ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข่าวคล้ายๆ กับ RT แต่ต่างกันตรงที่ว่าใน RT บอกว่า planet x ในพระคัมภีร์เรียกว่าวอร์มวูด (Wormwood) และจะเข้ามามีบทบาทร่วมกับ มหากลียุค 7 ปี ซึ่งมนุษย์จะต้องเผชิญหน้ากับมัน และถ้าผ่านไปจะเข้าสู่ยุคอาณาจักรสววรค์พันปี และวันที่ 23 กันยายน 2560 ก็เป็นจุดเริ่มต้น แต่ยังไม่ใช่วันเริ่มแรกของมหาภัยพิบัติ ซึ่งวันเริ่มต้นตามที่คาดการณ์คือ 22 ตุลาคม 2560 ที่น่าจะเป็นวันแรกที่พระยะโฮวาเริ่มต้นพิพากษามนุษย์ ซึ่งผมว่าเจาคงไท่ออกมาแก้ตัวอะไรหรอก เพราะถ้าจากกาคำนวณ วันที่ 15 ตุลาคม ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย

    a2_63_1.jpg 1507771844322.jpg

    แก้ตัวใหม่ 15 ตุลาคม จุดเริ่มวันสิ้นโลก จะเกิดมหันตภัยนาน 7 ปี ก่อนโลกสลาย...
    15 ตุลาคม จุดเริ่มวันสิ้นโลก
    นักเลขศาสตร์เจ้าของทฤษฎีวันสิ้นโลก 23 กันยายน เผยกำหนดใหม่ 15 ตุลาคม 2560 เป็นจุดเริ่มต้นวันสิ้นโลก จะเกิดเหตุมหันตภัยนานาประการเกิดขึ้นนานต่อเนื่อง 7 ปี โดยระหว่างนั้นจะมีดาวเคราะห์น้อยมาพุ่งชน ก่อนโลกจะถึงกาลอวสานในที่สุด
    กลายเป็นประเด็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเดวิด มี้ด (David Meade) นักเลขศาสตร์ชาวอเมริกัน ออกมาเผยคำทำนายว่า 23 กันยายน 2560 จะเป็นวันสิ้นโลก อันเนื่องมาจากดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ชื่อ ดาวเคราะห์เอ็กซ์ (Planet X) หรือที่รู้จักในชื่อ ดาวนิบิรุ (Nibiru) จะพุ่งชนโลก ซึ่งทางนาซาได้ออกมาโต้ว่า ดาวเคราะห์ดังกล่าวไม่มีจริง และเรื่องวันสิ้นโลกดังกล่าวก็ไม่เป็นความจริง กระทั่งเมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา ก็ไม่มีเหตุวิบัติใด ๆ ดังคำทำนายดังกล่าวเกิดขึ้น
    ทว่าล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยรายงานว่า เดวิด มี้ด นักเลขศาสตร์รายเดิม ได้ออกมาเปลี่ยนคำทำนายวันสิ้นโลกใหม่อีกครั้ง เป็นวันที่ 15 ตุลาคม 2560 โดยจะเป็นวันที่เริ่มมีมหันตภัยอุบัติขึ้นบนโลก ทั้งสึนามิ แผ่นดินไหว เฮอริเคน และภูเขาไฟปะทุ โดยหายนะดังกล่าวจะโหมกระหน่ำนานต่อเนื่อง 7 ปี ก่อนโลกจะถูกทำลายจนสูญสลายหายไปในที่สุด
    15 ตุลาคม จุดเริ่มวันสิ้นโลก
    โดย เดวิด มี้ด ได้กล่าวว่า ดาวนิบิรุ ได้เคลื่อนผ่านโลกไปแล้ว แต่มันได้นำพามหันตภัยทางธรรมชาติจำนวนมหาศาลมาสู่โลก เหตุการณ์ภัยพิบัติรุนแรงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวที่เม็กซิโก น้ำท่วมหนักที่รัฐเทกซัส สหรัฐฯ หรือเฮอริเคนครั้งใหญ่ที่แถบแคริบเบียน และฟลอริดา ล้วนเกี่ยวข้องกับทฤษฎี ดาวเคราะห์เอ็กซ์ หรือดาวนิบิรุ ทั้งสิ้น
    นอกจากนี้ "มหันตภัย" ที่เดวิด มี้ด ได้กล่าวถึงว่าจะนำมาซึ่งวันสิ้นโลกนั้น ยังรวมไปถึงสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักร กับฝ่ายปรปักษ์ อันได้แก่ รัสเซีย, จีน, อิหร่าน และเกาหลีเหนือ
    "มันเป็นแค่การเริ่มต้น นับตั้งแต่วันสุริยุปราคาอเมริกาที่ยิ่งใหญ่ (The Great American Solar Eclipse) เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา เราจะถูกอำนาจแห่งหายนะเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง" เดวิด มี้ด กล่าว
    นอกจากนี้ เดวิด มี้ด ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ดาวเคราะห์น้อยชื่อว่า วอร์มวูด (Wormwood) ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางอย่างน้อย 3 กิโลเมตร และติดอยู่กับกลุ่มขยะอวกาศในระบบดาวเคราะห์เอ็กซ์ จะพุ่งเข้าชนโลกในวันใดวันหนึ่ง ในช่วงระหว่าง 7 ปีที่มีมหันตภัยอุบัติขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    "มันจะรวมไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือหายนะอย่างฉับพลันและรุนแรง ซึ่งเกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์เอ็กซ์ หรือเคราะห์น้อยวอร์มวูด สิ่งเหล่านั้นจะเป็นการป่าวประกาศคำพิพากษาของการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้า... แสงอาทิตย์พลังมหาศาลจะทำให้กระแสไฟฟ้าดับมืด การจราจลและความโกลาหลจะบังเกิดขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้" เดวิด มี้ด กล่าวเตือน
    15 ตุลาคม จุดเริ่มวันสิ้นโลก
    อย่างไรก็ดี เรื่องทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์เอ็กซ์หรือดาวนิบิรุดังกล่าว ทางองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา (NASA) ได้เคยออกมาเปิดเผยหลายครั้ง ระบุว่า ทฤษฎีนี้ถูกพูดถึงมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วด้วยกัน และมีการดัดแปลงและเสริมแต่งมาเรื่อย ๆ ดาวเคราะห์ที่กล่าวอ้างนั้นไม่มีจริง ถ้าหากมีจริงทางนักดาราศาสตร์ก็คงจะตรวจพบมาตั้งแต่ 10 ปีก่อน และมนุษย์เองก็คงจะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าไปแล้ว สรุปแน่ชัดก็คือ มันไม่จริงอย่างแน่นอน
    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก express.co.uk, au.news.yahoo.com
    https://hilight.kapook.com/view/161669
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายกฯสเปนขีดเส้นตายผู้นำกาตาลุญญา5วันพูดให้ชัดประกาศเอกราชแล้วหรือไม่ ก่อนเดินหน้ายึดอำนาจบริหาร เผยแพร่: 12 ต.ค. 2560 02:31:00
    560000010791101.jpg

    นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอยของสเปน กล่าวต่อรัฐสภาในวันพุธ(11ต.ค.) ขีดเส้นตายผู้นำแยกดินแดนคาตาลัน 5 วันให้ชี้แจงจุดยืนว่าเขาเพิ่งประกาศเอกราชไปหรือแม่ ซึ่งหากเป็นดังนั้นก็เตรียมเดินหน้าระงับสิทธิปกครองตนเองทางการเมืองของกาตาลุญญา

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอยของสเปนในวันพุธ(11ต.ค.) ขีดเส้นตายผู้นำแยกดินแดนคาตาลัน 5 วันให้ชี้แจงจุดยืนว่าเขาเพิ่งประกาศเอกราชไปหรือแม่ ซึ่งหากเป็นดังนั้นก็เตรียมเดินหน้าระงับสิทธิปกครองตนเองทางการเมืองของกาตาลุญญา และรัฐบาลกลางจะเข้าบริหารแคว้นนี้โดยตรง

    ราฮอย กล่าวในรัฐสภาว่า การ์เลส ปุยเดมองต์ ประธานาธิบดีแห่งแคว้นกาตาลุญญา มีเวลาจนถึง 10.00น.ของวันจันทร์(ตรงกับเมือง 15.00น.) สำหรับให้คำตอบว่า "เขาประกาศเอกราชแล้วหรือไม่" ก่อนระงับสิทธิปกครองตนเองของคาตาลัน

    "มันสำคัญยิ่งที่ มิสเตอร์ปุยเดมองต์ ต้องให้ความกระจ่างแก่ชาวสเปนที่เหลือว่าเมื่อวานนี้ เขาประกาศเอกราชหรือไม่" ราฮอยระบุ พร้อมกล่าวต่อไปว่าหาก ปุยเดมองต์ ยืนยันว่าแคว้นของเขาแยกตัวออกจากสเปนแล้ว ทางรัฐบาลกลางจะให้เวลาเพิ่มเติมกับเขา 5 วัน จนถึง 10.00น.ของวันที่ 19 ตุลาคม สำหรับพิจารณาทบทวนใหม่ ก่อนจะระงับสิทธิในการปกครองตนเอง ผ่านการประกาศใช้มาตรา 155 ที่เปิดทางให้รัฐสภาสเปนเข้าแทรกแซงการบริหารของแคว้นปกครองตนเองได้

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์(9ต.ค.) ราฮอย เคยออกมาประกาศเตือนสภาบริหารแห่งแคว้นกาตาลุญญาว่า หากยังเดินหน้าแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน เขาจะสั่งถอดถอนคณะรัฐมนตรีกาตาลุญญาทั้งหมด พร้อมกับสั่งระงับสถานภาพ “แคว้นปกครองตนเอง” ของกาตาลุญญาอีกด้วย

