค ฯลฯ

    พอสื่อเกาหลีเหนือนำเสนอข่าวภายในประเทศของตนเองให้ทั่วโลกได้รับรู้ความจริง ซึ่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่สื่อของโลกตะวันตกนำเสนอมาโดยตลอด มะกันบอกว่า "ผิดระเบียบ/ผิดกฎหมาย" แบนมันซะ! เดี๋ยวชาวโลกจะรู้ความจริง เสรีภาพ มันต้องปิดปากสื่อฝ่ายตรงข้ามว้อย และพวกสื่อตะวันตกก็จะเรียกสื่อเกาหลีเหนือว่า "propaganda channel" (ช่องโฆษณาชวนเชื่อ)

    รัฐบาลเกาหลีเหนือสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยให้ประชาชนของตนเองทุกครอบครัว เด็กเกาหลีเหนือทุกคนได้เรียนหนังสือฟรี ตำราเรียนฟรี ชุดนักเรียนฟรี อาหารก็ฟรี สหรัฐบอกว่า "เผด็จการ" แต่ประชาชนของประเทศประชาธิปไตยแบบสหรัฐจำนวนมากกลับไม่มีบ้านอยู่อาศัย ต้องนอนข้างถนน คุ้ยหาอาหารจากถังขยะ เป็นโรคไวรัสตับอักเสบเอ เสียชีวิตแล้ว 15 ราย และป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกราว 300 คน มะกันบอกว่า มันเป็นเสรีภาพของพวกเขา พวกเขาต้องการที่จะนอนนอกบ้าน นอนข้างถนน ก็ต้องตามใจพวกเขาสิ

    มีช่องยูทูปของทั้งสื่อเกาหลีเหนือและบุคคลทั่วไปหลายช่องมากที่ถูกปิด ด้วยเหตุผลบ้าบอคอแตกสไตล์มะกันนั่นแหละ ที่เยเมนก็เช่นกัน ถ้าพวกฮูตินำคลิปเกี่ยวกับสงครามโดยเฉพาะตอนที่กองทัพฝ่ายพันธมิตรซาอุดิอาระเบียถล่มประชาชนพลเรือนชาวเยเมน หรือคลิปที่นักรบฮูติถล่มพวกทหารคุณหนู ยูทูปจะรับไม่ได้ ปิดๆๆๆๆ แต่พวกนี้ (เกาหลีเหนือและฮูติ) ก็ไม่ละความพยายามนะครับ ปิดได้ ตรูก็เปิดใหม่ได้เหมือนกัน เกมแมวไล่จับหนู ไอ้เราก็ขยันหามาให้ดูเช่นกัน (มันจะตามมาปิดเพจเราด้วยหรือเปล่านี่?)

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    14/09/2560
    -----------
    https://sputniknews.com/asia/201709111057300443-youtube-north-korean-propaganda-channel/
    http://uriminzokkiri.com/index.php?ptype=great&who=4&categ1=1&categ2=2&index=1&pagenum=1&no=5991#pos
    https://www.theguardian.com/world/2017/sep/08/youtube-north-korea-propaganda-terminated
    http://www.salon.com/2017/09/11/north-korea-youtube-propaganda-channel/
    https://www.youtube.com/user/uriminzokkiri/videos
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัสเซียส่งเรือรบ Alexander Otrakovsky ซึ่งเป็นเรือรบประเภทยกพลขึ้นบกจากกองเรือภาคเหนือของรัสเซียไปยังมหาสมุทรแอทแลนติกเพื่อปราบโจรสลัด (เผลอจะออกเสียงเป็นโจรสหรัฐอยู่เรื่อยเลย ไม่รู้เป็นไง คริๆ)
    ----------
    http://tass.com/defense/965387

    .
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เดินทางโดยสวัสดิภาพ รอบหน้าอย่าลืมเอานุกมาฝากด้วยนะ, เกาหลีเหนือขู่จะทำให้แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐเหลือแต่กองธุลีและความมืดมิด และจะจมเกาะญีปุ่่นทั้งหมด

    FB_IMG_1505394184316.jpg FB_IMG_1505394188616.jpg

    ---------

    ยิ่งใหญ่ทั้งขามาและขากลับ ประชาชนชาวเกาหลีเหนือพากันออกมายืนเรียงรายสองข้างทางในขณะที่ขบวนรถนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเดินทางออกจากกรุงเปียงยางเพื่อกลับไปทำงานตามปรกติ หลังเสร็จสิ้นพิธีเฉลิมฉลองความสำเร็จในการทดลอง H-bomb เมื่อเร็วๆนี้ อย่างอลังการ จนทำให้สหรัฐกดดันให้ UNSC ออกมาตรการคว่ำบาตรสุดโหดรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือ

    ล่าสุดสำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือเผยแพร่ท่าทีของกรุงเปียงยางว่า เกาหลีเหนือขอให้สัญญาว่าจะจมเกาะญี่ปุ่น ที่เต้นรำไปกับจังหวะของสหรัฐ และจะทำให้สหรัฐเหลือแต่กองขี้เถ้าและความมืดมิด

    สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือได้ด่าสหรัฐว่า "กุเรื่องขึ้นมา" เกี่ยวกับมาตรการที่เข้มงวดรอบล่าสุดต่อเกาหลีเหนือ และ (เกาหลีเหนือ) ก็ต้องการให้สหรัฐถูกหวดจนถึงความตายเหมือนกับท่อนไม้ที่เหมาะกับสุนัขบ้า (…as a stick is fit for a rabid dog.)

    "ขณะนี้ เป็นเวลาที่จะกำจัดจักรวรรดินิยมจอมรุกรานอย่างสหรัฐแล้ว มาร่วมกันถล่มแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐให้จมสู่กองเถ้าธุลีและความมืดมิดกันเถอะ" สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงาน พร้อมกับสัญญาอีกว่า จะใช้ทุกวิธีในการแก้แค้นซึ่งตอนนี้ได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว

    กรุงเปียงยางกล่าวว่า ขีปนาวุธข้ามทวีปลูกก่อนหน้านี้ที่บินข้ามดินแดนของญี่ปุ่นไม่ได้ทำให้ญี่ปุ่นสำนึกเลย และก็ยังคง "เต้นรำไปกับท่วงทำนองการแซงชั่นของสหรัฐอีก"

    "หมู่เกาะทั้งสี่แห่ง [ของญี่ปุ่น] ควรจะถูกจมลงสู่ทะเลด้วยระเบิดนิวเคลียร์ของจูเช่ (Juche) ญี่ปุ่นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ใกล้เราอีกต่อไป" KCNA รายงาน

    (หลักปรัชญา Juche คือหลักอุดมการณ์แบบพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนอย่างเป็นทางการของรัฐบาลเกาหลีเหนือ พัฒนาขึ้นโดยอดีตประธานาธิบดี Kim Il-sung ปู่ของคิม จอง-อึน เน้นเรื่องการพึ่งพาตนเองในระดับประเทศและการเป็นรัฐอิสระ คล้ายกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของในหลวง ร.๙ ของประเทศไทย และคล้ายกับนโยบาย "Make in India" ของรัฐบาลปัจจุบันของอินเดีย)

