ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัสเซียเริ่มส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 Triumf สำหรับสอยมิสไซล์และเครื่องบินรบสเตลท์อย่าง F-22 และ F-35 ให้จีน

    FB_IMG_1516366414208.jpg FB_IMG_1516366435519.jpg FB_IMG_1516366440465.jpg FB_IMG_1516366422010.jpg FB_IMG_1516366427058.jpg FB_IMG_1516366431945.jpg

    -----------

    วันที่ 18 ม.ค.61 TASS พาดหัวข่่าวว่า "" (Russia begins delivery of S-400 missile systems to China — source)

    กรุงมอสโคได้เริ่มส่งมอบระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ S-400 Triumf ให้จีน ภายใต้สัญญาซื้อขายที่ลงนามในปี 2014 แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดระบบความร่วมมือทางทหารของรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าว TASS เมื่อวันพฤหัสบดีนี้

    "การดำเนินการตามสัญญาได้เริ่มขึ้นแล้ว ชิปเม้นท์แรกได้ถูกส่งไปให้จีนแล้ว" แหล่งข่าวกล่าว

    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การส่งขนส่งในครั้งนี้ประกอบด้วยสถานีควบคุมหนึ่งสถานี สถานีเรดาร์หนึ่งสถานี อุปกรณ์ฉุกเฉินและสนับสนุน ชุดอะไหล่ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆของระบบ S-400 การติดต่อกับจีนในครั้งนี้ไม่ระบุถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือการอนุญาตให้ผลิต รัสเซียฝึกทหารจึนกลุ่มหนึ่งสำหรับการใช้ระบบ S-400 ในปี 2017

    ในเดือนพฤศจิกายน 2014 รัสเซียและจีนได้ประกาศว่าได้ลงนามร่วมกันในสัญญาจัดหาระบบ S-400 และในเดือนพฤศจิกายน 2015 นาย Vladimir Kozhin คนสนิทของประธานาธิบดีปูติน ที่ทำงานเกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหารได้ยืนยันเกี่ยวกับสัญญาดังกล่าว

    เดือนมิถุนายน 2016 นาย Sergei Chemezov ประธานบริษัทมหาชน Rostec ของรัสเซียกล่าวว่า กองทัพจีนจะได้รับระบบ S-400 ภายในปี 2018

    จีนเป็นประเทศแรกที่เป็นผู้ซื้อชาวต่างชาติที่ซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ของรัสเซีย ประเทศที่สองคือตุรกี (ซาอุดิอาระเบียและอินเดียก็แสดงความสนใจที่จะซื้อระบบนี้ไว้ป้องกันประเทศตนเองด้วย ปัจจุบันนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกัน)

    ซีเรียเป็นประเทศแรก ในฐานะต่างชาติที่มีระบบ S-400 เข้าไปประจำการในประเทศของตนเอง แต่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกองทัพรัสเซีย เนื่องจากรัสเซียไม่ได้ขายให้ซีเรีย แต่นำไปประจำการที่ฐานทัพอากาศ Khmemin ของรัสเซียที่จังหวัด Latakia

    ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 ของรัสเซีย เป็นระบบที่มีความซับซ้อนสูงมาก และมีประสิทธิภาพสูงด้วย รัศมีของเรดาร์ครอบคลุมพื้นที่ 600 กิโลเมตร รัศมีทำการของขีปนาวุธอยู่ที่ 400 กิโลเมตร ยิงได้สูงสุด 30 กิโลเมตร พัฒนาจากระบบ S-300 สำหรับป้องสกัดและทำลายขีปนาวุธข้ามทวีป ขีปนาวุธวิถีโค้ง ขีปนาวุธนำวิถี อากาศยานทุกชนิด ซึ่งรวมทั้งเครื่องบินรบยุคที่ห้า (สเตลท์/ล่องหน) อย่าง F-22, F-35 หรือ B-2 Spirit ของสหรัฐด้วย

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    18/01/2561
    ----------
    http://tass.com/defense/985601
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    กรุงดามัสกัสเตือน ถ้าตุรกีส่งเครื่องบินรบเข้าถล่มชุมชนชาวเคิร์ดในเมือง Afrin ในซีเรีย ถูกสอยร่วงด้วยแซมแน่

    FB_IMG_1516366916078.jpg FB_IMG_1516366920659.jpg FB_IMG_1516366924628.jpg FB_IMG_1516366936515.jpg FB_IMG_1516366950179.jpg FB_IMG_1516366954734.jpg FB_IMG_1516366940132.jpg

    -------------

    วันที่ 18 ม.ค.61 RT พาดหัวข่าวว่า "Damascus warns it may shoot down Turkish planes attacking Kurds within Syrian borders"

    รัฐบาลซีเรียเตือนตุรกีอย่าได้บังอาจเริ่มแคมเปญจ์บอมบ์จังหวัด Afrin ของซีเรียเป็นอันขาด มิฉะนั้นเจอกับระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียแน่ หลังกรุงอังการาขู่ว่าจะดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในเมือง Afrin

    "เราขอเตือนผู้นำตุรกีว่า ถ้าพวกเขาเริ่มปฏิบัติการต่อสู้ในพื้นที่เมือง Afrin ซึ่งจะถูกพิจารณาว่าเป็นการรุกรานโดยกองทัพตุรกี ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียได้รับการฟื้นฟูเต็มกำลังแล้ว และก็พร้อมที่จะทำลายเป้าหมายทางอากาศของตุรกีในน่านฟ้าสาธารณรัฐซีเรียอาหรับด้วย ฝ่ายตุรกีควรจะรับรู้ไว้ด้วยว่านี่ไม่ใช่การไปปิ๊กนิ๊ก" นาย Faisal Meqdad (/Mikdad) รมช. ต่างประเทศของซีเรียกล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน (สำนักข่าว SANA ของรัฐบาลซีเรีย)

    นาย นาย Faisal Meqdad กล่าวต่ออีกว่า "ผมขอยืนยันและหวังว่าฝ่ายตุรกีจะตั้งใจฟัง และผมก็หวังว่าสารนี้จะชัดเจนต่อทุกคนที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เมือง Afrin พื้นที่ทางเหนือและทางตะวันออกเฉียงเหนือของสาธารณรับซีเรียอาหรับยังคงเป็นดินแดนของสาธารณรัฐซีเรียอาหรับเสมอ"

    ได้มีการเปิดเผยแถลงการณ์หลังจากเจ้าหน้าที่ของตุรกีขู่ว่าจะโจมตีกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดในพื้นที่ (Afrin) โดยอ้างว่าเพื่อขัดขวางการก่อตั้ง "กองกำลังรักษาชายแดน" ชาวเคิร์ดที่สหรัฐริเริ่มและหนุนหลังในพื้นที่เมือง Afrin ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งกรุงวอชิงตันประกาศว่ากองกำลังชุดนี้จะมีจำนวนประมาณ 30,000 คน กรุงอังการาเรียกกองกำลังกบฏเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐนี้ว่า "กองทัพผู้ก่อการร้าย" (terror army)

    [ปีที่แล้ว (2017) รัสเซียได้ส่งทหารของตนเองเข้าไปที่เมือง Afrin แห่งนี้ และสนับสนุนอาวุธให้กับกองกำลังชาวเคิร์ดท้องถิ่นสำหรับป้องกันตนเองจากพวกไอซิสและพวกกบฏ FSA เติมเงินและสมุนของตุรกีด้วย มีการฝึกการใช้อาวุธให้กับชาวเคิร์ด ตั้งแคมป์ทหารชั่วคราวขึ้นในเมืองแห่งนี้ นำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปแจกจ่ายชาวบ้านแถวนั้นพร้อมด้วยทีมแพทย์ทหาร ไม่มีข้อมูลว่าปัจจุบันนี้ทหารรัสเซียทั้งหน่วยรบพิเศษและสารวัตรทหารยังอยู่ในพื้นที่เมือง Afrin หรือไม่

    ทั้งสหรัฐและตุรกีต่างก็เล็งที่จะยึดครองเมืองแห่งนี้ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนตุรกี เป็นชุมชนชาวเคิร์ดกลุ่มน้อยที่ติดขาดจากเคิร์ดทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ตุรกีเสริมปืนใหญ่และขีปนาวุธโทมาฮ็อกตามแนวชายแดนของตนเองใกล้เมือง Afrin มีการยิงปืนใหญ่เข้าไปในดินแดนของซีเรียอยู่บ่อยครั้ง ส่วนสหรัฐเองก็เสริมอาวุธให้กับเคิร์ดอย่างเต็มที่ รวมทั้งจรวดต่อต้านอากาศยานแบบประทับบ่า (MANPADS) และจรวดต่อต้านรถถังด้วย

    แม้ว่าซีเรียจะไม่มี S-400 เป็นของตนเอง แต่ซีเรียก็มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ Pantsir-S1 (SA-22 Greyhound) ระยะใกล้ที่ทันสมัยของรัสเซียไว้ในครอบครองแล้วเช่นกัน นอกจากนี้แล้วซีเรียยังมี S-200, 9M311-1M Tunguska (SA-19), 9K37 Buk М1-2+Buk М2 (SA-11) และระบบอื่นๆอีกด้วย - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    19/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/news/416278-syria-turkey-planes-threat/
    https://www.sana.sy/?p=694642
    https://sana.sy/en/?p=124748
    https://www.rt.com/news/416316-afrin-turkey-offensive-kurds/
    https://sputniknews.com/military/201801161060779896-usa-manpads-syria-kurds-deal/
    https://sputniknews.com/middleeast/201801181060854221-syria-air-defence-turkey-aviation/
    https://sputniknews.com/middleeast/201801171060835048-turkey-syria-border-security-force/
    https://southfront.org/syrian-air-defense-force-and-its-pantsir-s1-systems/
    http://www.bbc.com/news/world-middle-east-42704542
    http://www.bbc.com/news/world-middle-east-42731227
    http://www.rudaw.net/english/analysis/10092017
    https://southfront.org/contradictory-reports-russian-deployment-afrin/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    บรรดานักการเมืองสหรัฐเตือน: หากโจมตีเกาหลีเหนือ (สหรัฐ) เจอหายนะครั้งใหญ่แน่ ไม่ควรเสี่ยง, ทำเนียบขาวขอเปิดช่องทางสื่อสารทางทหารกับกรุงเปียงยาง (ปอดหละสิ!)

    FB_IMG_1516368520520.jpg FB_IMG_1516368528998.jpg FB_IMG_1516368532520.jpg FB_IMG_1516368536218.jpg

    -------------

    วันที่ 18 ม.ค.61 Sputni พาดหัวข่าวว่า "บรรดาฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐได้เตือนว่าการโจมตีเกาหลีเหนืออาจจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายครั้งใหญ่ (ต่อสหรัฐ?)" (US Lawmakers Warn Any Strike Against DPRK Would Cause ‘Massive Casualties’)

    สมาชิกสภาคองเกรสพรรคเดโมแครทได้เตือนทำเนียบขาวว่า แม้ว่า "การโจมตีที่จำกัด" ต่อเกาหลีเหนือ ก็ดูเหมือนว่าจะนำไปสู่การทำสงครามเต็มรูปแบบ และก่อให้เกิดการบาดเจ็บสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมากได้ คำเตือนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐได้เตือนถึงการโจมตีในวงจำกัด หากกรุงเปียงยางไม่ยอมสลายอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง

    "ไม่มีการโจมตีที่จำกัดที่ว่านั้นหรอก ไม่ว่าคุณจะใช้ครูซมิสไซล์ติดหัวรบนิวเคลียร์หรือไม่ก็ตาม" ส.ว. Tammy Duckworth (D-IL) กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธนี้ "คุณจะเจอกับการบาดเจ็บสูญเสียชีวิตของผู้ที่ไม่ได้สู้รบ (พลเรือน) เป็นจำนวนมาก รวมทั้งการสูญเสียของทหารด้วย" (ส.ว. Tammy Duckworth ไม่ได้ระบุว่าการสูญเสียเหล่านั้นเป็นของฝ่ายไหน)

    "คนอเมริกันจำนวนมากยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้ และดิฉันก็ไม่คิดว่าท่านประธานาธิบดีจะเข้าใจด้วย ดูจากวิธีที่ท่านโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์" ส.ว. Tammy Duckworth กล่าว

    ส.ว. Tammy Duckworth และ ส.ส. Ruben Gallego (R-AZ) ได้เดินทางไปเยือนญีปุ่นและเกาหลีใต้เมื่อต้นเดือนมกราคมนี้ ทั้งสองท่านได้พบกับผู้นำทหารและพลเรือนจากทั้งสองประเทศ จากนั้นก็เดินทางกลับไปยังสหรัฐในวันอังคาร

    Ruben Gallego เดินหน้าผลักดันให้ใช้การทูตและการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ ไม่ใช่การทหาร "การลดความขัดแย้งในคำพูดเชิงยั่วยุและการกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์ จะช่วยได้มากทีเดียว รวมทั้งการเดินหน้ากดดันรัสเซียและจีนให้ดำเนินการคว่ำบาตรระบอบนั้น (เกาหลีเหนือ) ด้วย"

    เมื่อวันอังคารนี้ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐได้กล่าวในการตอบคำถามต่อผู้สื่อข่าวที่ถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะโจมตีแบบจำกัดหรือด้านยุทธศาสตร์ (นุก/นิวเคลียร์) ต่อเกาหลีเหนือ ว่า "เราทุกคนต้องมีความรอบคอบ และชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ การทดลองมิสไซล์ของเกาหลีเหนือ (ทำให้สหรัฐขี้หดตดหาย?) ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่รวดเร็วในโครงการนิวเคลียร์และมิสไซล์ของพวกเขา ผลก็คือทำให้สถานการณ์เข้าถึงจุดแตกหักเร็วขึ้น"

