ตื่น..มาตื่นกันเถอะครับ ฝึกสมาธิผิดๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เราโตมาคนละแบบ, 13 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ออกมาจากความรู้สึกเลยครับ
    ว่า
    เจอคนที่เก่งกว่าพระพุทธเจ้าซะแล้ว
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ถ้ายอมรับว่า พูดโกหกจริงๆ....อาจลดโทษ
    ถ้าไม่ยอมรับ....นะ....ชดใช้ด้วยนะ
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    อยากรู้ว่า พูดจริง หรือพูดโกหก
     
  4. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    น่าจะไม่งงแล้วนะงับ ที่เหลือก็แค่ลองไปทำ
    แล้วค่อยมาว่าอีกที ถีบส่งได้แค่นี้แหละ
    เอ่อ แล้วผมก็ไม่ใช่คุณนิวรณ์นะฮับ ลุยๆๆ
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ถ้าฉันไม่ งง....แล้วใครล่ะ ที่ งง...แกไง

    ก็บอกไปหมดแล้วว่า ...รู้หมดแล้ว...แกดิ งง อะไรฟะ
     
  6. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    การก้าวหน้าทางธรรม ต้องมีสติปัญญา สังเกตุตนเองเป็นฐาน เพื่อที่จะขยับให้ก้าวหน้า
    ทิ้งบัญญัตออกไปก่อน แล้วดูว่า วันนี้ เราหักห้ามใจได้แข็งแกร่งกว่าวันก่อนหรือไม่
    เรามีสมาธิ สงบมากขึ้นหรือไม่ เรามีปัญญาในการมองเห็นสัจธรรมอันเป็นอุบาย เพื่อหักห้ามใจต่อสู้กับกิเลสได้ดีขึ้นหรือไม่
    เมื่อสำรวจตนเอง 3 ประการดังกล่าวง่ายๆนั้น ก็พาตนเอง ฝึกตนเอง ให้ก้าวหน้าขึ้นทุกวันได้ ไม่ย่ำอยู่กับที่ ทั้ง 3 ประการนั้นจะเพิ่มพูน อิทธิบาท พละ อินทรีย์ ของเราทีละขั้นไปจนถึง อินทรีย์แก่กล้าแล้ว จึงสามารถตัดกิเลสได้แบบฉับพลัน
    การที่เรายิ่งศึกษา ยิ่งฟังมาก ยิ่งอ่านมาก คิดมาก แต่ไม่ได้ใช้สติปัญญา นำพาไป เราก็ติดอยู่กับสัญญา สังขาร แต่จิตใจนี้ยังไม่ได้ก้าวหน้าทางองค์ธรรม
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ละไว้ ในฐานที่ไม่เข้าใจ...แต่เข้าจิตแทน

    ก้าวหน้าทางธรรม....แต่ไม่เคยเห็น ตถาคตสักที

    เอางี้สิ..ท่องใหม่ ผู้ใดเห็นตถาคต ผู้นั้นเห็นธรรม
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    เอ้าทุกท่าน...พุทธบริษัททั้งหลาย ท่องใหม่ จำใหม่ ทำใหม่....
    ผู้ใดเห็นตถาคต ผู้นั้นเห็นธรรม

    มีใครเข้าใจบ้าง..?
     
  9. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    เราอาจจะคาดหมายว่า เห็นธรรมจะต้องเห็นพระพุทธเจ้า เป็นรูปเป็นร่างอย่างนั้นหรือครับ
    ไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ เราจะเห็น พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ตนเองครับ
    เห็นคุณของพระพุทธเจ้า รู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
    เห็นคุณของพระธรรม ว่าพระธรรมนั้นมีอานุภาพเพียงใด
    เห็นคุณของพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์นั้นมีคุณเพียงใด
    ต้องเห็นแบบนั้นหละครับ
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    เมื่อพากันปฏิบัติธรรม กันมา หลายปี ดีดัก หลายภพหลายชาติ...ที่ว่า..ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั่นเห็นเรา ตถาคต....มันก็ยังไม่พากันได้เห็น ตถาคต กันสักที

    พากันเมาธรม หลงธรรม ท่องธรรม แบกธรรม จนไม่พากันเห็น ตถาคต..สักที

    เอาใหม่ๆ...เป็น ผู้ใดเห็นตถาคต ผู้นั้น เห็นธรรม...ง่ายกว่าเยอะ..ไม่หลงแน่นอน...จะเล่าให้ฟัง อิ
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    เกือบถูก แต่ไม่ถูกครับ....คำว่า...เห็นเราตถาคต....ไม่ได้แปลว่า เห็นพระพุทธเจ้า..นะครับ..ติดตามต่อไปครับ
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ผู้ใดเห็นตถาคต ผู้นั้นเห็นธรรม...ทำง่ายๆคือ เอารูปพระประธานมาเป็น..พุทธานุสสติ เลย....คือ ระลึก ยกพระประธานมานั่งต่อหน้าตนเอง...ให้ตนเอง ระลึกเห็นภาพตนเอง นั่งนอบน้อมกราบลง ต่อหน้าพระประธานเลย...โดย ให้ระลึก ว่า เราต้อง..เจียมกาย วาจา ใจ...ในทุกกรณี ที่ ทุกขณะ ที่มี พระประธานนั้น นั่งตั้งตรง ต่อหน้าเรา....ง่ายๆแค่นี้ครับ...ผู้ใดเห็นตถาคต ผู้นั้นเห็นธรรม...