    กรุงโตเกียวได้ออกมาส่งเสียงโวยวายต่อแถลงการณ์ของเกาหลีเหนือว่า "เป็นแถลงการณ์ที่ยั่วยุเลวร้ายที่สุด" (extremely provocative and egregious)

    Yoshihide Suga รมว.ประจำสำนักนายกของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "มันเป็นบางอย่างที่ทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนครับ ยอมรับไม่ได้โดยเด็ดขาด" (แค่คิมน้อยขู่เล่นๆ ญี่ปุ่นก็ดิ้นตายแล้ว รับมุกกันดีเหลือเกิน)

    กรณีเกาหลีใต้ ซึ่งเพิ่งจะประสบความสำเร็จในการซ้อมปล่อยขีปนาวุธนำวิถี Taurus พิสัยไกล (500 กม.) สำหรับทำลายบังเการ์ใต้ดิน เป็นขีปนาวุธอากาสสู่ภาคพื้น คุยว่ามีคุณสมบัติล่องหน (stealth) หลบหลีกการถูกตรวจจับจากเรดาร์และป้องกันการแจมสัญญาณได้ ซึ่งเกาหลีใต้พัฒนาร่วมกับเยอรมันและสเปน โดยปล่อยจากเครื่องบินรบ F-15K ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้ ทำลายเป้าหมายที่ได้มีการเตรียมการไว้ได้อย่างแม่ยำ และเผยแพร่คลิปออกมาตามสื่อและโซเชียลมีเดียด้วย ระบุว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 13 กันยายนนี้

    ทางกรุงเปียงยางก็จึงมองว่า การที่เพื่อนบ้านฝ่ายใต้สนับสนุนการคว่ำบาตรต่อฝ่ายเหนือในครั้งนี้ เป็น "การทรยศ" (treason) ต่อเพื่อนร่วมชาติ และสัญญาว่าจะกวาดล้าง "บรรดาผู้ทรยศและสุนัขรับใช้ของสหรัฐ" (traitors and dogs of the US) ออกไปจากการรวมชาติให้หมด

    "ไอ้พวกพวกผู้ทรยศโปร-อเมริกา ควรจะถูกลงโทษอย่างสาสม และถูกกวาดออกไปด้วยการโจมตีด้วยไฟ เพื่อไม่ให้เขามีชีวิตรอดอยู่ได้อีก หลังจากนั้นประเทศเกาหลีทั้งหมดก็จะก้าวหน้าในการรวมดินแดนที่น่าภาคภูมิใจในโลกนี้"

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    14/09/2560
    -----------
    https://www.rt.com/news/403280-north-korea-sink-japan/
    https://kcnawatch.co/newstream/1505...-dprk-stand-toward-unsc-sanctions-resolution/
    https://www.rt.com/news/403194-south-korea-drills-f15-taurus/
    http://uriminzokkiri.com/index.php?ptype=photo&pagenum=&no=5158
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    กองทัพรัสเซียพานักข่าวต่างประเทศทัวร์ฐานทัพอากาศของตนเองในจังหวัดลาตะเกีย ประเทศซีเรีย และพาทัวร์เมือง Deir ez-Zor หลังได้รับชัยชนะในการทำลายการปิดล้อมโดยพวกไอซิส ตอนนี้ยึดสนามบิน/ฐานทัพอากาศใน Deir ez-Zor ได้แล้ว แต่ยังมีพวกไอซิสอยู่ในอำเภออื่นในจังหวัดนี้ กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียกำลังส่งกองหนุนหลายพันนายและอาวุธยุทโธกรณ์เข้าไปเพิ่มในพื้นที่ เตรียมจะข้ามแม่น้ำยูเฟรติสไปฝั่งรัคคาที่พวกเคิร์ดหุ่นเชิดของสหรัฐยึดไว้ ส่วนพวกเคิร์ดก็เตรียมจะยกทัพมาฝั่ง Deir ez-Zor เช่นกัน ยังไม่มีการปะทะกันระหว่างกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียกับฝ่ายเคิร์ด (13 ก.ย.60)
    ----------

    .
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เกาหลีใต้ปล่อยคลิปซ้อมการทดลองขีปนาวุธนำวิถี Taurus โจมตีบังเกอร์ใต้ดินในเกาหลีใต้ จากเครื่องบินรบ F-15K เพื่อขู่กรุงเปียงยาง มันเป็นแบบนี้แหละ พอเกาหลีเหนือทดลอง ฝ่ายใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐก็บอกว่าเกาหลีเหนือยั่วยุ และคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ จากนั้นตนเองก็ทำคล้ายกับที่เกาหลีเหนือทำ แต่อ้างว่าเพื่อส่งสัญญาณเตือนเกาหลีเหนือ หรือเพื่อป้องกันตนเอง (13 ก.ย.60)
    ----------

    https://www.rt.com/news/403194-south-korea-drills-f15-taurus/
    .
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวบันเทิง: เรือดำน้ำรัสเซียสองลำปล่อยขีปนาวุธนำวิถี Kalibr เจ็ดลูกถล่มไอซิสใกล้เมือง Deir ez-Zor ซีเรีย

    FB_IMG_1505399831247.jpg FB_IMG_1505399835196.jpg FB_IMG_1505399838656.jpg

    ---------

    วันที่ 14 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "เรือดำน้ำรัสเซีย 2 ลำยิงจรวดร่อนจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โจมคีเป้าหมายไอซิสในซีเรีย" (2 Russian submarines fire cruise missiles from Mediterranean, hitting ISIS targets in Syria)

    ขีปนาวุธนำวิถี Kalibr จำนวน 7 ลูกถูกปล่อยออกจากเรือดำน้ำ Velikiy Novgorod และ Kolpino (ดีเซล-ไฟฟ้า ชั้นกิโล ปรับปรุงล่าสุด Project 636.3) จากกองเรือทะเลดำ กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลง

    เป้าหมายที่ถูกโจมตีประกอบด้วย ศูนย์บัญชาการ ฮับสื่อสาร คลังเก็บอาวุธและเครื่องกระสุนของผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ควบคุมของพวกไอซิสทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัด Deir ez-Zor แถลงการของกลาโหมรัสเซียกล่าว

    ขีปนาวุธ Kalibr ของรัสเซียได้โจมตีเป้าหมายทั้งหมดตามที่ได้วางแผนเอาไว้ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 500 - 670 กิโลเมตร รัสเซียกำลังให้การสนับสนุนกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียเพื่อปลดปล่อยดินแดนของประเทศนี้ให้ปลอดจากกลุ่มก่อการร้ายไอซิส

