ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สำนักข่าวสิ่งแวดล้อม GreenNews
    เบื้องลึกเบื้องหลัง การแยกตัวของคาตาลัน
    วิกฤตการเมืองครั้งรุนแรงสุดของสเปน

    เปิดดูไฟล์ 4358797

    --------------------------------------
    ...กรกิจ ดิษฐาน
    ทวีปยุโรปในยุคศักดินา แออัดไปด้วยแว่นแคว้นเล็กๆ น้อยๆ มากมาย แต่ละแคว้นมีภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่เชื่อมโยงไว้ด้วยศาสนาและการสมรสระหว่างผู้นำแคว้นต่างๆ หรืออยู่ภายใต้อาณัติของอาณาจักรใหญ่ ซึ่งไม่ได้รวบอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือแว่นแคว้นเล็กๆ เหล่านี้
    ยกตัวอย่างเช่น แว่นแคว้นของชาวคาตาลัน ซึ่งพูดภาษาคาตาลัน อันเป็นสกุลหนึ่งของกลุ่มภาษาโรมานซ์ คนกลุ่มนี้มีถิ่นฐานอยู่แถบชายฝั่งตะวันออกของประเทศสเปนจรดภาคใต้ของฝรั่งเศส ชาวคาตาลันมีนครรัฐของตนเองอยู่ที่มุมของเทือกเขาพิเรนีสบริเวณนครบาร์เซโลนาในปัจจุบัน นครรัฐนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรอารากอง แต่มีอำนาจปกครองตนเอง มีสถาบันทางการเมืองของตนเองในระดับหนึ่ง
    เมื่ออารากองรวมเป็นทองแผ่นดินเดียวกันกับอาณาจักรกัสตีญาผ่านการสมรสของเจ้านายและเจ้านางของทั้ง 2 แคว้น ในศตวรรษที่ 15 คาตาลันก็ยังมีเอกราชในระดับหนึ่งภายใต้อารากองและกัสตีญา และต่อมาญาติของพวกอารากอง คือราชวงศ์ฮับบวร์กเข้ามาปกครองร่วมด้วยอีกทอดหนึ่ง แม้จะเหมือนถูกปกครองครอบถึง 2 ชั้น
    แต่ชาวคาตาลันไม่รู้สึกว่าตัวเองต้องเรียกร้องความเป็นเอกเทศ เพราะอาณาจักรอารากอง-ฮับบวร์กและกัสตีญา อนุญาตให้พวกเขาปกครองตัวเองได้
    อีกทั้งยุโรปในยุคนั้นแม้แว่นแคว้นอื่นๆ จะเริ่มก่อตัวเป็นอาณาจักรใหญ่ แต่ยังคงอนุญาตให้แคว้นต่างๆ รักษาอัตลักษณ์และการปกครองตนเองไว้ เหมือนคาตาลัน แคว้นเล็กๆ จึงไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรนัก
    แต่การก่อตัวของรัฐมีวิวัฒนาการไม่หยุดหย่อน กว่าที่คาตาลันและรัฐเล็กๆ น้อยจะรู้ตัว ก็เหมือนกับกบที่ถูกต้มในน้ำเดือด เมื่ออาณาจักรต่างๆ รวมตัวกันเป็นอาณาจักร หรืออาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งผนวกแว่นแคว้นเล็กๆ เพราะความกระหายอำนาจ สิ่งที่ติดตามมาคือการกระทบกระทั่งกัน
    ประกอบกับยุโรปเผชิญกับความแตกแยกทางศาสนา ระหว่างฝ่ายอนุรักษ์ (คาทอลิก) กับฝ่ายปฏิรูป (โปรแตสแตนต์) ทำให้อาณาจักรใหญ่หันมาลดอำนาจปกครองตนเองของแคว้นใต้อาณัติลง เพื่อรวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง หาไม่แล้วจะถูกสงครามทางศาสนาและการแย่งชิงอำนาจ บั่นทอนอาณาเขตตัวเองไป
    แต่การรวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางย่อมทำให้แคว้นเล็กๆ ที่อยู่กันเองได้เริ่มอึดอัด และก่อขบถขึ้นในช่วงที่ยุโรปวุ่นวายกับสงครามศาสนา (Thirty Years War) และสงครามชิงความเป็นใหญ่ระหว่างพวกฝรั่งเศสกับพวกวงศ์ฮับบวร์ก (Franco-Spanish War) ที่เข้ามาปกครองสเปน แต่เมื่อสงครามสงบ พวกคาตาลันถูกกำราบลง นี่นับเป็นครั้งแรกที่พวกคาตาลันลุกฮือ แต่ยังดีที่รักษาอำนาจปกครองตนเองไว้ได้
    หายนะของการปกครองตนเองมาถึง เมื่อเกิดศึกชิงราชบัลลังก์สเปน (War of Spanish Succession) เมื่อพระเจ้าชาลร์สที่ 2 แห่งฮับบวร์กสิ้นพระชนม์ลงโดยไร้โอรส ปกติแล้วบัลลังก์จะต้องตกเป็นของพวกฮับสบวร์กตามธรรมเนียม แต่เหตุเพราะพระเจ้าชาลร์สที่ 2 ดันทรงยกราชบัลลังก์ให้พระญาติที่เป็นราชวงศ์บูร์บง ในฝรั่งเศส ศึกแย่งบัลลังก์จึงเกิดขึ้น
    มาถึงตอนนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เจ้านายในยุโรปในยุคนั้นมักสมรสข้ามราชวงศ์ ข้ามอาณาจักร และข้ามแคว้น ข้อดีคือทำให้แคว้นเล็กแคว้นใหญ่ปรองดองกัน และเกรงใจกัน ข้อเสียคือมักเป็นเหตุให้ชิงบัลลังก์กันได้ถ้าตกลงไม่ราบรื่น เดิมนั้นอารากอง-กัสตีญารวมกันได้เพราะการสมรส แต่ต่อมาพวกอารากองไปเกี่ยวดองกับฮับส์บูร์กที่มีบารมีเหนือใครในยุโรป
    เมื่อเจ้าผู้ปกครองอารากอง-กัสตีญาไร้ทายาท ทำให้แผ่นดินอารากอง-กัสตีญาถูกปกครองโดยพระญาติแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์กไปโดยปริยาย เริ่มต้นในรัชกาลพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มของ "ประเทศสเปน" อย่างไม่เป็นทางการ
    หากจะไล่เรียงให้เป็นภาพคือ คาตาลันเป็นแคว้นย่อยในอาณัติแต่ปกครองตนเอง คาตาลันอยู่ภายใต้อาณัติของอารากอง อารากองผู้ไมตรีกับกัสตีญาเป็นแผ่นดินเดียวกันแต่ก็แยกกันปกครอง ต่อมาอารากองเกี่ยวดองกับฮับส์บูร์ก ด้วยความที่ฮับส์บูร์กมีอิทธิพลครอบทั้งยุโรป ไม่เพียงทำให้อารากอง-กัสตีญา เป็นปึกแผ่น แต่ยังครองยุโรปเกินครึ่งหนึ่งด้วย ในเวลานั้นคำว่าสเปนยังไม่มีในแผนที่โลก แต่ดินแดนที่เป็นสเปนในปัจจุบันรุ่งเรืองที่สุดในช่วงเวลานั้น
    แน่นอนว่าเพราะความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจากการล่าอาณานิคม อำนาจทางการทหาร และอิทธิพลทางการเมืองของฮับสบวร์ก ทำให้แว่นแคว้นใต้อาณัติ เช่น คาตาลันไม่อยากจะแยกตัวเป็นอิสระ (ถึงคิดจะทำแต่ก็ยากจะทำ)
    ยุคทองของฮับสบวร์กในสเปนมาถึงกาลสิ้นสุดลงเมื่อพระเจ้าชาลร์สที่ 2 สิ้นพระชนม์แล้วดันไปยกบัลลังก์ให้พระญาติราชวงศ์บูร์บงในฝรั่งเศสแทนที่จะให้ฮับส์บูร์กด้วยกัน นี่เป็นเหตุให้เกิดศึกชิงราชบัลลังก์สเปน ระหว่างปี 1702–1714 ซึ่งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฮับสบูวร์ก และเหตุเพราะอารากองไปเข้ากับพวกฮับสบวร์กทำให้ราชวงศ์บูร์กบองที่ปกครองแผ่นดินสเปน ต้องลดอำนาจพวกอารากองเสีย
    รวมถึงริบอำนาจปกครองตนเองของแคว้นใต้อาณัติ เช่น คาตาลัน เพื่อรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางป้องกันการลุกฮือหรือการแทรกซึมของอาณาจักรใหญ่อื่นๆ ได้อีก
    นี่เป็นที่มาของการก่อตัวของรัฐชาติ และประเทศสเปนยุคใหม่ และเป็นจุดจบของการปกครองตนเองของชาวคาตาลัน ...อย่างน้อยก็จนกว่าจะถึงศตวรรษที่ 20
    ช่วงยุคทองของฮับสบวร์กนั้น สเปนมั่งคั่งถึงขีดสุด จากการล่าอาณานิคมในลาตินอเมริกาทำให้พบเหมืองเงินและเหมืองทองมากมาย เงินและทองจึงหลั่งไหลเข้าสู่สเปน และในฐานะที่สเปนเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ฮับสบวร์กอันยิ่งใหญ่ จึงมีการจ่ายเงินจ่ายทองจ้างทหารรับจ้างไปทั่วยุโรป เพื่อทำสงครามชิงแว่นแคว้นและเพื่อสร้างเวียงวังให้ยิ่งใหญ่
    ปัญหาก็คือทองและเงินที่ไหลเข้ายุโรปมีปริมาณมหาศาล แม้จะทำให้สเปนมั่งคั่งแต่ก็เป็นไปในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะเมื่อเงินและทองไหลเข้าระบบเศรษฐกิจมากเกินไป จะทำให้เกิดเงินเฟ้อ สิ่งที่ตามมาคือชนชั้นสูงและชนชั้นนักรบมีเงินทองมากมาย มีกำลังซื้อมหาศาล แต่ชั้นล่างต้องซื้อสินค้าในราคาแพง
