ติดตามสถานะการณ์

Thanong Fanclub



อิหร่านประนามแผนการของทรัมป์และอิสราเอลที่จะยึดเยรูซาเลม โดยไม่คำนึงสิทธิ์ของชาวปาเลสไตน์และโลกมุสลิม ส่วนอิสบอเลาะห์เรียกร้องให้โลกโดดเดี่ยววอชิงตัน

12/12/2017

 

Thanong Fanclub




บนเขาวิหารเมืองเก่าของเยรูซาเลม มีศาสนสถาน2แห่งของอิสลามคือ (ซ้ายสุด)สุเหร่า อัล อักซ่า และตัวตึกโดมสีทอง หรือDome on the Rock

ส่วนขวามือสุดคือภาพจำลองของวิหารโซโลมอนแห่งที่3ของยิว

แล้วจะอยู่เคียงคู่กันได้หรือไม่

11/12/2017

 

ปอกเปลือก ทรราช
Oh no, not again! หน้าต่าง ฮ. CH-53 สหรัฐตกใส่เด็กนักเรียนในโอกินาวา



------------

13 ธ.ค.60 RT พาดหัวข่าวว่า "เด็กนักเรียนในโอกินนาวาได้รับบาดเจ็บหลังหน้าต่างตกจากเฮลิคอปเตอร์สหหรัฐตกใส่" (Okinawa schoolboy injured after window falls from US helicopter) เวรกรรม!

รายงานเปิดเผยว่า มีเด็กนักเรียนชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งกลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดจากการปรากฎของกองทัพสหรัฐที่เต็มไปด้วยข่าวอื้อฉาวบนเกาะโอกินาวา มีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอเมริกันลำหนึ่งเริ่มชิ้นส่วนทะยอยหลุดกลางอากาศในขณะบินผ่านสนามหญ้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่งผลให้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ

[ฮ. กองทัพสหรัฐในโอกินาวา มันรักเด็ก ชอบฉิบโฉบเหนือโรงเรียนบนเกาะนี้อยู่บ่อยๆ วันดีคืนดีก็มีวัตถุลึกลับหล่นจาก ฮ. ใส่หลังคาโรงเรียนบ้าน ตกใส่เด็กนักเรียนบ้าง ก่อนหน้านี้นาวิกโยธินสหรัฐเมาแล้วขับรถบรรทุกของกองทัพฝ่าไฟแดงชนประสานงากับรถบรรทุกขนาดเล็กของชาวบ้าน เหยื่อซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นท้องถิ่น เสียชีวิต 1 คน

และก่อนหน้านั้น อดีตนาวิกโยธินสหรัฐ ก็ข่มขืนและฆ่าหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง สงสัยอาจจะเป็นเพราะว่า สหรัฐรู้สึกว่าค่าคุ้มครองที่ญี่ปุ่นจ่ายให้กองทัพสหรัฐราว 6.6 หมื่นล้านบาทต่อปีนั้นน้อยเกินไปหรือเปล่า? - ผู้แปล]

ในตอนเช้าของวันพุธ มีวัตถุรูปทรงสี่เหลี่ยม กว้างประมาณ 1 เมตร หล่นลงในสามกีฬาที่มีเด็กนักเรียนประถมรวมตัวกันกลุ่มหนึ่งใกล้ฐานทัพอากาศ Futenma ของสหรัฐในจังหวัดโอกินาวา ต่อมาพบว่าเจ้าวัตถุปริศนาชิ้นนั้นเป็น "หน้าต่างเฮลิคอปเตอร์" ลำหนึ่ง ซึ่งมีกรอบหน้าต่าง (แลละกระจก) ด้วย และเป็นของเฮลิคอปเตอร์ CH-53 ของนาวิโยธินสหรัฐ ที่ตกลงในพื้นที่ของโรงเรียน Futenma Daini Elementary School

เด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุ 10 ปี จากเด็กๆทั้งหมด 50 คนที่รวมตัวกันอยู่ในสนามกีฬา (สนามฟุตบอล) ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ รอยเตอร์รายงาน โดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ของจังหวัดโอกินาวา รอยเตอร์รายงานอีกว่า "สาเหตุที่แท้จริงของการได้รับบาดเจ็บของเด็กคนนั้น ยังไม่ชัดเจน" (ขนาดนี้ ก็ยังพยายามแถว่า "ไม่ชัดเจน" อีกนะ)

ตามรายงานข่าวแจ้งว่า มีเฮลิคอปเตอร์สองสหรัฐจำนวน 3 ลำได้บินข้ามโรงเรียนแห่งนั้นในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ NHK ของญี่ปุ่นรายงาน และสื่อญี่ปุ่นรายงานว่ามีเด็กๆประมาณ 30 คนในสนามของโรงเรียน (ในตอนที่เกิดเหตุ) เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย

ต่อมา นาวิกโยธินของสหรัฐได้ออกมายอมรับว่า หน้าต่างของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งได้ตกลงไปที่พื้นสนามกีฬาของเด็กๆ แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร (ฮ่าๆๆ) กองทัพสหรัฐได้ทำการขอโทษ "สำหรับความโกรธแค้นใดๆจากชุมชนนั้น" และกล่าวว่าขณะนี้กำลังทำการตรวจสอบ "เหตุการณ์ที่น่าเศร้า" นี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอากาศยาน (Sikorsky CH-53 Sea Stallion) ลำหนึ่งของกองทัพสหรัฐได้ทำวัตถุปริศนาบางอย่างตกลงไปใส่หลังคาโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่เดียวกัน

เดือนตุลาคม กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้มีคำสั่งให้กราวด์เฮลิคอปเตอร์ขนส่ง CH-53E ทั้งหมดในเกาะโอกินาวาโดยไม่ได้ระบุช่วงเวลา หลังเกิดเหตุการณ์อากาสยานลำหนึ่งตกบนเกาะแห่งนี้ เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมากที่เกาะโอกินาวา ปัจจุบันนี้มีทหารและบุคคลากรทางกองทัพสหรัฐประจำการอยู่ในญี่ปุ่นทั้งหมดประมาณ 100,000 นาย

[ก่อนหน้านี้ก็ชิ้นส่วนของเครื่องบินรบสเตลท์ F-35 ของสหรัฐหลุดหายในขณะบินอยู่กลางอากาศ คาดว่าหล่นหายในทะเล โปรอเมริกาบอกว่ามันเป็นเรื่องปรกติเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิคอยู่แล้ว รอบนี้ก็คงจะบอกว่าเป็นเรื่อง "ปรกติ" อีกที่วันดีคืนดีหน้าต่างของเฮลิคอปเตอร์กองทัพสหรัฐหล่นใส่เด็กนักเรียนในเขตโรงเรียน ดูเหมือนว่าประชาชนชาวญี่ปุ่นจะได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากกองทัพสหรัฐ (ผู้พิทักษ์) มากก่าจากขีปนาวุธหรืออาวุธนิวเคลียร์ของคิมน้อยนะครับ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
13/12/2560
-----------
https://www.rt.com/news/412929-child-injured-us-helicopter-okinawa/
https://www.rt.com/usa/412281-okinawa-nursery-us-flyover/
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20171213_24/
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20171213_32/
http://www.thehindu.com/news/intern...o-school-grounds-in-japan/article21571495.ece
https://www.japantimes.co.jp/news/2...pter-falls-elementary-school-grounds-okinawa/
https://english.kyodonews.net/news/...er-falls-on-to-school-grounds-in-okinawa.html
https://www.reuters.com/article/us-...fter-busting-out-of-bali-prison-idUSKBN1E50LM
http://www.asahi.com/ajw/articles/AJ201712130031.html