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพซีเรียและพันธมิตรประสบความสำเร็จในการตีฝ่าแนวปิดล้อมของพวกไอซิสที่เมือง Deir ez-Zor ได้สำเร็จ ซึ่งเมืองแห่งนี้ถูกพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสปิดล้อมไว้เป็นเวลาถึงสามปี การสนับสนุนเสบียงอาหารและอาวุธให้กองทัพและประชาชนในพื้นที่ปิดล้อมกระทำได้ทางอากาศเท่านั้นในช่วงที่ผ่านมา ปฏิบัติการทำลายการปิดล้อมของพวกไอซิสในครั้งนี้ กองทัพเรือของรัสเซียได้ปล่อยขีปนาวุธ Kalibr หลายลูกจากเรือรบผิวน้ำที่ประจำการอยู่นอกชายฝั่งซีเรียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถล่มตำแหน่งสำคัญของพวกไอซิสรวมทั้งการโจมตีทางอากาศจากเครื่องบินรบของรัสเซียและซีเรียด้วย เปิดทางให้กองกำลังภาคพื้นดินเข้ายึดและเคลียร์พื้นที่ในที่สุด

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    14/09/2560
    -----------
    https://www.rt.com/news/403307-2-russian-submarines-fire-cruise-missiles/
    https://sputniknews.com/military/201709141057386270-russia-submarines-kalibr-daesh-strike/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวบันเทิง: เวเนซูเอล่าประกาศเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรจากสหรัฐ

    FB_IMG_1505401917920.jpg FB_IMG_1505401924235.jpg

    ---------

    อะไรแว้... เมื่อวานนี้สหรัฐเพิ่งจะขู่จีนไปหยกๆ ว่าจะไม่ให้จีนใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ถ้าจีนไม่ยอมคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ หลังจีนยกมือสนับสนุนการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดตามมติ UNSC (กรณีนี้เหมือนคนเมายาบ้าเอามีจี้คอตนเอง และบอกให้จีนไปสั่งสอนเกาหลีเหนือ ถ้าไม่ทำตามที่คนบ้าต้องการ คนบ้าก็จะเชือดคอตนเอง) ทางการเวเนซูเอลารีบชิงทิ้งดอลลาร์เลย หวังว่าคงจะถูกใจมะกันนะครัช

    รายงานข่าวแจ้งว่าได้แจ้งกับบรรดาผู้ค้าน้ำมันว่า ประเทศเวเนซูเอลาจะไม่ยอมรับการชำระค่าน้ำมันด้วยสกุลเงินดอลาร์ของสหรัฐอีกต่อไป The Wall Street Journal ของสหรัฐรายงาน

    บริษัทผู้ค้าน้ำมันที่ส่งออกน้ำมันจากเวเนซูเอลา หรอืนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตเลียมของเวเนซูเอลาได้เริ่มเปลี่ยนใบกำกับภาษี (invoices) ของตนเองเป็นเงินยูโรแล้ว สื่อรายงาน

    WSJ รายงานอีกว่า การตัดสินใจของเวเนซูเอลาในครั้งนี้เป็นการตอบโต้ต่อการคว่ำบาตรโดยสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงปิโตเลียมของเวเนซูเอลายังไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

    ข่าวนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่นาย Eulochio del Pino รมว.กระทรวงปิโตเลียมของเวเนซูเอลาแถลงว่า เวเนซูเอลาจะเริ่มใช้เงินสกุลอื่นในการขายน้ำมันแทนเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินหยวนของจีีน

    เมื่อเดือนสิงหาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเวเนซูเอลา เพื่อกดดันทางการเงินต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี Nicolas Maduro กรณีรัฐบาลนี้ต้องการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (National Constituent Assembly) (โดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ถูกใจสหรัฐ และพวกฝ่ายค้านหุ่นเชิดของสหรัฐ) คณะกรรมการชุดนี้เพิ่งจะได้รับการเลือกตั้งมาเมื่อเดือนมิถุนายน แต่กรัฐบาลสหรัฐ อียู และฝ่ายค้านเวเนซูเอลา บอกการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญของเวเนซูเอลา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย (ถ้าใครไม่ยอมทำตามคำสั่งของสหรัฐ เขาก็บอกว่าไม่เป็นประชาธิปไตยทั้งนั้นแหละ)

    ในขณะเดียวกันพวกฝ่ายค้านก็จัดการทำประชามติเถื่อนที่ไม่มีกฎหมายรองรับเพื่อล้มสภาร่างรัฐธรรมนูญ สหรัฐและพวกอียูปรบมือเชียร์ จีนและรัสเซียไม่รับการคว่ำบาตรเวเนซูเอลาโดยสหรัฐในครั้งนี้ เวเนซูเอลา อย่าลืมซื้อ S-400 จากรัสเซียไปตุนไว้ด้วยนะครับ ดูตุรกีเป็นตัวอย่าง แล้วคุณจะปลอดภัย คุณคือเป้าหมายใหญ่และเนื้อชิ้นโตที่พวกนักล่าจอมกระหายเลือดกำลังจังตาเขม็งอยู่ในขณะนี้ เพราะว่าประเทศคุณมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลก แต่พวกคุณบริหารจัดการไม่เป็น เน้นประชานิยมมากเกินไป ประเทศจึงจน และมันก็เปิดทางให้ต่างชาติฉวยโอกาสเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในประเทศของพวกคุณ เสี้ยมให้ประชาชนแตกแยกความสามัคคีกัน เข่นฆ่ากันเอง

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    14/09/2560
    -----------
    https://sputniknews.com/business/201709141057388292-venezuela-oil-us-dollars-tensions/
    https://www.wsj.com/articles/venezu...l-payments-following-u-s-sanctions-1505343161
    https://sputniknews.com/politics/201708291056871021-venezuela-thanks-russia-china-sanctions/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผู้สื่อข่าวที่ไปเยือนพื้นที่นี้พบหลักฐานที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการอ้างของรัฐบาลพม่าที่ระบุว่าชาวโรฮิงญาจัดฉากเผาบ้านของตัวเอง

    ชาวซิกข์มาช่วยชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หนีจากพม่าเข้าไปยังบังคลาเทศ
    โดย กองบรรณาธิการ
    - 14 กันยายน 2017
    khalsa-aid.jpg
    อาสาสมัครชาวซิกข์จากองค์กรการกุศลขาลสา (Khalsa Aid) กำลังให้น้ำดื่มกับเด็กผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา
    องค์กรการกุศลขาลสา (Khalsa Aid) กล่าวว่า อาสาสมัครจากสาขาอินเดียของตนกำลัง “ทำงานในสภาพที่ยากลำบากในพื้นที่ชายแดน” ของบังคลาเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิมโรฮิงญา ดิอินเดียนเอ็กซ์เพรส (The Indian Express) สื่ออินเดียรายงาน

    อาสาสมัครชาวซิกข์บอกว่า พวกเขาได้เริ่มแจกจ่ายอาหารและน้ำให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่หนีความรุนแรงจากพม่า

    องค์กรนี้ซึ่งจดทะเบียนในสหราชอาณาจักรได้ไปยังหมู่บ้านคอกซ์ บาซาร์ (Cox’s Bazar) ในเมืองเตกนาฟ (Teknaf) ซึ่งเป็นจุดข้ามแดนเข้ามาในบังกลาเทศของชาวโรฮิงญานับหมื่นคน