    ปุยเดมองต์ แถลงต่อรัฐสภาแคว้นเมื่อวันอังคาร(10ต.ค.) ว่าเขาน้อมรับอาณัติจากชาวคาตาลัน ว่าแคว้นกาตาลุญญาควรกลายเป็นรัฐเอกราชในรูปแบบสาธารณรัฐ หลังการลงประชามติที่ถูกแบนจากสเปนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม

    560000010791102.jpg

    อย่างไรก็ตามในคำแถลงเดียวกัน เขาเรียกร้องระงับบังคับใช้ไปก่อน เพื่อเปิดทางสำหรับเจรจากับมาดริด

    พวกนักวิเคราะห์มองว่า แม้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลกาตาลุญญา จะให้คำตอบในเรื่องนี้หรือไม่ แต่ในตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญปัญหาที่ยากจะแก้ไข

    "หาก ปุยเดมองต์ บอกว่าเขาประกาศเอกราช รัฐบาลกลางจะเข้ามาแทรกแซง แต่หากเขาบอกว่าไม่ได้ประกาศ เมื่อนั้นพรรคซ้ายจัด CUP อาจถอนการสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยของเขา" อันโตนิโอ บาร์โรโซ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยทีนีโอ อินเทลลิเจนท์ ในลอนดอน กล่าว

    เขาให้ความเห็นต่อไปว่า "ราฮอย มีจุดมุ่งหมาย 2 อย่าง คือหาก ปุยเดมองต์ ยังคลุมเครืออยู่ พวกเคลื่อนไหวฝักใฝ่เอกราชจะยิ่งแตกแยกมากขึ้น แต่หาก ปุยเดมองต์ ยืนกรานปกป้องการประกาศเอกราช เมื่อนั้น ราฮอย จะสามารถประกาศใช้มาตรา 155" เขากล่าว "ไม่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่ง เป้าหมายของราฮอยคือเรียกคืนหลักนิติธรรมในกาตาลุญญาก่อน และเมื่อถึงเวลาหนึ่งอาจนำไปสู่การเลือกตั้งก่อนกำหนดในแคว้นแห่งนี้"

    เดิมพันครั้งนี้ค่อนข้างสูง โดยการสูญเสียแคว้นกาตาลุญญา ซึ่งมีภาษาและวัฒนธรรมของตนเอง จะกัดเซาะผลผลิตทางเศรษฐกิจของสเปนลงถึง 1 ใน 5 และส่งผลกระทบต่อการส่งออกมากกว่า 1 ใน 4

    https://mgronline.com/around/detail/9600000104098
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นี่เป็นข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับไฟป่าขนาดใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
    โครงสร้าง 3,500 ถูกทำลาย,
    มีผู้เสียชีวิต 17 ราย
    22 ไฟขนาดใหญ่,
    มีผู้อพยพคนกว่า 20,000 คน
    ภาวะฉุกเฉินในแปดเขตการปกครองของรัฐ

    FB_IMG_1507805427982.jpg FB_IMG_1507805431744.jpg FB_IMG_1507805434463.jpg FB_IMG_1507805437500.jpg FB_IMG_1507805442544.jpg

    Here is the latest updates on the massive wildfire in California.
    3,500 structures have been destroyed,
    17+ people have been killed.
    22 large fires,
    20,000+ people have been evacuated
    state of emergency in eight state districts
    http://www.earthfrenzyradio.com/disasters/3694-wildfires-ravage-northern-california
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นายกรัฐมนตรีสเปนขอความชัดเจนจากผู้นำคาตาลันเรื่องเอกราช
    เผยแพร่: 11 ต.ค. 2560 20:07:00
    560000010785101.jpg

    เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี มาเรียโน ราฮอย ของสเปน ออกมาเรียกร้องในวันพุธ (11 ต.ค.) ให้ผู้นำของชาวคาตาลันแสดงออกอย่างชัดเจนว่าประกาศเอกราชหรือไม่ พร้อมทั้งขู่จะจำกัดหรือยกเลิกการปกครองตนเองของแคว้นดังกล่าว

    ราฮอย ยังบอกด้วยว่า การตอบสนองของรัฐบาลคาตาลันจะเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

    นับเป็นครั้งแรกที่ราฮอยออกมาพูดอย่างเปิดเผยว่า มาตรา 155 ของรัฐธรรมนูญสเปนจะถูกใช้ในขั้นตอนต่อไปหากรัฐบาลคาตาลันไม่ยอมกลับมาอยู่กับร่องกับรอย เขายังบอกด้วยว่า ต้องการเสนอความแน่นอนให้แก่พลเมืองและจำเป็นจะต้องนำความสงบและความเรียบร้อยกลับคืนมา

    การเรียกร้องของราฮอยเกิดขึ้นหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อรับมือกับการประกาศของ คาร์เลส ปุยเดมองต์ ผู้นำแคว้นที่มั่งคั่งอย่างกาตาลุญญา ซึ่งผู้นำแคว้นรายนี้ได้ลงนามในกระบวนการประกาศเอกราช แต่กลับระงับการบังคับใช้ไว้ก่อนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อจะได้เจรจากับสเปน

    เปโดร ซานเชส ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน ระบุว่า สองพรรคการเมืองหลักเห็นพ้องที่จะให้มีการเจรจาใหม่ในเรื่องกฏหมายการปกครองตนเอง

    ซานเชส บอกว่า พรรคของเขาต้องการให้กาตาลุญญายังคงเป็นส่วนหนึ่งของสเปน และให้การสนับสนุนข้อเรียกร้องของราฮอยที่อยากได้ความชัดเจนจากปุยเดมองต์
    https://mgronline.com/around/detail/9600000104050
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ศาลสูงอินเดียตัดสินให้การมีเซ็กส์กับภรรยาที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ถือเป็นการข่มขืน เผยแพร่: 12 ต.ค. 2560 16:59:00
    560000010818201.jpg

    เอเจนซีส์ - ศาลสูงในอินเดียมีคำตัดสินให้การมีเพศสัมพันธ์กับภรรยาที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ถือเป็นการข่มขืน ขณะที่บรรดานักเคลื่อนไหวบอกว่า คำตัดสินนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยุติการแต่งงานกับเด็กในอินเดีย

    กฏหมายอินเดียนั้นกำหนดว่า ผู้หญิงจะต้องมีอายุอย่างน้อย 18 ปี จึงจะสามารถแต่งงานและมีเซ็กส์ได้โดยที่ฝ่ายหญิงยินยอมพร้อมใจ แต่ก็มีข้อยกเว้นให้ฝ่ายชายมีเซ็กส์กับเด็กสาววัย 15 ได้ แม้จะเป็นการบังคับก็ตาม หากฝ่ายหญิงนั้นเป็นภรรยา

    อย่างไรก็ตาม ศาลสูงของอินเดียได้ตัดสินเมื่อวันพุธ (11 ต.ค.) ให้การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กสาวอายุน้อยกว่า 18 ปี เป็นการข่มขืน โดยทางผู้พิพากษาระบุว่า ไม่ว่าเด็กสาวจะแต่งงานหรือไม่ สิทธิมนุษยชนของเธอจะต้องยังคงอยู่ สิทธิ์ของเธอจะต้องได้รับการยอมรับ

    การแต่งงานกับเด็กสาวนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแพร่หลายในอินเดีย โดยเฉพาะในชนบทที่ผู้คนยากจน รัฐบาลประเมินว่าการแต่งงานกับเด็กสาวในพื้นที่ชนบทนั้นมีมากกว่าในเขตเมืองถึง 3 เท่า

    ในวันพฤหัสบดี (12 ต.ค.) เหล่านักสังคมวิทยาพากันยินดีกับคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความย้อนแย้งกันเองของกฏหมายอินเดีย ทั้งนี้ จากการสำรวจสำมะโนประชากรของรัฐบาลเมื่อปี 2011 การแต่งงานกับเด็กสาวมีสูงถึง 47 เปอร์เซ็นต์

    ด้านกลุ่มฮิวแมนไรต์วอช ระบุว่า คำตัดสินของศาลจะช่วยหยุดการแต่งงานก่อนวัยอันควร พร้อมกับเรียกร้องให้มีการเข้าถึงอย่างเสรี สำหรับการเรียนในระดับมัธยมของเด็กสาว ซึ่งพ่อแม่ของเด็กสาวมักจะบอกว่าไม่อยากส่งลูกสาวไปเรียนหนังสือ ก็เลยให้แต่งงานเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากชายแปลกหน้า

    https://mgronline.com/around/detail/9600000104406
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Wudhichai Maitreesophone

    20171013_093025.png

    วันนี้เที่ยงตรง กองทัพบกซีเรีย ที่กำลังรุกรบอยู่ที่เมือง Mayadeen ทางใต้ของเมือง Deir Ezzor ได้ตรวจการณ์พบคลังอาวุธขนาดใหญ่ และที่ตั้งกองกำลังคุ้มกันคลังอาวุธ ของผู้ก่อการร้าย ISIS จึงเรียกขอการสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ แต่เครื่องบินรบยังติดภารกิจในแนวรบอื่นอยู่ ไม่สามารถปลีกตัวออกไปช่วยกองกำลังที่เมือง Mayadeen ได้ศูนย์บัญชาการสงครามจึงประสานเรือดำน้ำจากกองเรือทะเลดำ ที่มาจอดกบดานอยู่ใต้น้ำ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รอให้ความช่วยเหลือ หากกองทัพอากาศงานล้นมือ เรือดำน้ำติด Curise Missiles ก็พร้อมให้การสนับสนุนแทนเครื่องบินรบ
    จากการประสาน เมื่อได้พิกัดดาวเทียม ที่ตั้งคลังแสง และพิกัดที่ตั้งของกองกำลังผู้ก่อการร้าย ISIS เรือดำน้ำ Veliky Novgorot และ เรือดำน้ำ Kolpino ทั้งสองลำ ยิง Kalibr Cruise Missiles ลำละ 5 ลูก รวม 10 ลูก ซึ่งกองทัพบกซีเรียที่กำลังนั่งดูเป้าหมายที่ถูกทำลาย จึงรายงานให้หยุดยิงได้ เป้าหมายทั้งหมดถูกทำลายราบเรียบแล้ว
    Russian submarines hit ISIS with cruise missiles near Deir Ezzor
    https://aml.ink/pK3UQ
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ประชาธิปไตยแบบตามใจข้า... สหรัฐและอิสราเอลถอนตัวออกจาก UNESCO อ้างยูเอ็นลำเอียงและต่อต้านอิสราเอล (ผู้รุกรานปาเลสไตน์และซีเรีย)