 

แผ่นดินไหวขนาด 6.5 ภูมิภาค BOUVET ISLAND วันที่ 14 ธันวาคม 2560 เวลา 01:04:14.7 น. เวลาประเทศไทย

Magnitude 6.5
Region BOUVET ISLAND REGION
Date time 2017-12-13 18:04:14.7 UTC
Location 54.08 S ; 1.80 E
Depth 300 km
Distances
3444 km SW of Maseru, Lesotho / pop: 119,000 / local time: 20:04:14.7 2017-12-13

3727 km S of Windhoek, Namibia / pop: 269,000 / local time: 20:04:14.7 2017-12-13

3824 km SW of Pretoria, South Africa / pop: 1,620,000 / local time: 20:04:14.7 2017-12-13

https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=635616

 

2 นักข่าวรอยเตอร์โดนทางการพม่าจับกุมตัว
เผยแพร่: 13 ธ.ค. 2560 20:57:00 โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - โฆษกรัฐบาลพม่าระบุว่า มีนักข่าวรอยเตอร์ 2 คน ถูกจับกุมเมื่อค่ำวันอังคาร (12 ธ.ค.) ที่กรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงของพม่า

"ใช่ เรื่องนั้นถูกต้องแล้ว ที่ว่ามีพวกนักข่าวถูกจับกุม ไม่ใช่แค่นักข่าวนะ แต่ยังรวมถึงตำรวจที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย เราจะดำเนินการทั้งนักข่าวและตำรวจ" โฆษกของทางการพม่าระบุ

ไม่มีการบอกว่าทำไมนักข่าว 2 คนนี้ถึงถูกจับกุม ไม่มีการให้ข้อมูลว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพวกเขา รวมถึงไม่มีการอธิบายว่าคดีที่พูดถึงนั้นคือคดีอะไร

หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของรอยเตอร์ ระบุว่า กำลังเร่งหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การจับกุมและสถานการณ์ปัจจุบันของนักข่าวทั้งสอง

นักข่าวทั้งสองคนของรอยเตอร์ มีคนหนึ่งทำงานมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016 เคยรายงานข่าวมาแล้วหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องวิกฤตผู้ลี้ภัยโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ส่วนอีกคนเพิ่งมารายงานข่าวให้รอยเตอร์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงย่างกุ้ง ระบุในคำแถลงที่โพสต์ทางเว็บไซต์ตอนค่ำวันพุธว่า เป็นกังวลอย่างมากต่อการจับกุมที่ผิดปกติต่อสองนักข่าวรอยเตอร์ หลังจากที่ทั้งคู่ได้รับเชิญให้ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคืนที่แล้ว

"เพื่อให้ประชาธิปไตยบรรลุุเป้าหมาย นักข่าวเหล่านั้นจำเป็นจะต้องได้ทำงานอย่างมีเสรีภาพ" สถานทูตสหรัฐฯ ระบุ

"เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าอธิบายการจับกุมนี้ รวมถึงยอมให้มีการเข้าพบนักข่าวเหล่านี้โดยทันที"

https://mgronline.com/around/detail/9600000125628

 

โอเปกคาดอุปทาน-อุปสงค์น้ำมันโลกจะเข้าสู่ภาวะสมดุลช่วงปลายปี 2018
เผยแพร่: 13 ธ.ค. 2560 22:30:00 ปรับปรุง: 14 ธ.ค. 2560 10:40:00 โดย: MGR Online


เอเอฟพี - อุปทานและอุปสงค์ในตลาดน้ำมันโลกดูเหมือนจะเข้าสู่ภาวะสมดุลในช่วงปลายปี 2018 สืบเนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ โดยเฉพาะจากภาคขนส่ง จากการเปิดเผยของโอเปกในวันพุธ (13 ธ.ค.)

ในรายงานประจำเดือน โอเปกประมาณการว่าอุปสงค์น้ำมันโลกในปีหน้าจะเติบโตราว 1.51 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากในปีนี้เพิ่มขึ้น 1.26 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเหนือกว่าที่คาดหมายไว้ แตะระดับ 98.45 ล้านบาร์เรลต่อวัน

“คาดหมายว่าการขยายตัวในภาคขนส่งจะก่อการเติบโตในอุปสงค์น้ำมันอย่างมาก” รายงานระบุ พร้อมคาดหมายว่าเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งทั่วโลกจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมอุปสงค์เชื้อเพลิงในภาคอุตสาหกรรมและก่อสร้าง

ในส่วนกำลังผลิตของโอเปกเอง ดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 32.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ เป็น 33.2 ล้านบาร์เรลในปีหน้า แต่ถือว่าน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้า

กำลังผลิตที่ลดลงในแองโกลา, ซาอุดีอาระเบีย, เวเนซุเอลา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้โอเปกผลิตน้ำมันในเดือนพฤศจิกายนน้อยกว่าเดือนตุลาคม 133,000 ล้านบาร์เรล

ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนที่แล้ว โอเปกและเหล่าประเทศนอกโอเปก ในนั้นรวมถึงรัสเซีย ได้ขยายข้อตกลงลดกำลังผลิตออกไปจนถึงสิ้นปี 2018 ในความหวังคืนสมดุลแก่ตลาดน้ำมันและส่งเสริมราคาน้ำมัน

รายงานคาดการณ์ว่าเหล่าประเทศนอกโอเปกจะผลิตน้ำมันดิบในปีหน้ามากกว่าในปีนี้ราว 999,000 บาร์เรลต่อวัน จากกำลังผลิตน้ำมันชั้นหินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ

กระนั้นก็ตาม โอเปกเชื่อว่าภาวะอุปทานล้นตลาดจะค่อยๆ ลดลงในปีหน้า และเข้าสู่ภาวะสมดุลในช่วงปลายปี 2018

https://mgronline.com/around/detail/9600000125645

 

แชร์เดียวฉาวไกลถึงต่างแดน!! สื่อนอกตีข่าวผับในไทยจัดโปรฯ “เล่นเซ็กซ์พนักงาน” แลกเหล้า เผยแพร่: 13 ธ.ค. 2560 23:35:00 ปรับปรุง: 14 ธ.ค. 2560 10:38:00 โดย: MGR Online