    [สหรัฐและพรรคพวกทดลองและพัฒนาได้ "เป็นความก้าวหน้า" แต่ถ้าเกาหลีเหนือทำบ้าง "ผิด!" มันเป็น "ความยุติธรรมแบบอเมริกัน"? - ผู้แปล]

    วันที่ 18 ม.ค. 61 Sputnik รายงานอีกว่า สหรัฐไม่เหลือหนทาง (has no road left) ที่จะผลักดันเกาหลีเหนือบรรลุข้อตกลงยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และระบบนำส่ง John Kelly หัวหน้าฝ่ายเสธ. แห่งทำเนียบขาวกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Fox News ของพรรครีพับลิกัน สหรัฐ เมื่อวันพุธนี้

    "มันตกไปอยู่บนตักของท่านประธานาธิบดีแล้วครับ" เสธ. John Kelly กล่าว [อะไรอยู่บนตักของทรัมป์หรือครับเสธ.จอห์น? "ปุ่มนุก" ของทรัมป์หรือเปล่าครับ? - ผู้แปล]

    เสธ. John Kelly กล่าวอีกว่า "เราได้เตะกระป๋องลงไปบนถนน เราจะต้องจัดการกับนายคนนั้น [คิมน้อยแห่งเกาหลีเหนือ] เขาไม่สามารถที่จะมีอาวุธปรมาณูสำหรับยิงได้ ซึ่งสามารถยิงมาถึงสหรัฐได้ รับไม่ได้ครับ"

    อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังคงเปิดช่องทางต่างๆให้กับเกาหลีเหนือ (ไม่ใช่เกาหลีเปิดให้สหรัฐหรอกหรือ?) หัวหน้าฝ่ายเสธ. ประจำทำเนียบขาวได้เน้นย้ำในการให้สัมภาษณ์ว่า "ยังมีช่องทางที่เปิดอยู่ แต่ผมขอที่จะไม่แสดงความคิดเห็น ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่พยายามช่วยหาทางออกให้ในที่นี้"

    [ก็แค่ละครอีกฉากหนึี่งของบรรดานักการเมืองและพวกสายเหยี่ยวของสหรัฐ พวกนี้เก่งเรื่องแบ่งกันเล่นบท "Good cop, Bad cop" ทั้งปลอบทั้งตบ ทั้งหลอกล่อ ทั้งข่มขู่ ไปในตัว ใครหลงคารมลิ้นสองแฉก็เจอแบบ "ซัดดัม" และ "กัดดาฟี่" สุดท้ายประเทศตนเองก็จะมีชะตาไม่ต่างจาก "อิรัค ลิเบีย ซีเรีย เยเมน และอัฟกานิสถาน" คิมน้อย ตระหนักถึงจุดนี้ดี และรู้จักนิสัยของสหรัฐเป็นอย่างดี ไม่มีทางที่จะหลงกลของสหรัฐเด็ดขาด - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    19/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/asia/201801181060866655-north-korea-preemptive-strike-casualties/
    https://sputniknews.com/us/201801181060844569-usa-korea-communication-kelly-trump/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    อินเดียโวประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธอัคนี-5 (Agni-V) สำหรับปล่อยนุกข้ามทวีป แม้ว่าจะเป็นการละเมิดมติ UNSC ก็ตาม สหรัฐ อียู นาโต้ ยูเอ็น เงียบกริ๊บ! (ต้องคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ!)

    FB_IMG_1516370377412.jpg FB_IMG_1516370382131.jpg FB_IMG_1516370385892.jpg FB_IMG_1516370389957.jpg

    -------------

    วันที่ 18 ม.ค.61 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "มิสไซล์สำหรับแบกนุกร้ายแรงที่สุดของอินเดียพุ่งเข้าเป้าในการทดลองก่อนใช้งานจริง" (India's Most Lethal Nuke Capable Missile Hits Bull's Eye in Pre-Induction Test)

    ขีปนาวุธวิถีโค้งข้ามทวีป Agni-V ซึ่งมีรัศมีทำการถึง 5,000 กิโลเมตร สามารถโจมตีเป้าหมายที่ไหนๆในเอเซีย และบางส่วนในแอฟฟริกาและยุโรปก็ได้ ขีปนาวุธรุ่นนี้ของอินเดียยาว 17 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร สามระดับ ใช้เชื้อเพลิงแข็ง สามารถบรรทุกหัวรบหนัก 1.5 ตัน น้ำหนักรวมทั้งหมด 50 ตัน

    รายงานข่าวจากกรุงนิวเดลีแจ้งว่า บรรดานักวิทยาศาสตร์ด้านความมั่นคงของอินเดียได้ประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธวิถีโค้ง Agni-V ภาคพื้นสู่ภาคพื้นข้ามทวีปที่มีศักยภาพในการบรรจุหัวรบนิวเคลียร์ ที่มีรัศมีทำการไกลที่สุดของประเทศ (ICBM) ก่อนนำไปประจำการจริง จากฐานทดลอง Abdul Kalam ของกองทัพ ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งเมือง Odisha ทางตะวันออกประเทศ การทดลองจัดขึ้นในเวลา 9.53 am ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อวันพฤหัสบดีนี้

    "ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของขีปนาวุธเวอร์ชั่น Agni V จะเป็นการกรุยทางไปสู่การเริ่มการผลิตและนำเขัาประจำการขีปนาวุธรุ่นนี้" แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคงของอินเดียกล่าวกับ Sputnik

    เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกล่าวในการทดลองปล่อยขีปนาวุธเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า มิสไซล์ได้พุ่งไปตามวิถียิงจรวดตามที่ระบุไว้ในตำรา สลัดมอเตอร์ทั้งสามส่วนออกในขั้นตอนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า พุ่งเข้าสู่อ่าวเบงกอล เรือรบทั้งสามลำ - ลำหนึ่งอยู่กลางทาง และอีกสองลำอยู่ในจุดปะทะเป้าหมายได้ติดตามขีปนาวุธ และประจักษ์พยานในเหตุการณ์สุดท้าย

    รายงานข่่าวแจ้งอีกว่า มิสไซล์ของอินเดียได้สร้างความขุ่นเคืองให้กับจีน เมื่ออินเดียประสบความสำเร็จในการทดลองปล่อยในเดือนธันวาคม 2016 จีนกล่าวว่า การทดลองดังกล่าวไม่เป็นไปตามกฎระเบียของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นการคุกคามเพื่อทำลายดุลอำนาจด้านภูมิรัฐศาสตร์เชิงยุทธศาสตร์ในเอเซียใต้

    มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1172 ซึ่งได้มีการรับร่างมติโดยเอกฉันท์ในปี 1998 หลังการทดลองระเบิดนิวเคลียร์โดยอินเดียและปากีสถาน ได้เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศหยุดการพัฒนาขีปนาวุธวิถีโค้งที่มีศักยภาพในการจัดส่งหัวรบนิวเคลียร์

    [อินเดียและปากีสถานหยุดพัฒนาไหม? ไม่หยุด! สหรัฐกับยูเอ็นว่าไงครับ? "แบะๆ ต้องคว่ำบาตรและกดดันเกาหลีเหนือ!" กล้าคว่ำบาตร "อินเดีย" ไหม? ไม่กล้า! อ้าว… ทำไมถึงสองมาตรฐานแบบนี้หละครับ? - ผู้แปล]

    ร่างมติของ UNSC ระบุว่า "ขอเรียกร้องให้อินเดียและปากีสถานหยุดโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองทันที หยุดการพัฒนาขีปนาวุธบอลลิสติกที่มีศักยภาพในการจัดส่งอาวุธนิวเคลียร์ และการผลิตส่วนประกอบใดๆสำหรับอาวุธนิวเคลียร์ คณะมนตรีฯ สนับสนุนให้ทุกประเทศป้องกันการส่งออกอุปกรณ์ วัสถุ หรือเทคโนโลยี ที่อาจจะใช้ในโครงการของประเทศเหล่านั้นสำหรับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หรือขีปนาวุธบอลลิสติกที่สามารถจัดส่งอาวุธเช่นนั้น"

    ปัจจุบันนี้อินเดียประจำการขีปนาวุธบอลลิสติกเวอร์ชั่น Agni-I, Agni-II and Agni-III ในกองทัพของตนเอง และจะประจำการเวอร์ชั่น Agni-IV และ Agni-V ในเร็วๆนี้ (ขีปนาวุธ Agni-V ICBM ของอินเดีย ยังห่างชั้นกับ Hwasong-14 และ Hwasong-15 ของคิมน้อยอีกมาก)

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    19/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/military/201801181060850252-india-tests-nuke-capable-missile/
    https://www.cnbc.com/2018/01/18/ind...uccessfully-tests-a-nuclear-capable-icbm.html
    https://tribune.com.pk/story/1611877/3-india-test-fires-agni-v-intercontinental-ballistic-missile/
    http://edition.cnn.com/2018/01/18/asia/india-icbm-tests/index.html
    https://en.wikipedia.org/wiki/Agni-V
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจนจิรา จันทรเสนา

    FB_IMG_1516370913573.jpg FB_IMG_1516370917811.jpg FB_IMG_1516370938346.jpg

    ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียถอดเสื้อผ้าลงแช่น้ำ ในทะเลสาบ"เซลิเกอร์" เพื่อฉลองวันเอพิฟานี ซึ่งเป็นเทศกาลของศาสนาคริสต์ นิกายออร์โธด็อกซ์ ท่ามกลางอุณหภูมิที่ติดลบเย็นยะเยือก -6°C

    rt_com
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Visudhi Punya
    นี่เป็นภาพขณะเกิดพายุทราย
    ซึ่งพัดพามาจาก #ซีเรีย
    เข้าปกคลุมเมือง #Mardin ในประเทศ #ตุรกี
    เมื่อวานนี้เอง

    พายุทรายเปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืนได้
    ภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น
    แล้วก็มืดนานมาก...

    ที่สำคัญคือแม้ประเทศของท่านไม่มีทราย
    ก็สามารถขนย้ายข้ามพรมแดน
    ไปใช้ปฏิบัติการยังพิกัดอื่นได้เช่นกัน
    เหมือนกรณีนี้นี่แหละนะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2018
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    IMG_8179.JPG IMG_8178.JPG IMG_8180.JPG IMG_8177.JPG

    เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.3 เม็กซิโก ในวันที่ 19 มกราคม 2561 เวลา 23:17:42 น. เวลาประเทศไทย สถานที่ 26.680°N 111.107°W ความลึก 10 กิโลเมตร


    M 6.3 - 77km NNE of Loreto, Mexico

    2018-01-19 16:17:42 UTC

    26.680°N 111.107°W 10.0 km depth


    https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000cl83#executive
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2018
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    อย่างที่คาดไว้เลย อินเดียทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป Agni-V ฮาวายและญี่ปุ่นแจ้งเตือนภัยผิดพลาดว่าถูกโจมตีด้วยมิสไซล์ CNN สำนักข่าวเน่าเบอร์หนึ่งของสหรัฐ ด่า "เกาหลีเหนือ"

    IMG_8181.JPG

    -------------

    ไปดูการรายงานข่าวของสำนักข่าว CNN ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐขนานนามให้ว่าเป็นสำนักข่าว "ลวงโลก/สำนักข่าวเท็จ" (Fake News) เบอร์หนึ่งของสหรัฐและของโลก เกี่ยวกับการทดลอง ICMB ครั้งล่าสุดของอินเดียบ้างนะครับ

    วันที่ 18 ม.ค.61 CNN พาดหัวข่าวว่า "การทดลอง ICBM เหมือนกับของอินเดียนั้น ต่างก็เป็นเรื่องปรกติ และคาดการณ์ได้ ดีค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น" (ICBM tests like India's are routine and expected. Well, most of them are.) [แต่ถ้าเกาหลีเหนือทดลอง มันจะพาดหัวข่าวแบบนี้ไหม? ไม่มีทาง! - ผู้แปล]

    ข่าวน้ำเน่าของ CNN แหลว่า... "หากโลกนี้ดูเหมือนจะเป็นฉากละครการทดลองขีปนาวุธบอลลิสติกยุคปลายที่ไม่มีที่สุดสุด ก็มีหลักฐานที่เพียงพอที่จะชี้ให้เห็นถึงประเทศที่มีกำลังทหารเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่างก็พากันขว้างปาจรวดข้ามท้องฟ้ากันใหญ่" ("นำโดยสหรัฐ" ทำไม CNN ถึงไม่พูดให้หมดหละ?)