    Screenshot_2017-10-13-09-36-46.png

    -----------
    วันที่ 12 ต.ค.60 RT รายงานว่า สหรัฐและอิสราเอลได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกขององค์กร UNESCO ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์วัฒนธรรมและสถานที่โบราณที่สำคัญของยูเอ็นและสหรัฐเป็นประเทศหนึ่งที่ร่วมก่อตั้งองค์กรนี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรกในปี 1945 สหรัฐและอิสราเอลอ้างว่ามีการบิดเบือนข้อมูลทางประวัติศาสตร์และลำเอียงต่ออิสราเอล (ที่ออกกฎหมายไล่ยึดที่ดินของชาวปาเลสไตน์และดินแดนของซีเรียในที่ราบสูงโกลานโดยผิดกฎหมาย) สหรัฐจะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของยูนิสโกในวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้ กระทรวงต่างประเทศประกาศ
    "การตัดสินใจในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ และได้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลใจของสหรัฐที่มีต่อองค์กรยูเนสโก และความต้องการสำหรับการปฏิรูปพื้นฐานในองค์กรแห่งนี้ และการเดินหน้าสร้างความลำเอียงด้วยนโบยายต่อต้านอิสราเอลในยูเนสโกด้วย" แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน
    ["ความกังวลใจและความลำเอียง" ขี้แมวนี่! "ความเอาแต่ใจตนเองและไม่เคารพเสียงส่วนมาก" นะสิไม่ว่า พวกขุนโจรปล้นชิงทรัพย์สินและแย่งที่ดินของประเทศอื่นอย่างอุกอาจ พอถูกประณามจากนานาชาติ ก็ชิงโวยวายว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์และลำเอียงต่อโจร จากนั้นก็ประชดด้วยการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของยูเนสโกอีกครั้ง - ผู้แปล]
    กรุงวอชิงตันจะยังคงอยู่ในองค์กรนี้ต่อไป "ในฐานะรัฐผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก เพื่อเสนอทัศนคติ มุมมอง และความเชี่ยวชาญของสหรัฐ" แถลงการณ์กล่าว ณ ตอนนี้ ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นจากรัฐบาลสหรัฐ
    [ปัดธ่อ! ก็นึกว่าจะแน่ซะอีก ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกไปแล้ว แต่ก็ยังหวงเก้าอี้ของตนเอง จึงขออยู่ต่อในฐานะแขกไม่ได้รับเชิญ - ผู้แปล]
    อิสราเอลก็ได้ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกขององค์กรนี้เช่นกัน ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังกจากที่สหรัฐออกแถลงการณ์ นายกรัฐมนตรี Benjamin Netanyahu (ผู้อื้อฉาวในเรื่องคอรัปชั่น) แห่งอิสราเอลได้กล่าวหาองค์กร UNESCO ว่าบิดเบือนประวัติศาสตร์ (distorting history)
    นาง Irina Bokova ข้าหลวงใหญ่องค์กรยูเนสโกกล่าวว่า "ตนเองได้รับหนังสือประกาศถอนตัวอย่างเป็นทางการจากนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแล้ว และรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการตัดสินใจของสหรัฐอเมริกาที่ถอนตัวออกจากยูเนสโก การเคลื่อนไหวของกรุงวอชิงตันเป็นความสูญเสียสำหรับการยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม และต่อครอบครัวของยูเอ็น"
    สหรัฐร่วมก่อตั้งองค์กรยูเนสโกขึ้นในปี 1945 ต่อมาได้ถอนตัวออกจากองค์กรแห่งนี้ในปี 1984 โดยอ้างว่า "มีความแตกต่างกันระหว่างนโยบายต่างประเทศของสหรัฐและเป้าหมายของยูเนสโก" (ยูเอ็นไม่สน ช่างหัวเมิง! อยากไปก็ไป) ผ่านไป 19 ปีรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดี George W. Bush คลานไปขอกลับเข้าเป็นสมาชิกของ UNESCO อีกครั้ง (ตุลาคม 2003)
    "ในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของพันธกรณีต่อศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ของพวกเรา สหรัฐจะหวนคืนสู่ยูเนสโก องค์กรนี้ได้มีการปฏิรูปแล้ว และอเมริกาก็จะมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในภารกิจต่างๆที่นำไปสู่ความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนและความอดทนอดกลั้นและการเรียนรู้" อดีต George W. Bush กล่าวในการประกาศการตัดสินใจกลับเข้าสู่การเป็นสมาชิกของยูเอ็นอีกครั้ง
    [เหตุผลหลักที่สหรัฐกลับเข้าสู่ UNESCO อีกครั้งในปี 2003 นั้นไม่ใช่เพราะว่า UNESCO มีการปฏิรูปหรือในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของพันธกรณีต่อศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ ตามที่บุชกล่าวอ้าง แต่เป็นเพราะว่าในปีเดียวกันนั้น สหรัฐและแก๊งนาโต้ได้ยกกองทัพเข้าไปรุกรานอิรัคอย่างอุกอาจด้วยการยัดข้อหาว่า อิรัคมีอาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูง แต่จนบัดนี้ก็ยังหาอาวุธที่ว่านั้นไม่พบ
    แต่เป็นเพราะว่าสหรัฐต้องการให้ยูเอ็นไฟเขียวให้ตนเองและพรรคพวกถล่มอิรัคได้เต็มที่ต่างหาก และได้มีการทำลายมรดกทางวัฒนธรรมในอิรัค ลิเบีย และซีเรีย ไปเป็นจำนวนมาก UNESCO ซึ่งเป็นองค์กรหลักของยูเอ็นที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์มรดกโลก ก็แค่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเท่านั้น และตั้งหน้าตั้งตานับเงินสนับสนุนองค์กรแห่งนี้ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐต่อไป - ผู้แปล]
    https://www.rt.com/news/406475-us-withdraws-unesco-december/
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    13/10/2560
    ---------
    https://www.rt.com/news/406475-us-withdraws-unesco-december/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อีกครั้ง !!! ที่เกิดการล่าถอยของทะเล, ชายหาดCamaroeiro, Caraguatatuba -SP วันที่6 ตุลาคม 2560

    การล่าถอยของทะเลไม่หยุดและมหาสมุทรแอตแลนติกทางตอนใต้จะไม่หยุดสั่น

    ชายหาดอื่น ๆ ที่ทะเล receded ตอนนี้ในเดือนตุลาคมคลิกได้ที่ลิงค์ด้านล่าง:

    ครั้งที่ 1


    ครั้งที่ 2


    ครั้งที่ 3


    ครั้งที่ 4

    #EfeitosNibiru

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1507863329501.jpg

    สรุปการเลื่อนระดับทวีป จากที่Zetas บอกว่าแผ่นเปลือกโลก Indo-Australian เป็นจุดหยุดการทำงาน(เบรค) ซึ่งแผ่นเปลือกโลกอื่น ๆ ทั่วโลกสามารถขยับเลื่อนได้ก็ต่อเมื่อแผ่นเปลือกโลก Indo-Australian ได้ปรับเปลี่ยนโดยการยกขึ้นจากสถานะการหยุดการทำงาน

    แต่จากบทความที่ผมนำมาลงก่อนหน้านี้ได้บอกเอาไว้ว่าทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นตรงบริเวณรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก Indo-Australian นั่นหมายความว่าแผ่นเปลือกโลกมีรอยแตกขณะที่กำลังยก กังนั้นสถานะในตอนนี้ของแผ่นเปลือกโลกต่างๆคือ ตัวหยุดการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกต่างๆ กำลังจะไม่ทำงาน หรือทำงานอยู่แต่มีประสิทธิภาพลดลงไปเรื่อยๆและสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกตามที่เราได้ระบุไว้คือจุดเบรคที่แผ่นอินโดออสเตรเลียต้องเอียงขึ้นและอยู่ใต้เทือกเขาหิมาลัย ซึ่งการเอียงนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นการเลื่อนตัวของทวีปก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดขึ้นได้น่ะครับ

    การเลื่อนระดับทวีป

    Zetas คาดการณ์ในปีคาดการณ์ในปี ค.ศ. 2011 ว่าก่อนสิ้นระยะขั้นตอนที่ 8 จาก 10 ขั้นตอน บางทวีปจะเปลี่ยนการจัดตำแหน่งของพวกเขา
    http://www.zetatalk.com/newsletr/issue362.htm

    เทียบกับทวีปอื่น ๆ ไม่ว่ารายละเอียดของ Zetas ในเวลานั้น นอกเหนือจากการพูดถึงแอนตาร์กติกาที่มีอิสระที่จะเคลื่อนไปในทิศทางใด และนอกเหนือจากที่ระบุว่าแผ่นเปลือกโลก Indo-Australian เป็นจุดหยุดการทำงาน(เบรค) ซึ่งแผ่นเปลือกโลกอื่น ๆ ทั่วโลกสามารถขยับเลื่อนได้ก็ต่อเมื่อแผ่นเปลือกโลก Indo-Australian ได้ปรับเปลี่ยนโดยการยกขึ้นจากการหยุดการทำงาน (สรุปคือแผ่นเปลือกโลก Indo-Australian ทำหน้าที่เป็นไม้ค้ำยันแผ่นเปลือกโลกแผ่นอื่นๆ ไม่ให้เคลื่อนที่ ถ้าแผ่นเปลือกโลก Indo-Australian เปลี่ยนแปลงสถานะ ไม้ค้ำยันก็จะหายไปทันที คงจะรู้น่ะครับอะไรจะตามมา)

