ตื่นพระพุทธรูปน้ำตาไหลที่เชียงใหม่

ตื่นพระพุทธรูปน้ำตาไหลที่เชียงใหม่

<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>ฮือฮาพบพระพุทธรูปร้องไห้ รายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ว่าเกิดเรื่องแปลกประหลาด พระพุทธรูปร้องไห้ ที่วัดปางมะขามป้อม หรือวัดป่าธรรมรักษา ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบภายในวัดดังกล่าวมีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาดูพระพุทธรูปร้องไห้ พระบุญส่ง ฐิติญาโณ เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า ที่วัดมีพระพุทธรูปร้องไห้หลายองค์ ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถเป็นทองเหลืองที่พุทธศาสนิกชนได้นำมาถวายไว้ครั้งได้ก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2548 และใช้เป็นที่ปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา

กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ อุโบสถวอดทั้งหลังโดยพระพุทธรูปถูกไฟไหม้เสียหายไปหลายองค์ หลังจากเกิดเหตุ ชาวบ้านได้มาช่วยกันทำความสะอาดและเตรียมการบูรณะอุโบสถ แต่หลังจากยกพระประธานและพระพุทธรูปหลายองค์ออกจากพระวิหารเพื่อจะมาทำความสะอาด คราบเขม่าขี้เถ้าออก กลับพบว่า พระประธานองค์ใหญ่มีคราบคล้ายน้ำตาไหลออกจากดวงตา เหมือนกับพระพุทธรูปกำลังร้องไห้ ขัดทำความสะอาดเท่าใดก็ไม่ออก สร้างความเศร้าสลดใจให้กับชาวบ้านที่พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านต่างลือกันไป ต่าง ๆ นานา ว่าที่องค์พระท่านร้องไห้นั้นเพราะเสียใจที่ไม่สามารถจะปกป้องอุโบสถไว้ได้

ทั้งนี้ พระบุญส่ง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาช่วยเหลือซ่อมแซมบูรณะอุโบสถวัดด้วย.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=180551&NewsType=1&Template=1

 

ครับช่วยๆกันนะครับ

 

[FONT=Tahoma,]ตะลึงพุทธรูปน้ำตาไหล-หลังไฟไหม้วิหาร

เชื่อ-เศร้า เผาวัดป่า เชียงใหม่


<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
น้ำตาพระ- ส่วนหนึ่งของพระพุทธรูป ในวิหารวัดป่าธรรมรักษา อ.ไชยปราการ จ.เชียง ใหม่ มีคราบคล้ายรอยน้ำตาปรากฏขึ้น หลังจากวิหารของวัดถูกเพลิงไหม้เสียหาย ชาวบ้านเชื่อว่าพระพุทธรูปร้องไห้เพราะเสียใจที่เกิดเพลิงไหม้

</td></tr></tbody></table>ชาว บ้านสลดพระพุทธรูปร้องไห้ หลังไฟไหม้วิหาร ชาวบ้านไชยปราการ เชียงใหม่ ตะลึงพระพุทธรูปวัดป่าธรรมรักษา มีคราบคล้ายน้ำตาไหลออกมา หลังจากวิหารของวัดถูกเพลิงเผาวอด หลังเกิดเหตุนำพระมาทำความสะอาด พบรอยคล้ายคราบน้ำตาบริเวณเนตรพระ เชื่อพระพุทธรูปเสียใจที่เกิดเหตุ เจ้าอาวาสวอนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคช่วยบูรณะวิหาร เพราะทั้งวัดและฆราวาสล้วนยากจน

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านอ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ว่าที่วัดปางมะขามป้อม หรือวัดป่าธรรมรักษา ต.ศรีดงเย็น มีพระพุทธรูปร้องไห้น้ำตาไหลเป็นคราบ จึงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบกับพระบุญส่ง ฐิติญาโณ เจ้าอาวาส นำชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาด และช่วยกันขัดคราบน้ำตาของพระพุทธรูป ในวิหารที่ถูกไฟไหม้

