ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ซวยแล้วทรัมป์เอ๋ย ขู่ใครไม่ขู่ ดันไปขู่คิมน้อย ล่าสุดคิมน้อยออกแถลงการณ์ด้วยตนเองว่าจะสั่งสอนตาเฒ่าโรคจิตสติเลอะเลือนให้เชื่องด้วยการดำเนินการในระดับสูงสุด (ไฮโดรเจนบอมบ์ในแปซิฟิก?)

    FB_IMG_1506074369450.jpg FB_IMG_1506074427018.jpg FB_IMG_1506074414537.jpg FB_IMG_1506074409212.jpg

    ------------
    วันที่ 22 ก.ย. 60 Yonhap News ของเกาหลีใต้พาดหัวข่าวว่า "ผู้นำเกาหลีเหนือเตือนทรัมป์เกี่ยวกับการดำเนินการ 'ระดับสูงสุด' กรณีถ้อยแถลงของทรัมป์ที่ยูเอ็น" (N.K. leader warns Trump of 'highest-level' actions over his U.N. speech)
    ประธานาธิบดีคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ให้สัญญาว่าจะดำเนินการ "ระดับสูงสุด" ในการตอบโต้การคุกคามจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่ขู่ว่าจะ "ทำลายเกาหลีเหนือทั้งหมด" (totally destroy North Korea) เนื่องจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ สื่อเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันศุกร์นี้
    ในแถลงการณ์ที่หาได้ยากซึ่งออกโดยผู้นำของเกาหลีเหนือ คิมได้ประณามทรัมป์ใช้ "คำพูดที่วิปริต" (eccentric words) ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งได้ดูถูกคิมและประเทศของเขา สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงาน
    "เราจะพิจารณาการซ้อมรบตอบโต้อย่างจริงจัง มาตรการตอบโต้ที่แข็งกร้าวระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์" แถลงการณ์ภาคภาษาอังกฤษกล่าว โดยกล่าวอีกว่าทรัมป์ได้ประกาศสงครามแล้ว
    ในการกล่าวถ้อยแถลงที่ยูเอ็นเมื่อวันอังคารนี้ ทรัมป์ขู่ว่าจะทำลายเกาหลีเหนือทั้งหมด และเรียกคิม จอง-อึนว่า "มนุษย์จรวดกำลังทำภาระกิจฆ่าตัวตาย"
    ผู้นำเกาหลีเหนือได้มีปฏิกิริยาตอบโต้แบบหนามยอกเอาหนามบ่งว่า สหรัฐจะต้อง "จ่ายด้วยราคาที่แสนแพง" สำหรับถ้อยแถลงของนายทรัมป์
    "ไม่ว่าทรัมป์จะคาดหวังอะไรไว้ก็ตาม เขาจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่เหนือกว่าความคาดหวังของเขา ผมจะทำให้คนแก่ขี้หลงขี้ลืมสติเลอะเลือนด้วยไฟของสหรัฐให้เชื่องให้ได้แน่นอน" คิมน้อยกล่าว
    คิมไม่ได้อธิบายว่าจะใช้มาตรการอะไร แต่นายริ ยอง-โฮ (Ri Yong-ho) รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือได้พูดในนครนิวยอร์กว่า เกาหลีเหนืออาจจะพิจารณาการทดลองระเบิดไฮโดรเจนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้
    [พอทดลองในประเทศตนเอง บางคนก็บอกว่าไม่น่าจะใช่ H-bomb ของจริงมั๊ง พอยิงบอลลิสติกมิสไซล์ข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นลูกแรก บางคนก็บอกว่า เฮ้อ… รัศมีแค่นั้นยิงไม่ถึงเกาะกวมหรอก ที่บอกว่าจะโจมตีเกาะกวมนั้น โม้ว่ะคิม
    ยิงลูกที่สองรุ่นเดียวกัน (Hwasong-12) ข้ามน่านฟ้าญี่ปุ่นอีกรอบ ไปไกลกว่าระยะทางจากเกาหลีเหนือถึงเกาะกวมซะอีก สหรัฐ ญีปุ่่น และเกาหลีใต้ขาสั่น เยี่ยวปริ ออกมาโวยวายว่า เกาหลีเหนือยั่วยุ สงสัยคิมน้อยคงจะเบื่อเล่นกับญี่ปุ่นแล้ว ยิงไปตั้งสองลูกไม่เห็นจะยิงสกัดได้เลย รอบนี้บอกว่า เปลี่ยนไปทางแปซิฟิกบ้างจะดีกว่า ที่ไหนหละครับ? แถวเกาะกวมดีไหมครับคิม? - ผู้แปล]
    ป.ล. คิมเป็นคนรักษาคำพูด คำไหนคำนั้นเสมอ นี่แหละที่น่ากลัว สื่อเกาหลีใต้รายงานอีกว่า สัปดาห์หน้าทูตเกาหลีเหนือจะเดินทางไปเยือนรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงของประเทศ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    22/09/2560
    ----------
    http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2017/09/22/99/0401000000AEN20170922002352315F.html
    http://uriminzokkiri.com/index.php?ptype=great&who=4&categ1=1&categ2=2&index=1&pagenum=1&no=5998#pos
    https://sputniknews.com/asia/201709221057601134-north-korea-may-blow-hydrogen-bomb/
    https://www.rt.com/usa/404160-kim-jong-un-dotard-trump/
    http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2017/09/22/68/0401000000AEN20170922003600315F.html
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ทรัมป์คลั่ง! หลังถูกคิมน้อยด่ากลับว่า "ตาเฒ่าโรคจิตสติเลอะเลือน" ขู่จะทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก จึงด่าคิมน้อยกลับว่า "คิม จอง-อึน ไอ้คนบ้า จะถูกทดสอบแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน"

    FB_IMG_1506081600945.jpg

    ------------

    วันที่ 22 ก.ย. 60 RT พาดหัวข่าวว่า "ทรัมป์: คิม จอง-อึน ไอ้คนบ้า จะต้องได้รับการทดสอบแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อนแน่" (Trump: ‘Madman Kim Jong-un will be tested like never before’)

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ของตนเองตอบโต้การทำสงครามน้ำลายกับผู้นำเกาหลีเหนือว่า "คิม จอง-อึน แห่งเกาหลีเหนือ ผู้ที่เป็นคนบ้าอย่างชัดเจน ผู้ที่ไม่สนใจความอดอยากหิวโหยหรือฆ่าประชาชนของตนเอง จะต้องเจอกับบททดสอบแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน!"

    (Kim Jong Un of North Korea, who is obviously a madman who doesn't mind starving or killing his people, will be tested like never before!)

    [เอ๊ะแม้ว่าจะเกาหลีเหนือจากยากจนกว่าสหรัฐและหลายประเทศ เนื่องจากถูกสหรัฐและพรรคพวกกลั่นแกล้งห้ามค้าขายกับต่างประเทศ แต่คนเกาหลีเหนือก็ไม่มี Homeless คนไร้ที่พักอาศัยจำนวนมากและคุ้ยหาอาหารกินจากถังขยะจนบางรัฐถึงกับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้วเหมือนในสหรัฐนะครับ ไม่ต้องไปดูไกลก็ได้ ดูแค่ที่เกาหลีใต้เพื่อนบ้านเกาหลีเหนือที่ภาพลักษณ์ดูร่ำรวย แต่สภาพสังคมเหลื่อมล้ำมาก คนรวยก็รวนจนล้นฟ้า คนจนก็รอรับแจกข้าวกล่องฟรี ไร้บ้านก็เยอะ ไม่ใช่ในเกาหลีเหนือ - ผู้แปล]

    ก่อนหน้านี้ผู้นำเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์ด้วยตนเองผ่านสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือเกี่ยวกับการตอบโต้การข่มขู่คุกคามจากสหรัฐที่ทรัมป์ประกาศในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติว่าจะทำลายเกาหลีเหนือซึ่งมีประขากรทั้งหมดราว 25 ล้านคนให้ซิ้นซาก โดยบอกว่าจะดำเนินการระดับสูงที่สุดเพื่อตอบโต้สหรัฐ คาดว่าอาจจะเป็นการทดลองระเบิดไฮโดรเจน (นิวเคลียร์) ในมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้ (โชคดีนะเกาะกวม หรือจะเป็นเกาะฮาวายดีนะ?)

    และคิม จอง-อึนยังได้เรียกผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันว่า "ตาเฒ่าโรคจิตสติเลอะเลือน" (mentally deranged dotard) อีกด้วย (โอบามาเคยถูกประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์ด่าว่า "ลูกกระหรี่" วันนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ถูกผู้นำเกาหลีเหนือด่าว่า "ตาเฒ่าโรคจิตสติเลอะเลือน" ฮ่าๆๆ หมดกันภาพลักษณ์มหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกที่ยกหางตัวเองมาตั้งนาน)

    นอกจากชวนผู้นำเกาหลีเหนือทะเลาะด้วยแล้ว ทรัมป์ยังหันไปแขวะตระกูลคลินตันทั้งผัวและเมียอีกด้วย "หลังจากที่อนุญาตให้เกาหลีเหนือทำการวิจัยและสร้างนุกแล้ว ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ (ซึ่งรวมทั้งนายบิล ค. ด้วย) คราวนี้ยัยฮิลลารี่จองแหล (Crooked Hillary) ก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์" ทรัมป์ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์

    ทรัมป์โพสต์ต่ออีกว่า "การกุข่าวเกี่ยวกับรัสเซียก็ยังคงมีต่อไป คราวนี้เป็นเรื่องโฆษณาในเฟซบุค แล้วการรายงานของสื่อที่ลำเอียงและไม่ซื่อสัตย์ทั้งหมดนั่นหละ อยู่ในความโปรดปรานของยัยฮิลลารี่จอมแหลด้วยหรือไม่?"

    [ฮ่าๆๆ อันหลังนี้ขอปรบมือให้ทรัมป์ เมื่อวานนี้เจ้าของเฟซบุค (ไม่รู้ว่าถูกใครบีบไข่หรือเปล่า) ออกมาแถลงว่ารัสเซียซื้อโฆษณาในเฟซบุคในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐราว 3,000 โฆษณา กระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีส่่วนเกี่ยวข้อง

    วันก่อนนี้ก็จ้าง Morgan Freeman ดราราฮอลลีวูดสูงวัยระดับตำนานออกมาอ่านโฆณาชวนเชื่อว่า "รัสเซียกำลังทำสงครามกับสหรัฐ เป็นการแก้แค้นของผู้นำอดีตเคจีบีที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย..." พอตัวเองกล่าวหาและใส่ร้ายคนอื่นก็เรียกว่า "เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น" พอถูกเขาตอบโต้บ้างก็โวยวายโกรธเป็นฟืนเป็นไฟว่าถูกรังแก - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    22/09/2560
    ----------
    https://www.rt.com/usa/404190-trump-north-korea-kim-tested/
    https://sputniknews.com/russia/201709221057607031-kremlin-russia-facebook-election/
    https://www.rt.com/news/404178-kremlin-facebook-political-ads/
    https://www.rt.com/news/403943-hollywood-celebrities-russia-hysteria/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    สหรัฐกังวลใจที่รัสเซียส่งผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า 850 ตัวในอิดลิบและฮามาไปลงนรก ด้วยการกล่าวหาว่ารัสเซียและบอมบ์พลเรือน

    FB_IMG_1506082622107.jpg FB_IMG_1506082647346.jpg FB_IMG_1506082636398.jpg FB_IMG_1506082630718.jpg

    ------------

    วันที่ 22 ก.ย. 60 TASS พาดหัวข่าวว่า "กรุงวอชิงตันกล่าวหารัสเซียและซีเรียเกี่ยวับการสูญเสียของพลเรือนในการโจมตีทางอากาศในจังหวัดอิดลิบและฮามา" (Washington accuses Russia and Syria of civilian casualties in airstrikes on Idlib, Hama)

    กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐได้กล่าวหากองทัพรัสเซียและซีเรียว่าโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนในเมืองอิดลิบและฮามา นาง Heather Nauert โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าว โดยอ้างแหล่งข่าวผีบอก (citing unnamed sources)

    "สหรัฐรู้สึกกังวลใจกับรายงานการโจมตีทางอากาศในจังหวัดอิดลิบและทางเหนือของจังหวัดฮามาเมื่อวันที่ 19 และวันที่ 20 ซึ่งได้สังหารบุคคลากรทางการแพทย์อย่างน้อยสามคน และสร้างความเสียหายให้กับสถานที่ทางการแพทย์ และอุปกรณ์ฉุกเฉิน (ระเบิดเข็มขัดฆ่าตัวตายและคาร์บอมบ์ใช่ป่ะ?) และศูนย์ป้องกันพลเรือน" นาง Nauert กล่าวในแถลงการณ์

    โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวต่ออีกว่า "การโจมตีเหล่านี้ตรงกับรูปแบบที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก ที่ศูนย์และบุคคลากรทางการแพทย์ และพลเรือนที่ทำงาน ซึ่งเป็นเหยื่อของการโจมตีทางอากาศโดยรัฐบาลซีเรียและรัสเซียพันธมิตรของซีเรีย"

    แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐพาดหัวว่า "เหยื่อพลเรือนจากการโจมตีทางอากาศโดยซีเรียและรัสเซียในจังหวัดอิดลิบและฮามา"

    เมื่อวันที่ 20 กันยายนนี้ พล.ท. Sergei Rudskoi เสนาธิการฝ่ายปฏิบัติการหลักของรัสเซียแถลงว่า วันที่ 19 กันยายน กลุ่มก่อการร้ายอัลนุสราฟรอนท์ (อัลเคด้า) และพันธมิตรได้ยกกำลังเป็นจำนวนมากเข้าปิดล้อมเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารของรัสเซียจำนวน 29 นาย เพื่อหวังจับเป็นตัวประกัน ในพื้นที่ลดความขัดแย้ง (de-escalation zone) ในจังหวัดอิดลิบ

    ทหารรัสเซียทั้ง 29 นายและกองกำลังท้องถิ่นฝ่ายโปร-รัฐบาลซีเรียยิงตอบโต้สกัดการบุกของพวกอัลเคด้า พร้อมกับขอกำลังสนับสนุนทางอากาศ รัสเซียส่งเครื่องบินรบโจมตีภาคพื้นดินระยะประชิด Su-25 จำนวนสองลำไปช่วย Su-25 ของรัสเซียบอมบ์พวกอัลเคด้าตายไปอย่างน้อย 850 ตัว พร้อมทั้งได้ทำลายรถถังของกลุ่มก่อการร้าย 11 คัน สิ่งปลูกสร้างต่างๆของกลุ่มก่อการร้ายรวม 187 แห่ง ซึ่งรวมทั้งคลังเก็บอาวุธ 38 แห่งด้วย ทำลายรถปิ๊กอัพติดปืนกลได้ 46 คัน ปืนค. 5 กระบอก และรถบรรทุกพ่วงอีก 20 คัน และสามารถช่วยเหลือทหารรัสเซียออกมาได้ ทหารรัสเซียได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยจำนวน 3 นาย TASS รายงาน

