ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    In Clip : “ทรัมป์” เล็งตัดเงินช่วยเหลือกว่าหลายสิบล้านดอลลาร์ให้ “บรรเทาทุกข์และจัดหางานยูเอ็น” ช่วยผู้อพยพปาเลสไตน์ ลงโทษเจรจาสันติภาพไม่คืบ เผยแพร่: 15 ม.ค. 2561 20:41:00 โดย: MGR Online
    561000000464401.jpg

    เอพี/เอเจนซีส์ – รัฐบาลสหรัฐฯชุดทรัมป์เตรียมระงับเงินช่วยเหลือจำนวนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่ต้องสนับสนุนหน่วยงานองค์การสหประชาชาติว่าด้วยผู้อพยพปาเลสไตน์ แหล่งข่าวชี้ ถึงแม้ยังไม่ใช่การตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่คาดอาจอนุมัติเงินช่วยเหลือแค่ 60 ล้านดอลลาร์จากจำนวนเต็ม 125 ล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ UNRWA ด้านผู้นำปาเลสไตน์ออกแถลงการณ์ยาว 2 ช.มวันอาทิตย์(14) ประกาศไม่ขอรับ “ทรัมป์” ในฐานะตัวกลางสันติภาพเด็ดขาด

    เอพีรายงานวันนี้(15 ม.ค)ว่า รัฐบาลสหรัฐฯของโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมที่จะตัดเงินช่วยเหลือหน่วยงานองค์การสหประชาชาติที่ให้การช่วยเหลือผู้อพยพปาเลสไตน์ UNRWA ตัดเงินให้การสนับสนุนในงวดแรกมากกว่าครึ่งหรืออาจจะทั้งหมด และทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการให้เงินบริจาคต่อองค์การ อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ

    อย่างไรก็ตามเอพีชี้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย ซึ่งทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯออกแถลงการณ์วันอาทิตย์(14)ชี้ว่า การตัดสินใจยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา และยังคงมีการหารือที่ละเอียดอ่อนที่ยังต้องดำเนินการ ซึ่งแหล่งข่าวสหรัฐฯกล่าวว่า ดูเหมือนว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯมีความต้องการที่จะมอบการสนับสนุนเพียงแค่ 60 ล้านดอลลาร์เท่านั้นจากแผนเดิมที่ต้องการมอบให้จำนวน 125 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือก้อนแรกที่จะมอบให้กับองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ UNRWA เจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อเนื่องมาจากไม่ได้รับอนุญาตให้ข้อมูลในฐานะแหล่งข่าวกล่าว

    นอกจากนี้เงินสนับสนุนที่สหรัฐฯจะมอบให้กับหน่วยงานในอนาคตนั้นต้องการให้ทางหน่วยงานยูเอ็น ซึ่งเผชิญหน้าต่อการวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลอย่างหนัก ***ต้องแสดงให้สหรัฐฯเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการบริหารจัดการ*** พวกเขากล่าว และเสริมว่า หนึ่งในนั้นได้ให้ความเห็นว่า และมีข้อแม้ที่ทางปาเลสไตน์ต้องเข้าสู่โต๊ะเจรจาเสรีภาพกับอิสราเอล

    ทั้งนี้ในรายงานของเดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษวันนี้(15)ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มู๊ด อับบาส(Mahmud Abbas)ออกมาประณามประธานาธิบดีทรัมป์ในแถลงการณ์ความยาว 2 ช.มวันอาทิตย์(14) โดยชี้ว่าเขาจะ “ไม่ขอยอมรับ” รัฐบาลทรัมป์ในฐานะตัวกลางในการเจรจาเสรีภาพกับอิสราเอลเด็ดขาด และเรียกร้องให้ประชาคมโลกเป็นผู้นำกระบวนการแทน

    “เราขอกล่าว “ปฎิเสธ” ต่อทรัมป์ ทางเราไม่ขอรับแผนของคุณ” ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ประกาศ และกล่าวต่อว่า “ข้อตกลงแห่งศตวรรษนั้นเป็นการตบฉาดใหญ่แห่งศตวรรษ และทางเราจะไม่ขอยอมรับ”อับบาสประกาศ โดยอ้างไปถึงความปราถนาของทรัมป์ที่ต้องการบรรลุข้อตกลงสุดยอด หรือ สันติภาพระหว่างอิสราเอลปาเลสไตน์

    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯยังกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯอาจสามารถประกาศออกมาได้เร็วสุดในวันอังคาร(16) และชี้ว่าแผนในการระงับเงินช่วยเหลือจำนวนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อหน่วยงานองค์การสหประชาชาตินั้นได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน และรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เจมส์ แมททิส ที่ได้เสนอว่า เป็นเสมือนข้อเสนอประนีประนอมต่อมาตรการแข็งกร้าวที่ออกมาจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำองค์การสหประชาชาติ นิกกี เฮลีย์ แหล่งข่าวเปิดเผย

    ซึ่งพบว่า ทางเฮลีย์มีความต้องการที่จะตัดเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯทั้งหมดเพื่อบีบให้ปาเลสไตน์ต้องกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาสันติภาพกับอิสราเอลอีกครั้ง โดยการเจรจาสันติภาพต้องหยุดชะงักมาเป็นเวลาหลายปี

    แต่ทว่าแมททิส ทิลเลอร์สัน และคนอื่นๆต่างแย้งว่า หากตัดความช่วยเหลือทุกด้านโดยสิ้นเชิงจะเป็นการทำให้เสถียรภาพตะวันออกกลางอยู่ในขั้นเลวร้ายโดยเฉพาะในจอร์แดน ซึ่งเป็นประเทศที่ให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์จำนวนมาก และยังเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ต่อสหรัฐฯ

    เอพีชี้ว่าสหรัฐฯเป็นผู้ให้การช่วยเหลือด้านการเงินต่อองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติ UNRWA ถึง 30% ของงบประมาณรวมทั้งหมดของหน่วยงาน ซึ่งหน่วยงานนี้มีหน้าที่ในด้านให้บริการสาธารณสุข การศึกษา และด้านสังคมต่อชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ ฉนวนกาซ่า จอร์แดน ซีเรีย และเลบานอน

    การที่สหรัฐฯลดจำนวนเงินให้การสนับสนุนต่อ UNRWA จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อทางหน่วยงานและโครงการทั้งหลาย รวมไปถึงสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อจอร์แดนและเลบานอน รวมไปถึงองค์การบริหารปาเลสไตน์ ซึ่งเชื่อว่ากาซ่าน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดในสถานการณ์นี้ เอพีชี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บางส่วนออกมาเตือน รวมไปถึงอิสราเอลที่ว่า อาจเป็นแรงผลักดันต่อประชาชนให้เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่ควบคุมกาซ่าก็เป็นได้

    ทั้งนี้แหล่งข่าวสหรัฐฯชี้ต่อว่า การลดจำนวนเงินให้การช่วยเหลือจากสหรัฐฯอาจจะได้รับการเยียวยาสนับสนุนจากกลุ่มชาติยุโรปและนานาชาติให้เพิ่มในส่วนที่ขาดแทน

    ซึ่งพบว่าในปี 2016 ในสมัยของรัฐบาลชุดประธานาธิบดีโอบามาได้บริจาคในตัวเลข 355 ล้านดอลลาร์ และได้มีการตั้งเป้าในตอนแรกที่จะให้มีการสนับสนุนในสัดส่วนที่เท่ากันในปีนี้ ซึ่งการสนับสนุนก้อนแรกมีกำหนดเส้นตายที่ต้องมอบให้กับยูเอ็นภายในเดือนนี้

    แต่ทว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลังการทวีตของทรัมป์เมื่อวันที่ 2 ม.คในความช่วยเหลือสหรัฐฯที่ให้กับชาวปาเลสไตน์

    โดยผู้นำสหรัฐฯแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ไม่มีความคืบหน้าในความพยายามของเขาในฐานะที่เป็นโบรกเกอร์กระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล พร้อมกันนั้นในทวีตเตอร์ยังได้ประกาศอ้างไปถึงเงินจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์ที่ทางสหรัฐฯให้การสนับสนุนในแต่ละปี

    และดังนั้นเอพีชี้ จึงเป็นเหตุผลที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเลือกที่จะรอการตัดใจทางนโยบายอย่างเป็นทางการก่อนที่จะส่งมอบการสนับสนุนจากจำนวน 125 ล้านดอลลาร์ออกไป

    https://mgronline.com/around/detail/9610000004615
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สหรัฐฯ ระงับเงินช่วยเหลือ “ปาเลสไตน์” บางส่วน หลัง “ทรัมป์” จวกไม่สำนึกบุญคุณ เผยแพร่: 17 ม.ค. 2561 09:51:00 ปรับปรุง: 17 ม.ค. 2561 11:56:00 โดย: MGR Online
    561000000533401.jpg

    ผู้ประท้วงชาวจอร์แดนในกรุงอัมมานชูป้ายล้อเลียนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พร้อมข้อความซึ่งเขียนว่า “เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์” เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2017 (แฟ้มภาพ)
    รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ประกาศระงับวงเงินครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดที่จะจ่ายให้แก่หน่วยงานของสหประชาชาติเพื่อใช้ช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตำหนิปาเลสไตน์เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนว่า “ไม่เคยสำนึกบุญคุณ”

    สหรัฐฯ จะมอบเงิน 60 ล้านดอลลาร์ให้แก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) แต่จะระงับวงเงินอีก 65 ล้านดอลลาร์เอาไว้ก่อน โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้หน่วยงานแห่งนี้ต้อง “ปฏิรูป” การทำงานบางอย่าง

    วาเซล อบูยุสเซฟ เจ้าหน้าที่องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ออกมาตอบโต้ทันทีว่า สหรัฐฯ จงใจลิดรอนสิทธิชาวปาเลสไตน์ และเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการที่ ทรัมป์ ประกาศรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.

    อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ระบุว่ายังไม่ไม่ทราบเรื่องที่สหรัฐฯ หั่นงบช่วยเหลือ แต่ก็ “กังวลอย่างยิ่ง” เพราะถือเป็น “ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยรักษาเสถียรภาพ”

    ปิแอร์ กราเฮนบูห์ล ข้าหลวงใหญ่ UNRWA เตือนว่า การที่สหรัฐฯ ตัดเงินช่วยเหลือปาเลสไตน์ “เท่ากับคุกคามโครงการริเริ่มพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดอย่างหนึ่งในตะวันออกกลาง”

    มาตรการล่าสุดของวอชิงตันอาจส่งผลให้กระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยุ่งยากขึ้นไปอีก และยิ่งทำให้โลกอาหรับหมดความเชื่อถือในความเป็นกลางของสหรัฐฯ

    ทั้งนี้ ต่อให้สหรัฐฯ ยอมจ่ายเงินที่เหลืออีก 65 ล้านดอลลาร์ แต่วงเงินรวมเพียง 125 ล้านดอลลาร์ก็ถือว่าลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับงบช่วยเหลือ 355 ล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ เคยมอบให้แก่ UNRWA ในปีงบประมาณ 2017

    ฮีทเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า เงิน 60 ล้านดอลลาร์ที่จ่ายให้นั้นยังเพียงพอสำหรับการอุดหนุนโรงเรียนและระบบสาธารณสุข แต่ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้นานาชาติร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือปาเลสไตน์ให้มากกว่านี้ เนื่องจากที่ผ่านมาสหรัฐฯ ต้องแบกรับภาระมากเกินไป

    เนาเอิร์ท ชี้ว่า แม้สหรัฐฯ จะยื่นเงื่อนไขให้ UNRWA ต้องปฏิรูปการทำงานเพื่อรับเงินช่วยเหลืออีกครึ่งหนึ่ง แต่ยืนยันว่า “ไม่มีเจตนาลงโทษใคร”

    ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ว่า วอชิงตันจ่ายเงินให้ปาเลสไตน์ “ปีละเป็นร้อยๆ ล้านดอลลาร์ แต่พวกเขากลับไม่เคยสำนึกบุญคุณหรือให้เกียรติเราเลย”

    “ในเมื่อปาเลสไตน์ไม่ต้องการพูดคุยสันติภาพ เราจะจ่ายเงินล่วงหน้ามหาศาลให้พวกเขาไปทำไมกัน?”

    https://mgronline.com/around/detail/9610000005131
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สุดฮือฮา!! กลุ่มชาวฝรั่งเศสเรียกร้อง “เครมลิน” จ่ายคืนหนี้พันธบัตรพระเจ้าซาร์ในศตวรรษที่ 19 ร่วม 53 พันล้านยูโร เผยแพร่: 16 ม.ค. 2561 16:21:00 โดย: MGR Online
    561000000489601.jpg

    เอเจนซีส์ - ลูกหลานบรรดานักลงทุนฝรั่งเศสร่วม 400,000 คนถือพันธบัตรยุคศตวรรษที่ 19 ของจักรวรรดิ์รัสเซียที่ออกการทางรถไฟเมื่อปี 1867 มูลค่า 15 พันล้านฟรังก์ในเวลานั้น หรือเทียบเงินในปัจจุบันราว 53 พันล้านยูโร ออกมาร้องให้รัฐบาลเครมลินจ่ายคืนหนี้ทั้งหมดให้กับทายาท

    RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้(15 ม.ค)ว่า สื่อวิทยุนานาชาติฝรั่งเศส RFI ระบุว่า กลุ่มบุคคลชาวฝรั่งเศสที่เป็นลูกหลานนักลงทุนตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ออกมารวมตัวล่าสุดเรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียในปัจจุบันชำระหนี้พันธบัตรจำนวน 15 พันล้านฟรังก์ในเวลานั้น หรือราว 53 พันล้านยูโร ตามมูลค่าเงินปัจจุบัน ที่ออกโดยทางการรถไฟของจักรวรรดิรัสเซียเมื่อปี 1867 ซึ่งยังเป็นยุคที่พระเจ้าซาร์เรืองอำนาจโดยใช้ทองคำเป็นหลักประกัน

    อ้างอิงจากการรายงานพบว่ามีทายาทจำนวน 400,000 คนในเวลานี้ซึ่งยังคงถือหลักฐานพันธบัตรดังกล่าว

    แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าการออกมาอ้างของกลุ่มทายาทชาวฝรั่งเศสอาจไม่เป็นผลเพราะสื่อรัสเซียชี้ว่า ในช่วงการปฎิวัติสังคมนิยมของวลาดิมีร์ เลนิน โดยทางเลนินผู้นำการปฎิวัติได้ออกคำสั่งล้างหนี้ของจักรวรรดิรัสเซียที่มีอยู่ทั้งหมด และนอกจากนี้ ในปี 1996 มอสโกและปารีสได้ร่วมตกลงในสัญญาล้างหนี้สมัยพระเจ้าซาร์ โดยในเวลานั้นทางฝ่ายรัสเซียตกลงที่จะยอมจ่าย 400 ล้านดอลลาร์ ในจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างออกมาชี้ว่า ถือเป็นแค่สัดส่วนราว 2% ของหนี้ที่ทางจักรวรรดิรัสเซียมีต่อบรรดานักลงทุนแดนน้ำหอม

    และเป็นเรื่องเหมือนที่เกิดขึ้นกับอังกฤษในช่วงก่อนการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งพบว่าในปี 1986 อดีตประธานาธิบดี มิคคาอิล กอร์บาชอฟ ได้ลงนามในข้อตกลงกับอดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ มาร์กาเรต แทตเชอร์ ในข้อประนีประนอมถถึงหนี้ในช่วงก่อนยุคสมัยปฎิวัติรัสเซีย โดยทางรัฐบาลอังกฤษเสนอที่จะจ่ายทดแทนคืนให้กับพลเมืองอังกฤษที่ถือพันธบัตรของจักรวรรดิรัสเซียไว้ ซึ่งเป็นการจ่ายทดแทนที่ได้มาจากทองคำของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ได้ฝากไว้ในธนาคารอังกฤษ

    นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา เครมลินยอมจ่ายหนี้สมัยอดีตสหภาพโซเวียตมูลค่า 125.2 ล้านดอลลาร์ ไปให้กับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

    https://mgronline.com/around/detail/9610000004925
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เตือนโลกร้อนเพิ่มความเสี่ยงอุทกภัย เอเชียอ่วมสุดผจญน้ำท่วม 156 ล้านคน เผยแพร่: 12 ม.ค. 2561 00:02:00 ปรับปรุง: 12 ม.ค. 2561 19:52:00 โดย: MGR Online
    561000000364001.jpg

    เอเอฟพี - นักวิจัยเตือนภาวะโลกร้อนจะทำให้ฝนตกหนักขึ้น เพิ่มจำนวนผู้อยู่อาศัยริมน้ำที่ต้องเผชิญความเสี่ยงน้ำล้นตลิ่งหลายล้านคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา และบางส่วนในเอเชีย แอฟริกา รวมถึงตอนกลางของยุโรป

    ผลศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารไซเอนซ์ แอดวานซ์ และเผยแพร่ออกมาเมื่อวันพุธ (10 ม.ค.) มุ่งคำนวณว่า จะต้องมีการป้องกันน้ำท่วมมากขึ้นเพียงใดจึงจะสามารถประคองรักษาอัตราความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมสูงลิ่วให้คงที่เอาไว้ ในช่วงเวลา 25 ปีข้างหน้า

    รายงานเตือนว่า หากไม่มีการดำเนินการใดๆ เช่น ปรับปรุงประสิทธิภาพของเขื่อนกั้นน้ำ การยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง การย้ายที่ตั้งถิ่นฐาน และการบริหารจัดการลำน้ำ จำนวนประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยร้ายแรงอาจพุ่งทะยาน ทั้งนี้ เป็นการคำนวณโดยอิงกับโมเดลที่แม่นยำกว่าการจำลองสภาพอากาศด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันทั่วไปถึง 10 เท่า

    สำหรับเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่ประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรงที่สุดนับจากอดีตที่ผ่านมา จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดเช่นเดิม โดยคาดว่า จะมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งท่วมขังเพิ่มจาก 70 ล้านคน เป็น 156 ล้านคน ภายในปี 2040

    ตัวอย่างเช่น ปากีสถานที่เป็นพื้นที่เสี่ยงประสบอุทกภัยอยู่แล้วนั้น จะเผชิญความเสี่ยงน้ำท่วมรุนแรงเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า โดยมีประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยงถึง 11 ล้านคน ภายในปี 2040 หากยังไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ

    ในส่วนอเมริกาใต้นั้น จำนวนประชาชนที่เสี่ยงได้รับผลกระทบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 6 ล้านคน เป็น 12 ล้านคน และจาก 25 ล้านคน เป็น 34 ล้านคน ในแอฟริกา

    ที่อเมริกาเหนือ จำนวนกลุ่มเสี่ยงอาจเพิ่มจาก 100,000 คน เป็น 1 ล้านคน

    สเวน วิลเนอร์ จากสถาบันพอตสดัมเพื่อการวิจัยผลกระทบจากสภาพอากาศ (พิก) ระบุว่า พื้นที่กว่าครึ่งของอเมริกาต้องยกระดับการป้องกันอย่างน้อยสองเท่าตัวภายในช่วง 2 ทศวรรษหน้า หากต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงน้ำท่วมรุนแรงจากน้ำล้นตลิ่ง

    ความเสี่ยงน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่งในช่วง 2 - 3 ทศวรรษข้างหน้าถูกกระตุ้นจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศแล้ว อันเป็นผลจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล

    เมื่อมลพิษที่กักเก็บความร้อนห่อหุ้มโลกจะทำให้ปริมาณความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีฝนตกชุกขึ้น

    ดังนั้น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงมีความสำคัญต่อการลดความเสี่ยงน้ำท่วมสำหรับประชากรโลกรุ่นต่อๆ ไป

    แอนเดอร์ส ลีเวอร์แมนน์ นักวิจัยจากหอสังเกตการณ์โลก ลามอนต์-โดเฮอร์ตี มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก ขานรับว่า หากไม่มีการจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิโลกที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ให้เหลือต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส ความเสี่ยงน้ำท่วมจากน้ำล้นตลิ่งภายในศตวรรษนี้จะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่ไม่สามารถปรับตัวรับได้ในหลายภูมิภาค และทิ้งท้ายว่า รายงานฉบับนี้ควรเป็นคำเตือนที่ส่งถึงบรรดาผู้มีอำนาจตัดสินใจ

    https://mgronline.com/around/detail/9610000003488
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    In Clip: ระทึก!! “ชีคอับดุลลาห์ บิน อัล-ทานีแห่งกาตาร์” ประกาศผ่านคลิปวันอาทิตย์ “ถูกจับตัว” อยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เผยแพร่: 15 ม.ค. 2561 17:21:00 โดย: MGR Online
    561000000456501.jpg

    เอเจนซีส์ - ชีคอับดุลลาห์ บิน อัล-ทานี(Sheikh Abdullah bin Ali Al-Thani) จากกาตาร์ ประกาศผ่านวิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่โดยสื่อกาตาร์ในวันอาทิตย์(14 ม.ค)ระบุว่า พระองค์ถูกกักอยู่ภายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเวลานี้ และหากเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ มกุฎราชกุมารยูเออี ชีคโมฮัมหมัด บินซาเยด อัล นาห์ยาน(Sheikh Mohammed bin Zayed Al Nahyan) ต้องรับผิดชอบแต่ผู้เดียว

    DW สื่อเยอรมันรายงานเมื่อวานนี้(14 ม.ค)ว่า ทั้งนี้พบว่าชีคอับดุลลาห์ บิน อัล-ทานี(Sheikh Abdullah bin Ali Al-Thani)จากกาตาร์ ทรงรับทำหน้าที่เป็นตัวกลางอย่างไม่เป็นทางการระหว่างชาติอ่าวอาหรับอื่นๆตั้งแต่กาตาร์ถูกซาอุดีอาระเบียประกาศตัดความสัมพันธ์

    และในวันอาทิตย์(14 )ล่าสุด ชีคอับดุลลาห์ทรงปรากฎพระองค์ผ่านทางวิดีโอคลิปที่ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ประกาศว่า พระองค์ทรงถูกกักโดยไม่ได้ยินยอมและอยู่ภายในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเวลานี้ วิดีโอคลิปนี้ สื่อเยอรมันชี้ว่าถูกเผยแพร่ออกมาจากสื่อกาตาร์ อัลญะซีเราะฮ์

    ข้อความที่ระบุในวิดีโอคลิป ชีคสมาชิกราชวงศ์กาตาร์ตรัสว่า พระองค์ทรงเสด็จมายังอาบูดาบีตามคำทูลเชิญของมกุฎราชกุมาร ชีคโมฮัมหมัด บินซาเยด อัล นาห์ยาน(Sheikh Mohammed bin Zayed Al Nahyan)

    "ข้าพเจ้าเป็นแขกของชีคโมฮัมเหม็ด แต่ในเวลานี้ไม่ได้อยู่ในฐานะได้รับการต้อนรับ แต่อยู่ในฐานะผู้ถูกคุมขังแทน” และพระองค์ยังตรัสต่อว่า“พวกเขาบอกกับข้าพเจ้าว่า ไม่ให้เดินทางกลับออกไป และข้าพเจ้าหวั่นเกรงว่าหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับตัวของข้าพเจ้า และพวกเขาจะกล่าวโทษไปที่กาตาร์”

    แต่อย่างไรก็ตามปรากฎว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ออกมาปฎิเสธทั้งหมดต่อข้อกล่าวหา โดยชี้ว่าชีคอับดุลลาห์ บิน อัล-ทานี ทรงเสด็จมาเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยพระองค์เอง และเสด็จกลับออกไปหลังจากนั้นแล้ว

    “พระองค์ทรงสามารถเสด็จไปที่ใดก็ได้อย่างเสรี และได้มีพระประสงค์ที่จะเสด็จออกนอกประเทศ กระบวนการทุกอย่างได้อำนวยการให้ความสะดวกกับพระองค์อย่างครบถ้วนโดยปราศจากข้อแม้หรือการขัดขวาง” เจ้าหน้าทีกระทรวงต่างประเทศยูเออีกล่าวผ่านแถลงการณ์ที่รายงานโดยสำนักข่าวยูเออี แวม(WAM)

    อย่างไรก็ตาม DW ชี้ว่า ในแถลงการณ์ไม่ได้ระบุถึงจุดหมายปลายทางของชีคกาตาร์พระองค์นี้

    ทั้งนี้พบว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งใน 4 ชาติอ่าวอาหรับร่วมกับซาอุดีอาระเบียร่วมคว่ำบาตรด้วยการตัดสัมพันธ์กับกาตาร์ในข้อกล่าวหาที่ว่า นครรัฐกาตาร์ให้การสนับสนุนก่อการร้าย แต่เป็นข้อกล่าวหาที่กาตาร์ปฎิเสธมาโดยตลอด และล่าสุดได้กลับมาฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ศัตรูตัวฉกาจของริยาด

    ทั้งนี้ในวิดีโอคลิปของชีค อับดุลลาร์ยังมีข้อความอีกว่า “ข้าพเจ้าอยากประกาศให้พวกท่านทราบว่า นครรัฐกาตาร์เป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้ และข้าพเจ้าอยู่ในฐานะแขกของชีคโมฮัมเหม็ด และหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าหลังจากนี้ ถือเป็นความรับผิดชอบของเขา”

    อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ได้กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า กาตาร์ทำได้แต่เฝ้าติดตามสถานการณ์เท่านั้น โดยชี้เหตุผลไปที่การไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตโดยสิ้นเชิงกับสหรัฐฯอาหรับเอมิเรตส์ และยังเป็นการยากที่จะเข้าใจในสถานการณ์ที่สลับซับซ้อนในเวลานี้

    DW ชี้ว่า ชีคอับดุลลาห์ทรงเป็นสมาชิกในราชวงศกาตาร์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แต่ทว่าหลังจากที่กาตาร์ถูกตัดความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย พบว่าพระองค์ทรงโดดเด่นขึ้นมาในฐานะตัวกลางการติดต่อ โดยพบว่าพระองค์ทรงได้มีโอกาสพบกับมกุฎราชกุมารซาอุฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซาลมาน(Mohammed bin Salman.) ในไม่กี่ครั้ง โดยในการพบปะครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าทางโดฮาจะยืนยันว่า ชีคโมฮัมเหม็ดทรงเสด็จไปยังกรุงริยาดในนามส่วนพระองค์ก็ตาม

    ทั้งนี้ก่อนหน้าในปีที่ผ่านมา สื่อซาอุฯอัลอาราบิยา รายงานเมื่อวันที่ 14 ต.ค 2017 ว่า ชีคอับดุลลาห์ บิน อัล-ทานี ทรงถูกรัฐบาลกาตาร์สั่งยึดทรัพย์ทั้งหมด

    โดยในครั้งนั้นชีคอับดุลลาห์ได้ทรงกล่าวยืนยันข่าวที่พระองค์ทรงถูกโดฮายึดทรัพย์ว่า “รัฐบาลโดฮาได้ให้เกียร์ติข้าพเจ้าด้วยการสั่งหยุดความเคลื่อนไหวทางบัญชีที่ฝากไว้ในธนาคารนครัฐกาตาร์ และข้าพเจ้าขอขอบคุณต่อรัฐบาลที่ได้ให้เกียร์ตินี้ และข้าพเจ้าได้มีเกียร์ติที่ได้เสนอต่อประเทศบ้านเกิด”

    และในทวีตเตอร์ชีคอับดุลลาห์ยังตรัสต่อว่า “ข้าพเจ้าตั้งความหวังว่า กาตาร์จะขับไล่พวกฉวกโอกาสและเพื่อแห่งผลประโยชน์ และกลับคืนสู่อ้อมอกของอ่าวอาหรับ"

    ซึ่งสาเหตุที่รัฐบาลโดฮาออกคำสั่งยึดทรัพย์เป็นเพราะ ชีคอับดุลลาห์ บิน อัล-ทานี ทรงออกมาเคลื่อนไหวในหนทางที่ขัดแย้งกับรัฐบาลโดฮาในปัญหาวิกฤตกาตาร์ถูกริยาดและชาติอาหรับคว่ำบาตรตัดความสัมพันธ์

    https://mgronline.com/around/detail/9610000004554
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ข่าวดีสุดๆ “เวสต์แบงก์” ของปาเลสไตน์ กำลังจะมีคลื่นโทรศัพท์ 3G ใช้ครั้งแรก เผยแพร่: 15 ม.ค. 2561 21:36:00 โดย: MGR Online
    561000000475001.jpg

    เอเจนซีส์ – ประชาชนในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์กำลังจะมีโอกาสได้สัมผัสโทรศัพท์สัญญาณ 3G แบบเรียลไทม์ใช้เป็นครั้งแรกหลังบริษัทผู้ให้บริการ 2 บริษัทคือบริษัทวาตานิยา( Wataniya) และบริษัทจอว์วาล(Jawwal)ได้รับไฟเขียวจากอิสราเอล หลังจากรอมานานหลายปีเนื่องจากปัญหาด้านความมั่นคง

    สื่อไทม์สออฟอิสราเอลรายงานวันนี้(15 ม.ค)ว่า บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ได้รับอนุญาตจากอิสราเอลให้สามารถเปิดให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ระบบ 3G ได้เป็นครั้งแรก หลังจากที่ถูกห้ามเป็นเวลาหลายปีเนื่องจากรัฐบาลเทลอาวีฟกลัวในปัญหาความมั่นคง

    และคาดกันว่าประชาชนปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์จะสามารถใช้สัญญาณบรอดแบนด์ 3G ได้เป็นครั้งแรกเร็วสุดภายในสิ้นเดือนนี้จากผู้ให้บริการคือบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์สัญชาติปาเลสไตน์ วาตานิยา( Wataniya) และบริษัทจอว์วาล(Jawwal) อ้างอิงจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลได้อนุมัติระบบสัญญาณความถี่ และการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ

    ทั้งนี้พบว่าความพยายามผลักดันในการทำให้มีการเปิดระบบอินเตอร์เนตความเร็วสูงทางโทรศัพท์ 3G นั้นเกิดขึ้นมานานร่วม 10 ปี หลังจากผู้ให้บริการปาเลสไตน์ใช้พยายามอย่างหนักที่จะขอรับใบอนุญาตจากเทลอาวีฟในขณะที่ในช่วงเวลานั้นระบบ 4G กำลังเริ่มแพร่หลายไปทั่วตะวันออกกลางแล้ว และยังเป็นการสร้างความเสียเปรียบทางธุรกิจให้กับผู้ให้บริการปาเลสไตน์ เพราะบริษัทผู้ให้บริการอิสราเอลได้เสนอสัญญาณทั้งระบบ 3G และ 4G ให้กับลูกค้าในพื้นที่

    โดยเดิร์กแฮม มาราอี(Durgham Maraee)ซีอีโอบริษัทผู้ให้บริการจอว์วาลกล่าวให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สำนักงานใหญ่ของสื่อเอพีในเขตเวสต์แบงก์ว่า “ถึงเวลาแล้ว” และกล่าวต่อว่า “มันใช้เวลานาน นานมากๆ”

    อย่างไรก็ตามสื่อยิวชี้ว่า ทางเทลอาวีฟยังคงประกาศห้ามการส่งสัญญาณ3G ในเขตฉนวนกาซ่าต่อไป ส่งผลทำให้กลุ่มฮามาสที่ปกครองในพื้นที่ยังคงไม่ได้รับการเข้าถึงสัญญาณโทรศัพท์ระบบ 3G