    หมู่บ้านโรฮิงญาหลายร้อยแห่งตอนนี้ถูกทิ้งร้าง หลังจากที่ชาวบ้านหลบหนีความรุนแรงในรัฐยะไข่

    อะมาร์พรีต ซิงห์ (Amarpreet Singh) กรรมการผู้จัดการของ องค์กรการกุศลขาลสา อินเดีย กล่าวกับดิอินเดียนเอ็กซ์เพรส ว่า “เราเตรียมตัวให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยราว 50,000 คน แต่มีผู้ลี้ภัยอยู่ที่นี่มากถึงสามแสนคน พวกเขาอาศัยอยู่โดยไม่มีน้ำ อาหารเสื้อผ้า และที่พักอาศัย พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่ใดก็ตามที่พวกเขาสามารถหามุมได้”

    ชาวมุสลิมชาวโรฮิงยาต้องเผชิญกับการประหัตประหารอย่างกว้างขวางในประเทศพม่าที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ความรุนแรงได้ผลักดันให้ผู้คนนับแสนต้องหาที่หลบภัยในต่างประเทศ

    เซา หะเต (Zaw Htay) โฆษกรัฐบาลพม่าบอกว่า คนที่หนีออกไปจากพม่าแล้วจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาในประเทศอีก ดิอินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษรายงาน

    รัฐบาลกล่าวหาว่าชาวโรฮิงญาใช้ความรุนแรง แต่ผู้สื่อข่าวที่ไปเยือนพื้นที่นี้พบหลักฐานที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการอ้างของรัฐบาลพม่าที่ระบุว่าชาวโรฮิงญาจัดฉากเผาบ้านของตัวเอง

    ชาวโรฮิงญาหลายคนที่หลั่งไหลเข้ามาในค่ายผู้ลี้ภัยในบังคลาเทศกล่าวว่าทหารพม่ากราดยิงตามอำเภอใจ เผาบ้านเรือนของตน และขู่ให้ออกไปหรือไม่ก็ต้องตาย คนอื่น ๆ กล่าวว่า พวกเขาถูกโจมตีโดยกลุ่มชาวพุทธ

    http://www.publicpostonline.net/15318
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผู้สื่อข่าวที่ไปเยือนพื้นที่นี้พบหลักฐานที่น่าสงสัยเกี่ยวกับการอ้างของรัฐบาลพม่าที่ระบุว่าชาวโรฮิงญาจัดฉากเผาบ้านของตัวเอง คือนายโจนาธาน เฮด

    Screenshot_2017-09-14-22-26-37.png

    http://www.bbc.com/thai/international-41225816
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เชื่อข่าวที่คนแบบนี้เอามารายงานหรือ (ยังมารายงานเรื่องโรฮิงญาได้ แสดงว่าอาจพ้นคดี)

    นักข่าว BBC เจอคุก 5 ปี หลังเสนอข่าวชาวต่างชาติถูกโกงทรัพย์สินที่ภูเก็ต 7 เดือนที่ผ่านมา |

    74f36ab1-85e0-4480-9a67-998f21ffa4cb.png

    โจนาธาน เฮด นักข่าว BBC ส่อเจอคุกถึง 5 ปี หลังนำเสนอรายงานข่าวชาวต่างชาติ 2 ราย ถูกฉ้อโกงทรัพย์สินที่ภูเก็ต
    เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 เว็ยไซต์ยาฮูนิวส์ อ้างอิงตามรายงานจากเอเอฟพี เปิดเผยว่า โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าว BBC ประจำพื้นที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถูกนายประทวน ธนารักษ์ ทนาย ยื่นฟ้อง หลังจากการรายงานข่าวเมื่อปี 2558 ที่ได้พยายามนำเสนอรายงานเกี่ยวกับชาวต่างชาติวัยเกษียณ 2 รายที่ถูกฉ้อโกงทรัพย์สินของตัวเองภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
    โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (21 กุมภาพันธ์ 2560) โจนาธาน ได้ไปขึ้นศาลภูเก็ต พร้อมด้วย นายเอียน แรนซ์ ชายชาวอังกฤษ หนึ่งในเหยื่อผู้ถูกฉ้อโกงทรัพย์สิน และผู้ตกเป็นจำเลยร่วมในการฟ้องร้องครั้งนี้ด้วย โดยทั้งคู่ต่างยืนยันว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์
    จากรายงานระบุว่า แรนซ์เกษียณอายุมาอยู่ที่ภูเก็ตตั้งแต่ปี 2554 จากนั้นได้แต่งงานกับหญิงไทย จนมีลูกด้วยกัน 3 คน และได้ซื้อทรัพย์สินมูลค่า 1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 42 ล้านบาท) แต่ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายประเทศไทยไม่ยินยอมให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินไทยได้ ชาวต่างชาติหลาย ๆ คนจึงต้องนำทรัพย์สินไปใส่ในชื่อของบริษัทหรือชาวไทยที่ไว้วางใจ
    กระทั่งในปี 2553 แรนซ์พบว่า ภรรยาของเขาแอบปลอมแปลงลายเซ็น เพื่อเอาชื่อของเขาออกจากการเป็นผู้อำนวยการบริษัท และนำทรัพย์สมบัติไปขาย โดยได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายผู้ปล่อยเงินกู้ และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต เป็นเหตุให้เธอต้องโทษจำคุก 4 ปี ขณะที่แรนซ์ใช้ความพยายามอยู่หลายปีในการต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อฟ้องร้องเอาทรัพย์สินคืนมา
    โดยจากรายงานข่าวของ โจนาธาน เฮด ได้นำเสนอข่าวอ้างว่า ทนายประทวน ธนารักษ์ ยอมรับลายเซ็นของแรนซ์ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้อยู่ด้วยในขณะนั้น ด้านทนายความจึงฟ้องโจนาธาน ฐานทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเหยียดหยามหรือเกลียดชัง
    แรนซ์และโจนาธาน เจอข้อหาหมิ่นประมาททางอาญา มีโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี และสำหรับโจนาธาน ยังมีความผิดเพิ่มเติมในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี นอกจากนี้ ทั้งสองยังถูกยึดพาสปอร์ต และทำให้โจนาธานไม่สามารถเดินทางไปทำงานยังที่อื่น ๆ ในเอเชียได้ ในขณะที่เขาต้องต่อสู้ในชั้นศาลเป็นเวลา 2 ปี
    ขณะเดียวกันทาง BBC เผยว่า จะยืนอยู่ข้างผู้สื่อข่าวของตน และจะมุ่งมั่นยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับเขา ส่วนแรนซ์ เปิดเผยกับเอเอฟพี ระบุว่า ตนสูญเสียทุกสิ่งแล้ว ขณะที่ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชน ได้แสดงความคิดเห็นว่า คดีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยใช้กฎหมายหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาโจมตีการทำงานของผู้สื่อข่าว และยิ่งทำให้การเปิดเผยการกระทำความผิดและการทุจริตฉ้อโกงในประเทศไทยเป็นไปได้ยากมากขึ้น
    ภาพจาก ทวิตเตอร์ @pakhead



    https://hilight.kapook.com/view/149610
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โสมแดงข่มขู่ขยี้สหรัฐฯเป็นขี้เถ้า ใช้'นุก'ถล่มญี่ปุ่นจมหายไปในทะเล
    เผยแพร่: 14 ก.ย. 2560 23:29:00
    560000009810201.jpg
    รอยเตอร์/เอเอฟพี - หน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่งของเกาหลีเหนือ ออกมาข่มขู่ในวันพฤหัสบดี (14 ก.ย.) ว่าจะใช้ระเบิดนิวเคลียร์ถล่มญี่ปุ่นให้ “จมหายไปในทะเล” และทำให้สหรัฐฯกลายเป็น “ขี้เถ้าและความดำมืด” โทษฐานยุยงให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงโทษคว่ำบาตรโสมแดงระลอกใหม่ ภายหลังเปียงยางทำการทดลอง “นุก” ครั้งล่าสุด