    จากนั้นกองทัพซีเรียและรัสเซียก็ส่งกองกำลังสนับสนุนภาคพื้นดินเข้าไปร่วมถล่มพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าและยึดพื้นที่กลับมาได้ สหรัฐคงจะทำใจยอมรับการสูญเสียครั้งนี้ของลูกกระเป๋งตัวเองไม่ได้ จึงใช้มุกเดิมออกมากล่าวหารัสเซียและซีเรียว่าโจมตีพลเรือน อีกครั้ง โดยอ้างแหล่งข่าวผีบอก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพวกสมาชิกอัลเคด้าที่ยังไม่ตายนั่นแหละ หรือไม่ก็อาจจะประดิษฐ์ประดอยเรื่องนี้ขึ้นมาเองตามสไตล์การปั้นน้ำเป็นตัวงานถนัดของสหรัฐ

    ล่าสุดกลาโหมรัสเซียแถลงว่าขณะนี้กองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรนำโดยรัสเซียสามารถปลดปล่อยพื้นที่ต่างๆในซีเรียจากการยึดครองของพวกเดนนรกไอซิสได้แล้วถึง 87% RT รายงาน

    วันที่ 20 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "ทหารอังกฤษปล่อยคลิปการโจมตีจากโดรนใส่พวกไอซิส ทำให้มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ (วีดีโอ)" (UK military shows off footage of drone strike on ISIS that caused ‘civilian injuries’ (VIDEO))

    รายงานข่าวระบุว่าคลิปแสดงขณะกองทัพอังกฤษใช้โดรนสังหารอ้างว่าโจมตีสไนเปอร์ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรียเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยกองทัพอังกฤษอ้างว่าเป็นการโจมตีเพื่อขัดขวางการประหารชีวิตของพลเรือน แต่ผู้สังเกตการณ์ภาคพื้นดินบอกว่าพลเรือนได้รับบาดเจ็บ

    เมื่อดูคลิปแล้ว พบว่าในจุดที่มีการโจมตีในตรั้งนี้ มีผู้คนเดินสวนกันไปมาเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถระบุได้ว่าคนไหนเป็นผู้ก่อการร้ายคนไหนเป็นพลเรือน อังกฤษกดปุ่มปล่อยมิสไซล์ใส่กลางฝูงชน ที่รอดชีวิตก็วิ่งกันไปคนละทิศละทางราวกับฝูงผึ้งแตกรัง กต.สหรัฐไม่แสดงความกังวลในกรณีนี้ แต่กลับแสดงความกังวลที่รัสเซียช่วยส่งพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า 850 ตัวไปลงนรกซะงั้น

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    22/09/2560
    ----------
    http://tass.com/world/966997
    http://tass.com/defense/966624
    https://www.rt.com/news/403980-syria-jihadists-idlib-russia/
    https://www.rt.com/news/404010-us-nusra-idlib-offensive/
    https://www.rt.com/news/404153-syria-liberated-isis-russia/
    https://www.almasdarnews.com/article/russian-airstrike-destroys-al-qaeda-military-camp-rural-idlib/
    https://www.almasdarnews.com/article/us-accuses-russia-syria-hitting-civilian-targets-idlib-hama/
    https://www.rt.com/uk/403940-drone-isis-sniper-syria/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เสาร์ธนูทำให้คิมดวงตก เสาร์คือดาวการเงิน คิมเผชิญปัญหาเศรษฐกิจภายใน ที่น่าห่วงคือมฤตยูเมษเล็งอังคาร (อาวุธ) พลูโต (นิวเคลียร์) เดิม ถ้ากดดันเขามาก ๆ สงครามนิวเคลียร์อาจเกิดขึ้นจริงๆ

    เข็มนาฬิกานับถอยหลัง ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทุกนาที

    ดวงทรัมป์ ดวงคิม เผยแพร่ 22 กันยายน 2560
    โดย ชูศักดิ์ จงธนะพิพัฒน์

    “สงครามคือวิถีแห่งเหลี่ยมเล่ห์เพทุบาย ดังนั้น เข้มแข็งให้แสดงว่าอ่อนแอ อ่อนแอให้แสดงว่าเข้มแข็ง" นี่คือใจความปฐมบทตำราพิชัยสงคราม "ซุนวู"

    การศึกระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์กับคิมจองอึน เกิดขึ้นแล้ว มันไม่ใช่สงครามน้ำลาย แต่เป็นการสร้างเงื่อนไขเพื่อพิชิตชัยฝ่ายตรงข้าม ดังคำที่ว่า “ชนะก่อนรบ”

    เกาหลีเหนือไม่ใช่เป้าใหญ่ของทรัมป์ จีนต่างหากที่เป็น เกาหลีเหนือก็แค่หมากตัวหนึ่งที่ทรัมป์ใช้กดดันจีน เสียดายที่เขาประเมินคิมจองอึนผิดพลาด คิมกล้าเกินกว่าใครจะคาดคิด สไตล์ข่มขู่ของทรัมป์ไร้ผล เพราะคิมก็เป็นคนแบบเดียวกัน ทั้งคู่อ่านเกมส์กันออก ยิ่งทรัมป์ขู่มากเท่าไร คิมยิ่งตอบโต้มากขึ้นเท่านั้น

    แต่ที่เหนือความคาดหมายคือพัฒนาการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือ มันเป็นปัจจัยที่พลิกสถานการณ์และดุลอำนาจทั้งหมด ถ้าอเมริกาถล่มเกาหลีเหนือ ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล ขณะเดียวกันจีน รัสเซีย คงไม่ยอมสูญเสียรัฐกันชนเช่นนี้ ถ้าเกาหลีเหนือถูกถล่ม เกาหลีใต้และญี่ปุ่นก็รอดยาก ถ้าเรื่องราวไปถึงจุดนั้น สงครามโลกคงเลี่ยงไม่พ้น

    เที่ยง 3 กันยายน เกาหลีเหนือทดสอบ H-Bomb สำเร็จ เช้าวันที่ 15 ยิงจรวดไปไกลถึง 3,700 กม. ซึ่งไกลพอที่จะไปถึงเกาะกวม คิมจองอึนแสดงให้อเมริกาและโลกรู้ว่าเขาทำได้จริง ไม่ใช่แค่ขู่ ในมุมกลับ การที่เขาเปิดไพ่ใบสำคัญติดๆ กันเช่นนี้ แสดงว่ายังไม่พร้อมรบ แต่ “ไม่พร้อม” ไม่ได้หมายความว่าไม่สู้หรือไม่มีอะไรจะสู้ มันอาจเป็นการสู้ตายก็ได้ นั่นแปลว่าราคาที่ผู้ชนะต้องจ่ายจะสูงมาก มันคุ้มกันหรือเปล่า?

    นับจากสุริยคราส (เต็มดวง) 21 สิงหาคม สถานการณ์พัฒนาไปไกลมาก ถึงนาทีนี้ คงไม่มีศาสตร์ใดทำนายอนาคตได้ดีเท่าโหราศาสตร์ เราจะวิเคราะห์จากดวงทรัมป์และคิม กัน

    อันที่จริง ดวงทั้งคู่มีส่วนเหมือนกันไม่น้อย ทรัมป์ลัคน์สิงห์ คิมลัคน์ธนู ล้วนเป็นราศีธาตุไฟ เรื่องยอมแพ้กันง่าย ๆ คงไม่มี ทศมลัคน์ทรัมป์อยู่ที่ 1:16 องศาพฤษภ ทศมลัคน์คิมอยู่ที่ 1:54 องศาตุลย์ ศุกร์คือดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์เหมือนกัน ศุกร์ทรัมป์เป็น Evening Star ที่เพ็ญ 33 องศา ศุกร์คิมเป็น Morning Star ที่เพ็ญ 39 องศา ทั้งคู่เกาะวรโคตมนวางค์ ชี้ถึงเกียรติยศชื่อเสียงและการยกย่องจากสาธารณะ แต่ทศมลัคน์คิมเกาะวรโคตมนวางค์ด้วย เท่ากับดีเด่น 2 ชั้น คิมจองอึนจึงขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่เพียงผู้เดียวตั้งแต่หนุ่ม

    จุดสังเกตคือราหูพฤษภทั้งคู่ ทรัมป์ 27:40 องศา คิม 21:47 องศา ราหูจรครบรอบจักรราศีใช้เวลา 19 ปี ทรัมป์เกิด 14 มิถุนายน 1946 คิมเกิด 8 มกราคม 1984 ห่างกัน 2 รอบราหูพอดี ราหูคือเครื่องชี้กรรมในอดีตชาติ ราหูทรัมป์อยู่ภพ 10 (การกระทำ) ราหูคิมอยู่ภพ 6 (ศัตรู / ปัญหาอุปสรรค) ทรัมป์สร้างปัญหาให้กับคิม คิมถือทรัมป์เป็นศัตรู เรียกว่าผูกกรรมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

    ทั้งสองเกิดในข่ายสุริยคราสเหมือนกัน ทรัมป์เกิดหลังคราส 30 พฤษภาคม 1946 ที่ 15:43 องศาพฤษภเพียง 15 วัน ส่วนคิมเกิด 1 เดือนหลังคราส 4 ธันวาคม 1983 ที่ 18:09 องศาพิจิก สุริยคราสทั้ง 2 เล็งกันสนิท มุมเล็ง 180 หมายถึงความท้าทายและศัตรูคู่อริ ยืนยันถึงการจองเวรกันมาตั้งแต่อดีตชาติ

    ทั้งคู่ยังเกิดในข่ายจันทรคราสด้วย ทรัมป์เกิดก่อนคราส (เต็มดวง) ที่ 29:58 องศาพิจิกเพียง 4 ชั่วโมง คิมเกิดภายใน 1 เดือนหลังคราส 20 ธันวาคม 1983 ที่ 3:59 องศาเมถุน จุดคราสเล็งอาทิตย์-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ของทรัมป์สนิท และกุมพฤหัส-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ของคิมสนิทเช่นกัน นี่คือเครื่องหมายของบุคคลพิเศษ ชี้ถึงชะตาชีวิตที่เหนือธรรมดาและผูกพันกับเหตุการณ์สำคัญของโลก

    ไม่เพียงราหู มฤตยูก็เล็งกัน ทรัมป์ 24:47 องศาพฤษภ คิม 17:53 องศาพิจิก มฤตยูคือการทำตามใจตัวเองอย่างสุดโต่ง พฤษภบอกถึงการวางฟอร์ม พิจิกบอกถึงการสู้ตาย พิจิกคือภพ 12 ของคิม ภพ 12 (วินาศ) หมายถึงที่ลับ การปกปิด การถูกกักขังควบคุม ฯลฯ ทรัมป์ข่มขู่เพื่อสร้างภาพให้ตัวเอง แต่คิมโต้กลับเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการไปสู่อิสรภาพ

    คู่ราหูมฤตยูที่กุมเล็ง ชี้ถึงความคิดที่ไม่ปกติ เพี้ยน บ้าๆ บอๆ หลุดโลก ฯลฯ ทรัมป์และคิมเหมือนกันมากตรงนี้ เรียกว่าเพี้ยนเจอเพี้ยน แต่ทรัมป์หนักกว่า เพราะมฤตยูดับร่วมคราสในภพ 10 คิมกร่าง ซ่า บ้าบิ่น อวดความเข้มแข็งก็เพื่อป้องกันตัวเอง ส่วนทรัมป์กลับทำเพื่อตอบสนองอีโก้และปกปิดบิดเบือนความผิดพลาดทางการเมืองภายในประเทศ

    ราหูคือการเปลี่ยนแปลง มฤตยูคือเหนือคาดหมาย ดาวคู่นี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเสมอ ราหูกุมมฤตยูอาทิตย์ในภพ 10 ส่งทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี แต่มันก็ทำให้เขาพังทลายได้ง่าย ๆ เช่นกัน นี่คือ “ดวงหักโค่น” ยิ่งมีตำแหน่งอำนาจและเกี่ยวข้องกับสาธารณะมากเท่าไร ยิ่งมีโอกาสตกต่ำมากขึ้นเท่านั้น ส่วนราหูเล็งมฤตยูในภพ 6 และ 12 ของคิม บอกถึงการบ่อนทำลายจากศัตรูลับและปัญหาสุขภาพที่ยากรักษา

    ดวงใครดีกว่ากัน ? ดีกันไปคนละแบบ แต่ถ้าถามว่าดวงใครแข็งกว่ากัน ? คำตอบคือคิม ดวงทรัมป์เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ขึ้นสูงลงต่ำ นั่นเพราะอังคารอาทิตย์ในภพ 1 และ 10 แต่ดวงคิมมั่นคงแน่นหนาและค่อย ๆ เติบโต เพราะ Stellium ของอาทิตย์พุธพฤหัสเนปจูนที่ร่วมลัคน์ ถ้าสู้กันระยะยาว ทรัมป์มีโอกาสแพ้ภัยตัวเองไปเสียก่อน

    ลัคน์อังคารเดิมของทรัมป์ถูกสุริยคราส 21 สิงหาคม 2017 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2018 ถูกสุริยคราสเล็งซ้ำ มฤตยูเมษ 90 ศุกร์เสาร์เดิมในภพ 12 ศุกร์คือดาวการงาน เสาร์คือดาวหุ้นส่วน ราหูจรภพ 12 ด้วย ระวังงานลับที่ร่วมกับหุ้นส่วน (รัสเซีย) จะถูกเปิดเผย หรืองานลับ (ถล่มคิม) จะล้มเหลว

    เสาร์ธนูทำให้คิมดวงตก เสาร์คือดาวการเงิน คิมเผชิญปัญหาเศรษฐกิจภายใน ที่น่าห่วงคือมฤตยูเมษเล็งอังคาร (อาวุธ) พลูโต (นิวเคลียร์) เดิม ถ้ากดดันเขามาก ๆ สงครามนิวเคลียร์อาจเกิดขึ้นจริงๆ

    เข็มนาฬิกานับถอยหลัง ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทุกนาที

    http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642619
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวบันเทิง: เราเตือนท่านแล้ว! ปูตินจ่ายยาแก้โรคประสาท Kalibr จากเรือดำน้ำให้กลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้าในจังหวัดอิดลิบ (หวังว่าคงจะช่วยคลายความกังวลใจให้กับ กต.สหรัฐได้บ้าง)