    ซึ่งในการห้ามการให้บริการโทรศัพท์ระบบ 3G ทางเจ้าหน้าที่อิสราเอลได้อ้างไปถึงปัญหาด้านความมั่นคง โดยชี้ว่า สัญญาณบรอดแบนด์อาจทำให้การสื่อสารของสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายนั้นง่ายขึ้นในขณะที่ลดความเสี่ยงต่อการสอดแนมของอิสราเอล

    ด้านผู้บริโภคปาเลสไตน์ได้ให้ความเห็นต่อการเปิดให้สามารถใช้คลื่นโทรศัพท์ระบบ 3G ได้แล้ว โดยไทม์สออฟอิสราเอลได้สัมภาษณ์ อัลลา อาเมารี(Alaa Amouri) นักศึกษาปาเลสไตน์วัย 20 ปี ซึ่งได้กล่าวให้ความเห็นว่า สำหรับประชาชนชาวปาเลสไตน์ทั่วไป จะสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

    อย่างไรก็ตาม สื่อยิวชี้ว่า อาเมารีนั้นมีโทรศัพท์มือถือคลื่อน 4G จากผู้ให้บริการอิสราเอลใช้ก่อนหน้าแล้ว แต่มีปัญหาที่สัญญาณครอบคลุมแค่บางพื้นที่ของเขตเวสต์แบงก์เท่านั้น ซึ่งต่างจากสัญญาณโทรศัพท์บรอดแบนด์ของผู้ให้บริการปาเลสไตน์ที่จะเป็นแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะบนท้องถนนที่พลุกพล่าน นักศึกษาหญิงจากมหาวิทยาลัยเวสต์แบงก์ชี้ ทั้งนี้พบว่า อาเมารีต้องเดินทางระหว่างเยรูซาเลมตะวันออกไปยังมหาวิทยาลัยที่เธอศึกษาผ่านจุดข้ามแดนคาลันดิยา(Qalandiya)ที่อยู่ในการควบคุมของเทลอาวีฟเกือบทุกวัน

    “มัน(สัญญาณ 3G)ช่วยอัพเด็ตข่าวสาร” อัลลา อาเมารีกล่าว และเสริมต่อว่า “เพราะบางครั้งในขณะที่เรากำลังอยู่ในจุดข้ามแดนคาลันดิยา เราพบว่ามันถูกบล็อกโดยที่ไม่รู้สาเหตุ”

    ด้านสำนักงานใหญ่ของบริษัทผู้ให้บริการวาตานิยา พบว่าพนักงานสามารถใช้ระบบ3G ในการทดลอง ซึ่งมีบรรยากาศตื่นเต้นเกิดขึ้น โดยเชื่อว่าการเปิดให้บริการระบบ 3G นี้อาจจะเป็นการทำให้ทางบริษัทมีผลกำไรเป็นครั้งแรกในปี 2018 นับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2009 และบริษัทยังถือเป็นเจ้าที่ 2 ของผู้ให้บริการโทรศัพท์ของปาเลสไตน์

    https://mgronline.com/around/detail/9610000004631
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    1024_9ej5ibi85gbhbhdf9kdg5.jpg

    งานเข้า "ชูวิทย์" อดีตผู้ก่อตั้งอ่างวิคตอเรียซีเคร็ท ดีเอสไอจ่อเรียกสอบ หลังเผยข้อมูลการใช้บริการเด็ก-เรทราคา-เจ้าของกิจการตัวจริง

    เมื่อวันที่ 16 ม.ค.61 พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอเตรียมเรียกตัวนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของผู้ก่อตั้งอาบอบนวด วิคตอเรียซีเคร็ท ในปี 2532 มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ภายหลังนายชูวิทย์ออกมาเปิดเผยขั้นตอนการใช้บริการเด็กในสถานบริการ และเรทราคา รวมทั้งยังระบุว่า น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ที่สื่อมวลชนนำเสนอว่าเป็นเจ้าของกิจการอาบอบนวดนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงนอมินี โดยได้ระบุว่าเจ้าของตัวจริงของวิคตอเรีย ซีเคร็ทคือ เสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ที่ซื้อธุรกิจวิคตอเรีย ซีเคร็ท ต่อจากนายชูวิทย์

    "หลังรับฟังข้อมูลที่ออกอากาศไปเเล้วเห็นว่าเป็นข้อมูลที่น่าจะสามารถนำมาใช้สิบสวนหาเจ้าของและผู้กระทำผิดได้ ส่วนกำหนดในการเข้าให้ข้อมูลยังไม่สามารถระบุวันเวลาได้ แต่คาดว่าจะแจ้งไปยังนายชูวิทย์เร็วๆนี้ เนื่องจากเป็นคดีที่อยูในความสนใจของสังคม จึงต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด"รองอธิบดีดีเอสไอระบุ

    http://www.nationtv.tv/main/content/378596744/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ประวัติปรมาจารย์หยางเฉิงฝู่

    10372003_1669105650019889_3933308555278761741_n5.jpg
    ชื่อเรื่อง: ปรมาจารย์มวยไท่จี๋หยางเฉิงฝู่
    บันทึกโดย: ฉวีซื่อจิ้ง
    หนังสือ: หยางเจียไท่จี๋ เหลี่ยงอ้านอี้เจีย

    บทที่ 1 ผู้กล้าย่อมต้องผ่านการเคี่ยวกรำ (เครื่องของอันล้ำค่าย่อมต้องอาศัยเวลารังสรรค์)

    ปรมาจารย์มวยไท่จี๋ หยางเฉิงฝู่ นามที่ตั้งให้เรียก (จื้อ) คือ เจ้าชิง เกิดในปี 1883 ที่ปักกิ่ง ปู่คือหยางลู่ฉาน ลุงคือหยางปานโหว บิดาคือหยางเจี้ยนโหว ต่างก็เป็นครูมวยไท่จี๋เลื่องชื่อ

    เมื่อเฉิงฝู่กง (กง เป็นคำยกย่อง ในที่นี้อาจารย์หยางเฉิงฝู่เป็นซือกงหรืออาจารย์ปู่ของผู้เขียนบทความ ผู้เขียนจึงเรียกอาจารย์หยางว่า “เฉิงฝู่กง” ด้วยความยกย่อง) ยังเล็กเรียนมวยกับบิดา เจี้ยนโหวกงมีนิสัยอ่อนโยน เมื่อยังเด็กก็เคยผ่านการฝึกฝนอย่างยากลำบาก จึงไม่อาจหักใจบังคับบุตรชายสุดที่รักเฉิงฝู่ให้ฝึกฝนเคี่ยวกรำหนักเกินไปได้ เฉิงฝู่กงทุกวันฝึกฝนวิชา ทั้งชุดมวย กระบี่ ดาบ ทวน ผลักมือ และต่อกรอิสระ แม้จะตามหลักเกณฑ์วิชาที่สืบทอดมาในตระกูล แต่ก็ไม่เคยลงแรงฝึกฝนอย่างจริงจังหนักหน่วงแต่อย่างใด ในปี 1902 เฉิงฝู่กงอายุ 19 ปี ช่วยบิดาสอนมวยอยู่ในบ้านตระกูลหยาง ปี 1912 เฉิงฝู่กงอายุ 29 ปี ใช้สวนสาธารณะจงยางกงหยวน ในปักกิ่งเป็นที่สอนมวย (ปัจจุบันคือสวนสาธารณะจงซาน) ถ่ายทอดและเผยแพร่มวยไท่จี๋ กระบี่ ดาบ ทวน ของตระกูลหยาง แต่เฉิงฝู่กงเพียงสอนแค่ท่ารำชุดมวย หากจะเรียนต้าหลีว์ (ชุดผลักมือเคลื่อนที่) ต่อกรอิสระ กระบี่เกาะติด พลองเกาะติด จะต้องไปเรียนที่ลานฝึกบ้านตระกูลหยาง เจี้ยนโหวกงอยู่บ้านคอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งคอยขบคิดแทนให้อย่างรอบคอบ ด้วยการจัดการอย่างเหมาะสมเช่นนี้ การสอนของเฉิงฝู่กงจึงดำเนินไปอย่างราบรื่นไร้ปัญหาใดๆ

    111812916_15_20170925125316708-326x450.jpg
    อาจารย์หยางเฉิงฝู่วัยหนุ่ม

    ในปี 1917 ก่อนที่ท่านหยางเจี้ยนโหวจะลาโลก ด้วยน้ำตาหลั่งนองใบหน้าชราของท่าน ได้กล่าวตำหนิเฉิงฝู่กงว่า “พี่ชายเจ้า (หยางเส้าโหว) ติดตามลุงของเจ้าเรียนมวย ฝึกฝนอย่างยากลำบาก จนสามารถสร้างชื่อให้ตัวเองแต่วัยหนุ่ม เจ้าเปิดสำนักสอนมวย คือฉันอยู่เบื้องหลังคอยช่วยเหลือค้ำยัน ตอนนี้ฉันจะจากไปแล้ว หากมียอดฝีมือมาขอท้าประลอง ขอเพียงเจ้าพ่ายแพ้ ชื่อเสียงตระกูลหยางเราคงต้องจมดินแล้ว เจ้าไม่ใช้ความพยายาม กงฟูของตระกูลหยางสูญการสืบทอด นี่ถือว่าอกตัญญูอย่างที่สุด ฉันตายตาไม่หลับ!” เฉิงฝู่ได้ยินคำพูดน่าแตกตื่นเหล่านี้ เจ็บปวดถึงภายใน ร้องไห้โขกศีรษะ สาบานจะหมั่นตั้งใจฝึกฝน

    หลังจากเจี้ยนโหวกงลาโลก เฉิงฝู่กงปิดประตูไม่รับแขก ฝึกฝนอย่างหนักหน่วงทั้งวันคืน ในเวลานี้เขาอายุได้ 34 ปีแล้ว เจี้ยนโหวกงมีลูกศิษย์ที่ฐานะดีท่านหนึ่งแต่ละเดือนจะให้เงินแก่เฉิงฝู่กงเป็นค่าเลี้ยงชีพและค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละสามสิบหยวน (เงินต้าหยางสมัยนั้น) เฉิงฝู่กงแต่ละเดือนจะใช้หกหยวนจ่ายเพื่อจ้างชายกำยำแข็งแรงมีกำลังมาเป็น “หุ่นมนุษย์” ซึ่งคนฝึกมวยนั้นมักจะใช้เสาไม้หรือแผ่นหินมาเป็นเป้าตี เพื่อเป็นการทดสอบแรงกำลัง (จิ้นลี่) เรียกว่า “ตีเสา” (ต่าจวง) ตัวอย่างเช่น การฝึกแรงพิงหรือเค่าจิ้นในต้าหลีว์ (ผลักมือก้าวเดือนอย่างหนึ่ง) ผู้อาวุโสในตระกูลหยางก็จะฝึกโดยการพิง (เค่า) ตีไปที่เสาไม้ (เสาเก้าวิหาร) หรือต้นไม้ ในส่วนการฝึกแรงเกาะติดในพลองไม้เทียนขาว ทุกวันก็จะปัดไม้เทียนขาวไปยังต้นไม้ซ้ายและขวากลับไปกลับมา แต่อย่างไรก็ตาม ไม้หญ้าล้วนแต่ไม่มีชีวิต (ไม่ตอบสนอง) มีแค่คนมีชีวิตจึงจะสามารถกระโดด หลบ หรือตีกลับได้ จึงต้องใช้คนมาเป็นเป้าทดสอบจิ้น (แรง) นี่ก็คือการตี “เสามีชีวิต”

    โดยปกติแล้วท่าร่างและการก้าวเท้าในเวลาที่ผลักมือหรือประลองมือ ต่างก็อยู่ในกฏเกณฑ์ของฝ่ายสำนักมวยไท่จี๋ แต่หากครูมวยต่างสำนักมาขอประลอง พวกเขาย่อมไม่ลงมือตามหลักเกณฑ์ของสำนักมวยไท่จี๋ ดังนั้นการตี “เสามีชีวิต” จึงเป็นการเจอกับสถานการณ์ที่แตกต่างหลากหลาย และสามารถรับแรง (เจียจิ้น) ในมุมที่แตกต่างหลากหลายจากแต่ละส่วนของร่างกาย แล้วทำให้เสามนุษย์ถูกตีลอยปลิวออกไป แรงยาว (ฉางจิ้น) ของมวยไท่จี๋ตระกูลหยางนี้ แม้ว่าจะทำให้คนถูกดีดปลิวไปไกล แต่ก็ไม่ได้มุ่งหมายทำร้ายภายในของหุ่นมนุษย์ให้เกิดการบาดเจ็บ ด้วยไม้พลองเทียนขาวลำหนึ่ง หุ่นมนุษย์คนหนึ่ง บวกกับการปิดประตูฝึกฝนอย่างหนักของเฉิงฝู่กงถึงหกปี ผ่านการศึกษาจนรู้แจ้งในหลักเน่ยกงภายในที่สอนโดยเจี้ยนโหวกงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดเน่ยจิ้นของเฉิงฝู่กงก็เคลื่อนไหวได้ราบรื่นสามารถฟาหุ่นมนุษย์ปลิวออกไปนอกเขตหนึ่งจ้าง (3.3 เมตร) ได้อย่างง่ายดาย

    ในใจของเฉิงฝู่กงก็ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย เพราะจะอย่างไรหุ่นมนุษย์ก็ยังไม่ใช่ครูมวย เวลานั้นอู๋เจี้ยนเฉวียน (ปรมาจารย์มวยไท่จี๋ตระกูลอู๋) สอนมวยอยู่ที่เทียนถาน (หอสักการะฟ้า) ในปักกิ่ง มีลูกศิษย์จำนวนมาก ถือเป็นครูมวยเลื่องชื่อของมวยไท่จี๋ในเวลานั้น เฉิงฝู่กงจึงไปยังเทียนถานเพื่อไปขอทดสอบสัมผัสมือกับอู๋ พออู๋รู้ว่าเฉิงฝู่กงมาเยี่ยม ก็รีบออกไปยังห้องน้ำชาต้อนรับ กล่าวขึ้นว่า “ไม่ได้เจอท่านอาสามเสียนาน มีอะไรชี้แนะ?” (โดยศักดิ์ลำดับแล้ว อ.เฉิงฝู่ถือเป็นอาจารย์อาของ อ.อู๋เจี้ยนเฉวียน เพราะบิดาของ อ.อู๋เจี้ยนเฉวียนถือเป็นศิษย์อาจารย์หยางปานโหว) เฉิงฝู่กงจึงตอบว่า “ไม่มีอะไรมาก แค่อยากมาสัมผัสมือทดสอบเล็กน้อย” พอทั้งสองแตะมือกัน เฉิงฝู่กงก็ตามท่าเคลื่อนวงเข้าไป ใช้ท่ายกมือขึ้นกระบวน (ถีโส่วซ่างซื่อ) ของมวยไท่จี๋ตระกูลหยางแบบเก่า หลังมือแตะถึงส่วนท้องของอู๋ ยกขึ้นเบาๆ สามครั้ง อู๋ก็กระโดดขึ้นตามท่าถึงสามครา ตระกูลหยางกับอู๋มีความสัมพันธ์ดุจครอบครัว และยังมีลูกศิษย์ในห้องดูอยู่ ดังนั้นเฉิงฝู่กงจึงแตะถึงก็หยุด ไม่ได้ฟาจิ้นออกไป อู๋นั้นมีกงฟูการสะเทินอันอ่อนหยุ่นเลิศล้ำ หลายปีก่อนเฉิงฝู่กงกับอู๋ผลักมือกัน ปกติไม่เคยสามารถแนบติดสัมผัสอู๋ไว้ได้ ยิ่งไม่สามารถฟาออกไป แต่ครั้งนี้เพิ่งแตะมือก็สามารถแตะติดอู๋ไว้ได้ เฉิงฝู่กงก็รู้ว่ากงฟูของตัวเองนั้นก้าวหน้าไปมาก ทุกอย่างถือว่าแตกต่างกับเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง จึงได้มั่นใจเปิดประตูรับศิษย์ ในเวลานี้เฉิงฝู่กงมีอายุ 40 ปีแล้ว