ภาพจากเฟซบุ๊ก
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่ง - สื่อมวลชนของฮ่องกงในวันพุธ (13 ธ.ค.) ตีข่าวผับแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคามของไทยกำลังถูกสืบสวน หลังแชร์เฟซบุ๊กสะเทือนสังคม เสนอโปรโมชันสุดอึ้ง เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสาวๆ ล่าแต้มพนักงานหนุ่มๆ แลกเหล้า แม้ทางร้านจะยืนยันว่าเป็นคลิปที่ถ่ายทำกันเล่นๆ เท่านั้น

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งรายงานว่า ในโปรโมชันที่โพสต์บนเฟซบุ๊กนั้น ทางผับแห่งนี้ได้เสนอเหล้าฟรีแก่ลูกค้าหญิงที่สามารถจีบและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพนักงานชายของทางร้าน

ทางร้านระบุว่า หากลูกค้ารายใดทำสำเร็จจะต้องนำหลักฐาน เช่น ภาพเปลือยบางส่วน คลิปที่แสดงถึงความสัมพันธ์ หรือเครื่องนุ่งห่มบางชิ้น จะเสื้อผ้าหรือกางเกงในก็ได้ เพื่อมาแสดงหลักฐานกับทางร้านจะได้รับไปเลยเหล้าจำนวน 1 ลัง

ในโพสต์ดังกล่าวยังรวมถึงคลิปวิดีโอหนึ่งซึ่งทำการแนะนำบริกรหนุ่มๆ ถอดเสื้อ รูปร่างหน้าตาดีประจำร้านจำนวน 5 คน ให้เป็นเป้าหมายอีกด้วย

สื่อของฮ่องกงรายงานว่า โปรโมชันดังกล่าวถูกส่งต่ออย่างกว้างขวางบนสื่อสังคมออนไลน์ กระตุ้นให้ทางตำรวจต้องเข้าดำเนินการสืบสวน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งรายงานว่า ผับแห่งนี้มีสิทธิ์ถูกปรับเงินสูงสุด 10,000 บาท ฐานละเมิดมาตรา 30 ของกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการลักษณะลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย หรือให้สิทธิประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทนแก่ผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่จะเรียกบุคคลในวิดีโอมาสอบปากคำในส่วนหนึ่งของการสืบสวนด้วย

อย่างไรก็ตาม นายพงส์กร ลาสม ผู้จัดการผับดังกล่าว ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าคลิปนี้เป็นภาพที่ถ่ายกันเล่นๆ เพื่อความสนุกหลังจากผับปิดแล้ว และพวกพนักงานผู้ชายถอดเสื้อเพราะพวกเขากำลังทำความสะอาด

เขาบอกว่าไม่คิดว่าคนอื่นๆ จะจริงจังกับคลิปดังกล่าว และรู้สึกประลาดใจมากที่มันถูกเผยแพร่ต่ออย่างกว้างขวาง และเป็นที่สนใจของตำรวจ
https://mgronline.com/around/detail/9600000125670

 

In Pics : สถานทูตสหรัฐฯ ในลอนดอนย้ายที่ทำการใหม่ หรูหราโอ่อ่า $1พันล้าน-สื่อชี้แพงสุดในโลก เผยแพร่: 14 ธ.ค. 2560 01:01:00 ปรับปรุง: 14 ธ.ค. 2560 10:34:00 โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - สถานทูตสหรัฐฯ ในลอนดอนจะย้ายสู่บ้านใหม่อันโอ่อ่ามูลค่าพันล้านดอลลาร์ ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำเธมส์ แม้ว่าพฤติกรรมของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะก่อความสัมพันธ์อันมึนตึงระหว่างอังกฤษกับอเมริกาในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม

พันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอังกฤษจะละทิ้งสถานทูตเดิมที่สร้างจากหินและคอนกรีตในยุค 1960 บริเวณจัตุุรัสกรอสเวนอร์ ย่านหรูของลอนดอน พื้นที่ซึ่งถูกเรียกขานว่า “ลิตเติล อเมริกา” ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปยังอาคารใหม่สูง 12 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งทางใต้ของแม่น้ำเธมส์



อาคารใหม่แห่งนี้คือแก่นกลางของโครงการฟื้นฟูขนานใหญ่ในเขตอุตสาหกรรมเก่าที่ชื่อว่า “ไนน์ เอล์มส์” ขณะที่สถานทูตแห่งใหม่ของสหรัฐฯ จะเปิดทำการในวันที่ 16 มกราคมปีหน้า โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำการมากถึง 800 คน และรองรับผู้มาติดต่อได้ราว 1,000 คนต่อวัน

“สถานทูตแห่งนี้ เมื่อคุณมองผ่านกระจกออกไปมันจะสะท้อนมุมมองโลกของสหรัฐฯ ในการมุ่งสู่ศตวรรษที่ 21” วูดี จอห์นสัน เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำอังกฤษกล่าว



กระทรวงการต่างประเทศเปิดให้มีการประมูลออกแบบอาคารใหม่เมื่อปี 2008 ขณะที่ค่าก่อสร้าง 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสื่อบางสำนักระบุว่าเป็นสถานทูตแพงที่สุดในโลก เป็นงบประมาณจากการขายสินทรัพย์อื่นๆ ในลอนดอน

“ด้วยโครงสร้างที่เป็นกระจก มันสะท้อนถึงแก่นกลางค่านิยมแห่งความโปร่งใส ซื่อสัตย์เปิดเผย และความเสมอภาคตามระบอบประชาธิปไตย” เอกสารของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ



“นี่ไม่ใช่แค่สำนักงานแห่งใหม่ แต่มันหมายถึงยุคใหม่แห่งมิตรภาพระหว่างสองประเทศ ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้เราทำงานใกล้ชิดกับอังกฤษมากขึ้นและมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา” จอห์นสันกล่าว

ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับสหรัฐฯ ถูกหล่อหลอมมาหลายศตวรรษ แต่มันถูกทดสอบในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ประธานาธิบดีอเมริกา



นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ เป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เดินทางเยือนทำเนียบขาว หลังทรัมป์คว้าชัยชนะอย่างน่าประหลาดใจในศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน 2016 และใช้โอกาสนั้นเชิญทรัมป์มาเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธี

ในขณะที่ทั้งสองผู้นำให้คำมั่นกระชับความเชื่อมโยงทางการค้าและได้มีโอกาสพูดคุยกันเป็นประจำ แต่รัฐบาลทั้งสองชาติกลับมีความเห็นที่ไม่ลงรอยกันในหลายประเด็น ในนั้นเช่น การที่ทรัมป์ตัดสินใจไม่ให้สัตยาบันรับรองว่าอิหร่านทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์พหุภาคี และความเคลื่อนไหวรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล



ความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะเดินทางมาเยือนแบบรัฐพิธี ก่อประเด็นถกเถียงในหมู่ชาวอังกฤษ ด้วยเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและพวกนักเคลื่อนไหวต่างๆ เรียกร้องให้ยกเลิกคำเชิญและประกาศว่าจะเดินขบวนบนท้องถนนหากว่าเขามายังอังกฤษ













https://mgronline.com/around/detail/9600000125679

 