    คณะกรรมาธิการสันติภาพเอเชีย-แปซิฟิกแห่งเกาหลี ซึ่งเป็นหน่วยงานของเกาหลีเหนือทำหน้าที่ฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่โสมแดงมีอยู่กับต่างประเทศอย่างเช่น สหรัฐฯและญี่ปุ่น รวมทั้งการโฆษณาชวนเชื่อต่อต่างประเทศ ยังเรียกร้องให้ยุบเลิกคณะมนตรีความมั่นคง ที่เป็น “เครื่องมือแห่งความชั่วร้าย” ประกอบด้วยพวกประเทศ “ซึ่งถูกติดสินบนด้วยเงินทอง” จนเคลื่อนไหวตามคำสั่งของสหรัฐฯ

    “เกาะใหญ่ทั้ง 4 เกาะของญี่ปุ่นสมควรถูกถล่มให้จมทะเลด้วยระเบิดนิวเคลียร์ของจูเช่ ญี่ปุ่นไม่มีความจำเป็นใดๆ อีกแล้วที่จะดำรงคงอยู่ใกล้ๆ กับเรา” คณะกรรมาธิการชุดนี้กล่าวในคำแถลง ทั้งนี้ จูเช่ ที่แปลว่า “การพึ่งตนเอง” เป็นอุดมการณ์ในการปกครองประเทศของเกาหลีเหนือ โดยผสมผสานระหว่างลัทธิมาร์กซิสต์ กับรูปแบบสุดโต่งของลัทธิชาตินิยมชนิดพร้อมเดินหน้าไปคนเดียว

    “กองทัพและประชาชนเกาหลีเหนือขอเรียกร้องอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า พวกแยงกี้ซึ่งเป็นตัวการจัดทำร่างญัตติคว่ำบาตรนี้ขึ้นจะต้องถูกตีให้ตาย เพราะหมาบ้าก็ต้องเจอกับไม้เรียวแบบนี้” คำแถลงซึ่งเผยแพร่ผ่านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือระบุ และบอกด้วยว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำลายล้างพวกนักล่าอาณานิคมสหรัฐฯ ขอให้เราจงถล่มแผ่นดินอเมริกาให้กลายเป็นขี้เถ้าและความดำมืด”

    ปฏิกิริยาอันกราดเกรี้ยวเช่นนี้ของเกาหลีเหนือเช่นนี้ บังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (11 ก.ย.) คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้มีมติเอกฉันท์ 15-0 รับรองญัตติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ ที่ครอบคลุมทั้งการห้ามโสมแดงส่งออกสิ่งทอ และแรงงาน ตลอดจนลดและจำกัดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และน้ำมันกลั่นของโสมแดง เพื่อตอบโต้การทดสอบอาวุธร้ายแรงเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเปียงยางอ้างว่าเป็น “ระเบิดไฮโดรเจนย่อส่วน” ที่สามารถติดตั้งบนขีปนาวุธได้
    560000009810202.jpg
    ทางด้านญี่ปุ่นได้ออกมาตอบโต้กลับท่าทีท้าตีท้าต่อยของเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง

    “การประกาศเช่นนี้เป็นการยั่วยุและเป็นความเลวทรามอย่างที่สุด นี่เป็นอะไรที่ทำให้ความตึงเครียดของภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน และเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง” โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี (14) ทั้งนี้ในระบบการเมืองญี่ปุ่นนั้น เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลมาก อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโฆษกรัฐบาลด้วย

    ด้านนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ที่กำลังไปเยือนอินเดีย ก็แถลงเรียกร้องให้ปฏิบัติตามมติยูเอ็นอย่างเคร่งครัด พร้อมกับบอกว่าถึงเวลาที่โลกจะต้องแสดงพลังเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว

    อย่างไรก็ดี แม้จะมีการข่มขู่คุกคามด้วยนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากทางโสมแดง แต่ประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ กล่าวในวันพฤหัสบดี (14) ว่า เขายังคงคัดค้านการมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในประเทศของเขา ไม่ว่าจะด้วยการพัฒนาคลังแสงของตนขึ้นเอง หรือการนำเอาอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีของสหรัฐฯกลับเข้ามาอีก ภายหลังได้นำออกไปเมื่อตอนต้นทศวรรษ 1990

    “การตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยการมีอาวุธนิวเคลียร์ของเราเองนั้น จะไม่สามารถธำรงรักษาสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลีเอาไว้ได้ และอาจนำไปสู่การแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย” มุนกล่าวเช่นนี้ในการให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็น

    ขณะเดียวกัน กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงว่า มีแผนการจะให้เงินจำนวน 8 ล้านดอลลาร์ผ่านทางโครงการอาหารโลก และองค์การยูนิเซฟ ซึ่งเป็น 2 องค์กรชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ เพื่อใช้ช่วยเหลือเด็กทารกและสตรีมีครรภ์ในเกาหลีเหนือ

    ความเคลื่อนไหวคราวนี้ถือเป็นการที่เกาหลีใต้กลับมาให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมแก่เกาหลีเหนือใหม่อีกครั้ง หลังจากยุติไปเมื่อตอนที่โสมแดงทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ในเดือนมกราคม 2016 และอิงอยู่กับนโยบายที่ใช้มานานแล้วซึ่งแบ่งแยกระหว่างความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมกับเรื่องการเมือง กระทรวงแห่งนี้ระบุ

    https://mgronline.com/around/detail/9600000094635
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    tnews_1505435179_5589.jpg

    ระทึก!! เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจากเปียงยางมุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น หลังประกาศขู่ไปไม่กี่ชั่วโมง!! (รายละเอียด) Publisher : 2017-09-15 07:26:19

    กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธออกจากเขตซูนาน ในกรุงเปียงยาง ในช่วงเช้าวันนี้ (15 กันยายน) ซึ่งขีปนาวุธได้บินไปทางทิศตะวันออกมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นขีปนาวุธชนิดใด

    ล่าสุดนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินโดยเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บินผ่านของขีปนาวุธอพยพลงที่หลบภัยแล้ว

    แหล่งข่าวคาดว่า ขีปนาวุธลูกดังกล่าวนั้น เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเหนือฮอกไดโดผ่านดินแดนญี่ปุ่นหลังเกาหลีเหนือขู่ว่าจะถล่มญี่ปุ่นไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า!!!

