ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เตือนภัย พิบัติโลก

    IMG_7634.JPG IMG_7635.JPG

    12/12/2017 เกิดแผ่นดินไหว 5.9 บริเวณ EASTERN อิหร่าน
    Magnitude Mw 5.9
    Region EASTERN IRAN
    Date time 2017-12-12 08:43:17.7 UTC
    Location 30.68 N ; 57.28 E
    Depth 10 km
    https://www.emsc-csem.
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    IMG_7641.JPG IMG_7637.JPG IMG_7638.JPG IMG_7639.PNG IMG_7642.JPG

    แผ่นดินไหวขนาด 6.1 ภูมิภาค EASTERN IRAN (อิหร่าน) ในวันที่ 13 ธันวาคม 2560 เวลา 04:41:31.4 น. เวลาประเทศไทย ความลึก 10 กิโลเมตร

    Magnitude 6.1
    Region EASTERN IRAN
    Date time 2017-12-12 21:41:31.4 UTC
    Location 30.77 N ; 57.25 E
    Depth 10 km
    Macroseismic
    Intensity V Effects: Strong Shaking
    Distances
    472 km E of Shīrāz, Iran, Islamic Republic of / pop: 1,250,000 / local time: 01:11:31.4 2017-12-13

    56 km N of Kermān, Iran, Islamic Republic of / pop: 578,000 / local time: 01:11:31.4 2017-12-13
    https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=635437
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัสเซีย: เราไม่ขายอาวุธให้กับผู้ก่อการร้าย

    IMG_7643.JPG IMG_7644.JPG IMG_7645.JPG IMG_7646.JPG IMG_7647.JPG IMG_7648.JPG IMG_7649.JPG IMG_7650.JPG

    ไอซิสผัวแพะ: เค้าเป็นนักรบแห่งเสรีภาพ! (สหรัฐยืนยันได้)

    ------------
    https://sputniknews.com/cartoons/201712111059906908-russia-arms-sales-syria-sipri/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจนจิรา จันทรเสนา
    โฆษนาชวนเชื่อสุดโอเวอร์ !

    FB_IMG_1513128580780.jpg FB_IMG_1513128585544.jpg FB_IMG_1513128590149.jpg

    สื่อเกาหลีเหนือ ประโคมข่าว"คิมน้อย"สามารถ ควบคุมสภาพอากาศได้ดั่งใจนึก! ซึ่งก่อนหน้านี้ก็คุยโวว่าคิดค้นสูตรยารักษาโรคเอดส์ และมะเร็งได้ แถมบอกว่าขับรถเป็นตั้งแต่ 3 ขวบ และยังเคยค้นพบรังของม้ายูนิคอร์นในตำนานอีกด้วย .. ว้าว!

    เกาหลีเหนือเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของผู้นำตระกูลคิมมาตลอดตั้งแต่อดีต และคำกล่าวอ้างล่าสุดคือ "คิม จอง-อึน" ผู้นำคนล่าสุด สามารถควบคุมสภาพอากาศได้…!?!

    เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 60 สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ(KCNA) สื่อกระบอกเสียงของเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพถ่าย คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของพวกเขา ยืนยิ้มอยู่บนยอดเขา "เพ็กตู" ภูเขาไฟซึ่งตั้งอยู่ระหว่างชายแดนเกาหลีเหนือและจีน พร้อมกับรายงานว่า ผู้นำซึ่งโดดเด่นหาใดเปรียบผู้นี้ สามารถควบคุมธรรมชาติได้

    "เคซีเอ็นเอ" อ้างว่า ตามปกติแล้วภูเขาสูง 9,000 ฟุตลูกนี้จะมีพายุรุนแรงในช่วงเดือนธ.ค. แต่ระหว่างที่ผู้นำคิมเดินทางถึงยอดเขา อากาศกลับดีอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชัดเจนว่าภูเขากำลังแสดงความเคารพต่อคิม ชายผู้สามารถควบคุมธรรมชาติได้

    รัฐบาลเกาหลีเหนือระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำคิมทำให้ดวงอาทิตย์สาดส่องในวันที่ควรจะมืดครึ้มในฤดูหนาว

    ทั้งนี้ สื่อเกาหลีเหนือมักเผยแพร่ "โฆษณาชวนเชื่อ"เพื่อยกย่องผู้นำของตัวเอง ก่อนหน้านี้พวกเขาก็อ้างว่า..
    "คิม จอง-อึน" และทีมนักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นสูตรยาปาฏิหาริย์ที่สามารถรักษาในสารพัดโรครวมทั้ง เอดส์และมะเร็ง

    นอกจากนี้ยังอ้างด้วยว่าขับรถเป็นตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เป็นผู้ค้นพบรังของม้ายูนิคอร์นในตำนานอีกด้วย..

    แถมอีก
    – เพื่อนเก่าที่สวิสยืนกรานว่า สมัยเรียนมัธยมที่สวิตเซอร์แลนด์ คิมน้อยไม่เอาถ่านเรื่องการเรียน สอบตกวิทยาศาสตร์ และผ่านมาแบบเฉียดฉิวทั้งวิชาเลข ภาษาอังกฤษและเยอรมัน กระนั้น เขาเป็นนักกีฬาที่ใช้ได้ ชอบเล่นบาสเกตบอลและฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เขาเป็นเด็กอ้วนนิสัยดี และมีแววชอบเอาชนะตั้งแต่วัยเยาว์

    – เคยทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าให้คล้ายปู่ "คิม อิล–ซุง" เพื่อปลุกเร้าให้ประชาชนเกิดความรักและศรัทธา ความลับข้อนี้เปิดเผยโดยนักการทูตระดับสูงของจีน กระนั้น ทางการเกาหลีเหนือปฏิเสธข่าว พร้อมตอบโต้ด้วยว่า "คิม จอง อึน" เลิศเลอเพอร์เฟกต์โหงวเฮ้ง ดีตั้งแต่เกิด ไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งมีดหมอ !

    ที่มา: thesun: https://www.thesun.co.uk/news/51073...44m-tall-mount-paektu-in-smart-leather-shoes/
    Via, jenjira1958
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ชาวบ้านมึน! ลูกบอลน้ำแข็งปริศนานับพันเกยตื้นชายฝั่งรัสเซีย (ชมคลิป)
    เผยแพร่: 13 ธ.ค. 2560 04:01:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:12:00 โดย: MGR Online

    เดลีเมล์/เดลีสตาร์ - พบลูกบอลน้ำแข็งขนาดพอๆ กันหลายพันลูก ถูกซัดเกยตื้นบนชายฝั่งแห่งหนึ่งของรัสเซีย สร้างความความงงงวยแก่ผู้พบเห็น เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบนิเวศวิทยารายหนึ่งเชื่อว่ามันน่าจะมีต้นตอจากมลพิษน้ำมัน

    วิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นลูกบอลน้ำแข็งแปลกประหลาดขนาดพอๆ กัน ใหญ่สุด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 17 เซนติเมตร ถูกน้ำทะเลซัดเกยตื้นบริเวณอ่าวฟินแลนด์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซียเมื่อไม่นานที่ผ่านมา สร้างความพิศวงแก่พวกชาวบ้านที่พากันสันนิษฐานไปกันต่างๆนานา

    560000012993001.jpg

    ยูริ ชาฮอฟ ผู้แชร์วิดีโอนี้บนสื่อสังคมออนไลน์ โพสต์ข้อความติดตลกว่า “อาจมีบางคนโยนลูกบอลหิมะลงในอ่าว” ขณะที่คนอื่นๆ เชื่อว่า ลูกบอลน้ำแข็งเกิดจากหิมะถูกคลื่นซัดม้วนจับกลุ่มเป็นก้อนทรงกลม หรือความจริงแล้วมันอาจเป็นเพียงก้อนหินที่ถูกน้ำแข็งปกคลุมเท่านั้น

    แต่ในส่วนของ อิลยา ลูคิน นักวิเทศวิทยาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นว่าเหตุน้ำมันรั่วในทะเลอาจก่อลูกบอลน้ำแข็งนี้ขึ้นมา

    กระนั้นคนอื่นๆ ในสื่อสังคมออนไลน์ให้คำอธิบายที่มีความน่าเชื่อถือน้อยกว่า โดยหนึ่งในนั้นแสดงความคิดเห็นว่า “มันคือไข่วาฬ อย่าไปฟังใคร ลองไปมองหาซากวาฬใกล้ๆ พวกมันอาจตายหลังจากวางไข่”

    560000012993002.jpg


    560000012993003.jpg

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125284
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อังกฤษโดนแช่แข็ง อากาศหนาวทำโรงเรียนหลายร้อยแห่งปิดต่ออีกวัน
    เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 20:06:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:03:00 โดย: MGR Online
    560000012987101.jpg

    เอเจนซีส์ - โรงเรียนหลายร้อยแห่งในอังกฤษและเวลส์ต้องปิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังเจอกับค่ำคืนอันหนาวเหน็บที่สุดของปี ขณะที่สภาพอากาศซึ่งเต็มไปด้วยหิมะยังคงสร้างปัญหาทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก

    อุณหภูมิลดต่ำลงไปอยู่ที่ -13 องศาเซลเซียส ในชอว์บิวรี และชอปไชร์ ได้ทำลายสถิติต่ำสุดเมื่อคืนวันอาทิตย์ของดาลวินนี ในสกอตติชไฮแลนด์

    นักเรียนของโรงเรียนประถม 125 แห่ง กับโรงเรียนมัธยม 25 แห่งในชอปไชร์ ได้หยุดเรียนเพิ่มเป็นวันที่ 2 เพราะสภาพอากาศอันหนาวเย็นนี้