สงสัยจะมึนหนัก! ทำเนียบขาวแย้ง “ทิลเลอร์สัน” โต้ยังไม่ถึงเวลาเจรจากับเกาหลีเหนือ เผยแพร่: 14 ธ.ค. 2560 02:32:00 ปรับปรุง: 14 ธ.ค. 2560 10:31:00 โดย: MGR Online


เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งในวันพุธ (13 ธ.ค.) ชี้ยังไม่สามารถเปิดเจรจากับเกาหลีเหนือได้จนกว่าเปียงยางจะปรับปรุงพฤติกรรม ความเห็นที่ก่อคำถามเกี่ยวกับถ้อยแถลงของ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าวอชิงตันพร้อมเจรจากับโสมแดงทุกเวลาและปราศจากเงื่อนไข

“จากการที่เกาหลีเหนือเพิ่งทดสอบขีปนาวุธเมื่อเร็วๆ นี้ ชัดเจนว่าตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลา(สำหรับการเจรจา)” โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเปิดเผยกับรอยเตอร์

ทิลเลอร์สันเผยเมื่อวันอังคาร (12 ธ.ค.) ว่าสหรัฐฯ พร้อมเจรจาทุกเมื่อหากเกาหลีเหนืออยากจะพูดคุย ถอนข้อเรียกร้องหลักของสหรัฐฯ ที่เคยบอกว่าจะยังไม่เจรจากับเกาหลีเหนือหากยังไม่ปลดอาวุธและระงับการทดลองนิวเคลียร์เสียก่อน

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายนี้ปฏิเสธยืนยันว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมักใช้ถ้อยคำกับเกาหลีเหนือแข็งกร้าวกว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของเขา ได้เห็นชอบถ้อยแถลงเชิงทาบทามของทิลเลอร์สันหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หนึ่งวันหลังจากทิลเลอร์สันกล่าวในงานเสวนาด้านนโยบายของสถาบันวิจัย แอตแลนติก เคาน์ซิล ในกรุงวอชิงตัน เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายนี้ ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม กลับนำเสนอทิศทางที่ต่างออกไปเกี่ยวกับการเจรจาพูดคุยกับเกาหลีเหนือ

“รัฐบาลยืนยันว่าการเจรจาใดๆ กับเกาหลีเหนือต้องรอจนกว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือได้ปรับปรุงพื้นฐานทางพฤติกรรมแล้ว” เจ้าหน้าที่ระบุ “อย่างที่ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศพูด มันต้องรวมถึงไม่มีการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธอีก”

เป็นที่น่าสังเกตว่า ในคำกล่าวของทิลเลอร์สันไม่ได้พูดอย่างชัดเจนถึงความจำเป็นของการระงับการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธก่อนที่จะมีการเจรจา โดยเขาบอกเพียงว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุย หากว่าเปียงยางตัดสินใจจะทดสอบอีกครั้ง และช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการหารือที่ก่อให้เกิดผล

ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นเกือบ 2 สัปดาห์ หลังจากเกาหลีเหนืออ้างว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการผ่าทางตันขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ซึ่งทำให้แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ อยู่ในพิสัยการโจมตี

เกาหลีเหนือแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่ใคร่สนใจเจรจากับสหรัฐฯ จนกว่าพวกเขาจะพัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ที่สามารถโจมตีได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่ของอเมริกา บางอย่างที่พวกนักวิเคราะห์มองว่ายังจำเป็นต้องพิสูจน์

https://mgronline.com/around/detail/9600000125684

รัสเซียยินดีที่สหรัฐฯ จะเจรจากับโสมแดงอย่างไม่มีเงื่อนไข
เผยแพร่: 13 ธ.ค. 2560 18:40:00 โดย: MGR Online


เอเอฟพี – รัสเซียกล่าวในวันนี้ (13) นี้ว่า พวกเขายินดีกับถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ที่ว่า วอชิงตันพร้อมเจรจากับเกาหลีเหนือโดยไม่มีเงื่อนไข และเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการเข้าหาอย่างสร้างสรรค์

“เราสามารถพูดได้ว่า ถ้อยแถลงที่สร้างสรรค์เช่นนี้ทำให้เราประทับใจได้มากกว่าการสาดคำพูดใส่กันที่เราได้ยินจนกระทั่งตอนนี้ เรื่องนี้น่ายินดีอย่างไม่ต้องสงสัย” ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินบอกกับผู้สื่อข่าว

เปสคอฟกล่าวว่า การเปลี่ยนท่าทีของวอชิงตันสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของรัสเซียที่จะให้วอชิงตันผ่อนผันการตอบโต้โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

“สิ่งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับข้อเรียกร้องจากรัสเซีย” เปสคอฟ กล่าว และเสริมว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินเตือนสหรัฐฯเป็นประจำว่า “การสาดคำพูดใส่กันและย่างก้าวใดๆ ก็ตามที่อาจทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีไม่มีความสร้างสรรค์อย่างสิ้นเชิง”

“เป็นปูตินที่เรียกร้องเป็นประจำและอย่างต่อเนื่องให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำทุกวิถีทางที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อเปิดช่องทางสำหรับการเจรจา ดังนั้น ถ้อยแถลงเช่นนี้ (อย่างของทิลเลอร์สัน) จึงทำให้เราพึงพอใจอย่างแน่นอน” โฆษกเครมลิน กล่าว

เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯกำลังยึดเอาแนวคิดริเริ่มจากรัสเซียหรือไม่ เปสคอฟกล่าวว่า การทำให้สถานการณ์นี้สงบลงเป็นเป้าหมายร่วมกันและ “ไม่มีใครยึดเอาอะไรจากใคร สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ”

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย เซอร์เกย์ รยาบคอฟ กล่าวเมื่อเช้าวันนี้ (13) ว่า มอสโคไม่ได้ต้องการกดดันอดีตพันธมิตรยุคโซเวียตและเกาหลีเหนือให้เข้าร่วมการเจรจากับวอชิงตัน เนื่องจากเปียงยางระบุว่า พวกเขาตั้งใจที่จำเช่นนั้นอยู่แล้ว

“ผมไม่คิดว่าเราต้องกดดันเกาหลีเหนือในทิศทางนี้ เนื่องจากเปียงยางได้ปะกาศความพร้อม (ที่จะเจรจา) หลายครั้งหลายระดับ” รยาบาคอฟ บอกกับผู้สื่อข่าว รายงานโดยสำนักข่าว อาร์ไอเอ โนวอสติ ของทางการ

“หวังว่าหลังจากถ้อยแถลงที่ออกมาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน โอกาสสำหรับความตั้งใจนี้จะได้มีดอกผลเสียที”

https://mgronline.com/around/detail/9600000125601

 

เฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยหนที่ 3 เป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้
เผยแพร่: 14 ธ.ค. 2560 04:09:00 ปรับปรุง: 14 ธ.ค. 2560 10:27:00 โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ (13 ธ.ค.) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นหนที่ 3 และเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่บ่งชี้ว่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันคงจะไม่ดำเนินนโยบายเชิงรุกมากกว่าที่เป็นอยู่ในปีหน้า