    การคาดการณ์ ZetaTalk 7/27/2013:
    http://www.zetatalk.com/ning/27jy2013.htm
    เราได้อธิบายถึงขั้นตอนที่ 8 จาก 10 ขั้นตอน ว่าเป็นช่วงที่บางส่วนของโลกมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีส่วนที่หยุดนิ่ง แผ่นเปลือกโลกอินโดออสเตรเลียเป็นเบรค ยึดการเคลื่อนไหวแผ่นเปลือกโลกอื่น ๆ ทั้งหมดให้ถอยกลับมา

    http://poleshift.ning.com/profiles/blogs/zetatalk-newsletter-for-october-15-2017?xg_source=activity
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    FB_IMG_1507865803980.jpg FB_IMG_1507865806832.jpg

    เสียงเห่าหอนของตัวอิจฉา "ซื้อขีปนาวุธแพทริออตสิวะ ไอ้พวกทรยศ!" หลังซาอุดิอาระเบียตัดสินใจซื้อระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซีย พร้อมกับก็ชี้หน้ากล่าวหาอิหร่านและเกาหลีหนือว่า "เป็นผู้ก่อการร้าย/สนับสนุนผู้ก่อการร้าย" ในขณะที่ตนเองส่งข้าวปลาอาหารให้พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรียอย่างเปิดเผย อ้างว่ารู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อลูกๆและเมียของพวกไอซิสที่อดอยากหิวโหย หลังถูกกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียไล่ตะเพิดไอซิสออกจากซีเรีย
    ----------
    https://sputniknews.com/cartoons/201710091058079856-russia-saudi-arabia-s-400/
    https://sputniknews.com/cartoons/201710101058110334-us-iran-revolutionary-guards/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อียูตัดความสัมพันธ์กับบิ๊กกองทัพพม่า
    สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมประกาศระงับความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้นำระดับสูงของกองทัพเมียนมา เพื่อประท้วง "การใช้กำลังโดยไม่สมส่วน" ต่อชนกลุ่มน้อยชาวโรฮีนจา
    พฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม 2560 เวลา 01.07 น.

    FB_IMG_1507866565904.jpg

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่า กลุ่มเครือข่ายสมาชิก 28 ประเทศในยุโรปยังเตือนว่า อาจพิจารณาคว่ำบาตร หากวิฤตไม่ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น กรณีที่ชาวโรฮีนจากว่าครึ่งล้านคนหลบหนีการกวาดล้างของกองทัพเมียนมา ข้ามแดนเข้าสู่บังกลาเทศตั้งแต่เดือน ส.ค. และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่าสถานการณ์เทียบเท่ากับการล้างเผ่าพันธุ์
    ข้อตกลงที่อนุมัติโดยเอกอัครราชทูต 28 ชาติอียู และกำหนดเซ็นลงนามในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูในวันจันทร์ (16 ต.ค.) กล่าวว่า การอพยพหลบหนีอย่างรวดเร็วของคนจำนวนมาก "บ่งชี้ชัดเจนถึงการกระทำโดยจงใจเพื่อขับไล่ชนกลุ่มน้อย" และ "จากการใช้กำลังโดยไม่สมสัดส่วนของหน่วยความมั่นคงเมียนมา อียูและบรรดารัฐสมาชิกจะระงับการเชิญผู้บัญชาการทหารสูงสุดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเมียนมา และทบทวนความร่วมมือทางด้านกลาโหมทั้งหมด" พร้อมกับเรียกร้องต่อทุกฝ่าย ให้ยุติความรุนแรงในทันที
    https://www.dailynews.co.th/foreign/603806
    Cr.เดลินิวส์
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พยานที่อาศัยอยู่ในพื้นที่มีรายงานว่าได้กล่าวว่าพวกเขาเห็นแม่น้ำยังคงมีสีตามปกติ จนถึงในเวลา 5:00 am. และเห็นว่ามันเปลี่ยนเป็นสีแดงภายในเพียงไม่กี่นาที
    อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสีนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ได้มีการสันนิษฐานว่าส่วนประกอบทางเคมีที่ถูกปล่อยทิ้งจากโรงงานใด ๆ อาจทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวได้
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จากแรงผลักขั้วแม่เหล็กจะไปทำให้น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกอุ่นซึ่งจะผ่านขึ้นไปยังช่องแคบแบริ่งต่อไปยังอาร์กติกและต่อมาก็บังคับให้แผ่นแอนตาร์กติกใต้มหาสมุทรแปซิฟิกอบอุ่น [ระหว่างการเอียงไปทางขวาและซ้าย ซึ่งสนามแม่เหล็กขั้วโลก N ดาวเคราะห์ x ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งทำให้พื้นที่บางส่วนของแอนตาร์กติกได้รับแสงแดดน้อยลง] อาจจะเป็นสาเหตุให้น้ำก้นมหาสมุทรที่อุ่นไหลเข้าสู่โพรงใต้หิ้งน้ำแข็ง Dotson ของแอนตาร์กติกาและถูกทำให้หมุนวน/กวน(stirred by) โดยการหมุนของโลกซึ่งทำให้ด้านหนึ่งของชั้นน้ำแข็งละลาย [บทวิเคราะห์ไม่กี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวมหาสมุทรกำลังตัดผ่านหิ้งน้ำแข็งของแอนตาร์กติก]

    20171013_122531.png

    1. การวิจัยใหม่ ๆ พบว่ามหาสมุทรกำลังตัดผ่านหิ้งน้ำแข็งของแอนตาร์กติกที่สำคัญ โดย Chris Mooney เผยแพร่ฉบับที่ 11 ตุลาคม 2560

    น้ำทะเลอันอบอุ่นส่งผลกระทบต่อชั้นน้ำแข็ง Dotson ของแอนตาร์กติกาอย่างไร

    น้ำก้นมหาสมุทรที่อุ่นกำลังเข้าสู่โพรงใต้หิ้งน้ำแข็ง Dotson ของแอนตาร์กติกาและถูกทำให้หมุนวน/กวน(stirred by) โดยการหมุนของโลกซึ่งทำให้ด้านหนึ่งของชั้นน้ำแข็งละลาย (อีเอสเอ / University of Edinburgh-N. Gourmelen / Planetary Visions)
    การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ใหม่เมื่อวันอังคารได้ค้นพบว่าน้ำทะเลอันอบอุ่นกำลังแกะเซาะช่องทางขนาดมหึมาไว้ข้างใต้หิ้งน้ำแข็งที่สำคัญแห่งหนึ่งของแอนตาร์กติกาตะวันตก ซึ่งเป็นเขตที่เปราะบางที่สุดในทวีปน้ำแข็งขนาดมหึมา
    https://www.washingtonpost.com/news...y-antarctic-ice-shelf/?utm_term=.64d0664163fa

    17ma003.jpg

    2.สถาวะที่โลกโยกไปมา [ (wobble) ซึ่งเราจะไม่รู้สึกอะไรเพราะเราเคลื่อนตัวไปพร้อมกับโลกในรูปสัมพันธภาพ] ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีรูปแบบที่คงที่ ขณะที่ดาวเคราะห์ X เข้ามาประชิดกับโลกมากยิ่งขึ้น แรงผลักขั้วแม่เหล็กจะเกิดขึ้นทุกวัน และจะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และการแกว่งไปทางขวาและซ้ายที่ขั้วโลกทางภูมิศาสตร์จะเกิดขึ้นในขณะนั้นในทุกวัน จะเกิดเป็นเรื่องประหลาดมากขึ้น
    เราได้อธิบายแล้วว่าแรงผลักขั้วแม่เหล็กจะทำให้มหาสมุทรแปซิฟิกอุ่นขึ้นผ่านช่องแคบแบริ่งไปยังอาร์กติกและต่อมาก็บังคับให้แผ่นแอนตาร์กติกใต้มหาสมุทรแปซิฟิกอบอุ่น ระหว่างการเอียงไปทางขวาและซ้าย ซึ่งสนามแม่เหล็กขั้วโลก N ดาวเคราะห์ x ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งทำให้พื้นที่บางส่วนของแอนตาร์กติกได้รับแสงแดดน้อยลง
    จากภาพรวมนี้สร้างความสับสนให้กับแอนตาร์กติกา น้ำแข็งละลายที่ด้านใดด้านหนึ่ง และสะสมน้ำแข็งอย่างเป็นพิเศษไว้ที่อีกด้านหนึ่ง
    October 11, 2017 https://www.washingtonpost.com/news...y-antarctic-ice-shelf/?utm_term=.05c88e085d61
    ~
    ZetaTalk Insight 5/17/2014: The wobble is not a static thing. As Planet X draws closer, the daily push against the Earth’s magnetic N Pole becomes more violent, and the swing to the right and left that the geographic N Pole then takes during its daily Figure 8 likewise becomes more eccentric. We have explained that the daily polar pump forces warm Pacific water up through the Bering Straits into the Arctic and then later forces the Antarctic Plate under the warm Pacific. During the tilt to the right and left that the N Pole takes, some parts of Antarctic also receive less sunlight. This paints a confusing picture, with Antarctica both melting on one side and accumulating extra ice on the other.
    http://www.zetatalk.com/ning/17ma2014.htm
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ลูกเรือ ทร.สหรัฐปอดแหก "มันคือคุกลอยน้ำชัดๆ" ที่ส่งเรือ เข้าไปในคาบสมุทรเกาหลีทั้งๆที่ไม่เคยสอยขีปนาวุธเกาหลีเหนือได้ซักลูกเลย