    ส่วนในแสตฟฟอร์ดไชร์ที่อยู่ข้างเคียง มีเกือบ 80 โรงเรียนที่ถูกลิสต์ไว้ว่าปิดการเรียนการสอน โดยหยิบยกเรื่องเส้นทางไม่พร้อมสำหรับการเดินทาง รวมถึงเกรงว่าหิมะจะก่อตัวกลายเป็นน้ำแข็ง ขณะที่วอร์เชสเตอร์ไชร์ที่อยู่ทางใต้ มีโรงเรียนมากกว่า 200 แห่งที่ถูกระบุว่าปิดการเรียนการสอนในวันอังคาร โดยที่บางแห่งบอกด้วยว่า อาคารเรียนยังจมลึกอยู่ใต้หิมะ

    ในกลูเชสเตอร์ไชร์ มีโรงเรียนประมาณ 200 แห่งที่ปิดในวันจันทร์ และปิดต่อในวันอังคารประมาณ 80 แห่ง นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนอีกมากมายในเวลส์ที่ปิดด้วยเช่นกัน

    การเตือนภัยระดับสีเหลืองสำหรับสภาพอากาศแย่ยังคงใช้ไปจนถึงวันอังคารในหลายพื้นที่ของอังกฤษและเวลส์ นอกจากนี้ยังมีการเตือนเรื่องหิมะและน้ำแข็งปกคลุมในฝั่งตะวันออกของอังกฤษ รวมถึงทางเหนือของสก็อตแลนด์

    คาดว่าจะมีหิมะที่ตกมาใหม่สำหรับพื้นที่สูง ถนนและทางรถไฟบางสายน่าจะได้รับผลกระทบ ซึ่งจะทำให้การสัญจรเดินทางใช้เวลามากกว่าปกติ

    ในกลูเชสเตอร์ไชร์ บ้านเรือนจำนวน 36 หลัง ต้องอยู่กันแบบไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นคืนที่ 2 เนื่องจากน้ำแข็งและหิมะได้สร้างปัญหาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125237
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    มือระเบิดรถใต้ดินนิวยอร์กเป็นผู้อพยพบังกลาเทศ-ต้องการแก้แค้นให้ “ไอเอส” เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 09:19:00 ปรับปรุง: 12 ธ.ค. 2560 12:30:00 โดย: MGR Online
    560000012949303.jpg

    อาคายเอ็ด อุลเลาะห์ (Akayed Ullah) ผู้อพยพชาวบังกลาเทศวัย 27 ปี ซึ่งใช้ีระเบิดท่อผูกติดกับตนเองหมายสังหารหมู่ผู้โดยสารภายในสถานีรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก
    เอเอฟพี - คนร้ายซึ่งใช้ระเบิดโจมตีสถานีรถไฟใต้ดินนิวยอร์กในช่วงเวลาเร่งด่วนเมื่อวันจันทร์ (11 ธ.ค.) เป็นผู้อพยพชาวบังกลาเทศวัย 27 ปี และได้ยอมรับสารภาพว่าทำลงไปเพื่อแก้แค้นให้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่โดนสหรัฐฯ ขุดรากถอนโคน

    อาคายเอ็ด อุลเลาะห์ (Akayed Ullah) ยอมรับต่อพนักงานสอบสวนว่าต้องการแก้แค้นแทนนักรบไอเอสซึ่งถูกสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศจนสะบักสะบอม และยังได้แรงบันดาลใจมาจากแผนก่อการร้ายช่วงเทศกาลคริสต์มาสในยุโรป โดยตนเลือกที่จะลงมือใกล้ๆ กับโปสเตอร์คริสต์มาสบนกำแพงสถานีรถไฟใต้ดิน

    ระเบิดซึ่งคนร้ายผูกติดกับร่างกายตนเองและทำงานไม่สมบูรณ์ส่งผลให้ตัวเขาเองบาดเจ็บสาหัส ส่วนเหยื่อคนอื่นๆ อีก 3 รายบาดเจ็บไม่มาก แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ชาวนิวยอร์กที่เพิ่งจะเผชิญเหตุรถบรรทุกไล่ชนคนขี่จักรยานไปเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ถือโอกาสเรียกร้องให้กฎหมายควบคุมคนเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อมโทษนโยบายที่ “หละหลวม”ว่าเป็นต้นเหตุ “ทำให้บุคคลอันตรายเข้ามาในประเทศของเรามากเกินไปโดยไม่ผ่านการคัดกรองที่ดีพอ”

    ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์โครงการวีซ่าที่เปิดทางให้ อุลเลาะห์ เข้ามาในสหรัฐฯ เมื่อปี 2011 เพียงเพราะเขามีญาติอาศัยอยู่ที่นี่ โดยระบุว่าวีซ่าครอบครัวเช่นนี้ “ไม่สอดคล้องกับการรักษาความมั่นคงของชาติ”

    “ความพยายามสังหารหมู่ที่นิวยอร์กซิตีในวันนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นกับนิวยอร์กในรอบ 2 เดือน และชี้ให้เห็นว่าสภาคองเกรสจำเป็นต้องปฏิรูปกฎหมายอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องชาวอเมริกัน” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว

    เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟใต้ดินที่ท่ารถบัส พอร์ต ออทอริตี กับสถานีรถไฟใต้ดินไทม์สแควร์

    ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นผู้โดยสารวิ่งแตกฮือทันทีที่เกิดระเบิดขึ้น และเมื่อควันเริ่มจงลงก็มีร่างของมือระเบิดนอนกองอยู่กับพื้น

    [​IMG]

    แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนระหว่างที่ตำรวจกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดภายในสถานีรถไฟใต้ดินของท่ารสบัส พอร์ต ออธอริตี เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าระเบิดท่อที่ติดอยู่บริเวณหน้าอกของอุลเลาะห์ทำงานไม่สมบูรณ์ ซึ่งช่วยลดความสูญเสียลงไปได้มาก ทว่าตัวคนร้ายเองก็มีแผลไฟไหม้ฉกรรจ์ที่ลำตัวและแขนสองข้าง และถูกนำส่งโรงพยาบาลในสภาพ “สาหัส”

    สำหรับเหยื่ออีก 3 รายมีเพียงอาการหูอื้อ ปวดศีรษะ และบาดเจ็บอีกเล็กๆ น้อยๆ

    แรงระเบิดไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อโครงสร้างของสถานีรถไฟใต้ดิน

    “เป็นความโชคดีของพวกเราที่ระเบิดทำงานไม่เต็มร้อย” แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุในถ้อยแถลง “มันไม่ก่อให้เกิดผลอย่างที่คนร้ายตั้งใจจะให้เกิด”

    คัวโม ระบุด้วยว่า อุลเลาะห์ ไม่ได้เป็นสมาชิกเครือข่ายก่อการร้ายที่ซับซ้อน เพียงแต่ได้แรงบันดาลใจจากไอเอสหรือกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ เท่านั้น

    เหตุระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้คนกำลังเตรียมตัวต้อนรับวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส และบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุร้ายโดยฝีมือพวก “หมาป่าโดดเดี่ยว” ที่คลั่งอุดมการณ์สุดโต่งของไอเอสหรืออัลกออิดะห์

    เมื่อปีที่แล้ว ผู้ลี้ภัยชาวตูนิเซียที่คลั่งไคล้ไอเอสก็ขับรถบรรทุกพุ่งใส่ฝูงชนกลางตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน จนมีผู้เสียชีวิตไป 12 ราย

    เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลฮัลโลวีน ผู้อพยพจากอุซเบกิสถานคนหนึ่งได้เช่ารถบรรทุกขับพุ่งชนคนเดินเท้าและทางจักรยานเลียบแม่น้ำฮัดสันในนิวยอร์ก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บอีก 12 คน

    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยุโรปในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ โดยขอให้ระมัดระวังเหตุโจมตีคล้ายๆ กับที่เบอร์ลิน หรือเหตุกราดยิงงานปาร์ตี้วันส่งท้ายปีเก่าที่ไนต์คลับในนครอิสตันบูลเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีคนตายไปถึง 39 ราย

    https://mgronline.com/around/detail/9600000124869
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระทึก!! ทัพฟ้าจีนซ้อมบินลาดตระเวน “ตีวงล้อมเกาะ” ใกล้น่านฟ้า “ไต้หวัน” เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 16:21:00 โดย: MGR Online
    560000012959802.jpg
    รอยเตอร์ - กองทัพอากาศจีนจัดการซ้อมบินลาดตระเวนทางทหาร “ตีวงล้อมเกาะ” (island encirclement patrols) ใกล้ๆ น่านฟ้าไต้หวัน หลังนักการทูตอาวุโสของจีนออกมาขู่ว่าปักกิ่งอาจตัดสินใจใช้กำลังทหารรุกรานเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ หากรัฐบาลไต้หวันกล้าปล่อยให้เรือรบสหรัฐฯ เข้าไปจอดเทียบท่า

    จีนถือว่าไต้หวันเป็นเพียง “มณฑลทรยศ” และไม่เคยปิดโอกาสใช้กำลังทหารนำเกาะแห่งนี้กลับมาอยู่ใต้การปกครองของแผ่นดินใหญ่

    เสิ่น จินเกอ โฆษกกองทัพอากาศจีน แถลงว่า ฝูงอากาศยานทางทหารซึ่งมีทั้งเครื่องบินขับไล่ เครื่องบินทิ้งระเบิด และเครื่องบินสอดแนม ได้ฝึกลาดตระเวนทางทะเลทั้งตามวงรอบปกติและแบบที่ได้วางแผนไว้ในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน

    เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล H-6K, ฝูงบินขับไล่ Su-30 และ J-11 ตลอดจนเครื่องบินสอดแนม เตือนภัย และเติมเชื้อเพลิง ได้บินผ่านช่องแคบมิยาโกะในภาคใต้ของญี่ปุ่น และช่องแคบบาชิระหว่างไต้หวันและฟิลิปปินส์ “เพื่อทดสอบศักยภาพในการรบจริง” เสิ่น กล่าว

    เฟิง ฉีกวน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ยืนยันว่ากองทัพได้ส่งทั้งเครื่องบินและเรือออกไปเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของจีนแล้ว แต่การซ้อมลาดตระเวนลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติสำหรับจีน และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก

    จีนได้ส่งเครื่องบินออกลาดตระเวนใกล้เกาะไต้หวันหลายครั้งในปีนี้ โดยอ้างว่าเป็นการฝึกซ้อมตามปกติ และเป็นไปตามแผนพัฒนาศักยภาพกองทัพให้มีความทันสมัย ซึ่งรวมถึงการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินขับไล่ชนิดหลบหลีกเรดาร์ (สเตลธ์) เพื่อสำแดงแสนยานุภาพของจีนในน่านน้ำที่ห่างไกลจากชายฝั่ง

    ปักกิ่งย้ำเสมอว่า สถานะของไต้หวันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

    กองทัพไต้หวันมีอาวุธยุทโธปกรณ์ครบครัน ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาจากสหรัฐฯ แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลไทเปก็ยังเรียกร้องอยู่เนืองๆ ให้อเมริกายอมขายอาวุธไฮเทคให้ไต้หวันเอาไว้ใช้ป้องกันตนเองจากจีน

    เมื่อเดือน ก.ย. สภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมาย National Defense Authorization Act สำหรับปีงบประมาณ 2018 ซึ่งเปิดทางให้เรือรบของกองทัพสหรัฐฯ และไต้หวันสามารถแวะจอดท่าเรือของกันและกันได้ เรื่องนี้ทำให้นักการทูตจีนในสหรัฐฯ ออกมาเตือนแรงๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจีนจะส่งทหารบุกไต้หวันทันทีที่มีเรือรบสหรัฐฯ เข้าไปเยือนถึงเกาะแห่งนี้

    จีนหวาดระแวงว่าประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวันอาจมีแผนประกาศเอกราชไม่ขึ้นตรงต่อจีนอย่างเป็นทางการ ขณะที่ ไช่ เองยืนยันว่า รัฐบาลของเธอต้องการอยู่ร่วมกับจีนอย่างสันติ แต่ก็จะป้องกันรักษาความมั่นคงของชาติอย่างสุดกำลัง

    560000012959801.jpg

    เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล H-6K ของจีน

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125080
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทัพอัฟกันเตรียมเปิดปฏิบัติการปราบ “ไอเอส” ในตอนเหนือ
    เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 17:32:00 โดย: MGR Online
    560000012969701.jpg

    เอเอฟพี – กองทัพอัฟกานิสถานเตรียมเปิดฉากปฏิบัติใหญ่หยุดยั้งกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่กำลังรุกล้ำเข้าสู่จังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ เจ้าหน้าที่เผยในวันนี้ (12) หลังจากเอเอฟพีรายงานว่า นักรบหลายคนรวมถึงชาวฝรั่งเศสปรากฏตัวที่นั่น

    “กระทรวงกลาโหมกำลังวางแผนเริ่มปฏิบัติการปราบดาเอชในจังหวักซารีปุล ฟาร์ยับ และโจว์ซจาน ทางตอนเหนือ” โฆษกกระทรวงกลาโหม ดอว์ลัต วาซีรี บอกกับเอเอฟพี โดยเรียกกลุ่มไอเอสด้วยชื่อย่อภาษาอาหรับ

    “เรารู้ว่ามีนักรบชาวต่างชาติในหมู่พวกเขา แต่เราจะกำจัดพวกเขาทั้งหมดโดยไม่สนว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน” เขากล่าว โดยไม่ได้ให้อธิบายเพิ่มเติม

    เมื่อวันอาทิตย์ (10) เอเอฟพีรายงานว่า นักรบชาวฝรั่งเศสและแอลจีเรียซึ่งบางคนมาจากซีเรียเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในตอนเหนือของอัฟกานิสถานซึ่งไอเอสได้ก่อตั้งฐานที่มั่นใหม่เอาไว้

    แหล่งข่าวท้องถิ่นของยุโรปและอัฟกานิสถานยืนยันว่า พลเมืองฝรั่งเศสอยู่ในหมู่นักรบในเขตดาร์ซับของจังหวัดโจว์ซจาน และบ่งชี้ว่า พวกเขามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม-จังหวัดโคราซาน (Islamic State-Khorasan Province : IS-K) สาขาย่อยของกลุ่มนี้ในอัฟกานิสถานและปากีสถาน

    560000012969702.jpg

    นี่เป็นครั้งแรกที่การปรากฏตัวของนักรบไอเอสชาวฝรั่งเศสถูกบันทึกในอัฟกานิสถาน และมีขึ้นในขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า ชาวต่างชาติอาจกำลังมุ่งหน้าไปประเทศนี้หลังจากถูกขับออกมาจากซีเรียและอิรัก

    “เราได้รับรายงานว่านักรบดาเอชกว่า 40 คนส่วนใหญ่เป็นชาวอุซเบกิสถานปรากฏตัวในเขตดาร์ซับและกุชเตปา พวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อชักจูงคนท้องถิ่นเป็นสมาชิกและฝึกฝนพวกเขาให้กลายเป็นนักรบ” โมฮัมหมัด เรซา กาฟูรี โฆษกผู้ว่าการจังหวัดโจว์ซจาน บอกกับเอแฟพี

    “รัฐบาลกำลังวางแผนเริ่มปฏิบัติการกวาดล้างพวกเขาออกจากพื้นที่ดังกล่าวในเร็วๆ นี้” เขากล่าว โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเช่นกัน

    ตอนที่พวกเขาปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2015 กลุ่ม IS-K รุกรานหลายส่วนของจังหวัดนันการ์ฮาร์และจังหวัดคุนาร์ ถึงแม้ว่าในความขัดแย้งของอัฟกานิถานพวกเขาจะเคยถูกครอบงำโดยกลุ่มตอลิบานก็ตาม

    นักรบญิฮาดกลุ่มนี้กระจายไปทั่วตอนเหนือรวมถึงในโจว์ซจานที่มีพรมแดนติดอุซเบกิสถาน และก่อเหตุโจมตีรุนแรงหลายครั้งในกรุงคาบูล

    [​IMG]

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125166
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    In Clips:ทำเนียบขาว “ปกปิด” ตัวเลขกองกำลังสหรัฐฯในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 18:00:00 โดย: MGR Online
    560000012961001.jpg

    เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ – ทำเนียบขาวปฎิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขกองกำลังสหรัฐฯที่ประจำอยู่ในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน ในรายงานประจำครึ่งปีเสนอให้สภาคองเกรสเมื่อวานนี้(11 ธ.ค) ต่างจากรายงานที่ส่งให้เมื่อมิถุนาฯล่าสุด ชี้ทรัม์กลัวการเปิดเผยอาจกลายเป็นข้อมูลให้กลุ่มติดอาวุธ และศัตรูสหรัฐฯ

    ยาฮูนิวส์รายงานวันนี้(12 ธ.ค)ว่า ในรายงานประจำทุก 6 เดือนของทำเนียบขาวที่ส่งไปยังสภาคองเกรสในวันจันทร์(11) ไม่มีการระบุลงไปในรายละเอียดถึงตัวเลขจำนวนกองกำลังสหรัฐฯในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน

    ซึ่งการเลือกที่จะออกมาปิดบังตัวเลขกับสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เชื่อว่าเป็นการสะท้อนออกมาถึงแนวคิดของชุดรัฐบาลทรัมป์ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนกำลังพลที่ประจำอยู่ในเขตที่มีความขัดแย้งสูงเป็นความลับ ซึ่งทางยาฮูนิวส์ชี้ว่า เกิดขึ้นในทฤษฎีที่เชื่อว่า หากเปิดเผยข้อมูลนี้ออกไป อาจเป็นเหมือนการป้อนข้อมูลให้กับกลุ่มติดอาวุธสุดโต่ง และศัตรูอื่นๆของอเมริกาที่จะได้เปรียบในทางยุทธศาสตร์ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลสหรัฐฯ

    แต่อย่างไรก็ตาม พบว่ามีเจ้าหน้าที่จากทางการทหารสหรัฐฯ สภาคองเกรส หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯต่างออกมาโต้ถึงแนวคิดที่ว่า ซึ่งมีบางส่วนชี้ว่า ความโปร่งใสจำเป็นต้องมีถึงการที่รัฐบาลสหรัฐฯใช้กำลังพลอย่างไร ซึ่งมาจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีความแน่ชัดว่า ทางทำเนียบขาวยอมเปิดเผยตัวเลขกำลังพลในต่างแดนต่อรัฐสภาสหรัฐฯในหนังสือลับหรือไม่

    ยาฮูนิวส์ชี้ว่า ถือเป็นเรื่องแปลกที่จังหวะเวลาที่ทางทำเนียบขาวเลือกที่จะปิดบังตัวเลขกองกำลังใน 3 ประเทศ เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเพนตากอน จากการเปิดทางของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เจมส์ แมททิส “ทำการเปิดเผยระดับของกองกำลังในอิรัก ซีเรีย และอัฟกานิสถาน” ซึ่งในการแถลงรายงานสรุปเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทางแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกล่าวว่า มีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ในอัฟกานิสถานราว 11,000 นาย และจะส่งเข้าไปเสริมภายใต้ยุทธศาสตร์อัฟกานิสถานใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์อีก 3,000-4,000 นายในการที่จะทำสงครามรบให้ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา

    และพบว่าในช่วงต้นเดือนนี้ เพนตากอนได้เปิดเผยกับนักข่าวว่า มีทหารอเมริกันอยู่ในอิรักประมาณ 5,200 นาย และอีก 2,000 นายอยู่ในซีเรีย ซึ่งการเปิดเผยล่าสุดเป็นตัวเลขที่เพิ่มมาจากการเปิดเผยก่อนหน้าที่ 500 นายเท่านั้น

    ทั้งนี้พบว่าภายใต้กฏหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯปี 1973 ที่ชื่อ The 1973 War Powers Resolution หรือ . รัฐบัญญัติอำนาจในการทำสงครามปี 1973 ที่จำกัดอำนาจในการทำสงครามของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทางประธานาธิบดีถูกบังคับให้ต้องขออำนาจจากสภาคองเกรสในการส่งทหารใด ๆ ไปปฏิบัติการภายใน 60 วัน และอาจจะขอความเห็นชอบต่อระยะเวลาออกไปได้อีก 30 วัน โดยที่ไม่มีการประกาศสงคราม ทำให้จำเป็นต้องส่งรายงานเข้าไปยังสภาคองเกรสในทุก 6 เดือน

    และกฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นเนื่องมาจากสงครามเวียดนาม ซึ่งรายงานเมื่อเดือนมิถุนายนก่อนหน้า พบว่ามีการรายงานตัวเลขตามปกติ ที่ได้เปิดเผยว่ามีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ในไนเจอร์ราว 645 นาย ซึ่งอีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น กองกำลังสหรัฐฯถูกซุ่มโจมตีจนทำให้มีนายทหารรบพิเศษเสียชีวิต ส่งผลกลับไปยังวอชิงตัน ซึ่งมีนักการเมืองอเมริกันบางส่วนออกมาแก้ตัวว่า ไม่ทราบว่ามีกองกำลังสหรัฐฯที่ประจำอยู่ที่นั่น ยาฮูนิวส์ชี้

    โดย 6 เดือนก่อนหน้า ทำเนียบขาวเปิดเผยตัวเลขว่า มีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ในอัฟกานิสถานราว 8,448 นาย ในอิรักจำนวน 5,262 นาย และในซีเรียอีก 503 นาย แต่ไม่ปรากฎการเปิดเผยในรายละเอียดในหนังสือรายงานเมื่อวานนี้(11)

    ซึ่งทางสื่อยาฮูนิวส์พบถึงความเปลี่ยนแปลงจากรายงานฉบับก่อนหน้า ในเวลานี้รัฐบาลสหรัฐฯประกาศว่า มีจำนวนกองกำลังสหรัฐฯอยู่เล็กน้อยปฎิบัติการอยู่ในเยเมนเพื่อสู้รบกับกลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มก่อการร้าย IS แต่ไม่มีการกล่าวถึงกองกำลังสหรัฐฯในรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน

    นอกจากนี้ยังพบว่า ในรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน มีการระบุถึงกองกำลังสหรัฐฯปฎิบัติการในจอร์แดนมีจำนวน 2,850 นาย แต่ในเวลานี้ลดลงเหลือ 2,300 นาย

    ในขณะที่เลบานอน ไม่มีการกล่าวไว้เมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า แต่ในฉบับล่าสุดชี้ว่า มีกองกำลังสหรัฐฯประจำอยู่ราว 100 นาย ซึ่งเป็นการขอร้องของทางรัฐบาลเลบานอนในการเพิ่มสมรรถนะการสู้กับการก่อการร้าย

    รายงานของทำเนียบขาวที่ส่งออกไปในวันจันทร์(11)กล่าวว่ามีกองกำลังสหรัฐฯจำนวน 800 นายถูกส่งไปยังไนเจอร์ ขึ้นมาจาก 645 นายเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า แต่ในรายงานในเดือนมิถุนายนที่มีการบอกอย่างชัดเจนถึงกองกำลังสหรัฐฯร่วม 300 นายอยู่ในแคเมอรูน แต่ทว่าในฉบับล่าสุดกลับมีการปกปิดตัวเลขไว้

    นอกจากนี้การปกปิดจำนวนกองกำลังยังเกิดขึ้นกับประเทศที่อยู่ในแอฟริกากลางคือ อูกันดา ซูดานใต้ สาธารณรัฐคองโก และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งในรายงานฉบับก่อนหน้ามีการเปิดเผยตัวเลขกองกำลังสหรัฐฯราว 410 นายประจำอยู่ในประเทศเหล่านี้

    และพบว่าในรายงานฉบับเดือนมิถุนายน 2017 ไม่มีการเอ่ยไปถึงฟิลิปปินส์ แต่ทว่าฉบับเดือนธันวาคม รายงานชี้ว่า “มีกองกำลังหสรัฐฯที่ไม่บ่งบอกจำนวนหนึ่งให้การสนับสนุนปฎิบัติการต่อต้านก่อการร้ายที่นั่น”

    ในตอนท้าย ยาฮูนิวส์ชี้ว่า สำหรับในอียิปต์ พบว่า จำนวนกองกำลังสหรัฐฯลดลงจาก 700 นายเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 400 นายในการรายงานล่าสุด





    https://mgronline.com/around/detail/9600000125191
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผลสำรวจเผย! ชาวมะกันเชื่อมี “คอร์รัปชัน” มากขึ้นในยุคทรัมป์
    เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 19:05:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:01:00 โดย: MGR Online
    [​IMG]

    เอเอฟพี - ชาวอเมริกันเชื่อว่าสังคมสหรัฐฯ มีการทุจริตมากขึ้นอย่างเด่นชัดในปีนี้หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นสู่อำนาจ อ้างจากผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันนี้ (12 ธ.ค.)

    เกือบ 6 ใน 10 คนระบุว่า พวกเขาเชื่อว่ากรคอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้นในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากราว 1 ใน 3 คนเมื่อเดือนมกราคมปี 2016 อ้างจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) กลุ่มสังเกตการณ์การคอร์รัปชันทั่วโลก

    ในการสำรวจล่าสุดนี้ 44 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันกล่าวว่า การคอร์รัปชันเกิดขึ้นในทำเนียบขาว โดยเพิ่มขึ้นมา 8 เปอร์เซ็นต์ และแซงหน้าสภากองเกรสในฐานะส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ถูกอ้างถึงบ่อยที่สุดในเรื่องการทุจริต ผลสำรวจระบุ

    “เจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตั้งของเขาล้มเหลวในการความไว้ใจในความสามารถของวอชิงตันที่จะรับใช้ประชาชนและยังดูเหมือนว่าจะแสดงให้เห็นถึงผลประโยชน์ภายนอกของกลุ่มชนชั้นนำอีกด้วย” โซอี เรเตอร์ ตัวแทนสหรัฐฯ ขององค์กรนี้ กล่าวในถ้อยแถลง

    เกือบ 7 ใน 10 คนยังเชื่อด้วยว่า รัฐบาลล้มเหลวในการต่อสู้กับการคอร์รัปชัน เพิ่มขึ้นจากครึ่งหนึ่งของผู้ถูกสำรวจในปี 2016

    ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งด้วยคำสัญญาว่าจะกวาดล้างสิ่งสกปรกในวอชิงตัน และควบคุมการล็อบบี้ของกลุ่มบริษัท

    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ปลีกตัวเองออกจากอาณาจักรธุรกิจระดับโลกของเขา และนักวิจารณ์ประณามสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับประธานาธิบดี ในขณะที่นโยบายของรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อประโยชน์ของครอบครัวเขา

    องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติระบุว่า การสำรวจนี้มาจากการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยมีคอมพิวเตอร์เข้าช่วยกับผู้ใหญ่ 1,005 คนระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน และอัตราความคลาดเคลื่อน 3.1 เปอร์เซ็นต์

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125221
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “ปูติน-แอร์โดอัน” อัด “ทรัมป์” ทำ ตอ.กลางเดือด นายกฯ ยิวกร่อย-อียูปฏิเสธรับรองเยรูซาเลม เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 21:01:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:05:00 โดย: MGR Online
    560000012988601.jpg

    ผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ เตะยางรถยนต์ที่กำลังลุกไหม้ให้วิ่งเข้าใส่กองกำลังความมั่นคงอิสราเอล ระหว่างการปะทะกันในเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์เมื่อวันอังคาร (12 ธ.ค.) ชาวปาเลสไตน์ยังคงออกมาประท้วงต่อเนื่องภายหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯประการรับรองให้เมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
    เอเจนซีส์ - ทั้งประธานาธิบดีตัยยิบ แอร์โดอัน ของตุรกี และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ต่างออกมาเตือนว่า การรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลเพิ่มความเสี่ยงทำให้ตะวันออกกลางยิ่งลุกเป็นไฟ ขณะที่ตุรกีย้ำว่าการต่อสู้ของชาวมุสลิมไม่มีวันเลิกราจนกว่าจะมีการสถาปนารัฐปาเลสไตน์ พร้อมชี้ว่าการประชุมกลุ่มความร่วมมืออิสลามวันพุธ (13 ธ.ค.) ซึ่งตนเป็นเจ้าภาพจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ สำหรับทางด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ไปเยือนบรัสเซลส์แบบกร่อย หลังอียูปฏิเสธย้ายสถานทูตไปเยรูซาเลม