    ลีลาการแหลย่อหน้าที่สองของ CNN "ตลอดปีที่ผ่านมา หลายประเทศได้รับความไว้วางใจในสนธิสัญญาระหว่างประเทศ - และบางประเทศก็ถูกแบนจากความพยายามเกี่ยวกับมิสไซล์ทุกชนิด - ต่างก็พากันทดลองบอลลิสติกมิสไซล์ของตนเอง"

    ประเทศล่าสุดที่เข้าร่วมการกวัดแกว่งการปล่อยขีปนาวุธก็คือ "อินเดีย" ซึี่งได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า "ประสบความสำเร็จในการทดลองยิงขีปนาุธวิถีโค้งข้ามทวีประยะไกลหนึ่งลูก (ICBM)" ผู้เชี่ยวชาญ (มันอุปโลกขึ้นมาเอง?) กล่าวว่า "อาวุธดังกล่าวสามารถที่จะไปถึงจีนได้ ซึ่งเป็นประเทศที่อินเดียกำลังทำศึกด้านเศรษฐกิจและการเมืองอยู่ในขณะนี้ สำหรับชิงความเป็นใหญ่ในภูมิภาค"

    CNN ดราม่าว่า "อย่างไรก็ตามบรรดาผู้เชี่ยวชาญ (เติมเงิน?) ทั้งหลาย ต่างก็พากันกล่าวว่า การทดลองมิสไซล์ลักษณะนี้เป็นเรื่องปรกติและคาดการณ์ได้ (routine and expected) สิ่งที่แตกต่างในวันนี้ก็คือ 'เกาหลีเหนือ' ประเทศเผด็จการลับแล (reclusive regime) ได้เหยียบคันเร่งเพื่อให้ถึงสถานด้านนิวเคลียร์ของตนเอง ปีที่แล้วเกาหลีเหนือได้เร่งเครื่องอย่างเต็มที่ ยิงมิสไซล์ถึง 23 ลูก ในการทดลอง 16 ครั้ง และการทดลองเหล่านั้นก็ดึงโลกเข้าใกล้โอกาสที่เป็นอันตรายจากการโจมตีด้วยมิสไซล์ติดนิวเคลียร์มากกว่าที่เคยมีมา"

    [เป็นไงเล่า ลีลาแหลได้โล่ห์ของสื่อสหรัฐเขาหละ? สิ่งที่ CNN/FNN ไม่กล้าที่จะเอ่ยถึงก็คือ สถิติการทดลองนุกและมิสไซล์ของสหรัฐ ปีที่แล้วสหรัฐยิงมิสไซล์ทั้งประเภทบอลลิสติกและครูซมิสไซล์กี่สิบ (หรือหลักร้อย) CNN กลับไม่พูดถึง เฉพาะการถล่มฐานทัพอากาศในซีเรียเมื่อปีที่แล้วภายใต้คำสั่งของปธน.ทรัมป์นั้น สหรัฐยิงขีปนาวุธนำวิถีโทมาฮ็อกถึง 59 ลูก ในซีเรีย อิรัค เยเมน โซมาเลีย และอัฟกานิสถานอีก นับไม่ถ้วน คนตายเพียบ ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน แต่ CNN ไม่กล้าบอกให้โลกได้รับรู้ความจริง การทดลองมิสไซล์ของเกาหลีเหนือไม่มีใครตายหรือได้รับบาดเจ็บซักคน สื่อและรัฐบาลสหรัฐรุมสับเกาหลีเหนือ - ผู้แปล]

    + กรณีการแจ้งเตือนภัยผิดพลาดและการกดปุ่มผิดพลาด
    CNN รายงานว่า "พลเมืองญี่ปุ่นต่างก็ตกอยู่ในการแจ้งเตือนภัยขั้นสูงเป็นส่วนใหญ่เมื่อปีที่แล้ว เมื่อสัปดาห์นี้ สถานีโทรทัศน์ NHK ของรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกคำแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนผ่านโทรศัพท์ ด้วย App ของ NHK ที่มีการติดตั้งในอุปกรณ์สื่อสารเหล่านั้น โดยแจ้งเตือนประชาชนว่า ดูเหมือนว่ากรุงเปียงยางได้ปล่อยขีปนาวุธลูกหนึ่งที่อาจจะมุ่งหน้ามาทางนี้ การทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในอดีตทะยานข้ามญี่ปุ่น และตกลงในน่านน้ำนอกชายฝั่งญี่ปุ่น" [เห็นไหม?... อย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า พวกมันจะต้องด่าและโทษเกาหลีเหนือ และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆด้วย - ผู้แปล]

    CNN กล่าวอีกว่า แต่ครั้งนี้ ได้มีคำสั่งให้ประชาชนลงใต้ดินเพื่อหลบภัยจากการโจมตีที่อาจจะเกิดขึ้น "เป็นความผิดพลาด" NHK ได้ออกแถลงการณ์ขออภัยออกอากาศภายในไม่กี่นาที (หลังจากแจ้งเตือนผิด) [ฟาดค่าคอมจากการส่ง SMS ทางมือถือไปเท่าไร NHK ไม่ได้เปิดเผย - ผู้แปล]

    CNN ได้พูดถึงกรณีเกิดความผิดพลาด (โดยตั้งใจ?) ที่ฮาวายด้วยว่า ไม่ใช่แค่นั้น สำหรับประชาชนที่อยู่บนเกาะฮาวาย เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ต่างก็พากันรีบเร่งหาที่กำบังหลังได้รับแจ้งสัญญาณเตือนภัยฉุกเฉินเกี่ยวกับ "ภัยคุกคามจากบอลลิสติกมิสไซล์" ที่กำลังมุ่งไปหา

    + ด่าเกาหลีเหนือ
    CNN รีบชี้นิ้วด่าเกาหลีเหนือทันทีจากความผิดพลาดของสหรัฐที่ฮาวาย ของญี่ปุ่น และการทดลอง ICBM ของอินเดียว่า เกาหลีเหนือได้คุยโวโอ้อวดว่าตนเองมีศักยภาพเพิ่มขึ้นในการที่จะ (ยิงมิสไซล์) ไปถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ (CNN ไม่บอกว่า ทรัมป์ขู่ว่าจะใช้ไฟบรรลัยกัลป์ทำลายล้างเกาหลีเหนือและคุยโวว่าปุ่มนุกของตนเองใหญ่กว่าของคิมน้อย) และภัยคุกคามก็ดูเหมือนจวนเจียนเข้ามาด้วย เนื่องจากประชาชนที่อยู่อาศัยบนเกาะฮาวายต่างก็พากันหาที่หลบภัยกันจ้าละหวั่นเป็นเวลาถึง 38 นาที ก่อนที่จะมีข้อความแจ้งเตือนอีกอันบอกกับทุกคนว่า ข้อความก่อนหน้านี้เป็นการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด

    "หากว่าการแจ้งเตือนนั้นเกิดขึ้นเมื่อซักหนึี่งปีที่แล้ว ปฏิกิริยาอาจจะเป็น: มีคนบ้าคนหนึ่งไปกดปุ่มผิด ก็ได้" นาย Steve Hildreth ผู้เชี่ยวชาญในโครงการความมั่นคงแห่งชาติด้านการต่างประเทศของสหรัฐดราม่า "แต่ ขณะนี้ ประชาชนต่างก็พากันเชื่อว่า เกาหลีเหนือมีความสามารถที่จะส่งมิสไซล์ไปถึงเกาะฮาวาย และนั่นก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด"

    [สันดานไอ้กัน! มันผายลมเอง แล้วก็รีบชี้นิ้วโวยวาวกล่าวหาคนอื่นทันที มีเยอะกว่านี้นะครับ แต่ขี้เกียจแปล เป็นข่าวดราม่าไร้สาระ แต่มันเป็นอาชีพและงานหลักของพวกเขา - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    19/01/2561
    ----------
    http://edition.cnn.com/2018/01/18/asia/india-ballistic-test-normal-intl/index.html
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ประชาธิปไตยบนปลายกระบอกปืน: "ใครกล้าลองดีกับประชาธิปไตยอเมริกัน เจอกองทัพสหรัฐแน่ รัสเซียกับจีนคือศัตรูแฝงของสหรัฐ" เจ้ากระทรวงสงครามสหรัฐแกว่งปากหาเท้า

    IMG_8182.JPG IMG_8183.JPG IMG_8184.JPG IMG_8185.JPG

    -------------

    วันที่ 19 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "'ร่วมงานกับเราทางการทูต หรือไม่ก็เจอกับกองทัพสหรัฐ' แม็ททิสเตือน เผยยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศฉบับใหม่" (‘Work with our diplomats or deal with US military’ Mattis warns, unveiling new defense strategy)

    สหรัฐจะเผชิญหน้ากับภัยคุกคามใดๆในโลกนี้ที่คิดจะลองดีกับประชาธิปไตยของอเมริกา หากมีความจำเป็นก็จะใช้อำนาจทางทหาร (ไม่ใช้ประชาธิปไตย?) Jim Mattis เจ้ากระทรวงสงครามของสหรัฐกล่าว และหยอดอีกว่า "รัสเซียและจีนเป็นศัตรูแฝง (potential adversaries) ต่อสหรัฐ"

    [ใครไม่ยอมก้มหัวให้มัน มันมองว่าเป็นศัตรูและภัยคุกคามหมดและ นั่นแหละ "ประชาธิปไตย/เสรีภาพ/ความเท่าเทียมกัน" แบบอเมริกันของแท้ - ผู้แปล]

    ในการเปิดเผยแผนยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศฉบับใหม่ของรัฐบาลทรัมป์ แม็ททิสกล่าวว่า จะพุ่งความสนใจหลักไปที่การป้องกันสหรัฐ ซึ่งเป็นการแข่งขันกับรัสเซียที่กำลังฟื้นฟูอำนาจ และจีนซึ่งต้องการที่จะใช้รูปแบบรัฐบาลเผด็จการกับประเทศอื่นๆ

    "เรากำลังเผชิญหน้ากับความวุ่นวายไม่เป็นระเบิยบทั่วโลก (ฝีมือใคร?) ซึ่งกำหนดคุณลักษณะได้จากการลดลงในระเบียบระหว่างประเทศที่อยู่บนกฎข้อบังคับที่มีมาอย่างยาวนาน - การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีความซับซ้อนมาก และเปลี่ยนแปลงง่ายกว่าที่เราเคยประสบมาในความทรงจำเมื่อเร็วๆนี้ การแข่งขันด้านยุทธศาตร์ระหว่างประเทศ ไม่ใช่ขบวนการก่อการร้าย ขณะนี้เป็นความกังวลหลักในด้านความปลอดภัยของสหรัฐ" แม็ททิสกล่าว และเผยแพร่ใน NDS ในเวลาเดียวกัน

    ["Mad Dog" เอ๊ย! พูดไปก็ยิ่งเป็นการระจานตัวเองให้โลกได้รับรู้มากขึ้น ประเทศไหนหละที่ไม่ยอมรับมติ UNSC และการออกเสียงแบบถล่มทะลายจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นเมื่อเร็วๆนี้ กรณีเยรูซาเลม? ไม่ใช่สหรัฐกับอิสราเอลหรอกหรือ? ไอ้พวกนี้มันเก่งเรื่องตีโวหารใช้วาทกรรมกล่าวหาและใส่ร้ายคนอื่น เพื่อโยนความผิดให้คนอื่น และเพื่อทำให้ตัวเองดูดี ในขณะที่อ้างประชาธิปไตย พร้อมกันนั้นเขาก็ขู่จะใช้กำลังทางหทารจัดการกับคู่แข่งซะงั้น รถถัง เรือรบ เครื่องบินรบ ต่างก็พากันสตาร์ทเครื่องกระหึ่มเชียว ประชาธิปไตยไหมหละ? - ผู้แปล]

    ยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ (ของสหรัฐ) กล่าวว่า "การผนวกรวมกลุ่มพันธมิตรและหุ้นส่วนที่เข้มแข็ง และสร้างความวอดวายได้มากขึ้น (more lethal) ฟื้นฟูสภาพ และกองทัพผสมที่ก่อตั้งขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยรักษาอิทธพลของอเมริกันให้ยั่งยืนได้"

    [ยุทธศาสตร์นี้ แปลง่ายๆว่า 1.) จะเล่นเกมหมาหมู่รุมกินโต๊ะหละนะ ดูจากการสุมหัวกัน 20 ประเทศที่แคนาดาในการวางแผนเตรียมอัดเกาหลีเหนือ มุกเดียวกับที่รวมหัวกัน 70 กว่าประเทศรุกรานซีเรีย โดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากยูเอ็นนั่นแหละ

    2.) หลอกใช้พวกประเทศขี้ข้าเหล่านั้นให้เป็นนักรบเดนตายแทนทหารอเมริกันในการวิ่งชนกับจีนและรัสเซีย หรือแม้กระทั่งกับเกาหลีเหนือ สหรัฐจะเป็นแม่ทัพใหญ่บัญชาการอยู่ข้างหลัง ใครยินดีตายแทนสหรัฐบ้ายกมือขึ้น?

    แต่ดูเหมือนว่าแม็ททิสจะลืมบทเรียนที่ "เวียตนาม" ไปแล้วนะ แพ้อย่างหมดรูป แต่ปากแข็งและไม่ยอมรับซะด้วย ก่อนเริ่มสงครามเวียตนาม แม้จะถล่มเกาหลีเหนือยับเยิน แต่ก็ไม่สามารถยึดเกาหลีได้ทั้งหมด จึงมีเกาหลีเหนืออยู่มาจนถึงทุกวันนี้ - ผู้แปล]

    Mad Dog ยังกล่าวอีกว่า "พวกไอซิสพ่ายแพ้ไปแล้ว (สหรัฐคงเสียใจมาก?) แต่องค์กรหัวรุนแรงสุดโต่งต่างๆ ซึ่งรวมทั้งพวกเฮชบอลเลาะห์ และอัลเคด้า (แก๊งนี้ สหรัฐตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "กบฏสายกลางซีเรีย" ได้รับการสนับสนุนเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากสหรัฐ และเป็นพันธมิตรร่วมรบร่วมอุดมการณ์ของพวกไอซิสด้วย) ยังคงเดินหน้าคุกคามต่ออเมริกา และก็เป็นความกังวลใจสำหรับกระทรวงกลาโหมด้วย"

    [จะไม่กังวลใจได้อย่างไร ในเมื่อรัสเซียบอมบ์พวกมันอยู่ทุกวันในซีเรีย ขนมาเท่าไรก็ตายห่าหมด และกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและพันธมิตรก็ไล่ยึดคืนพื้นที่ได้มากขึ้นเรื่อยๆด้วย - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/usa/416419-mattis-new-national-defense-strategy/
    https://sputniknews.com/us/201801191060892837-war-defense-strategy-mattis/
    https://www.defense.gov/Portals/1/Documents/pubs/2018-National-Defense-Strategy-Summary.pdf
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รมว.ต่างประเทศสหรัฐเมาน้ำลาย: เกาหลีเหนือกำลังจะอดตาย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายุทธศาสตร์ทางการทูตของสหรัฐได้ผล (ก๊าก!), สหรัฐมองว่า "คนเกาหลีเหนือไม่ใช่มนุษย์ที่ควรจะเห็นอกเห็นใจ"

    IMG_8186.JPG IMG_8187.JPG IMG_8188.JPG

    -------------

    วันที่ 19 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "เกาหลีเหนือที่จะกำลังจะอดตาย เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ยุทธศาสตร์ทางการทูตของสหรัฐทำงานได้ผล ทิลเลอร์สันละเมอ" (Dying North Koreans a sign US diplomatic strategy works, Tillerson says)

    สัญญาณของความอดอยากและความตายในเกาหลีเหนือได้บ่งชี้ว่า ยุทธศาสตร์ด้านการทูตของสหรัฐทำงานได้ดี เจ้ากระทรวง (แทรกแซง) ต่างประเทศของสหรัฐละเมอ วัตถุประสงค์ในตอนนี้ไม่ใช่ปล่อยให้กรุงเปียงยางสร้างความเห็นอกเห็นใจไปทั่วโลกสำหรับความฉิบหายจากการคว่ำบาตรที่เพิ่มขึ้น (การกดขี่ชาติที่อ่อนแอโดยมหาบ้าอำนาจอย่างสหรัฐ?)