พระบุญส่งกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ที่วิหารของวัดเกิดเพลิงไหม้จากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนที่ไฟไหม้หนักคือหลังคาและผนังวิหารด้านที่ประดิษฐานพระพุทธรูป จนพระพุทธรูปทั้งหมดได้รับความเสียหาย ก่อนชาวบ้านจะมาช่วยกันดับไว้ไม่ลุกลามจนวอดทั้งหลัง หลังจากดับไฟแล้ว ชาวบ้านพากันมาช่วยเก็บข้าวของออกแล้วนำองค์พระพุทธรูปออกมาเพื่อทำความ สะอาด ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าพระพุทธรูปองค์ใหญ่มีคราบน้ำไหลจากตา เหมือนน้ำตาของคนที่ร้องไห้ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกเศร้าสลดใจอย่างมาก และเชื่อกันว่าสาเหตุที่พระพุทธรูปน้ำตาไหล เพราะท่านเสียใจที่ไม่สามารถปกป้องวิหารไว้ได้

พระบุญส่งกล่าวว่า สำหรับพระทุกองค์ในวิหารดังกล่าว ชาวบ้านนำมาถวายเมื่อก่อสร้างวิหารแล้วเสร็จเมื่อปี 2548 ใช้เป็นที่ปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาของวัดเรื่อยมา ตอนนี้ประชาชนและพระสงฆ์ขาดที่ปฏิบัติธรรม ชาวบ้านต่างเศร้าเสียใจที่เกิดเหตุ เพราะมีปัญหาเรื่องเงินที่จะนำมาซ่อมแซมวิหาร เนื่องจากต่างเป็นคนยากจน ส่วนทางวัดก็ไม่มีเงิน

"ขอวอนพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาต้องการบูรณะวิหาร และสร้างที่ประดิษฐานให้แก่องค์พระพุทธรูป ติดต่อมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าอาวาส หมายเลข 08-5635-8159 หรือของผู้ใหญ่บ้าน หมายเลข 08-9266-5677 หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขาไชยปราการ เลขที่บัญชี 05-3419-20-020122 เพราะทุกวันนี้ เมื่อเห็นคราบน้ำตาจากพระพุทธรูปแล้ว รู้สึกสลดใจมาก" พระบุญส่ง กล่าว
[/FONT]
http://www.matichon.co.th/khaosod/v...nid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHhNQzB5TkE9PQ==

 

รับทราบ

 

"ขอวอนพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาต้องการบูรณะวิหาร และสร้างที่ประดิษฐานให้แก่องค์พระพุทธรูป ติดต่อมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าอาวาส หมายเลข 08-5635-8159 หรือของผู้ใหญ่บ้าน หมายเลข 08-9266-5677 หรือ
โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขาไชยปราการ
เลขที่บัญชี 05-3419-20-020122
เพราะทุกวันนี้ เมื่อเห็นคราบน้ำตาจากพระพุทธรูปแล้ว รู้สึกสลดใจมาก" พระบุญส่ง กล่าว

คนไทยใจดี มีน้ำใจ ช่วย ๆ กันคะ

 

ประเดี๋ยวจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้เพื่อน ๆ ทราบ และโอนเงินไปร่วมสมทบเพื่อทำการบูรณะใหม่ค่ะ...

 

พระท่านหมดกิเลสแล้ว ไม่ร้องไห้แล้วครับ แต่อาจเป็นปาฏิหารย์ที่เทวดารักษาองค์พระ บันดาลให้เป็นไป เพื่อกระตุ้นมหาชน ให้ร่วมด้วยช่วยกันฟื้นฟูวัด

ช่วยๆกันครับ สาธุ

 

ชาวเชียงใหม่ โดนใส่ไฟ ให้มีความคิดไปในทางเกลียดชังคนไทยด้วยกันเอง นี่แหล่ะวาระกรรม ที่กำลังเผาตัวเอง

 

จงแยกแยะให้ถูกว่า ใครคือคนดี อย่าได้เห็นแก่เชื้อสายใกล้ชิดสุด

 