    ประธานาธิบดีปูติน แถลงระหว่างเยือนกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกีเมื่อวันจันทร์ (11) ว่า รัสเซียและตุรกีเชื่อว่า การตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องนครเยรูซาเลม ไม่ได้ช่วยอะไรตะวันออกกลาง ซ้ำบั่นทอนเสถียรภาพท่ามกลางบรรยากาศที่ซับซ้อนอยู่แล้ว และอาจทำให้กระบวนการสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์ตกราง

    นอกจากนั้นระหว่างเยือนกรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ในวันเดียวกัน ประมุขวังเครมลินยังย้ำความสำคัญของการฟื้นการเจรจาระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ทันที เพื่อสะสางประเด็นขัดแย้งต่างๆ ซึ่งรวมถึงสถานะของเยรูซาเลม

    สำหรับประธานาธิบดีแอร์โดอัน บอกว่า อิสราเอลกำลังใช้โอกาสนี้เพิ่มความกดดันและความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ ขณะที่อเมริกากลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้จากการที่ทรัมป์ประกาศรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลเมื่อวันพุธที่แล้ว (6)

    ผู้นำตุรกีสำทับว่า การต่อสู้ของชาวมุสลิมจะไม่มีวันจบสิ้นจนกว่า ปาเลสไตน์จะสถาปนารัฐอิสระ รวมทั้งย้ำว่า การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ที่เมืองอิสตันบูลในวันพุธจะเป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์นี้

    560000012988602.jpg

    ในอีกด้านหนึ่ง การไปเยือนกรุงบรัสเซลส์ของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู เพื่อขอให้พันธมิตรสหภาพยุโรป (อียู) เดินรอยตามวอชิงตันรับรองสถานะเยรูซาเลม รวมทั้งเลิกให้ท้ายปาเลสไตน์ แต่ต้องกดดันให้ยอมรับความจริงในเรื่องนี้ซึ่งถือเป็นรากฐานของสันติภาพ กลับได้ผลลัพธ์ตรงกันข้ามเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศอียูต่างปฏิเสธตรรกะดังกล่าว และว่า การรับรองเมืองหลวงของอิสราเอลฝ่ายเดียวเสี่ยงที่จะจุดชนวนความรุนแรงและทำลายโอกาสในการสร้างสันติภาพ

    นักการทูตระดับสูงของสวีเดนเผยว่า ภายในการประชุมแบบปิดลับ ไม่มีรัฐมนตรีอียูชาติใดกล่าวสนับสนุนการตัดสินใจของทรัมป์หรือมีแนวโน้มย้ายสถานทูตไปยังเยรูซาเลม

    ตรงข้ามกับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ที่เดินทางเยือนไคโรเมื่อวันจันทร์และได้พบกับประธานาธิบดีอับเดล อัล-ซิซีของอียิปต์ ซึ่งวิจารณ์ว่า การย้ายสถานทูตอเมริกันไปยังเยรูซาเลมจะเป็นอันตรายต่อสันติภาพและความมั่นคงของตะวันออกกลาง

    อับบาสยังมีกำหนดบินไปร่วมประชุมโอไอซีที่อิสตันบูลในวันพุธด้วย

    การตัดสินใจรับรองสถานะของเยรูซาเลมยังทำให้วอชิงตันผิดใจกับพันธมิตรอิสลามสำคัญอีกชาติคือซาอุดีอาระเบีย ที่กังวลกับการแผ่ขยายอิทธิพลของอิหร่านในตะวันออกกลางเช่นเดียวกัน

    ในวันจันทร์ เจ้าชายเตอร์กี อัล-ไฟซาล อดีตเอกอัครราชทูตซาอุดีฯ ประจำวอชิงตัน และอดีตผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคง ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงทรัมป์ว่า ความพยายามฉวยโอกาสเพื่อผลประโยชน์ในการเลือกตั้งของทรัมป์กำลังจะทำให้เกิดการนองเลือดและความวุ่นวายตามมา รวมทั้งยังทำให้กลุ่มสุดโต่งที่สุดในอิสราเอลฮึกเหิมและทึกทักว่า เป็นใบสั่งขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากถิ่นฐาน อีกทั้งยังทำให้อิหร่านและสมุนกลุ่มก่อการร้ายใช้เป็นข้ออ้างในการปกป้องสิทธิ์ของปาเลสไตน์

    [​IMG]

    นอกจากเผชิญการต่อต้านจากรัฐบาลประเทศต่างๆ แล้ว คำประกาศของทรัมป์ยังจุดชนวนการประท้วงรุนแรงในโลกมุสลิม และการปะทะระหว่างกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลกับปาเลสไตน์ทั้งในเขตเวสต์แบงก์ กาซา และเยรูซาเลมตะวันออก

    มีรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในกาซายิงจรวดเข้าใส่อิสราเอล และกองทัพอิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและด้วยรถถังที่พุ่งเป้าที่ตั้งของฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มอิสลามิสต์ที่ควบคุมพื้นที่บริเวณนั้น นอกจากนี้ยังมีการปะทะภาคพื้นดินที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์บาดเจ็บและเสียชีวิตไปหลายคน นับตั้งแต่ที่ทรัมป์ประกาศรับรองสถานะเยรูซาเลมเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้ว

    ส่วนที่กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน ประชาชนนับหมื่นชุมนุมประท้วงบนถนนโดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มฮิสบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวชีอะห์เลบานอนที่มีอิหร่านหนุนหลัง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ลุกฮือต่อต้านอิสราเอล

    ไซเอด ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิสบอลเลาะห์ ประกาศกับฝูงชนในเบรุตผ่านวิดีโอลิงก์ว่า ฮิสบอลเลาะห์จะกลับมาต่อสู้กับอิสราเอลอีกครั้ง และเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์เข้าร่วมด้วย

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125244
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไม่สนคำเตือน ฝูงบินรบสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นจัดซ้อมรบใหญ่รอบคาบสมุทรเกาหลีข่มขวัญโสมแดง เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 22:04:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:07:00 โดย: MGR Online
    560000012989101.jpg

    รัสเซียทูเดย์ - ฝูงบินรบสหรัฐฯ และญี่ปุ่นฝีกซ้อมร่วมกันทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลีในวันอังคาร (12 ธ.ค.) นับเป็นหนึ่งของการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่มีเป้าหมายอยู่ที่เกาหลีเหนือ แม้มีคำเตือนจากรัสเซียว่ามันจะโหมกระพือความตึงเครียดกับเปียงยาง

    เครื่องบินขับไล่ F-15 ของญี่ปุ่น 4 ลำในวันอังคาร (12 ธ.ค.) ร่วมซ้อมรบกับฝูงบินทิ้งระเบิด B1-B, ฝูงบินล่องหน F-35 และฝูงบินประจัญบาน F-18 ของสหรัฐฯ เหนือทะเลจีนตะวันออก ทางใต้ของคาบสมุทรเกาหลี จากคำยืนยันของกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศแห่งญี่ปุ่น (ASDF)

    การซ้อมฝึกซ้อมครั้งนี้ถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นหนึ่งในการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งรวมถึงฝูงบินของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่บนเกาะกวมและญี่ปุ่นด้วย “การซ้อมรบมีจุดมุ่งหมายส่งเสริมปฏิบัติการร่วมต่างๆ และยกระดับขีดความสามารถในการสู้รบ” ถ้อยแถลงของ ASDF ระบุ

    เมื่อวันจันทร์ (11 ธ.ค.) พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ เสนาธิการทหารรัสเซีย เตือนญี่ป่นว่าการเข้าร่วมซ้อมรบทางทหารกับสหรัฐฯ รอบๆ คาบสมุทรเกาหลี อาจขยายความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือในภูมิภาค

    พล.อ.การาซิมอฟ ยังบอกกับ อิตสึโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ระหว่างเดินทางเยือนกรุงโตเกียว ว่าการซ้อมรบทางทหารที่มีเป้าหมายถาโถมแรงกดดันเข้าใส่เปียงยางให้หยุดทดสอบขีปนาวุธนั้น อาจเพิ่มความตึงเครียดและนำมาซึ่งความไร้เสถียรภาพ “เราเชื่อว่าประเด็นนี้ควรคลี่คลายผ่านวิถีทางการทูตและการเมืองเท่านั้น”

    วอชิงตัน โซลและโตเกียว เริ่มต้นการซ้อมรบร่วมติดตามขีปนาวุธต่างๆ” ในวันจันทร์ (11 ธ.ค.) ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากสหรัฐฯ และพันธมิตรเพิ่งสิ้นสุดการแปรขบวนโชว์แสนยานุภาพครั้งใหญ่เหนือคาบสมุทรเกาหลี

    มอสโกและปักกิ่งสนับสนุนข้อตกลงหยุดทั้งสองฝ่าย โดยเสนอให้เกาหลีเหนือระงับการทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ แลกกับการที่สหรัฐฯ ลดการซ้อมรบทางทหารในภูมิภาค

    สหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนจุดยืนแข็งกร้าวต่อโครงการนิวเคลียร์และการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยมีข่าวว่ากองทัพอเมริกากำลังหารือกับเกาหลีใต้ ในกรอบเวลาการซ้อมรบร่วมใหญ่ประจำปี ซึ่งดูเหมือนว่าปีหน้าจะตรงกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองเปียงชางพอดี

    อย่างไรก็ตาม ในความเคลื่อนไหวเพื่อหวังลดความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ วอชิงตันกับโซลกำลังพิจารณาเลื่อนการซ้อมรบร่วมออกไปหลังกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125253
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทำเนียบขาวตอบง่าย ชัยชนะเลือกตั้ง “ทรัมป์” ดับข้อกังขากรณีลวนลามหญิงนับสิบ เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 23:10:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:10:00 โดย: MGR Online
    560000012991801.jpg