    นานวันเข้าสินค้าจำเป็นถูกเงินเฟ้อเล่นงานจนทำให้ชนชั้นรากหญ้าหมดศักยภาพในการผลิต เศรษฐกิจจึงพังพินาจ นี่คือจุดเริ่มต้นของความยากจนในสเปน ทั้งที่มีทองมหาศาล แต่เพราะการบริหารที่ย่ำแย่ทำให้สเปนมีสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอที่สุดในยุโรปจนถึงทุกวันนี้
    เมื่อถึงศตวรรษที่ 20 พื้นที่ส่วนใหญ่ของสเปนยากจนข้นแค้น เศรษฐกิจต้องพึ่งพาการเกษตร แต่ที่ดินถูกชนชั้นปกครองบูร์บงและศาสนจักรคาทอลิกผูกขาด ทำให้เกษตรกรไม่สามารถพัฒนาศักนภาพตัวเองได้ ตรงข้ามกับส่วนอื่นๆ ในยุโรปที่มีการแบ่งสรรที่ดินหรือเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนสามารถรองรับแรงงานจากภาคเกษตรได้
    ความล้าหลังนี้ทำให้สเปนทั้งประเทศยากจน ยกเว้นแคว้นบาสก์ที่รุ่มรวยด้วยอุตสาหกรรมประมงและต่อเรือ รวมถึงแคว้นคาตาลันที่กลายเป็นแคว้นเดียวที่มีปัจจัยเอื้อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม ดังนั้นคาตาลันที่เคยถูกเหยียบจากส่วนกลางไม่ให้ลุกฮือ จึงกลายเป็นความหวังของคนทั้งประเทศ แต่ขณะเดียวกันนั้น เพราะความที่ร่ำรวยขึ้นมา ทำให้ชาวคาตาลันเริ่มเกิดสำนึกของ "ความเป็นชาติ" ขึ้นมาบ้าง
    เริ่มจากขบวนการฟื้นฟูวัฒนธรรมคาตาลัน (Renaixença) ทำให้ชาวคาตาลันเกิดความภาคภูมิใจในตัวตน และแหวกตัวเองจากอุดมการณ์รัฐชาติสเปน จนกระทั่งเกิดขบวนการทางการเมือง เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องแยกตัวจากสเปนในที่สุด จนกระทั่งได้อำนาจปกครองตนเอง หากเพียงเท่านี้ยังไม่สาแก่ใจชาวคาตาลัน
    แม้สถานการณ์จะดูเหมือนสุกงอม แต่มีเหตุปัจจัยทำให้ขบวนการชาตินิยมคาตาลันต้องสะดุด
    ประการแรก นักอุตสาหกรรมที่ทำให้คาตาลันร่ำรวยขึ้นมา อิดออดที่จะสนับสนุนขบวนการแบ่งแยกดินแดน เพราะหากแยกไปเท่ากับว่าต้องสูญเสียตลาดสเปนทั้งประเทศ เพราะต้องไม่ลืมว่าแม้คาตาลันจะเป็นอู่อุตสาหกรรม แต่ตลาดไม่ได้ใหญ่พอที่จะกระจายสินค้าได้
    ประการที่สอง เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสเปนขึ้น เมื่อขบวนการฝ่ายซ้ายเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างชนชั้นสูงที่ผูกขาดที่ดินและขูดรีดชนชั้นล่างที่ยากจน ประกอบกับที่ทั่วโลกเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ความเคลื่อนไหวนี้นำไปสู่การล้มล้างระบอบกษัตริย์กวาดล้างศาสนจักร และก่อตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐขึ้นในทศวรรษที่ 30 ฝ่ายซ้ายและฝ่ายอนาธิปไตยเคลื่อนไหวอย่างแข็งขัน และยอมอ่อนข้อให้กับขบวนการเอกราชคาตาลัน
    แต่เพราะความวุ่นวายทางการเมือง ความหวาดกลัวภัยสีแดง ทำให้ฝ่ายขวาโต้กลับอย่างรวดเร็ว นำโดยนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก เป็นชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองสเปน ซึ่งสิ้นสุดด้วยชัยชนะของฝ่ายขวาในปี 1939 ไม่เพียงฝ่ายซ้ายเท่านั้นที่ถูกกวาดล้างอย่างโหดเหี้ยม ขบวนการแบ่งแยกดินแดนยังถูกกำราบด้วยท๊อปบู๊ต พวกบาสก์ถึงกับต้องจับอาวุธขึ้นสู้ยาวนานกว่า 80 ปี ขณะที่คาตาลันเลือกที่จะอยู่เงียบๆ แล้วเลียบาดแผลความบอบช้ำ ฐานที่เป็นที่มั่นของทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายแยกดินแดน
    หลังจากที่นายพลฟรังโกถึงแก่กรรมในปี 1975 ได้มีการรื้อฟื้นระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญขึ้นมา (กษัตริย์วงศ์นี้ยังคงเป็นบูร์บง) และมีการกำหนดรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ในปี 1978 ซึ่งยังคงรักษาความเป็นรัฐเดี่ยวไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยการระบุว่า "แผ่นดินสเปนเป็นหนึ่งเดียวไม่อาจแบ่งแยกได้" แต่ได้ให้อำนาจแคว้นต่างๆ ปกครองตนเองในระดับหนึ่ง
    และก็เช่นเดียวกับที่ผ่านมา เมื่อคาตาลันได้อำนาจปกครองตันเองแล้ว พวกเขายังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ และนับแต่นั้นขบวนการเรียกร้องเอกราชที่ถูกบดขยี้มาลายทศวรรษก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ทีละน้อยๆ จนกระทั่งสุกงอมในปี 2008 เมื่อโลกเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน สเปนกลายเป็นเหยื่อของภาวะขาลงรุนแรง รวมถึงปัญหาบัญชีขาดดุลในยุโรปที่เรื้อรัง เศรษฐกิจแทบจะพังทั้งประเทศ ส่วนคาตาลันยังอยู่ดี เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาจะไม่ยอมให้สเปนทั้งประเทศมาฉุดรั้งเศรษฐกิจของพวกเขาอีก
    นับแต่เริ่มช่วงทศวรรษที่ 2010 พรรคการเมืองสายเอกราชได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าเรียกร้องเอกราชไม่หยุดหย่อน ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญก็เช่น การจัดการลงประชามติในเชิงสัญลักษณ์บ่อยครั้ง บางครั้งเกิดขึ้นปีต่อปี ราวกับว่าฝ่ายการเมืองต้องการนวดให้ชาวคาตาลันรู้สึกอยากได้เอกราชมากขึ้นเรื่อยๆ
    จนกระทั่งปี 2014 มีการผลักดันให้เกิดการลงประชามติจริงๆ ขึ้นมา และเตรียมที่จะจัดตั้งคูหาอยู่แล้ว หากรัฐบาลไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาความชอบธรรม ซึ่งแน่นอนว่าหากพิจารณาจากข้อบัญญัติที่ว่า "แผ่นดินสเปนเป็นหนึ่งเดียวไม่อาจแบ่งแยกได้" การลงประชามติแยกตัวย่อมไม่ชอบธรรม
    แต่มันเหมือนฟางเส้นสุดท้ายของทั้ง 2 ฝ่าย นับแต่นั้นชาวคาตาลันแสดงอาการไม่ยอมรามือให้รัฐบาลกลางอีกต่อไป ฝ่ายการเมืองก็ทำการแจ้งต่อสภาพท้องถิ่นเพื่อจัดการลงประชามติฝ่ายเดียวเรื่อยมา จนกระทั่งประกาศจัดขึ้นจริงๆ ในเดือนตุลาคมปี 2017 ซึ่งผลที่ตามมาคือ รัฐบาลกลางไม่อดทนอีกต่อไป ส่งกำลังเข้าทำลายหน่วยเลือกตั้ง และจับกุมผู้ชุมนุมเรียกร้องเอกราช กลายเป็นวิกฤตการณ์ทางการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของสเปน
    อย่างไรก็ตาม การแยกตัวของคาตาลันไม่ใช่เรื่องง่าย เฉพาะในแง่เศรษฐกิจ การแยกตัวอาจเป็นเหตุให้คาตาลันถูกโดดเดี่ยวจนไม่สามารถค้าขายกับชาติใดได้ ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับที่นักอุตสาหกรรมชาวคาตาลันในศตวรรษที่ 20 พยายามท้วงพวกฝ่ายเคลื่อนไหวทางการเมือง
    แม้ว่าคราวนี้จะมีผู้อ้างว่าเศรษฐกิจของคาตาลันดีกว่าของสเปนทั้งประเทศ มีตัวเลขจีดีพีที่สูงกว่า (สัดส่วน 20% ของจีดีพีทั้งประเทศ) มีการลงทุนจากต่างประเทศที่มากกว่า จ่ายภาษีมากกว่าใคร (21% ของทั้งประเทศ) ชาวคาตาลันบางคนบอกว่า จ่ายภาษีให้ส่วนกลางแล้วได้กลับมาไม่คุ้ม สมควรจะแยกตัวมาจัดการกันเอง
    แต่จะมีสักกี่คนที่จะล่วงรู้ว่าเศรษฐกิจของคาตาลันพ่วงกับสเปนทั้งประเทศเหมือนกัน
    --------------------------------------
    https://greennews.agency/?p=15456
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นิยายไม่ใช่เรื่องจริงหรือ? เตือนในดินแดนเบลารุส