.....เหตุการณ์แบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ครับ....เช่น
​

เช่น เหตุการณ์ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง

</PRE>
​

ลางสังหรณ์หลายประการ

</PRE>


</PRE>
​

ดังปรากฏในหนังสือคำให้การของขุนหลวงหาวัด กล่าวเป็นค่าประพันธ์ดังนี้

</PRE>


</PRE>
​

คำขุนหลวงหาวัดกล่าวชัดถ้อย

</PRE>
​

ปฏิมาใหญู่น้อยพลอยโศกศ้ลย์<O

</PRE>
​

บ้า่งทรวงแตกชลนัยน์ไหลจาบรรล์

</PRE>
​

วัดพนัญเชิงสง่ามาอับลง

</PRE>
​

หลวงพ่อโตโสภาวราลักษณ์

</PRE>
​

มีพระภักตร์เศร้าหมองมองร้ายบ่ง

</PRE>


</PRE>
​

น้ำพระเนตรรินไหลใบ้บอกบง

</PRE>
​

คล้ายพระองค์ทรงกรรแสง แฝงราคี

</PRE>


</PRE>
​

พระพุทธรูปทรงศรี "ตริโลกนาถ"

</PRE>
​

ช่างสามารถแกะโชว์ไม้โพธิศรึ

</PRE>


</PRE>
​

อุระร้าวรานแตกแยกอินทรีย์

</PRE>
​

แสนสุดที่สังเวชบอกเหตุการณ์

</PRE>


</PRE>
​

พระทองคำล้ำค่าสง่านัก

</PRE>
​

พุทธลักษณ์ทรงงามอร่ามขาน

</PRE>


</PRE>
​

อีกพระพุทธสิรินทร์ช่างศิลป์ชาญู

</PRE>
​

หล่อด้วยนาคประสานสมานองค์<O

</PRE>
​

ทั้งสองรูปทรงสถิตประดิษฐ์ที่

</PRE>
​

วัดพระศรีสรรเพ็ชญู์เสร็จประสงค์

</PRE>


</PRE>
​

ในพระราชวังหลวงดวงดำรง

</PRE>
​

ทั้งสองทรงเศร้าหมองหมดยองใย

</PRE>


</PRE>
​

แม้สถิตในวังบัลลังก์อาสน์

</PRE>
​

อธิลาศเลิศหล้าค่าสมัย

</PRE>


</PRE>
​

พระฉวีเอี่ยมอ่องผ่องอำไพ

</PRE>
​

สีคล้ำไปตลอดร่างต่างกว่าเดิม

</PRE>


</PRE>
​

พระเนตรสองมองเห็นเป็นตำหนิ

</PRE>
​

มีรอยปริประหลาดขาดส่งเสริม

</PRE>


</PRE>
​

เพราะประมาทขาดคุณธรรมจุนเจิม

</PRE>
​

จุดเสื่อมเริ่มปานไฟไหม้ลุกฮือ<O

</PRE>
​

ดวงพระเนตรเพชรวาวสกาวแสง

</PRE>
​

หลุดจากแหล่งหล่นลงตรงหัตถ์ถือ

</PRE>
​

อัศจรรย์เป็นข่าวฉาวระบือ

</PRE>
​

โจษจันอื้อเลื่อมศักดิ์หลักมงคล

</PRE>


</PRE>
​

กาสองตัวพบหน้าถลาใส่ ตีกันใหญ่หันเหบนเวหน<O

</PRE>
​

กาตัวหนึ่งถืงฆาตกาจผจญ

</PRE>
​

โผร่างตนปักหัวไม่กลัวตาย

</PRE>


</PRE>
​

อกเสียบยอดเจดีย์ฉัตรวัดพระธาตุ

</PRE>
​

สิ้นชีวาตม์ทันใดน่าใจหาย<O

</PRE>
​

เหมือนคนจับเสียบไว้ให้ติดกาย

</PRE>
​

ล้วนลางร้ายบอกอาเพทเหตุสำแดง

</PRE>
​

เทวรูปมหาราชพระนเรศวร

</PRE>
​

ทรงปั่นป่วนพิโรธโกรธกรรแสง

