ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ต้องสู้จริงๆ
    ปอกเปลือก ทรราช
    กองทัพซีเรียประสบความสำเร็จอีกครั้งในการไล่ยึดพื้นที่ในจังหวัด Deir ez-Zor คือจากขบวนการก่อการร้ายไอซิส นักข่าวสาวจาก RT ภาคภาษาอาระบิกนำทัวร์พื้นที่พร้อมกับหน่วย Tiger Force จากกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย (17 ต.ค.60)
    -------------
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ธีระยุทธ์ วรรณบวร

    22552796_296388180844490_1710945472066690811_n.jpg

    22491588_296388304177811_8561924038463344494_n.jpg


    22490225_296388237511151_752756988795638992_n.jpg




    เป็นผลสำเร็จ
    พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในนครย่างกุ้ง กว่า 3 หมื่นคน ร่วมกันฟังการปราศรัยจากพระสงฆ์ กลุ่มมาบาธา นำโดย พระวีระธุ โดยมีการปราศรัยอนาคตของการปกครองพม่า และประกาศความสำเร็จ ที่สามารถผลักดันกฎหมายคุ้มครองศาสนาและเผ่าพันธุ์ของชาติพันธุ์พม่า โดยให้ความสำคัญในการแต่งงานและเปลี่ยนศาสนา โดยผ่านกฎหมาย 4 ฉบับได้สำเร็จ ได้แก่
    1.กฎหมายว่าด้วยการควบคุมประชากร
    2.กฎหมายการเปลี่ยนศาสนา มิให้ชาวพุทธเปลี่ยนเป็นอิสลาม
    3.กฎหมายการมีคู่สมรสเพียงคนเดียว รักเดียวใจเดียว ห้ามมีภรรยามากกว่า 1 คน
    4.กฎหมายที่ห้ามหญิงชาวพุทธแต่งงานกับชายชาวมุสลิมเปลี่ยนศาสนา
    ขณะที่หากนำมาเปรียบเทียบหลักศาสนาอิสลาม ที่มีสถานะเป็นกฎหมายศาสนาเท่านั้น ไม่ใช่กฎหมายปกครองประเทศ เช่น
    ห้ามหญิงมุสลิมเปลี่ยนเป็นศาสนาอื่น หากชายศาสนาอื่นแต่งงานข้ามศาสนาต้องเข้าอิสลามเท่านั้น
    การมีบุตรได้ไม่จำกัด บุตรต้องเป็นอิสลาม
    ชายมุสลิมสามารถมีภรรยาได้ถึง 4 คน
    การบัญญัติกฏหมายดังกล่าวจึงเป็นการคุ้มครองเผ่าพันธุ์ วัฒนธรรม ประเพณีของพม่า โดยการให้ความสำคัญประชากรพม่า การประกาศความสำเร็จดังกล่าว ย่อมแสดงให้เห็นถึงความพร้อมใจของทั้งฝ่ายรัฐบาลทหาร และประชาชนส่วนใหญ่ในพม่า และยังให้ความสำคัญกับแนวทางการปกครองโดยมีพระสงฆ์เป็นแกนนำ และมองไปถึงอนาคตของประเทศพม่าภายภาคหน้า ที่ต้องเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเอง ไปตามกฎศาสนาอิสลาม
    ถึงแม้ว่าหลังการผ่านกฏหมายฉบับดังกล่าว จะถูกองค์กรสิทธิมนุษยชนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า กลุ่มผู้สนับสนุนดังกล่าวไม่เห็นด้วยกับองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและนอกประเทศกดดัน แต่เพราะมีแรงสนับสนุนจากรัฐบาล จึงทำให้กฎหมายฉบับดังกล่าว ผ่านสำเร็จ กลุ่มผู้สนับสนุนดังกล่าว ให้เหตุผลว่า พวกเขามองไปถึงอนาคตรุ่นลูกหลานของชาวพม่า และเป็นการคงไว้ ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมของพม่าอีกด้วย เพราะกฎในศาสนาอิสลาม ไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิม และไม่สอดคล้องกับการปกครองในประเทศพม่า
    =====================
    #รัฐบาลพม่าห้ามผู้หญิงแต่งงานกับต่างชาติ
    รัฐบาลพม่าไม่อนุญาตให้ผู้หญิงแต่งงานกับชาวต่างชาติ โดยระบุว่าเพื่อป้องกันหญิงพม่าตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ ขณะที่องค์กรด้านสิทธิสตรีมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของผู้หญิง
    รัฐบาลพม่าออกมาตรการไม่อนุญาตให้ผู้หญิงแต่งงานกับชาวต่างชาติ โดยมาตราการนี้มีขึ้นหลังจากที่ทางการพม่าได้จับกุมนายหน้าชาวพม่าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ของชาวต่างชาติเมื่อเดือนที่แล้ว ประกอบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เคยมีหญิงพม่าฆ่าตัวตาย เพราะถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานกับชาวต่างชาติ ซึ่งมาตรการใหม่จะบังคับใช้เฉพาะกับหญิงชาวพม่าที่อยู่ในประเทศเท่านั้น
    ก่อนหน้านี้ชาวพม่าที่ต้องการแต่งงานกับชาวต่างชาติจะต้องยื่นเรื่องต่อศาลแขวงล่วงหน้า 21 วัน เพื่อขออนุญาตแต่งงาน แต่สำหรับผู้หญิงจะไม่ได้รับอนุญาต รัฐบาลพม่าระบุว่า มาตรการนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์
    ขณะที่สมาคมผู้ประกอบการหญิงของพม่ามองว่า ผู้หญิงควรมีสิทธิ์เลือกที่จะแต่งงานกับใครก็ได้ที่พวกเธอพอใจ เช่นเดียวกับนายอ่อง เทียน ที่ปรึกษาทางกฏหมาย ที่แม้จะเห็นด้วยว่า วิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ แต่หากมองอีกแง่ก็เห็นว่าไม่ยุติธรรมที่จะจำกัดสิทธิ์ของคนที่รักกันอย่างแท้จริง และต้องการแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
    http://news.sanook.com/937453/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กองทัพพม่าอ้าง เตรียมสอบสวนทหารใต้บังคับบัญชา กรณีถูกกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐอาระกัน ล่าสุดตัวเลขผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญามากกว่า 5 แสนคนทะลักเข้าบังกลาเทศ 0 BY ADMIN ON 14 ตุลาคม, 2017

    IMG_20171014_130549.jpg
    ภาพ The Irrawaddy

    กองทัพพม่าได้ออกมาประกาศตั้งทีมสืบสวนทหารใต้บังคับบัญชาว่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวโรฮิงญาทางตะวันตกของประเทศหรือไม่ หลังจากทางกองทัพพม่าถูกกล่าวหาว่าได้ใช้ปฏิบัติการทางทหารกวาดล้างและละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวโรฮิงญา จนทำให้มีชาวโรฮิงญากว่าครึ่งล้านทะลักเข้าบังกลาเทศ ที่มีพรมแดนติดกับพม่า หลังเกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาโจมตีสถานีตำรวจพม่าเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และทำให้ทางการพม่าได้ตอบโต้กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาอย่างหนัก และสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ยังคงตึงเครียด

    ทางกองทัพพม่าอ้างว่า ขณะนี้ทีมสืบสวนได้เริ่มทำการสืบสวนว่าทหารใต้บังคับบัญชาได้ทำตามหน้าที่หรือปฏิบัติตามกฎของกองทัพระหว่างปฎิบัติการในรัฐอาระกันหรือไม่ โดยหากมีข้อมูลที่เพียงพอ ทางกองทัพลั่นจะนำออกมารายงานอย่างเป็นทางการ

    ท่าทีของกองทัพพม่าในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีชาวมุลลิมโรฮิงญามากกว่า 500,000 คน จากทางเหนือของรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่ ได้อพยพหนีข้ามไปยังบังกลาเทศ ขณะที่ปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาของกองทัพพม่าถูกนานาชาติกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่นการฆ่าสังหาร การข่มขืน และการเผาทำลายหมู่บ้านชาวโรฮิงญา

    ทั้งนี้ สหประชาชาติได้ยกตัวอย่างปฎิบัติการของกองทัพพม่าว่าเหมือนตัวอย่างตำราเรียนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กลุ่มชาติพันธุ์ โดยกล่าวหาอีกว่า กองทัพพม่ามีเจตนาขับไล่ประชากรชาวมุสลิมโรฮิงญาออกจากประเทศ และการทำลายทรัพย์สินของชาวโรฮิงญาก็เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวโรฮิงญาเดินทางกลับพม่า อย่างไรก็ตาม แม้ท่าทีของกองทัพพม่าที่ระบุว่าจะออกมาเปิดเผยรายงาน หากพบมีทหารใต้บังคับบัญชาละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐอาระกันก็ตาม แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยชัดเจนว่าจะออกมาเปิดเผยรายงานดังกล่าวเมื่อไหร่

    ขณะที่อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ชาวโรฮิงญา หรือชาวเบงกาลีที่ทางการพม่าเรียก อีกหลายพันชีวิตได้รออยู่ตามชายฝั่งแนวชายแดนพม่า-บังกลาเทศเพื่อเดินทางเข้าบังกลาเทศ เหมือนเช่นนายมาฮาหมัด ทารัส วัย 25 ปี พร้อมภรรยาและลูกอีก 7 คน ที่ระบุว่า เขาจะไม่มีทางเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านของเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองบูทีดอง โดยขณะนี้เขาและครอบครัวยังเดินทางเข้าบังกลาเทศไม่สำเร็จ และอาหารที่เตรียมมาก็กำลังจะหมดลงในไม่ช้า “เราสามารถไปถึงบังกลาเทศได้ หากเรามีเงิน การไม่มีเงินทำให้เราต้องรออยู่ตรงนี้เป็นเวลานาน ผมจะไม่กลับไป แม้ต้องตายอยู่ตรงนี้เพื่อรอเข้าบังกลาเทศก็ตาม” นายมาฮาหมัดยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวโรฮิงญาจำนวนมากหนีออกมาจากหมู่บ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้ายโดยชาวยะไข่ ขณะที่ทางการพม่าเตรียมที่จะดำเนินการแผนพิสูจน์สัญชาติให้กับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศ โดยหากพบว่าเป็นชาวโรฮิงญาที่มาจากพม่าจริงก็จะรับกลับมาพม่า อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง ชาวยะไข่และชาวพื้นเมืองอย่างชาว Mro และชาว Dainet ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐอาระกันเช่นเดียวกัน เมื่อทราบถึงแผนการรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับพม่าต่างแสดงความกังวลและไม่เห็นด้วย โดยระบุไม่สามารถอยู่ร่วมกับชาวโรฮิงญาได้ เนื่องจากหวั่นไม่ปลอดภัย