    มีคดีใหม่เกี่ยวกับยา ZUMBI ซึ่งตำรวจยืนยัน (วิดีโอด้านล่าง) มาถึงบราซิลขณะนี้เรากำลังทำงานอยู่กับเวลา

    ยาเสพติดที่มี "เกลืออาบน้ำ" ที่เรียกว่า FLAKA ทำให้เกิดการผสมผสานของความรู้สึกกับการผ่อนคลายความตกใจและ CANNIBALISM

    เป็นสิ่งสำคัญในตอนนี้เพื่อรวมกันของสังคม: ช่วยให้เราแบ่งปันอันตรายนี้ก่อนที่จะถึงเมืองและโรงเรียนของคุณ

    Ficção se torna realidade? ALERTA EM TERRITÓRIO BRASILEIRO

    Ja esta ocorrendo casos da nova Droga ZUMBI, policia confirma (videos abaixo) chegou no Brasil, estamos agora correndo contra tempo

    A droga contém "Sais de banho" conhecida como FLAKA provoca mistura de sensações com relaxamento extremo, ataque de pânico e CANIBALISMO

    É importante agora união da sociedade: nos ajude a compartilhar este perigo antes que chegue a sua cidade e escolas.
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไฟไหม้(อุกกาบาต)ทั้งหมดนี้มีสาเหตุเดียวกันหรือไม่?
    10/4/17 - Woodstock

    FB_IMG_1507208963821.jpg FB_IMG_1507208986727.jpg

    อุกาบาตเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของเรา และตกลงสู่พื้น และอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดไฟไหม้ในเทือกเขาสีขาว( White Mountains) ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ (เป็นรัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาในเขตนิวอิงแลนด์)

    เชื่อมโยง:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2017
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ลูกไฟดวงใหญ่ที่ประเทศจีน 4 ตุลาคม 2560

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อุกกาบาตแต่ละลูกใหญๆ ทั้งนั้น เกราะป้องกันอ่อนลง ก็ทำให้การเสียดสีเมื่อเข้่าสู่ชั้นบรรยากาศลดลง ก็ไปทำให้ขนาดของมันเมื่อเข้าใกล้พื้นโลกก็มีขนาดใหญ่กว่าในอดีต
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Imm Journal

    สัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ : ส่งสัญญาณให้ชาวยิวที่ไม่ใช่ไซออนิสต์ออกจากปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง / สงครามในอนาคตถ้าหากพวกเขาได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร

    ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีไว้อาลัยแด่ท่านอิมามฮุเซน (อ.) ในวันอาชูรอ ในตอนใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปดังนี้ :

    นัศรุลลอฮ์ ได้พูดถึงเกี่ยวกับภัยคุกคามต่างๆ ของระบอบไซออนิสต์และได้กล่าวเตือนอย่างรุนแรงไปถึงระบอบไซออนิสต์ นอกจากนี้ยังได้เตือนชาวยิวว่า พวกเขาจงอย่ามอบชะตากรรมของตนให้อยู่ในมือของรัฐบาลของระบอบไซออนิสต์

    นัศรุลลอฮ์ได้กล่าวว่า : "ผมได้ประกาศอยู่เสมอว่า การต่อสู้ของเรากับพวกไซออนิสต์นั้น ไม่ใช่กับชาวยิว ขบวนการไซออนิสต์สากลนั้นได้ใช้ชาวยิวเป็นเครื่องมือเพื่อรับใช้อังกฤษ แล้วหลังจากนั้นได้รับใช้สหรัฐอเมริกา ชาวยิวในทุกมุมของโลกจำเป็นจะต้องรู้ว่า พวกเขาได้กลายเป็น "เชื้อเพลิง" สงครามของอังกฤษและอเมริกาในการต่อสู้กับชาวมุสลิม และวันนี้พวกเขากำลังเป็น "เชื้อเพลิง" ของแผนล่าอาณานิคมต่างๆ ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้

    ดังนั้นเมื่อประชาชนลุกขึ้นยืนเพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของตน พวกเขาก็จะถูกกล่าวหาให้ร้ายอย่างมดเท็จว่า เป็นพวกต่อต้านชาวยิว

    วันนี้ผมขอประกาศไปยังปัญญาชนและนักวิชาการศาสนาของชาวยิวว่า บรรดาผู้ที่นำประชาชนชาวยิวมายังแผ่นดินปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองนั้น ในความเป็นจริงแล้วพวกเขากำลังจะทำให้ชาวยิวพบกับความหายนะ รัฐบาลอิสราเอลในปัจจุบันภายใต้การนำของเบนจามิน เนทันยาฮู กำลังจะนำพวกท่านไปสู่ความพินาศ เนื่องจากรัฐบาลนี้ไม่ได้มีแผนงานใดนอกจากการวางแผนสงคราม ขณะนี้เนทันยาฮูกำลังวางแผนสงครามใหม่ร่วมกับโดนัลด์ ทรัมป์ และพวกท่านเองก็จะต้องตกเป็นเหยื่อของนโยบายต่างๆ ที่โง่เง่าของเนทันยาฮู

    หากสงครามใหม่ด้วยข้ออ้างที่มดเท็จหรือข้ออ้างมาตรการป้องกันได้เริ่มต้นขึ้น ผมขอประกาศว่า เนทันยาฮูและรัฐบาลของเขายังไม่มีการประเมินใดๆ อย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้แม้แต่สงครามจะเกิดขึ้นได้อย่างไร และใครบ้างที่จะเข้าร่วมในสงครามนี้ และมันจะเกิดขึ้นในที่ใด สงครามในอนาคตถ้าหากพวกเขาได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร ด้วยเหตุนี้เอง วันนี้ผมขอเรียกร้องให้ชาวยิวที่ไม่ใช่ไซออนิสต์ทุกคนแยกแยะการคิดคำนวณของตนและอย่าได้นำชะตากรรมของตนเข้าสู่ความหายนะ