อ้างตลาดงานและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 1.25 ถึง 1.5%

อย่างไรก็ตาม ในการคาดการณ์รายไตรมาสของเจ้าหน้าที่เฟด ยังคงประมาณการตามเดิมสำหรับปี 2018 และปี 2019 โดยคาดหมายว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 3 ครั้งในปีถัดไป เหมือนกับที่เคยประมาณการไว้เมื่อเดือนกันยายน

กระนั้นก็ตาม การประมาณการดังกล่าวดูเหมือนจะยังไม่รวมปัจจัยผลกระทบจากมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว

แผนปฏิรูปภาษีดังกล่าวคาดหมายว่าจะเพิ่มหนี้แก่รัฐบาลกลางอีกราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าแรงกระตุ้นระยะสั้นจากมาตรการลดภาษีอาจเป็นเหตุให้เฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น

เจ้าหน้าที่เฟด 2 รายโหวตคัดค้านการปรับขึ้นดอกเบี้ย ถือเป็นครั้งแรกที่มีสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเห็นต่างมากกว่า 1 คนนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2016 โดย ชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก และ นีล คัชคารี ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิส อยากให้คงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้

ในถ้อยแถลง คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงคาดหมายว่าเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวปานกลาง ซึ่งทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไป

“ความวุ่นวายจากพายุเฮอริเคนและการฟื้นฟูได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงานและตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ" ถ้อยแถลงระบุ

https://mgronline.com/around/detail/9600000125688

 

“ลูกชายคนโตทรัมป์” เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ เรื่องรัสเซีย เผยแพร่: 14 ธ.ค. 2560 09:24:00 ปรับปรุง: 14 ธ.ค. 2560 10:22:00 โดย: MGR Online


รอยเตอร์ - บุตรชายคนโตของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พบกับคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันพุธ (13) ในฐานะส่วนหนึ่งของการสืบสวนเรื่องรัสเซีย การเลือกตั้งปี 2016 และว่าทีมหาเสียงของพ่อเขาสมรู้ร่วมคิดกับมอสโกหรือไม่

โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เดินทางมาถึงตึกวุฒิสภาไม่นานหลังเวลา 10.00 น. ขณะตำรวจพยายามกันนักข่าวไม่ให้เห็นการมาของเขา แต่เขาถูกนักข่าวพบตัวขณะกำลังรุดไปยังห้องที่คณะกรรมาธิการใช้เพื่อการบรรยายสรุปลับ เขาให้การเป็นเวลา 9 ชั่วโมง บุคคลที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าว

หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุหลังจากชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2016 ว่า พวกเขาได้ข้อสรุปว่ารัสเซียพยายามใช้อิทธิพลกับการเลือกตั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสให้ทรัมป์ชนะอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของเขาจากพรรคเดโมแครต

มอสโกปฏิเสธการกระทำดังกล่าว และทรัมป์ระบุว่าประเด็นเรื่องการสมรู้ร่วมคิดเป็น “การล่าแม่มด” ที่กุขึ้นโดยพรรคเดโมแครตที่ผิดหวังกับชัยชนะของเขา

คณะกรรมาธิการวุฒิสภากำลังดำเนินการสืบสวนทางรัฐสภาครั้งใหญ่ ริชาร์ด เบลอร์ ประธานคณะกรรมาธิการ บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร (12) ซึ่งเขาคาดว่าการสืบสวนจะดำเนินไปจนถึงปี 2018 แต่ไม่น่าจะกินระยะเวลาหลายเดือน

อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรม โรเบิร์ต มุลเลอร์ ก็กำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่ด้วยเช่นกัน

ทรัมป์ จูเนียร์ ให้การต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

สมาชิกสภานิติบัญญัติหลายคนต้องการที่จะคุยกับเขาเกี่ยวกับการพบกับทนายชาวรัสเซียคนหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2016 ที่ทรัมป์ทาวเวอร์ในนิวยอร์ก ซึ่งเขาระบุว่า เขาหวังจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ “สุขภาพ อุปนิสัย และคุณสมบัติ” ของคลินตัน

https://mgronline.com/around/detail/9600000125721

 

อิสราเอลโจมตีที่มั่นกลุ่มฮามาส หลังมีจรวดยิงมาจากกาซา
เผยแพร่: 14 ธ.ค. 2560 11:33:00 โดย: MGR Online


เอเอฟพี – อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มอิสลามิสต์ฮามาสในกาซาเมื่อเช้าวันนี้ (14) กองทัพระบุ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากขีปนาวุธถูกยิงเข้าใส่รัฐยิวจากเขตดังกล่าวของปาเลสไตน์

ในถ้อยแถลงกองทัพอิสราเอลระบุว่า พวกเขาโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารของฮามาส 3 แห่งในหลายส่วนของฉนวนกาซาที่ฮามาสควบคุมอยู่

“สิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารดังกล่าวถูกใช้เพื่อเป็นที่ฝึกฝนและเก็บอาวุธ” ถ้อยแถลง ระบุ

“นี่เป็นการตอบโต้ต่อการยิงจรวดจากฉนวนกาซาเข้าใส่ดินแดนของอิสราเอลเมื่อเย็นวานนี้”

แหล่งข่าวความมั่นคงของปาเลสไตน์ระบุว่า มีการโจมตีเป้าหมายดังกล่าวกว่า 10 ครั้งซึ่งรวมถึงท่าเรือและฐานทัพของกลุ่มฮามาสใกล้ค่ายผู้ลี้ภัยชาตีในตอนเหนือของกาซา

แหล่งข่าวระบุว่า เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงกับสถานที่ดังกล่าวรวมทั้งบ้านเรือใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายเล็กน้อยด้วย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหลายคน

ในตอนนี้ไม่มีการยืนยันจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระทรวงสาธารณสุขในกาซา

การโจมตีมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลสกัดกั้นจรวดสองลูกที่ยิงมาจากกาซา

จรวดดังกล่าวมักถูกยิงมาจากกลุ่มอิสลามิสต์กลุ่มเล็กๆ แต่อิสราเอลถือว่าผู้ปกครองของกาซาอย่างฮามาสต้องรับผิดชอบการโจมตีใดๆ ก็ตามจากดินแดนดังกล่าว

กองทัพยังประกาศด้วยว่า พวกเขาจะปิดการขนส่งสินค้าหลักระหว่างกาซาและอิสราเอลตั้งแต่วันนี้ (14) เป็นต้นไป “เนื่องจากเหตุการณ์ความมั่นคงและตามการประเมินด้านความมั่นคงต่างๆ”

มีการเพิ่มขึ้นของความรุนแรงจากกาซานับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯประกาศว่า เขาจะรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อวันพุธที่แล้ว (6)