    FB_IMG_1506089248527.jpg FB_IMG_1506089252968.jpg FB_IMG_1506089266784.jpg

    ------------
    วันที่ 22 ก.ย. 60 RT พาดหัวข่าวว่า "เรือดำน้ำถล่มเป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายด้วยขีปนาวุธคาลีเบอร์หลัง ส.ห. รัสเซีย ถูกโจมตี" (Russian sub hits terrorist group with Kalibr missiles after military police attacked)
    เรือดำน้ำรัสเซียได้ทำลายเป้าหมายขนาดใหญ่หลายแห่งของพวกผู้ก่อการร้ายในซีเรียด้วยห่าฝนจรวดร่อนคาลีเบอร์ (Kalibr cruise missiles) กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงาน ขีปนาวุธได้พุ่งเข้าโจมตีทรัพย์สินของพวกจีฮาดิสต์ที่ได้ทำการบุกโจมตีหน่วยสารวัตรทหารของรัสเซียจำนวน 29 นายในพื้นที่ลดความขัดแย้งในจังหวัดอิดลิบ-ฮามา เมื่อต้นสัปดาห์นี้
    เรือดำน้ำจู่โจม Veliky Novgorod ชั้น Varshavyanka (ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงจากชั้นกิโล) ได้ปล่อยขีปนาวุธหลายลูกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อวันศุกร์นี้ แถลงการณ์กระทรวงกล่าว ห่าฝนมิสไซล์ได้ถล่มเป้าหมายที่เป็นกองบัญชาการ ค่ายฝึก และสถานที่เก็บยุทโธปกรณ์หนักของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งในพื้นที่จังหวัดอิดลิบ (Idlib) ซึ่งก่อนหน้านี้กองทัพรัสเซียได้ประจำการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดฮามา
    การโจมตีหน่วยทหารของรัสเซียโเกิดขึ้นในตอนเช้าของวันอังคาร โดยกลุ่มก่อการร้ายหลายกลุ่ม (นำโดยกลุ่มอัลเคด้า/อัลนุสราฟรอนท์) ที่ควบคุมพื้นที่แห่งนั้นซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลซีเรีย
    กองทัพรัสเซียและซีเรียสามารถตีฝ่าการปิดล้อมของกลุ่มก่อการร้ายในครั้งนี้ได้ด้วยการขอกำลังสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินรบของรัสเซีย ส่งผลให้สมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้าเสียชีวิตอย่างน้อย 850 ตัว ทหารรัสเซียได้รับรับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย กองทัพรัสเซียตั้งข้อสังเกตว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายในครั้งนี้มีสหรัฐอยู่เบื้องหลัง
    [ต่อมากระทรวงต่างประเทศสหรัฐออแถลงการณ์ว่า "รู้สึกกังวลใจ" กรณีเครื่องบินรบของรัสเซียและซีเรียช่วยส่งพวกอัลเคด้าไปพบยมบาลถึง 850 ตัว โดยกล่่าวหารัสเซียว่าโจมตีพลเรือนและบุคคลากรทางการแพทย์ (ของกลุ่มก่อการร้าย)
    หลังจากที่มีจบรายงานข่าวการแถลงการณ์ตรอมใจทุกข์ระทมจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่ผู้ก่อการร้ายถูกสังหารเกือบพันตัว รัสเซียก็ปล่อยขีปนาวุธนำวิถี Kalibr จากเรือดำน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถล่มบรรดาลูกสมุนของสหรัฐอีกระลอก ทำลายเป้าหมายขนาดใหญ่ได้เป็นจำนวนมาก ประหนึ่งว่าคุณหมอช่วยจ่ายยาระงับโรคประสาทให้กับ กต.สหรัฐและลูกสมุนหลายเม็ด หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กต.สหรัฐจะคลายความกังวลใจลงได้บ้างไม่มากก็น้อย หายังไม่หายก็ขอมา เดี๋ยวปูตินจัดให้อีกรอบ
    จนบัดนี้ ยังไม่มีรายงานข่าวว่า กต.สหรัฐออกมาแสดงความกังวลใจอีก ได้ผลแฮะ! ยาเขาดีจริงๆ ก่อนหน้านี้รัสเซียเตือนสหรัฐว่าจะถล่มพวกเคิร์ด (รวมทั้งหน่วยรบพิเศษของสหรัฐ) ที่ขัดขวางภารกิจปราบปรามผู้ก่อการร้ายไอซิสในพื้นที่จังหวัด Deir ez-Zor สหรัฐรีบส่งตัวแทนทางทหารเข้าไปขอเจรจากับรัสเซียทันที - ผู้แปล]
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    22/09/2560
    ----------
    https://www.rt.com/news/404185-russia-submarine-missiles-syria/
    https://sputniknews.com/middleeast/201709221057607994-russian-submarine-kalibr-nusra-idlib-syria/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ที่ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ด้วยตัวเอง “สุนัขตัวนั้น (โดนัลด์ ทรัมป์) กำลังเห่าดังขึ้น ถ้อยคำของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ใช้กล่าวบนเวทีการทูตขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหประชาชาติ สะท้อนการเป็นผู้มีสติไม่สมประกอบ และยังถือเป็นการประกาศสงครามอันเกรี้ยวกราดที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะยิ่งผลักดันให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ เลือกทางเดินที่ถูกต้องจนนาทีสุดท้าย และสหรัฐฯจะต้องชดใช้อย่างสาสม” (ชมคลิป)

    ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ที่ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ด้วยตัวเอง แสดงว่าสุดๆแล้วจริงๆ (ชมคลิป)
    วันศุกร์ 22 กันยายน 2017 6:16 pm

    นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเกาหลีเหนือที่นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดออกแถลงการณ์ด้วยตัวเองเพื่อตอบโต้กระแสกดดันจากสหรัฐฯและประชาคมโลก เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศและได้รับการขนานนามว่าเป็นประธานาธิบดีตลอดกาลของเกาหลีเหนือ รวมถึงนายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุดรุ่นที่ 2 ผู้เป็นบิดาของนายคิม จอง อึน ล้วนแต่ออกแถลงการณ์ในนามของกระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานด้านความมั่นคง

    แต่ครั้งนี้นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดรุ่นที่ 3 ออกแถลงการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ด้วยตัวเอง และเป็นคำกล่าวตอบโต้สหรัฐฯที่ดุเดือดเลือดพล่าน ด้วยคำกล่าวที่ว่า “สุนัขตัวนั้น (โดนัลด์ ทรัมป์) กำลังเห่าดังขึ้น ถ้อยคำของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ใช้กล่าวบนเวทีการทูตขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหประชาชาติ สะท้อนการเป็นผู้มีสติไม่สมประกอบ และยังถือเป็นการประกาศสงครามอันเกรี้ยวกราดที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะยิ่งผลักดันให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ เลือกทางเดินที่ถูกต้องจนนาทีสุดท้าย และสหรัฐฯจะต้องชดใช้อย่างสาสม” (ชมคลิป)

    นอกจากคำแถลงการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของผู้นำเกาหลีเหนือจะสะเทือนไปทั้งโลกแล้ว อีกหนึ่งข่าวสะเทือนคือ นายรี ยอง โฮ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ กล่าวนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติว่า “รัฐบาลเกาหลีเหนืออาจทำการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อเติมเต็มความฝันของท่านผู้นำคิม จอง อึน ในการใช้มาตรการขั้นสูงสุดตอบโต้สหรัฐฯ” นายรี ยอง โฮทิ้งท้ายไว้ว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรอรับคำสั่งจากท่านผู้นำก่อนเท่านั้น”

    ก่อนหน้านี้นายรี ยอง โฮ เคยกล่าวตอบโต้ทรัมป์ว่า “เป็นเพียงเสียงสุนัขเห่า” หลังทรัมป์พูดในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันอังคารที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาว่า “พร้อมทำลายล้างเกาหลีเหนือ” และเรียกนายคิม จอง อึน ว่า “มนุษย์จรวด”
    http://www.springnews.co.th/th/2017/09/100584/?sp
    .
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ที่ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ด้วยตัวเอง “สุนัขตัวนั้น (โดนัลด์ ทรัมป์) กำลังเห่าดังขึ้น ถ้อยคำของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ใช้กล่าวบนเวทีการทูตขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหประชาชาติ สะท้อนการเป็นผู้มีสติไม่สมประกอบ และยังถือเป็นการประกาศสงครามอันเกรี้ยวกราดที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะยิ่งผลักดันให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ เลือกทางเดินที่ถูกต้องจนนาทีสุดท้าย และสหรัฐฯจะต้องชดใช้อย่างสาสม” (ชมคลิป)

    ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! ที่ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ด้วยตัวเอง แสดงว่าสุดๆแล้วจริงๆ (ชมคลิป)
    วันศุกร์ 22 กันยายน 2017 6:16 pm

    นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเกาหลีเหนือที่นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดออกแถลงการณ์ด้วยตัวเองเพื่อตอบโต้กระแสกดดันจากสหรัฐฯและประชาคมโลก เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคของนายคิม อิล ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศและได้รับการขนานนามว่าเป็นประธานาธิบดีตลอดกาลของเกาหลีเหนือ รวมถึงนายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุดรุ่นที่ 2 ผู้เป็นบิดาของนายคิม จอง อึน ล้วนแต่ออกแถลงการณ์ในนามของกระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานด้านความมั่นคง

    แต่ครั้งนี้นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดรุ่นที่ 3 ออกแถลงการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ด้วยตัวเอง และเป็นคำกล่าวตอบโต้สหรัฐฯที่ดุเดือดเลือดพล่าน ด้วยคำกล่าวที่ว่า “สุนัขตัวนั้น (โดนัลด์ ทรัมป์) กำลังเห่าดังขึ้น ถ้อยคำของโดนัลด์ ทรัมป์ที่ใช้กล่าวบนเวทีการทูตขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหประชาชาติ สะท้อนการเป็นผู้มีสติไม่สมประกอบ และยังถือเป็นการประกาศสงครามอันเกรี้ยวกราดที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะยิ่งผลักดันให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ เลือกทางเดินที่ถูกต้องจนนาทีสุดท้าย และสหรัฐฯจะต้องชดใช้อย่างสาสม” (ชมคลิป)

    นอกจากคำแถลงการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของผู้นำเกาหลีเหนือจะสะเทือนไปทั้งโลกแล้ว อีกหนึ่งข่าวสะเทือนคือ นายรี ยอง โฮ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ กล่าวนอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติว่า “รัฐบาลเกาหลีเหนืออาจทำการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อเติมเต็มความฝันของท่านผู้นำคิม จอง อึน ในการใช้มาตรการขั้นสูงสุดตอบโต้สหรัฐฯ” นายรี ยอง โฮทิ้งท้ายไว้ว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรอรับคำสั่งจากท่านผู้นำก่อนเท่านั้น”

    ก่อนหน้านี้นายรี ยอง โฮ เคยกล่าวตอบโต้ทรัมป์ว่า “เป็นเพียงเสียงสุนัขเห่า” หลังทรัมป์พูดในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันอังคารที่ 19 กันยายนที่ผ่านมาว่า “พร้อมทำลายล้างเกาหลีเหนือ” และเรียกนายคิม จอง อึน ว่า “มนุษย์จรวด”
    http://www.springnews.co.th/th/2017/09/100584/?sp
    .
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ก็ให้อยู่อย่างสันติแล้ว แต่ก่อการร้ายโรฮิงญา ARSA ไปทำลายสันติ

    ซาอุฯลั่น พม่าต้องรับโรฮิงญากลับ และให้อยู่อย่างสันติ
    admin | กันยายน 22, 2017

    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของศูนย์คิงซัลมานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและมนุษยธรรม ของซาอุดีอาระเบีย ได้เรียกร้องให้พม่าเปิดประเทศรับชาวโรฮิงญากลับ และต้องให้พวกเขาได้อยู่ในดินแดนของตนอย่างสันติ

    Dr.Abdullah bin Abdulaziz Al-Rabiah อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ปัจจุบันได้รับมอบหมายภาระกิจ ผู้บังคับบัญชาประจำริยาดของศูนย์คิงซัลมานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและมนุษยธรรม ได้กล่าวถึงชาติมหาอำนาจสำคัญๆ ของโลกจะเป็นต้องร่วมกันกดดันพม่าเพื่อให้ยุติการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยมุสลิมในประเทศ ที่ต้องหนีตายออกมายังกลาเทศ

    “สิ่งที่ผมต้องการจากพันธมิตรของเราเช่นสหรัฐฯ และอังกฤษ และประชาคมระหว่างประเทศ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องกดดันรัฐบาลพม่า ให้เปิดรับผู้ลี้ภัยเหล่านี้ให้เดินทางกลับ และให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสันติ และได้รับสิทธิขึ้นพื้นฐานของตน” เขากล่าว

    ซาอุดิอาระเบียกำลังช่วยเหลือช่วยเหลือชาวโรฮิงญา 422,000 คนที่ถูกปฎิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงขับไล่ออกจากรัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า เข้ามาอาศัยอยู่ในบังกลาเทศนับแต่วันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา

    ความช่วยเหลือส่วนใหญ่จะเข้าสู่บังคลาเทศ นอกจากนี้ยังมีความช่วยเหลือบางส่วนผ่านไปยังอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ด้วย

    “เรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในบังคลาเทศ” เขากล่าว

    บังคลาเทศกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าได้ให้การรักษาผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากว่า 2,350 ราย ที่บาดเจ็บด้วยการถูกยิง และบาดแผลจากระเบิดขณะที่พวกเขาหนีข้ามแดนมาจากพม่า

    http://i-newsmedia.net/?p=27307
    .
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไม่เคยมีผู้นำสหรัฐฯ คนใดประกาศกลางเวทียูเอ็นว่าจะทำลายล้างประเทศอื่นให้ “สิ้นซาก” มิหนำซ้ำยังไม่ได้พูดเจาะจงไปที่ระบอบ คิม จอง อึน เท่านั้น แต่ขู่จะทำลายโสมแดงทั้งประเทศเลยทีเดียว : รัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ถึงกับลุกขึ้นยืนเมื่อ ทรัมป์ พูดจบ และหันไปกล่าวชม สตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายนโยบายซึ่งเป็นคนร่างบทให้ ทรัมป์ ว่า “คุณทำงานยอดเยี่ยมมาก” โดย มิลเลอร์ นั้นถูกมองว่าเป็นพวกชาตินิยมจัดเช่นเดียวกับ สตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ของ ทรัมป์ ที่เพิ่งลาออกไป ส่วน ทิลเลอร์สัน จะมีแนวคิดที่ค่อนข้างเป็นสากลมากกว่า

    Weekend Focus : “ทรัมป์” ปราศรัย UN ด่ากราด “3 รัฐอันธพาล” ตอกย้ำนโยบาย “อเมริกาเฟิร์สต์”
    เผยแพร่: 23 ก.ย. 2560 08:44:00
    560000010105802.jpg
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวปาฐกถาครั้งแรกบนเวทีสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ครั้งที่ 72 เมื่อวันอังคาร (19 ก.ย.) โดยขู่ทำลาย “เกาหลีเหนือ” ให้สิ้นซาก และเรียกผู้นำ คิม จอง อึน ว่าเป็น “มนุษย์จรวด” ที่กำลังหาทาง “ฆ่าตัวตาย” ขณะเดียวกันก็ชี้แจงวิสัยทัศน์ด้านการต่างประเทศภายใต้นโยบาย “อเมริกาเฟิร์สต์” ที่มุ่งสร้างพันธมิตรบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน โดยสหรัฐฯ จะไม่พยายามใช้กำลังทหารสร้างประชาธิปไตยขึ้นในดินแดนไกลโพ้น หรือกำหนดเจตจำนงของประเทศอื่นๆ

    ถ้อยคำบางช่วงบางตอนของ ทรัมป์ ที่เต็มไปด้วยสำนวนเผ็ดร้อน เช่น ระบุว่าโลก “กำลังจะลงนรก” และเรียกอิหร่านว่า “รัฐอันธพาล” ชวนให้นึกถึงบทปาฐกถาของผู้นำจากค่ายสังคมนิยมอย่าง นีกีตา ครุสชอฟ, ฟิเดล คาสโตร หรือ อูโก ชาเบซ มากกว่าผู้นำโลกเสรีประชาธิปไตยอย่างสหรัฐอเมริกา

    ทรัมป์ ไม่ได้เอ่ยถึงปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงซึ่งนานาชาติถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดที่โลกกำลังเผชิญอยู่ แม้แต่กระบวนการฟื้นฟูสันติภาพในตะวันออกกลาง หรือวิกฤตความรุนแรงในรัฐยะไข่ของพม่า ก็ไม่ถูกเอ่ยถึงเช่นกัน