    ผมขอเรียกร้องชาวยิวที่อาศัยอยู่ในปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองว่าให้ละทิ้งออกจากแผ่นดินปาเลสไตน์ และกลับไปยังที่ที่พวกเขามา และอย่าปล่อยให้ชะตากรรมของตนอยู่ในมือของเนทันยาฮู ผู้โง่เง่า เพราะในกรณีที่สงครามได้เริ่มต้นขึ้น จะไม่มีที่ใดของปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองเป็นที่ปลอดภัย รัฐบาลของฝ่ายศัตรู (หมายถึงรัฐบาลไซออนิสต์) จะต้องรู้ด้วยว่าช่วงเวลาได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และบรรดาผู้ที่ เนทันยาฮู ได้ฝันถึงการเป็นพันธมิตรกับพวกเขาเหล่านั้น (หมายถึงอาหรับบางประเทศ) ก็จะต้องรับรู้ไว้ด้วยว่า คนเหล่านี้ ตัวพวกเขาเองก็ต้องการผู้ที่จะให้การปกป้องพวกเขา”

    http://fa.alalam.ir/news/3062096/طرح-واقعی-آمریکا-تجزیه-منطقه-است---مردم-یمن-پیروزی-نهایی-خواهند-بود
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ปูตินโชว์ทีเด็ดอีกแล้ว: กองทัพรัสเซียปล่อยขีปนาวุธนำวิถี Kalibr สิบลูกจากเรือดำน้ำสองลำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถล่มรังของพวกไอซิสในจังหวัด Deir ez-Zor
    -----------
    วันที่ 5 ต.ค.60 Sputnik รายงานว่า เรือดำน้ำของรัสเซียได้ทำการโจมตีสองชุดใส่พวกผู้ก่อการร้ายด้วยจรวดร่อน Kalibr จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีนี้
    พล.ท. Igor Konashenkov โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า กองทัพอากาศและกองทัพเรือของรัสเซีย ยังคงเดินหน้าสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีของฝ่ายรัฐบาลซีเรียต่อไปโดยมีจุดมุ่งหมายที่การเอาลชนะกลุ่มก่อการร้ายดาอิชตามหุบเขาใกล้แม่น้ำยูเฟรติส ตลอดสัปดาห์ที่ผ่นมา หน่วยข่าวกรองจากกระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ทำแผนที่และกำหนดตำแหน่งเป้าหมายสถานที่สำคัญหลายแห่งของพวกดาอิชในพื้นที่จังหวัดเดียร์เอซซอร์
    "มีกองบัญชาการและคลังเก็บเครื่องกระสุนพร้อมด้วยโรงเก็บพาหนะหุ้มเกราะของพวกผู้ก่อการร้ายดาอิช เพื่อทำลายวัตถุเหล่านี้ เรือดำน้ำจำนวนสองลำจากกองเรือทะเลดำ [ของรัสเซีย] ซึ่งได้แก่เรือ Novgorod และ the Kolpino ได้จัดส่งการโจมตีสองชุดด้วยครูซมิสไซล์ Kalibr" พล.ท. Igor Konashenkov กล่าว
    พล.ท. Igor Konashenkov กล่าวอีกว่า การโจมตีเป้าหมายที่เป็นผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ในเมือง Mayadin ปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนการบุกของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียในจังหวัด Deir ez-Zor
    โฆษกกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า เรือดำน้ำทั้งสองลำของรัสเซียได้ปล่อยจรวดร่อนจำนวน 10 ลูกในขณะที่กำลังดำอยู่ใต้น้ำ ได้รับการยืนยันว่าขีปนาวุธนำวิถีของรัสเซียได้ทำลายเป้าหมายทั้งหมดตามที่ได้รับมอบหมาย
    "กลุ่มก่อการร้ายดาอิชในพื้นที่เมือง Mayadin ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์หนัก"
    ป.ล. คลิปแรกเป็นการปล่อยขีปนาวุธนำวิถี Kalibr จำนวน 6 ลูก จากเรือดำน้ำลำหนึ่งในขณะที่ดำอยู่ใต้น้ำถ่ายจากเรือรบผิวน้ำของรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    ส่วนคลิปที่สองเป็นวินาทีที่ขีปนาวุธ Kalibr ของรัสเซียพุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายดาอิช แม่มนทุกเม็ด

    คาดว่า นี่น่าจะเป็นการจุดพลุฉลองกรณีที่กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียและผู้ติดตามเดินทางไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในขณะนี้ และคาดว่าคงจะสร้างความบันเทิงให้กับซาอุดิอาระเบียและสหรัฐได้เป็นอย่างมาก เมื่อวานนี้ก็ส่ง Su-34 และ Su-35 ไปบอมบ์พวกหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายอัลนุสราฟร้อนท์ (/อัลเคด้า) ในพื้นที่จังหวัด Idlib สังหารระดับหัวหน้าอัลเคด้าไปได้ 7-12 ตัว ผู้นำสูงสุดอาการโคม่าและเสียแขนไปข้างหนึ่ง สังหารผู้ก่อการร้ายทั้งหมดได้ 49 ตัว
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    05/10/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/middleeast/201710051057973477-russia-syria-kalibrs-terrorists/
    https://sputniknews.com/middleeast/201710051057961324-syria-russian-militants/
    https://www.rt.com/news/405727-nusra-leader-coma-airstrike/

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai


    FB_IMG_1507257495335.jpg

    ... “กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียเยือนรัสเซีย หวังเปลี่ยนแปลงการเมือง การค้า ราคาน้ำมันโลก”

    ... โดยมีการประชุมกันเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมากับลุงปูตินที่มอสโคว์ โดยจะมีการพูดคุยเรื่องการเมืองโลก รวมทั้งการเจรจาเรื่องการลดจำนวนการผลิตน้ำมันลง เพราะตอนนี้ซาอุดิอาระเบียถังแตกแล้ว ต้องการดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น โดยก่อนหน้านี้หลังการซื้ออาวุธจากอเมริกา อเมริกาก็เอาใจโดยการขู่ฟ่อๆออกสื่อไปทั่วโลกว่าจะบอมบ์เกาหลีเหนือ ทำเอาราคาน้ำมันแพงกระฉูดทำเอาซาอุดยิ้มร่าขึ้นมาได้

    ... นอกจากนั้น ยังจะคุยเรื่อง “ความร่วมมือด้านการทหารและการป้องกันประเทศระหว่างซาอุดิอาระเบียกับรัสเซีย” โดยคาดกันว่าจะมีการลงนามความร่วมมือหลายด้านทั้งด้านพลังงาน สาธารณูปโภค เทคโนโลยีในด้านต่างๆ และจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองดีขึ้นในอนาคต

    ... As a result of the talks, the two countries may sign a number of documents to conclude landmark deals in the energy sector, infrastructure, high-tech and other sectors of the economy, which, as many experts acknowledge, will take the relationship between the world's two largest producers and exporters to the level of strategic partnership.

    ... ตอนนี้ “ซาอุดิอาระเบีย” ได้ลงทุนใน “รัสเซีย” ไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์ แต่รัสเซียอยากให้มีมากกว่านั้นอีกอย่างน้อยสองเท่าและการค้าระหว่างกันก็เพิ่งกระเตื้องขึ้นในปี 2017 นี้

    ... เมื่อเดือนกันยายน ปี 2016 ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ที่มีการผลิตน้ำมันป้อนตลาดโลกรวม 25% ได้ลงนามร่วมกันในการสร้างเสถียรภาพในราคาน้ำมัน และจากจุดนั้นทำให้ทั้งสองขยายความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจอื่นด้วย

    ... โดยรัสเซีย เป็นส่วนหนึ่งในตัวละครที่สำคัญของซาอุดในโครงการ “วิสัยทัศน์ปี 2030” ที่เขียนโดยเจ้าชายซาอุดมกุฏราชกุมารล่าสุดที่ต้องการกระจายให้ต่างชาติมาซื้อหุ้น IPO ของอารามโก้ บริษัทพลังงานของประเทศรวมทั้งซาอุดจะออกไปลุยต่างประเทศมากขึ้น เช่น ลงทุนในด้านการพลังงาน, เทคโนโลยี, สาธารณปโภคพื้นฐาน ในหลายประเทศทั่วโลกด้วย และพยายามสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพิงใน และพยายามขยายอิทธิพลการเมือง การค้า ของตนต่อนานาชาติมากขึ้นด้วย ในหลากหลายด้านมากกว่าที่จะค้าขายพลังงานอย่างเดียว แต่คาดว่าการมาครั้งนี้ ซาอุดคงยังไม่พูดเรื่องการขายหุ้น IPO ของอารามโก้