    111991974_4_2017092708140614-450x345.jpg
    การใช้ท่า “ยกมือขึ้นกระบวน” (ถีโส่วซ่างซื่อ) ของ อาจารย์หยางเฉิงฝู่

    ในปักกิ่งนั้นมีครูมวยมากมาย เมื่อได้ยินว่าท่านอาสามตระกูลหยางเปิดประตูลงเขา (สำนวนประมาณว่า เปิดสำนักออกสู่โลกอีกครั้ง) ต่างก็มาเยี่ยมเยียน (ลองวิชา) ไม่ขาดสาย เฉิงฝู่กงก็ไม่เคยปฏิเสธ ไม่มีคู่ต่อสู้คนใดที่ไม่กระโดดปลิวออกนอกรัศมีหนึ่งจ้าง (3.3 เมตร) อย่างง่ายดาย ยังมีบางคนถูกเฉิงฝู่กงตีทะยานลอยออกไปถึงสองสามจ้าง (6.6 – 10 เมตร) ปลิวออกไปถึงนอกประตูบ้านตระกูลหยาง ผู้คนที่ผ่านไปมามุงดูต่างก็รู้สึกตื่นเต้นอัศจรรย์ ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงของเฉิงฝู่กงจึงสะเทือนเลือนลั่น ในผู้ที่มาทดสอบวิชานั้นมีเพียงสองคนที่ไม่อาจแยกแยะเหลื่อมล้ำต่ำสูงกับเฉิงฝู่กงได้ หนึ่งคือคนอำเภอเซียงเหอ มลฑลเหอเป่ย จางเช่อ (1859-1935) ชื่อที่ตั้งให้เรียกคือซิ่วหลิน เป็นยอดฝีมือมวยทงปี้ ผู้คนเรียกว่า “ปราชญ์แห่งแขน” (มวยทงปี้ คือมวยที่เน้นใช้แขนและหมัด) ฉายาคือ “จางเปียใหญ่” (สมัยราชวงค์ชิงไว้เปีย) หลังจากการปฏิวัติซินไห่ (ปฏิวัติล้มราชวงค์ชิง) จางก็ยังคงไว้เปียอยู่ ในเวลาประลองกับคนอื่น พอเขาสะบัดหัว เปียสะบัดผ่านตาอีกฝ่าย อีกฝ่ายพอกระพริบตา ก็ถูกตีออกไปแล้ว ส่วนอีกท่านหนึ่งนั้นเป็นยอดฝีมือมวยสิ่งอี้และปากว้า ซุนฝูฉวน (1861-1932) ชื่อที่ตั้งให้เรียกคือลู่ถัง (สรุปง่ายๆ คือซุนลู่ถังนั่นแหละ) คนอำเภอหวานมลฑลเหอเป่ย คุณซุนนั้นร่างเล็กและคล่องแคล่ว มีชื่อเสียงว่าเป็น “วานรคล่อง” เมื่อครั้งที่หลังจากลู่ฉานกงประลองกับต่งไห่ชวน (ปรมาจารย์มวยปากว้า) ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน เฉิงฝู่กงก็เช่นกันหลังจากประลองแล้ว ก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับจางซิ่วหลินและซุนลู่ถัง สามท่านนี้ถือได้ว่าเป็นผู้นำของวงการมวยในปักกิ่งในเวลานั้น

    บทที่ 2 พลังฝีมือเลิศล้ำ

    มีคนฝึกรำชุดมวยไท่จี๋เพื่อสุขภาพสักชุดแล้ว คิดว่าขอแต่อดทนฝึกฝน พวกเขาจะสามารถเป็นยอดฝีมือได้ เรื่องนี้ไม่จริงเลย ตระกูลหยางมีชุดฝึกอันเป็นวิธีลับอยู่ จ้านจวงก็ยังต้องประสานกับหลักหัวใจของเน่ยกง อันมี อู๋จี๋จวง ซวีปู้จวง ตู๋ลี่จวง ตีจวง (เสา) ก็ต้องใช้ต้นไม้ที่มีแรงดีดสะท้อนมาฝึกจิ้น ตามวิธีจิ้นของ อ้าน จี่ เค่า โจ่ว ต่างๆ และยังต้องใช้พลองไม้เทียนขาวปัดไปยังต้นไม้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อพัฒนาจิ้น พื้นฐานจวงกงของเฉิงฝู่กงนั้นยอดเยี่ยม ท่าไก่ทองยืนเดี่ยวก็มั่นคงปานเขาไท่ซาน ผลักไม่ล้ม ครั้งที่นำพาลูกศิษย์ไปยังสวนสาธารณะของฝรั่งเศสในเซี่ยงไฮ้ (ปัจจุบันคือสวนฟู่ซิง) ต้นไม้ของฝรั่งเศสในสวนนั้น ลำต้นทั้งแข็งทั้งหนา เวลานั้นเป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้แห้งเหลือง เฉิงฝู่กงเดินไปยังต้นไม้นั้นใช้เค่าจิ้ง (แรงพิง) ใบไม้ก็ทะยอยร่วงหล่น ผู้มาดูถึงกับพูดไม่ออก นับจากเฉิงฝู่กงฝึกกับเสามีชีวิต ไม่ว่าที่ไหนในร่างกายล้วนแต่สามารถตีคนออกได้ อาจารย์จิงหัวเคยตามเฉิงฝู่กงออกไปดื่มชายามเช้า บนถนนมีคนตัวใหญ่เดินสวนมา เดินเบียดเฉิงฝู่กงออก เฉิงฝู่กงแค่รู้สึกว่าต้นขาตัวเองเพิ่งสัมผัสกับอีกฝ่าย คนผู้นั้นก็กระโดดลอยออกไปนอกหนึ่งจ้าง (3.3 เมตร) ทันที

    เวลาที่เฉิงฝู่กงผลักมือนั้น จะไม่ใช้วิธีฉินหนาหรือการบิดล็อคอันมีรูป แต่ใช้อี้ชี่อันไร้รูป ยึดกุมเส้นทางจิ้นของอีกฝ่าย ตะโกนหนึ่งเสียงก็ทำให้คู่ต่อสู้ลอยปลิวออกไป ความร้ายกาจของการฟาจิ้นเช่นนี้ไม่มีใครเปรียบติด เฉิงฝู่กงนั้นนิยมใช้ตันเถียนเน่ยจิ้ง ยามฟาจิ้งต้องออกเสียง แต่ไม่ได้ใช้เสียง “เฮิงฮ่า” สองคำนี้ แต่ออกเสียงเอาตามใจปากว่า “ห่าว” (ดี) หรือ “ชวี่ป่า” (ไปซะ) คู่ต่อสู้ก็ถูกโยนออกไปแล้ว เฉิงฝู่กงนั้นแม้จะอ้วน แต่ท่าร่าง, ท่าเท้าเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว มีครั้งหนึ่ง เฉิงฝู่กงกับอาจารย์ลุงเฉินเวยหมิงผลักมือกันอยู่ชั้นบน เฉิงฝู่กงฟาจิ้นออกมาฉับพลัน อาจารย์ลุงเวยหมิงเหมือนลูกธนูหลุดออกจากแหล่ง (สำนวน น. นพรัตน์มากๆ) บินออกมาจากหน้าต่างห้อง เหล่าลูกศิษย์ต่างแตกตื่นตกใจ เพิ่งเห็นเฉิงฝู่กงก้าวเท่าพุ่งทะยานไปข้างหน้า ก็คว้าดึงข้อเท้าของอาจารย์ลุงเวยหมิงไว้ได้อย่างง่ายดาย ตะโกนเสียงดังหนึ่งเสียง “กลับมา” สองเท้าของอาจารย์ลุงก็วางลงที่พื้น ยืนอยู่ที่หน้าหน้าต่าง ตกใจหน้าถอดสี อาจารย์ลุงเวยหมิงพูดขึ้นมาว่า “มือของอาจารย์นั้นหนักหน่วง (หมายถึงลงมือหนักหน่วงไป) ศิษย์รับไม่ไหว ขอเบาลงอีกนิดได้หรือไม่?” เฉิงฝู่กงยืดสองนิ้วชี้ออก แนบสัมผัสกับข้อมือ, ศอกของอาจารย์ลุงเวยหมิง นิ้วของเฉิงฝู่กงเพียงแค่จมลง อาจารย์ลุงเหวยหมิงก็ต้องกระโดดถอยไปไม่หยุด เมื่อครั้งที่เฉิงฝู่กงแสดงการผลักมือกับอาจารย์ลุงเจิ้นหมิง (หยางเจิ้นหมิง หรือหยางโส่วจง ลูกชายคนโตของหยางเฉิงฝู่) ที่สถาบัน YMCA แห่งสะพานแปดเซียนในเซี่ยงไฮ้ อาจารย์ลุงเจิ้นหมิงฟาอ้านจิ้นออกฉับพลัน เฉิงฝู่กงแขนขวารับจิ้นไว้ มือซ้ายตบไปยังกลางฝ่ามือขวา (ท่าจี่) ตะโกนขึ้น “หาเรื่องถูกตี!” อาจารย์ลุงเจิ้นหมิงก็ลอยทะยานอากาศออกไป อาจารย์จิงหัวกับศิษย์พี่จางอี้ยืนอยู่ห่างออกไปสองจ้าง (6.6 เมตร) ต้องยกมือยืดออกมาป้องกันตัว อาจารย์ลุงเจิ้นหมิงปลิวมาถูกอาจารย์จิงหัวและจางอี้ ทั้งสามคนต่างก็ล้มลงยังพรมที่พื้นด้วยกัน

    11402722_978798542131233_6845366773793225271_n-370x450.jpg
    การฝึกต้าหลีว์

    เมื่อครั้งที่เฉิงฝู่กงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่สถาบันยุทธ์แห่งชาติเมืองหังโจว มีครูมวยเส้าหลินคนหนึ่งแอบอยู่ด้านหลังมุมทางเดิน แล้วจู่โจมเฉิงฝู่กงอย่างฉับพลัน ตอนนั้นเป็นเดือนฤดูหนาว เฉิงฝู่กงสองมือคว้าเอาด้านในของเสื้อแขนยาวของอีกฝ่ายไว้ ส่วนแขนซุกไปกับแขนเสื้อหนึ่งดึงเข้าหนึ่งส่งออกเบาๆ ครูมวยผู้นั้นก็กระโดดออกไปนอกหนึ่งจ้าง (3.3 เมตร) รีบก้มหัวขอโทษทันที

    เฉิงฝู่กงชอบใช้กระบี่ กระบี่หลงเฉวียนของตระกูลหยางนั้น รู้กันดีว่าเป็นกระบี่แบบ “ครึ่งเปิด” นั่นก็คือส่วนคมกระบี่ไม่เปิดคมแต่ปลายกระบี่นั้นมีการเปิดคม ความแหลมคมนั้นไร้ที่เปรียบ สามารถแทงทะลุผ่านเหรียญทองแดงได้ วิชากระบี่ของเฉิงฝู่กงนั้นเลิศล้ำ เวลาประลองจึงไม่ทำร้ายคน เพียงใช้กระบี่ไม้ไผ่แต้มไปที่ชีพจรข้อมือของอีกฝ่าย ทำให้อีกฝ่ายยอมวางอาวุธ วิชาดาบ, วิชาทวนของจางซิ่วหลิน (ครูมวยทงปี้ที่มีทักษะเทียบเคียงหยางเฉิงฝู่ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้) มีชื่อเสียงมายาวนาน ด้ามทวนที่ใช้นั้นหนาเท่าแขนเด็ก ครูมวยทั่วไปสะบัดพลองไม้เทียนขาว มักจะใช้การจี่ขึ้นและไฉ่ลงล่าง แต่จางซิ่วหลินใช้สองแขนโอบพลองใหญ่ เพียงใช้จิ้นของเอวสะบัดตีซ้ายขวา ผู้คนก็ไม่กล้าต่อกรด้วย จางกง (จางซิ่วหลิน) กับเฉิงฝู่กงสองคนปิดประตูประลองยุทธ จางกงใช้พลองใหญ่ เฉิงฝู่กงใช้กระบี่ไม้ไผ่ จางออกท่าระดับกลางด้วยวิชาทวน มีอานุภาพปานพลิกน้ำคว่ำทะเล เฉิงฝู่กงตะโกนบอก “พี่ใหญ่ยืนให้มั่น” แล้วเบี่ยงตัวก้าวเท้า กระบี่ก็ตามถึงตัว แต้มไปยังข้อมือของจางกง ทวนพลองก็หลุดตกพื้น เฉิงฝู่กงกล่าวอย่างถ่อมตัว “พี่ใหญ่สูงอายุ ท่าร่างมือเท้าช้าลง ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถเข้าใกล้ได้” อาจารย์จิงหัวประลองกระบี่กับเฉิงฝู่กง ข้อมือล้วนถูกแต้มถูกทุกครั้ง เวลาที่เฉิงฝู่กงสอนกระบี่ให้อาจารย์จิงหัว จะนำผิวส้มโอจำนวนหนึ่งแขวนไว้กับขื่อบ้านสูงต่ำแตกต่างแง่มุม ให้อาจารย์จิงหัวมือกุมกระบี่ เท้าย่ำเก้าวิหาร เดินหน้าถอยหลังผ่าน สายตาส่ายมองผิวส้มโอแต่ละชิ้น ทันที่ที่สายตาถึงกายก็ถึง กายถึงกระบี่ถึง แทงทะลุผิวส้มโอ ฝึกจนร้อยลงมือร้อยถูกไม่มีพลาด ค่อยเปลี่ยนจากผิวส้มโอเป็นส้ม (ส้มลูกเล็ก) ท้ายสุดค่อยเปลี่ยนเป็นส้มจี๊ดขนาดเท่าเหรียญทองแดง หากสามารถร้อยลงมือร้อยถูกไม่มีพลาดก็จะสามารถแต้มชีพจรข้อมือของคนอื่นได้ปานหยิบของออกจากย่าม ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ นอกจากการฝึกเดี่ยวเช่นนี้ ยังต้องฝึกกระบี่เกาะติดเข้าคู่ ประลองกระบี่ ฝึกเช่นนี้เป็นเวลานาน ผ่านวันคืนยาวนานจึงจะสำเร็จ

    วิชาทวนไท่จี๋ตระกูลหยางนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือ เนื่องจากปานโหวกงมีนิสัยใจร้อนความแข็งแกร่งก็ดุดัน จึงถูกมารดาสั่งให้ตัดหัวทวนออกเพื่อจะได้ไม่ทำร้ายผู้คน นี่คือเหตุผลที่ตระกูลหยางใช้พลองไม้เทียนขาวไร้หัวทวนในการฝึกและการใช้ ปานโหวกงเมื่อที่ประลองต่อสู้กับศัตรูจะใช้ทวนเหล็กหนัก 37 ชั่ง (19 กิโลกรัม…เขร้!!!) แต่ถูกปานโหวกงเมื่อที่ฝึกสะบัดพลองสะบัดแตกขาดเป็นเสี่ยง ไท่จี๋เน่ยจิ้นของท่านนั้น ช่างแข็งแกร่งเลิศล้ำน่าตกใจ! เฉิงฝู่กงนั้นใช้พลองไม้เทียนขาว หนาเท่าแก้วเหล้า เวลาฝึกเกาะติดกับอีกฝ่าย พลองทั้งสองแนบติด เกาะติดกันไปมา ไม่มีแม้แต่เสียงกระทบสักนิด (หมายถึงเกาะติดดีมาก) มีแค่ได้ยินเฉิงฝู่กงตะโกนหนึ่งเสียง อีกฝ่ายก็ทะยานกระโดดออกไปแล้ว ลูกศิษย์เฉิงฝู่กงอู่ฮุ่ยชวน ร่างกายสูงใหญ่หนักสองร้อยกว่าชั่ง (ราวร้อยกว่ากิโลกรัม) อาจารย์จิงหัวเคยได้ดูเฉิงฝู่กงฝึกฝนทวน (พลอง) เกาะติดกับอาจารย์ลุงฮุ่ยชวน ทวนพลองเพิ่งสัมผัส เฉิงฝู่กงออกเสียงฟาจิ้น อาจารย์ลุงอู่ (ฮุ่ยชวน) ก็ถูกทำให้ลอยทะยานออกไปไกลถึงสามจ้าง (สิบเมตร) จากโถงใหญ่ปลิวออกไปถึงนอกลาน ทำให้ฉากกั้นห้องโถงกับลานสวนซึ่งทำจากไม้หลิวถูกชนแตกเป็นเสี่ยงๆ อาจารย์ลุงอู่ฮุ่ยชวนเมื่อที่ล้มลงพื้น ทวนพลองยังไม่หลุดมือด้วยซ้ำ (หมายถึงพลังที่ส่งไปแยบยลมาก ไม่ได้แค่ตีที่ทวนพลอง แต่ส่งคนทั้งตัวลอยออกไป)