    FB_IMG_1507872933574.jpg

    -----------
    วันที่ 11 ต.ค. 60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "บรรดาลูกเรือสหรัฐพากันฟูมฟายว่าเรือรบของตนเองที่จะยับยั้งเกาหลีเหนือเหมือนคุกลอยน้ำที่ไร้ประสิทธิภาพ" (US Sailors Blast Their Ship Deterring N Korea as 'Ineffective Floating Prison')
    การสำรวจความคิดเห็นโดย The Navy Times ซึ่งสำนักข่าวที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งและมีความน่าเชื่อถือ เกี่ยวกับลูกเรือ กองทัพ และกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ได้เปิดเผยว่า
    ลูกเรือจากเรือรบครูซเซอร์ USS Shiloh ซึ่งประจำการอยู่ที่ญี่ปุ่น จากกองเรือที่ 7 ของสหรัฐในแปซิฟิกที่ร่วมภารกิจกวนบาทาเกาหลีเหนือ "ขาดขวัญกำลังใจเป็นอย่างมาก" (disastrous morale)
    หนึ่งในลูกเรือจากเรือรบของสหรัฐกล่าวว่าเรือรบของตนเองเป็นเหมือน "คุกลอยน้ำ" (floating prison) ในขณะที่อีกคนเตือนว่า "มันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้น ก่อนที่บางอย่างที่เลวร้ายจะเกิดขึ้น" การสำรวจความคิดเห็นสามชุด ซึ่งสอบถามคิดเห็นจากบรรดาลูกเรือ USS Shiloh ระหว่างที่ กัปตัน Adam M. Aycock ปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลา 26 เดือน
    เรือรบ USS Shiloh ประจำการอยู่ที่ฐานทัพเรือของสหรัฐที่เมือง Yokosuka จังหวัด Kanagawa ของญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งของกองเรือที่ 7 ของสหรัฐในแปซิฟิก ซึ่งปฏิบัติภารกิจเพื่อยับยั้ง (/คอยหาเรื่อง) เกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม การแสดงความคิดเห็นได้เปิดเผยว่า บรรดาลูกเรือบนเรือรบของสหรัฐยังมีความสงสัยอยู่ว่าตนเองจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุผลสำเร็จได้หรือไม่
    [ก็ขนาดเรือพิฆาตของสหรัฐที่คุยนักคุยหนาว่ามีเทคโนโลยีที่เลิศที่สุดในโลก ก็ยังแล่นชนกับเรือพาณิชย์ครั้งแล้วครั้งเล่า จะไม่ให้ลูกเรือเกิดความกังวลใจได้อย่างไร - ผู้แปล]
    "ผมแค่สวดมนต์ว่าพวกเราไม่เคยยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือตกซักลูกเดียวเลย นั่นก็เป็นเพราะว่าความไร้ประสิทธิภาพของพวกเราได้แสดงให้เห็นจริงๆ" ลูกเรือคนหนึ่งกล่าว
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    13/10/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/us/201710111058130301-us-navy-survey/
    https://sputniknews.com/cartoons/201710111058138871-uss-shiloh-floating-prison/
    https://news.usni.org/2017/06/15/uss-shiloh-sailor-found-alive-onboard-cruiser-week-went-missing
    http://nypost.com/2017/10/10/us-navy-crew-monitoring-north-korea-says-ship-is-a-floating-prison/
    https://www.navytimes.com/news/your...s-reveal-disastrous-morale-on-cruiser-shiloh/
    https://www.navytimes.com/news/your...s-reveal-disastrous-morale-on-cruiser-shiloh/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ปธน.ดูเตอร์เต้ขู่จะถีบทูตอียูและประเทศอื่นๆออกจากฟิลิปปินส์ หากยังขัดขวางเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ไม่ให้เข้าประชุมยูเอ็น กรณีทำสงครามปราบยาเสพติด

    FB_IMG_1507873196318.jpg

    -----------
    วันที่ 12 ต.ค. 60 RT พาดหัวข่าวว่า "นักการทูตต่างประเทศที่วิจารณ์สงครามปราบยาเสพติดจะถูกเนรเทศออกจากประเทศภายใน 24 ชั่วโมง ดูเตอร์เต้เตือน" (Foreign diplomats critical of war on drugs can be expelled in 24hrs, Duterte warns)
    ประธานาธิบดีโรดิโก ดูเตอร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์ได้เตือนกลุ่มประเทศอียูและประเทศอื่นๆอย่างแข็งกร้าวว่า ตนเองจะขับไล่บรรดานักการทูตของประเทศเหล่านั้นออกจากฟิลิปปินส์ภายใน 24 ชั่วโมง จากกรณีเรียกร้องให้ห้ามฟิลิปปินส์เข้าร่วมประชุมในยูเอ็นกรณีการทำสงครามปราบยาเสพติด (ที่มีพวกพ่อค้ายาเสพติดเสียชีวิตไปหลายพันคน ส่งผลกระทบต่อรายได้ของอียูและสหรัฐเป็นอย่างมาก จึงหันไปเล่นมุก "การละเมิดสิทธิมนุษยชน" ต่อรัฐบาลฟิลิปปินส์แทน) อียูปฏิเสธว่าไม่ได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าว (แค่เห่าเฉยๆ ท่านดูเตอร์เต้ได้ยินด้วยเหรอ?)
    "พวกคุณคิดว่าที่นี่เราเป็นพวกอ่อนหัด (/ปัญญาอ่อน) หรือไง? (You think that we are a bunch of morons here.)" ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้กล่าวถ้อยแถลงทางโทรทัศน์ในการแถลงข่าวที่กรุงมะนิลา
    "พรุ่งนี้เราสามารถตัดช่องทางทางการทูตได้เลย คุณจะต้องออกไปจากประเทศของเราภายใน 24 ชั่วโมง พวกคุณทั้งหมดนั่นแหละ คุณจะต้องอนุญาตให้กับฟิลิปปินส์ การกล่าวว่าพวกเราจะถูกตัดออก... (จากยูเอ็น) มันคือการตัดสินใจของคุณอย่างนั้นหรือ? คุณคิดว่าคุณสามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆหรือ? คุณคิดว่ารัสเซียกับจีนจะอนุญาตให้ทำอย่างนั้นได้หรือ?"
    [ฮั่นแน่! ไม่ธรรมดา งานนี้ดูเตอร์เต้ขอกอดรัสเซียกับจีนแน่นเลย อย่าคิดว่าการคบแต่พวกอเมริกันและอียูแล้วจะไม่ถูกรังแกนะ นั่นแหละคือการยอมให้เขากดหัวตนเองอย่างไม่อาจขัดขืนได้ หากไม่ถ่วงดุลอำนาจให้ดี แน่นอน การที่คุณจะได้รับการคุ้มครองจากจีนและรัสเซีย คุณก็ต้องจ่ายบางส่วนให้เขาด้วยเช่นกัน ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น - ผู้แปล]
    คำพูดของดูเตอร์เต้ เป็นการตอบโต้ต่อคณะผู้แทนด้านการเมืองจากเจ็ดประเทศ จากกลุ่มพันธมิตรเพื่อความก้าวหน้าและพรรคสังคมนิยมยุโรป ซึ่งได้ประณามการทำสงครามปราบยาเสพติด (ที่มีพวกพ่อค้ายาเสพติดเสียชีวิต สูญเสียผลประโยชน์ และได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก) ระหว่างการเดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 8-9 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะของผู้แทนกลุ่มมาจาก สวีเดน เยอรมัน อิตาลี ออสเตรเลีย และสหรัฐ
    [เดินไปเห่าถึงในบ้านดูเดอร์เต้ ไม่ถูกสาดน้ำร้อนใส่ก็บุญหัวเท่าไรแล้ว พวกนี้ก็ทำตัวเหมือนแก๊งล็อบบี้และแบล็คเมล์ หาเศษหาเลย ค่าน้ำร้อนน้ำชาจากประเทศเป้าหมายนั่นแหละ "ขอค่าอุดปากหน่อยดิ ไม่งั้นแฉนะ" ประมาณนี้ พอถูกปฏิเสธ ก็จะได้ยินเสียงเห่าหอนออกมาเป็นธรรมดา และการเดินเกมแบบนี้ ก็เป็นการสร้างภาพว่าตนเองปกป้องสิทธิมนุษยชน ในขณะเดียวกันก็รวมกันเดินหน้าก่อสงครามในต่างประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง - ผู้แปล]
    อียูได้ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับการไปเยือนของคณะผู้แทนทั้งเจ็ดประเทศว่าเป็นตัวแทนของนโยบายจากอียู "สหภาพยุโรปไม่ด้มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรหรือการวางแผนการไปเยือนในครั้งนี้ ไม่ใช่ทั้งคณะผู้แทนจากสหภาพยุโรปในฟิลิปปินส์หรือจากสถาบันต่างๆของสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์" สำนักงานอียูในกรุงมะนิลาออกแถลงการณ์
    "แถลงการณ์ต่างๆที่ออกโดยกลุ่มพันธมิตรเพื่อความก้าวหน้า (Progressive Alliance) ระหว่างการเดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ ดำเนินการในนามของกลุ่ม Progressive Alliance ล้วนๆ และไม่ได้แสดงจุดยืนของสหภาพยุโรป" แถลงการณ์จากอียูกล่าว
    [Progressive Alliance เป็นองค์กรระหว่างประเทศดำเนินการด้านการเมือง ความยุติธรรม และความเป็นเอกภาพ งานหลักก็คือ "แส่เรื่องชาวบ้าน" โดยอ้างเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของพวกมหาอำนาจตะวันตก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นในปี 2013 อ้างว่ามีนานาชาติเข้าร่วมถึง 140 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นแก๊งอียู หลังจากถูกดูเตอร์เต้ด่า อียูก็รีบออกมาแถท้นที - ผู้แปล]
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    13/10/2560
    ---------
    https://www.rt.com/news/406529-duterte-expel-diplomats-drugs/
    https://pcoo.gov.ph/wp-content/uplo...g_of_the_Malacañang_Press_Briefing_Room-1.pdf
    http://www.bbc.com/news/world-asia-41600434
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เตรียมท่องนะโมฯ รับอภิมหาไต้ฝุ่นลูกใหม่ใหญ่มหึมา กลืนมิดเวียดนาม ลาว เขมรและไทย อาทิตย์หน้ามาลุ้นกัน
    เผยแพร่: 12 ต.ค. 2560 21:25:00 ปรับปรุง: 13 ต.ค. 2560 09:36:00
    [​IMG]
    MGRออนไลน์ -- สำนักพยากรณ์อากาศชั้นนำหลายแห่งในภูมิภาค ได้ออกคำเตือนตอนหัวค่ำ วันพฤหัสบดี 22 ต.ค.นี้ ให้ฝ่ายต่างๆ เตรียมรับมือพายุลูกใหม่ ที่คาดว่าจะมีขนาดใหญ่มหึมา สามารถ "กลืน" หรือ แผ่อิทธิพลครอบคลุม ประเทศต่างๆ ในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงได้ทุกประเทศ อันเป็นเหตุการณ์ที่คาดว่าจะได้เห็นในต้นสัปดาห์หน้า ถึงแม้จะไม่ใช่ระดับ "ซุเปอร์ไต้ฝุ่น" แต่ก็อาจจะเป็นพายุใหญ่ที่สุดลูกหนึ่ง ที่สามารถส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เกือบ 200 ล้านคน บนผืนแผ่นดินใหญ่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    พายุลูกนี้ก่อตั้วขึ้นเป็นดีเปรสชั่นหมายเลข 24 (โอเด็ต/Odette) ทางตะวันออกของเกาะลูกซอน ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อ 24 ชั่วโมงที่แล้ว และ กำลังพัฒนาความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง ขึ้นสู่ดับพายุโซนร้อน หรือ Tropical Storm ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ขณะพัดผ่านปลายเหนือสุดของหมู่เกาะในคืนนี้ เข้าสู่ทะเลจีนใต้ และ คาดว่าเคลื่อนตัวเกือบจะเป็นเส้นตรง ในแนวตะวันออก-ตะวันตก หลังจากนั้น จะพุ่งตรงไปยังชายฝั่งภาคกลางตอนบนเวียดนาม อาณาบริเวณเดียวกับที่ดีเปรสชั่นหมายเลข 23 พัดเข้าตอนเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางในกรุงฮานอย ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับพายุลูกใหม่ ในตอนค่ำวันนี้ ในขณะที่ศูนย์กลางของพายุ ยังคงอยู่ห่างจากเวียดนามไปราว 1,500 กิโลเมตร ทางตะวันออกของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ แต่ดีเปรสชั่นหมายเลข 24 เคลื่อนตัวเร็วมาก คือ 25-30 กม.ชั่วโมง และ กำลังจะทำให้เกิดฝนตกหนักทางตอนเหนือของประเทศนั้น ลงไปจนถึงกรุงมะนิลา เมืองหลวง