    ภาพถ่ายจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็น เรเชล ครูคส์ (ซ้าย) , เจสซิกา ลีดส์ (ที่2จากซ้าย), และ ซาแมนธา โฮลวีย์ (ที่2 จากขวา) แถลงข่าวในนครนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ (11 ธ.ค.) ทั้งนี้พวกเธอต่างบอกว่าเคยถูกโดนัลด์ ทรัมป์ ล่วงละเมิดทางเพศ และเรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯเปิดการสอบสวน
    เอเจนซีส์ - ทำเนียบขาวตอบง่าย ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบทรัมป์เนื่องจากชาวอเมริกันตัดสินชี้ขาดแล้วด้วยการเทคะแนนให้ทรัมป์เข้าสู่ทำเนียบขาว หลัง ส.ส.หญิงกว่า 50 คนจากพรรคเดโมแครต ทำหนังสือร้องเรียนให้สภาเปิดการสอบสวนกรณีที่มีผู้หญิงนับสิบคนร้องเรียนว่า เคยถูกประธานาธิบดีล่วงละเมิดทางเพศ

    จดหมายที่ร่างโดยคณะทำงานสตรีพรรคเดโมแครต ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงทั้ง 56 คนของพรรคนี้ ระบุว่า คงไม่สามารถเพิกเฉยกับการที่ผู้หญิงจำนวนมากยอมเปิดเผยตัวตนออกมากล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (11 ธ.ค.) ผู้หญิง 3 คนที่กล่าวหาว่า ทรัมป์ลวนลาม เรียกร้องให้รัฐสภาเปิดการสอบสวนพฤติกรรมของประมุขทำเนียบขาว โดยบอกว่า ที่ออกมาเรียกร้องเรื่องนี้อีกเนื่องจากสังคมกำลังตื่นตัวกับประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศจากกรณีฉาวมากมายทั้งที่เกิดขึ้นในวงการสื่อ ธุรกิจ และการเมือง หลังจากฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ โปรดิวเซอร์ขาใหญ่ในฮอลลีวูด ถูกแฉว่าลวนลามนักแสดงหญิงหลายต่อหลายคน

    ข้อเรียกร้องของ ส.ส.เดโมแครตถูกส่งไปยังบรรดาผู้นำคณะกรรมาธิการกำกับดูแลและปฏิรูประบบราชการ ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการหลักที่ทำหน้าที่สอบสวนในสภาผู้แทนราษฎร

    ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงกว่า 20 คนได้กล่าวหาว่า ถูกทรัมป์ลวนลามในช่วงหลายปีก่อนที่จะเข้าสู่การเมือง จดหมายของสมาชิกหญิงพรรคเดโมแครตเมื่อวันจันทร์ระบุว่า มีผู้กล่าวหาที่เปิดเผยชื่ออย่างน้อย 17 คน

    ในจดหมายยังกล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของทรัมป์หลายครั้งหลายคราสนับสนุนข้อกล่าวหาของผู้หญิงเหล่านั้น และว่า ประธานาธิบดีควรได้รับโอกาสในการแสดงหลักฐานแก้ต่างให้ตัวเอง

    560000012991802.jpg

    คริสเตน กิลลิแบรนด์ วุฒิสมาชิกหญิงพรรคเดโมแครตจากรัฐนิวยอร์ก ในภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เธอเป็นผู้หนึ่งที่กำลังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลาออก จากพฤติการณ์ล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงจำนวนมากในอดีตที่ผ่านมา

    นอกจาก ส.ส.หญิงแล้ว ยังมีวุฒิสมาชิกเดโมแครตอีกอย่างน้อย 3 คน อาทิ คริสเตน กิลลิแบรนด์ ที่เรียกร้องให้ทรัมป์ลาออก ขณะที่วุฒิสมาชิกรอน ไวเดน สนับสนุนให้สภาเปิดการสอบสวนทรัมป์ ซึ่งไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้นจริงเนื่องจากพรรครีพับลิกันกุมเสียงข้างมากในทั้งสองสภา

    ปีที่แล้ว ทรัมป์ออกมาขอโทษที่พล่ามเรื่องการลูบคลำผู้หญิงในเทปที่ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2005 และหลุดออกมาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่ปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำสิ่งที่พูด ต่อมา เขายังบอกพรรคพวกว่า เสียงในเทปไม่ใช่เสียงตนเอง

    ทั้งประธานาธิบดีและทำเนียบขาวยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศที่บางกรณีเกิดขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1980

    ซาราห์ ฮักคาบี โฆษกหญิงของทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า จังหวะเวลาและสาระที่หาไม่ได้ของข้อกล่าวหาจอมปลอมเหล่านั้นฟ้องถึงแรงจูงใจทางการเมือง

    ฮักคาบีสำทับว่า ทรัมป์เคยกล่าวถึงตรงๆ และปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้นทั้งหมด และว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงหาเสียงปีที่แล้ว และชาวอเมริกันก็ตัดสินชี้ขาดแล้วด้วยการมอบชัยชนะให้ทรัมป์

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125273
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นาโตแต่งตั้ง “สโตลเทนเบิร์ก” นั่งเก้าอี้เลขาธิการต่ออีกสมัย
    เผยแพร่: 12 ธ.ค. 2560 23:29:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:09:00 โดย: MGR Online
    [​IMG]

    เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก
    เอเอฟพี - นาโตในวันอังคาร (12 ธ.ค.) แต่งตั้งให้ เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก ดำรงตำแหน่งเลขาธิการต่ออีกสมัยและจะนั่งเก้าอี้ตัวนี้ไปจนถึงปี 2020 ใขณะที่พันธมิตร “องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ” แห่งนี้กำลังยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็นเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่แลเห็นได้จากรัสเซีย

    อดีตนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ ที่เข้ารับตำแหน่งสมัยแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2014 จะเป็นผู้นำพันธมิตรเข้าสู่การประชุมซัมมิตครั้งหน้าในกรุงบรัสเซลส์ เดือนกรกฎาคมปี 2018 โดยมีวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือและจุดยืนที่รวนเรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ต่อนาโต เป็นประเด็นสำคัญ

    องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ มีความทะเยอทะยานปฏิรูปโครงสร้างบัญชาการซึ่งมีเป้าหมายทำให้นาโต้ พร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทายแห่งการสงครามของยุคศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะภัยคุกคามจากกลยุทธ์ไซเบอร์และสงครามพันทาง (Hybrid War)

    สภาแอตแลนติกเหนือ องค์กรหลักที่ตัดสินใจด้านการเมืองของนาโต เปิดเผยว่า สมาชิก 29 ชาติของพันธมิตรแห่งนี้ เห็นพ้องขยายอำนาจของสโตลเทนเบิร์ก ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2020

    “พันธมิตรขอแสดงความยินดีกับเลขาธิการและมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมต่อความสามารถของเขาที่จะทำงานอุทศตนเพื่อเดินหน้าปฏิรูปนาโต้สำหรับเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านความมั่นคงต่างๆ ในยุคศตวรรษที่ 21” สภาแอตแลนติกเหนือระบุ

    ด้าน สโตลเทนเบิร์ก อดีตนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์ วัย 59 ปี เขียนลงทวิตเตอร์ระบุว่ายินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการขยายอาณัติอีกสมัย “ขอมองไปข้างหน้า เดินหน้าทำงานร่วมกันเพื่อความเข้มแข็งของพันธมิตรและปกป้องพลเมืองของเราให้ปลดอภัย”

    สโตลเทนเบิร์ก เข้ากุมบังเหียนนาโต ในช่วงที่วิกฤตยูเครนโหมกระพือขึ้นตามหลังรัสเซียผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และเขาเป็นผู้ควบคุมดูแลส่ง 4 กองกำลังพร้อมรบเข้าประจำการตามประเทศต่างๆ แถบบอลติกและโปแลนด์ เพื่อตอบโต้พฤติกรรมก้าวร้าวของรัสเซีย

    เมื่อเดือนที่แล้ว เหล่าคณะรัฐมนตรีกลาโหมนาโตเห็นห้องยกระดับการใช้สรรพวุธและกลยุทธ์ไซเบอร์ระหว่างปฏิบัติการต่างๆ ทางทหาร และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการไซเบอร์ ในขณะที่พันธมิตรต้องเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์เล่นงานเครือข่ายของพวกเขาหลายร้อยครั้งในแต่ละเดือน

    การประชุมในปีหน้ายังมีจุดประสุงค์เพื่อหล่อหลอมความเป็นหนึ่งเดียวก่อนหน้าการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบัญชาการของนาโต ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามเย็น ขณะเดียวกัน ทางนาโตยังหวังเพิ่มความร่วมมือกับสหภาพยุโรป ซึ่งยกระดับขึ้นภายใต้การนำของ สโตลเทนเบิร์ก เพื่อเปิดทางให้เคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปทั่วยุโรปได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้แล้ว ภัยคุกคามทางนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือก็ทอดเงาปกคลุมความกังวลในหมู่พันธมิตรของนาโต้เช่นกัน หลังจากเปียงยางทดสอบขีปนาวุธลูกหนึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งอ้างว่ามีพิสัยทำการโจมตีได้ทั่วทุกหัวระแหงของสหรัฐฯ

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125275
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ภาพสะพรึง! โรงงานก๊าซระเบิดตูมสนั่นในออสเตรีย ตาย 1 บาดเจ็บนับสิบ (ชมคลิป) เผยแพร่: 13 ธ.ค. 2560 01:00:00 ปรับปรุง: 13 ธ.ค. 2560 10:11:00 โดย: MGR Online



    เอเอฟพี - เกิดเหตุระเบิดตูมใหญ่บริเวณศูนย์กลางท่อลำเลียงก๊าซใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ในออสเตรียเมื่อวันอังคาร (12 ธ.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 18 คน