    เช่นเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เคยจัดเกาหลีเหนือ อิรัก และอิหร่านเอาไว้ใน “ขั้วแห่งความชั่วร้าย” (axis of evil) ทรัมป์ เองก็เรียกร้องให้นานาชาติต้องเลือกระหว่าง “ฝ่ายดีส่วนใหญ่” และ “ฝ่ายเลวส่วนน้อย” แต่ใช้ถ้อยคำรุนแรงยิ่งกว่า บุช เพราะไม่เคยมีผู้นำสหรัฐฯ คนใดประกาศกลางเวทียูเอ็นว่าจะทำลายล้างประเทศอื่นให้ “สิ้นซาก” มิหนำซ้ำยังไม่ได้พูดเจาะจงไปที่ระบอบ คิม จอง อึน เท่านั้น แต่ขู่จะทำลายโสมแดงทั้งประเทศเลยทีเดียว

    ไม่กี่นาทีก่อนที่ ทรัมป์ จะกล่าวปาฐกถา เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้เรียกร้องให้ผู้นำทุกประเทศหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำยั่วยุ โดยเตือนว่า “คำพูดที่ก้าวร้าวรุนแรงอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นได้”

    เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 6 และยิงขีปนาวุธข้ามหมู่เกาะญี่ปุ่นไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกถึง 2 ครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งยังเปิดตัวขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ที่อาจยิงถล่มเป้าหมายได้เกือบทุกจุดในอเมริกา เล่นเอารัฐบาลสหรัฐฯ นั่งไม่ติดต้องก็ออกมาปรามหนักๆ ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ไปบินข่มขู่เหนือคาบสมุทรเกาหลี และยังจัดการซ้อมรบด้วยระเบิดจริงใกล้เขตปลอดทหารอีกด้วย

    เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่าสหรัฐฯ มี “หลายทางเลือก” ที่จะใช้จัดการกับเปียงยางได้ รวมถึงบางวิธีที่เขามั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อความปลอดภัยของกรุงโซล

    บทปาฐกถาของ ทรัมป์ ยังโจมตีข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 ซึ่งถือเป็นผลงานด้านการทูตชิ้นโบแดงของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา โดยกล่าวว่า “เชื่อผมเถอะ ถึงเวลาแล้วที่ทั่วโลกจะร่วมกับอเมริกาเรียกร้องให้อิหร่านยุติการไล่สังหารและการทำลายล้าง” พร้อมเตือนด้วยว่า ภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดสำหรับเตหะรานไม่ใช่กองทัพอเมริกัน แต่เป็นประชาชนอิหร่านที่หมดความอดทน

    โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ทวีตข้อความตอบโต้ทันทีว่าคำปราศรัยของผู้นำสหรัฐฯ นั้น “โง่เขลาเบาปัญญา” และปลุกเร้าความเกลียดชังราวกับถ้อยคำในยุคกลาง ไม่ใช่ยูเอ็นในศตวรรษที่ 21 ขณะที่ประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เตือนว่าการยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์จะเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวง และหากวอชิงตันไม่เคารพข้อตกลง ก็เท่ากับไร้ความรับผิดชอบ

    ทรัมป์ ยังวิจารณ์ประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลาว่าเป็นผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตยในประเทศตนเอง และสถานการณ์ในเวเนซุเอลาเป็นสิ่งที่อเมริกาไม่อาจยอมรับได้

    ผู้นำสหรัฐฯ รายนี้ยังคงชูนโยบาย “อเมริกาเฟิร์สต์” และเผยแนวคิดชาตินิยมจัดออกมาอย่างโจ่งแจ้ง โดยประกาศว่าตราบที่ยังอยู่ในตำแหน่ง เขาจะปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาเหนือสิ่งอื่นใด
    560000010105801.jpg
    ในความพยายามย้ำให้เห็นข้อแตกต่างระหว่างนโยบายต่างประเทศของตนกับผู้นำสหรัฐฯ คนก่อนๆ ทรัมป์ กล่าวว่าแต่ละประเทศย่อมมีสิทธิ์ที่จะรักษาไว้ซึ่ง “ค่านิยม” และ “วัฒนธรรม” ของตนเองโดยปราศจากแทรกแซงจากภายนอก และหน้าที่ของยูเอ็นคือการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างชาติที่เข้มแข็งและมีอิสระ ไม่ใช่กำหนดกฎเกณฑ์ให้ทุกประเทศต้องทำตาม

    เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวระบุว่า ทรัมป์ ใช้เวลาอ่านทบทวนบทปาฐกถาส่วนที่มีความเป็น “ปรัชญาล้ำลึก” ซึ่งจะแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านการต่างประเทศของเขา และถ้อยแถลงนี้ “ครอบคลุมทัศนะของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมากที่สุดเท่าที่ ทรัมป์ เคยพูดมา”

    เจ้าหน้าที่คนเดิมเผยด้วยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ถึงกับลุกขึ้นยืนเมื่อ ทรัมป์ พูดจบ และหันไปกล่าวชม สตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาฝ่ายนโยบายซึ่งเป็นคนร่างบทให้ ทรัมป์ ว่า “คุณทำงานยอดเยี่ยมมาก” โดย มิลเลอร์ นั้นถูกมองว่าเป็นพวกชาตินิยมจัดเช่นเดียวกับ สตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ของ ทรัมป์ ที่เพิ่งลาออกไป ส่วน ทิลเลอร์สัน จะมีแนวคิดที่ค่อนข้างเป็นสากลมากกว่า

    เฉิง เสี่ยวเหอ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่ง มองว่าคำปราศรัยของ ทรัมป์ เป็นสัญญาณเตือนว่าสหรัฐฯ ใกล้จะประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือเต็มทน และหากเปียงยางทดสอบขีปนาวุธอีกก็มีโอกาสสูงมากที่วอชิงตันจะลงมือสกัดกั้นด้วยตัวเอง

    แอรอน เดวิด มิลเลอร์ อดีตผู้แทนเจรจาด้านตะวันออกกลางของรัฐบาลสหรัฐฯ เตือนว่า สิ่งที่ ทรัมป์ พูดอาจทำให้ประเทศพันธมิตรเข้าใจผิดคิดว่าเขาไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบภารกิจสำคัญๆ ของโลก

    “ปัญหาใหญ่ของโลกอย่างเกาหลีเหนือและอิหร่านไม่สามารถแก้ได้ด้วยนโยบายแบบ อเมริกาเฟิร์สต์ ซึ่งเน้นแต่ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เองเป็นหลัก” เขากล่าว พร้อมชี้ว่าคำปาฐกถาครั้งนี้สะท้อนให้เห็นแนวคิดชาตินิยมจัดที่ยังฝังแน่นในหัวของทรัมป์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาย “โกลบัลลิสต์” ในทำเนียบขาวยังไม่มีอิทธิพลพอที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคตินี้ได้

    https://mgronline.com/around/detail/9600000097493
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    บทวิเคราะห์: สหรัฐอาจจะไม่สามารถยิงสกัดมิสไซล์ของเกาหลีเหนือก็ได้

    FB_IMG_1506159552472.jpg FB_IMG_1506159555647.jpg


    -----------

    วันที่ 20 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "US may not be capable of shooting down N. Korean missile – analysts"

    แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐจะประกาศในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติว่า สหรัฐจะ "ทำลายเกาหลีเหนือให้ย่อยยับทั้งหมด" หากถูกโจมตี (= การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์จำนวน 25 ล้านคน ต่อมาเกาหลีเหนือตอกกลับว่า "ก็แค่สุนัขเห่าหอนเท่านั้นเอง แถวบ้านเขาเรียกว่า หมาฝัน") แสนยานุภาพของสหรัฐอาจจะไม่สามารถหยุดยั้งการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ได้ หากขีปนาวุธบรรจุหัวรบนิวเคลียร์มาด้วย บทวิเคราะห์บางฉบับกล่าว

    ผู้เชี่ยวชาญบางคนในกองทัพและด้านการป้องกันขีปนาวุธเชื่อว่า แม้ว่าสหรัฐจะมีข้อมูลว่าเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงต่ออเมริกาหรือต่อพันธมิตรบางประเทศของตนเองก็ตาม พวกเขาอาจจะไม่สามารถยิงขีปนาวุธที่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายให้ตกได้

    การปล่อยขีปนาวุธพิสัยกลาง (Hwasong-12) ผ่านเหนือเกาะฮ็อกไกโดของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 15 กันยายนนี้ ทำความสูงที่สุดที่ 480 ไมล์ (770 กิโลเมตร) ข้อมูลจากสหภาพนักวิทยาศาสตร์ที่มีความห่วงใย (Union of Concerned Scientists) แต่ Joseph Cirincione ผู้ก่อตั้งกองทุน Ploughshares มูลนิธิเพื่อความปลอดภัยทั่วโลกกล่าวว่า สหรัฐและญี่ปุ่นไม่มีศักยภาพแม้แต่จะสกัดกั้นขีปนาวุธที่ปล่อยในความสูงระดับนั้นได้เลย

    Joseph Cirincione อธิบายว่าไม่มีระบบป้องกันขีปนาวุธวิถีโค้งใดๆที่มีอยู่ในปัจจุบันจะสามารถทำความสูงได้ในระดับที่ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือทำได้ Defense One รายงาน

    Bruce Bennett นักวิเคราะห์จากกลุ่ม RAND Corporation ซึ่งเป็น NGO อีกกลุ่มมีความเห็นตรงกับข้อสงสัยของ Joseph Cirincione โดยกล่าวว่า "เราอาจจะพลาดหรือยิงโดนก็ได้ เรายังไม่มั่นใจ" The Express รายงาน

    ส่วนผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่งได้ตั้งคำถามในรายงานของ The Washington Post เมื่อเดือนที่แล้วซึ่งระบุว่า เกาหลีเหนืออาจจะสามารถย่อขนาดหัวรบให้ติดตั้งบนขีปนาวุธข้ามทวีปได้แล้วก็ได้

    Tom Plant ผอ. โครงการการขยายและนโยบายเกี่ยวกับนิวเคลียร์ (Proliferation and Nuclear Policy Program) ที่สถาบัน Royal United Services Institute (RUSI) ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า ประเทศนั้น (เกาหลีเหนือ) อาจจะยังไม่ได้ครอบครองเทคโนโลยีที่ทำให้ขีปนาวุธระยะไกลสามารถโค้งกลับเข้ามายังชั้นบรรยากาศได้

    Tom Plant กล่าวว่า "หัวรบตามที่มีการพูดถึงในรายงานฉบันนั้นอาจจะถูกออกแบบมาเพื่อให้สลัดตัวออกจาก ICBM ในเบื้องต้นเท่านั้น แต่จะไม่สามารถกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้ หลังจากที่ถูกปล่อยออกไปแล้ว พาหนะที่จะนำมิสไซล์กลับเข้ามานั้น จะต้องทนทานต่ออุณหภูมิที่ทั้งร้อนและเย็น ในขณะที่กำลังกลับเข้ามาสู่ชั้นบรรยากาศและพุ่งไปยังเป้าหมาย"

    Tom Plant เชื่อว่า "เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการผลิตหัวรบย่อส่วนแล้ว แต่คำถามก็มีอยู่ว่า เทคโนโลยีเกี่ยวกับมิสไซล์ของเกาหลีเหนือจะสามารถเหลือรอดกลับเข้ามาสู่ชั้นบรรยากาศและพุ่งโจมตีเป้าหมายได้หรือไม่" Newsweek ของสหรัฐรายงาน

    "ในส่วนของการประเมินข่าวกรองของสหรัฐนั้น ภาษาเป็นสิ่งที่ควรค่าต่อการให้ความสนใจเสมอ การประเมินระบุว่าเกาหลีเหนือได้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์สำหรับจัดส่งด้วยขีปนาวุธวิถีโค้ง (ballistic missile) ได้แล้ว เพื่อที่จะจัดส่งโดยขีนาวุธวิถีโค้งข้่ามทวีป (ICBM)" Tom Plant กล่าว Newsweek รายงาน

    Tom Plant กล่าวอีกว่า "นั่นแตกต่างอย่างเฉียดฉิวจากการกล่าวว่าอาวุธเหล่านั้นเข้ากันได้กับพาหนะที่จะรอดกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ"

    Paul Kawika Martin ผอ. ฝายการเมืองและการสื่อสารจากสถาบัน Peace Action ในสหรัฐกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ RT ว่า "พวกเรายังไม่รู้ว่าพวกเขา (เกาหลีเหนือ) สามารถที่จะทำให้อุปกรณ์ประเภทนั้น (หัวรบนิวเคลียร์) มีขนาดเล็กพอที่จะติดตั้งบนมิสไซล์ที่พวกเขามีหรือไม่"

    "พวกเราไม่รู้ว่า พวกเขาได้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอุกรณ์นิวเคลียร์ที่สามารถรอดกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้จริงหรือไม่... ขีปนาวุธวิถีโค้งข้ามทวีปเหล่านั้น พุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ และจากนั้นก็กลับลงมา ในช่วงที่กลับลงมานั้น มิสไซล์เหล่านั้นจะต้องเจอกับแรงกดดันจากอุณภูมิ อุณหภูมิที่ร้อน (มาก) ดังนั้น หัวรบหรืออุปกรณ์นิวเคลียร์จะต้องรอด (ไม่ได้รับความเสียหาย) ในขากลับและแลนดิ้งลงไปยังประเทศหนึ่งได้อย่างแท้จริง พวกเราไม่รู้ว่าพวกเขามีเทคโนโลยีนี้หรือยัง แต่ ณ จุดนี้ แน่นอนครับ เราจะต้องทำเหมือนกับว่าพวกเขามีเทคโนโลยีนี้แล้ว"

    [รู้สึกว่าจะประเมินเกาหลีเหนือต่ำไปซักหน่อยนะคุณอเมริกันทั้งหลาย ก่อนหน้านี้พอเกาหลีเหนือประกาศว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองแล้วนะ พวกนักวิชาการ นักวิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย โดยเฉพาะจากสหรัฐและอียู ต่างก็ดูถูกเกาหลีเหนือว่า "ขี้โม้!" เกาหลีเหนือจึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวในประเทศต้นเอง ด้วยการทดลองอาวุธนิวเคลียร์

    ไม่มีใครสงสัยอีกแล้วว่า "เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์จริงหรือไม่" แต่พากันหันไปรุมด่าและเล่นงานเกาหลีเหนือด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการทูตแทน โดยกล่าวหาว่าเกาหลีเหนือบ่อนทำลายสันติภาพในภูมิภาคและทั่วโลก และเป็นภัยคุกคามต่อเพื่อนบ้านรวมทั้งต่อสหรัฐด้วย รัสเซียบอกว่า อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือไม่เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย

    ต่อมาก็พากันตั้งคำถามใหม่อีกว่า ขีปนาวุธพิสัยกลางหรือข้ามทวีปของเกาหลีเหนือจะสามารถกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศและมุ่งไปยังเป้าหมายได้ในสภาพที่ไม่ได้รับความเสียหายจากแรงเสียดทานในชั้นบรรยากาศได้หรือ? หัวรบระเบิดไฮโดรเจน (นิวเคลียร์) ที่คุยว่าย่อส่วนให้ติดตั้งบนขีปนาวุธได้แล้วนั้น จะยังสามารถใช้การได้อยู่หรือในขณะที่กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ? แปลว่าอะไรครับ? พวกฝรั่งกำลังท้าให้เกาหลีเหนือทดลองของจริงนะสิ บางคนบอกว่ามีวิธีเดียวที่จะรู้ได้อย่างแน่ชัดก็คือ รอดูตอนที่มันเกิดแสงสว่างวาบขนาดใหญ่ขึ้นมาเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก

    ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือสามารถโค้งกลับเข้าสู่วิถีจากชั้นบรรยากาศได้หรือไม่? ข้อมูลจากการทดลองขีปนาวุธพิสัยกลาง Hwasong-12 ของเกาหลีเหนือ 3 ครั้งล่าสุด ซึ่งประสบความสำเร็จในการโจมตีเป้าหมาย มีดังต่อไปนี้

    - 14 พ.ค. 60 ปล่อยจากพื้นที่จังหวัด Kusong ทำความสูงที่สุด ที่ 2,111.5 กม. (ทะลุชั้นบรรยากาศโลก) ระยะทางจากจุดปล่อยถึงจุดตก (เป้าหมาย) 787 กม. ตกลงในทะเลญี่ปุ่น ผลการทดลอง: ประสบความสำเร็จ

    - 29 ส.ค. 60 ปล่อยจากพื้นที่จังหวัด Kusong ทำความสูงที่สุด ที่ 550 กม. ระยะทางจากจุดปล่อยถึงจุดตก (เป้าหมาย) 2,700 กม. ลอยข้ามน่านฟ้าเกาะฮ็อกไกโดของญี่ปุ่น (น่านฟ้าสากล) ตกลงในมหาสมุทรแฟซิฟิก ห่างจากญี่ปุ่นทางตะวันออก 1,180 กม. ผลการทดลอง: ประสบความสำเร็จ

    - 15 ก.ย. 60 ปล่อยจากพื้นที่จังหวัด Kusong ทำความสูงที่สุด ที่ 770 กม. ระยะทางจากจุดปล่อยถึงจุดตก (เป้าหมาย) 3,700 กม. ลอยข้ามน่านฟ้าเกาะฮ็อกไกโดของญี่ปุ่น (น่านฟ้าสากล) ตกลงในมหาสมุทรแฟซิฟิก ห่างจากญี่ปุ่นทางตะวันออก 2,200 กม. ผลการทดลอง: ประสบความสำเร็จ

    ส่วนการทดลองขีปนาวุธ Hwasong-14 สองครั้งล่าสุดในปี 2017 มีดังนี้...