    รับรอง ไม่พากันหลงไปในธรรม...แน่นอนครับ
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ง่ายมั้ย....ให้พระประธานท่าน นั่งมองดูคุณอยู่
    คุณก็ รู้ตัว ทั่ว ทั้งกายวาจาใจ...อยากจะรู้นัก...ว่า อยู่ต่อหน้าพระประธานแบบนี้...กล้าด่าคนอื่น ในใจมั้ย...กล้าคิดชั่วในใจมั้ย...กล้าให้อกุศลผุดขึ้น ในใจมั้ย...ลองทำดูนะ

    แบบนี้ ถ้าทำไม่ได้ ก็คงจะหมดบุญวาสนาได้เป็นคนดี...แล้วล่ะ..อิ
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    แบบนี้ แทนที่จะไปพิจารณาเรื่องธรรม เรื่องนอกกาย เรื่องของคนอื่น...มันจะหันมาพิจารณา อยู่แต่กับ....กายวาจาใจ ของตนเองเท่านั้น..เนี่ย..

    ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้น เห็นธรรม...ในตน
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    อิ.....ลบโพสทำไมล่ะ...จตุรอาชา

    ที่เป็นเทศนาของ หลวงพ่อ ปราโมช น่ะ....ผมก็เคยเข้าถึงมาแล้วสภาวะนี้....อรหันต์เหรอ...อ้อ สำหรับผมเรียก พระอรหันต์....มรรค..นะ

    ไม่ว่ากันนะ เพราะผม เข้าใจ แบบนี้
     
  16. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :mad::mad::mad:ไม่น่าเชื่ออ..คุณไม่สั่งสมสุตตมัย เพื่อนำมาภาวนา จะเอาข้อมูลที่ไหนมาให้ จิต คิดพิจราณาธรรมครับ คุณจะเอาสติปัญญาจากไหน หากไม่สั่งสม ไม่อ่าน ไม่ฟัง ไม่ศึกษาตำราครับ ท่านรโหรณัง..
    :(:(:( อีกอย่าง คุณจะทิ้งบัญญัติ ได้ยังไงถ้าคุณไม่รู้ว่า ไอ้สิ่งนี้ ทาง
    โลกเขาบัญญัติไว้ว่ายังไง..(สัญญา-สมมุติ-บัญญัติ-โดยรวมก็คือ ตัวเดียวกัน เขาทำงานพร้อมเพรียงกันเป็นอย่างเดียวกันทางโลกครับ)
    :pท่านรโชหรณัง ..ท่านจะเอาอะไรไปต่อสู้กับกิเลสเมื่อท่านไม่มีความรู้จาก บัญญัติ พระไตรปิฏก ไม่มีปัญญาที่ไหนจะมาเกิดกับท่านได้เลย-เพราะท่านให้ทิ้งบัญญัติ-
     
  17. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ความก้าวหน้าในทางธรรมคือ สิ้นตัวสิ้นตน สิ้นความยึดมั่นถือมั่นสำคัญในความเป็นตน เลิกเห็นผิด สำคัญผิด คิดเห็นเป็นตนมีตนเป็นอะไร ทุกข์ก็ไม่ใช่เรา เราก็ไม่ใช่ทุกข์ สรรพสิ่งเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตามเหตุปัจจัย ทุกข์จะมีก็เมื่อมีอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นไปเอง

    สู้ไปก็ไม่ชนะครับ ถ้าเอาอัตตาไปสู้ สู้เพื่ออยู่อย่างมีอัตตาในแบบที่เราต้องการจะเห็น เห็นความมีตัวเราอยากอยู่ลึกๆ ไหม ที่หวังจะเป็นนั่นเป็นนี่ มันคาดการณ์ล่วงหน้าไว้หมดแล้ว ปฏิบัติไปแล้วควรจะได้อะไรบ้าง กลายเป็นเรื่องที่ปฏิบัติไปเพื่อความเป็นตัวกูของกูทั้งนั้น

    คาดการณ์ไว้หมดแล้ว อัตตาไปยืนตั้งธงรอที่เส้นชัยแล้ว เห็นไหมครับ ปฏิบัติไปเพื่ออัตตา

    ต้องรู้จักวิเคราะห์พิจารณา เหมือนอย่างที่คุณกล่าวมานี้ ก็มาจากการวิเคราะห์พิจารณาทั้งนั้น อยู่ที่เอาข้อมูลประกอบการพิจารณานั้นมาจากแหล่งไหนบ้าง