    ทั้งนี้ เหตุการณ์ความขัดแย้งและความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ได้สร้างความบาดหมางระหว่างชุมชนชาวมุสลิมและชาวพุทธ และทำให้ทั้งสองชุมชนต่างไม่มีความเชื่อใจต่อกันนับตั้งแต่นั้นมา ด้านรัฐบาลพม่า โดยเฉพาะนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐกำลังถูกนานาชาติกดดันอย่างหนักเกี่ยวกับประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกัน

    ที่มา Irrawaddy/Myanmar TImes แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ

    สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=17829 .
    http://transbordernews.in.th/home/?p=17829
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ท่องเที่ยวพม่ากระทบหนัก เหตุความรุนแรงในรัฐอาระกัน ชาวยุโรป-อเมริกายกเลิกทัวร์กันอื้อ หวั่นก่อการร้ายลามทั่วประเทศ 0 BY ADMIN ON 12 ตุลาคม, 2017

    tourism.jpg
    ภาพจาก The Irrawaddy

    สำนักข่าวอิรวดีเปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า จากข้อมูลของหน่วยงานการท่องเที่ยวพม่าพบว่า แม้จะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวแล้ว กลับพบยอดตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงในปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากยุโรปและอเมริกาได้ยกเลิกการจองทัวร์และห้องพัก หลังจากเกิดเหตุความรุนแรงทางภาคตะวันตกของประเทศ รวมถึงความวิตกกังวลเรื่องการก่อการร้ายในพม่า ขณะที่มีรายงาน การท่องเที่ยวในรัฐอาระกันยิ่งได้รับผลกระทบหนัก พบนักท่องเที่ยวลดลงกว่าครึ่ง

    นายอูเท็ต หลิ่นโท ประธานจากหน่วยงานการท่องเที่ยวพม่า หรือ Union of Myanmar Travel Association (UMTA) ได้กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกันส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวบางส่วนยกเลิกการจองท่องเที่ยวสถานท่องเที่ยวชื่อดังของรัฐอาระกัน อย่างหาดหง่าปาหลี่ นอกจากนี้บริษัททัวร์ที่อยู่ในเมืองมรัคอู รัฐอาระกันก็ได้ระบุข้อมูลที่ตรงกันว่า ยอดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในรัฐอาระกันลดลงกว่าครึ่งในช่วงเวลานี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม สถานท่องเที่ยวตามเมืองอื่น ๆ อย่างเจดีย์พุกามและทะเลสาบอินเล ยังคงพบว่านักท่องเที่ยวไม่ได้มีการยกเลิกการจอง

    “ในช่วงเดือนนี้เมื่อปีที่แล้ว มีการจองห้องพักโรงแรมเต็มทั้งหมด รวมถึงการจองรถท่องเที่ยว แต่ปีนี้กลับเงียบเหงา” นางมะโมน ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในเมืองมรัคอูกล่าว

    ขณะที่นายอูติ่นวิน ผู้อำนวยการทั่วไปกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวพม่า กล่าวว่า เหตุการณ์ในรัฐอาระกันส่งผลให้นักท่องเที่ยวรู้สึกหวาดกลัวและส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพม่าอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการก่อการร้ายในพม่า

    “เปรียบเทียบกับปีที่แล้ว สถานการณ์ดูไม่ค่อยดี การจองถูกยกเลิก โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวยุโรปและอเมริกา และมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากจากประเทศเหล่านี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว” นางดอว์มอมอ ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่เจดีย์พุกามกล่าว

    ทั้งนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพม่าต่างหวังว่าจะเกิดความมั่นคงสงบเรียบร้อยขึ้นทั้งในรัฐอาระกันและพื้นที่ใกล้เคียง โดยระบุ เหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคตะวันตกของประเทศนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภาพรวมแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศด้วย

    “ถึงแม้จะไม่กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาก แต่เราก็ยังรู้สึกกังวลในเรื่องความปลอดภัย หลังทางการพม่าออกมาประกาศว่าอาจมีการก่อการร้ายตามเมืองใหญ่ ๆ เราหวังว่าจะเกิดความสงบและความมั่นคงในรัฐอาระกัน และหวังด้วยว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวพม่าก่อนที่จะหมดฤดูการท่องเที่ยว” ผู้ประกอบการโรงแรมจากเมืองมัณฑะเลย์กล่าว

    ทั้งนี้จากข้อมูลกระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวพม่าพบว่า ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวราว 2.9 ล้านคน เดินทางมาท่องเที่ยวในพม่า และมีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยว 3.5 ล้านคนเดินทางเยือนพม่าในปีนี้ โดยจากเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวพม่าแล้ว 2.27 ล้านคน

    ที่มา Irrawaddy แปลและเรียบเรียงโดย สำนักข่าวชายขอบ

    สำนักข่าวชายขอบ : http://transbordernews.in.th/home/?p=17822 .

    http://transbordernews.in.th/home/?p=17822
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นาซายอมรับแล้วว่าดาวเคราะห์ดวงที่ 9 มีอยู่จริงและอาจเป็นซูเปอร์เอิร์ธที่หายสาบสูญไป 17 ต.ค. 2560

    planet-nine-the-supereart-1-640x400.jpg

    upload_2017-10-18_14-53-56.gif
    นาซาแถลงยอมรับแล้วว่าดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ซึ่งนักดาราศาสตร์กำลังมุ่งมั่นหามันให้พบนั้นมีอยู่จริง และการคงอยู่ของมันจะช่วยสร้างความกระจ่างให้กับปริศนาหลายอย่างในระบบสุริยะของเรา

    ดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ถูกตั้งสมมุติฐานว่าโคจรอยู่ที่ขอบนอกของระบบสุริยะ มีมวลมากกว่าโลก 10 เท่า อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าระยะทางจากดวงอาทิตย์ถึงดาวเนปจูน 20 เท่า โคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบใช้เวลาราว 15,000 ปี แม้ว่าจะยังไม่มีโอกาสได้เห็นมันโดยตรงแต่นักดาราศาสตร์พบว่าลักษณะที่แปลกประหลาดหลายอย่างของระบบสุริยะสามารถอธิบายได้อย่างดีที่สุดด้วยอิทธิพลจากแรงโน้มถ่วงของมัน นาซาบอกว่าถึงตอนนี้มันยากมากที่จะคิดว่าระบบสุริยาของเราไม่มีดาวเคราะห์ดวงที่ 9


    “ตอนนี้มีหลักฐานจากการสังเกตการณ์ถึง 5 อย่างที่บ่งชี้ถึงการคงอยู่ของดาวเคราะห์ดวงที่ 9” Konstantin Batygin นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (Caltech) กล่าว “ถ้าคุณคิดว่าไม่มีดาวเคราะห์ดวงที่ 9 คุณจะเจอกับปัญหาเพิ่มขึ้นแทนที่จะแก้ปัญหาได้ คุณจะต้องเจอทันทีกับปริศนา 5 อย่างและจะต้องมีอีก 5 ทฤษฎีที่จะมาอธิบายมัน”

    Konstantin Batygin and Mike Brown นักดาราศาสตร์สองคนจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ได้นำเสนอหลักฐานการดำรงอยู่ของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม ปี 2016 วัตถุในแถบไคเปอร์ 6 ดวงมีระนาบการโคจรที่ผิดปกติ ทั้งหมดมีวงโคจรชี้ไปในทิศทางเดียวกันซึ่งแปลกและไม่ชอบมาพากล และยังเอียงทำมุม 30 องศาเทียบกับระนาบการโคจรของดาวเคราะห์ทั้งแปด ซึ่งแสดงถึงว่ามีดาวเคราะห์ใหญ่ขนาด 10 เท่าของโลกกำลังดึงพวกมันอยู่จากด้านนอกในเงามืด

    upload_2017-10-18_14-53-57.gif
    planet-nine-the-supereart-2.jpg

    และจากการใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ของระบบสุริยะที่มีดาวเคราะห์ดวงที่ 9 รวมอยู่ด้วย Batygin และ Brown พบว่ามีวัตถุอีกจำนวนมากที่เอียงทำมุมถึง 90 องศาเทียบกับระนาบของระบบสุริยะ และจากการสำรวจเพิ่มเติมได้พบกับวัตถุ 5 ดวงที่สอดคล้องกับสมมุติฐานดังกล่าว

    จากนั้นพวกเขาได้พบหลักฐานการคงอยู่ของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 เพิ่มเติมอีก Batygin และ Brown กับนักศึกษา Elizabeth Bailey ได้แสดงให้เห็นว่าสาเหตุที่ระนาบโคจรของดาวเคราะห์ทั้งแปดเอียงราว 6 องศาเทียบกับเส้นศูนย์สูตรของดวงอาทิตย์นั้นเกิดจากอิทธิพลของดาวเคราะห์ดวงที่ 9