    - 4 ก.ค. 60 ปล่อยจากพื้นที่ใกล้กรุงเปียงยาง ทำความสูงที่สุด ที่ 2,802 กม. ระยะทางจากจุดปล่อยถึงจุดตก (เป้าหมาย) 933 กม. ตกลงในทะเลญี่ปุ่น ผลการทดลอง: ประสบความสำเร็จ

    - 4 ก.ค. 60 ปล่อยจากพื้นที่จังหวัด Chagang ทำความสูงที่สุด ที่ 3,724.9 กม. ระยะทางจากจุดปล่อยถึงจุดตก (เป้าหมาย) 998 กม. ตกลงในทะเลญี่ปุ่น (ใกล้เกาะฮ็อกไกโด) ผลการทดลอง: ประสบความสำเร็จ

    เกาหลีเหนืือใช้ดาวเทียมของตนเองติดตามขีปนาวุธเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มปล่อยและตกใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำเสอม และเขาก็ยืนยันว่าเขาทำสำเร็จ แต่บรรดานักวิเคราะห์และนักวิชาการทั้งหลายของสหรัฐ ก็ยังพากันตั้งข้อสงสัยว่า "จริงหรือเปล่า? โม้มากกว่ามั๊ง? ไม่เชื่อหรอกว่าจะทำได้ขนาดนั้น" มีเพียงวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ได้ก็คือ "เล่นของจริงเลย" แต่พวกนักขี้สงสัยเหล่านั้นจะช่วยกันคัดค้านการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือจากสหรัฐและยูเอ็นหรือไม่หละ ถ้าเกาหลีเหนือทดของขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ของจริงให้ดู?

    Jeffrey Lewis ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์กล่าวกับสำนักข่าว CNN ของสหรัฐว่า "ในปี 1966 พวกเรากล้าท้าทายจีน (ตอนที่จีนทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์) และพวกเขาก็ทำได้จริงๆ คราวนี้พวกเราก็กำลังพากันท้าทายเกาหลีเหนือ" (คาดว่าเกาหลีเหนือก็คงจะไม่ทำให้นักท้าทายเหล่านั้นผิดหวังแน่นอน อย่าโวยวายอีกก็แล้วกัน) - ผู้แปล]

    ป.ล. นักวิเคราะห์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศเดียวที่แสดงระเบิดไฮโดรเจน (นิวเคลียร์) ให้ทั่วโลกได้เห็นอย่างเปิดเผย และยังชมอีกว่าเป็นการออกแบบระเบิดที่ยอดเยี่ยมมาก ปรกติเรื่องแบบนี้ ทั้งสหรัฐ จีน รัสเซีย และประเทศอื่นๆที่มีอาวุธนิวเตลียร์จะไม่เปิดเผยหรือปล่อยให้ความลับหลุดออกมาสู่ภายนอกได้เด็ดขาด มีแต่การวาดภาพหรือทำภาพกราฟิกประกอบเท่านั้น แต่เกาหลีเหนือโชว์ของจริง คิม จอง-อึน เป็นพยาน

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    23/09/2560
    ---------
    https://www.rt.com/usa/403895-us-may-not-be-capable-shooting-down-missile/
    http://allthingsnuclear.org/dwright/nk-sept-15-launch-over-japan
    https://www.rt.com/news/404267-difference-between-hydrogen-atomic-bombs-korea/
    http://edition.cnn.com/2017/09/22/asia/north-korea-nuclear-test-pacific-explainer/index.html
    https://sputniknews.com/military/201709211057596304-north-korea-nuclear-icbm-preparation/
    https://en.wikipedia.org/wiki/Hwasong-12
    https://en.wikipedia.org/wiki/Hwasong-14
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    มาละเว้ย มาละวา มยุเอ๋ย มยุรา… อุ๊ย! ไม่ใช่มยุราแต่เป็น "ขีปนาวุธ" ของอิหร่่านนิ

    FB_IMG_1506160063862.jpg FB_IMG_1506160069816.jpg

    -----------

    วันที่ 23 ก.ย.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "อิหร่านทดลองปล่อยขีปนาวุธวิถีโค้งรุ่นใหม่ รัศมีทำการ 1,200 ไมล์ - รายงาน" (Iran Test-Fires New Ballistic Missile With Range of 1,200 Miles - Reports)

    อิหร่านประสบความสำเร็จในการทำการทดลองปล่อยขีปนาวุธ Khorramshahr วิถีโค้งพิสัยกลางรุ่นใหม่ มีรัศมีทำการไกลสุด 2,000 กิโลเมตร (1,242 ไมล์) สื่อท้องถิ่นรายงาน

    สถานีโทรทัศน์ Press TV ของอิหร่านได้เผยแพร่คลิปการปล่อยขีปนาวุธลูกหนึ่งจากฐานทดลองโดยไม่ลงรายละเอียดใดๆ ตามรายงานข่าวแจ้งว่าได้มีการยิงขีปนาวุธออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเสร็จพิธีการสวนสนามของกองทัพในกรุงเตหะราน

    เมื่อวันศุกร์นี้ กองทัพอิหร่านได้จัดพิธีพาเหรดทหารขึ้นในกรุงเตหะราน พร้อมกับนำขีปนาวุธวิถีโค้งรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาแสดงด้วย โดยได้มีการตั้งชื่อให้กับขีปนาวุธรุ่นนี้ว่า "Khorramshahr" ตามชื่อเมืองๆหนึ่งของอิรัค ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักในช่วงสงครามอิรัค-อิหร่าน ขีปนาวุธรุ่นนี้พัฒนาขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษสำหรับกองทัพพิทักษณ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ซึ่งเป็นหนึ่งหน่วยงานในกองทัพอิหร่าน ขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถบรรจุหัวรบได้หลายหัวรบและแยกโจมตีเป้าหมายต่างๆได้อย่างอิสระ ในรัศมี 1,800 กิโลเมตร

    [รัฐบาลทรัมป์ และอิสราเอลพยายาม รวมทั้งซาอุดิอาระเบีย พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะยกเลิกข้อตกลงสันติภาพ JCPOA ที่มหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ P5+1 ได้ลงนามร่วมกับอิหร่านและนำไปสู่การยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยการกล่าวหาว่าอิหร่านยังคงเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง และเรียกร้องให้คณะกรรมการที่รับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบ อิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว อียูปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามเสียงเรียกร้องจากสหรัฐ และยืนยันว่าไม่พบว่าอิหร่านละเมิดข้อตกลง จึงไม่จำเป็นต้องไปตรวจสอบซ้ำ ล่าสุดอิหร่านประกาศอย่างชัดเจนว่าจะเดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธของตนตเองต่อไป

    ซึ่งทั้งสหรัฐ อิสราเอล และประเทศอื่น หรือแม้กระทั่งเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่ดราม่าว่ากลัวขีปนาวุธของเกาหลีเหนือต่างก็พากันพัฒนาขีปนาวุธของตนเองให้ทันสมัยและมีอานุภาพร้ายแรงยิ่งขึ้น แล้วทำไมกรุงเตหะรานและกรุงเปียงยางจะพัฒนาขีปนาวุธของตนเองบ้างไม่ได้? "มันผิดมติยูเอ็น จึงพัฒนาไม่" งั้นก็ "ช่างหัวมติยูเอ็นสิ" คิมน้อยไม่ได้กล่าว - ผู้แปล]

    ป.ล. กรุงเทลอาวิฟของอิสราเอลอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานประมาณ 1,500 กว่ากิโลเมตร ส่วนกรุงริยาดห์ของซาอุดิอาระเบียอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานประมาณ 1,200 กว่ากิโลเมตร ฐานทัพใหญ่ๆของสหรัฐทั้งในคูเวตและกาตาร์ อยู่ในรัศมีของขีปนาวุธ Khorramshahr ทั้งนั้น

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    23/09/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/military/201709231057632271-iran-new-missile-launch-test/

    http://www.independent.co.uk/news/w...unch-press-tv-nuclear-programme-a7962606.html
    https://sputniknews.com/middleeast/201709221057625753-iran-improves-ballistic-missile-capacity/
    https://sputniknews.com/middleeast/201709221057604974-khamenei-trump-criticism/
    https://sputniknews.com/middleeast/201709221057604380-iran-ballistic-missile-warheads/
    http://www.presstv.com/Detail/2017/09/23/536111/Iran-ballistic-missile-testfire
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คนเข้าใจผิดไปเอง! เจ้าทฤษฎีชี้โลกไม่แตก 23 ก.ย. แต่จะเกิดหายนะยาว 7 ปี โดย ไทยรัฐออนไลน์ 23 ก.ย. 2560 13:10

    เดวิด มี้ด นักเลขศาสตร์และนักทฤษฎีสมคบคิด ออกมายืนยันว่า ข่าวลือที่ว่า ดาวนิบิรุ จะพุ่งชนโลกในวันที่ 23 กันยายนเป็นการตีความคำทำนายของเขาผิดๆ แท้จริงแล้ว มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะนาน 7 ปีต่างหาก....

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย เดวิด มี้ด นักเลขศาสตร์และนักทฤษฎีสมคบคิด ผู้สร้างความปั่นป่วนป่วนแกว่งการดาราศาสตร์ด้วยการระบุในหนังสือของเขาว่า ดาวเคราะห์ปริศนา ‘นิบิรุ’ (Nibiru) หรือ แพลนเนท เอ็กซ์ (Planet X) กำลังจะพุ่งชนโลกในวันที่ 23 กันยายน 2560 จนโลกและมนุษยชาติถึงกาลอวสาน ออกมาระบุว่า ผู้คนตีความคำทำนายของเขาผิด แท้จริงแล้วแพลนเนท เอ็กซ์ จะไม่ได้ทำลายโลกในวันดังกล่าว แต่จะเป็นสัญญาณว่าโลกจะเผชิญหายนะและภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อเนื่องกันเป็นเวลา 7 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมเป็นต้นไป

    นายมี้ดบอกกับ ‘ซัน ออนไลน์’ ว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเดือนกันยายน หากเป็นเดือนตุลาคมต่างหาก มี้ดเชื่อว่าจะมีลางบอกเหตุปรากฏบนท้องฟ้าในวันที่ 23 กันยายน ซึ่งพระจันทร์จะปรากฏใต้กลุ่มดาวหญิงสาว (Virgo) และหลายวันต่อมาในวันที่ 5 ตุลาคม แพลนเนท เอ็กซ์ จะบดบังดวงอาทิตย์กลายเป็นสุริยคราสเต็มดวง ซึ่งจะเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของหายนะนาน 7 ปี ในวันที่ 21 ตุลาคม

    เดวิด มี้ด ผู้เชื่อในทฤษฎีสมคมคิดว่าดาว นิบิรุ จะพุ่งชนโลก

    นายมี้ดยังอ้างด้วยว่า ในช่วงเวลา 7 ปีดังกล่าว จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่าง สหรัฐฯ, อังกฤษ, รัสเซีย, จีน, อิหร่าน และเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังจะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่เกี่ยวข้องกับ แพลนเนท เอ็กซ์ หรือดาวเคราะห์น้อย ‘วอร์มวูด’ (Wormwood) ซึ่งอยู่ในระบบของ แพลนเนท เอ็กซ์ และเปลวสุริยะ หรือ ‘Solar Flare’ จะทำให้ระบบไฟฟ้าล่มทั่วโลก ระบบธนาคารจะใช้การไม่ได้ คนจะแห่งกักตุนอาหารหมดห้างสรรพสินค้าภายในวันเดียว จะเกิดการปล้นชิงเสบียงอาหาร สังคมจะตกลงสู่ความสับสนวุ่นวาย

    และ วอร์มวูด ดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 3 กิโลเมตร จะพุ่งเข้าชนโลกในเวลาใดเวลาหนึ่งในช่วง 7 ปีนี้ ซึ่งทั้งหมดคือเสียง ‘แตรพิพากษาทั้ง 7 ครั้ง’ ตามหนังสือวิวรณ์ (Book of Revelation) หนังสือเล่มสุดท้ายในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่ แต่หลังจากทนทุกข์ทรมาน 7 ปี ชาวโลกที่โลกที่เหลือรอดจะอยู่อย่างสงบสุขไปนานนับพันปี

    ทั้งนี้ เรื่องหายนะจากดาว แพลนเนท เอ็กซ์ ถูกระบุในหนังสื่อ ‘Planet X:The 2017 Arrival’ (แพลเนต เอ็กซ์ : เดอะ 2017 อาร์ไรวอล) ของนายมี้ด และเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่มีมานานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา ของสหรัฐฯ ยืนยันมาโดยตลอดว่า แพลนเนท เอ็กซ์ เป็นเพียงเรื่องหลอกลวงบนอินเทอร์เน็ต ไม่มีอยู่จริงแต่อย่างใด

    อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1078570
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events

    ใช่! นาฬิกาหยุดลงแล้ว พระเยซูตรัสกับนางว่า "ไปบอกคริสตจักรของฉันว่าถึงเวลาแล้ว บอกคริสตจักรว่าหมดเวลาแล้ว!"


    พระเยซูตรัสว่า "ในพระวจนะของเรามีคำเขียนไว้ว่าในวันสุดท้ายปีศาจ. (สิ่งชั่วร้ายที่รวมถึงออกมาจากจิตใจมนุษย์) จะแพร่กระจายบนแผ่นดินโลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และตอนนี้พวกเขากำลังแพร่หลายอยู่บนพื้นโลก นั่นคือเหตุผลที่โลกกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้"

    ..