มีชาวกาซา 4 คนเสียชีวิต 2 คนในการปะทะเลียบแนวชายแดนและอีกสองคนเป็นนักรบกลุ่มฮามาสที่เสียชีวีตในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

https://mgronline.com/around/detail/9600000125760

 

Jeerachart Jongsomchai


... "เกาหลีใต้ ห้ามขายบิตคอยน์ในตลาดล่วงหน้า"

... หลังจากที่ตอนนี้ราคาบิตคอยน์กำลังพุ่งแรงสูงขึ้นบนยอดต้นตาล จนนักลงทุนทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นหลายคนสนใจจะร่วมเล่น และกำลังจะถูกความยั่วยวนให้ลงสนามมา แต่ปรากฏว่ารัฐบาล "เกาหลีใต้" ได้ออกคำสั่งห้ามการซื้อขายสินค้าอย่างบิตคอยน์ในตลาดล่วงหน้าแล้ว และเป็นครั้งแรกที่เกาหลีใต้ทำแบบนี้

... โดยเกาหลีใต้ให้เหตุผลว่า กลัวว่าถ้าเงินไปเทลงทุนในตลาดบิตคอยน์มากเกินจะควบคุมได้ มันจะกลายเป็นผลร้ายต่อตลาดการเงินประเทศไป

... ก่อนหน้านั้น "จีน" เคยประกาศห้ามการค้าขายบิตคอยน์มาแล้ว ตั้งแต่ยังราคาไม่สูงมาก เพราะเกรงกลัวฟองสบู่แตก และตอนนี้ก็ยังห้ามอยู่

... เมื่อไม่กี่เดือนก่อนนั้นผู้บริหารซีอีโอของโกลด์แมนแซค เคยออกมาบอกว่าบิตคอยน์คือของปลอม ไม่มีความมั่นคงและอนาคต ควบคุมไม่ได้ และสักวันจะล้มหายไปจากตลาดการเงินเอง

... นักการเงินบางกลุ่มก็เคยบอกว่า บิตคอยน์จะค่อยๆราคาสูงขึ้น จนฟองสบู่แตกและไปไม่รอดในที่สุด บางสายก็บอกว่าเป็นแค่ขนมหวานมาขัดตาทัพและขวางกระแสนักลงทุนที่อยากจะหันไปลงทุนในทองคำและเงินหยวนที่ผูกกับทองคำแล้ว แค่นั่นเอง

.

.https://www.google.com.kh/amp/s/www...ea-preissues-ban-bitcoin-futures-trading/amp/

 

อาเดล อัล ญุบัยรี ชี้ : ทรัมป์กำลังให้ความสำคัญกับการสร้างสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์…! On ธ.ค. 14, 2017

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของซาอุดิอาระเบีย กล่าวในการให้สัมภาษณ์เช้าวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลของอเมริกามีความพยายามและจริงจังที่จะสร้างสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย อาเดล อัล ญุบัยรี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่างๆในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว France24

อัล ญุบัยรี ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้อ้างว่า ซาอุดีอาระเบียไม่ได้เป็นปฏิปักษ์และคัดค้านกับการตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเยรูซาเล็มนั้น ไม่เป็นความจริง

เขากล่าวเสริมว่า “จุดยืนของเราต่อประเด็นกรุงเยรูซาเล็มนั้นมันชัดเจนเสมอ” และ เราเชื่อในแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐและมติที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ

รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดิอาระเบีย กล่าวเสริมในการสัมภาษณ์ของเขาที่สนับสนุนแนวความคิดของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ และอ้างว่าเขาจริงจังในการสร้าง “สันติภาพ” ระหว่างอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์

“เราเชื่อว่ารัฐบาลทรัมป์มีความจริงใจในการสร้างสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์” อัล ญุบัยรี ทิ้งท้าย..!!!

farsnews


http://www.immjournal.com/8279

 

กลุ่มประเทศสมาชิก OIC ชี้ “โลกจะต้องยอมรับเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์” On ธ.ค. 14, 2017

OIC หรือองค์กรความร่วมมือชาติมุสลิม 57 ประเทศ ได้ทำการเชิญชวนให้โลกรู้จักและยอมรับ”กรุงเยรูซาเล็ม-อัลกุดส์ ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของประเทศปาเลสไตน์”
พร้อมกับโวยสหรัฐอเมริกาที่ไม่ใส่ใจสันติภาพตะวันออกกลาง โดยการพยายามย้ายสถานทูตจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็ม!!!

presstv / กลุ่มประเทศสมาชิก OIC ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมนัดฉุกเฉินเสร็จสิ้น ณ กรุงอิสตันบุล ประเทศตุรกี วันนี้ โดยสรุปว่า “โลกจะต้องยอมรับเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์”

ซึ่งคำแถลงนี้ถือเป็นคำตอบโดยตรงต่อประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งเขาเรียกสถานที่แห่งนี้(เยรูซาเล็ม)ว่า “เมืองหลวงตลอดกาลของอิสราเอล”.!!!!


http://www.immjournal.com/8275

 

ยิว เชิญเจ้าชาย บิน ซัลมาน เยือนอิสราเอลอย่างเป็นทางการ…!
Last updated ธ.ค. 13, 2017

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรักษาความปลอดภัยของระบอบยิวไซออนิสได้ประกาศว่าเขาได้เชิญมกุฎราชกุมาร Mohamed bin Salman แห่งซาอุดิอาระเบีย อย่างเป็นทางการเพื่อเดินทางไปยังดินแดนที่ถูกยึดครอง

สื่ออิสราเอล Haaretz ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธว่า ทางการอิสราเอลได้เชิญมกุฎราชกุมารเพื่อเยือนดินแดนที่ถูกยึดครอง

Yisrael Katz รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรักษาความปลอดภัยของระบอบยิวไซออนิสได้ประกาศว่าเขาได้เชิญมกุฎราชกุมาร Mohamed bin Salman แห่งซาอุดิอาระเบีย อย่างเป็นทางการเพื่อเดินทางไปยังดินแดนที่ถูกยึดครอง

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรักษาความปลอดภัย(ความมั่นคง)ของระบอบยิวไซออนิสต์ได้กล่าวว่าเขายังสามารถเรียกร้องให้กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียเข้าร่วมในกระบวนการเจรจาระหว่างปาเลสไตน์และระบอบการปกครองในฐานะคนกลาง !

jamejamonline


http://www.immjournal.com/8270

 

ปรากฏการณ์ สตริงของไข่มุก เกิดจาก ดวงจันทร์ต่างของ Nibiru ได้จัดตัวเองเป็นสิ่งที่ได้รู้จักกันว่าเป็นสตริงของไข่มุก,
http://www.zetatalk.com/newsletr/issue169.htm

ต่อไปนี้เป็นเส้นซึ่งเมื่อเห็นจากด้านข้างมีลักษณะเหมือนสร้อยคอมุกเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นในปลายปี 2003 และต้นปี 2004 เมื่อ Nibiru เข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน ขณะที่มันเข้าหาดวงอาทิตย์เพื่อให้หางกว้างใหญ่ของ Nibiru ตรงไป และผ่านดวงอาทิตย์ ีุที ี่ข ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถมองเห็นได้ในเวลานั้น