    14ba5578-cea7-4c36-9e0d-b0efaaf3c232.jpg

    9fc041c1-0433-48eb-a43d-d40f4f6ebe90.jpg

    บลู เฮ้าส์ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกมาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี จัดประชุมด่วนทันที ส่วนประธานาธิบดีมูน แจ อิน ผู้นำโสมขาว แถลงว่า จะจัดการประชุมฉุกเฉินสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย เช่นเดียวกับรัฐบาลญี่ปุ่น ก็นั่งไม่ติด เตรียมจัดการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติในเช้าวันนี้

    ทั้งนี้ การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้ มีขึ้นไม่กี่วันหลังยูเอ็นเอสซี มีมติคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อเกาหลีเหนือเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กรณีทดลองอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 3 ก.ย. และมีขึ้นเพียงวันเดียว หลังเกาหลีเหนือขู่จมญี่ปุ่น และบดขยี้สหรัฐให้เหลือแต่เถ้าถ่าน กรณีสนับสนุนมติคว่ำบาตรของยูเอ็นเอสซี

    5acfbd47-e7de-403b-becd-5a59babf551a.jpg

    01ed994d-e9f0-4e73-82e5-d86e3da3358a.jpg

    เรียบเรียงโดย
    เอกสิทธิ์ ชูวารี : สำนักข่าวทีนิวส์
    http://m.tnews.co.th/contents/bg/358331

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    FB_IMG_1505437374487.jpg

    ... "รัสเซีย เรียกร้องหลายฝ่ายเปิดเจรจาเรื่องพม่า"
    ... โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย นาง Maria Zakharova บอกเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า อยากให้ทุกฝ่ายมาร่วมเจรจากันเพื่อหาทางออกให้กับความขัดแ้ย้งในพม่าโดยด่วน โดยบอกว่าก่อนที่เหตุการณ์จะเลวร้ายลงมากกว่าเดิม
    ... และตอนนี้รัสเซียกลัวว่าสื่อจากตะวันตกก็กำลังจะส่งข้อมูลที่ผิดๆไปสู่ชาวโลกที่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงมากกว่าเดิมอีก
    ... โดยตอนนี้รัสเซียพยายามเป็นกาวใจเชื่อมระหว่างรัฐบาลพม่าให้ทำตามคำแนะนำของยูเอ็นเพื่อจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นในสายตาของชาวโลก
    ... ถ้าปล่อยให้นานกว่านี้ ประเทศอิสลามต่างๆ เช่น มาเลเซีย ตุรกี จะถูกบีบจากประชาชนให้ออกมาปกป้องชาวมุสลิมโรฮีนจาและจะทำให้การเมืองโลกอาจจะเปลี่ยนแปลงไป หรือถ้านานกว่านี้ประเทศจากกลุ่มอ่าวอาจจะส่งเสริมให้มีการติดอาวุธเพื่อส่งไปปกป้องชาวโรฮีนจา เช่น Arakan Rohingya Salvation Army (ARSA), กลายเป็นการก่อการร้ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบบที่มาลาวีของฟิลิปปินส์อีก ที่จะเข้าทางของมหาอำนาจชายเดี่ยวของโลกทันที
    ... นักวิเคราะห์ตะวันตกบอกว่าถ้าสถานการณ์ในพม่าเลวร้ายลงกว่านี้ จะยิ่งทำให้เสถียรภาพและความมั่นคงในย่านอาเซี่ยนย่ำแย่ลงกว่าเดิม ซ้ำเติมจากที่กรณีกบฏมุสลิมในมาลาวีเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ ( และล่าสุดภาคใต้ของไทยด้วย ที่ซาอุดิอาระเบียตอนต้นปีขนทีมงานชุดใหญ่มาบอกชัดเจนว่า ต้องการขยายอิทธิพลของประเทศตนทั้งการค้า การศาสนา การศึกษา ในย่านนี้ให้มากขึ้น ผ่านทั้งทางองค์กรทางศาสนาและการศึกษา ) นอกจากจะสกัดการเดินรถรางเชื่อมกับทางสายไหมใหม่ของจีนแล้ว ยังทำลายการเจริญเติบโตของอาเซี่ยนในระยะยาวด้วย
    ... "We call on all the parties involved in the conflict to avoid any steps that could further escalate the situation and start a constructive dialogue, as it is the only way to find a comprehensive solution to the complicated issue of the Muslim minority in Myanmar," the Russian diplomat said.
    http://tass.com/politics/964635
    .https://www.crisisgroup.org/asia/south-east-asia/myanmar/rakhine-state-danger-myanmars-transition
    https://www.facebook.com/jeerachart.jongsomchai?fref=ts
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อาหารที่จัดให้วันละ 75 บาทต่อหัวต่อคน ไม่เพียงพอกับความต้องการในการบริโภคต่อมื้อ และขอให้มีการปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มปริมาณอาหาร
    ชาวโรฮิงญาประท้วงไม่ยอมกินข้าว เรียกร้อง ตม.ปรับปรุงคุณภาพอาหาร
    โรฮิงญาประท้วงอดข้าว เรียกร้องให้เพิ่มปริมาณและคุณภาพอาหาร ยันไม่กลับประเทศพม่าแน่ ศุกร์ที่ 25 มกราคม 2556 เวลา 05.18 น.
    วันนี้ (25 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากชาวโรฮิงญาเพศชายจำนวน 120 คน ถูกส่งมาจาก จ.พังงา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำมาควบคุมตัวที่บริเวณอาคาร ที่พักเพื่อรอการส่งกลับ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ประจวบคีรีขันธ์ หมู่ 6 บ้านไร่เครา ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่จากงานควบคุมโรคติดต่อสำนักงานสาธารณสุขเดินทางมาตรวจร่างกาย และให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพผ่านล่ามชาวพม่า ทั้งนี้ได้รับแจ้งจากตำรวจ ตม.ว่าชาวโรฮิงญาทั้งหมดจะอาศัยอยู่ที่อาคารที่พักชาวคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้ายเพื่อหาที่อยู่ใหม่ตามนโยบายของรัฐบาลและการดำเนินการกับชาวโรฮิงญาทั้งหมดเป็นไปตามเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนดโดยจัดห้องควบคุมขนาดใหญ่จำนวน 2 ห้องพร้อมอำนวยความสะดวกในการทำละหมาด
    นายบู่ ล่ามช่าวพม่าประจำด่าน ตม. เปิดเผยว่า ชาวโรฮิงญาได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเร่งประสานกับสำนักงานสหประชาชาติหรือยูแอ็น เพื่อขอลี้ภัยไปประเทศที่สาม และ หากการดำเนินการล่าช้าจะขออาศัยอยู่ที่ด่าน ตม.ประจวบคีรีขันธ์ ไปก่อนโดยไม่ต้องการถูกผลักดันกลับไปยังประเทศพม่า เนื่องจากไม่มั่นใจด้านความปลอดภัย นอกจากนั้นชาวโรฮิงญาบางส่วนร้องเรียนว่าอาหารที่จัดให้วันละ 75 บาทต่อหัวต่อคน ไม่เพียงพอกับความต้องการในการบริโภคต่อมื้อ และขอให้มีการปรับปรุงคุณภาพและเพิ่มปริมาณอาหาร ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวโรฮิงญาบางส่วนได้ทำการประท้วงไม่ยอมกินข้าว แต่ตนได้พยายามเจรจาเพื่อหาข้อยุติไม่มีปัญหาวุ่นวายในพื้นที่ควบคุม และขอให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการตามข้อเรียกร้อง
    นายยูซบ โต๊ะวัง ประธานอิสลามประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ตม.เพื่อส่งกรรมการอิสลามเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวฮิงญาทุกด้าน และขณะนี้ได้เชิญคณะกรรมการอิสลามเพื่อประชุมหาแนวทางในการการระดมเงินบริจาคเพื่อนำไปจัดซื้ออาหาร และเครื่องนุ่งห่ม พร้อมของใช้ที่จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นจนกว่าชาวโรฮิงญาทั้งหมดจะถูกนำไปควบคุมตัวในจังหวัดอื่น
    https://www.dailynews.co.th/crime/161920
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,958
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เหตุใดความช่วยเหลือจึงถึงผู้ลี้ภัยล่าช้า?
    1. พวกเขา(โรฮิงญา)บอกว่าไม่พอใจที่ขาดการประสานงานกัน และยังมีข้อจำกัดต่าง ๆ ที่รัฐบาลบังกลาเทศกำหนดขึ้นเกี่ยวกับการจัดการให้ความช่วยเหลือ (รู้จักเรียกร้อง เอาแต่ได้) ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือระเบียบที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ต้องปฏิบัติมายาวนาน คือการกำหนดให้ปฏิบัติหน้าที่ได้เฉพาะที่ค่ายผู้ลี้ภัยสองแห่งเท่านั้น คือ คูตูปาลอง และนายาปารา
    2. สหประชาชาติ ระบุว่า นับตั้งแต่การอพยพของชาวโรฮิงญาครั้งใหญ่รอบล่าสุดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม จำนวนผู้ลี้ภัยภายในค่ายทั้งสองแห่งนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 70,000 คน ซึ่ง "เลยจุดอิ่มตัว" ไปแล้ว
    ดังนั้นผู้ลี้ภัยที่เหลือจาก 400,000 คน หรือผู้ลี้ภัยรายใหม่ไม่สามารถเข้ามาอาศัยที่ค่ายผู้ลี้ภัยทั้งสองได้ และตามกฎของรัฐบาลบังกลาเทศ UNHCR ไม่สามารถที่จะให้ความช่วยเหลือพวกเขาได้ (งบประมาณมีจำกัด ค่าบริหารราคาแพง ฝรั่ง แต่ละคนเงินเดินสูงๆ ทั้งนั้น)
    3.รัฐบาลก็ไม่ต้องการทำให้ผู้ลี้ภัยเห็นว่าชีวิตความเป็นอยู่ที่นี่สุขสบายเกินไป (รู้จักสันดานกันดี) เพราะเกรงว่าจะยิ่งทำให้มีผู้ลี้ภัยอพยพข้ามพรมแดนเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
    กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงแค่ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยต้องทนทุกข์เท่านั้น จนถึงตอนนี้การประณามจากนานาชาติยังพุ่งเป้าไปที่เมียนมา แต่ถ้าความทนทุกข์ทรมานและสิ้นหวังยังเกิดขึ้นอยู่ต่อไปที่นี่ อีกไม่นานบังกลาเทศก็อาจจะตกเป็นเป้าถูกประณามอีกชาติหนึ่งได้