    พระเยซูทรงพานางเข้าไปในห้องซึ่งเต็มไปด้วยกระจก
    หลังจากที่พระองค์ทรงให้เสื้อคลุมสีขาวแก่นางแล้วพระองค์ทรงชี้ให้เห็นว่าเสื้อคลุมนี้มีสีขาวและบริสุทธิ์ แต่เมื่อมองใกล้ๆเสื้อคลุมที่ดูขาวสะอาดกลับเต็มไปด้วยคราบที่มีขนาดเล็กและไม่สามารถสังเกตได้ง่ายนักและเธอเสียใจเพราะคราบเหล่านั้นเป็นตัวแทนของความบาป และเธอก็เริ่มร้องไห้เพราะเสื้อคลุมของเธอสกปรกด้วยเช่นกัน

    จากนั้นพระองค์ก็บอกกับเธอว่า "ฉันจะแสดงให้เห็นว่าลูกเป็นคนที่เข้มแข็งมากขึ้น" พระองค์ได้นำนางไปที่โบสถ์ที่เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากและพระองค์บอกกับเธอว่า "และอย่างที่เห็นไม่มีเสื้อใครคนใดสวมเสื้อคลุมสีขาวสนิท และอาภรณ์ที่สกปรกที่สุดก็เป็นของผู้สูงอายุและผู้นำ" ...?

    จงตั้งใจฟังให้ดี .. ลูกมองและเห็นว่าทุกคนมีเสื้อคลุมสกปรกและเสื้อบางคนก็ฉีกขาดและเต็มไปด้วยคราบ และเธอสังเกตเห็นว่าผู้ที่อยู่ในสภาพแย่ที่สุดเป็นเสื้อของผู้สูงอายุและผู้นำ!?
    เธอประหลาดใจมากกับความฝันนี้และเธอเริ่มร้องไห้เพราะในคริสตจักรไม่มีใครที่มีเสื้อสีขาว ทันใดนั้นทุกคนยกมือขึ้นนมัสการและสรรเสริญพระเจ้าและมือของเขาเต็มไปด้วยเลือด! พระเยซูตรัสกับเธอว่าพวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้า แต่ความคิดของพวกเขายังหมกมุ่นอยู่เกี่ยวกับสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันของพวกเขา และพระเยซูตรัสกับเธออีกว่า "ดูความคิดของคนในคริสตจักร พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางพระบิดาของเราเลย แต่พวกเขากลับหมกมุ่นทำทุกอย่างเพื่อในโลกนี้ เพราะเหตุนี้การนมัสการของคริสตจักรนี้จะไม่นำพาพวกเขาขึ้นไปบนบัลลังก์ของฉัน พวกเขาไม่ได้คิดที่จะมุ่งมั่นอยู่กับราชอาณาจักรของฉันหรือการกลับมาของฉัน"

    แล้วพระเยซูก็ได้จับมือเธอและพาเธอไปที่โบสถ์แห่งหนึ่งและพระองค์บอกเธอว่า "คริสตจักรนี้ฉันไม่เคยไปเยี่ยมเพราะฉันไม่ได้สั่งให้เปิด นี่คือสิ่งหนึ่งที่เกิดจากซาตาน"! จากนั้นพระองค์ได้พานางไปเยี่ยมคริสตจักรหลายแห่งทั่วโลกและเธอถามพระองค์ว่า "แล้วพวกเขาจะรอดได้อย่างไร? พระเยซูตรัสตอบว่า "คนที่ได้รับการชำระแล้วและเสื้อคลุมของพวกเขาจะได้รับการชำระล้างให้ขาวโดยเลือดของเราๆจะช่วยให้รอด"
    และพระองค์พาเธอไปที่ๆเธอได้เห็นทัศนียภาพอันกว้างไกลของโบสถ์ทั้งหมด ทันใดนั้นเธอก็มองเห็นพระเยซูทรงร้องไห้อย่างขมขื่น เธอรู้สึกสลดหดหู่เมื่อเห็นพระองค์ร้องไห้เช่นนี้ แต่พระองค์ตรัสว่า "ที่จริงเธอร้องไห้มากกว่าฉัน" และพูดกับนางต่อว่า "ลูกรัก ที่แย่ที่สุดคือทุกคนคิดว่าพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือ"
    เธอทูลว่า "ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงพระประสงค์สิ่งใดจึงมอบวิสัยทัศน์นี้ให้? พระองค์จึงตอบ "ฟัง!" Tick tock , tick tock, tick tock และเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ลูกได้ยินไช่ไหม?" เธอตอบว่า "ใช่แล้วท่านพ่อ เป็นเสียงนาฬิกา" พระองค์กล่าวว่า "ฟังอีกครั้ง" Tick tock, tick tock และนาฬิกาหยุดลงแล้วและพระองค์กล่าวต่อ "เธอได้ยินมันอีกหรือไม่" เธอตอบว่า "เสียงหยุดลงแล้ว"?

    พระเยซูตรัสกับนางว่า "จงไปบอกคริสตจักรของเราว่าเวลาล่วงไปแล้ว บอกคริสตจักรว่าเวลาหมดแล้ว" !!

    https://www.facebook.com/SIGNSOFTHEENDTIME/?hc_ref=NEWSFEED
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    เปิดดูไฟล์ 4347745 เปิดดูไฟล์ 4347745

    ครูสอนศาสนาคนหนึ่งในซาอุดิอาระเบียบอกว่า "ผู้หยิงมีสมองแค่ 1 ใน 4 ส่วนเท่านั้น" (แบระๆๆๆๆๆ คริๆ)
    -----------

    วันที่ 22 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "'พวกผู้หญิงมีสมองแค่หนึ่งในสี่ส่วน' ครูสอนศาสนาซาอุดิกล่าวอ้าง" ('Women have quarter of a brain’, Saudi cleric claims)

    รายงานข่าวแจ้งว่า ครูสอนศาสนาซึ่งเป็นชาวซาอุดิอาระเบียคนหนึ่งถูกตำหนิอย่างรุนแรง หลังจากเขากล่าวว่า ผู้หญิงไม่สมควรที่จะขับรถ เพราะว่าพวกหล่อนมีสมองเพียงแค่หนึ่งในสี่เท่านั้น นาย Sheikh Saad Al-Hijri เจ้าของคำพูดนี้ถูกทางการห้ามเข้าประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเนื่องจากการแสดงความคิดเห็นที่ฉาวโฉ่ของเขา

    นาย Al-Hijri ได้กล่าวคำพูดเกี่ยวกับตัวเลขทางสมองในการเลคเชอร์ภายใต้หัวข้อ "The evils of women driving." (พวกนางปีศาจขับรถ) ในประเทศอนุรักษ์นิยมที่ฉาวโฉ่แห่งนี้ ผู้หญิงไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถยนต์ด้วยตัวเอง ผู้หญิงหลายคนถูกลงโทษจำคุกเนื่องจากพยายามที่จะกระทำดังกล่าว (ไม่ใช่เกาหลีเหนือนะครัช)

    ครูสอนศาสนาคนนี้กล่าวว่า ผู้หญิงมีสมองแค่ครึ่งเดียวที่จะเริ่มต้นด้วย แต่ เมื่อพวกหล่อนพยายามที่จะใส่เรื่องการช็อปปิ้งลงในจิตใจที่อ่อนแอของพวกหล่อน นั่นก็จะถูกแบ่งครึ่งอีกครั้ง และพวกหล่อนก็จะจบลงที่หนึ่งในสี่ส่วน อ้างคำพูดโดย The Jerusalem Post

    ได้มีการแชร์คลิปของนาย Al-Hijri ที่เกี่ยวกับการสนทนาเรื่องเพศนี้ในโลกออนไลน์ กระตุ้นให้เกิดกระแสตีกลับากผู้คนจำนวนมากในราชอาณาจักร ซึ่งใช้แฮชแท็กว่า "Al-Hijri says women have a quarter of a brain" (นาย Al-Hijri กล่าวว่าผู้หญิงมีสมองแค่หนึ่งในสี่) เพื่อร่วมส่งเสียงโกรธแค้น

    บางคนระบายความโกรธของตนเองออกมาในโลกออนไลน์ว่า "เธออุ้มท้องเขา ให้กำเนิดเขา เลี้ยงดูเขา ดูแลเขาทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ได้หลับ จนกระทั่งเขาเติบใหญ่ขึ้นมา และวันนี้เขาเรียกเธอว่า ผู้หญิงที่มีสมองเพียงแค่หนึ่งในสี่ส่วน เขาและผู้ที่เหมือนเขาจะต้องถูกห้ามจากการปรากฎตัวในที่ไหนๆ"

    ส่วนอีกคนหนึ่งเขียนว่า "ฉันของสัญญาต่อพระเจ้าว่า พวกที่มีสมองแค่หนึ่งในสี่ส่วนนั้นก็คือคุณ และพวกที่เหมือนกับคุณ ผู้ที่หยิบยื่นหลักการแนวคิดที่แข็งกระด้างให้กับคุณนั่นแหละ ผู้หญิงต่างหากที่เลี้ยงดูผู้ชายจนเติบใหญ่ และเธอก็เป็นแกนหลักของความสำเร็จด้วย"

    ประเทศซาอุดิอาระเบียซึ่งปกครองโดยระบอบสมญาณาสิทธิราช มีที่นั่งในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Human Rights Council) และในคณะกรรมการสิทธิสตรี (Women’s Rights Commission) ซึ่งยังคงเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์สำหรับการปฏิบัติต่อประชากรเพศหญิงภายในราชอาณาจักร

    ไม่เพียงแค่เรื่องนี้เท่านั้น ในการเคลื่อนไหวที่เห็นได้ชัดเจนในการพยายามแก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง รัฐบาลประเทศนี้ได้จัดตั้ง "สภาสตรี" ขึ้นมา แต่สมาชิกกลับประกอบด้วยผู้ชายล้วนๆ

    ป.ล. ข่าวนี้สื่อรัสเซียเอามาจากสื่ออิสราเอล โดยอ้างอิงคลิปต้นฉบับตอนที่นาย Al-Hijri พูดเอาไว้ด้วย ไม่ใช่การกล่าวหาหรือใส่ร้ายประเทศซาอุดิอาระเบียหรือบางศาสนา แต่นายคนนั้นพูดแบบนั้นจริงๆ
    https://www.rt.com/news/404259-women-have-quarter-brain-saudi-cleric/

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    23/09/2560
    ---------
    https://www.rt.com/news/404259-women-have-quarter-brain-saudi-cleric/
    http://www.jpost.com/Middle-East/Sa...women-cant-drive-due-to-brain-shinkage-505710


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    บังกลาเทศระบุ การไหลทะลักของคลื่นผู้ลี้ภัย “ชาวโรฮิงญา” สิ้นสุดแล้ว
    เผยแพร่: 23 ก.ย. 2560 17:14:00
    560000010120401.jpg




    เอเอฟพี – การไหลทะลักของชาวโรฮิงญาเข้าสู่บังกลาเทศดูเหมือนว่าจะหยุดลงแล้ว เจ้าหน้าที่กล่าวในวันนี้ (23) เกือบหนึ่งเดือนหลังจากเกิดความรุนแรงในเมียนมาร์ซึ่งส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยเกือบ 430,000 คนในช่วงเวลาสี่สัปดาห์

    ชาวมุสลิมโรฮิงญาอยู่รวมกันอย่างแออัดในค่ายรอบๆ เมืองชายแดนคอกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศ ทำให้รัฐบาลและหน่วยงานของยูเอ็นต้องใช้ทรัพยากรจนถึงขีดจำกัด

    อย่างไรก็ตาม หน่วยรักษาชายแดนของบังกลาเทศกล่าวว้า พวกเขาไม่เห็นเรือบรรทุกชาวโรฮิงญาบนแม่น้ำนาฟซึ่งเป็นเหมือนกับชายแดนของเมียนมาร์หรือในอ่างเบงกอลมาเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วันแล้ว การเดินทางข้ามมายังชายแดนบนบกแทบจะไม่มีแล้ว

    “เจ้าหน้าที่ของเราไม่เห็นชาวโรฮิงญาข้ามมาเลยในข่วงสองสามวันที่ผ่านมา การไหลละลักยุติลงแล้ว” เอส.เอ็ม. อาริฟูล อิสลาม ผู้บัญชาการหน่วยรักษาชายแดนบังกลาเทศ บอกกับเอเอฟพี

    องค์การสหประชาชาติก็ระบุเช่นกันว่า “การไหลทะลักยุติลงแล้ว” ในขณะที่พวกเขาแจ้งการประเมินจำนวนชาวโรฮิงญาที่ข้ามชายแดนใหม่ที่ 429,000 คน นับตั้งแต่การกวาดล้องทางทหารขิงเมียนมาร์ในรัฐยะไข่เริ่มต้นเมื่อเดือนสิงหาคม

    กองทัพบังกลาเทศและยูเอ็นไม่ได้เสนอเหตุผลของการที่ผู้ลี้ภัยข้ามแดนลดลงอย่างกะทันหันนี้ หลายหน่วยงานของยูเอ็นแจ้งความคืบหน้ารายวันเกี่ยวกับตัวเลขผู้ลี้ภัยแต่ตอนนี้พวกเขาระบุว่า จะมีการแจ้งความคืบหน้าทุกวันอาทิตย์ (23) เท่านั้น

    560000010120402.jpg


    ในสัปดาห์นี้ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมาร์ ออง ซานซูจี กล่าวว่า ทหารได้ลดระดับ “ปฏิบัติการกวาดล้าง” ที่มุ่งกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาในพื้นที่ชายแดนของเมียนมาร์

    การโจมตีสถานีตำรวจเมียนมาร์ของกลุ่มติดอาวุธเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมเป็นชนวนให้เกิดการปราบปรามทางทหารที่ยูเอ็นระบุว่า อาจเทียบเท่ากับ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

    ชาวโรฮิงญาที่ข้ามชายแดนระบุว่า พวกเขาเห็นการสังหารหมู่และข่มขืนโดยฝีมือทหารและกลุ่มติดอาวุธชาวพุทธในเมียนมาร์ กองทัพปฏิเสธข้อหาดังกล่าว

    กลุ่มสิทธิ แอมเนสตีอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า พวกเขาได้ประเมินคลิปวีดิโอใหม่สามคลิปที่ถูกถ่ายภายในรัฐยะไข่เมื่อวันศุกร์ (23) เผยให้เห็น กลุ่มควันขนากใหญ่ลอยขึ้นจากหมู่บ้านชาวโรฮิงญา

    ชนกลุ่มน้อยไร้สัญชาติกลุ่มนี้อดทนมานานหลายปีกับการเลือกปฏิบัติในประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธแห่งนี้ซึ่งปฏิเสธความเป็นพลเมืองของพวกเขา

    ก่อนการลี้ภัยครั้งล่าสุดนี้ บังกลาเทศให้ที่พักพิงชาวโรฮิงญาอยู่แล้วราว 300,000 คนที่หลบหนีจากความรุนแรงก่อนหน้านี้ในรัฐยะไข่
    https://mgronline.com/around/detail/9600000097640
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2017
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Watchers