    26220177_1815088428562436_4017703381360215565_n.jpg
    การฝึกพลองเกาะติดตระกูลหยาง

    เมื่อที่ฉันยังเด็กได้ยินอาจารย์จิงหัวเล่าเรื่องทักษะวิชาทวนของเฉิงฝู่กงเช่นนี้ แอบสงสัยในใจว่าจะมีคนที่มีพลังล้ำเลิศได้เพียงนี้จริงหรือ อาจารย์จะต้องโอ้อวดเกินจริงแน่ๆ จนถึงยุค 80 ฉันได้รู้จักลูกศิษย์ปรมาจารย์อู๋เจี้ยนเฉวียน (ปรมาจารย์มวยไท่จี๋ตระกูลอู๋) เจียงฉางเฟิงผู้เฒ่าที่สวนสาธารณะฟู่ชิงในเซี่ยงไฮ้ ท่านเจียงเองเล่าว่า ปีนั้นเคยเห็นเฉิงฝู่กงกับอู่ฮุ่ยชวนแสดงทวนไท่จี๋เกาะติด หยางกงตะโกนหนึ่งเสียง ก็โยนอู่ออกไปหลายจ้าง หลังเฉิงฝู่กงลาจากโลกไป ยังไม่เคยได้พบเห็นทักษะเช่นนี้อีก สำนักตระกูลอู๋นั้นเน้นหนักที่อ่อนหยุ่นสะเทิน ไม่มีใครมีจิ้นที่ดุดันเช่นนี้ ผู้เฒ่าเจียงไม่ใช่ศิษย์ตระกูลหยาง ไม่มีเหตุผลที่ต้องมาประจบยกย่องหยางกง ดังนั้นฉันจึงเชื่ออย่างยิ่งว่าที่อาจารย์จิงหัวเล่าไว้ในปีนั้นเป็นจริงไม่มีแปลกปลอม วิชาทวนของเฉิงฝู่กงนั้น ไม่เพียงแต่เลื่องลือในฝ่ายสำนักมวยไท่จี๋ แต่ยังได้รับการยอมรับอย่างสูงจากครูมวยสำนักอื่น ครูมวยชาเฉวียนเลื่องชื่อหยางหงซิว, หม่าจินเปียวสร้างวิชา “พลองแต้มสิบสองวิถี” ก็ได้รับอิทธิพลจากทักษะวิชาทวนสี่เกาะติด, ทวนสี่ต่อกรของเฉิงฝู่กง

    เฉิงฝู่กงนั้นแม้ว่าจะได้รับสืบทอดวิชาตระกูลหยางทั้งหมัดมวย กระบี่ ดาบ ทวน ต้าหลีว์ สานโส่ว (ต่อกรอิสระ) ดาบเข้าคู่ กระบี่เกาะติด ทวนเกาะติด และหลักวิชาเน่ยกง วิชานั้นเหนือล้ำ แต่เนื่องจากวัยเด็กไม่ใส่ใจฝึกฝน วิชาที่เชี่ยวชาญของเจี้ยนโหวกงคือดีดอาวุธลับกับวิชาจี้สกัดจุดจึงไม่มีผู้สืบทอด ดังนั้นหากเปรียบเทียบกับปานโหวกง, เจี้ยนโหวกงแล้วถือว่ายังไม่อาจเทียบได้

    บทที่ 3 คุณธรรมยุทธ์ให้ผู้คนนับถือ

    ขงจื้อกล่าวไว้ว่า “ผู้ที่เต็มไปด้วยคำพูดสวยหรูประดิษฐ์ประดอย ย่อมห่างไกลจากเมตตาธรรม” “ผู้ที่แน่วแน่ มั่นคง เรียบง่าย พูดแต่น้อย จึงจะเข้าใกล้เมตตาธรรม” เฉิงฝู่กงเป็นคนตรงและสัตย์ซื่อ ไม่ชอบกล่าววาจา เวลาสอนมวย อาศัยร่างกายมาแสดง ไม่พูดมาก เฉิงฝู่กงชั่วชีวิตไม่เคยวิจารณ์ความสูงต่ำของสำนักวิชาอื่น ทำให้เหล่าลูกศิษย์ของท่านก็ไม่เคยวิจารณ์วิชาสำนักอื่นว่าอ่อนด้อยแต่อย่างใด หากมีใครบอกว่าโหมวโหม่ว (เป็นคำแทนบุคคลแบบไม่ระบุชื่อ หมายถึงใครซักคน) ฝีมือใช้ไม่ได้ เฉิงฝู่กงจะบอกว่า “ฝึกมวยไม่ง่าย เขาฝึกได้ถึงขั้นนี้ ก็นับว่ายากแล้ว” นี่คือคุณธรรมในวาจา (ของเฉิงฝู่กง)

    ตระกูลหยางมีหลักการที่ว่า “ลงมือต้องเห็นสีแดง (เลือด)” นี่คือใช้แรงยาวทำให้อีกฝ่ายถูกดีด (ถาน) ออกไปนอกหนึ่งจ้าง (3.3 เมตร) ไม่ใช่ใช้แรงขาดฉับพลัน (เหลิ่งต้วนจิ้น) ทำให้อีกฝ่ายอวัยวะภายในบาดเจ็บ บรรพบุรุษตระกูลหยางนั้นสอนมวยในจวนอ๋อง เมื่อท่านอ๋องต้องการฝึกผลักมือนั้น ลู่ฉานกงต้องคุกเข่าโขกหัวคำนับเพื่อแสดงความเคารพก่อน กราบเรียนว่าผลักมือตระกูลหยางนั้นต้องมีการฟาจิ้น คนถูกฟานั้นจะกระโดดปลิวไปไกล แต่ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บภายใน เฉิงฝู่นั้นเน่ยจิ้นเต็มเปี่ยม บางทีก็ยากจะที่จะห้ามทำให้คนไม่บาดเจ็บโดยไม่ตั้งใจได้ มีครั้งหนึ่่ง อาจารย์เฉิงฝู่อยู่ที่อู่ฮั่นประลองกระบี่กับคนอื่น ใช้กระบี่ไม้ไผ่แต้มข้อมืออีกฝ่าย คิดไม่ถึงอีกฝ่ายกระบี่หลุดแขนหัก อาจารย์เฉิงฝู่รู้สึกเสียใจไม่หาย ดังนั้นอาจารย์เฉิงฝู่จึงมักเก็บมือทั้งคู่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ จะได้ไม่ลงมือโดยง่าย นี่ก็คือคุณธรรมของ (ฝี)มือ

    เฉิงฝู่กงให้ความเคารพต่อค่ายสำนักอื่นอย่างมาก ปี 1928 ประธานสถาบันยุทธ์แห่งชาติหนานจิงชื่อจางจือเจียงเชิญเฉิงฝู่กงเป็นหัวหน้าฝ่ายมวยไท่จี๋ (ประจำสถาบันยุทธ์) และเชิญลูกศิษย์เอกของเฉิงฝู่กงหลายท่านมาดำรงตำแหน่งอาจารย์ผู้สอน เนื่องจากเฉิงฝู่กงมีสำนักใหญ่โตและมีลูกศิษย์มากในปักกิ่ง จึงต้องอาศัยเวลาเตรียมตัวเตรียมการช่วงหนึ่งถึงจะพร้อมเดินทางไปรับงานนี้ รองประธานหลี่จิ้งหลินเห็นเฉิงฝู่กงชักช้าไม่สามารถมาดำรงตำแหน่งตามเวลา จึงเชิญซุนลู่ถังมาดำรงตำแหน่งแทน คุณซุนไม่รู้ว่าคุณจางเคยเชิญเฉิงฝู่กงมาก่อน จึงเปลี่ยนชื่อจากฝ่ายไท่จี๋เป็นฝ่ายบู๊ตึ้ง (อู่ตัง) สอนมวยสิ่งอี้ ปากว้า ไท่จี๋ สามแขนง และนำลูกศิษย์มาดำรงตำแหน่งอาจารย์สอน เฉิงฝู่กงไม่รู้เหตุการณ์ นำพาเหล่าลูกศิษย์มาถึงหนานจิง จางจือเจียงจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ผ่านสุราคารวะสามรอบ จางจือเจียงจึงกล่าวขึ้นว่า: “สถาบันยุทธ์ไม่สามารถมีหัวหน้าฝ่ายบู๊ตึ้งสองคนได้ เป็นไปได้หรือไม่จะให้คุณหยางกับคุณซุนประลองกันสักรอบ ผู้ชนะอยู่ ผู้แพ้จากไป” เฉิงฝู๋กงกล่าวอย่างสงบว่า: “พี่รองซุนคือพี่บุญธรรมของฉัน สมควรให้เขาเป็นหัวหน้าฝ่าย ไม่ต้องประลองหรอก แต่ในเมื่อตำแหน่งอาจารย์สอนไม่มีตำแหน่งว่าง เหล่าลูกศิษย์ของฉันไม่มีตำแหน่งให้บรรจุ พวกเราต้องขอลาจากไป ขอท่านประธานจางโปรดให้อภัยด้วย” หลังจากนั้น เฉิงฝู่กงกล่าวกับเหล่าลูกศิษย์ว่า “ฉันกับพี่รองซุนความสัมพันธ์ดีปานพี่น้อง หากปิดประตูประลองกันนั่นถือว่าปกติ ทำไมจะต้องเพื่อผลประโยชน์เล็กน้อยประลองกันต่อหน้าสาธารณะชนด้วย? คุณจางไฉนกล้าเสนอเรื่องเช่นนี้!” เมื่อเฉิงฝู่กงถึงเซี่ยงไฮ้แล้ว จางจือเจียงรู้ตัวว่าทำผิดพลาดไป จึงแนะนำเฉิงฝู่กงให้เป็นที่ปรึกษาของสถาบันยุทธ์แห่งชาติเจ้อเจียง ซุนลู่ถังภายหลังรู้เรื่องนี้ จึงแนะนำอาจารย์มวยสิ่งอี้เกาเจิ้นตงมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบู๊ตึ้งในสถาบันยุทธ์ ตัวเองลาออกไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาในสถาบันยุทธ์แห่งชาติเจียงซู เพื่อแสดงว่าตนเองเพียงมีตำแหน่งเท่าเทียมกับเฉิงฝู่กง (คือไม่ยอมดำรงตำแหน่งสูงกว่า) จากเรื่องนี้จะสามารถเห็นถึงจรรยาอันสูงส่งและงดงามของผู้อาวุโสทั้งสองท่าน

    11411830_978796608798093_6632339216445843782_o-450x253.jpg
    หยางเฉิงฝู่ (แถวหน้าซ้ายสุด) นั่งคู่กับซุนลู่ถัง

    เมื่อครั้งที่เฉิงฝู่กงไปถึงเซี่ยงไฮ้ อู๋เจี้ยนเฉวียนนั้นสอนมวยอยู่ที่สมาคมจิงอู่อยู่แล้ว ได้นำเอาแฮม รังนก หูฉลาม สุราเลื่องชื่อต่างๆ มาเป็นของขวัญต้อนรับเฉิงฝู่กง คุณอู๋กล่าวว่า “ท่านอาสามสบายดี? พวกเราสกุลอู๋พ่อลูก อยู่ฝึกมวยในบ้านตระกูลหยาง จึงได้มีวิชาเลี้ยงชีพอยู่ถึงทุกวันนี้ บุญคุณของบ้านหยาง จดจำไว้ไม่เคยลืมเลือน” เฉิงฝู่กงกล่าวว่า “หยางกับอู๋ถือเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังมีแบ่งแยกอีกหรือ? ลูกศิษย์ที่ท่านสอนนั้น ฉันจะไม่รับไว้แน่นอน วางใจได้” ภายหลังเมื่อเฉิงฝู่กงสอนมวยที่เซี่ยงไฮ้ หากมีลูกศิษย์สำนักตระกูลอู๋อยากเปลี่ยนย้ายค่ายสำนักเข้าตระกูลหยางเรียนมวย เฉิงฝู่กงก็จะเลี่ยงปฏิเสธไม่รับทั้งสิ้น และยังอธิบายอย่างกระจ่างชัด ทั้งมวยตระกูลหยางและอู๋สองตระกูลแม้ดูแตกต่างกันบ้าง แต่หลักการและวิธีก็มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน ลูกศิษย์ของจางซิ่วหลินคือจางจั้วหลิน ลูกศิษย์ซุนลู่ถังคือเฉินเวยหมิงต่างก็กราบเฉิงฝู่กงเป็นอาจารย์เรียนมวยไท่จี๋ แต่นั่นก็เพราะได้รับคำแนะนำมาจากอาจารย์ของพวกเขา ไม่เช่นนั้นแล้วเฉิงฝู่กงย่อมไม่รับไว้ ดังนี้ เฉิงฝู่กงกับค่ายสำนักมวยอื่นๆ ทั้งภายในภายนอก จึงสามารถสมัครสมานกลมเกลียว อยู่ร่วมกันอย่างสันติ คุณธรรมยุทธ์อันสูงส่งของเฉิงฝู่กงนี้ จึงเป็นที่นับถือของผู้คนอย่างยิ่ง

    บทที่ 4 ขี่กระเรียนคืนปัจจิม

    ในปี 1936 เมื่อวิชาฝีมือของเฉิงฝู่กงบรรลุถึงจุดสูงสุด ก็วางมือคืนปัจจิมทิศไม่กลับ (หมายถึงเสียชีวิต) ปีนั้นอายุ 53 ปี มีการคาดเดาและข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้

    มีคนคาดกันว่า เพราะเฉิงฝู่กงฟาจิ้นรุนแรงเกินไป ทำร้ายชี่ภายใน ท่านอาจารย์จิงหัวอธิบายว่า “ไม่มีเหตุผลเช่นนี้! แรงดีดสะท้อน (ถานหวงจิ้น) ของตระกูลหยางนั้น ปล่อยยาวตีไปไกล แต่ก็เบาคลายอย่างที่สุดแยบคายอย่างที่สุด ไม่ใช้กำลังแม้แต่น้อย ท่านลู่ฉาน ท่านเจี้ยนโหวนั้นก็ล้วนแต่ฟาจิ้นที่รุนแรง แต่ก็ยังอายุยืนยาว ฉันตอนนี้อายุ 80 แล้ว ก็ยังฟาคนออกไปเกินจ้าง (3.3 เมตร) โดยไม่ต้องใช้กำลังสักนิดได้อยู่”