    และสุดท้ายทีมนักวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการคงอยู่ของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 สามารถอธิบายว่าทำไมวัตถุในแถบไคเปอร์ถึงได้โคจรในทิศทางตรงกันข้ามกับวัตถุอื่นในระบบสุริยะ

    “ไม่มีแบบจำลองอื่นใดที่สามารถอธิบายความแปลกประหลาดของวงโคจรที่เอียงอย่างมากนี้” Batygin กล่าว “ดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ วัตถุต่างๆเอียงออกจากระนาบของระบบสุริยะด้วยอิทธิพลของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 และกระจัดกระจายเข้ามาข้างในโดยดาวเนปจูน”

    ขั้นตอนที่เหลือก็คือการหาดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ให้พบ Batygin และ Brown กำลังใช้กล้องโทรทรรศน์ Subaru ที่หอดูดาว Mauna Kea ในฮาวายเพื่อพยายามทำสิ่งนั้นอยู่ และกล้องโทรทรรศน์ Subaru ก็เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการค้นหาวัตถุสลัวเลือนลางที่อยู่ห่างไกลมากแบบนั้น

    planet-nine-the-supereart-3.jpg

    นักวิทยาศาสตร์คนอื่นได้เสนอการอธิบายที่แตกต่างออกไปสำหรับหลักฐานของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ที่แสดงโดยทีมงานของ Batygin และ Brown จากการวิเคราะห์ข้อมูลในโครงการสำรวจอวกาศที่ชื่อ the Outer Solar System Origins Survey เมื่อไม่นานมานี้ซึ่งพบวัตถุพ้นดาวเนปจูน (Trans-Neptunian Object) มากกว่า 800 ดวง การกระจายแบบสุ่มของวัตถุเหล่านี้อาจสามารถส่งผลในแบบเดียวกันต่อระนาบการโคจรของวัตถุอื่นได้เช่นกัน

    ในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมีการสำรวจพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะมากมายที่นักดาราศาสตร์เรียกว่า ซูเปอร์เอิร์ธ (super Earths) – ดาวเคราะห์หินที่ใหญ่กว่าโลกแต่เล็กกว่าดาวเนปจูน (เนปจูนใหญ่กว่าโลก 17 เท่า) – อย่างไรก็ตามยังไม่มีซูเปอร์เอิร์ธใดถูกค้นพบในระบบสุริยะเลย ดังนั้นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 จึงอาจเป็นซูเปอร์เอิร์ธที่หายสาบสูญไปจากระบบสุริยะของเราก็เป็นได้

    ข้อมูลและภาพจาก nasa, space

    https://www.takieng.com/stories/5832
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2017
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Imm Journal

    upload_2017-10-18_15-15-0.png

    แฉ.....บทบาทของระบอบไซออนิสต์ในการสังหารชาวมุสลิมชาวโรฮิงญา

    การมีส่วนร่วมของอิสราเอลในการใช้กำลังรุนแรงและสนับสนุนการสังหารชาวมุสลิมในพม่าเป็นที่ประจักษ์ชัด

    ในขณะที่ตัวเลขสถิติของสหประชาชาติระบุว่าจำนวนชาวมุสลิมโรฮิงญาที่หนีเหตุการณ์ความรุนแรงในพม่าไปยังบังคลาเทศมีจำนวนประมาณ 600,000 คน ซึ่งการมีส่วนร่วมของอิสราเอลในการใช้กำลังรุนแรงและสนับสนุนการสังหารชาวมุสลิมในพม่าเป็นที่ประจักษ์ชัด

    ถึงแม้สหรัฐอเมริกาและยุโรปจะสั่งห้ามการขายอาวุธให้กับรัฐบาลพม่าที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมชาวโรฮิงญา ทว่าอิสราเอลยังคงจัดหาอาวุธให้กับรัฐบาลพม่าอย่างต่อเนื่อง

    รายงานยังเน้นย้ำว่าอิสราเอลได้จัดตั้งความสัมพันธ์ทางทหารและความมั่นคงกับคณะสภาทหารพม่า

    รายงานแสดงให้เห็นว่าอิสราเอลขายอาวุธและอุปกรณ์เครื่องมือด้านข่าวกรองให้กับรัฐบาลพม่าและสนับสนุนการฝึกกองกำลังทหารให้กับพม่า

    รายงานกล่าวถึงผลการวิจัยล่าสุดของหนังสือพิมพ์ฮาเร็ตซ์เกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหารระหว่างอิสราเอลและพม่าซึ่งเริ่มขึ้นในปี พ. ศ. 2558 พร้อมกับการมาถึงของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจากประเทศพม่า ผู้บัญชาการพม่าพบกับผู้นำอิสราเอลและหัวหน้าหน่วยกองบัญชาการกองทัพบกและเจ้าหน้าที่อิสราเอลคนอื่น ๆ ในเวลานั้นหัวหน้ากองกำลังพม่าได้แพร่ภาพการเดินทางไปอิสราเอล มีการเจรจาเพื่อซื้อขายอุปกรณ์ทางทหารและฝึกกองกำลังพม่า และอิสราเอลพยายามที่จะเซ็นเซอร์และปกปิดความสัมพันธ์กับพม่า

    http://akharinkhabar.ir/world/3804527/نقش-رژيم-صهيونيستي-در-کشتار-مسلمانان-روهينگيا
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Imm Journal

    upload_2017-10-18_15-17-38.png

    ต้องอ่าน... ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในเยเมน ตั้งแต่ซาอุฯเริ่มต้นการโจมตีเยเมนจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2017

    มีพลเรือน 32,749 คนของเยเมนถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บระหว่างการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรนำโดยซาอุดิอาระเบียที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ

    มีพื้นที่พลเรือนประมาณ 450,000 แห่ง ได้แก่ โรงเรียน สถาบันการศึกษา ที่อยู่อาศัย มัสยิด โรงพยาบาล สิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าและการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้พังย่อยยับหรือเสียหาย

    70% ของประชากรเยเมน (ประมาณ 20 ล้านคน) ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และมีเด็กประมาณ 400,000 คนป่วยเป็นโรคขาดสารอาหารอย่างรุนแรง

    เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2017 รายงานว่ามีผู้ติดเชื้ออหิวาตกโรคกว่า 372,900 รายและเสียชีวิต 1,837 ราย

    ชาวเยเมนเกือบ 27 ล้านคนตกอยู่ในสภาพแห่งความหิวโหยและความอดอยากรวมทั้งผู้หญิงและเด็ก

    เด็กชาวเยเมนจำนวน 4.5 ล้านคนต้องออกจากการศึกษาซึ่งหากเกิดสงครามอย่างต่อเนื่องก็จะถูกดึงให้สมัครเป็นทหาร

    ระบบการดูแลสุขภาพเสี่ยงต่อการล่มสลายและโรงพยาบาลและศูนย์การรักษามียาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ

    วิกฤติความมั่นคงด้านอาหารในปัจจุบันการทำลายคลินิกอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียสาธารณูปโภคด้านการเกษตรสุขภาพและการขนส่งเป็น "ยุทธวิธีสงคราม" ที่กำลังถูกใช้โดยพันธมิตรซาอุดิอาระเบีย

    เครือข่ายของเรือนจำลับในเยเมนใต้ได้รับการจัดตั้งโดย United Arab Emirates และกองกำลังพันธมิตรซึ่งพลเรือนเยเมนหลายร้อยคนถูกจับทรมานหรือหายตัวไปในเรือนจำเหล่านี้

    http://iuvmpress.com/fa/21482
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Imm Journal

    upload_2017-10-18_15-19-39.png

    จับตา แกนนำไอซิสคนใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...!

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชี้ มีความเป็นไปได้สูงที่ “มะห์มูด อะห์มัด” ผู้ก่อการร้ายชาวมาเลเซีย จะเป็น ผู้นำ (อะมีร์)ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    หลังจากการเสียชีวิตของผู้นำกลุ่มผู้ก่อการร้ายสองคนในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ในช่วงไม่กี่วันนี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคง เผยจากผู้เชี่ยวชาญด้าน ว่า “มะห์มูด อะห์มัด” ผู้ก่อการร้ายชาวมาเลย์เป็นหนึ่งในตัวเลือกหลักในฐานะหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายคนใหม่!!!

    การแต่งตั้งครั้งนี้จะมีขึ้นหลังจากที่ อิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มติดอาวุธ ไอซิสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกกองทัพฟิลิปปินส์ปลิดชีพระหว่างปฏิบัติการชิงคืนเมืองมาราวีบนเกาะมินดาเนา

    เขาในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อว่าการสังหารองค์ประกอบหลักของผู้ก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และซีเรียรวมถึงฟิลิปปินส์นั้น หาก Mahmoud Ahmad ประสบความสำเร็จหนีออกจากเมือง 'มาราวี' ได้เขาจะเป็นตัวเลือกหลักและสำคัญในการเป็นผู้นำกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาค

    http://www.irna.ir/fa/News/82698
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai
    ... "ยุโรปไม่สนใจทรัมป์ ยังปกป้องบริษัทที่ค้าขายกับอิหร่านต่อไป"

    22491583_10210088268833148_4997104198168715360_n.jpg

    ... ตั้งแต่มีการผ่อนปรนจากยุโรปต่ออิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ในปี 2015 ในข้อตกลง P5+1 มีผลทำให้การค้าระหว่าง "อิหร่าน" กับ "ยุโรป" เพิ่มขึ้นมากถึง 93% และทำให้ซาอุดต้องซื้ออาวุธอีแร้ง และอีแร้งก็แถมโดยการเอาใจ กำลังออกกฏหมายต่อต้านคว่ำบาตร อิหร่าน รวมทั้งบีบประเทศในคอก อย่างยุโรปให้หยุดการค้าขายกับอิหร่านด้วย

    ... แต่ปรากฏว่ายุโรปยังไม่สนใจ และรัฐบาลพวกเขาก็จะปกป้องบริษัทเหล่านั้นในการยังคบค้ากับพี่เบิ้มย่านอ่าวเปอร์เซียเหมือนเดิม