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กล่าวว่า เมื่อดีเปรสชั่นหมายเลข 24 พัฒนาขึ้นเป็นพายุโซร้อนในคืนวันพฤหัสบดี จะส่งผลทำให้เกิดคลื่นแรงในทะเลจีนใต้ ตั้งแต่เช้าวันศุกร์นี้เป็นต้นไป และ จะหนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้น ในระยะ 24-72 ชั่วโมงข้างหน้า เมื่อพายุโซนร้อน ทวีความเร็วใกล้ศูนย์กลางขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับ 1

    แผนภูมิพยากรณ์โดยศูนย์ร่วมแจังเตือนไต้ฝุ่น (JTWC) กองทัพเรือสหรัฐ ในอ่าวเพิร์ล ในนครโฮโนลู มลรัฐฮาวาย ที่ออกตอนบ่ายวันพฤหัสบดี แสดงให้เห็นทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุลูกใหม่ ที่กำลังรอตั้งชื่อในขณะนี้ เป็นแนวตะวันออก-ตะวันตก เกือบจะเป็นเส้นตรง และ จะทวีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง ขึ้นเป็นไต้ฝุ่นระดับหนึ่ง เมื่อพัดผ่านใกล้เกาะไหหลำของจีน ไปจนถึงชายฝั่งภาคกลางตอนบนของเวียดนาม ในวันจันทร์ 16 ต.ค.
    .
    560000010810901.jpg
    1
    แผนภูมิพยากรณ์ที่ออกโดย ศูนย์รายงานความเสี่ยงพายุเขตร้อนในกรุงลอนดอน (TSR)ก็แสดงเส้นทางที่ไม่ต่างกัน แผนภูมิอีกชิ้นหนึ่งของสำนักนี้ ยังแสดงให้เห็นพลังอันมหาศาลของพายุลูกใหม่ เมื่อทวีกำพลังขึ้นเป็นไต้ฝุ่น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะพัดอยู่ในทะเลจีนใต้ และ ถ้าหากทุกอย่างเป็นตามข้อมูลในวันนี้ พายุลูกใหม่กำลังจะลูกที่สองของปี ที่พัดขึ้นฝั่งเวียดนาม ในขณะที่ยังมีความแรงเป็นระดับไต้ฝุ่น

    แผนภูมิอพยากรณ์โดย JTWC และ TRS ยังแสดงให้เห็นเส้นทางของพายุในอีก 72-84 ชั่วโมงข้างหน้า ที่จะอ่อนตัวลงเป็นพายุโซนร้อน และ เป็นดีเปรสชั่นอีกครั้งหนึ่ง อย่างรวดเร็วมาก ขณะเคลื่อนผ่านเขตป่าเขาชายแดนเวียดนาม-ลาว ในคืนวันที่ 16 ต.ค. ก่อนจะไปหมดกำลังลงที่บริเวณใกล้กับนครเวียงจันทน์ กลายสภาพเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตก ปกคลุมอาณาบริเวณอย่างกว้างขวาง ทั่วทั้งภาคเหนือและภาคกลางของลาว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ภาคเหนือ ของไทย ลงไปครอบคลุมเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาเกือบทั้งหมด

    สำหรับเวียดนาม หลังเกิดฝนตกติดต่อกันนานร่วมเดือน หลายจังวหวัดทางตอนเหนือ ต้องเชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่ และ ดีเปรสชั่นลูกล่าสุดในสัปดาห์นี้ ทำให้เกิดฝนตกหนักเกินกว่าที่คาดกันเอาไว้ล่วงหน้า ทำให้สถานการณ์น้ำเลวร้ายลง การไฟฟ้าเวียดนามต้องเร่งระบายน้ำ จากอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนหว่าบี่ง (Hoa Binh) เขื่อนผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ ระหว่างวันที่ 10-11 ต.ค. ที่ผ่านมา กระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วมตัวเมืองที่อยู่ใต้ลงไป ท่วมถนนหนทาง การจราจรเป็นอัมพาต หลายท้องถิ่นถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

    ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาฯ ในเวียดนามกล่าวว่า ทุกคนควรจะช่วยกันภาวนา ให้มวลอากาศเย็นจากตอนเหนือของภูมิภาค เคลื่อนตัวลงสู่อนุภูมิภาคโดยเร็วในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้ ซึ่งจะเป็นเพียงความหวังเดียว ที่จะช่วยลดความรุนแรงของพายุลูกใหม่ลงได้

    ความหวังดังกล่าวไม่ไดเกิดขึ้นอย่างเลื่อนลอย หน่วยงานพยากรณ์อากาศของเวียดนาม ระบุว่าภูมิอากาศทางตอนเหนือของประเทศ เริ่มเย็นลงตั้งแต่ตอนเช้าวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากฝนผ่านไป โดยอุณหภูมิในเขตเมืองซาปา (Sa Pa) เมืองท่องเทียยวบนภูเขา ใน จ.หล่าวกาย (Lao Cai) เย็นลงถึง 16-17 องศาเซลเซียสในตอนเช้าวันนี้ และ ยังจะลดลงอีกในค่ำวันเดียวกัน ภูมิอากาศในหลายจังหวัด รวมทั้งในกรุงฮานอย ก็เริ่มเย็นลง 2-3 องศา
    .
    560000010810902.jpg
    2
    560000010810903.jpg
    3
    วันพฤหัสบดีนี้ หน่วยกู้ภัยได้ออกค้นหาราษฎร ที่ถูกดินเลื่อนลงจากเนินเขา ทับถมบ้านเรือนไปหลายหลังคา ใน จ.หว่าบี่ง เหตุเกิดในตอนสายวันเดียวกัน พบผู้เสียชีวิตจำนวน 8 ศพ อีก 3 คน ช่วยออกมาได้ ในขณะที่อีก 20 คน ยังคงสูญหายจากเหตุการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำ ไหลเข้าท่วมตัวเมือง ท่วมบ้านเรือนราษฎรตามหมู่บ้านต่างๆ และ ท่วมเทือกสวนนาไร่ ในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น

    เขื่อนหว่าบี่งได้หยุดระยายน้ำอย่างเร่งด่วนแล้วในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากปริมาณน้ำในอ่างลดลงสู่ "ระดับที่สามารถยอมรับได้" ทั้งนี้เป็นรายงานของคณะกรรมการช่วยเหลือและกู้ภัยแห่งชาติ