    ยังมีคนกล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากการหลงไหลเสน่ห์สตรี (หมายถึงมีเซ็กส์มาก) อาจารย์จิงหัวกล่าวว่า “เฉิงฝู่กงนั้นสัตย์ซื่อถือมั่น ข้างกายไม่มีสตรีที่สอง กับโหวฮูหยินนั้นมีความรักสัมพันธ์กันอย่างดี มีความรักมั่นอันลึกซึ้ง หลังจากเฉิงฝู่กงมาถึงฮู่ (ชื่อย่อของเซี่ยงไฮ้) มีทั้งภรรยาบ้านเศรษฐี สาวน้อย ต่างก็มาเรียนมวย เฉิงฝู่กงก็จะวางระยะห่างอย่างชัดแจ้ง ฉันนั้นเมื่ออยู่เป็นศิษย์ที่บ้านหยาง ตลอดเวลาติดตามข้างซ้ายขวาเฉิงฝู่กง รู้ดีว่าอาจารย์นั้นเก็บรักษาตัวปานหยก ดังนั้นอย่าได้ฟังคำนินทาว่าร้ายจากคนจิตใจคับแคบเหล่านี้

    13417560_1069179476460909_3091096977073853628_n-450x348.jpg
    อาจารย์หยางเฉิงฝู่ในช่วงบั้นปลาย ข้างซ้ายคือลูกชายหยางโส่วจง

    อาจารย์จิงหัวนั้นรอบรู้ทั้งการแพทย์จีนและการแพทย์ตะวันตก เชื่อว่าที่เฉิงฝู่กงโชคร้ายด่วนเสียชีวิต มาจากการกินดื่มไม่หยุด เฉิงฝู่กงในวัยหนุ่ม สะบัดพลองไม้เทียนขาวซ้ายขวาข้างละสองร้อยครั้ง (คุณพระ!!!) ปัดพลองกับต้นไม้ซ้ายขวาข้างละสองร้อยครั้ง ยืนจ้านจวงนานสามก้านธูปหมดดอก ฝึกมวยยิ่งหนักหน่วง การกินยิ่งมาก ทุกมื้อต้องกินหมั่นโถวของเกาจวง (น่าจะหมายถึงหมั่นโถวจากหมู่บ้านเกา) ถึงสามสิบลูก ขาหมู 1 ขา เป็ดไก่หนึ่งตัว อาจารย์จิงหัวเมื่อไปยังบ้านหยางครั้งแรก เห็นเฉิงฝู่กงกินปานหมาป่ากลืนปานพยัคฆ์ ราวกับขุนพลตี (ฆ่า) พยัคฆ์ อู่ชง (บู๊สง) ในเรื่อง “ซ้องกั๋ง” อย่างนั้น เป็นที่น่าตกตะลึงมาก แต่ผ่านเวลานานวันก็คุ้นกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่รู้สึกว่าแปลกประหลาดแต่อย่างใด หลังเฉิงฝู่กงสร้างชื่อแล้ว ไม่ได้ฝึกฝนหนักเช่นเดิม พลังงานไม่มีที่ใช้ แต่ระดับการกินกลับไม่ได้ลดลง น้ำหนักจึงเพิ่มมากถึง 288 ชั่ง (150 กิโลกรัม) แถมยังชื่นชอบทานเนื้อมากกว่าผัก ระดับคอเรสเตอรอลและไขมันในเลือดย่อมสูง การบวมน้ำของเฉิงฝู่กงนั้นไม่ได้มาจากปัญหาป่วยของไต แต่เกิดจากปัญหาของหัวใจ เกิดจากการสะสมอย่างยาวนานของไขมันในเลือดที่สูงเกินไป คนโบราณกล่าวไว้ว่า: “โรคเข้าจากปาก” ก็คือเช่นนี้

    ฉันเขียนประวัติย่อของเฉิงฝู่กงออกมา ก็เพื่อให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมของผู้ศึกษามวยไท่จี๋ตระกูลหยาง อีกทั้งเพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่พวกเราคนรุ่นหลัง ได้พิจารณาตัวเองอย่างลึกซึ้ง เฉิงฝู่กงเป็นหลานของลู่ฉานกง เรียนมวยตั้งแต่เล็ก อายุสี่สิบถึงจะเริ่มเข้าสู่ขั้นสุดยอด (ชูเสินรู่ฮว่า) บรรลุขั้นเสินหมิง (ขั้นรู้แจ้ง) เฉิงฝู่กงนั้นเป็นผู้สืบทอดรุ่นที่สาม แต่ก็ยังไม่ได้สืบทอดกงฟูของตระกูลหยางไว้ทั้งหมด ทุกวันนี้เหลือแค่พวกที่บรรพบุรุษหรืออาจารย์เรียนมวยจากตระกูลหยาง หรือมีความสัมพันธ์กับตระกูลหยางบ้างเล็กน้อย แต่กลับเรียกตัวเองเป็นผู้สืบทอดตระกูลหยางรุ่นนั้นรุ่นนี้ อ้างว่ากงฟูตัวเองสูงเยี่ยมเทียมฟ้า เฉิงฝู่กงนั้นมีพลังฝีมือล้ำเลิศ คุณธรรมวาจากับคุณธรรมมือกลับหนักแน่น ทุกที่ทุกเวลารักษาไว้ไม่มีเสื่อมคลาย เป็นแบบอย่างของผู้มีคุณธรรมยุทธ์สูงส่ง หากกงฟูยังไม่บรรลุสูงส่งพอ ปากกลับโอ้อวด ไม่เห็นใครในสายตา นี่ไม่ละอายใจต่อปรมาจารย์เฉิงฝู่หรือ? ตัวฉัน (ผู้เขียน) ไร้ความสามารถ เพียงหวังตนเองพิจารณาตัวเองวันละสามรอบ (หมายถึงหลายรอบ) แบ่งปันกับเพื่อนฝึกมวยทั้งในและโพ้นทะเล
    http://www.internalartsthailand.com/yang-cheng-fu-history/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Visudhi Punya
    #ทดสอบความแกร่งของสนามแม่เหล็กโลก



    เมื่อวานนี้
    มีก้อนอุกกาบาตขนาดใหญ่กว่าทุกครั้ง
    ถูกจัดให้วิ่งผ่านเข้ามาในระบบโลก
    เหนือพิกัด 4 รัฐของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

    โดยเป้าหมายของจุดตกกำหนดไว้ที่
    ชานเมืองของดีทร้อยท์
    เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง
    ของโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก

    แต่พบว่า
    รั้วของโลกตรงพิกัดนี้ล้มเหลว
    ทำให้ก้อนอุกกาบาตก้อนใหญ่ลุกไหม้ไม่หมด
    จึงต้องมีการจัดการทางเท็คนิกเพื่อให้มันระเบิด
    ก่อนที่จะตกลงมากระแทกพื้น
    แถบชานเมืองดีทร้อยท์ตามที่กำหนดไว้

    การระเบิดในระยะต่ำครั้งนี้
    ทำให้เกิดแสงสว่างวาบไปทั่วท้องฟ้าและแผ่นดิน
    เปรียบคล้ายกลางวันโผล่ขึ้นมากลางคืน
    เสียงระเบิดทำให้เกิดพสุธาสะเทือน
    เทียบกับแผ่นดินไหวในระดับ 2 เลยทีเดียว

    อันตรายจริงๆ
    เพราะสนามแม่เหล็กโลกด้านทวีปอเมริกา
    ทั้งเหนือ กลาง และอเมริกาใต้
    กำลังอ่อนแอมากเกินไปแล้ว
    ซึ่งไม่ปลอดภัยทั้งอุกกาบาตจากนอกระบบ
    และแขกจากห้วงอวกาศที่โลกไม่ยินดีต้อนรับ
    ☄☄

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    18-1-2018
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    มาอีกก็โดนอีก... นักรบฮูติยิงจรวดต่อต้านรถถังและวางระเบิดโจมตีพาหนะทหารลูกสมุนยูเออีพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบีย ในพื้นที่ทางตะวันตกของจังหวัด Ta’iz เยเมน (15-16 ม.ค.2561)
    -------------
    https://www.almasdarnews.com/articl...y-3-uae-armored-vehicles-western-yemen-video/
    https://www.almasdarnews.com/article/houthi-forces-step-attacks-saudi-backed-groups-yemen-video/



     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    FB_IMG_1516359564068.jpg FB_IMG_1516359571120.jpg FB_IMG_1516359575134.jpg FB_IMG_1516359579928.jpg FB_IMG_1516359586069.jpg

    หน้าตา "กบฏสายกลางซีเรีย" (ชื่อที่รัฐบาลสหรัฐตั้งให้) ไม่เหมือนคนซีเรียซักคน ส่วนใหญ่ไปจากอุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน เชเชน อุยกูร์ ตูนีเซีย ยุโรป พวกนี้พาครอบครัวของตนเองเข้าไปปล้น ยึดบ้านเรือนและที่ดิน บ่อน้ำมันของประชาชนและรัฐบาลซีเรีย ขับไล่คนซีเรียที่เป็นเจ้าของบ้านออกจากพื้นที่ หากไม่เข้าร่วมแก๊งโจรกับพวกมัน ชาวซีเรียบางคนก็ถูกฆ่าตาย หรือไม่ก็ถูกจับเป็นตัวประกันและเป็นเชลย ความจริงที่สื่อกระแสหลักของพวกตะวันตกไม่เคยนำเสนอให้โลกได้รับรู้ความจริง
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รวมภาพคิมน้อยปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมวิทยาลัยครูเปียงยาง (Pyongyang Teacher Training College) ที่ทันสมัยของเกาหลีเหนือ วิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน 1968

    FB_IMG_1516359896227.jpg FB_IMG_1516359901236.jpg FB_IMG_1516359905445.jpg FB_IMG_1516359910765.jpg FB_IMG_1516359914780.jpg FB_IMG_1516359922228.jpg FB_IMG_1516359926005.jpg FB_IMG_1516359929673.jpg FB_IMG_1516359933406.jpg FB_IMG_1516359936927.jpg FB_IMG_1516359940513.jpg FB_IMG_1516359943975.jpg FB_IMG_1516359947505.jpg FB_IMG_1516359951061.jpg FB_IMG_1516359954446.jpg FB_IMG_1516359962026.jpg FB_IMG_1516359966613.jpg

    เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ปธน.คิม จอง-อึน ก็ไปดูงานและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาวิทยาลัยแห่งนี้ ปีนี้ไปติดตามผลงาน และให้กำลังใจแก่บรรดาแม่พิมพ์ของชาติ เน้นความรักชาติ ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และไอที KCNA รายงาน 17 มกราคม 2561
    -------------
    http://uriminzokkiri.com/index.php?lang=eng&ftype=songun&no=8668
    http://uriminzokkiri.com/index.php?ptype=great&who=4&categ1=1&categ2=2&index=1&pagenum=1&no=6121#pos
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    วง Moranbong ทหารหญิงล้วนของเกาหลีเหนืออาจจะไปแสดงคอนเสิร์ทที่เกาหลีใต้ในกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาว 2018

    FB_IMG_1516360548950.jpg FB_IMG_1516360562625.jpg FB_IMG_1516360555959.jpg FB_IMG_1516360569696.jpg FB_IMG_1516360595691.jpg FB_IMG_1516360603143.jpg
    ------------

    มีความเป็นไปได้สูงที่เกาหลีเหนือจะส่งวง Moranbong ซึี่งเป็นวงดนตรีประสานเสียงหทารหญิงล้วนแห่งกองทัพเกาหลีเหนือเข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาวที่เกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 9-25 กุมภาพันธ์ 2018 โดยเกาหลีเหนือจะส่งทัพนักดนตรีและนักแสดงทั้งหมด 140 คนในนามของ "คณะนักแสดงศิลปะ" (Art Troupe) ซึ่งเป็นการแสดงการเต้นรำและกายกรรมประกอบดนตรี รวมทั้งวงออร์เคสตร้าของเกาหลีเหนือด้วย

    วง Moranbong ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ตามความคิดริเริ่มของประธานาธิบดีคิม จอง-อึน สมาชิกในวงเป็นทหารหญิงทั้งหมด ผู้นำเกาหลีเหนือคัดเลือกตัวตัวเอง เมื่อปลายปีที่แล้ววงนี้เดินสายทัวร์คอนเสิร์ทในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศเกาหลีเหนือ ปีนี้จะไปเขย่าเวทีคอนเสิร์ทที่เกาหลีใต้ ทางเกาหลีใต้ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ว่าเกาหลีเหนืออาจจะใช้ดนตรีและนักแสดงทำให้ประชาชนชาวเกาหลีใต้มีท่าทีที่เป็นบวกกับเกาหลีเหนือมากขึ้น จึงพยายามเขียนข่าวในลักษณะดิสเครดิตวงดนตรีเกาหลีเหนือ

    ในการเจรจาระหว่างสองเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฝ่ายเกาหลีเหนือได้ส่งคุณ Hyon Song-wol หัวหน้าวง Moranbong เป็นตัวแทนเข้าร่วมเจรจากับคณะผู้แทนของเกาหลีใต้ด้วย นอกจากเป็นหัวหน้าวง Moranbong แล้วเธอคนนี้ยังมีทำแหน่งระดับสูงทางการเมืองของคณะกรรมการกลางแห่งพรรคแรงงานของเกาหลีเหนือด้วย

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    17/01/2561
    ----------
    http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/16/41/0401000000AEN20180116005751315F.html
    http://english.yonhapnews.co.kr/search1/2603000000.html?cid=AEN20180117000800320
    http://english.yonhapnews.co.kr/search1/2603000000.html?cid=AEN20180115001056315
    http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/15/52/0401000000AEN20180115010400315F.html
    http://edition.cnn.com/2018/01/15/asia/north-korea-moranbong-band-olympics-intl/index.html
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวดี สหรัฐกำลังจะมีรัฐที่ 51 "สปป.นิวแคลิฟอร์เนีย" (New California)

    FB_IMG_1516360932752.jpg FB_IMG_1516360936862.jpg FB_IMG_1516360940903.jpg FB_IMG_1516360945885.jpg

    ------------

    วันที่ 16 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "รัฐ 'นิวแคลิฟอร์เนีย' ประกาศเป็นรัฐอิสระจากรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากถูกรีดภาษีสูงและบริการห่วย" (‘New California’ declares independence from state, blames high taxes & poor services)

    กลุ่มเคลื่อนไหวหวังที่จะแยกตัวออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากการเก็บภาษีในอัตราที่สูง และไม่พึงพอใจกับการบริหารของรัฐเดิม กำลังรณรงค์ประกาศความเป็นรัฐอิสระสำหรับรัฐการก่อตั้งรัฐใหม่ที่มีชื่อว่า "New California"

    ผู้นำของกลุ่มเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนก่อตั้งรัฐใหม่ได้เปิดเผยคำประกาศอิสรภาพ (Declaration of Independence) เมื่อวันจันทร์นี้ ซึ่งได้ตั้งความหวังเอาไว้ว่า ในที่สุดแล้วจะนำไปสู่การเป็นอิสรภาพจากเมือง Sacramento ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนียเดิม

    กลุ่มนี้แตกต่างจากขบวนการ Calexit ซึ่งแสวงหาการแยกเอกราชแคลิฟอร์เนียทั้งรัฐออกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนกลุ่ม New California ยังคงต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐ แต่ไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐแคลิฟอร์เนียอีกต่อไป

    "หลังการถูกรีดภาษี กฎระเบียข้อบังคับต่างๆ และนโยบายพรรคเดียว เป็นเวลาหลายปี รัฐแคลิฟอร์เนียและอีก 58 คันทรีกลายเป็นรัฐที่ไม่สามารถปกครองได้" แถลงการณ์ของกลุ่มกล่าว

    รัฐที่จะเกิดใหม่นี้ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยคันทรีต่างๆในเขตชนบท ในขณะที่เขตเทศบาลตามแนวชายฝั่งแฟซิฟิกจะยังคงอยู่กับรัฐแคลิฟอร์เนีย "เราจะแบ่งแยกออกเป็นรัฐที่ 51 ทำให้เป็นสหภาพที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น" Paul Preston หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งอธิบายในวีดีโอในเว็บไซต์ของกลุ่ม