    ภาพถ่ายเผยให้เห็นหอคอยแห่งเปลวเพลิงสีส้มขนาดใหญ่โหมกระพือขึ้นจากโรงงานบวมการ์เดน ใกล้ชายแดนติดกับสโลวาเกีย และห่างจากกรุงเวียนนา ไปทางตะวันออกราว 50 กิโลเมตร มองเห็นได้ไกลจากจุดเกิดเหตุหลายกิโลเมตร

    โฆษกตำรวจเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า “เหตุระเบิดเกิดขึ้นตอนเวลา 8.45 น. (ตรงกับเมืองไทย 14.45 น.) จากนั้นก็ไฟก็ลุกไหม้ตามมา” ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาเขาระบุว่า ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ 80 ราย หนึ่งในนั้นอาการสาหัส ส่วนคนอื่นๆ บาดเจ็บเล็กน้อย

    560000012992201.jpg
    อย่างไรก็ตาม โฆษกสภากาชาด ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่น ว่า มีคนได้รับบาดเจ็บน้อยกว่านั้นคือ 18 ราย แต่มีผู้เสียชีวิต 1 คน ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่ในอาการสาหัสนั้น ถูกลำเลียงทางอากาศนำส่งโรงพยาบาลในกรุงเวียนนา

    โธมัส ฮูลิค ชาวบ้านที่พักอาศัยอยูุ่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในสโลวาเกีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เล่าว่า “ผมได้ยินเสียงระเบิด ตอนแรกคิดว่าเป็นเครื่องบินตก จากนั้นก็เห็นลูกบอลไฟขนาดมหึมา”

    อาร์มิน เทเชิร์ต โฆษกของบริษัท ก๊าซ คอนเน็ค ออสเตรีย ผู้บริหารโรงงานดังกล่าว เผยว่า ได้ดำเนินการอพยพคนงานและกำหนดให้โรงงานเข้าสู่โหมดด้านความปลอดภัย พร้อมยอมรับว่า เกิดความเสียหายทางกายภาพใหญ่หลวง

    560000012992202.jpg
    สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า นักดับเพลิงราว 200 คน จากหน่วยต่างๆ ในพื้นที่โดยรอบถูกเรียกเข้ามาช่วยจัดการสถานการณ์ เช่นเดียวกับหน่วยฉุกเฉินทางอากาศ ขณะที่ตำรวจแจ้งเตือนบนสื่อสังคมออนไลน์แนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่เกิดเหตุ

    ในเวลาต่อมา ตำรวจรัฐโลเวอร์ออสเตรีย เผยผ่านทวิตเตอร์ว่า สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว “หน่วยดับเพลิงช่วยกันดับไฟหลังเหตุระเบิด และหน่วยฉุกเฉินเข้าปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ” ถ้อยแถลงระบุ

    [​IMG]

    ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีที่อยู่ใกล้เคียง รายงานว่า ไฟถูกดับจนมอดในช่วงสาย แต่ตอนนั้นยังคงพบเห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยพวยพุ่งขึ้นจากโรงงาน ขณะที่ภาพถ่ายอื่นๆ เผยให้เห็นว่าความร้อนจากเหตุระเบิดได้เผาผลาญรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณโรงงานได้รับความเสียหายบางส่วน

    ตำรวจระบุว่า ต้นตอของเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นเหตุขัดข้องทางเทคนิคและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้เริ่มดำเนินการสืบสวนแล้ว

    https://mgronline.com/around/detail/9600000125277
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    560000012969703.JPEG

    ... "ปูติน ออกความเห็นเรื่องทรัมป์รับรองว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล จะทำลายเสถียรภาพของเอเชียตะวันตก"
    ... ลุงปูตินเปิดปากวิจารณ์ครั้งแรกในสื่อสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องที่อเมริกาโดยทรัมป์ประกาศเสียงดังฟังชัดเอาใจคนยิวว่า เมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลและมีแผนจะย้ายสถานทูตอเมริกาไปที่นั่นเร็วๆนี้
    ... โดยลุงปูตินบอกว่า ลุงเห็นด้วยกับเออร์โดกัน ประธานาธิบดีของตุรกีว่าการทำแบบนั้นจะทำให้เสถียรภาพของเอเชียตะวันตกแย่ลง
    ... โดยลุงให้ความเห็นหลังจากปรึกษาหารือกับผู้นำของตุรกีที่กรุงมอสโคว์ และบอกด้วยว่าทั้ง "รัสเซียและตุรกี" จะร่วมมือกันทางด้านความมั่นคงเป็นพันธมิตรกันเพื่อให้แน่นแฟ้นต่อไป
    ... Putin made his first public comment on the subject of the recent decision of US President Donald Trump to recognise Jerusalem as the capital of Israel. After a meeting with Turkish President Recep Erdogan, Putin said that Moscow, like Ankara, considers this decision as a move to destabilise the situation in the region.
    ... "Both Russia and Turkey believe that the decision of the US administration to recognise Jerusalem as the capital of Israel and move the US Embassy there does not help settle the state of affairs in the Middle East," Putin said.
    ... In addition, following the meeting with Erdogan, Vladimir Putin expressed a hope that the credit agreement between Russia and Turkey in the field of defence cooperation would be signed "in the near future."
    http://www.pravdareport.com/news/world/asia/11-12-2017/139372-putin_jerusalem-0/
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    akkad3.jpg

    ... “อียูเอาคืน ยุไอร์แลนด์เหนือแยกตัวจากอังกฤษ แล้วไปรวมกับไอร์แลนด์ อังกฤษขนหัวลุก”

    ... “หลังจากที่ “อังกฤษ” เองอยากเป็นอิสระและแยกตัวออกจาก อียู มาแล้ว ขณะเดียวกันภายในสหราชอาณาจักรเองก็มีการพยายามแยกตัวออกจากอังกฤษ

    ... ครั้งที่แล้ว “สก๊อตแลนด์” ดินแดนแห่งน้ำมันมากมาย ( ที่บริษัท BP เจ้าแห่งการค้าน้ำมันไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่ ) ก็พยายามจะแยกตัวออกจากอังกฤษเช่นกัน แต่โดนวิธีเล่ห์กลของอังกฤษและพวกสก๊อตข้าทาสอังกฤษ ทำให้มีการออกกฎกติกาแปลกๆ เช่น คนอังกฤษที่พำนักในสก็อตแลนด์ กลับมีสิทธิ์ออกเสียงในการโหวตว่าจะออกจากสหราชอาณาจักรหรือไม่ ในขณะที่คนสก็อตแลนด์แท้ๆ ที่พำนักในอังกฤษ กลับไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในครั้งนี้ ซึ่งจำนวนคนกลุ่มนี้ มีมากพอในการทำให้การประชามติของสก็อตแลนด์ในครั้งนั้นพ่ายแพ้ไปแบบเฉียดฉิว เป็นประชาธิปไตยแบบเจ้าเล่ห์เพทุบาย ที่สื่อตะวันตกแอบปกปิด

    ... มาครั้งนี้ ในช่วงที่กระแส Brexit หรือ การออกจากอียูของอังกฤษกำลังดัง ก็มีกระแสหนึ่ง ที่สื่อกระแสหลักของอเมริกาและอังกฤษไม่ค่อยเล่นหนักเท่าไหร่ เพราะว่าจะมีผลต่ออำนาจและเสถียรภาพของ “อังกฤษ” อดีตเจ้าอาณานิคมใหญ่ของโลกยุคก่อน นั้นคือกระแส “การรวมกันของไอร์แลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ” หรือ “United Ireland”

    ... โดยมีกระแสทั้งต่อต้านและสนับสนุนการรวมไอร์แลนด์ โดยกลุ่มที่สนับสนุน “การรวมไอร์แลนด์” ที่หมายความว่า ไอร์แลนด์เหนือต้องแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร หรือ อังกฤษนั้น แล้วมารวมกับไอร์แลนด์ใหญ่ ส่วนใหญ่นั้น เป็นกลุ่ม “ชาตินิยมไอร์แลนด์” หรือ Irish nationalism ที่ไม่ต้องการให้ส่วนเหนือของไอร์แลนด์ถูกปกครองโดยอังกฤษ โดยกลุ่มนี้เป็นพวกพื้นฐานนานมานั้นนับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกแบบเดียวกับวาติกัน ขณะที่กลุ่ม Unionism นั้นไม่เห็นด้วยกันการรวมและเห็นว่าอยู่รวมกับเครือสหราชอาณาจักรที่นำและปกครองโดยอังกฤษนั้นดีแล้ว กลุ่มนี้จะมีพื้นฐานจากกลุ่มคนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสท์แตนท์แบบเดียวกับอังกฤษ , ที่อังกฤษนั้นในอดีตนานมาก็ต้องการปลดแอกจากอำนาจของคาทอลิกวาติกัน จึงประกาศรับเอาโปรเตสแตนท์เป็นศาสนาประจำชาติตลอดมา