    ... และเรื่องที่มีการคาดว่าจะมีการพูดคุยอีกเครื่องก็คือ “รัสเซียต้องการขายอาวุธสงครามให้กับซาอุดิอาระเบีย” ซึ่งหลายปีก่อนนั้นซาอุดเองก็ต้องการจะซื้ออาวุธหลายอย่างทั้งจรวดS-400 ทั้งรถถัง T-90 ทั้ง เฮลิคอปเตอร์ แต่สุดท้ายผ่านไป ก็ไม่มีการซื้อขายกันแต่อย่างใด

    ... “อเมริกาไม่เดือดร้อน” มีนักข่าวเคยถามว่าการที่ และ กษัตริย์ซาอุดเยือนรัสเซียนั้น อเมริกาคิดยังไง คิดว่าสหายจะตีตัวออกห่างหรือไม่ ? แต่อเมริกาตอบว่าไม่เดือดร้อน เช่น ตุรกีไปเยือนอิหร่าน ก็ไปได้ เพราะเชื่อในความเป็นพันธมิตร

    ... ผลการประชุมพบกันของสองผู้นำโลกอาหรับอย่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซียอาจจะค่อยๆเปลี่ยนการเมือง การค้าน้ำมัน การทหาร และการเงินของโลกได้

    .

    .
    http://www.pravdareport.com/russia/economics/05-10-2017/138839-king_saudi_russia-0/

    https://www.facebook.com/jeerachart.jongsomchai?fref=ts
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฟังเสียงของเขาเมื่อเขาพูดถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติที่คนอเมริกันกำลังเผชิญกับ" ดูผู้บัญชาการทหารสูงสุดนายพล Dunford ระหว่างแถลงการณ์

    " Listen to his tone when he talks of Natural Disasters the American people are dealing with " Watch Supreme Commander General Dunford during the statement.
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1507285461777.jpg
    คุณเห็นอุกกาบาต BIG เหนือฝรั่งเศสเมื่อวานนี้(5 ตุลาคม 2560) เวลา 5:36 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือไม่? กล้องดาวตกฝรั่งเศสของ REFORME ได้จับดาวตกที่สว่างไสวสว่างมากกว่าดวงจันทร์ คุณเห็นไหม รายงานที่นี่ (Y) รูปภาพ: REFORME / Tioga Gulon, Boam Meteore, astrochinon
    Did you see the BIG meteor over France yesterday morning at 5:36 local time? French meteor cameras of REFORME captured an extremely bright meteor, much brighter than the Moon. Did you see it? Report here (Y) Image: REFORME / Tioga Gulon, Boam Meteore, astrochinon


    .
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clip: ปูตินฟันธง!! ใช้กำลังทหารโจมตีเปียงยาง โอกาสแพ้สูง - เผยความลับชิลทั้งโลก “รู้เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ตั้งแต่ 10 ปีก่อนหน้า” แถมคุย “ทรัมป์ยอมฟังแก้วิกฤตคาบสมุทรแดนโสม” เผยแพร่: 5 ต.ค. 2560 16:02:00

    560000010552401.jpg
    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(4 ต.ค)ประธานาธิบดีปูตินแสดงความเห็นถึงเกาหลีเหนือว่า การใช้กำลังทหารที่มีเป้าหมายเพื่อทำลายขีปนาวุธและนิวเคลียร์ อาจเสี่ยงไม่ประสบความสำเร็จสูง สาเหตุที่เปียงยางอาจมีอาวุธซุกซ่อนในที่ไม่มีใครเคยรู้ พร้อมยัน ตัวเองไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำสหรัฐฯ แต่ชี้ว่า เชื่อว่าทรัมป์ต้องฟังคำแนะนำในวิกฤตเกาหลีเหนือ และเป็นครั้งแรกบนเวทีนานาชาติที่ผู้นำรัสเซียเปิดเผยให้โลกรู้ว่า ผู้นำรัสเซียรู้ล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2001 แล้วว่าเกาหลีเหนือมีนิวเคลียร์ในมือแล้ว

    รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(4 ต.ค) ในการตอบคำถามจากเวทีฟอรัมพลังงานมอสโกวันพุธ(4 ต.ค) ผู้นำรัสเซียแสดงความเห็นต่อ "การที่ต้องใช้กำลังทหารต่อเกาหลีเหนือ" ตามข้อเสนอของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยออกมาให้ความเห็นในหลายครั้งที่ผ่านมา รอยเตอร์ชี้ว่า บนเวทีสัมมนา ผู้นำรัสเซียแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนไม่เห็นด้วย โดยแสดงความต้องการให้เกิดขึ้นในแนวทางการทูตผสมผสานกับทางเศรษฐกิจแทน

    รอยเตอร์กล่าวว่า ปูตินแสดงความสงสัยอย่างแรงในศักยภาพการเคลื่อนไหวทางการทหารที่จะเกิดขึ้นแนวทางนั้น พร้อมกับความกังวลทางด้านการเมืองและทางศีลธรรมที่มีไปพร้อมกัน

    “ประชาคมโลกสามารถโจมตีเกาหลีเหนือเพื่อที่จะหยุดการทดสอบขีปนาวุธ ที่จะปลดอาวุธได้ไหม ? ใช่…มันจะบรรลุเป้าประสงค์หรือไม่ ? นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ ซึ่งใครจะไปรู้ได้ว่าพวกเขามีที่นั่น และตั้งอยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ได้อย่างแน่นอน 100% เพราะเป็นประเทศที่ปิด” รายงานจากการให้คำตอบของผู้นำรัสเซีย

    นอกจากนี้ในการกล่าวถึงเกาหลีเหนือ ปูตินยังชี้ว่า รัสเซียมีเหตุผลมากกว่าใครทั้งหมดที่จำเป็นต้องความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของเปียงยาง เป็นเพราะพิสัยขีปนาวุธนั้นห่างจากอาณาเขตของรัสเซียไปเพียง 200 ก.มเท่านั้น ซึ่งในการขึ้นกล่าวบนเวทีฟอรัมพลังงาน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังคงกล่าวยืนยันถึงความคิดเดิมว่า ต้องการให้ทางออกทางการทูตเป็นตัวนำทางในการแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ

    ทั้งนี้สื่อเดลีสตาร์ของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นการเปิดเผยครั้งแรกต่อสาธารณะของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ว่า เขารับทราบว่าเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในมือเมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว โดยชี้ว่า ***อดีตประธานาธิบดีคิม จอง-อิล ผู้เป็นพ่อได้เคยเปิดเผยกับผู้นำรัสเซียเป็นการส่วนตัว***

    “ในปี 2001 ในขณะที่ผมกำลังเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ผมได้หยุดแวะที่เกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเวลาที่ผมได้พบกับผู้เป็นบิดาของผู้นำประเทศคนปัจจุบัน” ปูตินกล่าว และเสริมต่อว่า “ซึ่งในเวลานั้น พวกเขาได้กล่าวว่า พวกเขามีระเบิดนิวเคลียร์ในมือ และที่แย่ไปกว่านั้น โซลตั้งอยู่ในพิสัยการโจมีจากระบบอาวุธทางการทหารตามมาตรฐานปกติในเวลานั้นแล้ว”

    ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า ในการเปิดเผย ผู้นำรัสเซียกล่าวเสริมว่า “เมื่อไหร่ในขณะนั้น เป็นปี 2001 และมาถึงปัจจุบันปี 2017 ประเทศที่อยู่ภายใต้การถูกคว่ำบาตรถาวร และแทนที่ระเบิดนิวเคลียร์ ตอนนี้กลับมีระเบิดไฮโดรเจนแทน”

    รอยเตอร์รายงานว่า ในการขึ้นกล่าวให้ความเห็นในวันพุธ( 4 ต.ค)ประธานาธิบดีปูตินยังอ้างกับผู้ชมในเวทีสัมนาพลังงานว่า เขาเชื่อว่า ผู้นำสหรัฐฯนั้นรับฟังในวิกฤตเกาหลีเหนือ และชี้ต่อว่า รัสเซียเชื่อว่า สิ่งที่เกาหลีเหนือกำลังทำนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับอเมริกา

    ซึ่งอ้างอิงจากสื่อการเมืองสหรัฐฯ บนเวทีนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวไปถึงความใกล้ชิดกับผู้นำสหรัฐฯคนปัจจุบันว่า โดยเขายืนยันว่า ตัวเองไม่มีความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวกับโดนัลด์ ทรัมป์ “เรามีความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นศูนย์” ปูตินกล่าว และยืนยันว่า “เราพบกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

    https://mgronline.com/around/detail/9600000101911
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Clip: ปูตินฟันธง!! ใช้กำลังทหารโจมตีเปียงยาง โอกาสแพ้สูง - เผยความลับชิลทั้งโลก “รู้เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ตั้งแต่ 10 ปีก่อนหน้า” แถมคุย “ทรัมป์ยอมฟังแก้วิกฤตคาบสมุทรแดนโสม” เผยแพร่: 5 ต.ค. 2560 16:02:00



    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(4 ต.ค)ประธานาธิบดีปูตินแสดงความเห็นถึงเกาหลีเหนือว่า การใช้กำลังทหารที่มีเป้าหมายเพื่อทำลายขีปนาวุธและนิวเคลียร์ อาจเสี่ยงไม่ประสบความสำเร็จสูง สาเหตุที่เปียงยางอาจมีอาวุธซุกซ่อนในที่ไม่มีใครเคยรู้ พร้อมยัน ตัวเองไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำสหรัฐฯ แต่ชี้ว่า เชื่อว่าทรัมป์ต้องฟังคำแนะนำในวิกฤตเกาหลีเหนือ และเป็นครั้งแรกบนเวทีนานาชาติที่ผู้นำรัสเซียเปิดเผยให้โลกรู้ว่า ผู้นำรัสเซียรู้ล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2001 แล้วว่าเกาหลีเหนือมีนิวเคลียร์ในมือแล้ว

    รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(4 ต.ค) ในการตอบคำถามจากเวทีฟอรัมพลังงานมอสโกวันพุธ(4 ต.ค) ผู้นำรัสเซียแสดงความเห็นต่อ "การที่ต้องใช้กำลังทหารต่อเกาหลีเหนือ" ตามข้อเสนอของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยออกมาให้ความเห็นในหลายครั้งที่ผ่านมา รอยเตอร์ชี้ว่า บนเวทีสัมมนา ผู้นำรัสเซียแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนไม่เห็นด้วย โดยแสดงความต้องการให้เกิดขึ้นในแนวทางการทูตผสมผสานกับทางเศรษฐกิจแทน

    รอยเตอร์กล่าวว่า ปูตินแสดงความสงสัยอย่างแรงในศักยภาพการเคลื่อนไหวทางการทหารที่จะเกิดขึ้นแนวทางนั้น พร้อมกับความกังวลทางด้านการเมืองและทางศีลธรรมที่มีไปพร้อมกัน

    “ประชาคมโลกสามารถโจมตีเกาหลีเหนือเพื่อที่จะหยุดการทดสอบขีปนาวุธ ที่จะปลดอาวุธได้ไหม ? ใช่…มันจะบรรลุเป้าประสงค์หรือไม่ ? นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ ซึ่งใครจะไปรู้ได้ว่าพวกเขามีที่นั่น และตั้งอยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ได้อย่างแน่นอน 100% เพราะเป็นประเทศที่ปิด” รายงานจากการให้คำตอบของผู้นำรัสเซีย

    นอกจากนี้ในการกล่าวถึงเกาหลีเหนือ ปูตินยังชี้ว่า รัสเซียมีเหตุผลมากกว่าใครทั้งหมดที่จำเป็นต้องความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธของเปียงยาง เป็นเพราะพิสัยขีปนาวุธนั้นห่างจากอาณาเขตของรัสเซียไปเพียง 200 ก.มเท่านั้น ซึ่งในการขึ้นกล่าวบนเวทีฟอรัมพลังงาน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยังคงกล่าวยืนยันถึงความคิดเดิมว่า ต้องการให้ทางออกทางการทูตเป็นตัวนำทางในการแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ

    ทั้งนี้สื่อเดลีสตาร์ของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นการเปิดเผยครั้งแรกต่อสาธารณะของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ที่ว่า เขารับทราบว่าเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในมือเมื่อกว่า 10 ปีมาแล้ว โดยชี้ว่า ***อดีตประธานาธิบดีคิม จอง-อิล ผู้เป็นพ่อได้เคยเปิดเผยกับผู้นำรัสเซียเป็นการส่วนตัว***

    “ในปี 2001 ในขณะที่ผมกำลังเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ผมได้หยุดแวะที่เกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเวลาที่ผมได้พบกับผู้เป็นบิดาของผู้นำประเทศคนปัจจุบัน” ปูตินกล่าว และเสริมต่อว่า “ซึ่งในเวลานั้น พวกเขาได้กล่าวว่า พวกเขามีระเบิดนิวเคลียร์ในมือ และที่แย่ไปกว่านั้น โซลตั้งอยู่ในพิสัยการโจมีจากระบบอาวุธทางการทหารตามมาตรฐานปกติในเวลานั้นแล้ว”

    ซึ่งสื่ออังกฤษชี้ว่า ในการเปิดเผย ผู้นำรัสเซียกล่าวเสริมว่า “เมื่อไหร่ในขณะนั้น เป็นปี 2001 และมาถึงปัจจุบันปี 2017 ประเทศที่อยู่ภายใต้การถูกคว่ำบาตรถาวร และแทนที่ระเบิดนิวเคลียร์ ตอนนี้กลับมีระเบิดไฮโดรเจนแทน”

    รอยเตอร์รายงานว่า ในการขึ้นกล่าวให้ความเห็นในวันพุธ( 4 ต.ค)ประธานาธิบดีปูตินยังอ้างกับผู้ชมในเวทีสัมนาพลังงานว่า เขาเชื่อว่า ผู้นำสหรัฐฯนั้นรับฟังในวิกฤตเกาหลีเหนือ และชี้ต่อว่า รัสเซียเชื่อว่า สิ่งที่เกาหลีเหนือกำลังทำนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับอเมริกา

    ซึ่งอ้างอิงจากสื่อการเมืองสหรัฐฯ บนเวทีนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวไปถึงความใกล้ชิดกับผู้นำสหรัฐฯคนปัจจุบันว่า โดยเขายืนยันว่า ตัวเองไม่มีความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวกับโดนัลด์ ทรัมป์ “เรามีความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นศูนย์” ปูตินกล่าว และยืนยันว่า “เราพบกันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

    https://mgronline.com/around/detail/9600000101911
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ลย แอพฟรี Androidข่าววันนี้ สด ล่าสุด ข่าวด่วน!
    เร่งให้ความรู้คุมกำเนิด ชาวโรฮีนจา เหตุตั้งท้องกว่า 7 หมื่นคน ในค่ายอพยพ
    59,050อ่าน

    tw-share-ic.png
    fb-share-ic.png 11,014



    1_894.jpg

    ชาวโรฮีนจา ในค่ายอพยพ ที่บังกลาเทศ พุ่ง 6 แสน พบตั้งครรภ์กว่า 7 หมื่น เร่งให้ความรู้เรื่องคุมกำเนิด

    ภายหลังจากที่กองทัพเมียนมา ปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มเคลื่อนไหวติดอาวุธโดยไม่จำแนกพลเรือนออกจากกลุ่มเคลื่อนไหวในรัฐยะไข่ ซึ่งทำให้เกิดการลี้ภัยของชาวโรฮีนจาจำนวนกว่า 422,000 คนเข้าไปยังประเทศบังกลาเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2560 เป็นต้นมานั้น

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิดกับชาวโรฮีนจาในค่ายอพยพที่เมืองคอกซ์บาซา ประเทศบังกลาเทศ หลังประสบปัญหาผู้อพยพล้นค่าย และขณะนี้พบหญิงตั้งครรภ์ในค่ายอพยพกว่า 70,000 คน

    ข้อมูลจากกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) ระบุว่า ชาวโรฮีนจาที่เป็นผู้อพยพทั้งเก่าและใหม่ ที่มีกว่า 600,000 คน ในจำนวนเกินกว่าครึ่งเป็นเด็ก นอกจากนี้ยังพบข้อมูลอีกว่ามีผู้หญิงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์และให้นมบุตร 13 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงจำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลเพื่อให้เรียนรู้เรื่องการคุมกำเนิด

    หญิงชาวโรฮีนจารายหนึ่งที่อยู่ในค่ายอพยพ เปิดเผยว่า กำลังตั้งท้องได้ 7 เดือน ตอนนี้เธอมีลูกสาววัย 2 ขวบ และหวังจะให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุข การมีลูกถือเป็นความสุขของครอบครัว แต่เมื่อมาอยู่ในค่ายก็เข้าใจสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิด แต่สามีของเธอต้องการมีลูก 4 คน เพราะเชื่อว่าการมีเด็ก ๆ ภายในบ้านจะสร้างความสุขให้กับครอบครัว แม้การมีลูกเพิ่มจะสร้างความลำบากในค่ายอพยพก็ตาม