    เห็นได้ชัดว่าคำอธิบายที่เปิดเผยโดยไม่คาดคิดของนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สันนั้น พิจารณาว่าความสำเร็จทางการทูตมาจากปากของเขาเองเมื่อวันพุธนี้ ในขณะที่เขากำลังสนทนากับ Condoleezza Rice อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐสมัยรัฐบาลบุช (ผู้ลูก)

    "ญี่ปุ่น… มีเรือประมงของเกาหลีเหนือถึง 100 กว่าลำ ซึ่งลอยลำเข้าไปในน่านน้ำของญี่ปุ่น สองในสามของประชาชนในเรือเหล่านั้นเสียชีวิต" ทิลเลอร์สันกล่าว โดยอ้างถึงคณะผู้แทนญี่ปุ่นที่เข้าร่วมการประชุมที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อต้นสัปดาห์นี้

    นายทิลเลอร์สันกำลังพูดถึงปรากฎการณ์ที่เรียกว่า "เรือผี" (ghost ships) จากเกาหลีเหนือ ซึ่งไปเกยตื้นที่ชายฝั่งญี่ปุ่นเป็นเวลาหลายปี สถิติที่บันทึกได้คือ 104 ลำตามที่ทางการญี่ปุ่นรายงาน โดยพบว่ามีชาวประมงราว 30 คนเสียชีวิตในขณะที่เรือเดินทางไปถึง (ญี่ปุ่น) ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ขอต่างก็ขอให้ส่งตัวพวกเขากลับไปยังประเทศของพวกเขา (เกาหลีเหนือ) และญี่ปุ่นก็ทำตามที่ผู้รอดชีวิตร้องขอ ดังนั้นทำไมการที่มีชาวเกาหลีเหนือหลายสิบคนเสียชีวิตถึงเป็นสัญญาที่ดี?

    [สหรัฐก็คงจะบอกอีกว่า การที่ทหารสหรัฐบอมบ์พลเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล บ้านเรือนประชาชน ในซีเรียและอิรัค จนมีพลเรือนเสียชีวิตหลายพันคนนั้น เป็น "สัญญาณที่ดี" และเป็น "สัญญาณบ่งบอกว่าการทูตแบบอเมริกันได้ผล" สินะ? - ผู้แปล]

    "[ชาวประมง] ถูกส่งออกมาในช่วงฤดูหนาวเพื่อจับปลา เนื่องจากอาหารขาดแคลน" ทิลเลอร์สันกล่าว

    [ถ้าสรุปแบบนั้น แสดงว่าทุกประเทศที่จับปลาในช่วงฤดูหนาวต่างก็ประสบปัญหาอาหารขาดแคลนทั้งหมดนะสิ? ที่จีนเพิ่งจะจัดเทศกาลจับปลาใต้น้ำแข็งในทะเลสาปในฤดูหนาวไปหยกๆ จีนขาดแคลนอาหารอย่างนั้นหรือ? พวกยุโรปและสหรัฐ รวมทั้งเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ไม่จับปลาในช่วงฤดูหนาวเลยหรือ? - ผู้แปล]

    ทิลเลอร์สันกล่าวอีกว่า "และพวกเขา (ชาวประมงเกาหลีเหนือ) ก็ถูกส่งออกไปจับปลาด้วยเชื้อเพลิงที่ไม่เพียงพอที่จะเดินทางกลับ ดังนั้นเราจึงมีหลักฐานมากมายที่ว่า [การคว่ำบาตร] เหล่านี้กำลังเริ่มจะทำร้ายพวกเขาได้จริงๆ"

    [การได้เห็นประชาชนของประเทศอื่นบาดเจ็บล้มตาย จากการกดขี่ของสหรัฐ เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของสหรัฐ? - ผู้แปล]

    รมว.ต่างประเทศสหรัฐอ้างว่า พวกผู้นำในกรุงเปียงยางจะต้องขอเจรจาเมื่อเผชิญกับความอดอยาก และการขาดแคลนเชื้อเพลิง...

    แล้วกรุงเปียงยางจะทำอย่างไรหละคราวนี้? ทิลเลอร์สันเชื่อว่า "ตำราก็คือ: โอเค เราจะก็จะเริ่มโปรยเสน่ห์ต่อโลกที่เหลือ และให้พวกเขาเห็นว่าเราก็เหมือนกับประชาชนคนธรรมดา (ที่ไม่ธรรมดา) ทั่วไป เราจะกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจบ้าง เรากำลังจะตอกลิ่มระหว่างเกาหลีใต้กับเหล่าพันธมิตรของพวกเขา" [สหรัฐกำลังหาทางลงให้ตัวเองว่างั้นเถอะ ที่ร่ายมาหนะ พูดเองเออเองทั้งนั้น - ผู้แปล]

    "แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ สหรัฐได้รับประกันโดยเกาหลีใต้ว่า พวกเขาจะไม่คิดว่าคนเกาหลีเหนือเป็น 'มนุษยชาติ' (human beings) ที่สมควรได้รับความเห็นอกเห็นใจ"

    [สมัยหนึ่งแนวคิดสุดโต่งนี้เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้ว บางคนบอกว่า "การฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่เป็นบาป" อันตรายมาก เมื่อมนุษย์บางคนมองว่าคนอื่นที่แตกต่างจากตนหรือคิดไม่เหมือนตน ไม่ใช่มนุษย์ - ผู้แปล]

    วันที่ 18 ม.ค. 61 RT นำเสนอรายงานพิเศษว่า สหรัฐจับกุมประชาชนที่ให้อาหารแก่ "คนไร้บ้าน (คนเร่ร่อน) ในที่สาธารณะ และปรับ $1,000 หรือจำคุก 6 เดือน หากฝ่าฝืน ปัจจุบันนี้ประชาชนชาวอเมริกันประมาณ 40 ล้านคนเป็นผู้ยากจน ชาวอเมริกันราว 500,000 แสนคนต้องนอนข้างถนนในเมืองใหญ่ๆหลายเมือง"

    [นี่ถือว่า เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า "ยุทธศาสตร์ด้านการทูตของสหรัฐกำลังได้ผล" ด้วยหรือเปล่า? ทิลเลอร์สันไม่ได้พูดถึง คิดเอาเอง แต่เชื่อว่า "บรรดาขี้ข้าอเมริกาที่เข้ามาเกรียนในเพจนี้และถูกถีบออกรายวันคงคิดไม่ได้"

    อีกอย่างหนึ่ง รมว.ต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า เกาหลีเหนือกำลังขาดแคลนเชื้อเพลิง มิน่าหละ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และใต้หวันถึงได้ลักลอบขายน้ำมันเถื่อนกลางทะเลสากลให้เกาหลีเหนือ จำได้หรือเปล่า? - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/usa/416354-tillerson-un-sanctions-north-korea/

    https://www.rt.com/news/416143-summit-north-korea-unilateral-sanctions/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สื่อเกาหลีเหนือขำ: อเมริกันแตกตื่นเป็น "โรคหลอนนิวเคลียร์" ของเกาหลีเหนือ แม้จะเห็นดาวตกในประเทศตนเองก็นึกว่ากำลังถูกโจมตีด้วยมิสไซล์ของคิมน้อย

    IMG_8190.JPG IMG_8191.JPG

    -------------

    ไปดูข่าวจากสื่อฝั่งเกาหลีเหนือที่จับตาดูความเป็นไปในสังคมอเมริกันบ้างนะครับ วันที่ 19 ม.ค. 61 KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือพาดหัวข่าวว่า "ชาวอเมริกันได้รับความทุกข์ร้อนจากโรคหลอนนิวเคลียร์" (Americans Suffer from Nuclear-phobia)

    ขณะนี้ โรค "นิวเคลียร์โฟเบีย" (หวาดผวา/หลอนนิวเคลียร์) จากกองทัพนิวเคลียร์ของ DPRK ได้ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในสหรัฐ

    เหตุการณ์นี้ได้จุดชนวนระเบิดเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับ "ลูกบอลไฟในท้องฟ้ายามค่ำคืน" ในเว็บไซต์อินเตอร์เน็ทของสหรัฐ บรรดาผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ทยอมรับว่า พวกเขารู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับอุกกาบาต ซึ่งสงสัยว่าอาจจะเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่บินไปจากเกาหลีเหนือก็ได้ (กรรม!)

    ผู้ใช้งานทวิตเตอร์คนหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า ขณะที่อุกกาบาตฉายแสงระหว่างรัฐโอไฮโอ้และรัฐมิชิแกน บรรดาผู้ใช้งานเครือข่ายอินเตอร์เน็ททั้งหมดต่างก็หวังว่า มันจะเป็นเพียงลูกอุกกาบาต ไม่ใช่มิสไซล์ของเกาหลีเหนือนะ (ฮ่าๆๆ)

    ส่วนผู้ใช้งานทวิตเตอร์อีกรายเขียนว่า มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่มองว่าอุกกาบาตเป็นระเบิดที่บินมาจากเกาหลีเหนือ และก็พากันรีบเหยียบคันเร่งรถด้วยความหวาดกลัว

    มีรายงานข่่าวแจ้งว่า ประชาชนจำนวนมากต่างพากันหวาดกลัวครั้งใหญ่เกี่วกับเหตุการณ์นี้ โดยคิดว่าอุกกาบาตดังกล่าวเป็นการโจมตีจากเกาหลีเหนือ

    มีคนหนึ่งพูดว่า รู้สึกผ่อนคลายลงเป็นอย่างมากที่ทราบว่าอุกกาบาตไม่ได้ผ่านน่านฟ้า (ที่ตนเองอยู่) เมื่อสุดสัปดาห์นี้ ในขณะที่มีการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการบินของระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง

    สิ่งที่น่าสังเวชมากก็คือ เกิดความวุ่นวายขึ้นในฮาวายเมื่อวันที่ 13 มกราคมนี้นี่เอง ในเวลา 08:07 น. บรรดาพลเมืองและนักท่องเที่ยวทั้งหลายบนเกาะฮาวาย ต่างก็ได้รับข้อความเดียวกันเกี่ยวกับการแจ้งเตือนภัยคุกคามจากขีปนาวุธบอลลิสติก ซึ่งเรียกร้องให้ประชาชนเหล่านั้นอพยพ เนื่องจากมีภัยคุกคามจากบอลลิสติกมิสไซล์ และเน้นย้ำด้วยว่ามันไม่ใช่การซ้อม

    พลเมืองและนักท่องเที่ยวเกิดความระส่ำระส่าย วุ่นวายกับการอพยพ ท่ามกลางความหวาดกลัวที่พุ่งขึ้น และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการประหัตปะรหารจากกองทัพนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

    สิ่งที่น่าขันที่สุดก็คือ คณะกรรมการด้านโทรคมนาคมของรัฐบาลกลางสหรัฐ กลับระบุว่าการเตือนภัยให้อพยพจากการโจมตีด้วยบอลลิสติกมิสไซล์ ซึ่งทำให้ทั่วทั้งเกาะฮาวายตกอยู่ในความโกลาหนครั้งใหญ่ เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของชายคนหนึ่งที่ไปกดปุ่มแจ้งเตือนระหว่างการเปลี่ยนกะ

    ปฏิกิริยาสะท้อนกลับภาคปฏิบัติก็คือ มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ที่ทั่วทั้งรัฐต่างก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว เนื่องจากพลเมืองและนักท่องเที่ยวถูกป้อนด้วยข้อความเตือนภัย ซึ่งจริงจังเหมือนกับการแจ้งเตือนว่า "มีขีปนาวุธใกล้เข้ามาจริงๆ" ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาที่น่าสยดสยองที่สุดในชีวิต

    เมื่อไม่กี่วันมานี้ กองทัพสหรัฐในเกาหลีใต้และครอบครัวของพวกเขาได้รับแจ้งให้ออกจากเกาหลีใต้ โดยข้อความที่ส่งผ่านโทรศัพท์มือถือหรือออกอากาศ ซึ่งทำให้พวกเขาสับสนวุ่นวายอยู่ในความหวาดกลัวว่าสงครามอาจจะปะทุขึ้น ในสหรัฐนั้นประชาชนต่างก็พากันหวาดกลัวสุดขีด พร้อมกับมีการซื้ออาหารไปแช่แข็งเอาไว้ด้วย ซื้อหน้ากากกันแก๊สพิษ และสินค้าอื่นๆ สำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน เหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดทุกข์ยากที่ชาวอเมริกันประสบจากโรคสงครามหลอกหลอน

    ความวุ่นวายอย่างต่อเนื่องในสหรัฐและความหวาดกลัวที่เกิดจากแม้กระทั่งปรากฎการทางธรรมชาติ ถูกมองด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นจรวดจากเกาหลีเหนือนั้น เป็นผลลัพธ์โดยธรรมชาติของการกระทำที่ดำเนินการโดยสหรัฐเองนั่นแหละ - จบข่าว