    ... โดยตอนนี้ ทรัมป์กำลังบีบสถาคองเกรสโดยการให้เวลา 60 วันในการรื้อฟื้นการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเพิ่งมีการผ่อนปรนมาเมื่อสองปีก่อน

    ... โดยสาเหตุที่ทรัมป์ต้องเอาเรื่องนี้เข้าสภาก็เพราะทั้งเขาและสภาก็ถูกบีบจากพวกนิยม "อิสราเอล" ที่อ้างว่านอกจากเรื่องการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์แล้ว ก็ยังมีเรื่องที่อิหร่านไปเกี่ยวข้องและสนับสนุนกลุ่มฮูติในเยเมน และ กลุ่มเฮสบุลเลาะห์ ที่อ้างว่าทำให้ไม่เกิดความมั่นคงในดินแดนนั้น ที่เป็นหนามทิ่มใจตามชายแดนของทั้งสองประเทศทั้งซาอุดและอิสราเอลตามลำดับ และแนวโน้มที่สภาจะผ่านกฏหมายคว่ำบาตรอีกครั้งก็มีสูงมาก ที่แปลว่าอเมริกาจะฉีกข้อตกลงที่ทำเมื่อปี 2015 ใน P5+1 ในเรื่องผ่อนปรนการคว่ำบาตรอิหร่านทิ้งขยะไป และเป็นการวัดใจยุโรปว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือไป ( ที่อาจจะมีก่อการร้ายเกิดขึ้นมากขึ้น หรือ การประท้วงแบ้่งแยกประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ )

    ... The US Congress is under the influence not of any American interests when it comes to Iran necessarily. There is heavy influence in the American Congress from the pro-Israeli lobbies and the neo-conservative elements

    ... หนึ่งในผู้บริจาคเงินสนับสนุนทรัมป์สมัยเลือกตั้งประธานาธิบดีก็คือ Sheldon Adelson ที่บริจาคไป 40 ล้านดอลล่าร์ เขาคือผู้ที่นิยม หรือ นายหน้าของ "อิสราเอล" ในอเมริกานั่นเอง และเขาก็พยายามจะดันกฏหมายนี้ให้ผ่าน เพื่อเอาใจรัฐยิวให้ได้

    ... เป็นไปได้สูงที่กฏหมายต่อต้านอิหร่านเฉพาะทางเรื่องนี้จะผ่าน และจะมีผลทำให้ยุโรปเริ่มเสียงแตก อาจจะมีประเทศที่กล้าเดินหนีอเมริกา และกลัวต้องเดินตามก้นอเมริกา และจะทำให้เกิดการค้าขายระหว่างอิหร่านและยุโรปต้องสะดุดและลดความรุ่งเรืองร้อนแรงลง และถ้ามีประเทศที่ไม่เห็นด้วย เช่นประธานาธิบดีหนุ่มหน้าใหม่ของฝรั่งเศส อย่างนายมาครองจะบอกว่า ทรัมป์อย่าฉีกข้อตกลง P5+1 เมื่อปี 2015 เลย ก็คาดว่าอาจจะมีการก่อการร้ายที่โยนบาปไปให้กับชาวมุสลิมอีกตามเคย ตามกลยุทธ์เดิมๆที่ใช้ไปทั่วโลก

    ... และแน่นอน จะมีการส่งเสริมให้กองกำลังชาว "เคิร์ด" ให้มาป่วนตามรอยแดนอิหร่านและอิรักมากขึ้น ที่ในตอนนี้ อเมริกาก็ส่งอาวุธและความช่วยเหลือไปให้ชาวเคิร์ดในซีเรียอยู่แล้ว ที่ตุรกีบอกว่าอาวุธเหล่านั้นจะไหลไปทั่วในชาวเคิร์ดที่ใกล้เคียง แปลว่า ชาวเคิร์ดจะเป็นตัวละครใหม่ แทน ไอซิส ที่อีแร้งจะใช้ใน หลังจากกฏหมายคว่ำบาตรอิหร่านฉบับใหม่ผ่าน

    ... และรับประกันได้ว่า โลกตะวันออกกลางจะเดือดและล้มตายมากขึ้นมากเดิมแน่นอน เพราะเคิร์ดก็ต้องโชว์ผลงานเต็มที่เพราะอยากตั้งเป็นประเทศใหม่ โดยมีพวกอิสราเอล อเมริกา ซาอุดิอาระเบีย ยูเออี หนุนเต็มที่ และที่สำคัญกลุ่มนิยมและนายหน้าอิสราเอลในอเมริกานั้นยังมีอิทธิพลเหนือรัฐบาลและสภาคองเกรสยุคทรัมป์มากมาย

    ...
    .

    .
    https://www.rt.com/news/406981-trump-iran-deal-sanctions/
    https://en.wikipedia.org/wiki/Sanctions_against_Iran
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    ... "ด้านมืดของเพิร์ล ฮาร์เบอร์ , แฟรงค์ ดี รูสเวลท์ กับ วอลล์สตรีท ผู้สร้างสงครามเพื่อนายธนาคาร"

    22528160_10210082796136334_861635721198902030_n.jpg

    ... "แฟรงค์ ดี รูสเวลท์” ผู้มีเครือญาติและตระกูลที่ทำงานกับนายธนาคารในวอลล์สตรีทนั้น มีความสนิทกับพวกนายธนาคารมานานตั้งแต่ตอนที่เขายังทำงานเป็นผู้ตรวจการทางด้านการเงินและดีลเลอ่ร์ด้านพันธบัตรในวอลล์สตรีทและช่วงนี้เองที่เขามีสายสัมพันธ์ทางเมืองกับวอลล์สตรีทที่พร้อมสนับสนุนเขาให้ขึ้นสู่การเป็นผู้นำประเทศอเมริกาในเวลาต่อมา

    ... เขาออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับวอลล์สตรีทมากมายแต่กลับทำร้ายบริษัทขนาดเล็กจนต้องดำเนินกิจการแบบยากลำบาก เพราะเขาเชื่อเรื่องการตลาดแบบผูกขาดโดยนายทุนใหญ่แบบไม่เสรีที่แท้จริง ( แบบไทยในปัจจุบัน )
    เช่น ในปี 1933 เขาได้ออกกฎหมายอื้อฉาวอย่าง Executive Order 6102 เพื่อที่จะออก “กฎหมายปล้นทองตำ” จากชาวบ้านอเมริกันทั่วประเทศห้ามมีการยึดถือทองคำ มิฉะนั้นจะมีความผิดโดนปรับหรือจำคุก เพื่อจะเอาทองคำเหล่านั้นไปให้นายธนาคารกลางอเมริกาที่เป็นนายธนาคารเอกชนพวกพ้องของเขาเสียเอง

    ... this elite group profited from the decrees and programmes generated by their old pal in the White House, whilst thousands of small businesses suffered and millions were unemployed

    ... ช่วง “สงครามโลกครั้งที่ 2” ที่หน้าฉากอเมริกาเล่นละครว่าเป็นกลางแต่ความจริงได้แอบสนับสนุนพรรคนาซีของฮิตเล่อร์ผ่านทางสแตนดาร์ดออยล์ที่ช่วยเหลือบริษัทค้าอาวุธอย่าง IG Farben มาตลอด รวมทั้งธนาคารยูเนี่ยนของปู่ประธานาธิบดีบุชน้อย ในการสนับสนุนให้พรรคนาซีป่วนยุโรปให้มีการฆ่ากันตายเองภายในทวีปมากที่สุด เพื่อพวกเขาจะได้เป็นใหญ่คนเดียวในโลกหลังจากสงคราม ตามแนวคิด “การจัดระเบียบโลกใหม่” หรือ New World Order

    ... ในตอนนั้นพวกเขาได้ปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองดูเป็นพระเอกและจะต้องบีบให้ “ญี่ปุ่น” อดทนไม่ไหวต้องประกาศสงครามก่อน ( แบบที่ตอนนี้พวกเขาบีบ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ เวเนซุเอล่า อยู่ ) โดยมีการวางแผนในการยึดทรัพย์สินของญี่ปุ่นเอาไว้ ห้ามขายน้ำมันให้ญี่ปุ่น จนญี่ปุ่นทนไม่ไหวต้องส่งเครื่องบินไปโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ในวันที่ 7 ธันวาคม 1941

    ... โดยในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1941 นั้น มีการบันทึกว่ามีการพุดคุยวางแผนไว้เป็นอย่างดีว่า จาก Henry Stimson รัฐมนตรีกระทรวงสงครามของอเมริกา บอกว่า “คำถามคือว่าเราจะต้องทำให้ญี่ปุ่นเริ่มสงครามก่อนและเป็น “โจรของโลก” ให้ได้” เพื่อพวกเขาจะได้เป็นพระเอก ต้องถูกโจมตีก่อน

    ... ก่อนนั้นประชาชนชาวอเมริกาประมาณ 85% อยากให้รัฐบาลวางตัวเป็นกลาง ไม่อยากให้เลือกข้าง แต่ทางผู้ปกครองต้องการสร้างประโยชน์จากสงครามเช่นการให้กู้เงินและมีอิทธิพลในเอเชียหลังจากสงครามแทน อังกฤษและฝรั่งเศส จึงต้องเป็นผู้ร่วมชนะสงครามด้วย หลังจากเพิร์ล ฮาร์เบอร์ มีเด็กหนุ่มอเมริกันรักชาติแต่ไม่ทันเกมแห่สมัครมาเป็นทหารมากมายเป็นล้านคนเพื่อรบกับฝ่ายอักษะ