    2_716.jpg

    ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนหนึ่ง ระบุว่า หลังจากมาทำงานที่นี่ได้เพียง 7 วัน มีคนมาทำคลอดแล้ว 1,600 คน พวกเขาจึงต้องรณรงค์ให้เข้าใจถึงการคุมกำเนิดเพื่อลดจำนวนประชากร โดยการแจกถุงยางอนามัยและยาคุมกำเนิด เพราะชาวโรฮีนจานิยมมีลูกหลายคน คาดว่าอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีทารกแรกเกิดถึง 20,000 คน

    องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ประเมินว่ามีผู้อพยพชาวโรฮีนจาทะลักเข้าบังกลาเทศวันละ 20,000 คน โดยมีผู้อพยพเข้ามาใหม่หลังวันที่ 25 สิงหาคม 2560 กว่า 420,000 คน รวมผู้อพยพทั้งหมดในขณะนี้ 600,000 คน

    3_569.jpg

    ภาพและข้อมูลจาก Thai PBS NEWS
    thaipbs_logo.jpg

    https://hilight.kapook.com/view/160524
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    IMG_20171006_182305_328.jpg

    มีรายงานด่วนขึ้นมา เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาว่า ผู้ก่อการร้าย ISIS ได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียตก 1 ลำ ทางตะวันออกของเมือง Hama ใกล้ๆ กับ Sheikh Hilal area .

    Al-‘Amaq News Agency, alleged that their forces downed a Russian helicopter in the eastern countryside of the Hama Governorate.

    https://www.almasdarnews.com/articl...s-claim-russian-chopper-downed-central-syria/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "พายุกำลังจะมา" อาจจะเป็นชื่อยุทธการทางทหารของสหรัฐ แต่รู้สึกเป็นห่วงสหรัฐกลัวจะต้องย่อยยับไปพร้อมกับพายุไปด้วย

    IMG_20171006_185238_168.jpg

    "โดนัลด์ ทรัมป์"เรียกประชุม ผู้บัญชาการเหล่าทัพสหรัฐ
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จัดการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสหรัฐ โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่กล่าวเพียงว่า "พายุกำลังจะมา" ศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2560 เวลา 12.21 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมพล.อ.เจมส์ แมตทิส รมว.กระทรวงกลาโหม พล.อ.จอห์น เคลลีย์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว และพล.ท.เฮอร์เบิร์ต แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมร่วมกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพของกองทัพสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

    .@POTUS @realDonaldTrump in the Oval Office w/senior U.S. military leaders prior to dinner hosted by the President & First Lady @whitehouse. pic.twitter.com/PkdrwrWs1l

    — Dan Scavino Jr. (@Scavino45) October 6, 2017

    ทั้งนี้ ในขณะที่ทำเนียบขาวปฏิเสธเผยรายละเอียดของการหารือระหว่างทรัมป์กับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ ซึ่งรวมถึงพล.อ.โจเซฟ ดันฟอร์ด ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม ผู้นำสหรัฐกล่าวว่าสถานการณ์ในตอนนี้ "สงบนิ่งก่อนที่พายุกำลังจะมา" เมื่อผู้สื่อข่าวซักถามว่า "พายุลูกนั้นคืออะไร" ทรัมป์ตอบว่า "เดี๋ยวก็รู้"

    อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายของผู้นำสหรัฐในสัปดาห์นี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี เพื่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่เป็นเป้าหมายสูงสุด และข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ทำเนียบขาวเผยว่า ผู้นำสหรัฐเตรียมประกาศภายในเร็ววันนี้ เกี่ยวกับ "อนาคต" ของข้อตกลงฉบับดังกล่าว ที่เป็นการลงนามเมื่อปี 2558 ในยุครัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แต่ทรัมป์กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ว่าการทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านคือการเจรจา "ที่น่าขายหน้า" ของสหรัฐ และข่มขู่จะถอนตัวออกจากข้อตกลงนี้ด้วย.

    https://www.dailynews.co.th/foreign/602722
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัสเซียแฉอีก! ไอซิสโจมตีทหารซีเรียจากพื้นที่ในการควบคุมของสหรัฐฯ
    โดย กองบรรณาธิการ - 6 ตุลาคม 2017

    59d526eafc7e93f8338b4567.jpg
    แฟ้มภาพ / © Mohamad Zeen / AFP
    RT – การโจมตีกองกำลังซีเรียของไอซิสหลายครั้งเมื่อเร็วๆนี้ ใช้ข้อมูลข่าวกรองและเกิดขึ้นจากพื้นที่ในการควบคุมของสหรัฐฯ ใกล้อัล-ตันฟ์ (al-Tanf) ซึ่งตั้งอยู่บนชายแดนซีเรีย – จอร์แดน กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุ

    “เราได้ชี้ให้เห็นหลายครั้งแล้วว่า อุปสรรคสำคัญในการกำจัดไอซิสในประเทศซีเรียไม่ใช่เรื่องศักยภาพในการสู้รบของผู้ก่อการร้าย แต่เพราะว่าเพื่อนร่วมงานชาวอเมริกันกำลังสนับสนุนพวกเขาอยู่ และระริกระรี้กับพวกเขา” โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย พลตรีอิกอร์ โกนาเชนกอฟ (Igor Konashenkov) กล่าวในแถลงการณ์

    เขากล่าวด้วยว่า ความสำเร็จของกองทัพซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศรัสเซีย รวมทั้ง การปลดปล่อยหุบเขายูเฟรติส (Euphrates Valley) อย่างรวดเร็วจากไอซิส คือ ความเป็นต่ออย่างเห็นได้ชัดเจน “ซึ่งขัดแย้งกับแผนการของสหรัฐ”

    โฆษกของกระทรวงกล่าวว่า ปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายเมื่อเร็วๆ นี้ชี้ชัดว่า พวกเขามีข้อมูลข่าวกรองที่สามารถรับได้จากการสอดแนมทางอากาศเท่านั้น เขากล่าวว่า การโจมตีของผู้ก่อการร้ายทั้งหมดเกิดขึ้นจากพื้นที่เดียวกันซึ่งอยู่ในการควบคุมของสหรัฐฯ

    พวกหัวรุนแรงพยายามที่จะโจมตีกองกำลังของรัฐบาลซีเรีย ซึ่งเป็นการ “ประสานงานตามเวลาและสถานที่ที่กำหนดไว้” ในจังหวัดฮอมส์ ของซีเรีย เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โกนาเชนกอฟกล่าว

    เขาชี้ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงที่ว่า หน่วยก่อการร้ายขนาดใหญ่ “ประสบความสำเร็จในการหลบเลี่ยง” ทหารของกองทัพซีเรียทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ในด่านหน้าของพื้นที่ โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า สามารถทำแบบนี้ได้ก็เฉพาะในกรณีเดียวคือกลุ่มสุดโต่งมีตำแหน่งพิกัดที่ชัดเจนของกองกำลังรัฐบาลแต่ละหน่วย ที่ได้จากข้อมูลการลาดตระเวนทางอากาศซึ่งมีการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญบางคนล่วงหน้า

    นายพลรัสเซียกล่าวว่า ในวันเดียวกันนั้นพวกญิฮาดิสต์ยังโจมตีกองทัพซีเรียตามทางหลวงที่เชื่อมระหว่างเมืองพัลไมราและเดียร์เอซซอร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลในหุบเขายูเฟรติส

    กองทัพซีเรียต้อง “พยายามอย่างมาก” เพื่อป้องกันการโจมตีเหล่านี้ และผู้ก่อการร้ายก็ถูกผลักดันกลับไปในที่สุด

    การโจมตีทั้งหมดเหล่านี้ “มีสิ่งเดียวที่เหมือนกัน : ทั้งหมดมีต้นกำเนิดมาจากบริเวณ 50 กิโลเมตรรอบเมืองอัล-ตันฟ์ บนพรมแดนซีเรีย – จอร์แดน” โกนาเชนกอฟกล่าวและเพิ่มเติมว่า “เป็นพื้นที่เดียวกันกับที่ฐานปฏิบัติการของทหารสหรัฐฯ ตั้งอยู่”