    วันที่ 17 ม.ค. 61 RT รายงานว่า ชาวฮาวายหลายพันคนปลดปล่อยความวิตกกังวลของตนเองด้วยการดูหนังโป๊ (watching porn) หลังจากมีการแจ้งเตือนภัยเกี่ยวกับขีปนาวุธบอลลิสติกเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ต่อมามีการแก้ข่าวว่าเป็นการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด ข้อมูลจาก Pornhub เครือข่ายเว็บโป๊ชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดในอินเตอร์เน็ท เซอร์ฟเวอร์อยู่ที่สหรัฐและอังกฤษ เผย (อเมริกันพากันดูหนังโป๊คลายเครียด หลังถูกหลอกว่าถูกโจมตีด้วย ICBM จากเกาหลีเหนือ)

    [มันบ้า! อินเดียทดลองขีปนาวุธข้ามทวีป มันก็ด่าเกาหลีเหนือ, สหรัฐและญี่ปุ่นแจังเตือนภัยผิดพลาด มันก็ด่าเกาหลีเหนือ อุกกาบาตตกในประเทศตนเอง มันก็ด่าเกาหลีเหนือ ถ้าประธานาธิบดีของมันเกิดเป็นโรคนกเขาไม่ขันขึ้นมา มันก็คงจะโทษเกาหลีเหนืออีกหละ - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/01/2561
    ----------
    https://kcnawatch.co/newstream/1516370507-18563196/americans-suffer-from-nuclear-phobia/
    https://www.rt.com/usa/416229-pornhub-traffic-surge-hawaii-ballistic-threat/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    อีกเสี้ยวหนึ่งของประชาธิปไตยและเสรีภาพแบบอเมริกา: "ถ้าพบเด็กผิวดำสูบกัญชาก็ยิงทิ้งได้เลย ถ้าแม่มันสวยก็เล่นหล่อนซะ ถ้าพ่อมันหล่อก็บังคับให้อมนกเขาคุณ ถ้าพ่อมันเป็นคนผิวดำ ก็ยิงทิ้งซะ"

    IMG_8193.JPG

    -----------

    อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.เมือง Prospect รัฐเคนตั๊กกี้ของสหรัฐ แนะนำให้ยิงเยาวชนผิวดำที่สูบกัญชา และให้มีเซ็กซ์กับแม่ของเด็กเหล่านั้นด้วย หากพบว่าน่าสนใจ (เวรหละ!)

    ในขณะที่กำลังในสัมภาษณ์กับตำรวจใหม่ที่เขียนในกระดาษเกี่ยวกับ "ทำในสิ่งที่ถูกต้อง" (the right thing to do) Todd Shaw อดีตผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจเมือง Prospect รัฐ Kentucky ถูกตั้งคำถามว่า จะให้ทำอย่างไรถ้าเจอกับเยาวชนสูบกัญชา

    "ถ้าเป็นคนผิวดำ ก็ยิงแม่มทิ้งเลยสิ" (If black, shoot them.) Todd Shaw กล่าว

    "เรียกผู้ปกครองของพวกมันมา... ถ้าแม่สวยเซ็กซี่ ก็ F*ck หล่อนด้วยเลย... ถ้าพ่อของเขาหล่อ จากนั้นก็ใส่กุญแจมือเขาซะ และบังคับให้เขาอมนกเขาของคุณ... ยกเว้นพ่อจะเป็นคนผิวดำ งั้นก็ยิงแม่มทิ้งเลย" Mike O’Connell เขียนในรายงานที่ส่งถึงหัวหน้าสำนักกฎหมาย Jefferson คันทรี ที่ส่งต่อไปยังนายกเทศมนตรีเมือง Prospect (อ้างคำพูดของ Todd Shaw ) สำนักข่าว WDRB รายงาน
    https://www.rt.com/usa/416452-police-chief-says-shoot-black-kids/

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/usa/416452-police-chief-says-shoot-black-kids/
    http://www.wdrb.com/story/37305301/...chief-told-lmpd-recruit-to-shoot-black-people
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สื่อหรือขบวนการก่อการร้าย?: มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมอเมริกันวันนี้... นักข่าวโทรทัศน์หลายคนถูกจับเนื่องจากลักลอบขนระเบิดปลอมเข้าไปในสนามบินนานาชาตินูอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซี่

    IMG_8194.JPG IMG_8195.JPG IMG_8196.JPG IMG_8197.JPG

    -----------

    วันที่ 20 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "ทีมงานนักข่าวทีวีถูกจับกุมในการลักลอบขนระเบิดปลอมผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานเข้าไปในสนามบินนูอาร์ก" (TV crew arrested smuggling fake bomb past TSA in Newark)

    ทีมงานทีวีหลายคนถูกจับกุมหลังจากพยายามลักลอบนำวัตถุระเบิดปลอมผ่านเข้าไปในสนามบินนานาชาตินูอาร์ก เพื่อตรวจสอบการตรวจจับจากเครื่องสแกน และเกิดความโกลาหนครั้งใหญ่เนื่องจากหวาดกลัวระเบิดที่กล้องตรวจพบ

    Lisa Farbstein โฆษกหญิง ฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานกล่าวในแถลงการณ์ว่า สมาชิกสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งจำนวน 9 คนถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ หลังจกาเจ้าหน้าที่ TSA ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยในกระเป๋าใบหนึ่งที่พวกเขาถือไป

    Lisa Farbstein กล่าวอีกว่า พนักงานทีวีคนที่ถืออุปกรณ์ (ระเบิดปลอม) มีอุปกรณ์ทั้งหมดสำหรับทำระเบิดชนิดประกอบเอง

    ผู้ต้องสงสัยล้มเหลวที่จะผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยที่สนามบินนานาชาตินูอาร์กในรัฐนิวเจอร์ซี่ และก็ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนามบินในหลายข้อหา

    ทีมงานทีวีที่ถูกจับกุมกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกเขากำลังทำงานให้กับรายการโชว์ของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง และต้องการที่จะดูว่า หนึ่งในกลุ่มของพวกเขาสามารถที่จะนำอุปกรณ์เหล่านั้นผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปได้หรือไม่ ในขณะที่คนอื่นๆแอบถ่ายภาพวีดีโอขณะดำเนินการ

    รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทีมงานเหล่านั้นทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์ CNBC (ของสหรัฐ) ในรายการโชว์ที่มีชื่อว่า "Staten Island Hustle" และต้องการที่จะบันทึกปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่ TSA เมื่อตรวจพบระเบิด รวมทั้งความหวาดกลัวตื่นตระหนกที่เกิดจากระเบิด แหล่งข่าวกับกับ New York Daily News

    ต้นเดือนพฤศจิกายน 2017 มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน ล้มเหลวถึง 80% ในการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัย (จึงนำไปสู่การเล่นลองของหละมั๊ง?)

    ป.ล. จะโทษว่าเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือ หรือ รัสเซีย อีกหรือเปล่านี่ คิมน้อยไม่ได้กล่าว

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/usa/416457-newark-fake-bomb-film-crew/
    http://www.nydailynews.com/new-york/tv-film-crew-busted-fake-bomb-newark-airport-article-1.3765467
    https://www.rt.com/usa/409298-tsa-hearing-disturbing-fail/
    https://www.washingtonpost.com/news...ecurity-it-didnt-work/?utm_term=.d5efc50ad94a
    http://www.cleveland.com/nation/index.ssf/2018/01/tv_crew_arrested_accused_of_br.html
    http://www.nydailynews.com/new-york/tv-film-crew-busted-fake-bomb-newark-airport-article-1.3765467
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ญี่ปุ่นงัดหลักฐานตบหน้านาวิกโยธินสหรัฐหลังปากแข็งปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินข้ามโรงเรียนเด็ก แต่มีเด็กได้รับบาดเจ็บจากชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์กองทัพสหรัฐตกใส่ (ของเกาหลีเหนือมั๊ง?)

    IMG_8198.JPG IMG_8199.JPG IMG_8200.JPG IMG_8201.JPG IMG_8202.JPG

    -----------

    วันที่ 20 ม.ค. 61 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "ญี่ปุ่นเปิดเผยคลิปแสดงช็อปเปอร์นาวิกโยธินสหรัฐบินเหนือโรงเรียนเด็กประถม" (Japan Releases Footage Showing US Marine Choppers Flew Over Elementary School)

    สื่อออนไลส์สายทหารบางสำนัก (Stars and Stripes) ของสหรัฐพาดหัวข่าวว่า "ว้ายยยย! ยุ่นกล่าวหากองทัพสหรัฐบินเหนือโรงเรียนที่มีหน้าต่างเฮลิคอปเตอร์ตกใส่" (Japan accuses US military of flying over school where helicopter window fell)

    สื่อรัสเซียรายงานว่า เมื่อวันศุกร์นี้ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเซ็งกับการปฏิเสธของนาวิโยธินสหรัฐที่ว่าบุคคลากรของตนเองไม่ได้บินเฮลิคอปเตอร์ข้ามโรงเรียนประถมในเกาะโอกินาวา ดังนั้นจึงเผยแพร่คลิปวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อพิสูจน์ [นั่น! บินเป็นฝูงเชียว เฮลิคอปเตอร์ของสุนัขตัวไหน? ของเกาหลีเหนือหรือไง? ญี่ปุ่นไม่ได้กล่าว - ผู้แปล]

    รายงานข่าวเปิดเผยว่า คลิปวีดีโอที่บันทึกได้โดยกล้องรักษาความปลอดภัยเมื่อวันพฤหัสบดีนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1 สองลำ และเฮลิคอปเตอร์หลากบทบาท UH-1 อีกหนึ่งลำ กำลังบินอยู่ในท้องฟ้าเหนือโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ที่บรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวก่อนหน้านี้ว่าจะหลีกเลี่ยง

    การตัดสินใจที่จะทำให้พื้นที่ดังกล่าวปลอดการบิน เกิดขึ้นหลังจากมีเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งอายุ 10 ขวบได้รับบาดเจ็บ เมื่อหน้าต่างของเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งหล่นลงใส่ในพื้นที่สนามเด็กเล่น ในโรงเรียนประถมศึกษา Futenma No. 2 ในเมือง Ginowan (เมื่อปลายปีที่แล้ว)

    ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ (ญี่ปุ่น) ได้ตำหนิฐานทัพของสหรัฐใน Futenma หลังจากที่พวกเขา (กองทัพสหรัฐ) ปฏิเสธข้อกล่่าวหา โดยอ้างว่า จากการสัมภาษณ์บุคคลากร (ของตนเอง) และข้อมูลจากเรดาร์ ไม่ได้พิสูจน์ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาเลย กระทรวงปฏิเสธที่จะเผยแพร่คลิปจากกล้องรักษาความปลอดภัย

    [ไม่แปลกหรอกที่เรือพิฆาตของสหรัฐ ซึ่งอ้างว่าติดตั้งระบบเรดาร์แบบสเตลท์ที่ทันสมัย ชนกับเรือพาณิชย์ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็คงจะมีสาเหตุมาจากเรดาร์ของสหรัฐตรวจไม่พบนั่นเอง

    แล้วไอ้หน้าต่างเฮลิคอปเตอร์ทหารมันตกใส่เด็กนักเรียนในโรงเรียนได้อย่างไร? อเมริกาอาจจะแถว่า ญี่ปุ่นสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเองเพื่อใส่ร้ายพระเอกหนังฮอลลีวูดหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่สงสัยเกาหลีเหนือ จีน หรือรัสเซียโน่น มาสงสัยสหรัฐพันธมิตรของญี่ปุ่นได้อย่างไร เดี๋ยวก็ไม่ให้ใช้เฟซบุคของสหรัฐซะนี่ รมว.กลาโหมสหรัฐเพิ่งจะแถลงยุทธศาสตร์ด้านการทหารของสหรัฐฉบับใหม่ไปหยกๆว่า "ใครที่บังอาจท้าทายอำนาจประชาธิปไตขของอเมริกา ระวังเจอกองทัพสหรัฐบดขยี้นะเฟ้ย" เป็นขี้ข้า ก็ต้องก้มหน้าก้มตารับใช้เจ้านายต่อไป กล้าดีอย่างไรงัดหลักฐานมาแฉเจ้าประเทศเจ้าของเฟซบุคและยูทูป? (พูดแบบขี้ข้าอเมริกาที่เข้ามาเกรียนในเพจนี้) - ผู้แปล]

    "ก็อย่างที่คุณได้เห็นจากคลิปวีดีโอที่เรามีอยู่นี่แหละ มองเห็นท้องของเฮลิคอปเตอร์หลายลำขณะที่มันกำลังบิน" นาย Itsunori Onodera รมว.กลาโหมญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน "แน่นอนครับ เด็กๆ คุณครู และบรรดาผู้ปกครองต่างก็พากันวิตกกังวล นี่เป็นการบินที่พวกเราไม่ต้องการที่จะเห็น"

    นาย Takeshi Onaga ผู้ว่าฯ จังหวัดโอกินาวาเรียกการบินข้ามโรงเรียนว่า "ไม่รักษาสัญญา" (broken promise) และว่า "เป็นการกระทำที่อุกอาจโดยสิ้นเชิง"

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    20/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/asia/201801...o-footage-of-us-military-flyover-near-school/
    https://www.japantimes.co.jp/news/2...nsion-u-s-military-flights-schools-hospitals/
    https://www.rt.com/news/413874-okinawa-us-flights-suspension/
    https://www.rt.com/news/412999-us-okinawa-anger-japan/
    https://www.rt.com/news/412929-child-injured-us-helicopter-okinawa/
    http://edition.cnn.com/2017/12/13/asia/helicopter-window-japan-intl/index.html
    http://edition.cnn.com/2017/12/13/asia/helicopter-window-japan-intl/index.html




     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สหรัฐฯ “ชัตดาวน์” ปิดหน่วยงานรัฐอีกรอบ หลังคองเกรสล้มเหลวโหวตร่างงบประมาณ
    เผยแพร่: 20 ม.ค. 2561 14:54:00 ปรับปรุง: 21 ม.ค. 2561 09:22:00 โดย: MGR Online
    561000000660002.jpg
    รอยเตอร์ - สหรัฐฯ เผชิญวิกฤต “ชัตดาวน์” ปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางอีกครั้ง หลังสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันซึ่งมีความเห็นแตกแยกกันในประเด็นผู้อพยพไม่สามารถเจรจาผ่านร่างงบประมาณได้สำเร็จ จนกระทั่งผ่านพ้นเส้นตายในเวลา 24.00 น.ของวันศุกร์ (19 ม.ค.)

    วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้มีมติคัดค้านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวซึ่งจะขยายวงเงินอุดหนุนหน่วยงานของรัฐไปจนถึงวันที่ 16 ก.พ. โดยการผ่านร่างกฎหมายจำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนขั้นต่ำ 60 เสียงจากสมาชิกวุฒิสภา 100 คน แต่ปรากฏว่ามีผู้ยกมือสนับสนุนเพียง 50 เสียง

    ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนนโหวต 230 ต่อ 197 เสียงไปเมื่อวันพฤหัสบดี (18) และพรรครีพับลิกันจำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.เดโมแครตอย่างน้อย 10 คนเพื่อให้ร่างกฎหมายผ่านวุฒิสภา แต่ผลปรากฏว่ามี ส.ว.เดโมแครตยกมือสนับสนุนเพียงแค่ 5 คน ขณะที่ ส.ว.รีพับลิกันอีก 5 คนโหวตคัดค้าน

    ส.ว.เดโมแครตส่วนใหญ่โหวตคัดค้านร่างกฎหมายนี้ หลังพยายามต่อรองให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตรการคุ้มครองเยาวชนที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายหรือ “ดรีมเมอร์” แต่ไม่สำเร็จ

    การเจรจาที่ล้มเหลวในนาทีสุดท้ายระหว่าง มิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำ ส.ว.รีพับลิกันเสียงข้างมาก กับ ชัค ชูเมอร์ แกนนำ ส.ว.เดโมแครตเสียงข้างน้อย ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องปิดตัวลงชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ (20 ม.ค.) ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1 ปีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่งพอดิบพอดี

    ทรัมป์ ออกมากล่าวโทษทันทีว่าวิกฤต “ชัตดาวน์” ครั้งนี้เป็นความผิดของพรรคเดโมแครต

    “ค่ำคืนนี้พวกเขาเห็นการเมืองสำคัญกว่าความมั่นคงของชาติ ครอบครัวทหาร เด็กๆ ที่อ่อนแอ และศักยภาพของสหรัฐฯ ในการดูแลรับใช้ชาวอเมริกันทุกคน” ถ้อยแถลงจากทำเนียบขาว ระบุ

    รัฐบาลสหรัฐฯ ยังประกาศจะไม่ยอมเจรจาเรื่องผู้อพยพดรีมเมอร์ จนกว่าหน่วยงานรัฐจะเปิดทำการได้ตามปกติ

    “เราจะไม่เจรจาเรื่องสถานะของผู้อพยพผิดกฎหมาย ตราบใดที่พรรคเดโมแครตยังจับพลเมืองสหรัฐฯ เป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องอย่างขาดสติ นี่คือการกระทำของพวกขี้แพ้ชวนตี ไม่ใช่ผู้บัญญัติกฎหมาย”
    561000000660004.jpg
    ด้าน ส.ว.ชูเมอร์ ก็ชี้นิ้วโยนความผิดกลับไปให้ประธานาธิบดี ทรัมป์ เช่นกัน

    “ดูเหมือนคุณอยากให้เกิดชัตดาวน์เสียเต็มประดา ตอนนี้มันก็เกิดขึ้นแล้ว และประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องรับผิดไปคนเดียวเต็มๆ”

    เมื่อเกิดภาวะชัตดาวน์ หน่วยงานรัฐบาลกลางทั่วสหรัฐฯ จะไม่สามารถดำเนินงานต่อได้เนื่องจากขาดงบประมาณ และพนักงานรัฐ “ที่ไม่จำเป็น” (non-essential) หลายแสนคนจะต้องถูกพักงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ส่วนพนักงานที่ “จำเป็น” (essential) ซึ่งหมายถึงเจ้าหน้าที่ซึ่งดูแลเรื่องความปลอดภัยสาธารณะและความมั่นคงของชาติจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ รวมถึงทหารกว่า 1.3 ล้านนายที่จำเป็นต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง จนกว่าร่างงบประมาณจะผ่าน หรือมีกฎหมายอื่นๆ มารองรับ

    พรรคเดโมแครตเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการคุ้มครองผู้อพยพดรีมเมอร์ 700,000 คนไม่ให้ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ แต่ฝ่ายผู้นำรีพับลิกันไม่ยินยอม และต่างฝ่ายต่างก็ปฏิเสธจะผ่อนปรนในประเด็นนี้

    อย่างไรก็ตาม แมคคอนเนลล์ และ ชูเมอร์ ยืนยันว่าพวกเขาจะพยายามแสวงหาข้อตกลง และผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

    สัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ ได้ออกมาปฏิเสธร่างข้อเสนอของทั้ง 2 พรรค โดยยื่นคำขาดว่ากฎหมายใดๆ ก็ตามที่ปกป้องผู้อพยพดรีมเมอร์ก็จะต้องจัดสรรงบสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกด้วย

    ชูเมอร์ ได้เข้าพบ ทรัมป์ เมื่อบ่ายวันศุกร์ (19) โดยยินยอมที่จะพ่วงงบอุดหนุนสร้างกำแพงเอาไว้ในการเจรจาด้วย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ ทรัมป์ ยอมประประนีประนอม

    แม้การปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งก่อนๆ จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาวมากนัก แต่ก็ทำให้ตลาดการเงินปั่นป่วนไม่น้อย

    https://mgronline.com/around/detail/9610000006353
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัฐบาลซีเรียประณามกองทัพตุรกีถล่มเคิร์ดสมุนสหรัฐในเมือง Afrin ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ทั้งด้วยปืนใหญ่และเครื่องบินรบ F-16, รัสเซียไม่ขอยุ่งเกี่ยว นั่งบนภูดูหมากัดกันสนุกกว่าเยอะ

    FB_IMG_1516580903506.jpg FB_IMG_1516580912201.jpg FB_IMG_1516580916407.jpg FB_IMG_1516580921077.jpg FB_IMG_1516580924275.jpg FB_IMG_1516580927475.jpg

    ------------

    1.) วันที่ 20 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินตุรกีทิ้งระเบิดถล่มเป้าหมายเคิร์ดในซีเรีย ส่งกบฏที่กรุงอังการาหนุนหลังเข้าไปในเมือง Afrin (วีดีโอ)" (Turkish planes bomb Syrian Kurdish targets as Ankara-backed rebels enter Afrin (VIDEOS))

    อากาศยานของตุรกีได้ทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายที่เป็นกองกำลังชาวเคิร์ดในเมือง Afrin ประเทศซีเรีย นายกรัฐมนตรีของตุรกีแถลง พวกนักรบเติมเงินในนามของ "กบฏฝ่ายค้านซีเรีย" ที่ได้รับการหนุนหลังโดยตุรกี (ทหารรับจ้างเดนตายของตุรกี) เคลื่อนกำลังเข้าปิดล้อมเคิร์ด สื่อของรัฐบาลตุรกีรายงาน

    "กองทัพ TSK (Turkish Armed Forces) ได้เริ่มปฏิบัติการทางอากาศแล้ว" นาย Binali Yildirim นายกรัฐมนตรีของตุรกีกล่าวในที่ประชุมพรรคเมื่อวันเสาร์นี้ อ้างคำพูดโดยสำนักข่าว Hurriyet ของตุรกี และกล่าวอีกว่า อากาศยาน F-16 แปดลำได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการทางอากาศในครั้งนี้

    "ในเวลานี้ กองทัพที่กล้าหาญของเราได้เริ่มการรุกทางอากาศเพื่อกำจัดพวก PYD และ PKK และแนวร่วม [IS] ในเมือง Aftin" นาย Binali Yildirim กล่าว

    เสนาธิการใหญ่ของกองทัพตุรกีประกาศเริ่ม "ปฏิบัติการ Olive Branch" อย่างเป็นทางการ ผ่านแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดย หนังสือพิมพ์ Sol ของตุรกี

    เครื่องบินรบ (F-16) ของตุรกีได้โจมตีฐานทัพอากาศ Mannagh ของทหารในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด สำนักข่าว Anadolu Agency ของรัฐบาลตุรกีรายงาน โดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ในกองทัพที่กล่าวว่า จนบัดนี้เครื่องบินรบหลายลำได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธเชาวเคิร์ดในซีเรียที่เมือง Afrin ไปแล้วถึง 108 เป้าหมาย จากทั้งหมด 113 เป้าหมาย

    [ฐานทัพอากาศ Mannagh (/Menagh) แห่งนี้เดิมทีเป็นของกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ในปี 2012 ถูกกลุ่มกบฏฝ่ายต่างๆและพวกไอซิสบุกและยึดไป ต่อมา ตกอยู่ในการครอบครองของไอซิสฝ่ายเดียว จากนั้น เดือนสิงหาคมปี 2013 กองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดก็ถล่มไอซิสที่ฐานทัพแห่งนี้ ยึดครองมาได้จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดตุรกีก็ส่ง F-16 ไปบอมบ์เคิร์ดที่ฐานทัพอากาศแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนของตุรกีเพียง 13 กิโลเมตร - ผู้แปล]

    สื่อตุรกีรายงานว่า กรุงอังการาได้แจ้งให้กรุงดามัสกัสและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบเกี่ยวกับการรุกในครั้งนี้ที่เมือง Afrin โดยการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร

    แต่กรุงดามัสกัสปฏิเสธว่า ไม่เคยได้รับการแจ้งเตือนตามที่ตุรกีกล่าวอ้าง "สาธารณรัฐซีเรียอาหรับขอประณามการรุกรานโดยตุรกีที่เมือง Afrin ซึ่งเป็นดินแดนที่แยกออกจากซีเรียอย่างถึงที่สุด" แถลงการณ์กล่าว อ้างโดยสำนักข่าว SANA ของรัฐบาลซีเรีย Sputnik รายงาน

    "ซีเรียประเสธข้อกล่าวอ้างของรัฐบาลเผด็จการตุรกี (Turkish regime) โดยสิ้นเชิง ที่ระบุว่าตนเองได้แจ้งให้ทราบถึงปฏิบัติการทางทหาร" แหล่งข่าวจากกระทรวงต่างประเทศของซีเรียกล่าวกับสำนักข่าว SANA

    รายงานข่าวเปิดเผยว่า ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพตุรกีในซีเรียครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่กองทัพสหรัฐประกาศว่าจะจัดตั้งและฝึกกองกำลังรักษาชายแดนชาวเคิร์ดขึ้นมาในซีเรีย ซึ่งทั้งฝ่ายซีเรีย ตุรกี และรัสเซีย ต่างก็คัดค้านแนวคิดนี้

    วันที่ 19 มกราคม มีรายงานข่าวแจ้งว่า กองทัพรัสเซียถอนกำลังออกจาก Afrin แล้ว คาดว่าเพื่อเปิดทางให้เครื่องบินรบและกองกำลังของตุรกีเข้าไปจัดการกับเคิร์ดที่สหรัฐหนุนหลัง ต่อมารัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียปฏิเสธข่าวดังกล่าว

    วันที่ 20 มกราคม TASS รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองทัพรัสเซียได้ย้ายการประจำการ (re-deployed) จากเมือง Afrin หลังจากตุรกีเปิดฉากบุก

    กลุ่มปฏิบัติการของกองทัพรัสเซียจากศูนย์สร้างความปรองดองระหว่างฝ่ายที่ทำสงครามกัน และสารวัตรทหารได้ย้ายประจำการจากเมือง Afrin ไปยังเมือง Tel Ajar หลังจากตุรกีเริ่มการบุก กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันเสาร์นี้

    กระทรวงแถลงว่า "กองบัญชาการของกลุ่มทหารรัสเซียในซีเรีย ได้ดำเนินขั้นตอนที่ปลอดภัยสำหรับทหารรัสเซีย ที่ประจำการอยู่ที่อำเภออาฟริน (Afrin canton) ในช่วงที่กองทัพตุรกีเริ่มปฏิบัติการพิเศษต่อหน่วยต่างๆของเคิร์ด"

    "กลุ่มปฏิบัติการต่างๆจากศูนย์สร้างความปรองดองระหว่างฝ่ายที่ทำสงคราม และสารวัตรทหารของรัสเซียได้ย้ายประจำออกจากพื้นที่ Afrin ไปตั้งอยู่ที่เมือง Tel Ajar ในเขตลดความขัดแย้ง Tel Rifaaf (ห่างจากใจกลางเมือง Afrin ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร) เพื่อหลีกเลี่ยงการยั่วยุที่อาจจะเกิดขึ้น และเพื่อรับประกันความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของทหารรัสเซียว่าจะไม่ตกอยู่ในความเสี่ยง" แถลงการณ์จากกลาโหมรัสเซียเปิดเผย TASS รายงาน

    2.) บทวิแคะ... ปี 2017 รัสเซียได้ส่งทหารหน่วยรบพิเศษและสารวัตรทหารเข้าไปเชื่อมสัมพันธ์กับกองกำลังชาวเคิร์ดในพื้นที่เมือง Afrin และได้ตั้งศูนย์บัญชาการย่อย เพื่อรักษาความสงบในพื้นที่หลายจุด ส่วนใหญ่อยู่โดยรอบเมือง Afrin พร้อมกันนี้รัสเซียได้สนับสนุนอาวุธเบาเช่นปืนไรเฟิลและเครื่องกระสุนให้กองกำลังเคิร์ดในพื้นที่ด้วย เมือง Afrin ถูกตัดขาดจากเคิร์ดทางตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นกองกำลังหลักของกบฏเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐและพันธมิตร

    เพื่อถ่วงดุลกับสหรัฐ และเพื่อหาข่าวในพื้นที่ รัสเซียจึงต้องพยายามเป็นมิตรกับเคิร์ดใน Afrin เนื่องจากกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียยังไม่สามรถบุกไปถึงพื้นที่แห่งนี้ได้ รัสเซียจึงนำร่องไปก่อน พร้อมกับส่งสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปช่วยเหลือชาวเคิร์ดในพื้นที่ด้วย

    ดูเหมือนว่าสถาการณ์ก็เป็นไปด้วยดี แม้ว่าจะมีการปะทะกันบ้างเป็นบางครั้งระหว่างเคิร์ดกับพวกกบฏเติมเงินสมุนของตุรกี แต่ตุรกีก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามส่งกองทัพของตนเองเข้าไปรุกราน Afrin จนกระทั่งสหรัฐเติมเชื้อไฟด้วยการประกาศจัดตั้งกองกำลังรักษาชายแดนชาวเคิร์ดขึ้นมา ตามแนวชายแดนซีเรีย-ตุรกี (ประมาณ 30,000 คน) ซึ่งทำให้ทั้งซีเรียและตุรกีไม่พอใจเป็นอย่างมาก และสุดท้ายก็ทำให้ตุรกีตัดสินใจบุก Afrin ทันที

    รัสเซียพยายามรักาษความสัมพันธ์กับทั้งซีเรียและตุรกี จึงไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับศึกนี้ และถอยออกมาสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ อย่างน้อย "สักพัก" ดีกว่า เคิร์ดนั้น คบกับทั้งสหรัฐและรัสเซีย เพื่อให้บรรลุถึงความฝันอันเลือนลางของตนเองในการแบ่งแยกประเทศจากซีเรีย แม้จะล้มเหลวมาแล้วในอิรัคและตุรกี รัสเซียก็ไม่ได้ไว้เคิร์ดสักเท่าไรนัก เคิร์ดเองก็ไม่ไว้ใจใตรเช่นกัน ใครให้อาวุธให้เงิน เคิร์ดรับหมด ตุรกีจึงแจกกระสุนปืนใหญ่ข้ามชายแดนและแจกระเบิดผ่าน F-16 ให้เคิร์ดบ้าง

    การที่รัสเซียถอยออกมาหนึ่งก้าว และไม่สอยอากาศยานของตุรกีแม้ว่าจะละเมิดน่านฟ้าของซีเรียในพื้นที่ดังกล่าวก็ตาม ถือว่าเป็นการให้บทเรียนทางอ้อมแก่เคิร์ดไปในตัว ดูซิว่า "สหรัฐและพันธมิตร" ลูกพี่ใหญ่และสปอนเซอร์หลักของเคิร์ดจะสามารถคุ้มครองเคิร์ดได้หรือไม่ สิ่งที่ปรากฎชัดก็คือ "ไม่ได้"

    ก่อนหน้านี้ฝ่ายรัฐบาลซีเรียเองก็ประกาศขู่ว่าจะสอยอากาศยานของตุรกี หากละเมิดน่านฟ้าของซีเรียที่เมือง Afrin แต่สุดท้ายแล้ว กองทัพซีเรียก็ยังไม่ได้ทำอะไร มีแค่เพียงออกแถลงการณ์ด่าและประณามตุรกีเท่านั้น เหมือนเป็นการเล่นร่วมกันระหว่าง ตุรกี ซีเรีย และรัสเซีย ในการสั่งสอนเคิร์ดกับสหรัฐ แน่นอน สหรัฐไม่ยอมส่งทหารของตนเองไปรับลูกกระสุนปืนใหญ่และระเบิดจาก F-16 ของตุรกีใน Afrin แน่ แต่จะใช้เคิร์ดเป็นทัพหน้าเดนตายไปตายแทนทหารอเมริกันและพันธมิตร

    ตุรกีมองว่าพวกเคิร์ด YPG และ PKK เป็นพวกเดียวกัน และเป็น "ขบวนการก่อการร้าย" สหรัฐบอกว่า "ไม่ใช่ พวกเขาคือกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย ต่างหาก" รัสเซียและซีเรียมองว่า พวกอัลเคด้าแม้จะเปลี่ยนชื่อเป็น "อัลนุสราฟรอนท์" หรือ "HTS" ก็ตาม คือ "ขบวนการก่อการร้าย" สหรัฐและตุรกีบอกว่า "ไม่ใช่ พวกเขาคือกบฏสายกลาง (นรก) ซีเรีย ต่างหาร" อัลเคด้าคือกลุ่มก่อการร้ายสากลกลุ่มหนึ่งที่ก่อเหตุ 9/11 ในสหรัฐ แต่พออยู่ในซีเรีย สหรัฐฟอกขาวให้กลุ่มนี้และสนับสนุนเงินทุนและอาวุธให้ด้วย พร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า "กบฏสายกลางฝายค้านซีเรีย" - ผู้แปล

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/01/2561
    ----------
    https://www.rt.com/news/416498-turkey-bombs-kurds-afrin-fsa/
    http://edition.cnn.com/2018/01/20/middleeast/turkey-syria-military-operation/index.html
    http://aa.com.tr/en/middle-east/turkish-jets-destroy-pyd-pkk-targets-in-syrias-afrin/10366488
    https://en.wikipedia.org/wiki/Menagh_Military_Airbase
    http://aa.com.tr/en/europe/russia-beefs-up-troop-strength-in-aleppo-s-afrin/810546
    https://syriancivilwarmap.com/
    https://sputniknews.com/world/201801191060895737-lavrov-refutes-russian-troops-withdrawal-afrin/
    https://sputniknews.com/middleeast/201801201060923884-syria-turkey-syria-operation-afrin/
    http://tass.com/defense/986083

    https://sputniknews.com/middleeast/201801201060923848-syria-turkey-minning-airport-kurds-us-weapons/
    https://www.rt.com/news/416514-turkey-us-syria-tensions/
    https://www.rt.com/news/416515-syria-kurds-afrin-turkish-attack/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ระเบิดศึกแล้ว! ตุรกีส่งทหารภาคพื้นดินบุกซีเรีย มุ่งขับไล่กองกำลังชาวเคิร์ดที่สหรัฐฯหนุนหลัง
    เผยแพร่: 22 ม.ค. 2561 00:05:00 โดย: MGR Online
    561000000689401.jpg

    กองทหารตุรกีชุมนุมกันอยู่ใล้กๆ พรมแดนซีเรีย ที่เมืองฮัสซา ในจังหวัด ฮาตัย เมื่อวันอาทิตย์ (21 ม.ค.) ทั้งนี้กองทัพตุรกีประกาศเปิดยุทธการ “โอลีฟ แบรนช์” ตั้งแต่วันเสาร์ (20) เพื่อขับไล่กองกำลังอาวุธชาวเคิร์ดที่สหรัฐฯหนุนหลังอยู่ ให้ออกไปจากพื้นที่เขต “อัฟริน” ทางภาคเหนือของซีเรีย
    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – กองทหารภาคพื้นดินของตุรกีบุกเข้าไปในภาคเหนือของซีเรียเมื่อวันอาทิตย์ (21 ม.ค.) เพื่อเดินหน้าโจมตี “อัฟริน” พื้นที่ยึดครองแห่งหนึ่งของชาวเคิร์ด ในความพยายามที่จะผลักดันกองกำลังอาวุธชาวเคิร์ดซึ่งสหรัฐฯหนุนหลังอยู่ให้ออกไปจากอาณาบริเวณดังกล่าว ทางด้านฝรั่งเศสออกมาส่งเสียงเตือนว่าปฏิบัติการของตุรกีเสี่ยงที่จะสร้างอันตรายต่อความสามัคคีของนานาชาติในการสู้รบเพื่อปราบปรามพวกนักรบญิฮาดไอเอส

    ตุรกีประกาศตั้งแต่วันเสาร์ (20) เปิดยุทธการ “โอลีฟ แบรนช์” ที่มีจุดมุ่งหมายขับไล่กองกำลังอาวุธ “พีเพิลส์ โพรเทคชั่น ยูนิตส์” หรือ YPG ของชาวเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งอังการามองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ให้ออกไปจากพื้นที่เขตอัฟริน ทางภาคเหนือของซีเรีย


    ทว่าการปฏิบัติการคราวนี้มีความเสี่ยงที่จะเพิ่มความตึงเครียดซึ่งตุรกีมีอยู่กับสหรัฐฯ ถึงแม้ทั้ง 2 ประเทศต่างเป็นชาติพันธมิตรนาโต้ด้วยกัน เนื่องจากวอชิงตันให้ความสนับสนุนแก่ YPG ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่สุดในกลุ่มพันธมิตรกบฎซีเรีย “ซีเรีย เดโมเครติก ฟอร์เซส” หรือ SDF ที่วอชิงตันพึ่งพาให้เป็นกองกำลังภาคพื้นดินในการสู้รบกับพวกนักรบญิฮาดกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS ในซีเรีย นอกจากนั้นแล้ว ตุรกียังจำเป็นที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัสเซีย อย่างน้อยที่สุดก็แบบอ้อมๆ จึงจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ

    ทางด้านรัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ฟลอรอง ปาร์ลี ส่งเสียงซึ่งกลายเป็นการเตือนอย่างหนักแน่นที่สุดของโลกตะวันตกต่อตุรกี นับตั้งแต่ที่การรุกครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น โดยกล่าวว่า การกระทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะสร้างอันตรายให้แก่การรณรงค์เพื่อบดขยี้นักรบญิฮาดไอเอส

    ตุรกีโดยนายกรัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริม ประกาศว่า กองทหารของตนข้ามเข้าไปในเขตซึ่ง YPG ควบคุมอยู่ในซีเรียเมื่อเวลา 08.05 น.เวลามาตรฐานกรีนิช (ตรงกับ 15.05 น.เวลาเมืองไทย) สำนักข่าวโดกันของตุรกีรายงาน

    ขณะที่กองทัพตุรกีแถลงว่า ได้ใช้ปืนใหญ่และเครื่องบินรบถล่มที่มั่นต่างๆ ของ YPG ที่อยู่รอบๆ อัฟริน และรวมทั้งหมดมีที่ตั้งของ YPG ที่ตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีไปแล้ว 153 เป้าหมาย ซึ่งก็รวมถึงจุดหลบภัยและโกดังอาวุธต่างๆ ด้วย

    561000000689402.jpg

    สำนักข่าวอนาโดลู ของทางการตุรกีรายงานว่า กองทหารตุรกีจำนวนที่ไม่มีการระบุ กำลังบุกคืบหน้าเคียงข้างกำลังจากกองกำลังอาวุธ “ฟรี ซีเรียน อาร์มี” (FSA) ซึ่งเป็นพวกกบฎซีเรียที่ฝักใฝ่อังการา และเวลานี้รุกเข้าไปข้างในซีเรียได้แล้ว 5 กิโลเมตร

    สำหรับประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน ของตุรกี ได้ออกมากล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการรุกครั้งนี้เป็นครั้งแรกในวันอาทิตย์ (21) โดยแสดงความหวังว่า “ยุทธการนี้จะสิ้นสุดลงได้ในระยะเวลาที่สั้นมากๆ” พร้อมกับคุยว่า “เราจะไม่มีการถอยหลังกลับ”

    หลังจากที่มีนักการเมืองตุรกีเชื้อสายเคิร์ดบางรายออกมาเรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วงรัฐบาลตามท้องถนน แอร์โดอันได้กล่าวเตือนว่าใครก็ตามที่ประท้วงตุรกีในปฏิบัติการคราวนี้ จะต้องจ่ายค่าตอบแทน “ในราคาแพงลิ่ว”

    บุกเข้าซีเรียรอบที่สอง

    ยุทธการคราวนี้คือการบุกเข้าซีเรียครั้งใหญ่เป็นรอบที่ 2 ระหว่างสงครามกลางเมืองในซีเรียซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 7 ปีแล้ว โดยในครั้งแรกคือช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ถึงเดือนมีนาคม 2017 ที่ใช้ชื่อว่ายุทธการ “ยูเฟรติส ชีลด์” ซึ่งกองทหารตุรกีและกองกำลัง FSA เข้าปฏิบัติการในพื้นที่ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของอัฟริน โดยมุ่งปราบปรามทั้ง YPG และพวกไอเอส

    กองทัพตุรกีแถลงว่า ในยุทธการล่าสุดนี้ยังคงถือไอเอสเป็นเป้าหมายเช่นกัน ถึงแม้ในทางเป็นจริงแล้วพวกนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ไม่ได้มีการปรากฏตัวที่สำคัญใดๆ ในพื้นที่อัฟรินแล้ว

    แอร์โดอันคุยซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ตุรกีจะถอนรากถอนโคน “รังของการก่อการร้าย” ในซีเรียของ YPG ซึ่งอังการากล่าวหาว่ากำลังเป็นสาขาในซีเรียของพรรคเคอร์ดิสถาน เวิร์กเกอร์ ปาร์ตี้ (PKK)

    PKK ซึ่งจับอาวุธก่อกบฎในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ถูกประทับตราว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ไม่เพียงจากอังการาเท่านั้น หากแต่ยังจากพวกพันธมิตรตะวันตกอีกด้วย

    561000000689403.jpg

    สำหรับอัฟกริน เป็นดินแดนขนาดเล็กและโดดเดี่ยวซึ่งอยู่ในความควบคุมของ YPG โดยถูกตัดขาดจากพื้นที่อีกผืนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ในภาคเหนือซีเรียซึ่งกลุ่มนี้ควบคุมอยู่เช่นกัน พื้นที่ผืนหลังนี้อยู่ห่างออกไปทางตะวันออกและขยายยืดไปจนจรดพรมแดนอิรัก ตุรกีนั้นต้องการให้ YPG ถอยออกไปอยู่เฉพาะทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส

    โดยที่รายงานข่าวอ้างคำพูดของนายกรัฐมนตรียิลดิริมกล่าวว่า กองทหารตุรกีมีจุดมุ่งหมายที่จะจัดตั้งเขตความมั่นคงขึ้นมาให้อยู่ลึกจากชายแดนติดตุรกีเข้าไปภายในซีเรียเป็นระยะทางราว 30 กิโลเมตร

    ทางด้าน YPG แถลงว่า ภายหลังตุรกีถล่มโจมตีครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ (20) ได้มีผู้ถูกสังหารไป 10 คนในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 7 คน ขณะที่กองทัพตุรกีบอกว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่ยืนกรานว่าทั้งหมดถ้าไม่ใช่สมาชิกของ YPG ก็เป็นพวก PKK

    โฆษกคนหนึ่งของ YPG อ้างด้วยว่า กองทหารตุรกีได้พยายามบุกเข้าอัฟริน “แต่เราสามารถสกัดกั้นการโจมตีได้”

    ในสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับตุรกี ได้มีจรวด 4 ลูกที่พวก YPG เป็นผู้ยิง ตกลงไปในเขตเมืองชายแดนชื่อคิลิส ตอนเช้าวันอาทิตย์ (21) ทำให้อาคารหลังหนึ่งได้รับความเสียหาย และผู้หญิงคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส

    ได้ไฟเขียวจากรัสเซียหรือเปล่า?