    ... ก่อนหน้าเพิร์ลฮาร์เบอร์โดนโจมตี 4 วันหน่วยข่าวกรองของออสเตรเลียได้บอกกับอเมริกาว่า ญี่ปุ่นกำลังจะยกทัพมาโจมตี ให้เตรียมความพร้อมรับมือให้ดี แต่อเมริกาโดยรัฐบาลรูสเวลท์ก็นิ่งเฉย จนทำให้มีทหารและผู้คนเสียชีวิตไปมากมายกว่า 2,403 คน อากาศยานเรือรบเสีบหายกว่า 180 ลำ เครื่อง คนอเมริกาโกรธเกลียดไปทั่วประเทศ ( คล้ายๆกับระเบิดตึกแฝดตัวเองปี 2001 ) นอกจากออสเตรเลียแล้ว คนวงในเช่น ทหาร นักข่าวในตอนนั้นต่างก็รู้ดี ว่าญี่ปุ่นจะมาแน่ แต่รูสเวลท์ไม่ยอมป้องกันอะไร เหมือนต้องการให้เกิดการโจมตีและสูญเสียขึ้นจริงๆ

    ... Several writers, including journalist Robert Stinnett, retired U.S. Navy Rear Admiral Robert Alfred Theobald, and Harry Elmer Barnes[7] have argued various parties high in the U.S. and British governments knew of the attack in advance and may even have let it happen or encouraged it in order to force America into the European theatre of World War II via a Japanese–American war started at "the back door"

    ... เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกเพราะตอนที่ อเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ก็เอาชีวิตของประชาชนเป็นเหยื่อล่อเช่นกัน เพราะว่า เยอรมันบอกว่าเรือพาณิชย์ห้ามแล่นเข้ามาในเขตห้ามเดินเรือ แต่มีการพูดคุยระหว่างระดับสูงของทั้งอังกฤษและอเมริกาว่าจะต้องทำให้อเมริกาเข้าร่วมสงครามแบบเนียนตาและทำให้เยอรมันเป็น “โจรโลก” ในสายตาสื่อกระแสหลัก และเรือดำน้ำเยอรมันก็ต้องทำ เพราะเรือเดินสมุทรอย่างเรือลูซิทาเนียได้แล่นเข้ามาในเขตสงคราม

    ... หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง อเมริกาก็ออกเงินกู้ให้แก่ผู้พ่ายแพ้สงครามในชื่อของโครงการ “แผนการมาร์แชลล์” ในการให้ประเทศที่ประสบกับภัยสงครามอย่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือ เยอรมัน กู้เงิน หรือแม้แต่ญี่ปุ่น สาเหตุที่อเมริกาต้องการทิ้งระเบิดทั้งสองลูกที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ ทั้งๆที่ตอนนั้นญี่ปุ่นจะยอมแพ้โดยดีแล้ว แต่พวกเขาต้องการทำลายให้ญี่ปุ่นเป็นจุล เพื่อจะต้อง “ขอกู้เงิน” จากอเมริกาจากนายธนาคารวอลล์สตรีท

    ... หลังสงครามโลกครั้งที่สอง “นายธนาคารจากวอลล์สตรีทร่ำรวยอีกครั้ง” หลังจากที่ “สงครามวอเตอร์ลู” ที่อังกฤษรบชนะฝรั่งเศสของนโปเลียนนั้น ภาพภายนอกรัฐบาลอังกฤษและพันธมิตรอย่าง ปรัสเซีย สเปน ชนะ แต่ความจริงคนชนะที่แท้จริงคือนายธนาคารตระกูลร็อธไชลด์ ที่ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลในหลายประเทศรบกับฝรั่งเศสในครั้งนั้น รวมทั้งฮิตเล่อร์ปล้นทองคำ ทำให้ประเทศต่างๆในยุโรปต้องส่งทองคำไปเก็บที่ “อเมริกา” เพื่อความปลอดภัยในตอนนี้ จนเต็มประเทศ ( สงครามสงบมาเป็นหลายสิบปี อเมริกาส่งทองคำกลับคืนน้อยมา ) หรือหลังจากนาซีแพ้ “ทองคำนาซี” ก็หายสาบสูญ ที่นักเขียนหลายคนบอกว่าไปโผล่ที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ เป็น “สงครามปล้นทองคำ”

    ... การที่พวกเขาออก “กฎหมายปล้นทองคำ” Executive order 6102 ในปี 1933 และเขาแอบส่งเสริมฮิตเลอร์ให้ป่วนยุโรปนั้น ทำให้ทองคำทะลักไปอยู่ที่อเมริกามากมาย จนเขาสามารถล้มเงินสกุล ปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษได้อย่างเด็ดขาดและเป็นเงินสกุลในทุนสำรองระหว่างประเทศมาหลังจากนั้น เพราะช่วงสงครามทองคำไม่พออังกฤษต้องหยุดการใช้ Gold Standard ชั่วคราว อเมริกาจึงวางแผนยึดเอาทองคำมาเยอะๆ เพื่อจะล้มเงินปอนด์ให้ได้หลังสงคราม และก่อนนั้นเขาก็วางแผนมาดีแล้วในการประกาศที่เบรนตันวู้ด ปี 1944 ที่จะทำให้ “เงินดอลล่าร์” เป็นเงินหลักของโลกยุคใหม่ หลังสงคราม เพื่อจัดระเบียบโลกรัฐบาลชายเดี่ยวต่อมา จนถึงปัจจุบัน

    ... “สงครามถูกสร้างเพื่อคนรวย” ยังคงเป็นความจริงมาจนถึงปัจจุบัน

    .

    .

    .


    https://en.wikipedia.org/wiki/Executive_Order_6102
    https://en.wikipedia.org/wiki/Pearl_Harbor_advance-knowledge_conspiracy_theory
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    ... "บริษัทอเมริกา ช่วยฮิตเล่อร๋ป่วนยุโรป ในสงครามโลกครั้งที่สอง"

    ... IG Farben เป็นบริษัทผลิตอาวุธขนาดใหญ่ของเยอรมันที่ดันและสนับสนุนให้ฮิตเออร์เล่นการเมืองและปกครองเยอรมันและล่าเมืองขึ้นทั่วยุโรป เพื่อจะขายอาวุธด้วย พวกเขาผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายเพื่อไปต่อสู้กับ อังกฤษและฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

    ... และประเด็นสำคัญคือตอนที่ "อเมริกา" ยังไม่ได้ประกาศสงครามกับฝ่ายอักษะหลังจากที่โดน "ญี่ปุ่น" บอมบ์เพิร์ลฮาร์เบอร์เมื่อ 8 ธันวาคม 1941 นั้น ( แบบที่รู้อยู่แล้ว เพราะหน่วยงานราชการลับของ "ออสเตรเลีย" บอกล่วงหน้าต้ั้งสี่วัน ว่ากองทัพญี่ปุ่นกำลังจะไปบุกเพิร์ลฮาร์เบอร์ แต่อีแร้งต้องการให้ถูกบอบม์ เพื่อให้ญี่ปุ่นเป็นผู้ก่อสงครามก่อน และกล่อมคนรุ่นใหม่ให้มาร่วมสงคราม เพราะก่อนหน้าเพิร์ลฮาร์เบอร์์นั้นคนอเมริกันบอกว่าไม่อยากให้นำประเทศไปร่วมแจมสงครามโลกด้วย ) อเมริกาที่ประกาศวางตัวเป็นกลางนั้น ไม่เป็นจริง เพราะว่าอเมริกาเล่นไพ่สองหน้า นอกจากวอลล์สตรีทและสนับสนันทางการเงินและเทคโนโลยีชั้นสูงทางทหารจากบริษัทชั้นนำ ไอ กับฮิตเลอร์โดยตรงแล้ว ยังมีการช่วยเหลือผ่านทางบริษัท IG Farben จาก Standard Oil ด้วย

    ... นั่นคือ "Standard Oil" ของตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ ที่เป็นเจ้าของทั้งธนาคารและบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ ได้ส่งสารเพิ่มพิเศษที่สามารถทำให้เครื่องบินรบของเยอรมันใช้การได้ดี เช่นเครื่องบินรบที่เยอรมันทิ้งระเบิดที่อังกฤษก็มาจากการวิจัยและส่งสารเติมพิเศษไปให้จาก Standard Oil ขออเมริกา

    ... และการช่วยเหลือนี้เป็นอย่างเปิดเผยเพราะว่ามีการเชื่อมโยงอย่างถูกต้องทางธุรกิจ และการซื้อหุ้นนั้นทำให้ IG Farben มีอำนาจในการผลิตอาวุธและเครื่องบินป้อนให้ฮิตเล่อร์ในการอันธพาลยุโรปได้ง่ายสะดวกขึ้น

    ...
    https://en.wikipedia.org/wiki/IG_Farben
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai
    14 ตุลาคม ·
    ... "ตลาดหุ้นอเมริกากำลังเดินต่อไปเพื่อตกหน้าผาตาย ?"

    22495985_10210064584801062_7781336345376863875_o.jpg

    ... ตอนนี้มีดัชนีสองอย่างที่ทำการพิจารณาแล้วว่าตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกากำลังเจอทางตัน จะไปต่อก็จะฟองสบู่แตก ถ้าลดดอกเบี้ยและเฟดขายหนี้เสียหุ้นเน่าทิ้งก็จะเกิด "การเทขายแบบดิ่งเหว" หรือ Tapering Tantrum แบบในปี 2013 ที่ตอนนั้นเฟดออกข่าวว่าจะลดการทำ QE สุดท้ายต้องทำต่อจนเงินไหลไปกองอยู่ที่ตลาดหุ้นกันหมด

    ... ปัจจัยที่หนึ่งคือ อัตราส่วน P/E หรือ Price to Earnings Ratio หรือสั้นๆ คือ P/E Ratio เป็นอัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับกำไรต่อหุ้น (EPS) ในสี่ไตรมาสล่าสุด ปรากฏว่าอัตรานี้สูงขึ้นมากที่สุดเทียบเท่ากับเมื่อเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ผ่านมา เช่น ปี 1893 ที่เกิดการตื่นตระหนกครั้งใหญ่ครั้งแรกของตลาดหุ้น และครั้งที่สองคือตอนวิกฤติดอดคอมที่คนแห่ไปซื้อหุ้นมากมาย และล่าสุดนั้นคือเมื่อปี 2008 ที่เกิดวิกฤติซับไพร์มหรื แฮมเบอร์เกอร์ไครซิส ที่ทั้งหมดนั้นอัตรา P/E นั้นสูงกว่า 26.5% ทั้งสิ้น

    ... แปลว่าราคาหุ้นสูงกว่ากำไรที่เกิดจากการประกอบการที่ได้จริง

    ... More importantly, since the 1870s, there have been a total of THREE periods in which the average stock P/E ratio was above 26.5.