ZetaTalk รายละเอียด 6/15/1997:
http://www.zetatalk.com/poleshft/p91.htm

ในภาพจสก SOHO ของ NASA หรือในรูปแบบสเตอริโอออนด์: โลกและ Nibiru ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นดาวเคราะห์แม่เหล็ก

ระหว่างปีพศ. 2547 ถึง พ.ศ. 2557 สตริงของไข่มุกดูเหมือนจะหายไป ซึ่งอาจเนื่องมาจากการแก้ไขภาพ SOHO ที่ดีขึ้น แต่ดวงจันทร์เองก็ไม่สามารถสังเกตได้ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เมื่อปี พ.ศ.2557 อัลเบอร์โตต้นแบบของตัวกรองสีแดงเริ่มจับสายรัศมีไข่มุกเป็นครั้งคราว

ตอนนี้สตริงของไข่มุกได้เริ่มมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อีกครั้ง พวกเขาได้เห็นบนขอบฟ้าในประเทศนอร์เวย์เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมซึ่งถูกจับโดยอัลเบอร์โตเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนและได้เห็นในกลุ่มดาวล่าสัตว์


ในรัฐมิสซูรี่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม เชือกแขวนเหมือนสร้อยคอมุกข้างต้น 12 ดวงจันทร์มองเห็นได้ชัดเจน การแบ่งตัวของเมฆที่ตำแหน่งดวงอาทิตย์ปรากฏผ่านมียอดแหลม 12 เท่าของแสงที่ชี้ลงสู่แม่น้ำมิสซูรี่ด้านล่าง ภาพถูกตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญที่ไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ได้ แต่ Zetas อธิบาย

http://www.zetatalk.com/ning/30no2017.htm

String of Pearls ได้ปรากฏตัวในช่วงแรก ๆ ของการเข้าสู่ระบบสุริยะชั้นในของ Nibiru ในปี พ.ศ. 2546-2547 สตริงของไข่มุกปรากฏตัวขึ้นในปี พ.ศ. 2553 ใน SOHO และ Stereo Ahead และ Behind ภาพจากดาวเทียมเพราะ Nibiru ได้เข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นในระหว่างทางและสามารถสะท้อนแสงแดดได้มากขึ้นไปยังกล้องและนาซาไม่ได้เตรียมพร้อม ดังนั้นจึงไม่ลบออกจากภาพของพวกเขา

แต่ระหว่างปี 2547 ถึง 2557 สตริงของไข่มุกไม่สามารถมองเห็นได้จาก Earth จากนั้นสายทำภาพลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมในรูปภาพของอัลแบร์โตในปี 2557 และได้รับการปรากฏตัวเป็นประจำตั้งแต่ในรูปที่ถูกกรอง แต่การมองเห็นสายตาสั้นของสายสร้อย - ได้เห็นและถูกจับบนแผ่นฟิล์มในนอร์เวย์เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2560 และตอนนี้ในรัฐมิสซูรี่เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลาพระอาทิตย์ตกดินแสดงจุดเริ่มต้นของช่วงใหม่สำหรับการปฏิเสธ Nibiru ตัว Nibiru ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นสีแดงที่เต็มไปด้วยฝุ่นจนเมฆเมฆสะท้อนแสง cr
Draft ZetaTalk Newsletter for Sunday December 3, 2017. Newsletters can be found in the Archives by Friday, also. http://www.zetatalk.com/newsletr/index.htm

String of Pearls Arrives
Some of Nibiru’s moons have arranged themselves into what has become known as the String of Pearls,
http://www.zetatalk.com/newsletr/issue169.htm
following each other in a line, which when seen from the side look like a pearl necklace. These showed up in late 2003 and early 2004 when Nibiru arrived in the inner Solar System, putting on the brakes as it approached the Sun so that the vast tail of Nibiru wafted toward and past the Sun. Thus they were visible at that time.

ZetaTalk Description 6/15/1997:
http://www.zetatalk.com/poleshft/p91.htm
Planet X's moons travel like a string of pearls behind the monster traveling planet and a great deal of trash has also been caught, from boulders to gravel to dust that drags long behind as the giant comet's tail.

ZetaTalk Description 2001:
http://www.zetatalk.com/science/s123.htm
Thus, the moons of Planet X, having assumed a swirl that perpetuates itself, remain in a dance behind Planet X even during its dither point between its two foci. Planet X moves, however slowly, at its dither point, so the swirl is always positioned between Planet X and the foci it is leaving. This swirl, unique to man in any comets or planets it observes, is what caused the ancients to call the passing monster, red in the sky because of its illuminated red dust cloud, a dragon, lashing its tail, the swirl of moons.

Then the String of Pearls seemed to disappear, except for showing up in 2010
http://www.zetatalk.com/newsletr/issue172.htm
in NASA’s SOHO images or in the Stereo Ahead or Behind images, which have a view less impeded by the charged tail dust gathered between and clinging to the Earth and Nibiru, both of which are magnetic planets.

Between 2004 and 2014, the String of Pearls seemed to disappear, likely due to better editing of the SOHO images so streaks were allowed but the moons themselves were not discernable. Until recently, when in 2014, Alberto, the master of the red filter, began to occasionally capture the String of Pearls.

Now, suddenly, the String of Pearls has become visible naked eye again. They were seen on the horizon in Norway at sunrise on October 5, captured by Alberto on November 17, and seen by a group of hunters
....
in Missouri at sundown on October 20. The string hung like a pearl necklace above, 12 Moons clearly visible. A break in the clouds where the setting Sun shown through had exactly 12 spires of light pointing down into the Missouri River below. The image was examined by experts who were unable to explain the phenomena. But the Zetas explain.

A quality inspector for Boeing who has worked before on or near fighter jets since 1980 received an image from his friend showing a strange phenomenon in the sky during sun set on November 20, 2017. The image was so intriguing he felt compelled to post it to MUFON case 88249 to see if anyone else witnessed the objects. His friend and another guy were making their way back to the boat ramp after a day of deer hunting along the Missouri River; the sun had set approximately 15 minutes earlier, when they noticed a strange group of lights above the clouds and beams of light reflecting off the river. Although the event only lasted seconds and was gone, his friend managed to take a picture of the phenomenon. Quality inspector: “This may be just a very cool sun dog-type reflection, but I was having a hard time explaining the chevron shaped group of lights above the cloud, and the 'way too evenly spaced' beams of light coming off what appears to be the sun shining down from the cloud.”
ZetaTalk Comment 11/30/2017:
http://www.zetatalk.com/ning/30no2017.htm
The String of Pearls made an appearance in the early days of Nibiru’s descent into the inner solar system, in 2003-2004, as it was either on the opposite side of the Sun or at a distance from the body of Nibiru itself and the Moon Swirls were able to reflect sunlight back toward Earth. Then the String of Pearls showed up in 2010 on the SOHO and Stereo Ahead and Behind satellite images, because Nibiru had come closer to the Sun during its passage and was able to reflect more brilliant sunlight toward the cameras, and NASA was not on guard and thus not erasing this from their images.