    การคบหาสัปบุรุษ การฟังพระสัทธรรม การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย และการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นี้เป็นธรรมอันเป็นเครื่องเจริญแห่งปัญญา
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ตึง ตะ ตึง ตึง โป๊ะ

    ตึง ตะ ตึง ตึง โป๊ะ

    ตะ ตึง ตึง ตึง

    ตะ ดึ๊ด ตะ ดือ ดื้อ ...... วือ วื่อ วหือ วึ๊ด

    จ จ จ จูมง !!!
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อุวะ บาบูนกะยอชวา วาจาเหี้ยมหาญชาญศึกยิ่งนัก

    เหนทีสีลามเทนคร เพลานี้ จะมีขุนศึกกล้า

    อย่ากระนั่นเลย ขอจงไสช้างออกมาข้างหน้าอีกสักนิดเถิด พี่ยา

    ข้าเจ้าฯ ขอถามอีกสักคำถามว่า........... [ จริงเกิ้น ]

    หากอ้ายอีผู้ใดประกาศการค้นพบ มุขนัย วิชา อันใด ด้วย
    ตัวเขาเอง หาใช่พยาพิชิตพลแล้วไซร้ อ้าย อี คนนั้น
    มี สัมมาวิมุตติ หรือ มิจฉาวิมุตติ เป็นแน่แท้สู่นรก รึอย่างไรกัน ?
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ดูก่อน พ่อ...

    อันอุบายพระป่านั้นวิเศษอยู่ ท่านเน้นอยู่ในโคจร อันเรียกกันสวยๆว่า ศีล และ (ธุดงค)วัตร

    แต่กระนั้น พึงสำเนียก พระสัทธรรมของ พระผู้มีพระภาคว่า "วัตรไม่ใช่ศีล ศีลไม่ใช่วัตร"
    "ศีล และ วัตร" เป็นปัจจัยให้เกิด "สมาธิ" แต่ สมาธิ ไม่ใช่ "สัลเลขา"(เครื่องขัดเกลา เป็น
    เพียงให้ กิเลสมันบังเงา(ติดดี ดีกว่าติดชั่ว)

    โคจรในโยคะ เสพเสนาสนะ มีโยคะ อันเกษม แล้ว มีกำลัง ตัดอะไรเอง ไม่ใช่ ฐานะ ที่จะเป็นไปได้

    ดังนั้น พระป่า จะบอกกันและกันว่า " เอ็งต้องมาหากูนะ " เพื่อ............

    อย่ากระนั่นเลย กลับไปที่ ศีลไม่ใช่วัตร วัตรไม่ใช่ศีล สีลบางอย่างเป็นวัตร เป็นไปเพื่อ
    อยู่สุขในสมาธิ ให้นิวรณ์อาสัยนอนหลับอยู่ในจิตยิ้มกลุ้มกลิ่ม หากเสพสมาธิ เสพศีล
    แล้วไม่ไปหา พระ เพื่อฟังเทศนา ตายเปล่า แน่นอน !!!

    แต่สำหรับคนมี ปฏิภาณ ก็ ศีลไม่ใช่วัตร วัตรไม่ใช่ศีล ศีลบางอย่างเป็นวัตร

    ก็กำหนดรู้ทุกข์ ความไม่เอาไหน หาทางสิ้นกิเลสไม่ได้ ไปตรงๆ เดี๋ยวก็เห็น
    จิตมันเคลื่อน เผลอแล้วรู้ เผลอเสพศีลแล้วรู้ เผลอเข้าสมาบัติก็รู้ ทุกขทั้งนั้น
    ที่เกิด ทุกขทั้งนั้นที่ดับไป ตามเห็นความเกิดดับเข้ามาเลย หลังจาก อ้อมโลก
    ไปสุพรหมโลก

    แล้วเฝ้นหา ปัญญาอันยิ่งเองเสียง พ้นการใช้อายตนะ6แสวงหนนิพพาน
    พ้นการใช้ขันธ์5ไปแสวงหานิพพาน เอาถาดทองไปรองหมาเยี่ยว

    เมื่อเข้าไป พบพระพิชิตพล ลองพิจารณา ขณะนั้น ยังมี ขันธ์5แบกเข้าไปด้วยหรือไม่
    แล้วตอนกลับออกมา กล่าวสิ่งที่เป็นธรรม ท่านเอาสิ่งใดของพระพุทธองค์ออกมาด้วยหรือ!?

    ธรรมบัญญัติ และ วินัย ใครเล่าจะมีฐานะ เพียงผู้เดียว ที่จะหมุน

    สาวกที่ไม่ได้เอา ขันธ์5 เข้าไปเข้าเผ้า และ ออกมาจากการเข้าเฝ้า หรือ!?

    สัญญา สันติ อะไร มันจะ ทับผู้เห็นการเข้าเฝ้า และ ผู้เข้าเฝ้า

    กลัวสัญญา ก็ อุปทานว่ามีสัญญาในตน ใครสอน มะอึงมาอย่างนั้น เอาสันติประเคนไปเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...