    วิกฤตโรฮิงญา: เหตุใดความช่วยเหลือจึงถึงผู้ลี้ภัยล่าช้า?
    จัสติน โรว์ลัตต์ผู้สื่อข่าวเอเชียใต้
    • 14 กันยายน 2017
    _97802013_becf4e8a-b49c-41a2-b82c-efa44bd076f3.jpg Image copyrightEPA
    คำบรรยายภาพผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาเกือบ 400,000 คนเดินทางเข้ามาในบังกลาเทศนับตั้งแต่ความรุนแรงล่าสุดปะทุขึ้นในเมียนมา

    ภาพความโกลาหลวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ในช่วงที่คลื่นผู้อพยพหลั่งไหลเดินทางไปถึงเป็นสิ่งที่คาดอยู่แล้วว่าจะเกิด แต่เวลาผ่านมาเกือบครึ่งเดือนแล้วยังไม่มีการจัดการกับผู้ลี้ภัยอย่างเป็นระบบ ทั้งที่สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะในเมืองค็อกซ์บาซาร์ ซึ่งชาวโรฮิงญาจำนวนมากหนีภัยความรุนแรงจากเมียนมาเข้ามาที่นี่

    เราไม่เห็นการรับมือที่เป็นระบบเกิดขึ้นในค็อกซ์บาซาร์ เมืองที่ชาวโรฮิงญาจำนวนมากหนีภัยความรุนแรงจากเมียนมาเข้ามาที่นี่

    ไม่เห็นเครื่องบินลำเลียงซี-130 บรรทุกอาหารและอุปกรณ์สำหรับทำที่พักพิงชั่วคราวแล่นลงจอดที่สนามบิน รถบรรทุกขนส่งความช่วยเหลือที่บรรทุกเต็นท์และเครื่องกรองน้ำก็ไม่ปรากฏให้เห็นบนท้องถนนสักคัน

    สิ่งที่น่าตกใจที่สุดในบรรดาเรื่องน่าสะเทือนใจที่เกิดขึ้นที่นี่คือความจริงที่ว่า ชาวโรฮิงญาจำนวนมากบอกว่า พวกเขาไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากหน่วยงานความช่วยเหลือต่าง ๆ หรือองค์กรบรรเทาทุกข์จากต่างประเทศเลยแม้แต่แห่งเดียว

    หลายคนบอกว่าพวกเขาได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองไว้ตั้งแต่เดินทางมาถึงพรมแดน ทั้งชื่อและหมู่บ้านที่พวกเขาจากมา แต่นับแต่นั้นพวกเขาก็ได้แต่พึ่งตัวเอง

    คำบรรยายภาพชาวบังกลาเทศผู้หวังดีนำสิ่งของมามอบให้แก่ผู้ลี้ภัยที่เพิ่งมาถึง
    เต็นท์ที่พักโกโรโสที่เห็นตามค่ายพักพิงชั่วคราวต่าง ๆ ล้วนสร้างขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงและเงินของผู้ลี้ภัยเอง ชาวโรฮิงญาตัดต้นไม้ที่ขึ้นตามเนินเขาเตี้ย ๆ นำมาสร้างเป็นที่พัก