    FB_IMG_1506166636394.jpg

    #ข่าวภัยพิบัติ #Volcano #ภูเขาไฟอากุง
    // แผ่นดินสะเทือน! ภูเขาไฟบาหลีใกล้ระเบิด อิเหนาเตือนภัยสูงสุด-อพยพด่วน //
    23/09/17
    ทางการอินโดนีเซียยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟระเบิด หลังภูเขาไฟบนเกาะบาหลีส่งสัญญาณอย่างต่อเนื่องว่ามันใกล้จะระเบิดเต็มที ทำให้ประชาชนเกือบ 10,000 คนต้องอพยพจากพื้นที่เสี่ยง...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลของประเทศอินโดนีเซียประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุด หลังจากภูเขาไฟ ‘อากุง’ บนเกาะบาหลีเริ่มมีความเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยามากขึ้น ขณะที่มีประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงเกือบ 10,000 คน ทางการยังเรียกร้องไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้ภูเขาไฟลูกนี้รัศมีอย่างน้อย 9 กิโลเมตรด้วย เพื่อความปลอดภัย

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลอินโดนีเซียเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่า แม็กมากำลังยกตัวขึ้นมาสู่พื้นผิวโลก และจนถึงช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 23 กันยายน หรือหลายชั่วโมงหลังจากมีการยกระดับการเตือนภัย การสั่นสะเทือนก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรายงานการสังเกตการณ์ทางอากาศก็พบความเป็นไปได้ที่ภูเขาไฟจะระเบิดมากขึ้น แต่ไม่อาจระบุเวลาที่แม่นยำได้

    อย่างไรก็ตาม แม้จะการประกาศเตือนภัยภูเขาไฟระเบิด ท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองเดนปาซาร์ บนเกาะบาหลี ซึ่งรองรับผู้โดยสารปีละหลายล้านคน ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

    ทั้งนี้ ภูเขาไฟ อากุง ซึ่งมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 3,000 เมตร ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะบาหลี มันเคยระเบิดอย่างรุนแรงครั้งล่าสุดเมื่อปีพ.ศ. 2506 พ่นลาวาและเถ้าถ่านออกมาเป็นจำนวนมาก คร่าชีวิตผู้คนไปนับพันราย

    http://www.thairath.co.th/content/1078474
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐส่งกองเรือรบและเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าซ้อมรบในคราบสมุทรเกาหลี, เกิดแผ่นดินไหว 3.4 แม็กนิจูดที่เกาหลีเหนือ

    FB_IMG_1506169880748.jpg FB_IMG_1506169885704.jpg

    -----------

    1.) วันที่ 22 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐจัดฝึกผสมทางทะเลกับญี่ปุ่น หลังเกาหลีเหนือขู่ว่าจะทดลองระเบิดไฮโดรเจน" (US nuclear carrier conducts naval drills with Japan as N. Korea threatens H-bomb test)

    [จริงดิ? ไม่ใช่ส่งไปเพราะว่าทรัมป์โกรธที่ถูกเกาหลีเหนือด่ว่า "ก็แค่หมาเห่า" หรือเปล่า? หรือจะส่งไปไถเงินญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้รอบใหม่กันแน่? - ผู้แปล]

    รายงานข่าวแจ้งว่า สหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Ronald Reagan ระดับซุปเปอร์ไปจัดซ้อมรบร่วมกับเรือรบของญี่ปุ่นทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี กองทัพญี่ปุ่นแถลง ในขณะเดียวกันกรุงเปียงยางก็ขู่ว่า "จะทำการทดลองระเบิดไฮโดรเจน" เหนือแปซิฟิก

    [ไม่ได้ขู่ พูดจริง วันนี้บึ้มแล้วครับ ไม่ยังไม่ใช่ในมหาสมุทรแฟซิฟิก เดี๋ยวลูกเรือสหรัฐจะหัวใจวายตายซะก่อน จึงเล่นในประเทศตนเอง - ผู้แปล]

    กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล (ทร.) ของญี่ปุ่นได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์นี้ว่า เรือบรรทุกเครื่องบินซุปเปอร์แคริเออร์ Ronald Reagan พลังงานนิวเคลียร์ Nimitz-class (ของสหรัฐ) ซึ่งประจำการอยู่ที่เมือง Yokosuka จังหวัด Kanagawa ของญี่ปุ่น พร้อมกับกองเรือคุ้มกันได้จัดซ้อมรบกับเรือของกองทัพเรือญี่ปุ่นในน่านน้ำทางใต้ และทางตะวันตกของหมู่เกาะขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน กลุ่มเรือจู่โจมยังได้แยกภารกิจซ้อมรบไปร่วมกับกองทัพเรือเกาหลีใต้ในเดือนตุลาคมด้วย กระทรวงกลาโหมกล่าว

    การซ้อมรบขนาดใหญ่จะประกอบด้วยเรือรบของญี่ปุ่น 3 ลำ ซึ่งประกอบด้วยเรือพิฆาต 2 ลำ และเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดอีกหนึ่งลำ โดยจะมีไปจนถึงสิ้นเดือนนี้

    เมื่อวันศุกร์นี้ นาย Ri Yong-ho รมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวว่า กรุงเปียงยางกำลังพิจารณาการทดลองระเบิดไฮโดรเจนเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อกรุงวอชิงตันที่คว่ำบาตรเกาหลีเหนือ "มันอาจจะเป็นการจุดระเบิด H-bomb ที่ทรงอานุภาพมากที่สุดในแฟซิฟิก ก็ได้" นาย Ri Yong-ho สื่อเกาหลีใต้อ้างคำพูด

    ต่อมาผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ (ปธน. คิม จอง-อึน) ได้ออกแถลงการด้วยตัวเอง หลังจากปธน.ทรัมป์ แห่งสหรัฐกล่าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่าจะทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก หากถูกโจมตีก่อน ซึ่งคิมตอบโต้ว่าจะดำเนินการในระดับสูงที่สุด เพื่อทำให้ตาเฒ่าโรคจิตสติเลอะเลือนไม่ระวังคำพูดให้เชื่องให้ได้ คิมน้อยไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะดำเนินการแบบไหน และเมื่อไร

    2.) ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า ศูนย์เครือข่ายเฝ้าระวังแผ่นดินไหวของจีน (CENC) วัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเทียมขนาด 3.4 แม็กนิจูดในเกาหลีเหนือ เกรงว่าน่าจะเกิดจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ (China detects 3.4 N. Korea earthquake on surface, fears of new nuclear test emerge) RT รายงาน 23 ก.ย.60

    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.4 แม็กนิจูด ที่ความลึก "0 กิโลเมตร" ในพื้นที่แถว Kilju จังหวัด North Hamgyeong ใกล้ชายฝั่งทิศตะวันออกของเกาหลีเหนือ CENC ของจีนรายงาน

    แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลา 16.29 น.ตามเวลาท้องถิ่น (08:30 GMT) เมื่อวันเสาร์นี้ เมือง Kilju เป็นบ้านสำหรับการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของกรุงเปียงยาง การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่หกและแรงที่สุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน แรงสั่นสะเทือน 6.3 แม็กนิจูด (นำไปสู่การคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่จากยูเอ็น เกาหลีเหนือบอกว่าไม่สน จะเดินหน้าทดลองและพัฒนาต่อไป เพราะว่ามีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่จะป้องกันการรุกรากจากสหรัฐและญี่ปุ่นได้)

    ทางเกาหลีใต้บอกว่าแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่เกาหลีเหนือในครั้งนี้วัดได้ที่ 3.0 แม็กนิจูด Yonhap News รายงาน ส่วนหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของเกาหลี (ใต้) กล่าวว่า "แผ่นดินไหวในครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ" (ธรรมชาติของคิมน้อยนะสิ)

    เจ้าหน้าที่กล่าวกับสำนักข่าว Yonhap ว่า "ไม่สามารถตรวจพบคลื่นเสียงที่เกิดขึ้นตามปรกติจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเทียม"

    สำนักข่าว Kyodo ของญี่ปุ่นรายงานว่า คาดว่าแผ่นดินไหวในครั้งนี้น่าจะเกิดจากการระเบิด (suspected explosion) ในสถานที่ดังกล่าว องค์กร CTBTO ยืนยันว่ากำลังทำการตรวจสอบ หลังมีกิจกรรมแรงสั่นสะเทือนที่ไม่ปรกติในครั้งนี้

    Lassina Zerbo เลขาคณะกรรมการบริหารองค์กรสนธิสัญญาการเฝ้าระวังการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ การห้ามการทดลองนิวเคลียร์แบบครอบคลุม กล่าวว่า "เหตุการณ์แรงสั่นสะเทือนครั้งที่สองเกิดขึ้นห่างจากสถานที่ทดลองครั้งก่อนนี้ราว 50 กิโลเมตร และดูไม่เหมือนว่าเป็นการกระทำของมนุษย์" ยังไม่มีการสรุปว่าแผ่นดินไหวในครั้งนี้เกิดจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือหรือไม่

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    23/09/2560
    ---------
    https://www.rt.com/news/404237-us-japan-drills-korea-threat/
    https://www.rt.com/news/404292-north-korea-earthquake-detected/
    http://www.cea.gov.cn/publish/dizhenj/464/479/20170923170223029514566/index.html

    http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2017/09/23/0401000000AEN20170923004051315.html
    http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2017/09/23/0401000000AEN20170923004052315.html
    https://sputniknews.com/asia/201709231057633223-north-korea-earthquake-explosion/
    https://sputniknews.com/military/201709221057627020-us-supercarrier-drills-korean-peninsula/
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1506173939407.jpg

    ถ้าในวันที่ 23 กันยายน ซึ่งพระจันทร์จะปรากฏใต้กลุ่มดาวหญิงสาว (Virgo) มีแค่นี้คงไม่มีอะไร แต่ปรากฏมีดาวพฤหัสบดีไปตรงตำแหน่งท้องของกลุ่มดาวหญิงสาว เลยทำให้เหมือนตั้งท้อง และดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งเหมือนเป็นอาภรณ์ ดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า และดาวสิบสองดวงเป็นมงกุฎบนศีรษะ ทำให้หมายบนท้องฟ้าไปตรงกับ วิวรณ์ 12 ผู้หญิงและพญานาค หมายเหตุ: พญานาคหรือมังกรแดงในที่นี้หมายถึงสัตว์ร้ายในพระคัมภีร์ ดังนี้ 1มีหมายสำคัญอันอัศจรรย์และยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นในสวรรค์คือ หญิงคนหนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ ดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า และดาวสิบสองดวงเป็นมงกุฎบนศีรษะ และ 2 หญิงนั้นตั้งครรภ์และร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะจวนจะคลอดแล้ว ซึ่งสัญลักษณ์นึ้เป็นเรื่องดี เพราะในท้องคือดาวพฤหัสบดี ซึ่งแทนธรรม แสดงว่าในทัองเธอคือพระผู้มาโปรด ซึ่งอาจจะถือกำเนิด หรืออาจจะเริ่มกลับมา เคยได้ยินมาว่า พระโพธิสัตว์ ธรรมิกราช ได้ถือกำเนิดมาในรูปของมนุษย์ธรรมดา แต่คนผู้นั้นไม่รู้ตัวว่าเขาเป็นใคร ที่ต้องปกปิดตัวเพราะอันตรายจากมนุษย์ที่ใจสกปรกจะมาทำอันตราย ขอวจริงไม่นับถือ แต่ไปนับถือพวกแอบอ้าง แต่ก็ต้องระวังภัยครั้งใหญ่ เพราอะไร "วิวรณ์ 12 ขัอ 3 จากนั้นมีหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในสวรรค์คือ พญานาคใหญ่สีแดงตัวหนึ่ง มีเจ็ดหัวและสิบเขา ทั้งเจ็ดหัวสวมมงกุฎ และข้อ
    4 หางของมันตวัดหนึ่งในสามของดวงดาวในท้องฟ้าทิ้งลงมาบนโลก พญานาคนั้นยืนอยู่หน้าหญิงที่กำลังจะคลอดเพื่อมันจะได้กินทารกในทันทีที่เกิดมา " ซึ่งถ้าพญานาคปรากฏก็ต้องสร้าวหายนะเป็นของธรรมดาน่ะครับ และต่อมา จะมีผู้มาปราบอธรรม (พญานาค) ก็คือบุตรที่คลอดออกมาจากหญิงที่มีครรภ์ "วิวรณ์ 12 ขัอ 5 หญิงนั้นคลอดบุตรชายผู้ซึ่งจะปกครองมวลประชาชาติด้วยคทาเหล็ก บุตรนั้นถูกฉวยออกมาและนำขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้า ไปยังพระที่นั่งของพระองค์ และข้อ6 ส่วนหญิงนั้นหนีไปยังถิ่นกันดารสู่ที่พำนักซึ่งพระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับนาง ที่นั่นนางจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นเวลา 1,260 วัน และข้อ 7 และเกิดสงครามขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลกับทูตสวรรค์ของเขาสู้รบกับพญานาคและสมุนของมัน และข้อ 8 ฝ่ายของพญานาคพ่ายแพ้ ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ "

    นายมี้ดบอกกับ ‘ซัน ออนไลน์’ ว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเดือนกันยายน หากเป็นเดือนตุลาคมต่างหาก มี้ดเชื่อว่าจะมีลางบอกเหตุปรากฏบนท้องฟ้าในวันที่ 23 กันยายน ซึ่งพระจันทร์จะปรากฏใต้กลุ่มดาวหญิงสาว (Virgo) และหลายวันต่อมาในวันที่ 5 ตุลาคม แพลนเนท เอ็กซ์ จะบดบังดวงอาทิตย์กลายเป็นสุริยคราสเต็มดวง ซึ่งจะเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของหายนะนาน 7 ปี ในวันที่ 21 ตุลาคม

    ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/1078570

    วิวรณ์ 12 ผู้หญิงและพญานาค
    หมายเหตุ: พญานาคหรือมังกรแดงในที่นี้หมายถึงสัตว์ร้ายในพระคัมภีร์

    12 มีหมายสำคัญอันอัศจรรย์และยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นในสวรรค์คือ หญิงคนหนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ ดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า และดาวสิบสองดวงเป็นมงกุฎบนศีรษะ
    2 หญิงนั้นตั้งครรภ์และร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะจวนจะคลอดแล้ว
    3 จากนั้นมีหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในสวรรค์คือ พญานาคใหญ่สีแดงตัวหนึ่ง มีเจ็ดหัวและสิบเขา ทั้งเจ็ดหัวสวมมงกุฎ
    4 หางของมันตวัดหนึ่งในสามของดวงดาวในท้องฟ้าทิ้งลงมาบนโลก พญานาคนั้นยืนอยู่หน้าหญิงที่กำลังจะคลอดเพื่อมันจะได้กินทารกในทันทีที่เกิดมา
    5 หญิงนั้นคลอดบุตรชายผู้ซึ่งจะปกครองมวลประชาชาติด้วยคทาเหล็ก บุตรนั้นถูกฉวยออกมาและนำขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้า ไปยังพระที่นั่งของพระองค์
    6 ส่วนหญิงนั้นหนีไปยังถิ่นกันดารสู่ที่พำนักซึ่งพระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับนาง ที่นั่นนางจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นเวลา 1,260 วัน
    7 และเกิดสงครามขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลกับทูตสวรรค์ของเขาสู้รบกับพญานาคและสมุนของมัน