    The first time was around the Panic of 1893.
    The second was around the 2000 dot-com crash.
    And the third was around the 2008 financial collapse.

    ... และอีกหนึ่งปัจจัยก็คือ "อัตราส่วนระหว่างมูลค่าตลาดหุ้นกับจีดีพี" ปรากฏว่ามูลค่าหุ้นในตลาดสูงมากแต่จีดีพีประเทศอเมริกาตกต่ำเศรษฐกิจซบเซามาก ทำให้อัตรานี้สูงมาก ตอนนี้อยู่ที่ 120% ทั้งที่ค่าเฉลี่ยตลอด 45 ปีที่ผ่านมานั้นมีแค่ 75% เท่านั้น ที่ดัชนีชี้วัดนี้วอร์เรน บัฟเฟตบอกว่าบอกอะไรชัดเจนที่สุด หรือ "ราคาหุ้นสูงเกินความเป็นจริง" ทั้งๆกิจการตกต่ำ ขายของไม่ได้ หลายบริษัทต้องไล่คนงานออกไปมากมาย เช่น HSBC นั้นกำไรร่วงลงมา 62% แต่ยังมีราคาหุ้นแพงเป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับความจริง หรือ Overvalued Stock

    ... แปลว่าเงินที่อ้างว่าเอาเงินคนทั่วโลกมาซื้อหุ้นเพื่อมาระดมทุนสร้างกิจการทางธุรกิจผลิตสินค้ามาค้าขายนั้น ไม่ได้มีการสร้างผลผลิตอะไรเลย แต่ไปเก็งกำไรซื้อหุ้นขายไขว่ไปมาแค่นั้นเอง

    ... และนี้คือสาเหตุที่แท้จริงที่เฟดหรือธนาคารกลางอเมริกาพยายามจะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอการไหลของเงินไปกองที่ตลาดหุ้น ตลาดทุนกันมากกว่านี้ เพราะถ้ายังเดินหน้าด้วยอัตราแบบนี้ ฟองสบู่ของตลาดหุ้นอเมริกาจะแตกในเร็ววันเร็วเดือนนี้แน่ แต่เพราะว่าเดือนที่แล้วมีพายุเข้าประเทศเศรษฐกิจตกต่ำยังต้องการเงินหมุนเวียนในประเทศ เลยทำให้ทางป้าเยเลนต้องชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน

    ... นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เดือนธันวาคมนี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อปิดประตูเขื่อนอีกบานกั้นน้ำแห่งเงินการเก็งกำไรไม่ให้ไหลบ่าเข้าเขื่อนมากกว่านี้ก่อนเขื่อนจะแตกและทำลายประเทศย่อยยับ

    ... แต่ถ้าเฟดรีบขึ้นดอกเบี้ยและพยายามลดงบดุลบัญชีหรือ Unwind Balance sheet โดยเทขายหุ้นเน่าออกจากบริษัทต่างๆที่เมื่อคราววิกฤติซับไหร์มไปกว้านซื้้อไว้ แบบเร่งด่วนก็จะเกิดการตื่นตระหนกและเทขายหุ้นทิ้งแบบดิ่งเหว เงินจะไหลออกจากตลาดหุ้นแบบกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ที่เรียกว่า Taper Tantrum

    ... ซึ่งถ้าเกิดเร่งขึ้นดอกเบี้ยก็จะมีผลต่อหนี้ของประเทศอีก งานนี้ระเบิดเศรษฐกิจอาจจะแตกก่อนก็ได้

    .

    .
    http://www.zerohedge.com/news/2017-02-24/us-stock-market-highly-overvalued-heres-why
    https://www.ft.com/content/0048255c-824d-11e7-94e2-c5b903247afd?mhq5j=e5
    http://www.marketwatch.com/story/two-thirds-of-us-investors-think-stocks-are-overvalued-2017-07-21
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students



    (Oct 17) “ไมโครซอฟท์” สร้างบ้านต้นไม้ให้พนักงาน “ใช้ประชุม-ผ่อนคลาย” หวังพนง.มีความสุข คิดสร้างสรรค์ : นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า บริษัท ไมโครซอฟท์ได้สร้างบ้านต้นไม้สำหรับพนักงาน ในเมืองเรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีพื้นที่สำหรับใช้ในการประชุมเเละพักผ่อนอีกด้วย

    บ้านต้นไม้ดังกล่าวถูกสร้างโดย พีท นีลสัน โดยบริษัทเผยว่า ก่อนจะเข้าสู่พื้นที่ประชุม จะมีทางเดินสลับกับทางลาดสบายๆ ให้พนักงานได้เดินเล่น ด้านบนมีดาดฟ้าให้เห็นวิวทิวทัศน์ มีบันไดเป็นวงกลมอยู่รอบต้นไม้ โดยบ้านต้นไม้อยู่สูงจากพื้นดินกว่า 13 ฟุต

    สำหรับการสร้างบ้านต้นไม้ ไมโครซอฟท์คาดหวังว่าจะช่วยให้พนักงานได้รับประโยชน์จากธรรมชาติ เเละมีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ เเละความสุขของพนักงาน

    บีท โบลเตอร์ ผู้ช่วยหัวหน้าโครงการ เผยว่า สิ่งเเรกเมื่อเดินเข้าไปในบ้านต้นไม้ คือความเงียบเเละความสงบ ผู้คนซึมซับกับธรรมชาติ มีผลต่ออารมณ์ที่ดีของพนักงาน

    “เราไม่ต้องนำความเป็นธรรมชาติกลับไปสู่เมือง เราอยู่ในธรรมชาติ เพียงเปิดไปที่ประตูหลังออฟฟิศของเรา” โบลเตอร์ กล่าว

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ https://www.prachachat.net/foreign-soft-news/news-55970
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Oct 17) ชี้ "ธนาคาร-เงินดิจิทัล" เป้าหมายหลักของแฮกเกอร์: เผยแนวโน้มการเกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ “ Group-IB” ชี้ธนาคาร เงินดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ จะตกเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ในอนาคตอันใกล

    Group-IB ผู้นำด้านการป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ การขโมยเงิน และความเสี่ยงด้านชื่อเสียง ออกรายงาน ว่า ธนาคาร เงินดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ จะตกเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ในอนาคตอันใกล้

    โดยในปีหน้า ความเสียหายหลักจากการโจมตีทางไซเบอร์สำหรับธนาคารจะไม่ใช่การขโมยเงิน แต่เป็นการทำลายโครงสร้างพื้นฐานไอทีในขั้นตอนสุดท้ายของการเจาะข้อมูล ในอดีตที่ผ่านมา บรรดาธนาคารถูกโจมตีโดยอาชญากรไซเบอร์เท่านั้น แต่ในปัจจุบัน แฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐโจมตีธนาคารถี่กว่าเดิมมาก

    ปกติอาชญากรไซเบอร์จะพยายามปกปิดร่องรอยการโจรกรรม ส่วนแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจะสร้างความเสียหายสูงสุดแก่ธนาคารและทำให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงักลงด้วยการทำลายโครงสร้างพื้นฐานไอที ซึ่งทั้งสองกรณีนี้ มูลค่าความเสียหายต่อธนาคารอาจสูงกว่ามูลค่าเงินที่ถูกขโมยไป เนื่องจากการให้บริการต้องหยุดชะงัก ขณะที่ความน่าเชื่อถือของธนาคารก็ถูกบั่นทอน

    ขณะเดียวกัน แฮกเกอร์จะโจมตีโรงงานอุตสาหกรรมได้มากขึ้น เนื่องจากเรียนรู้วิธีการจัดการกับ “ตรรกะ” ของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ โดยปกติแล้ว โรงงานจะมีระบบไอทีที่ซับซ้อนและมีเอกลักษณ์ แม้จะเจาะเข้าระบบได้ก็ยังต้องมีความรู้เฉพาะเกี่ยวกับหลักการดำเนินงานจึงจะสามารถโจมตีระบบได้

    ทว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราสังเกตได้ว่าแฮกเกอร์มีความสามารถมากขึ้น และสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้มากขึ้น ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่า การโจมตีครั้งใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่โรงงานอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องมากขึ้น

    นอกจากนี้แฮกเกอร์เปลี่ยนเป้าหมายจากธนาคารไปสู่อุตสาหกรรมเงินดิจิทัล (การเสนอขายโทเคนต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ICO) กระเป๋าเงินดิจิทัล ตลาดแลกเปลี่ยน และกองทุน) ที่กำลังมีการเพิ่มเงินทุนจำนวนมหาศาลอย่างต่อเนื่อง ในทางเทคนิคแล้ว การโจมตีผู้ให้บริการในภาคส่วนนี้ไม่ได้ง่ายไปกว่าการโจมตีธนาคาร ทว่าความปลอดภัยข้อมูลและความสมบูรณ์ของบริษัทบล็อกเชนยังต่ำกว่ามาก และ เทคโนโลยีบล็อกเชนยังไม่มีการควบคุมที่เข้มงวดและมีการปกปิดตัวตนมากกว่า บรรดาแฮกเกอร์จึงมองว่ามีโอกาสน้อยกว่าที่จะถูกจับได้ในระหว่างกระทำการ