    ในการตอบสนองต่อแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธอย่างฉุนเฉียวว่า กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ในซีเรียไม่มีการเชื่อมโยงใด ๆ กับกลุ่มไอซิส และเรียกแถลงการณ์ดังกล่าวว่า “ไร้เหตุผล” และ “ไม่มีประโยชน์”

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ของรัสเซียสงสัยว่ากองกำลังซึ่งสหรัฐฯ เป็นผู้นำมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงบางกลุ่มในซีเรีย และอัลนุสราห์ฟร้อนต์ สาขาของอัลกออิดะห์ในประเทศนี้โดยเฉพาะ

    http://www.publicpostonline.net/15652
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    yellowstone.jpg yellowstone.jpg

    อัปเดต | การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน supervolcano เป็นหนึ่งในบันทึกที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีขึ้นเมื่อ 12 มิถุนายนที่ผ่านมามีการเกิดแผ่นดินไหวเกือบ 2,500 ครั้งทางตะวันตกของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ซึ่งมีแผ่นดินไหวมากกว่า 3,000 ครั้งเกิดขึ้นภายในสามเดือน

    ฝูงแผ่นดินไหวไม่ส่งสัญญาณการปะทุที่กำลังจะมาถึงและดูเหมือนกำลัวจะจบลงแล้ว (แน่ใจหรือ) อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญจากการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ (USGS) กล่าวว่า "การตรวจสอบเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ" และกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการวิเคราะห์เหตุการณ์

    ในรายงานประจำเดือนเกี่ยวกับกิจกรรมที่ Yellowstone USGS กล่าวว่าเกิดแผ่นดินไหว 115 ครั้งในอุทยานในช่วงเดือนกันยายน เหล่านี้ 78 เป็นส่วนหนึ่งของฝูงแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง 6 ไมล์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวสต์เยลโลว์สโตน เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดในฝูงปีที่แล้วคือขนาด 2.3
    http://www.newsweek.com/yellowstone-supervolcano-earthquake-swarm-longest-ever-recorded-677387
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย แถลงแก่ผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้สหรัฐประกาศเขตห้ามเข้า 100 กิโลเมตร รอบๆ ที่ตั้งฐานทัพ Garrison Al-Tanf ของสหรัฐ เพื่อปกป้องผู้ก่อการร้าย ISIS ให้ออกมาโจมตีทหารกองทัพซีเรีย และประชาชน แล้วกลับเข้าไปในเขตหวงห้ามของสหรัฐ ในค่ายนี้ประกอบด้วยทหารของ US, the UK and Norway และมีระบบขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานสำหรับป้องกันพื้นที่นี้ด้วย

    สหรัฐเข้ามาตั้งค่ายทหารโดยผิดกฎหมายระหว่างประเทศในซีเรีย ตั้งแต่ เมษายน 2017 ที่ผ่านมา

    The 100km area around the US Al-Tanf base near the Syrian-Jordanian border has become a “black hole” which ISIS terrorists use to carry out attacks against Syrian troops and civilians, the Russian Defense Ministry said.
    The base, set up by the US in April 2017 near the border town of Al-Tanf, is becoming a problem for Syrian troops combatting Islamic State (IS, formerly ISIS/ISIL) terrorists in Deir ez-Zor province, the statement says.

    https://www.rt.com/news/405844-isis-attacks-syria-tanf/
    .
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข่าวไม่น่าเชื่อถือ เพราะข่าวส่งกำลังพลไปจัดการเกาหลีเหนือ ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวลวง จากสหรัฐเอง

    สหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน พร้อมเครื่องบินรบ 80 ลำ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ มุ่งหน้าคาบสมุทรเกาหลี สื่อรายงานเตรียมพร้อมทำสงคราม วันเสาร์ 7 ตุลาคม 2017 4:27 am

    กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน พร้อมเครื่องบินรบ 80 ลำ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ มุ่งหน้าคาบสมุทรเกาหลี อ้างฝึกซ้อมรับมือเกาหลีเหนือ สื่อรายงานเตรียมพร้อมทำสงคราม

    อาร์ทีนิวส์ รายงานข่าว วันที่ 6 ตุลาคม 2560 กรณี เรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอสโรนัลด์ เรแกน พร้อมด้วยเรือลาดตระเวนนำร่องและเรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ ของกองทัพเรือสหรัฐฯ กำลังเดินทางไปยังคาบสมุทรเกาหลีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงครามกับเกาหลีเหนือขณะที่ทางด้านเกาหลีเหนือรายงานแผนการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหม่

    เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสโรนัลด์ เรแกน พร้อมด้วยเครื่องบินรบเกือบ 80 ลำ ที่อยู่ในทะเลจีนใต้ กำลังเดินทางสู่คาบสมุทรเกาหลี เพื่อเข้าทำการซ้อมรบร่วมกับทางด้านเกาหลีใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การทำสงครามกับทางด้านเกาหลีเหนือ

    โดยทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการฝึกซ้อมร่วมเพื่อตรวจจับติดตามและสกัดกั้นขีปนาวุธขีปนาวุธ ซึ่งนอกเหนือจากการฝึกอบรมการต่อต้านเรือดำน้ำ โดยข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน โดยการฝึกซ้อมรบทางทหารจะจัดขึ้นประมาณ 20 ตุลาคม

    การฝึกซ้อมเพื่อที่ทางด้านกองทัพสหรัฐฯ เตรียมพร้อมที่จะปกป้องพันธมิตรและรักษาเสถียรภาพในพื้นที่ พลเรือตรีมาร์ค ดัลตัน ผู้บัญชาการกองกำลังของเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน ได้ให้ข้อมูลกับทางด้านเซาท์ไชนา มอร์นิงโพสต์ สหรัฐฯมีความชัดเจนว่าจะใช้ประโยชน์จากตัวเลือกทั้งหมดเพื่อให้เกาหลีเหนือสามารถเปลี่ยนใจได้



    ขณะเดียวกันฝ่ายนิติบัญญัติของรัสเซียที่เดินทางมาเยือนเกาหลีเหนือในสัปดาห์นี้กล่าวว่าเกาหลีเหนือบอกกับพวกเขาว่ามีแผนจะทดสอบขีปนาวุธระยะไกลครั้งใหม่

    พวกเขายังให้การคำนวณทางคณิตศาสตร์กับพวกเราว่าพวกเขาเชื่อว่าพิสูจน์ได้ว่าขีปนาวุธของพวกเขาสามารถเข้าฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาได้ นายแอนตัน มอโรซอฟ ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการกิจการระหว่างประเทศของรัฐสภารัสเซีย ได้ให้ข้อมูลดังกล่าว

    “เท่าที่เราเข้าใจพวกเขาก็ตั้งใจที่จะปล่อยขีปนาวุธระยะไกลอีกหนึ่งลูกในอนาคตอันใกล้นี้ และโดยทั่วไปอารมณ์ของพวกเขาค่อนข้างก้าวร้าว “นายแอนตัน มอโรซอฟ กล่าวต่อ

    เกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นระยะ ๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อตอบสนองต่อการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) วางมาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรงหลายครั้งต่อเกาหลีเหนือ

    หลังจากอนุมัติการคว่ำบาตรและประณามการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ สมาชิกถาวรของ UNSC ทั้งรัสเซียและจีนได้แนะนำให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุ

    ขณะที่ทางด้านรัสเซีย และจีน เสนอให้พยายามเจรจากับทางเกาหลีเหนือ ขณะที่ เกาหลีเหนือก็ควรจะยุติการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธเพื่อแลกกับสหรัฐฯและเกาหลีใต้ระงับการฝึกซ้อมรบร่วมกันในภูมิภาคนี้ แต่ข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธโดยสหรัฐฯ

    http://www.springnews.co.th/th/2017/10/115630/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Matreesophone

    IMG_20171007_135754_807.jpg

    เขาเกิดผิดใจอะไรกันขึ้นก็ไม่รู้ ปะทะกันหนักที่เมืองชายแดน ซีเรีย - ตุรกี Hadad ในจังหวัด Idlib ระหว่าง กองทัพบกตุรกี กับ Hay’at Tahrir Al-Sham ผู้ก่อการร้าย เปลี่ยนหลายชื่อมาแล้ว ตั้งแต่ Jabhat Al-Nusra มาเป็น Jabhat Fateh al-Sham จนมาใช้ Hay’at Tahrir Al-Sham ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้กำลังอัดหนักกับกองทัพรถถังของตุรกี ถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานผลการรบออกมาจากแนวรบ
    https://www.almasdarnews.com/article/turkish-army-jihadist-rebels-clash-idlib/
     

แชร์หน้านี้

Loading...