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    17/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/usa/416118-new-california-declares-independence/
    https://sputniknews.com/us/201801171060807760-new-california-declaration-independence/
    http://newstateccr.org
    https://www.cbsnews.com/news/new-california-declares-independence-from-rest-of-state/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวบันเทิง: สถาบันจัดอันดับของจีน ปรับลดคความน่าเชื่อถือด้านอธิปไตยของสหรัฐจาก A- เป็น "BBB+" เท่ากับเปรูและเติร์เมนิสถาน เนื่องจากหนี้สินท่วมหัวจนไม่มีปัญญาจ่าย

    FB_IMG_1516361212936.jpg

    ------------

    วันที่ 16 ม.ค.61 RT พาดหัวข่าวว่า "Chinese credit agency puts US sovereign rating on par with Turkmenistan"

    Dagong Global Credit Rating หนึ่งในบริษัทจัดอันดับที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้หั่นระดับความเป็นอธิปไตยของสหรัฐจาก A- เป็น BBB+ ซึ่งทำให้อันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของอเมริกาเทียบเท่ากับของเปรู โคลอมเบีย และเติร์กเมนิสถาน

    "ข้อบกพร่องต่างๆ ในระบบนิเวศทางการเมืองของสหรัฐในปัจจุบัน ทำให้ยากต่อการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพโดยรัฐบาลกลาง ดังนั้น การพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศจึงตกราง" รายงานของบริษัท Dagong เปิดเผย อ้างโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส

    "การปรับลดภาษีโดยตรงครั้งมโหฬาร ทำให้รัฐบาลกลางสูญเสียแหล่งรายได้สำหรับการชำระหนี้สิน ดังนั้น จึงทำให้การชำระหนี้ของรัฐบาลอ่อนแอยิ่งขึ้น" Dagong กล่าว

    ในเดือนธันวาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ลงนามในกฎหมายฉบับหนึึ่งเกี่ยวกับการลดภาษี ซึ่งเป็นการเพิ่มหนี้สินให้กับประเทศสหรัฐอีก $1.4 ล้านล้าน รวมทั้งหมดเป็น $20 ล้านล้าน

    กรุงวอชิงตันจะเดินหน้าเพิ่มเพดานหนี้ต่อไปในอนาคต Dagong กล่าว "ดูเหมือนว่าความสามารถในการชำระหนี้เสมือน ของรัฐบาลกลาง อาจจะกลายเป็นตัวจุดชนวนวิกฤตทางการเงินรอบหน้าก็ได้"

    กลุ่ม BRICS ซึ่งประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย จีน และแอฟฟริกาใต้ ได้ตำหนว่า บรรดาสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่อยู่ในสหรัฐเช่น Fitch, Moody’s และ S&P Global ต่างก็พากันลดอันดับความน่าเชื่อถือของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และปิดตาต่อความถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐและกลุ่มประเทศตะวันตก

    "ปรกติแล้วการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่าง ส่วนใหญ่แล้วมีความลำเอียงทางการเมือง Dagong พิจารณาเฉพาะขีดความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลกลางเท่านั้น" Guan Jianzhong ประธานบริษัท Dagong กล่าวในเดือนกรกฎาคม 2016 ในงานสัมมนาทางเศรษฐกิจที่เซ้นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

    Guan Jianzhong กล่าวว่า "ในกลุ่มประเทศตะวันตกนั้น พวกเขาใช้อันดับความน่าเชื่อถือเป็นเครื่องมือเพื่อปกป้องผลกำไรของตนเอง และผลประโยชน์ของตนเอง วิกฤตทางการเงินในปี 2008 มีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประเมินที่ผิดพลาดในเศรษฐกิจของสหรัฐ"

    [ราว 2-3 ปีที่แล้ว กลุ่ม BRICS ประกาศว่าจะต้องสร้างสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ของตนเองขึ้นมา เพื่อแข่งขันกับของกลุ่มตะวันตก และ Dagong ก็เป็นหนึ่งในสถาบันดังกล่าวของจีนและกลุ่ม BRICS - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    17/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/business/416096-us-economy-turkmenistan-china-credit/
    https://www.rt.com/business/411403-us-debt-record-yellen/
    https://www.reuters.com/article/us-...sovereign-ratings-to-bbb-from-a-idUSKBN1F50OU
    https://www.ft.com/content/ea932697-ad9f-39fc-844b-a744ed0cc52c
    http://en.dagongcredit.com/index.php?m=content&c=index&a=show&catid=20&id=4938
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เครื่องบินลำเลียง CASA CN-235 ของ ทอ. ตุรกีตกขณะฝึกซ้อม ทหารเสียชีวิต 3 นาย

    FB_IMG_1516361458480.jpg FB_IMG_1516361462117.jpg FB_IMG_1516361468919.jpg FB_IMG_1516361491385.jpg FB_IMG_1516361494680.jpg

    -----------

    เครื่องบินลำเลียง CASA CN-235 ของ ทอ. ตุรกีตกหนึ่งลำที่อำเภอ Yalvaç จังหวัด แถวจังหวัด Isparta ในขณะฝึกซ้อม ในเวลาประมาณ 12:50 p.m. ตามเวลาท้องถิ่น นักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย พบซากเครื่องบินสองชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ผู้ว่าจังหวัดแถลง สำนักข่าว Daily Sabah ของตุรกีรายงาน ยังไม่ระบุถึงสาเหตุที่เครื่องบินตกในครั้งนี้

    CASA CN-235 เป็นเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีขนาดกลางของกองทัพตุรกี เคยประสบอุบัติเหตุตกมาแล้ว 3 ครั้ง ตุรกีประจำการเครื่องบินรุ่นนี้ทั้งหมด 59 ลำ พัฒนาร่วมกันกับสเปน (เดิมทีสเปนพัฒนาร่วมกับอินโดนีเซีย) มีใช้งานในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยด้วย ซึ่งมีประมาณ 3 ลำ

    ส่วนสถานการณ์ที่ซีเรียนั้น ในส่วนของเคิร์ดกับเติร์ก ตุรกีไม่พอใจเป็นอย่างมากกรณีที่สหรัฐฝึกกองกำลังรักษาชายแดนให้กำลังกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดในซีเรีย พร้อมทั้งสนับสนุนระบบต่อต้านอากาศยานแบบประทับบ่า (MANPADS) ให้กองกำลังชาวเคิร์ดด้วย ทางซีเรียและรัสเซียก็ไม่พอใจเช่นกัน

    ตุรกีเองก็เสริมกำลังทางทหารของตนเองประชิดชายแดนซีเรีย บางส่วนเข้าไปในจังหวัดอิดลิบของซีเรีย อ้างว่าเพื่อขับไล่เคิร์ดซีเรียออกไปจากพื้นที่ มีการปะทะกับกับกองกำลังชาวเคิร์ดพร้อมทั้งโจมตีทางอากาศทำลายเป้าหมายของเคิร์ดถึง 149 แห่งแถวเมือง Afrin พร้อมทั้งเสริมจรวดโทมาฮอกตามแนวชายแดนตุรกี-ซีเรียด้วย

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    17/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/middleeast/201801171060822982-turkish-military-plane-crashes/
    https://www.dailysabah.com/investig...military-training-aircraft-crashes-in-isparta
    https://sputniknews.com/military/201801161060779896-usa-manpads-syria-kurds-deal/
    https://sputniknews.com/analysis/201801161060795293-syria-us-federalism/
    https://sputniknews.com/middleeast/201801161060787556-turkey-afrin-kurds-offensive/
    https://sputniknews.com/middleeast/201801161060787600-erdogan-syria-trump/
    https://sputniknews.com/middleeast/201801151060757642-us-terrorist-army-syria-turkey/
    https://www.almasdarnews.com/articl...voy-enters-syria-combat-kurdish-forces-afrin/
    https://southfront.org/turkeys-sikorsky-helicopter-dodges-pkk-gudided-missile-video/
    https://www.almasdarnews.com/article/turkey-places-tomahawk-missiles-along-syrian-border/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    จีนส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน

    FB_IMG_1516361836273.jpg FB_IMG_1516361839585.jpg FB_IMG_1516361843763.jpg FB_IMG_1516361847468.jpg FB_IMG_1516361852387.jpg FB_IMG_1516361855949.jpg FB_IMG_1516361859723.jpg

    -----------

    วันที่ 17 ม.ค. 60 Sputnik รายงานว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน Liaoning เพียงลำเดียวของจีนที่ปฏิบัติการอยู่ในปัจจุบันนี้พร้อมด้วยกลุ่มเรือบริวารได้เดินทางผ่านช่องแคบไต้หวัน (Taiwan Strait) ทางการใต้หวันรายงาน พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าไม่พบว่ามีอะไรผิดปรกติ

    กระทรวงกลาโหมไต้หวันประกาศว่า เรือเหลียวหนิง ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินสมัยโซเวียตที่จีนซื้อมาจากยูเครน และนำเข้าประจำการในกองทัพเรือของจีน ได้แล่นเข้าสู่ช่องแคบไต้หวัน จากทางตะวันตกเฉียงใต้ในกลางดึกของวันอังคาร

    เรือเหลียวหนิงและเรือบริวารได้เข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (Air Defense Identification Zone หรือ ADIZ) ของไต้หวัน แต่ยังคงอยู่ในน่านน้ำของจีนแผ่นดินใหญ่ กลุ่มเรือดังกล่าวได้แล่นผ่านช่องแคบโดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น

    "ในขณะที่กำลังแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันนั้น ไม่พบกิจกรรมที่ผิดปรกติใดๆ และประชาชนก็สามารถพักผ่อนได้ตามสบาย" กระทรวงชี้แจง

    เมื่อนักข่าวถามว่า เหตุการณ์นี้หมายถึงการยั่วยุหรือไม่? สำนักกิจการไต้หวันแห่งแผ่นดินใหญ่ตอบว่า "กรุงปักกิ่งกำลังใช้ความพยายามที่ยิ่งใหญ่และการแสดงเจตนาที่ดีที่สุด เพื่อรวมจีนเข้าด้วยกันโดยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม จีนจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับ 'การประกาศเอกราชของไต้หวัน' หรืออนุญาตให้กองทัพเช่นนั้นแยกตัวออกจากจีนได้เด็ดขาด" นาย Ma Xiaoguang โฆษกฯ กล่าวในแถลงการณ์

    หลังจากถูกแฉโดยเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆนี้ว่า ไต้หวันเช่าเรือบรรทุกน้ำมันของฮ่องกง บรรทุกน้ำมันสำเร็จรูปของบริษัทญี่ปุ่นในเกาหลีใต้ไปขายให้กับเกาหลีเหนือจากเรือสู่เรือในทะเลสากล ซึ่งเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งในตอนแรก สื่อกระแสหลักของเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐ และตะวันตกต่างก็พากันประโคมข่าวว่าจีนและรัสเซียแอบขายน้ำมันในทะเลให้เกาหลีเหนือ แต่ต่อมาพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่จีนหรือรัสเซีย แต่เป็นฝีมือของบรรดาลูกกระเป๋งของสหรัฐเองนั่นแหละที่ทำ

    ประธานาธิบดีไซ้ อิง-เหวิน ของไต้หวันรีบออกมาแถลงการเพิ่มเงิบประมาณกลาโหมให้กับกองทัพไต้หวันโดยจะสั่งซื้ออาวุธจากสหรัฐเพิ่มขึ้นประมาณ 20% (จากเดิมอยู่ที่ $10,800 ล้าน เป็น $12,900 ล้านต่อปี) ทางญี่ปุ่นก็ประกาศว่าจะซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เรื่องการแอบขายน้ำมันเถื่อนให้เกาหลีเหนือก็เงียบไป สหรัฐและบรรดาลูกกระเป๋งหันไปเล่นงานเกาหลีเหนือต่อ

    เครื่องบินรบหลักที่ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงของจีนก็คือ Shenyang J-15 (26 ลำ) เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง Changhe Z-18F (6 ลำ) เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง Changhe Z-18J (6 ลำ) และเฮลิคอปเตอร์หลากบทบาท Harbin Z-9 (2 ลำ) รวมทั้งหมด 40 ลำ

    เครื่องบินรบ Shenyang J-15 ฉายาฉลามบิน (Flying Shark) ที่นั่งเดียวสำหรับประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน พัฒนามาจาก Sukhoi Su-33 ของรัสเซียที่ประจำการบินเรือบรรทุกเครื่องบินเช่นกัน สามารถพับ-กางปีกได้ ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับ Shenyang J-11 ที่พัฒนามาจาก Sukhoi Su-27 ของรัสเซีย

    ราคาของ J-15 อยู่ที่ลำละประมาณ
    US$61 ล้าน (ปี 2017) สเป็คต่ำกว่า Su-33 เล็กน้อย ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ Mach 1.98 (2,100 kmh; 1,305 mph; 1,134 kn) ในขณะที่ Su-33 อยู่ที่ Mach 2.2 (2,300 km/h; 1,430 mph)

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    18/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/asia/201801171060836088-chinese-aircraft-carrier-taiwan-strait/
    https://sputniknews.com/asia/201801111060689916-taiwan-defense-spending-increase-plan/
    https://en.wikipedia.org/wiki/Shenyang_J-15
    https://www.channelnewsasia.com/new...ier-group-sails-through-taiwan-strait-9869318
    http://www.straitstimes.com/asia/east-asia/chinas-aircraft-carrier-sails-by-taiwan-as-tensions-grow
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวบันเทิง: ฝรั่งเศสตบ "เศษฝรั่ง" ที่หน้าด้านทวงหนี้เก่าสมัยพระเจ้าเหาจากรัสเซียซึ่งชำระไปหมดแล้ว

    FB_IMG_1516362426924.jpg FB_IMG_1516362431577.jpg FB_IMG_1516362435318.jpg FB_IMG_1516362439054.jpg

    -----------

    วันที่ 17 ม.ค. 60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "'ก็จ่ายหนี้หมดแล้ว:' ฝรั่งเศสตรวจสอบคำกล่าวอ้างหนี้พันธบัตรสมัยพระเจ้าซาร์" ('All Debts Are Paid': France Clarifies Position on Czarist-Era Bond Debt Claims)

    กรุงปารีสไม่สามารถเรียกร้องให้รัสเซียชำระหนี้สินให้แก่ชาวฝรั่งเศสที่ถือครองพันธบัตรสมัยก่อนการปฏิวัติรัสเซียได้ กระทรวงเศรษฐกิจและการเงินของฝรั่งเศสยืนยัน

    เมื่อต้นสัปดาห์นี้ สื่อฝรั่งเศสได้รายงานเรื่องราวเมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้วเกี่ยวกับลูกหลานหลายแสนคนของนักลงทุนชาวฝรั่งเศสสมัยศตวรรษที่ 19 ที่ถือครองพันธบัตรของรัฐบาลพระเจ้าซาร์ (แห่งจักรวรรดิรัสเซีย) ซึ่งขณะนี้พากันออกมาเรียกร้องให้กรุงมอสโคชดใช้ค่าเสียหายมูลค่าหลายหมื่นล้านยูโรให้กับพวกเขา

    เมื่อมีการถามถึงจุดยืนที่เป็นทางการของกรุงปารีสเกี่ยวกับปัญหานี้ กระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศสได้เน้นย้ำว่า หนี้สินระหว่างประเทศต่อประเทศ ระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสนั้น ได้รับการพิจารณาว่าชำระหมดแล้ว

    "ข้อพิพาทระหว่างรัฐ ระหว่างสาธารณรัฐฝรั่งเศสและสหพันธรัฐรัสเซียเกี่ยวกับประเด็น 'พันธบัตรของรัสเซีย' ถูกขจัดออกไปตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 1997 แล้ว ในการลงนามในข้อตกลงระหว่างสองประเทศ ภายใต้ข้อตกลงที่ฝรั่งเศสและรัสเซียได้ประกาศสละหนี้สินทางการเงินทั้งหมดร่วมกัน ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างสองประเทศในวันที่ 9 พฤษภาคม 1945 และภายใต้ข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องละเว้นจากการสนับสนุนการเรียกร้องของพลเรือนที่เกี่ยวกับหนี้สินเหล่านี้" กระทรวงแถลง สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงาน

    รายงานข่าวเปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงปี 1997 นั้น กรุงมอสโคยินดีที่จะจ่ายเงินเทียบเท่าประมาณ 330 ล้านยูโรเพื่อเป็นการกุศล (ให้รัฐบาลฝรั่งเศส)

    กระทรวงเศรษฐกิจของฝรั่งเศสยังเน้นย้ำอีกว่า ตราบเท่าที่ยังเกี่ยวข้องกับกรุงปารีส "ข้อพิพาทระหว่างประเทศได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว" และฝรั่งเศสก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องจากฝ่ายรัสเซียในเรื่องนี้

    ในปี 1867 บริษัทการรถไฟของจักรวรรดิรัสเซ๊ย ได้ออกพันธบัตรรัฐบาลที่มีทองคำค้ำประกัน เพื่อรวบรวมเงินไปใช้ในโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟ นักลงทุนชาวฝรั่งเศสได้เข้าซื้อพันธบัตรเหล่านั้นด้วยทองคำมูลค่่า 15,000 ล้านฟรังค์ (ประมาณ 53,000 ล้านยูโร หรือ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน) บรรดาลูกหลานของนักลงทุนชาวฝรั่งเศสประมาณ 400,000 คนพากันออกมาทวงหนี้ที่ได้รับชำระไปแล้ว (จ่ายเป็นนุกแทนดีไหมนี่?)