    รายงานฉบับเต็ม: https://www.group-ib.com/2017-report.html

    รายงานฉบับย่อ: http://securityaffairs.co/wordpress/64214/cyber-crime/group-ib-crime-trends-2017-report.html

    Source: เดลินิวส์ออนไลน์ https://www.dailynews.co.th/it/604799
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “สี จิ้นผิง” ลั่น จีนพร้อมขัดขวางการประกาศเอกราชของไต้หวันทุกวิถีทาง
    เผยแพร่: 18 ต.ค. 2560 14:17:00
    560000011001901.jpg
    เอเอฟพี – ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนส่งคำเตือนอย่างหนักแน่นต่อไต้หวันในวันนี้ (18) โดยระบุว่า ปักกิ่งมีความตั้งใจใจและพลังอำนาจที่จะขัดขวางทุกความพยายามในการประกาศเอกราช

    ในการปราศรัยต่อการประชุม 5 ปีครั้งของพรรคคอมมิวนิสต์ในปักกิ่ง สีเตือนว่า จีนมี “ความชัดเจน ความมั่นใจ และความสามารถในการกำราบความพยายามแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวันในทุกรูปแบบ”

    “เราจะไม่ยอมให้ใคร องค์กร หรือพรรคการเมืองใดก็ตามแบ่งแยกส่วนใดก็ตามของแผ่นดินจีนออกจากจีนไม่กว่าจะเมื่อไหร่หรือรูปแบบไหน” เขากล่าว

    ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีนกลับมาตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ ไช่ อิงเหวิน ชนะการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว

    ปักกิ่งตัดการติดต่อทางการทูตกับรัฐบาลของเธอไม่นานหลังจากการเข้ารับตำแหน่งเนื่องจากเธอไม่ยอมรับนโยบาย “จีนเดียว” อย่างเปิดเผย

    ไช่ยังทำให้จีนเดือดดาลด้วยเมื่อเธอโทรศัพท์หา โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อแสดงความยินดีกับเขาสำหรับการชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

    ภายใต้รัฐบาลก่อนหน้านี้ของไต้หวัน ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุ “ฉันทามติปี 1992” ที่พวกเขาเห็นพ้องกันว่ามีจีนเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นโดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าฝ่ายไหนคือตัวแทนที่มีความชอบธรรม

    560000011001902.jpg

    ในการปราศรัยของเขา สียื่นมิตรไมตรีให้กับผู้นำของเกาะแห่งนี้ โดยเสนอที่จะฟื้นคืนการติดต่อสื่อสารกับไต้หวันหากรัฐบาลกลับมายอมรับนโยบายดังกล่าวอีกครั้ง

    เมื่อถึงเวลานั้น “จะไม่มีพรรคการเมืองหรือกลุ่มไหนในไต้หวันต้องประสบความยากลำบากในการทำการแลกเปลี่ยนเงินตรากับแผ่นดินใหญ่” เขากล่าว

    ทั้งสองแผ่นดินแบ่งแยกออกจากกันภายหลังสงครามกลางเมืองปี 1949 และถึงแม้ว่าไต้หวันจะมองตัวเองเป็นประเทศเอกราช แต่พวกเขาก็ไม่เคยประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการเลย

    สีไม่ได้พูดถึงความเคลื่อนไหวประกาศเอกราชในเมืองกึ่งปกครองตนเองของจีนอย่างฮ่องกง

    “เราจะพัฒนาและส่งเสริมผู้ที่ทั้งรักในชาติและศาสนาของพวกเขา” เขากล่าว และเสริมว่า “ผู้รักชาติจะมีบทบาทสำคัญ” ในการปกครองมหานครแห่งนี้ที่ดำเนินงานภายใต้ระบบกฎหมายของตนเองในฐานะส่วนหนึ่งของนโยบาย “หนึ่งประเทศสองระบบ”

    ปักกิ่งยกระดับการควบคุมกิจการต่างๆ ของเมืองนี้เพื่อตอบสนองต่อการเรียกร้องประชาธิปไตยที่นับวันจะกลับกลายเป็นการเรียกร้องการตัดสินใจด้วยตนเองหรือกระทั่งเอกราชอย่างสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ
    https://mgronline.com/around/detail/9600000106214
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #รากเหง้าแห่งปัญหาของตะวันออกกลาง

    หลังจากที่ อับดุลอะซีส บินอับดุร์เราะฮ์มาน อัล-ซาอู๊ด ได้ให้คำมั่นกับเซอร์เพอร์ซี คอกส์ ข้าหลวงใหญ่ของอังกฤษว่า…

    “ข้าพเจ้า..สุลต่านอับดุลอะซีส บุตรอับดุร์เราะฮ์มาน อัล-ซาอู๊ด อัล-ไฟซอล..จะให้ข้าพเจ้ายอมรับต่อเซอร์เพอร์ซี คอกส์ ผู้แทนสหราชอาณาจักรนับพันครั้งก็ได้ว่า..ข้าพเจ้าจะไม่คัดค้านที่จะมอบแผ่นดินปาเลสไตน์ให้กับชาวยิวผู้น่าสงสาร หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ใช่ยิว..และข้าพเจ้าไม่มีวันละเมิดข้อตกลงดังกล่าวเด็ดขาด”..

    หลังจากอับดุลอะซีสได้ตกลงตามข้อตกลงดังกล่าว อับดุลอะซีสก็ได้ทำสงครามกับชารีฟ ฮูเซน อะลีย์ ผู้ปกครองแผ่นดินฮิญาซ ผู้ปกครองมักกะฮ์และมะดีนะฮ์ ทั้งๆ ที่ชารีฟ ฮูเซนบิน อะลีย์ได้มีข้อตกลงกับอังกฤษในเรื่องที่อังกฤษจะต้องสนับสนุนเขาให้เป็นผู้ปกครองฮิญาซ(มักกะฮ์และมะดีนะฮ์)กับเซอร์ แฮนดริ แมกมอร์ฮอล ข้าหลวงใหญ่ของอังกฤษประจำอียิปต์มาก่อน ในปี ค.ศ.1925..

    อับดุลอะซีส บิน มุฮัมมัดอับดุรฺเราะฮ์มาน อัล-ซาอู๊ด อัล-ไฟซอล ก็ได้ชัยชนะเหนือแผ่นดินฮิญาซทั้งหมดจากการสนับสนุนทั้งทางการเงินและอาวุธจากอังกฤษ และสถาปนาตนเองเป็นกษัตริย์แห่งฮิญาซ โดยอังกฤษได้ประกาศรับรองเขาให้เป็นกษัตริย์ราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย ชื่อประเทศที่ตั้งขึ้นตามชื่อของบรรพบุรุษของเขาในปี ค.ศ.1932 ..

    พร้อมๆ กับการค้นพบแหล่งน้ำดิบจำนวนมหาศาล ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของอังกฤษและอเมริกา โดยที่ซาอุดิอารเบียยอมเสียเปรียบในเรื่องผลประโยชน์นี้..

    .....ส่วนชารีฟฮูเซน บินอะลีย์ หลังถูกอังกฤษหักหลังก็ต้องระเห็จไปอยู่ปาเลสไตน์ และเสียชีวิตที่นั่นอย่างเจ็บปวดรวดร้าวใจเพราะโดนอังกฤษทรยศ ในปี ค.ศ. 1936 ..

    หลังจากที่ดินแดนมักกะฮ์ มุก็อรฺรอมะฮ์ และมาดีนะฮ์ มุเราวาเราะฮ์ แผ่นดินฮารอมัยนฺที่อยู่ในตระกูลฮาชิมมา 700 ปี ถูกอังกฤษร่วมกันปล้นไปวางอยู่ในมือของลูกหลานของชาวยิวที่ชื่อมุรฎะฆัย บิน อับราฮัม บินโมเช่ ที่ต่อมาเข้ารับอิสลามในชื่อ มัรฺฆาน หรือมัรฺคาน บินอิบรอฮีม บินมูซา

    อย่างไรก็ตามอังกฤษก็ได้ปลอบขวัญการเจ็บปวดร้าวใจของชารีฟฮูเซน ด้วยการให้บุตรชายคนที่ 2 ของเขาคือฟัยศอล ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิรักและซีเรีย ส่วนอับดุลลอฮ์บุตรคนที่ 3 ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรานจอร์แดน หรือประเทศจอร์แดนในปัจจุบัน

    ส่วนตระกูลอัล-คอลีฟะฮ์ที่ช่วยกันทำลายอาณาจักรออตโตมาน…อังกฤษก็ได้ให้เป็นกษัตริย์ของบะฮ์เรน, ตระกูรอัซซานีย์ให้เป็นกษัตรย์ของการ์ต้า ตระกูลอัลซาบะฮ์ให้เป็นอะมีรฺหรือกษัตริย์แห่งคูเวต

    ที่มา / http://news.muslimthaipost.com/news
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จนท.ลำปาง เร่งรื้อ! “บ้านหลังแรก” หลังแผ่นดินทรุดต่อเนื่อง วันพุธ 18 ตุลาคม 2017 2:43 pm

    7-33.jpg
    เจ้าของบ้านที่อยู่ในพื้นที่ดินทรุดตัว จ.ลำปาง ขอกำลังเจ้าหน้าที่ เข้ารื้อบ้านทั้งหลัง หวั่นบ้านพังลงมาหลังดินยังมีการทรุดตัวต่อเนื่อง ขณะส่วนที่เกี่ยวข้องยังคงหารือการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    10-18-2017-2-29-50-PM.jpg