</PRE>
​

กระทืบบาทเสียงสนั่นลั่นรุนแรง

</PRE>
​

ทรงผาดแผลงอึกทึกกึกก้องดัง

</PRE>
​

กับดินฟ้าวิปริตผิดธรรมชาติ

</PRE>
​

อสุนีบาตฟาดลงตรงฉมัง

</PRE>
​

ต้องปราสาทราชมณเฑียรเวียนวัดวัง

</PRE>
​

ผ่ามากตรงกระหน่ำซ้ำทำลาย

</PRE>
​

พระราชวงศ์พงศาวราศักดิ์

</PRE>
​

ทั้งนอกในราชสำนักแยกพรรคหลาย

</PRE>
​

ขาตสัตย์ซื่อถืออธรรมนำจิตกาย

</PRE>
​

โลภหลงร้ายวิหิงษาอนาจาร

</PRE>
​

ทุพภิกขภัยคุกคามลุกลามหลาย

</PRE>
​

ชุมโจรร้ายปล้นฆ่าแย่งอาหาร

</PRE>
​

อัคคีภัยไหม้ซ้อนร้อนร้าวราน

</PRE>
​

ส่งถึงกาลกลียุคทุกข์ท่วมเมือง"...
</PRE>

 

สงสัยจะเป็นเทพนิมิต

 

ไม่ว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นเพราะอะไร ผลต่อมาจะดีร้ายแค่ไหน ขอให้เราทำดีในทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้ยิ่งๆขึ้นไปกันนะครับ เพราะถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องตาย จะตายช้าเร็วเท่านั้น สมบัติซักนิดจะติดตัวไป ก็หามีไม่ มีแต่บุญ บาปนำเราไป

สาธุ

 

ขอให้ บูรณะให้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็วค่ะ อย่าได้มีอุปสรรคคอยแพร้วพาล เลยค่ะ

อนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ

 

พระนางวิสาขา
ในชาติก่อนซ่อมพระพุทธรูปที่ปรักหักพัง ตายแล้วมาเกิดเป็นคนที่มีความสาวความสวยไม่เปลี่ยนแปลงจนอายุ ๑๒๐ ปี
"..พูดถึงคนสวยชั้นยอด ว่ากันแค่ร่างกายภายนอก อย่ามองเข้าไปถึงกระเพาะ ตับ ไต ไส้ ปอด ภายในร่างกายเพราะมันเต็ม
ไปด้วยความสกปรกน่าเกลียด ไม่มีความสวย ในที่นี้หมายถึงรูปร่างภายนอกไม่เปลี่ยนแปลง คลอดบุตรคนแรกสวยขนาดไหนก็เป็น
สาวขนาดนั้นจนกระทั่งถึงวันตาย

อานิสงส์ซ่อมพระพุทธรูป
ตัวอย่างก็คือ พระนางวิสาขามหาอุบาสิกา ท่านสวยด้วยอำนาจเบญจกัลยาณี ตามที่ท่านเจ้าคุณราชเมธี วัดประยูรวงศาวาส
ท่านแต่งเป็นคำกลอนไว้ว่า

งามผมสมพักตร์ลักขณา งามโอษฐาจิ้มลิ้มดูพริ้มเพรา

งามทนต์ยลปลั่งดังสังข์ขัด ผิวทัดกณิการ์งามราศี

คลอดบุตรสักเท่าไรวัยยังดี หญิงเช่นนี้ใครได้มางามหน้าเอย

คำว่า "งามผมสมพักตร์ลักขณา" ก็เพราะว่าผมจะเรียบอยู่ตลอดเวลา ถ้าต้องการให้เป็นคลื่นก็จะเป็น และก็เรียบโดยไม่ต้องหวี
ไม่ต้องแต่ง และก็จะยาวไม่มากถ้ายาวไปถึงเอวก็จะช้อนงอนขึ้นไม่ยาวลากดิน ผมก็ไม่เหม็นสาบเหม็นสาง ไม่ต้องสระไม่ต้องล้าง