    มีธุรกิจย่อย ๆ ริมถนนเกิดขึ้น จากการขายไม้ไผ่และแผ่นพลาสติกสีดำบาง ๆ แก่ผู้ลี้ภัย ถ้าไม่มีเงินจ่ายก็ไม่ได้ของเหล่านี้มา

    ผู้อพยพหลายหมื่นคนต้องนอนกลางแจ้งท่ามกลางฝนในฤดูมรสม คนเหล่านี้ขาดแคลนอาหาร และพากันไปออที่รถบรรทุกของชาวบังกลาเทศที่เอื้อเฟื้อนำอาหารและเสื้อผ้ามาโยนให้ มีการแย่งของกันชุลมุนจนเด็กและคนแก่ถูกเหยียบในระหว่างที่เกิดความโกลาหล

    คำบรรยายภาพชาวโรฮิงญาที่อพยพครั้งใหญ่เข้ามาพักพิงตามค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ จนบางแห่งต้องรองรับผู้ลี้ภัยมากเกินกว่าที่รองรับได้
    แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีใครทำอะไรเลย หน่วยงานบรรเทาทุกข์และองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ล้วนอยู่ในพื้นที่แล้ว

    ในการให้สัมภาษณ์พวกเขาค่อนข้างจะระมัดระวังคำพูดเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดี พวกเขายอมรับว่า คนจำนวนมากไม่ได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น และยอมรับว่า องค์กรบรรเทาทุกข์สามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้

    แต่เมื่อมาคุยกันนอกรอบ สิ่งที่เขาพูดกลับกลายเป็นคนละเรื่อง พวกเขาบอกว่าไม่พอใจที่ขาดการประสานงานกัน และยังมีข้อจำกัดต่าง ๆ ที่รัฐบาลบังกลาเทศกำหนดขึ้นเกี่ยวกับการจัดการให้ความช่วยเหลือ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือระเบียบที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ต้องปฏิบัติมายาวนาน คือการกำหนดให้ปฏิบัติหน้าที่ได้เฉพาะที่ค่ายผู้ลี้ภัยสองแห่งเท่านั้น คือ คูตูปาลอง และนายาปารา

    คำบรรยายภาพผู้หญิงโรฮิงญาสูงอายุได้รับการช่วยเหลือ หลังจากเรือไม้ที่พวกเขาโดยสารมาพลิกคว่ำ
    ค่ายทั้งสองแห่งนี้นี้ตั้งขึ้นมานานหลายปีแล้ว และรองรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาที่หนีมาจากเมียนมาในการอพยพหลายระลอกก่อนหน้านี้แล้วราว 20,000 ถึง 30,000 คน

    สหประชาชาติ ระบุว่า นับตั้งแต่การอพยพของชาวโรฮิงญาครั้งใหญ่รอบล่าสุดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม จำนวนผู้ลี้ภัยภายในค่ายทั้งสองแห่งนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 70,000 คน ซึ่ง "เลยจุดอิ่มตัว" ไปแล้ว

    ดังนั้นผู้ลี้ภัยที่เหลือจาก 400,000 คน หรือผู้ลี้ภัยรายใหม่ไม่สามารถเข้ามาอาศัยที่ค่ายผู้ลี้ภัยทั้งสองได้ และตามกฎของรัฐบาลบังกลาเทศ UNHCR ไม่สามารถที่จะให้ความช่วยเหลือพวกเขาได้

    เมื่อวันอังคาร UNHCR ประกาศว่า ได้เริ่มขนส่งความช่วยเหลือทางอากาศแล้ว โดยมีเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ 2 ลำกำลังบรรทุกเต็นท์ ผ้าห่ม แกลลอนใส่น้ำ ถุงนอน และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ เข้ามา ซึ่งจะเพียงพอในการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัย 25,000 คน และกำลังวางแผนจะขนส่งความช่วยเหลือมาทางอากาศเพิ่มเติมอีก ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ชาวโรฮิงญาได้ทั้งหมดราว 120,000 คน

    คำบรรยายภาพความช่วยเหลือสำหรับชาวโรฮิงญากำลังถูกขนส่งจากอินโดนีเซีย (ด้านบน) และประเทศอื่น ๆ แต่หน่วยงานหลายแห่งระบุว่า ความช่วยเหลือเหล่านี้ส่งไปไม่ถึงชาวโรฮิงญา
    แต่กระนั้น UNHCR ก็ไม่มีอำนาจในการส่งมอบสิ่งของเหล่านี้ให้แก่ผู้คนที่กำลังเดือดร้อน

    เหตุใดรัฐบาลบังกลาเทศถึงทำให้องค์กรต่าง ๆ อย่าง UNHCR ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำงานขนาดนี้?

    บังกลาเทศกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะชาวบังกลาเทศจำนวนมากเองก็รู้ดีว่า การต้องลี้ภัยนั้นโหดร้ายแค่ไหน

    ประชาชนกว่า 10 ล้านคนเคยต้องอพยพออกจากประเทศในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองนองเลือดเมื่อปี 1971 ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งประเทศบังกลาเทศที่เป็นเอกราช จากเดิมที่เป็นประเทศปากีสถานตะวันออก

    บังกลาเทศต้องการช่วยเหลือเพื่อนร่วมศาสนาซึ่งทนทุกข์กับการถูกข่มเหงรังแกอย่างหนัก แต่ก็รู้ดีว่า ผู้ลี้ภัยจะเป็นภาระอันหนักอึ้งของบังกลาเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติที่ยากจนที่สุดและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก

    คำบรรยายภาพผู้ลี้ภัยจำนวนมาก ระบุว่า พวกเขาไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากหน่วยงานบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ หรือองค์กรระหว่างประเทศแม้แต่แห่งเดียว
    อย่าลืมว่า คนเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลุ่มแรกที่มาขอที่พักพิงในบังกลาเทศ แต่ก่อนหน้านี้ตามประมาณการของรัฐบาลบังกลาเทศ มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาอพยพเข้ามาแล้ว 400,000 คน

    ดังนั้น แม้ว่ารัฐบาลบังกลาเทศต้องการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือพวกเขา ดังเช่นที่นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศกล่าวเมื่อวันอังคาร แต่ทางรัฐบาลก็ไม่ต้องการทำให้ผู้ลี้ภัยเห็นว่าชีวิตความเป็นอยู่ที่นี่สุขสบายเกินไป เพราะเกรงว่าจะยิ่งทำให้มีผู้ลี้ภัยอพยพข้ามพรมแดนเข้ามาเพิ่มมากขึ้น

    กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยงหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงแค่ส่งผลให้ผู้ลี้ภัยต้องทนทุกข์เท่านั้น จนถึงตอนนี้การประณามจากนานาชาติยังพุ่งเป้าไปที่เมียนมา แต่ถ้าความทนทุกข์ทรมานและสิ้นหวังยังเกิดขึ้นอยู่ต่อไปที่นี่ อีกไม่นานบังกลาเทศก็อาจจะตกเป็นเป้าถูกประณามอีกชาติหนึ่งได้


    http://www.bbc.com/thai/international-41266489?ocid=socialflow_facebook
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...