    [พวกนี้กล้าทวงหนี้เก่าจากรัสเซียที่ได้รับชำระแล้ว แต่กลับไม่กล้าทวงหนี้จากสหรัฐ ข้อมูลจากกระทรวงการคลังของสหรัฐเปิดเผย ณ เดือนตุลาคม 2017 ว่า สหรัฐเป็นหนี้ฝรั่งเศสอยู่ $72,900 ล้าน]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    18/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/europe/201801171060834552-france-czarist-debt-position/
    https://sputniknews.com/society/201801161060793658-french-bonds-imperial-russia-demands/
    http://ticdata.treasury.gov/Publish/mfh.txt
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เกาหลีเหนือส่งทัพนักกีฬา นักแสดง และนักดนตรีเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลีใต้ สหรัฐส่งเครื่องบินรบ กองเรือรบเข้าร่วม

    FB_IMG_1516363141577.jpg FB_IMG_1516363145312.jpg FB_IMG_1516363150607.jpg FB_IMG_1516363155759.jpg

    -----------

    ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์นี้ มีความก้าวหน้าหลายอย่างในการเจรจาระหว่างสองเกาหลีเกี่ยวกับความร่วมมือกันในงานกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาว 2018 ที่เกาหลีใต้ โดยเกาหลีเหนือได้ยืนยันว่าจะส่งทีมนักกีฬาและนักแสดงศิลปะของตนเองเข้าร่วมการแสดงที่เกาหลีใต้ด้วย นักกีฬาบางประเภทของทั้งสองเกาหลีจะร่วมทีมเดียวกัน และจะใช้ธงรวมชาติของสองเกาหลีด้วย เป็นภาพที่ผู้ใฝ่สันติภาพทั่วโลกอยากเห็นมานานแล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่งมันกลับเป็นภาพที่บาดตาบาดใจของ "จักรวรรดิเฮเกจอมอิจฉา" ซะเหลือเกิน จึงเดิหน้ายั่วยุเกาหลีเหนือเพื่อหวังบ่อนทำลายความสามัคคีของสองเกาหลีให้ได้

    วันที่ 16 ม.ค. 60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "'กองทัพอากาศของสหรัฐส่งอากาศยานสำหรับตัดสัญญาณการสื่อสารของเครื่องบินข้าศึกเข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี" (US Air Force Sends DOS-Attacking Aircraft to Korean Peninsula) (จะส่งไปทำแป๊ะอะไรในช่วงเวลาที่เขากำลังเจรจาสร้างความสามัคคีกัน?)

    มีรายงานข่าวเมื่อวันจันทร์นี้ว่า สหรัฐได้ส่งอากาศยาน EC-130H Compass Call ซึ่งมีความสามารถในการโจมตีด้วยการปฏิเสธการให้บริการด้านการสื่อสารของเครื่องบินข้าศึก เข้าไปที่ฐานทัพอากาศ Osan ของเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ปีนี้

    ยังไม่มีความชัดเจนว่า ทำไมสหรัฐถึงได้ส่งอากาศยานด้านยุทธวิธีที่ทันสมัยลำนี้ไปประจำการที่ฐานทัพแห่งนั้น นักวิจารณ์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐอาจจะใช้อากาศยานลำนี้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางการทหารของเกาหลีเหนือในระหว่างงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ที่เกาหลีใต้ก็ได้

    Lt. Col. Chris Weaton จากฝูงบินต่อสู้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกของกองทัพสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราสามารถที่จะปิดหรือตัดการสื่อสาร (ของข้าศึก) ได้ จากนั้นเราก็จะสร้างความสับสนวุ่นวาย" (ประชาธิปไตย จงเจริญ!)

    วันเดียวกันนี้ Sputnik รายงานข่าวอีกข่าวหนึ่งว่า กองทัพสหรัฐกำลังเพิ่มการปรากฎตัวของตนเองรอบๆ คาบสมุทรเกาหลีในช่วงที่ใกล้จะถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว

    เรือโจมตียกพลขึ้นบกรุ่นใหม่ลำหนึ่ง (เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์) เรือบรรทุกเครื่องบินรบพิเศษลำหนึ่ง และเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์อีกฝูงหนึ่งได้เคลื่อนเข้าสู่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเมื่อไม่กี่วันมานี้ เว็บไซต์ Military สายทหารของสหรัฐรายงาน

    วันที่ 11 มกราคม เครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ B-2 Spirit ที่มีศักยภาพในการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ จำนวน 3 ลำได้แตะพื้นที่ฐานทัพอากาศ Andersen บนเกาะกวม ในวันทีี่ 14 มกราคม เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ USS Wasp สำหรับยกพลขึ้นบกได้เดินทางไปถึงท่าเรือ Sasebo ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยฝูงบินรบ F-35B ของนาวิกโยธินหน่วยที่ 31 เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ก็กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก

    การจัดทัพในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าจะมีข้อตกลงว่าจะเลื่อนการซ้อมรบระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ออกไปจนกว่าสิ้นสุดการแข่งขันกีฬา แต่เพนตากอนก็ไม่มีทางที่จะลดการ์ดของตนเองลง Stars and Stripes รายงาน

    [ถ้าเกาหลีเหนือ รัสเซีย หรือจีน ทำแบบนี้บ้าง พวกมันก็จะพากันแหกปากร้องทันทีว่า "ก้าวร้าว/อันธพาล/เกเร/เตรียมก่อสงคราม" แต่พอตัวเองทำ ก็ให้เหตุผลว่า "มันเป็นส่วนหนึ่งของเสรีภาพในการเดินเรือทางทะเล" - ผู้แปล]

    นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวระหว่างการประชุมร่วมกันกับรัฐมนตรีต่างประเทศ 20 ประเทศ (จีนกับรัสเซียไม่เข้าร่วมด้วย) ที่เมือง Vancouver ประเทศแคนาดา เกี่ยวกับปัญหาเกาหลีเหนือว่า "แคมเปญจ์การกดดัน (/กดขี่) เกาหลีเหนือจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่ากรุงเปียงยางจะกระทำการตัดสินใจว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด นี่คือยุทธศาสตร์ที่มีและต้องการความอดทนอดกลั้น"

    "พวกเราทั้งหมดจะต้องยืนกรานในการบังคับใช้การคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพราะว่านี่คือบทบัญญัติของกฎหมาย เราขอเรียกร้องต่อจีนและรัสเซียเป็นพิเศษในเรื่องนี้ด้วย" นายทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ประเทศที่ไม่ยอมรับมติของ UNSC และสมัชชาใหญ่ยูเอ็นเกี่ยวกับการปฏิเสธรับรองให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลโดยสหรัฐกล่าว

    [สารเลวนี่ ไม่ยอมรับมติของยูเอ็น ถ้าตนเองและพรรคพวกของตนเองเสียเปรียบ แต่กลับกระแดะที่จะใช้อำนาจยูเอ็นกดขี่ประเทศอ่อนแอกว่า - ผู้แปล]

    วันเดียวกันนี้ The Wall Street Journal ของสหรัฐรายงานว่า เพนตากอนจะเดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์สำหรับใช้งานกับครูซมิสไซล์ (จรวดร่อน/อาวุธปล่อยนำวิถี) ที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้ (ซึ่งก็คือโทมาฮอกติดหัวรบนิวเคลียร์นั่นเอง) อ้างว่าเพื่อตอบโต้ต่อความก้าวหน้าทางกองทัพของรัสเซียและจีน

    [ไอ้… สั่งให้เกาหลีเหนือล้มโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เพราะว่ามันเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางการรุกรานเกาหลีเหนือโดยสหรัฐและเหล่าสมุน แต่ตัวเองกลับเดินหน้าพัฒนานุกเฉยเลย แถมส่งทั้งเรือดำน้ำ และเครื่องบินรบที่สามารถปล่อยนุกเข้าไปยังคาบสมุทรเกาหลีครั้งแล้วครั้งเล่า ปากก็แหลว่า ต้องการที่จะทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์ สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำมันกลับตรงกันข้ามซะงั้น - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    18/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/asia/201801161060802832-us-air-force-sends-aircraft-to-korean-peninsula/
    https://sputniknews.com/military/201801161060802405-us-bombers-warships-peninsula-games/
    https://sputniknews.com/asia/201801161060800192-us-n-korea-pressure-tillerson/
    https://sputniknews.com/military/201801161060801502-new-us-nuclear-weapons-reports/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,975
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    มหาบ้าอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกเตรียมออกกฎหมายใช้อาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้ กรณีสหรัฐถูกโจมตีทางไซเบอร์หรืออื่นๆที่ไม่ใช่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ก็ตาม (เป็นการตอกย้ำว่าเกาหลีเหนือมาถูกทางแล้ว ไม่งั้นอาจจะถูกยัดข้อหาเหมือนกับซัดดัมก็ได้)

    FB_IMG_1516366013549.jpg FB_IMG_1516366019376.jpg

    -----------

    วันที่ 17 ม.ค.61 Sputnik พาดหัวข่่าวว่า "ทำเนียบขาวอาจจะอนุมัติการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้การโจมตีทางไซเบอร์" (White House Could Approve Nuclear Strikes to Counter Cyberattacks)

    [ถ้าระบบคอมพิวเตอร์ของสหรัฐติดไวรัสสักเครื่องหนึ่ง สหรัฐมีสิทธิ์ที่จะยิงนิวเคลียร์ถล่มประเทศที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ปล่อยไวรัสก็ได้ ว่างั้นเถอะ? ถ้าอย่างนั้น คิมน้อย หรือ จีน หรือรัสเซียก็อาจจะอ้างได้เช่นกันว่า "พิสูจน์ได้ว่าคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือถูกโจมตีด้วยไวรัสของสหรัฐ นุกแม่มเลยดีไหม?" - ผู้แปล]

    ข่าวนี้สื่อรัสเซียอ้างอิงจาก The New York Times ของสหรัฐซึ่งพาดหัวข่าวในวันที่ 16 ม.ค. 2561 ว่า "เพนตากอนเสนอให้ตอบโต้การโจมตีทางไซเบอร์ที่สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์" (Pentagon Suggests Countering Devastating Cyberattacks With Nuclear Arms)

    สื่อสหรัฐรายงานว่า ยุทธศาสตร์ด้านอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐที่ร่างขึ้นมาใหม่ที่ส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อการอนุมัติ อาจจะอนุญาตให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้การโจมตีที่ไม่ใช่ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งสร้างความเสียหายในวงกว้างต่อระบบสาธารณูปโภค ซึ่งรวมถึงสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลปัจจุบันและรัฐบาลชุก่อนเคยอธิบายว่าเป็นรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ที่เลวร้ายที่สุด

    [ปีที่แล้ว ไวรัสเรียกค่าไถ่ทางคอมพิวเตอร์ระบาดทั่วโลก สหรัฐรีบกล่าวหาว่ารัสเซียอยู่เบื้องหลัง ต่อมาก็โยนขี้ไปให้เกาหลีเหนือ เพื่อให้สมจริงยิ่งขึ้น นักการเมืองและสื่อสหรัฐก็ออกมาปล่อยข่าวว่าแฮ็กเกอร์รัสเซียโจมตีคอมพิวเตอร์ของระบบไฟฟ้าแรงสูงในรัฐแห่งหนึี่งของสหรัฐ รัสเซียปฏิเสธ และท้าให้แสดงหลักฐานออกมาพิสูจน์ สหรัฐเงิบ จึงออกมายอมรับแบบกล้อมแกล้มว่า "เป็นการเข้าใจผิด คอมพิวเตอร์ดังกล่าวไม่ได้ติดไวรัส" ถ้าสหรัฐผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ และมีการสร้างสถานการณ์หรือกล่าวหารัสเซียหรือประเทศเป้าหมายเช่น เกาหลีเหนือหรืออิหร่าน สหรัฐย่อมมีสิทธิ์ที่จะนุกประเทศเหล่านั้นทันที แน่นอน… ประเทศเหล่านั้นก็จะนุกสหรัฐทันทีเช่นกัน มันส์!

    ประเทศอิรัคฉิบหายมาแล้ว ซัดดัมถูกลากไปแขวนคอ อันเนื่องมาจากรายงานเท็จที่สหรัฐและอังกฤษรวมหัวกันเขียนขึ้นมา ด้วยการยัดข้อหาให้ซัดดัมว่าครอบครองอาวุธร้ายแรงที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง สหรัฐและแก๊งนาโต้จึงยกกองทัพไปถล่มอิรัคทันที หาอยู่ครึ่งปีทั่วประเทศอิรัคก็ไม่พบอาวุธร้ายแรงที่ว่านั้น พบแต่ทองคำของซัดดัม (ของรัฐบาลอิรัค) และก็เสร็จสหรัฐจนได้ ปล้นกลางวันแสกๆนี่แหละ จากนั้นก็พบบ่อน้ำมันจำนวนมาก ยึดแม่มซะเลย นั่นแหละอาวุธร้ายแรงของอิรัคที่ว่ามา - ผู้แปล]

    สื่อสหรัฐรายงานอีกว่า เป็นเวลาหลายทศวรรษมาแล้ว ที่บรรดาประธานาธิบดีสหรัฐได้ข่มขู่ว่า "จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อน" ต่อศัตรูในสถานการณ์ที่แคบและจำกัด เช่นในการตอบโต้ต่อการใช้อาวุธชีวภาพต่อสหรัฐ

    แต่เอกสารฉบับใหม่นี้ เป็นครั้งแรกที่มีการขยายให้ครอบคลุมถึงความพยายามที่จะทำลายระบบสาธารณูปโภคในวงกว้าง เช่นการทำลายระบบไฟฟ้าแรงสูงหรือการสื่อสาร ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงต่ออาวุธทางไซเบอร์ทั้งนั้น

    [ถ้าวันดีคืนดี มีมือดีไปขันน็อตเสาไฟฟ้าแรงสูง (เหมือนที่มีบางคนเคยพยายามทำแถวอยุธยาในปี 53) และทำให้เสาฟฟ้าแรงสูงของสหรัฐล้ม หรือโทรศัพท์ของประธานาธิบดีสหรัฐโทรไม่ติด ทรัมป์จะไม่สั่งกดปุ่มนุกของตนเองที่คุยนักคุยหนาว่าใหญ่กว่าของคิมสุ่มสี่สุ่มห้าหรือนี่? - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    18/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/us/201801171060836212-white-house-nuclear-strike-cyberattack/
    https://www.nytimes.com/2018/01/16/us/politics/pentagon-nuclear-review-cyberattack-trump.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...