คำว่า "โอษฐาจิ้มลิ้มดูพริ้มเพรา" ก็เพราะว่าริมฝีปากแดงระเรื่อไม่แดงมากนัก แล้วเรียบไม่มีริ้วไม่มีรอย ปากสวย

คำว่า "งามทนต์ยลปลั่งดังสังข์ขัด" ก็เพราะว่าฟันเรียบแลดูเป็นเงาเหมือนมุกน่าชม ไม่ต้องใช้แปรงสีฟัน ไม่ต้องขัด ไม่ต้องแต่ง

คำว่า "ผิวทัดกณิการ์งามราศี" ขึ้นชื่อว่าผิวไม่มีไฝไม่มีฝ้า ถ้าขาวก็ขาวเนื้อละเอียดดี ถ้าดำก็ดำนวลๆ เรียกว่าพอสวยสำหรับใน
สมัยที่เขาต้องการ

คำว่า "คลอดบุตรสักเท่าไรวัยยังดี" หมายความว่าเวลาที่คลอดบุตรคนแรกอายุเท่าไร ท่านคลอดบุตรคนแรกอายุ ๑๖ ปี แล้วก็เลย
เป็นสาวแค่ ๑๖ อยู่แบบนั้น
ร่างกายไม่เปลี่ยนแปลงอีกต่อไปจนกระทั่งอายุ ๑๒๐ ปี พระนางวิสาขามีบุตรหญิง ๒๐ คน แล้วบุตรหญิงของท่านคลอดบุตรมา
อีกคนละ ๒๐ คน ระหว่างที่บรรดาหลานๆ เป็นสาวคราว ๑๕-๑๖ ปี ท่านวิสาขานั่งอยู่ท่ามกลางหลาน ท่านชีวกโกมารภัจนำพระเจ้าปเสนทิโกศลไปดู
อยากจะทราบว่าพระนางวิสาขาคนไหน ก็ดูไม่ออกเพราะสาวเท่ากัน เรียกว่าท่านสาวเท่าอายุ ๑๖ ตลอดกาล

อานิสงส์ที่พระนางวิสาขามหาอุบาสิกามีความสาวความสวยไม่เปลี่ยนแปลง ก็เพราะว่าในชาติก่อนท่านซ่อมพระพุทธรูปที่ปรักหักพัง ทรุดโทรม
คือมีผิวแตกทองลอกไปเสียแล้ว ท่านซ่อมพระพุทธรูปด้วยกุศลเจตนาจริงๆ เกิดมาชาตินี้จึงกลายเป็นคนสวย

และการที่ท่านมีเครื่องประดับประกอบไปด้วยแก้วเพชรนิลจินดาและทองคำ เสื้อคลุมตั้งแต่ศีรษะถึงเท้า มีนกยูงรำแพน มีแก้วมณีตั้ง ๒๐ ทะนาน และมีแก้วประพาฬ แก้วอินทนิล อะไรต่ออะไรอีก เสื้อตัวนั้นไม่มีด้ายเลย ที่ทำเป็นด้ายก็ทำด้วยเงินหรือเป็นทองคำ ก็เพราะอาศัยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนาในอดีตชาติ.."
<!---


<b>ฝากข่าว จาก เว็บน่ารัก หน่อย ด่วนจี๋เลย !!! ใครที่คิดว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 ว่างตอนเย็นๆ ละก้อ... มีบัตรชมภาพยนตร์ Bigmama 2 รอบพิเศษ ให้ลุ้นกัน 10 รางวัลๆ ละ 2 ใบ Click !!<b>
-->

 

รักกันใว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย........

พระท่านไม่มีกิเลสแล้ว......

สาเหตุอาจจะมาจากเทพเทวดานิมิตให้เป็น

 

อนุโมทนาคร้าป ขอเราร่วมแรงศรัทธากันช่วยค้ำจุล พระพุทธศาสนาเถิด

 

ค่ะ จะช่วยเท่าที่ช่วยได้นะค่ะ