    เมื่อวันที่ 18 ต.ค.60–ทีมงานชุดเฝ้าระวังแผ่นดินทรุด ได้รายงานผลการร่วมสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุ จากกรณีเหตุดินทรุดตัว ที่บ้านห้วยคิง หมู่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อ เวลา 20.30 น. วันที่ 17 ต.ค. 60 พบว่า บริเวณพื้นดินที่ยุบตัวลง มองเห็นปริมาณน้ำในผิวดินได้ชัดเจน ส่วนบริเวณพื้นดินปีกด้านซ้าย หน้าบ้านหลังที่ 1 ที่เดิมยังมีสภาพราบเรียบในตอนกลางวัน แต่ช่วงที่ออกสำรวจได้มีดินทรุดตัวเกิดขึ้น และแผ่ขยายออกมองเห็นได้ชัดเจน ส่วนปีกขวาด้านข้างของบ้าน เกิดการทรุดตัวของดินโดยรอบอย่างเห็นได้ชัด โดยก่อนหน้านี้ ทางอำเภอแม่เมาะ ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่เมาะเข้าทำความเข้าใจกับราษฎรกรณีการรื้อถอนบ้านก่อนดินจะยุบตัวทำให้บ้านเสียหายมากขึ้น โดยราษฎรเข้าใจ และยินยอมจะรื้อถอนบ้านออกไปก่อนที่จะพังเสียหายทั้งหมด

    10-18-2017-2-30-06-PM.jpg

    ทั้งนี้ จึงได้ประสาน ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝายปกครองอำเภอแม่เมาะ เจ้าหน้าที่ คนงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาเสาธารณะภัยเทศบาลตำบลแม่เมาะ ชาวบ้านบ้านห้วยคิง เข้ามาช่วยดำเนินการรื้อถอนให้ โดยจะทำการรื้อถอนบ้านหลังแรก ซึ่งเป็นบ้านของนางเพ็ญ ไชยขันแก้ว อายุ 58 ปี ก่อน เนื่องจากเป็นหลังที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะสภาพแวดล้อมของบ้านดินทรุดตัวลงอย่างตัวเนื่องและตัวบ้านทรุดไปกว่า 1.50 เมตร โครงสร้างตัวบ้านแยกออกจากกันหลายแห่ง หากไม่รื้อถอนบ้าน โครงสร้างต่างๆอาจจะพังเสียหายทั้งหมด จึงต้องทำการรื้อถอนออก

    10-18-2017-2-31-01-PM.jpg

    ขณะที่ ทางเจ้าของบ้านทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้วและได้นั่งมองการรื้อบ้านด้วยความหดหู่ใจเพราะอาศัยอยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ปี 2545 ส่วนบ้านหลังอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการรื้อถอนต่อไป

    10-18-2017-2-31-20-PM.jpg

    โดยเบื้องต้น กฟผ.แม่เมาะ ให้การช่วยเหลือ แก่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน โดยนำรถบรรทุกช่วยขนสัมภาระและสิ่งของจากประชาชนผู้อยู่อาศัยออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ทั้ง 9 หลังคาเรือน พร้อมทั้งจัดหาที่พักชั่วคราวให้แก่ผู้เดือดร้อน พร้อมประสานส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือแล้ว

    http://www.springnews.co.th/th/2017/10/123309/?sp
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ห้ามเข้าใกล้แผ่นดินทรุด จ.ลำปางเด็ดขาด! – รองผู้ว่าฯเร่งประชุมแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบภัย วันพุธ 18 ตุลาคม 2017 2:02 pm

    นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะ ผู้อำนายการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แม่เมาะ เป็นประธานการประชุมติดตามแก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยกรณีบ้านห้วยคิงหมู่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ หลังเกิดเหตุแผ่นดินทรุดตัว เพื่อสรุปผลการดำเนินการและแนวทางการให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆต่อไป หลังจากที่ นาย ทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ออกประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็น “เขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน อ.แม่เมาะ” ไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา

    50-3.jpg

    49-3.jpg

    ซึ่งจากกรณีดังกล่าวมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ประมาณ 12.5 ไร่ หรือประมาณ 20,000 ตร.ม. ความยาวของการเลื่อนไถล ประมาณ 200 เมตร เบื้องต้นชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยทั้ง 9 หลังได้ขนย้ายทรัพย์สินออกไปอาศัยบ้านญาติชั่วคราวไปก่อน ขณะที่โครงสร้างที่อยู่อาศัยนั้นไม่สามารถเข้าไปดำเนินการอะไรได้ เพราะ ดินยังคงทรุดตัวต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าทีได้ปิดประกาศห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวเข้าไปในพื้นที่เด็ดขาด พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ ปภ.แม่เมาะ เฝ้าระวังในพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ธรณีวิทยา สำนักงานทรัพยากรธรณีเขต 1 อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 7 วัน จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้

    45-5.jpg

    http://www.springnews.co.th/th/2017/10/123213/?sp
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,973
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัสเซียส่งมอบปืนไรเฟิลจู่โจม AK 5,000 กระบอก พร้อมกระสุนปืนอีก 1 ล้านนัดและรถบรรทุกทหาร 20 คันให้กองทัพฟิลิปปินส์ ฟรี!

    FB_IMG_1508335035985.jpg

    ---------

    วันที่ 16 ต.ค. 60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "รัสเซียเริ่มส่งมอบปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟให้ฟิลิปปินส์ " (Russia Starts Kalashnikov Assault Rifle Deliveries to Philippines)

    หลังจากที่ประธานาธิบดีโรดิโก ดูเตอร์เตแห่งฟิลิปปินส์แสดงความสนใจที่จะจัดซื้อปืนจากค่ายรัสเซียระหว่างพบกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียเมื่อต้นปีนี้ การส่งมอบปืนไรเฟิล Kalashnikov (AK) ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐปฏิเสธที่จะขายปืนไรเฟิล M4 จำนวน 26,000 กระบอกให้กับกองทัพฟิลิปปินส์เพื่อใช้ในภารกิจปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติดและอื่นๆ

    สื่อของรัฐบาลรัสเซียรายงานว่า รัสเซียเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงในการจัดส่งปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov ให้กับฟิลิปปินส์ แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมด้านการป้องกันประเทศของรัสเซียกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik เมื่อวันจันทร์นี้

    "รัสเซียกำลังเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงในการส่งมอบปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov ไปให้ฟิลิปปินส์" แหล่งข่าวกล่าว

    ในช่วงเช้าของวันจันทร์นี้ นาย Carlos Sorreta เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ประจำรัสเซียได้กล่วกับสำนักข่าว Sputnik ว่า รัสเซียกำลังส่งมอบปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov จำนวน 5,000 กระบอก ลูกกระสุนปืนอีก 1 ล้านนัด และรถบรรทุกทหารอีก 20 คันให้ฟิลิปปินส์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ของจะเดินทางไปถึงฟิลิปปินส์ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้

    วันที่ 12 ตุลาคม สำนักข่าว Xinhua ของจีนรายงานว่า รัสเซียจะส่งมอบมือไรเฟิลจู่โจม AK-47 จำนวน 5,000 กระบอก และรถบรรทุกทหารอีก 20 คันให้ฟิลิปปินส์ (ข้อมูลบางแห่งบอกว่า น่าจะเป็นปืน AK-101 ซึ่งใช้ลูกกระสุนขนาด 5.56×45mm มาตรฐานนาโต้ แต่ดูจากภาพที่สื่อรัสเซียลงกลับเป็นภาพของปืน AK-103 ซึ่งใช้กระสุนขนาด 7.62×39mm ไซด์เดียวกับที่ใช้กับปืน AK-47, AKM และ AK-104)

    วันที่ 11 ตุลาคม สำนักข่าว Philstar รายงานว่า ประธานาธิบดีกล่าวเมื่อวันพุธที่แล้วว่ากองทัพฟิลิปปินส์จะได้รับปืนไรเฟิลออโตเมติกจำนวน 5,000 กระบอก และรถบรรทุกทหารอีก 20 คันจากรัสเซีย ในขณะที่กองทัพยังคงเดินหน้าทำสงครามกับพวกผู้ก่อการร้ายเครือข่ายไอซิสที่เมืองมาราวีทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ (ตอนนี้สงครามที่มาราวีจบแล้ว)

    ปลายเดือนมิถุนายนจีนได้บริจาคปืนไรเฟิลจู่โจม (M16/M4 เวอร์ชั่นจีน) จำนวน 3,000 กระบอก และปืนสไนเปอร์อีก 100 กระบอกรวมทั้งกระสุนปืนจำนวน 6 ล้านนัด มูลค่าทั้งสิ้น 50 ล้านหยวน หรือ 370 ล้านเปโซ (ฟรี) และยังได้มอบเงินช่วยเหลือทหารและประชาชนชาวฟิลิปปินส์ที่ประสบภัยสงครามที่มาราวีอีก 15 ล้านเปโซด้วย

    สหรัฐเกรงว่ารัฐบาลและกองทัพฟิลิปปินส์จะเอาใจออกห่างและหันไปหาจีนกับรัสเซียแทน จึงส่งปืนไรเฟิล M4 จำนวน 300 กระบอกและเครื่องยิงลูกระเบิด 100 กระบอกพร้อมด้วยปืนกล M134D จำนวน 4 กระบอกไปให้กองทัพฟิลิปปินส์ (300 เทียบกับ 3,000 และ 5,000 มันต่างกันเยอะอยู่นะครับ)

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    18/10/2560
    ---------
    https://sputniknews.com/military/201710161058267247-russia-deliveries-philippines-kalashnikov/
    http://www.philstar.com/headlines/2...e-says-military-can-expect-5000-rifles-russia
    http://www.scmp.com/news/asia/south...ilippines-new-weapons-after-duterte-complains
    https://www.nytimes.com/reuters/2017/10/05/world/asia/05reuters-philippines-china-defence.html

    https://www.rappler.com/nation/1741...-guns-ammunition-philippines-marawi-terrorism
    https://uk.reuters.com/article/uk-p...-to-show-its-a-friend-not-a-foe-idUKKBN1CA0OK
    http://globalnation.inquirer.net/158500/duterte-receives-p370-m-worth-firearms-ammo-china
    http://news.xinhuanet.com/english/2017-10/12/c_136673930.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...