But between 2004 and 2014, the String of Pearls was not visible from Earth. Then the string made a brilliant re-appearance in Alberto’s photos in 2014 and have been appearing regularly since in his filtered photos. But the naked eye sightings of the String of Pearls - seen and captured on film in Norway at sunrise on October 5, 2017 and now in Missouri on November 20, 2017 at sunset - show the beginning of a new phase for Nibiru denial. Nibiru itself is so heavily shrouded by charged red dust that unless the dust cloud reflects light, creating a brilliant Second Sun sighting, it can be denied. The String of Pearls is not so restricted, and will destroy the cover-up.

http://poleshift.ning.com/profiles/blogs/zetatalk-newsletter-for-december-3-2017

 

ปรากฏการณ์ string of pearl จาก nibiru เริ่มมองเห็นได้บ่อยขึันแล้ว

Visudhi Punya
#ของฝากจากสเปน



การเป็นคนช่างสังเกต
มักจะแลเห็นบางสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น
ในภาพเดียวกัน มุมเดียวกันเสมอ

จงเรียนรู้เพื่อค้นหาสิ่งที่คนอื่นมองเห็น
แต่ท่านยังมองไม่เห็นนั้นให้พบ
แทนที่จะปฏิเสธทันทีว่า
ไม่จริง ไม่เชื่อ ไม่มี ไม่ใช่
เพียงแค่ท่านมองไม่เห็นในสิ่งที่คนอื่นเห็น

การมองไม่เห็นในสิ่งที่คนอื่นเห็น
การเห็นสิ่งเดียวกันต่างจากที่คนอื่นเห็น
มันเป็นเรื่องจริงที่ท่านต้องยอมรับกันล่ะนะ

เอเมน สาธุ
ป.วิสุทธิปัญญา
14-12-2017

 

ปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบริเวณขั้วโลกเหนือ ชี้ว่า อุณหภูมิในขั้วโลกเหนืออุ่นขึ้นต่อเนื่องจนกลายเป็นภาวะปกติไปแล้ว แทนที่จะเป็นปรากฏการณ์ชั่วครั้งชั่วคราว จากการรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมา พบว่าอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นและการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเหนือเกิดขึ้นในอัตราที่สูงที่สุดอย่างน้อยในรอบ1,500 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าเดิมจนไม่สามารถกลับไปเป็นขั้วโลกเหนือที่เย็นยะเยือกได้อีกแล้ว ทั้งนี้ น้ำแข็งยิ่งละลายอุณหภูมิก็จะยิ่งสูงขึ้น เนื่องจากน้ำแข็งที่หายไปจะทำให้พื้นดินได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข็งก็ยิ่งละลายวนไปเรื่อยๆ.... อ่านต่อได้ที่ : https://www.posttoday.com/world/news/530387

 

ที่มาของศัพท์แสลง “อัดถั่วดำ”


เผยแพร่ วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ.2559
ล่วงสู่ปลายทศวรรษที่ 2470 ได้ปรากฏข่าวที่น่าสนใจที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกันในยามค่ำคืนคือ ข่าวการลักลอบเปิดซ่องเด็กชายรับจ้างทำชำเราให้กับผู้มาใช้บริการที่มีทั้งแขก เจ้าสัว และจีนบ้าบ๋า หนังสือพิมพ์ได้พาดหัวข่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า

“ตั้งซ่องโสเภณีเถื่อนอย่างวิตถาร โดยใช้เด็กชายเปนผู้รับจ้างกระทำชำเรา” (หนังสือพิมพ์ศรีกรุง ฉบับวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2478)

ซ่องนี้เป็นของนายการุญ ผาสุก หรือนายถั่วดำ ตั้งอยู่ที่ตำบลตรอกถั่วงอก เขตป้อมปราบ ร.ต.ท. แสวง ทีปนาวิณ สารวัตรสถานีตำรวจป้อมปราบ ได้เข้าไปจับตัวนายการุญ เมื่อเวลา 18 นาฬิกา เพราะเห็นว่า

…ห้องแถวเช่าซึ่งนายถั่วดำหรือการุญเช่าอยู่มีเด็กชายอายุแต่ 10 ถึง 16 ปีอยู่ในห้องมากมาย จึงเกิดความสงสัยว่าเด็กชายเหล่านั้นจะเปนเด็กที่ประพฤติในการทุจริต ร.ต.ท. แสวง ได้ออกสืบสวนอยู่ 2-3 วัน จึงทราบว่านายถั่วดำหรือการุญผู้นี้เปนคนไม่มีภรรยา และได้เปนผู้ที่ชักชวนเด็กๆ ผู้ชายตั้งแต่ 10 ปีถึง 16 ปีไปดูภาพยนตร์บ้าง ซื้อของเล่นให้บ้าง ให้ขนมรับประทานบ้าง แล้วก็พากันมาบ้านพักของนายการุญหรือถั่วดำ ก็กระทำการสำเร็จความใคร่แก่เด็กชายซึ่งพามานั้นเสียก่อน

และต่อจากนายถั่วดำหรือนายการุญได้สำเร็จความใคร่แก่เด็กที่พามานั้นแล้ว นายการุญหรือถั่วดำก็จัดให้เด็กชายเหล่านั้นรับสำเร็จความใคร่กับแขกบ้าง เจ้าสัวและจีนบ้าบ๋าบ้าง พวกที่มาสำเร็จความใคร่กับเด็กเหล่านี้ต้องเสียเงินเป็นสินจ้างรางวัลให้แก่นายถั่วดำหรือการุญเยี่ยงหญิงโสเภณี ในวันที่ ร.ต.ท. แสวงไปจับกุมพบ ด.ช. ตงเฮง อายุ 12 ปี บ้านอยู่วัดบรมนิวาส กับ ด.ช. บุญสม อายุ 16 ปี บ้านอยู่บางกอกน้อย และหนีไปได้ 2 คน เด็กที่ ร.ต.ท. แสวงไปพบและนำตัวมาไต่สวนให้การตามที่กล่าวแล้วว่านายถั่วดำชักชวนมาให้สำเร็จความใคร่ ได้ส่งให้แพทย์ตรวจ ด.ช. ตงเฮงมีบาดแผลที่ช่องทวารหนัก ด.ช. บุญสมก็เช่นเดียวกัน เวลานี้เรื่องอยู่ในระหว่างไต่สวน…

ความโด่งดังของข่าวนี้ทำให้ชื่อเล่นของนายการุญ ผาสุก คือ “ถั่วดำ” กลายมาเป็นศัพท์แสลงที่เรียกกันติดปากในภายหลังว่า “อัดถั่วดำ” ที่ใช้เรียกพฤติกรรมการร่วมเพศของกลุ่มชายรักชายหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ซึ่งได้ใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน

(ข้อมูลจาก หนังสือกรุงเทพฯ ยามราตรี เขียนโดย วีรยุทธ ปีสาลี สนพ.มติชน)
https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_1762