    ... ในช่วงปลายคริสตวรรษที่ 19 นั้น ไอร์แลนด์ได้เรียกร้องในการได้รับอำนาจในการปกครองและมีสิทธิเสรีภาพในประเทศตัวเอง โดยเฉพาะนโยบายต่างประเทศจึงเกิดกลุ่มชาตินิยมไอร์แลนด์ขึ้นมา ทำให้เกิดความขัดแย้งในไอร์แลนด์ตลอดมาด้วยเช่นกัน เพราะว่าในคนไอร์แลนด์กลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะทางภาคเหนือที่บางส่วนนับถือโปรเตสแตนท์เหมือนอังกฤษต้องการอยู่กับอังกฤษเหมือนเดิม ( อาจจะถูกปั่นและโฆษณาชวนเชื่อในเรื่องศาสนาที่ต่างกันกับไอร์แลนด์หลัก คนปลุกปั่นอาจจะหวังผลทางการเมือง อาจจะเป็นคนข้างบ้านที่ไม่อยากเสียประโยชน์ไปทั้งหมด แถมวางยาให้เกิดสงครามระหว่างกันอีกยาวนาน ... คล้ายการวางยาระหว่าง “อินเดียกับปากีสถาน” แถมทำให้เกิดสงครามศาสนาระหว่างสองชาติยาวมาถึงปัจจุบัน ในกรณีนั้น “อังกฤษ” คือคนวางยาและสร้างรอยร้าวนี้ขึ้นเองกับมือเพื่อไม่อยากให้อดีตอาณานิยมเข้มแข็งมาเป็นหอกหนามทิ่มแทงในภายภาคหน้า ) จนสุดท้าย “ไอร์แลนด์เหนือ” แยกตัวออกจากไอร์แลนด์หลักได้สำเร็จเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมปี 1921 ทำให้เกาะไอร์แลนด์แยกเป็นสองดินแดนยาวมาถึงปัจจุบัน

    ... จากจุดนั้น “ไอร์แลนด์” ก็แยกกับ “ไอร์แลนด์เหนือ” จึงไม่มีเอกภาพและความเข้มแข็งเพียงพอที่จะต่อกรและท้าทายอำนาจของ “อังกฤษ” ที่มีเครือข่ายนายธนาคารใหญ่ชาวยิวปกครองคุมอำนาจการเงินแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จแล้วเอาเลือกตั้งธิปไตยมาใส่เสื้ออาภรณ์หุ้มให้สวยอีกที

    ... ขณะที่อังกฤษเองก็รู้ว่าประเทศตัวเองพื้นที่ดินแดนและน่านน้ำนั้นเล็กน้อยนัก จึงได้ใช้ทุกกุศโลบายหลายร้อยเล่มเกวียนทั้งอ้างเรื่องการเมืองศาสนามาควบรวมทั้ง เวลส์และสก็อตแลนด์เข้ามาไว้เป็นเครือ และพยายามรักษาเอาไว้อย่างเหนียวแน่นตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

    ... แต่เรื่องราวของไอร์แลนด์นั้นซับซ้อนกว่านั้น เพราะว่า ในไอร์แลนด์เหนือนั้นมีหกส่วนเขต และสี่ในหกเขตนั้นกลับนับถือนิกายคอทอลิก เพียงแค่แกนนำเอาเรื่องศาสนามาเป็นเครื่องมือทางการเมืองด้วยเท่านั้น เรื่องศาสนาจึงไม่ใช่ทั้งหมดของปัญหาการแยกกันของไอร์แลนด์ ขณะที่ในไอร์แลนด์ใหญ่ เองก็มีพวกที่เป็นโปรเตสแตนท์ด้วยเช่นกัน

    ... ในปี 2013 เคยมีการทำโพลล์ของคน “ไอร์แลนด์เหนือ” ว่าอยากจะรวมเป็นหนึ่งกับไอร์แลนด์หรือไม่ ผลตอบมาว่าแค่ประมาณ 4% ที่อยากรวมกับไอร์แลนด์ ขณะที่ 44% นั้นยังอยากอยู่กับอังกฤษเหมือนเดิม ( แต่ไม่รู้ว่า โพลล์ของฝ่ายไหน เชื่อถือได้หรือไม่ )

    ... จากนั้น โพลล์ของบีบีซี อังกฤษ ทำขึ้นมา ก็มีผลว่า 63% ของคนไอร์แลนด์เหนือนั้นยังอยากอยู่และมีคนอังกฤษเป็นหัวหน้าปกครองต่อไป ขณะที่แค่ 22% ต้องการออกจากกรงเล็บเท้าของอังกฤษและไปรวมกับไอร์แลนด์คนบ้านเดียวกัน

    ... และหลังจากที่ “อังกฤษ” ออกจากอียูแล้ว ทำให้กระแสการแยกตัวไอร์แลนด์เหนือออกจากอังกฤษหนาหูขึ้น โดยมี “อียู” ( ที่อกหักจากการที่ “อังกฤษ” แยกตัวออกไป สบายตัวโล่งอกเรื่องผู้อพยพ ก่อการร้าย และปัญหาภายในเรื่องเชื่อชาติศาสนาในอนาคต ) เป็นผู้ส่งเสริมการรวมไอร์แลนด์และแถมให้มาเข้าร่วมกับอียูด้วย โดยนาย Mark Daly วุฒิสมาชิกของไอร์แลนด์ได้ออกมาเปิดเผยเองว่าปีที่แล้วอียูวางแผนเตรียมการในการรวมไอร์แลนด์ด้วย

    ... Mark Daly, the Fianna Fáil Senator, who compiled the report, said: “Last year, our former Taoiseach, Enda Kenny, said the EU needs to prepare for a united Ireland.

    ... แถมยังบอกอีกว่า จะเลียนแบบวิธีการออกจากอียูของอังกฤษ Brexit ที่ไม่ต้องมีการประชามติ แล้วค่อยบอกรายละเอียดกับประชาชนทีหลังให้ยอมรับอนาคตที่จะเป็นไป

    ... “But we must learn the lesson from Brexit and the lesson from Brexit is that you don't have a referendum and then tell people what the future will look like.

    ... เมื่อปีที่แล้ว 2016 นั้น ไอร์แลนด์เหนือได้โหวตต่อต้านการแยกตัวของอังกฤษออกจากอียูมาแล้วด้วยเสียง 56 ต่อ 44 % ( แปลว่าไอร์แลนด์เหนือต้องการอยู่กับอียูต่อไป ) ซึ่งอียูคงมองเห็นตัวเลขนี้ จึงพยายามแก้แค้นอังกฤษ พยายามยุแยงให้ไอร์แลนด์เหนือและไอร์แลนด์ใหญ่รวมกันเป็นก้อนเดียวแล้วมารวมเข้าเป็นสมาชิกอียูทีเดียวเลย

    .

    .
    http://www.independent.co.uk/…/united-ireland-referendum-br…
    https://en.wikipedia.org/wiki/United_Ireland
    https://en.wikipedia.org/wiki/Unionism_in_Ireland


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    2177189.jpg

    ลูกชายบินลาเดน เรียกร้องให้โค่นล้มระบอบซาอูด อ้างทรยศต่อปาเลสไตน์….! On ธ.ค. 13, 2017

    Hamza Osama bin Laden ลูกชายอดีตหัวหน้าของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ได้ออกแถลงการณ์เพื่อตอบสนองต่อการตัดสินใจของทรัมป์ที่จะยอมรับเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลโดยเรียกร้องให้ทำการโค่นล้มระบอบซาอูด

    ในข้อความวิดีโอที่เผยแพร่ล่าสุดของ Hamza Osama bin Laden ได้ เรียกร้องให้มีการโค่นล้มอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย

    Hamza Osama bin Laden ออกมาโจมตีซาอุดิอาระเบียว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียควรถูกโค่นล้มเนื่องจากการทรยศต่อชาวมุสลิมและเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์กับตะวันตกซึ่งเป็นเหตุให้เกิดกรณีปาเลสไตน์

    ลูกชายบินลาเดน ยังโจมตีกษัตริย์อับดุลอาซิซผู้ก่อตั้งรัฐบาลปัจจุบันของซาอุดิอาระเบียและกล่าวหาว่าเขามีความผูกพันกับอังกฤษในขณะที่อังกฤษเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักในการก่อตั้งระบอบการปกครองของอิสราเอล

    เขากล่าวเสริมว่า นี่คือแนวทางที่มั่นคงที่ราชวงศ์อาลิซาอูดมีต่อปาเลสไตน์และในขณะที่ยอมรับสารภาพกับการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์โดยอิสราเอลแล้วส่วนที่เหลือของดินแดนนี้ก็มอบให้กับมาห์มุดอับบาสผู้ทรยศ

    mehrnews.com


    http://www.immjournal.com/8242
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    13960922000094_PhotoA.jpg

    จีนเรียกร้องให้มีการขยายความสัมพันธ์ทางทหารกับอิหร่าน
    On ธ.ค. 13, 2017

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีนในระหว่างการหารือกับรองเสนาธิการกองทัพอิหร่านได้เรียกร้องให้มีความสัมพันธ์ทางทหารและความร่วมมือระหว่างสองประเทศเพิ่มมากขึ้น

    Chang Wan Kwan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีน ประกาศความปรารถนาของปักกิ่งในการเพิ่มความร่วมมือกับอิหร่านและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางทหารที่เป็นมิตรระหว่างสองประเทศ

    คำกล่าวดังกล่าวของเขากล่าวในการประชุมกับ Kadir Militar Pour รองเสนาธิการกองกำลังอิหร่าน

    เขากล่าวว่าอิหร่านและจีนได้พัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีและความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างสองประเทศและได้รับความร่วมมือด้านการค้าและพลังงานมากขึ้น

    Chang Wan Kwan กล่าวเสริมว่า ภายใต้เงื่อนไขใหม่ ความร่วมมือระหว่างกรุงเตหะรานกับกรุงปักกิ่งถือเป็นโอกาสที่ดีและจีนต้องการที่จะขยายความสัมพันธ์กับอิหร่านในด้านใหม่ ๆให้เพิ่มมากขึ้น

    ด้านอิหร่านยังแสดงความหวังในการเสริมสร้างความร่วมมือและความร่วมมือในระดับสูงของความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสองประเทศ

    farsnews

    news.xinhuanet.com


    http://www.immjournal.com/8239
     

แชร์หน้านี้

Loading...