    8 ฝ่ายของพญานาคพ่ายแพ้ ถูกขับไล่ออกจากสวรรค์
    9 พญานาคใหญ่ถูกเหวี่ยงลงมา พญานาคนี้คืองูดึกดำบรรพ์ที่เรียกกันว่า มาร หรือ ซาตาน ผู้ล่อลวงคนทั้งโลกให้หลงผิด มันถูกเหวี่ยงลงมาบนโลกพร้อมกับทูตสวรรค์ของมัน

    10 แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังในสวรรค์กล่าวว่า " บัดนี้ความรอด เดชานุภาพ และราชอาณาจักรของพระเจ้าของเรา และสิทธิอำนาจแห่งพระคริสต์ของพระองค์มาถึงแล้ว เพราะผู้กล่าวโทษบรรดาพี่น้องของเราซึ่งกล่าวโทษเขาต่อหน้าพระเจ้าของเราทั้งวันทั้งคืนได้ถูกเหวี่ยงลงไปแล้ว
    11 พวกเขาชนะพญามารโดยพระโลหิตของพระเมษโปดก
    และโดยคำพยานของตนพวกเขาไม่กลัวตายไม่เสียดายชีวิต
    12 เพราะฉะนั้นสวรรค์และชาวสวรรค์เอ๋ยจงชื่นชมยินดีเถิด!
    แต่วิบัติแก่แผ่นดินและทะเลเพราะมารได้ลงไปหาเจ้า! ด้วยความโกรธยิ่งนัก เนื่องจากรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย

    13 เมื่อพญานาคเห็นว่าตนถูกทิ้งลงบนโลกก็ไล่ล่าหญิงซึ่งคลอดบุตรชายนั้น
    14 หญิงนั้นได้รับปีกพญาอินทรีสองปีกเพื่อจะได้บินไปยังที่ซึ่งจัดเตรียมไว้ให้นางในถิ่นกันดาร ที่นั่นนางจะได้รับการปกป้องเลี้ยงดูให้พ้นจากพญานาคตลอดหนึ่งวาระ สองวาระและครึ่งวาระ
    15 พญานาคนั้นก็พ่นน้ำออกมามากมายเหมือนแม่น้ำเพื่อซัดนางให้ลอยไปตามกระแสน้ำ
    16 แต่แผ่นดินช่วยนางไว้ มันแยกออกสูบเอาแม่น้ำซึ่งพญานาคพ่นออกจากปากลงไป
    17 แล้วพญานาคก็โกรธแค้นหญิงนั้นและไปทำสงครามกับลูกหลานของนางที่เหลือคือ คนเหล่านั้นที่เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าและยึดมั่นในคำพยานเรื่องพระเยซู
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ยั่วยุเข้าปะ! สหรัฐคุยโวว่าเพิ่งจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ B-1B บินโฉบนอกชายฝั่งของเกาหลีเหนือ (แต่ไม่กล้าเสียบเข้าไปในน่านฟ้าของคิมน้อย)

    FB_IMG_1506227133289.jpg FB_IMG_1506227147670.jpg FB_IMG_1506227138582.jpg FB_IMG_1506227141049.jpg

    -----------

    วันที่ 24 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B ที่สามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ได้ เพิ่งจะบินโฉบนอกชายฝั่งเกาหลีเหนือ (มีภาพประกอบ)" (US flew nuclear-capable B-1B bombers just off coast of North Korea (PHOTOS))

    รายงานข่าวแจ้งว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ B-1B Lancer ที่สามารถบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ ด้วยการคุ้มกันจกาเครื่องบินรบ F-15 ได้บินอยู่นอกชายฝั่งเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเดินทางแบบเสี่ยงภัยในพื้นที่ทางเหนือที่ไกลที่สุดของเขตปลอดทหาร ซึ่งแยกสองเกาหลีออกจากกัน ในศตวรรษที่ 21 โฆษกเพนตากอนกล่าว

    เว็บไซต์กองบัญชาการแฟซิฟิกของสหรัฐ (U.S. Pacific Command) พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินรบ บินในน่านฟ้าสากลทางตะวันออกของเกาหลีเหนือ" (U.S. Bombers, Fighters Fly in International Airspace East of North Korea)

    เช้าวันนี้ เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer จากกองทัพอากาศสหรัฐจากเกาะกวม พร้อมกับเครื่องรบ F-15C Eagle ของกองทัพอากาศสหรัฐ ซึ่งบินคุ้มกันจากโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ได้บินเหนือน่านฟ้าสากลทางตะวันออกของเกาหลีเหนือ

    นี่เป็น (พื้นที่) ทางเหนือที่ไกลที่สุดของเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone - DMZ) ซึ่งเครื่องบินรบหรืออากาศยานทิ้งระเบิดลำใดๆของสหรัฐ (สามารถ) บินอยู่นอกชายฝั่งของเกาหลีเหนือได้ในศตวรรษที่ 21 เน้นย้ำถึงความจริงจังที่พวกเราจะใช้กับพฤติกรรมที่บ้าบิ่นของ DPRK

    [เขาอยู่ในบ้านเขาดี มันก็ไปยิงปืนขู่เขาที่หน้าบ้านเขา หรือไปยืนเห่าหอนอยู่หน้าบ้านเขา ถ้าให้เขาออกมาชกต่อยกับตัวเองเหยงๆ จากนั้นก็บอกกับทั่วโลกว่า "เกาหลีเหนือบ้าบิ่น" นี่แหละคือมาตรการกวนตีนแบบอเมริกันของแท้เลยหละ - ผู้แปล]

    ภารกิจนี้ (ภารกิจกวนตีนคิมน้อย) เป็นการแสดงให้เห็นถึงการแก้ไขปัญหาแบบสหรัฐ และเป็นการส่งข้อความที่ชัดเจนว่า ประธานาธิบดีได้มีตัวเลือกทางทหารมากมายที่จะเอาชนะภัยคุกคาม โครงการอาวุธของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก และต่อประชาคมนานาชาติทั้งหมด เราได้เตรียมการที่จะใช้ศักยภาพทางทหารอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันมาตุภูมิของสหรัฐและพันธมิตรของพวกเรา

    [ไร้สาระ! แล้วอาวุธนิวเคลียร์ที่สหรัฐขนไปบินเครื่องบินทิ้งระเบิดบินวนอยู่หน้าบ้านเกาหลีเหนือนั่นไม่เป็นภัยคุกตามต่อภูมิภาคและทั่วโลกหรือไง?

    แค่ถูกด่าว่า "หมาเห่า" ถึงกับต้องส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ B-1B ไปขู่คิมน้อยถึงหน้าบ้านเกาหลีเหนือเลยรึ ที่แปลกก็คือ ไม่กล้าเข้าไปในชายคาเขา รีบออกตัวว่า อยู่ในน่านฟ้าสากล คิมน้อยก็ยิงขีปนาวุธในน่านฟ้าสากลเช่นกัน แม้ว่าจะลอยเหนือเกาะฮ็อกไกโดของญี่ปุ่นก็ตาม

    เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา สหรัฐก็ส่งฝูงบิน B-1B, F-35B, และ F-15K ของเกาหลีใต้ไปซ้อมรบด้วยการทิ้งระเบิดและปล่อยขีปนาวุธในเกาหลีใต้ขู่เกาหลีเหนือมาแล้วรอบหนึ่ง วันนี้ส่งไปอีกรอบ สงสัยเกาหลีใต้ยังไม่จ่ายค่าคุ้มครองให้มั๊ง? - ผู้แปล]

    ป.ล. อ้อ… เอกอัครราชทูตของเกาหลีเหนือกำลังกล่่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมใหญ่สหประชาชาติพอดี มิน่าหละสหรัฐถึงออกอาการอันธพาลแบบนี้

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    24/09/2560
    ---------
    https://www.rt.com/usa/404322-us-flew-nuclear-capable-bombers-north-korea/
    http://www.pacom.mil/Media/News/New...n-international-airspace-east-of-north-korea/
    https://www.militarytimes.com/flash...rplanes-alongside-japan-south-korea-aircraft/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    คิมน้อยสอนมวยทรัมป์: แถลงการณ์ฉบับเต็มของปธน.คิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ตอบโต้ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐในการกล่าวถ้อยแถลงที่สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (22 ก.ย.60 )

    FB_IMG_1506228293567.jpg FB_IMG_1506228296351.jpg

    -----------
    ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐที่ได้แถลงไปหมาดๆในเวทียูเอ็นในสถานการณ์ที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก ในขณะที่สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีกำลังตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และก็ขยับเข้าใกล้สภาวะคาบลูกคาบดอก (touch-and-go) กำลังก่อให้เกิดความกังวลขึ้นทั่วโลก
    สรุปคร่าวๆจากสิ่งที่เขาจะพูดออกมา ข้าพเจ้าคาดว่าเขาอาจจะสร้างภาพลักษณ์ เตรียมคำพูดที่แตกต่างเพียงเล็กน้อยจากสิ่งที่เขาเคยเปล่งออกมาในออฟฟิตของเขาอย่างกระทันหัน (on the spur of the moment) เนื่องจากเขาจะต้องพูดในเวทีทางการทูตอย่างเป็นทางการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
    แต่มันช่างห่างไกลจากแสดงความคิดเห็นเพื่อให้มีพลังโน้มน้าวที่จะสามารถมองได้ว่าเป็นประโยชน์ในการขจัดความตึงเครียดลง เขาได้แสดงออกถึงสิ่งที่หยาบคายและไร้สาระอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึี่งไม่เคยได้ยินจาก (ประธานาธิบดีสหรัฐ) คนก่อนหน้าเขาแม้แต่คนเดียวเลย (คิมพยายามจะบอกว่า ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมายังไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐคนไหนกล่าวสุนทรพจน์ได้หยาบคายและไร้สาระเท่ากับนายทรัมป์เลย)
    สุนัขที่ตกใจกลัวย่อมจะเห่าเสียงดัง (A frightened dog barks louder.)
    ข้าพเจ้าใคร่จะขอแนะนำคุณทรัมป์ให้บริหารความระมัดระวังในการเลือกใช้คำพูดและให้ความสำคัญกับผู้ที่เขาพูดด้วย ในขณะที่กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าคนทั่วโลก
    พฤติกรรมวิกลจริตของประธานาธิบดีสหรัฐได้ถูกแสดงออกมาอย่างเปิดเผยบนเวทียูเอ็น ซึ่งมีเจตตาที่ไร้จรรยาบรรณเพื่อที่จะทำลายรัฐที่มีอธิปไตยรัฐหนึ่งให้สิ้นซาก อยู่เหนือขอบเขตของการคุกคามต่อการเปลี่ยนแปลงระบอบหรือคว่ำระบบสังคมนิยม ได้ทำให้คนที่มีสามัญสำนึกทั่วไป ต้องครุ่นคิดด้วยความระมัดระวังและด้วยการตั้งสติให้ดี
    การแสดงความคิดเห็นของเขาได้ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงคำพูดเช่น "มัคนายกทางการเมือง (political layman)" และคำว่า "เดียรถีย์ทางการเมือง" (political heretic) ขึ้นมา ซึ่งอยู่ในสมัยนิยม (/เหมาะสำหรับ) การอ้างอิงไปยังคุณทรัมป์ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี
    หลังจากเข้ารับตำแหน่ง คุณทรัมป์ก็ทำให้โลกนี้กระสับกระส่ายผ่านการคุกคามและแบล็กเมล์ทุกประเทศทั่วโลก เขาไม่เหมาะสมที่จะถือครองเอกสิทธิ์ของการเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของประเทศ และเขาก็เป็นจอมอันธพาลและเป็นพวกนักเลงหัวไม้ที่ชอบเล่นกับไฟ แทนที่จะเป็นนักการเมือง
    การแสดงความคิดเห็นของเขาซึ่งได้อธิบายตัวเลือกของสหรัฐผ่านการแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาของเจตนาของเขา แทนที่จะขู่ขวัญหรือหยุดข้าพเจ้า ได้ทำให้ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าหนทางที่ข้าพเจ้าเลือกนั้นถูกต้องแล้ว และว่ามันเป็นหนทางที่ข้าพเจ้าจะต้องเดินตามไปให้ถึงที่สุด
    ขณะนี้ทรัมป์ได้ปฏิเสธความมีอยู่ของข้าพเจ้าและประเทศของข้าพเจ้า และได้คุกคามข้าพเจ้าและประเทศของข้าพเจ้าเบื้องหน้าสายตาทั่วโลกและได้ประกาศสงครามที่ป่าเถื่อนที่สุดในประวัติศาสตร์ว่าเขาจะทำลาย DPRK (เกาหลีเหนือ) เราจะพิจารณาด้วยความจริงจังในการตอบโต้ มาตรการตอบโต้แบบไม้แข็งในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์
    การกระทำที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการปฏิบัติต่อ "คนแก่สติเลอะเลือน" (dotard) ซึ่งหูตึง (hard of hearing) ก็คือเปล่งออกไปเฉพาะสิ่งี่เขาต้องการจะพูดเท่านั้น
    ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนของ DPRK และในนามของศักดิ์ศรีและเกียรติยศของประเทศและประชาชนของข้าพเจ้า และของตัวข้าพเจ้าเองด้วย ข้าพเจ้าจะทำให้ผู้ชายคนที่กุมเอกสิทธิ์ของผู้บัญชาการสูงสุดในสหรัฐจะต้องชดใช้ด้วยราคาที่แสนแพงต่อสุนทรพจน์ของเขาสำหรับการทำลายล้าง DPRK ให้สิ้นซาก
    นี่ไม่ใช่การแสดงออกทางวาทศิลปืที่ทรัมป์ชื่นชอบ
    ขณะนี้ข้าพเจ้ากลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะตอบโต้ซึ่งเขาได้คาดหวังไว้ ในตอนที่เขาใช้คำพูดของพวกนอกรีต (เดียรถีย์) เช่นนั้นที่ออกมาจากลิ้นของเขา
    อะไรก็ตามที่คุณทรัมป์อาจจะคาดหวังเอาไว้ เขาจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหวังของเขา ข้าพเจ้ามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้ตาเฒ่าโรคจิตสติเลอะเลือนของสหรัฐผู้นี้เชื่องด้วยไฟให้ได้
    - จบ -
    ป.ล. เป็นแถลงการณ์ที่ไม่ธรรมดา นี่แหละ "หัวดำสอน (/ถอน) หัวหงอก" ของจริง รอบนี้ทรัมป์ถูกคิมน้อยน็อคกลางเวทียูเอ็น แม้ว่าคิมจะไม่ได้อยู่ที่ยูเอ็นก็ตาม ทรัมป์ถูกทั่วโลกรุมสับและประณามอย่างหนักจากการเมาน้ำลายของเขา ที่กระโดดลงไปฟาดปากกับเด็กวัยรุ่นหัวแข็งอย่างคิม ต่อมานางนิกกี้ เฮลี่ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติก็ออกมาช่วยพูดแก้ต่างให้กับทรัมป์และประเทศของตนเองว่า ทรัมป์ไม่ได้ต้องการจะก่อสงครามเพื่อทำลายประเทศเกาหลีเหนือหรือล้มรัฐบาลเกาหลีเหนือ และตามด้วยการโยนความผิดทั้งหมดให้เกาหลีเหนือตามระเบียบ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    24/09/2560
    ---------
    http://uriminzokkiri.com/index.php?ptype=english2&no=5832
    https://kcnawatch.co/newstream/1506...chairman-of-state-affairs-commission-of-dprk/
    https://kcnawatch.co/newstream/1506060030-23063273/kim-jong-un-releases-a-statement/
     

แชร์หน้านี้

Loading...