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกชุดหนึ่งยังคงเร่งค้นหาราษฎรที่ถูกน้ำพัดหายไปใน จ.เอียนบ๊าย (Yen Bai) เมื่อวันก่อน ซึ่งยังไม่ทราบว่า มีจำนวนทั้งหมดเท่าไรกันแน่ ในขณะที่อีกหลายจังหวัดทางตอนใต้กรุงฮานอยลงไป ตั้งแต่ จ.นีงบี่ง (Ninh Binh) แทงฮว้า (Thanh Hoa) ห่าตี๋ง (Ha Tinh) เหงะอาน (Nge An) กว๋างบี่ง (Quang Binh) กว๋างจิ (Quang Tri) เถื่อเทียนเหว (Thua Thien Hue) ลงไปจนถึงกว๋างหงาย (Quang Ngai) กว๋างนาม (Quang Nam) และ นครด่าหนัง (Da Nang) กำลังเร่งฟื้นฟูตัวเมือง เก็บกวาดถนนหนทางที่ถูกน้ำท่วมสูง ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค.ที่ผ่านมา อันเป็นอิทธิพลจากดีเปรสชั่นหมายเลข 23

    ใน จ.เหงะอาน อาสาสมัครกู้ภัย จำนวน 600 นาย ได้ร่วมกันออกค้นหาเด็กชายวัย 4 ปีคนหนึ่ง ที่ถูกสายน้ำพัดหายไป ในตอนเช้าวันที่ 10 ต.ค. หลังจากเขื่อนชลประมาณสูง 20 เมตรแห่งหนึ่ง เกิดพังทลาย ส่งกระแสน้ำเชี่ยวกรากลงสู่เบื่้องล่าง และ หนูน้อยกำลังเดินข้ามลำน้ำสายเล็กๆ เพื่อไปหาบิดาที่กำลังทำงานในนาข้าว การค้นหาที่ดำเนินมาตลอดทั้งวัน ยังไม่พบเหยื่อดีเปรสชั่นรายนี้

    หลายท้องถิ่นยังคงเร่งช่วยเหลือเยียวเกษตรกร ที่สูญเสียข้าวในนา นับหมื่นๆ ไร่ กับพืชผลต่างๆ และ ช่วยเหลือราษฎรนับหมื่นครอบครัว ที่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นในช่วงพายุพัดเข้า ให้กลับคืนสู่เคหะสถาน กองทัพปรนะชาชนได้ระดมทหารช่าง ออกช่วยเหลือประชาชน ซ่อมแซมบ้านเรือน ให้อยู่อาศัยได้อีกครั้ง.

    https://mgronline.com/indochina/detail/9600000104508
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อังกฤษต้องรับผิดชอบ!!! ผู้บัญชาสูงสุดกองทัพเมียนมา ซัด "โรฮิงญา" ไม่ใช่ชนชาติในประเทศ "จักรวรรดิอังกฤษ" ต้องรับผิดชอบ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ได้หารือกับนายสกอต มาร์ซีล เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศเมียนมา โดยนายมาร์ซีลได้แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงในรัฐยะไข่ ที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน และมีผู้ลี้ภัยกว่า 500,000 คนไปยังบังกลาเทศ ตามการประเมินของสหประชาชาติ

    DL5p91HVoAUDnaS.jpg

    พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ยืนยันว่า ปฏิบัติการทางทหารในรัฐยะไข่เป็นไปอย่างเหมาะสมแล้ว พร้อมกับตำหนิการโฆษณาชวนเชื่อของบุคคลบางกลุ่ม ที่ประเมินจำนวนผู้ลี้ภัยโรฮิงญามากเกินความเป็นจริง และพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ยังกล่าวอีกว่า ชาวเบงกาลี (ชาวโรฮิงญา) ไม่ได้ถูกนำเข้าประเทศโดยเมียนมา แต่เป็นฝีมือของเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษ ดังนั้นชาวเบงกาลีจึงไม่ใช่ชนชาติพื้นเมืองของพม่า ชาวเบงกาลียังเป็นพวกที่สร้างความเสื่อมเสีย ซึ่งเจ้าอาณานิคมจักรวรรดิอังกฤษจะต้องรับผิดชอบกับปัญหาที่ก่อขึ้นให้กับเมียนมา



    Image(9).jpg

    ทั้งนี้ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพเมียนมาเพียงไม่กี่คนที่กล้าออกมาพูดถึงกรณีผู้อพยพชาวโรฮิงญา ซึ่งคำกล่าวของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย สามารถชี้ทัศนคติภาพรวมของทหารเมียนมา ที่มีต่อสถานการณ์ในรัฐยะไข่ และเพิ่มความสงสัยให้กับหลายฝ่าย ถึงกระบวนการปฏิรูปสู่ประชาธิปไตยโดยรัฐบาลของนางออง ซาน ซูจี ที่เข้ามาบริหารประเทศเมื่อเดือนเม.ย. ปี 59 ที่ผ่านมา

    uRAsSogMon20207.jpg

    Rohigta-050917.jpg


    news160013.jpg

    http://www.phenkhao.com/contents/bg/11409
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    รัฐบาลและกองทัพสหรัฐมัวเมากับการทุ่มงบประมาณก่อสงครามในต่างประเทศไม่หยุดยั้ง และเตรียมทำสงครามนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ ในขณะเดียวกันก็เกิดไฟป่าเผาผลาญประเทศตนเองที่เมือง Santa Rosa ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน สูญหายอย่างน้อย 463 คน พื้นที่เกือบ 200,000 เอเคอร์ ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 รอบนี้สหรัฐจะโทษเกาหลีเหนือกับรัสเซียอีกหรือเปล่านะ?
    ----------

    https://sputniknews.com/environment...y-california-fire-intensifying-winds-weekend/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ไสหัวไป "เราไม่ต้องการคุณ" แอร์โดกันตวาดกรุงวอชิงตันที่ยอมบูชายัญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับตุรกี

    Screenshot_2017-10-13-13-06-12.png

    -----------
    วันที่ 12 ต.ค. 60 RT พาดหัวข่าวว่า "‘We don’t need you’: Erdogan accuses Washington of ‘sacrificing’ relations with Turkey"
    ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan แห่งตุรกีได้กล่าวหากรุงวอชิงตันว่าเซ่นความสัมพันธ์กับกรุงอังการา และได้ตำหนิเอกอัครราชทูตของสหรัฐประจำกรุงอังการาที่กำลังจะหมดวาระว่า "ไม่รู้จักฐานะของตนเอง" (/ไม่เจียมบอดี้)
    "ผมขอพูดให้ชัดเจนเลยนะครับ บุคคลที่สร้างปัญหาก็คือท่านเอกอัครราชทูตที่อยู่ที่นี่ (เรา) รับไม่ได้กับการที่สหรัฐจะต้องเซ่นสังเวยการเป็นหุ้นส่วนด้านยุทธศาสตร์ต่อเอกอัครราชทูตคนหนึ่งที่ไม่เจียมสังขารตนเอง" ปธน.แอร์โดกันกล่าวบรรดาผู้ว่าจังหวัดต่างๆในกรุงอังการาเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ อ้างคำพูดโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส
    แอร์โดกันได้อ้างถึงนาย John Bass เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำตุรกี ที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีแอร์โดกันได้กล่าวหาว่าดำเนินการโดยพลการในการตัดสินใจระงับการออกวีซ่าให้กับพลเมืองชาวตุรกี แทนที่จะเป็นการดำเนินการในนามของรัฐบาลสหรัฐ
    "น่าอับอายมาก ถ้าสหรัฐอเมริกาผู้ยิ่งใหญ่ถูกปกครองโดยเอกอัครราชทูตคนหนึ่งในกรุงอังการา เพราะว่านี่เป็นจุดยืนที่พวกเขายึดมั่น พวกเขาควรจะพูดว่า 'คุณไม่สามารถปฏิบัติต่อพันธมิตรด้านยุทธศาสตร์ของพวกเราในลักษณะนี้ได้ คุณไม่สามารถทำแบบนี้ได้' แต่พวกเขากลับไม่พูดแบบนี้เลย" แอร์โดกันเหน็บรัฐบาลสหรัฐ อ้างคำพูดโดยสำนักข่าว Anadolu ของรัฐบาลตุรกี
    รัฐบาลสหรัฐได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของประธานาธิบดีแอร์โดกัน โดยกล่าวว่าทูต Bass "ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่" จากกรุงวอชิงตัน และการตัดสินใจของเอกอัครราชทูตสหรัฐก็เกิดจากการประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐด้วย ทำเนียบขาวและสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐยืนยัน
    ปธน.แอร์โดกันเดินหน้าส่งข้อความถึงกรุงวอชิงตันอีกว่า "เราไม่ต้องการพวกคุณ" (we do not need you. แปลเป็นภาษาชาวบ้านว่า "ไสหัวไปซะ!")
    "พวกเราไม่ใช่รัฐชนเผ่านะว้อย! เราเป็นสาธารณรัฐแห่งตุรกี และคุณก็จะต้องยอมรับด้วย ถ้าคุณไม่ยอมรับ งั้นก็เสียใจด้วย แต่เราไม่ต้องการคุณ (อีกแล้ว)" แอร์โดกันกล่าว อ้างคำพูดโดยหนังสือพิมพ์ Hurriyet ของตุรกี
    แอร์โดกันได้กล่าวหาสหรัฐว่าซ่อนตัวผู้ต้องสงสัยจคนหนึ่งในสถานกงสุลของสหรัฐในอิสตันบูล ที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับนาย Fethullah Gulen นักการศาสนา ที่กรุงอังการากล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังของการพยายามทำรัฐประหาร
    "ลูกจ้างของสถานกงสุลที่ตำรวจตุรกีตามจับตัว กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในสถานกงสุลของสหรัฐ คนงานคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ Gulen อย่างชัดเจน" แอร์โดกันกล่าว
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ยืนยันเมื่อวันอังคารนี้ว่า ทางการตุรกีได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่สถานทูตของสหรัฐรายที่สามเข้าไปพบเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นาง Heather Nauert โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว "เป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจเป็นอย่างยิ่ง"
    ลูกจ้างของสหรัฐคนแรกถูกจับกุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่นาย Metin Topuz พลเรือนชาวตุรกีถูกทางการจับกุม หนังสือพิมพ์ Daily Sabah ฝ่ายโปร-รัฐบาลตุรกีรายงานว่าเขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการอำนวยความสะดวกให้สมาชิกขบวนการกูเลน (Gulenists) หลบหนีออกจากตุรกี
    การจับกุมนาย Metin Topuz ทำให้เอกอัครราชทูตสหรัฐในตุกรี (เดือดดานมาก) ประกาศระงับการออกวีซ่าประเภท non-immigrant ให้กับทุกคนในสถานที่ทางการทูตของสหรัฐทั้งหมดในตุรกี โดยกล่าวว่า "เหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้ ได้บังคับให้รัฐบาลสหรัฐต้องประเมินความมุ่งมั่นของรัฐบาลตุรกีที่มีต่อการรักษาความปลอดภัยต่อสถานที่ทางการทูตและบุคคลากรของสหรัฐ..."
    ตุรกีต้องโต้แบบหนามยอกเอาหนามบ่งทันที โดยการออกแถลงการณ์ในลักษณะเดียวกันว่า สถานทูตของอเมริกันเป็นแค่ชื่อแทนประเทศสหรัฐเท่านั้น และกรุงอังการาก็ได้ออกหมายจับเจ้าหน้าที่สถานกงสุลของสหรัฐเป็นรายที่สองด้วย
    https://www.rt.com/news/406486-erdogan-washington-relations-ambassador/
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    13/10/2560
    ---------
    https://www.rt.com/news/406486-erdogan-washington-relations-ambassador/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,814
    ค่าพลัง:
    +97,149
    In Clip:ข่าวใหญ่!!!สหรัฐฯลาออกจาก "ยูเนสโก" แล้ว อ้างไม่เป็นกลางกับยิว กระทบเงินช่วยมรดกโลกเห็นๆ
    เผยแพร่: 13 ต.ค. 2560 10:48:00
    560000010839001.jpg