    การปฏิบัติการของตุรกีในซีเรียคราวนี้ ถือว่ามีความเสี่ยงเหมือนๆ กับการเดินเข้าสู่สนามกับระเบิดทางการทูต และกระทรวงการต่างประเทศในอังการาก็ไม่รีรอที่จะเชื้อเชิญเอกอัครราชทูตของชาติมหาอำนาจสำคัญทั้งหลายมารับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการรุกคราวนี้

    ทางกระทรวงแถลงว่า ได้แจ้งให้กรุงดามัสกัสทราบเรื่องนี้แล้วโดยผ่านสถานกงสุลของซีเรียในเมืองอิสตันบูลของตุรกี ทว่ารัฐบาลซีเรียซึ่งมีปัญหาไม่ลงรอยกับตุรกีอยู่แล้ว ได้ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่มีเรื่องเช่นนี้ รวมทั้งประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรียยังกล่าวประณามการรุกคราวนี้ว่า คือ “การให้ความสนับสนุนแก่การก่อการร้าย”

    561000000689404.jpg

    ตำรวจปราบจลาจลของตุรกีเข้าจับกุมชายผู้หนึ่ง ระหว่างการเดินขบวนประท้วงในเมืองอิสตันบูล วันอาทิตย์ (21 ม.ค.) โดยพวกสมาชิกของพรรคการเมืองที่ฝักใฝ่ชาวเคิร์ด เพื่อแสดงการคัดค้านที่กองทัพตุรกีเปิดศึกขับไล่กองกำลังชาวเคิร์ดในภาคเหนือซีเรีย
    ในเฉพาะหน้านี้ยังไม่มีความเห็นใดๆ ออกมาจากสหรัฐฯ แต่ก่อนหน้าที่ตุรกีจะเริ่มการรุกโจมตีนั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้แสดงความเป็นห่วงว่า มีความเสียงที่จะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงในภูมิภาค

    ปาร์ลี รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสกล่าวว่า การสู้รบ “จะต้องยุติลง” เนื่องจากอาจเป็นการก่อกวนที่อาจทำให้พวกนักรบ YPG เปลี่ยนใจ ขณะที่นักรบเหล่านี้กำลังช่วยเหลือพันธมิตรนานาชาติในการปราบปรามไอเอสอยู่

    “สิ่งที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของเราคือการสู้รบปราบปรามลัทธิก่อการร้าย” ปาร์ลี บอก

    เรื่องที่เห็นกันว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งคือท่าทีของรัสเซีย ซึ่งมีกำลังทหารอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้น อีกทั้งกำลังทำงานกับตุรกีในการผลักดันกระบวนการสันติภาพเพื่อยุติสงครามกลางเมืองในซีเรีย

    ปรากฏว่ากระทรวงการต่างประเทศแดนหมีขาวได้แถลงแสดงความเป็นห่วงพร้อมเรียกร้องตุรกีให้แสดงความอดทนอดกลั้น ส่วนกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า ทหารของตนกำลังถอนตัวออกจากพื้นที่อัฟริน เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยของทหารเหล่านี้ และป้องกันไม่ให้เกิด “การยั่วยุ” ใดๆ ขึ้นมา

    ติมูร์ อัคเมตอฟ นักวิจัยที่ตั้งฐานอยู่ในอังการาของ รัสเซียน อินเตอร์เนชั่นแนล แอฟแฟร์ส เคาน์ซิล ให้ความเห็นกับเอเอฟพีว่า รัสเซียดูเหมือนได้ให้ “ไฟเขียว” การปฏิบัติการของตุรกีคราวนี้ แต่ก็พูดอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้ไม่ควรนำไปสู่ภาวะไร้เสถียรภาพในพื้นที่อื่นๆ

    https://m.mgronline.com/around/detail/9610000006652
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช

    FB_IMG_1516582125543.jpg FB_IMG_1516582133847.jpg FB_IMG_1516582137344.jpg

    มันเป็นแผนซ้อนแผน 1.) กองทัพรัฐบาลซีเรียยังเข้าไม่ถึงพื้นที่นั้น

    2.) พวกเคิร์ดเชื่อถือสหรัฐมากกว่ารัฐบาลซีเรียและรัสเซีย

    3.) ซีเรียก็กลัวว่า เมื่อตุรกีเข้ามาแล้วจะไม่ออกไป การโจมตีเคิร์ดนั้น เป็นเพียงหนึ่งในข้ออ้างสำหรับยึดครองดินแดนซีเรียเท่านั้น ไม่ว่าเคิร์ดหรือตุรกียึดเมืองนี้ไป ต่างก็ไม่เป็นผลดีต่อซีเรียทั้งนั้น

    4.) ซีเรียคงคิดแล้วว่า การรับมือกับเติร์กในอนาคต ง่ายกว่ารับมือกับเคิร์ดที่มีสหรัฐหนุนหลัง โดยอาจจะขอให้รัสเซียช่วยไกล่เกลี่ยให้

    5.) เพื่อแสดงให้ตุรกีและทั่วโลกเห็นว่า ดินแดนแห่งนั้นยังคงเป็นของซีเรีย ซีเรียจึงต้องแสดงการประท้วงซึ่งเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว เมื่อมีทหารต่างชาติเข้ามาในดินแดนของตนเองโดยที่เจ้าบ้านไม่อนุญาต
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    มันมาอีกแล้วครับท่าน... ม็อบ "หมวกจิ๋มชมพู" เดินขบวนหลอกหลอนทรัมป์ในหลายเมืองทั่วโลก

    FB_IMG_1516582612585.jpg FB_IMG_1516582617195.jpg FB_IMG_1516582622810.jpg FB_IMG_1516582629251.jpg FB_IMG_1516582632922.jpg FB_IMG_1516582640195.jpg FB_IMG_1516582643805.jpg

    ------------

    วันที่ 20 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "การเดินขบวนผู้หญิงต่อต้านทร้มป์และการประพฤติผิดทางเพศจัดขึ้นทั่วโลก" (Women's Marches Against Trump, Sexual Misconduct Held Across the Globe)

    ประชาชนทั่วโลก (ส่วนใหญ่ในสหรัฐ) ได้พากันเดินลงสู่ถนนเพื่อประณามการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิง ร่วมส่งเสียงสนับสนุนขบวนการ "#MeToo" (เดี๊ยนด้วย) และแสดงถึงความไม่พอใจของตนเองที่มีต่อนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    ผู้คนหลายพันคนพากันเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนในนครนิวยอร์ก วอชิงตัน และลอสแองเจลิส สำหรับการเดินขบวนของผู้หญิง (Women’s March) ประจำปีครั้งที่สอง ซึ่งจัดขึ้นในวันครบรอบหนึ่งปีของการดำรงค์ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของทรัมป์ การประท้วงในปีนี้จัดขึ้นด้วยการประสานงานกันกับการเดินขบวนประท้วงอื่นๆ ทั่วยุโรป จีน ออสเตรเลีย และอีกหลายประเทศ

    "ปีที่แล้วผู้คนล้นหลามมาก และปีนี้พวกเขาก็ล้นหลามมากเช่นกัน" Tamika Mallory หนึ่งในผู้ประสานงาน (แกนนำ) ของคณะกรรมการม็อบผู้หญิงกล่าว

    [ขี้เกียจแปลอ่ะ... ดูภาพแทนก็แล้วกันนะครับ สรุป เป็นม็อบต่อต้านทรัมป์ ต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นพวก "Dems" (พรรคเดโมแครต) ที่แพ้เลือกตั้งนั่นแหละ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของม็อบนี้ก็คือ หมวกถักไหมพรมสีชมพูลักษณะเหมือนอวัยวะเพศของผู้หญิง ซึ่งมีชื่อว่า "Pink Pussyhat"

    การใช้สัญลักษณ์ทางเพศเป็นเครื่องมือทางการเมือง เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกัน ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐเองก็ชอบใช้คำพูดต่ำๆเช่นกัน เช่น "sh*thole (รูตูด)" หรือเรียกผู้นำเกาหลีเหนือว่า "ไอ้มนุษยจรวดจิ๋ว" หรือ วันดีคืนดีเขาก็ลุกขึ้นมาท้าผู้นำเกาหลีเหนืองัด "ปุ่มนิวเคลียร์" ออกมาแข่งกัน กับและคุยโวว่า "ของตนเอง" ใหญ่กว่าของคิม - ผู้แปล]

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/01/2561
    ----------
    https://sputniknews.com/world/201801201060925311-women-march-trump-sexual-misconduct/
    http://www.news.com.au/world/north-...t/news-story/fb6bc1c12f8e16412d1eec59cb3c2732
    https://www.usnews.com/news/us/arti...globe-rallies-against-trump-sexual-misconduct
    http://nationalpost.com/news/world/across-the-globe-rallies-against-trump-sexual-misconduct
    https://www.houstonchronicle.com/ne...obe-rallies-against-Trump-sexual-12512230.php
    https://www.houstonchronicle.com/ne...inst-Trump-sexual-12512230.php#photo-14915725
    http://www.bostonherald.com/news/na...port_to_seneca_falls_a_march_for_female_power
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ว่าด้วยความแตกต่างในเสรีภาพ ประชาธิปไตย ของเกาหลีใต้ และเผด็จการเกาหลีเหนือ

    FB_IMG_1516584252890.jpg FB_IMG_1516584257114.jpg FB_IMG_1516584260640.jpg FB_IMG_1516584264634.jpg FB_IMG_1516584277171.jpg FB_IMG_1516584285093.jpg FB_IMG_1516584293921.jpg FB_IMG_1516584308118.jpg

    ------------

    สองภาพแรก เป็นบรรดา "คุณ..." ในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ประท้วง พยายามราดน้ำมันเพื่อจุดไฟเผาตัวเอง จากเหตุการณ์ตำรวจบุกทะลายซ่องในปี 2011 บางครั้งก็ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังวิ่งหา "เสรีภาพและประชาธิปไตย" บางครั้งก็ให้ความรู้สึกว่าพวกเธอยินดีเฉลิมฉลองที่ประเทศของพวกเธอเป็นประชาธิปไตยและมีเสรีภาพแบบอเมริกัน (ประชดนะจ๊ะ)

    ภาพที่สามเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประท้วงที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว เป็นข่าวดังไปทั่วโลก ชายคนหนึ่งเหยียบคันเร่งรถเก๋งของตนเองพุ่งเข้าใส่ฝูงชน เพื่อตามหา "เสรีภาพและประชาธิปไตย" เอ๊ะ… หรือว่านั่นคือการแสดงออกเพื่อแสดงให้ทั่วโลกรับรู้ว่าประเทศของเขามีเสรีภาพเต็มที่จึงสามารถขับรถพุ่งชนฝูงชนได้ตามอำเภอใจแบบนั้น? (ประชดอีกครั้งจ๊ะ)

    ส่วนภาพที่เหลือ คัดมาจากเกาหลีเหนือ ดินแดนที่ไม่เคยพบเห็นประชาธิปไตยและเสรีภาพ ประชาชนสามารถออกมาเต้นรำตามท้องถนนหรือสถานที่สาธารณะในเทศกาลสำคัญๆ ของประเทศได้ เนื่องจากประเทศนี้ขาดแคลนเสรีภาพเป็นอย่างมาก จึงไม่มีเหตุการณ์คนคลั่งประชาธิปไตยขับรถพุ่งชนฝูงชน หรือกระหรี่ออกมาเปลือยท่อนบนวิ่งพล่านไปตามท้องถนนท่ามกลางสายตาผู้คนจำนวนมากอย่างในเมืองหลวงของเกาหลีใต้

    ส่วนสามภาพสุดท้าย เป็นเด็กๆชาวเกาหลีเหนือ ที่ท่านรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐบอกว่ากำลังจะอดตาย น่าเห็นใจประชาชนและเด็กๆ ชาวเกาหลีเหนือจริงๆนะครับ อดอยากหิวโซ จ้ำม่ำเชียว (ประชดครั้งที่สามจ๊ะ)

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    https://www.facebook.com/fisont
    https://vk.com/theeyesproject
    21/01/2561
     

แชร์หน้านี้

Loading...