    เอเจนซีส์ / รอยเตอร์ - สหรัฐฯและอิสราเอล ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การยูเนสโก( UNESCO) อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้(12 ต.ค) อ้าง หน่วยงานพิทักษ์มรดกโลกของยูเอ็นบิดเบือนทางประวัติศาสตร์ แถมมีอคติกับยิว การลาออกกระเทือน UNESCO หนัก เชื่อกระทบโปรเจกต์อนุรักษ์มรดกโลกอย่างเห็นได้ชัด แหล่งข่าวชี้ผลการลาออกจะเป็นทางการสิ้นเดือนธันวาคม 2018

    RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้(12 ต.ค)ว่า องค์การองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก(UNESCO) ที่ก่อตั้งมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดในปี 1945 ที่มีสหรัฐฯช่วยเหลือในการก่อตั้ง ต้องขาดหัวเรือใหญ่และผู้บริจาคชาติสำคัญไปแล้วในวันพฤหัสบดี(12 ต.ค)



    ทั้งนี้พบว่าโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เฮทเธอร์ นูเอิร์ต( Heather Nauert) กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างหุนหัน แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความกังวลของสหรัฐฯต่อเงินสนับสนุนขององค์การยูเนสโก ความจำเป็นของหน่วยงานที่ต้องปฎิรูปตั้งแต่พื้นฐาน และยังคงมีความเห็นเชิงอคติต่ออิสราเอลที่ยูเนสโก ”

    อย่างไรก็ตามในแถลงการณ์ของสหรัฐฯ ชี้ว่าวอชิงตันจะยังคงสมาชิกภาพในฐานะผู้สังเกตการณ์ในยูเนสโกต่อไป เพื่อที่ทางสหรัฐฯจะสามารถแสดงความเห็น ความคาดหวัง และความเชี่ยวชาญต่อทางองค์กรได้

    ทั้งนี้ยังไม่มีความเห็นออกมาจากรัฐบาลสหรัฐฯในเรื่องนี้

    สื่อรัสเซียชี้ว่า อิสราเอลได้ประกาศการลาออกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯออกแถลงการณ์ลาออกแล้ว พร้อมกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาโจมตีทางยูเนสโก ว่าบิดเบือนประวัติศาสตร์ “นี่ถือเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ และมีคุณธรรม เพราะยูเนสโกได้กลายเป็นเวทีของตัวประหลาด แทนที่จะทำหน้าที่อนุรักษ์ประวัติศาสตร์ แต่กลับเลือกที่จะบิดเบือน”

    เอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ แดนนี ดานอน(Danny Danon) กล่าวในเรื่องนี้“วันนี้ถือเป็นวันใหม่ที่ยูเอ็น ซึ่งเป็นราคาที่พวกเขาทุกคนต้องจ่ายต่อการเหยียดหยามและกีดกันอิสาเอล”

    ซึ่งก่อนหน้า แหล่งข่าวสหรัฐฯได้ออกมาเปิดเผยกับเอพีว่า วอชิงตันมีแผนที่จะลาออกจากองค์การองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติขององค์การสหประชาชาติ หลังจากที่ทางหน่วยงานนี้มีมติหลายครั้งในการแสดงความเห็นที่ทางรัฐบาลทรัมป์ชี้ว่า เป็นการแสดงออกถึงความมีอคติต่อยิว

    ด้านผู้อำนวยการยูเนสโก อีรีนา โบโกวา( Irina Bokova ) กล่าวว่า เธอได้รับหนังสือแจ้งการลาออกอย่างเป็นทางการจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน แล้ว พร้อมกับแสดงความรู้สึกถึงเรื่องนี้ว่า เธอมีความเสียใจอย่างสุดซึ้งในการตัดสินใจของสหรัฐอเมริกาที่ทำการลาออก

    โบโกวายืนยันว่า การลาออกของอเมริกา “ถือเป็นการสูญเสียต่อระบบวัฒนธรรมแบบหลากหลาย และต่อสังคมยูเอ็น”

    ในแถลงการณ์ของผู้อำนวยการยูเนสโก ที่ออกมาในวันพฤหัสบดี(12 ต.ค) โบโกวากล่าวว่า“ในเวลาที่การต่อสู้ต่อแนวคิดความรุนแรงสุดโต่ง มีความต้องการในการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องด้านการศึกษา และในการเจรจาเชิงวัฒนธรรมเพื่อป้องกันแนวคิดความเกลียดชัง แต่เป็นที่น่าเสียดายที่สหรัฐอเมริกาได้ทำการลาออกจากองค์การสหประชาชาติที่เป็นผู้นำในด้านปัญหาเหล่านี้”

    และผู้อำนวยการยูเนสโก ยังให้ความเห็นว่า“ในปี 2011 เมื่อสหรัฐฯหยุดการให้เงินสนับสนุนกับทางหน่วยงาน ดิฉันมีความรู้สึกว่า ทาง UNESCO ไม่เคยมีความสำคัญต่อสหรัฐอเมริกา หรือสหรัฐอเมริกาต่อ UNESCO”

    ทั้งนี้พบว่าในการหยุดการให้เงินช่วยเหลือองค์การยูเนสโก ในปี 2011 เกิดขึ้นเมื่อทางหน่วยงานยอมรับปาเลสไตน์ในฐานะสมาชิกส่งผลทำให้สหรัฐฯไม่พอใจอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม ทางวอชิงตันยังคงมีตัวแทนประจำที่สำนักงานใหญ่ขององค์การยูเนสโก ประจำกรุงปารีส

    โดยเป็นการหยุดให้เงินสนับสนุนแก่ทางหน่วยงานนับตั้งแต่ปี 2011 มาจนถึงปัจจุบันนี้ รอยเตอร์รายงานว่า แต่ละปีวอชิงตันต้องทำการสนับสนุนด้านการเงินทางงบประมาณแก่ทางยูเนสโก จำนวน 80 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งในเวลานี้สหรัฐฯยังคงค้างจ่ายทางหน่วยงานกว่า 500 ล้านดอลลาร์

    รอยเตอร์ชี้ว่า การลาออกของสหรัฐฯในครั้งนี้คาดว่า น่าจะกระทบต่อทางยูเนสโก เนื่องมาจากสหรัฐฯเป็นผู้บริจาครายใหญ่ถึง 1 ใน 5 ของทางหน่วยงาน ซึ่งหน้าที่ของยูเนสโก มีเพื่อปกป้องมรดกโลกเชิงวัฒนธรรมทั่วโลก เป็นต้นว่า เมืองโบราณพัลไมราในซีเรีย อุทยานแห่งชาติแกรนแคนยอนในสหรัฐฯ และเดอะเกรตแบริเออร์รีฟ ของออสเตรเลีย เป็นต้น ทางองค์กรมีเจ้าหน้าที่ทั่วโลกราว 2,000 คน ส่วนใหญ่ประจำที่สำนักงานใหญ่ในฝรั่งเศส

    ซึ่งในปัจจุบันนี้ทางยูเนสโก มีปัญหาด้านการเงิน เพราะนอกจากที่สหรัฐฯจะยังคงค้างจ่ายการสนับสนุนแล้ว พบว่าอีก 3 ชาติเป็นต้นว่า อังกฤษ ญี่ปุ่น และ บราซิล ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือ ยังคงไม่จ่ายเงินช่วยเหลือทางหน่วยงานประจำงลประมาณปีนี้

    แหล่งข่าวการทูตอย่างน้อย 3 คนได้ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์วันพฤหัสบดี(12 ต.ค)ว่า การลาออกจะมีผลอย่างเป็นทางการในสิ้นเดือนธันวาคม 2018 ไปแล้ว

    560000010839002.jpg








    https://mgronline.com/around/detail/9600000104585
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...