ต้องการสมาชิกร่วมกันค้นหาเสบียงธรรมชาติเพื่อรอรับภัยพิบัติในระยะยาว

ตอนนี้ผมกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่อง ของพืชผัก ที่สามารถทดเเทนในยามภัยเเล้งได้เเล้วสามารถทำให้สุขภาพร่างกายเเข็งเเรงได้ โดยไม่ต้องรับประทานเนื่อสัตว์ (Panaceae Project)

โดยอาศัยองค์ความรู้จากพื้นที่ที่ประสบภัยอดอยาก (เช่น ประเทศโลกที่ 3 ที่ขาดเเคลนอาหารอย่างหนัก)

​

เำพราะว่าหลังจากเกิดภัยพิบัติเเล้วหากไม่มีการเตรียมพืชสมุนไพรเหล่านี้ไว้เลย จะเกิดปัญหาความอดอยาก เเละขาดสารอาหารวิตามินอีกนานับประการ ดังภาพข้างต้น ผมจึงเกิดเเนวคิดนี้ขึ้นมา


ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหาข้อมูลอยู่ เเต่คิดว่าอีกไม่นานก็คงได้ข้อมูลที่เเน่นอน(เพราะว่ายังค้นคว้าอยู่คนเดียว...)

ยกตัวอย่างนะครับ

มะรุม Moringa oleifera

ใบ มะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า

การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน
นอกจากนี้ มะรุมมีธาตุอาหารปริมาณสูงเป็นพิเศษที่ช่วยป้องกันโรค นั่นคือ

วิตามินเอ บำรุงสายตามีมากกว่าแครอต 3 เท่า
วิตามินซี ช่วยป้องกันหวัด 7 เท่าของส้ม
แคลเซียม บำรุงกระดูกเกิน 3 เท่าของนมสด
โพแทสเซียม บำรุงสมองและระบบประสาท 3 เท่าของกล้วย
ใยอาหารและพลังงาน ไม่สูงมากเหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักอีกด้วย
น้ำมันสกัดจากเมล็ดมะรุม มีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันมะกอกดีต่อสุขภาพ

อีกทั้งเมล็ดมะรุมบดละเอียด ยังช่วยทำให้น้ำสะอาดอีกด้วย

​

เเต่พืชผักเพียงชนิดเดียวไม่สามารถครอบคลุมสารอาหารที่เราต้องการได้อย่างครบถ้วนจริงไหมครับ???

สรุปเเล้วจุดประสงค์หลักของการค้นคว้าครั้งนี้คือ การพัฒนาองค์ความรู้เเละค้นคว้าหาพืชผัก ที่จะสามารถให้ผู้ที่อยู่รอดต่อไปที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ อยู่รอดได้โดยไม่มีการขาดสารอาหารเเละวิตามิน รวมถึงสมุนไพรที่น่าสนใจเกี่ยวกับการรักษาโรค โดยที่ไม่ต้องพึ่งพายาเเผนปัจจุบันนั้นเอง


จึงใคร่ขอร้องผู้มีองค์ความรู้ด้าน เเพทย์ศาสตร์ เภสัชศาสตร์ พฤกษศาสตร์ นักโภชนาการ วนศาสตร์การเกษตร หรือผู้มีความรู้ความสนใจด้านสาธาณสุขเเละสุขภาพทั่วไป ท่านใดสนใจโครงการนี้ เพื่อประโยชน์ของมนุษย์ อยากให้มาเเลกเปลี่ยนความรู้กัน ณ ที่นี้ครับ

เพื่อที่จะได้กระจายความรู้ เพื่อที่จะได้นำ พืชที่มีประโยชน์เหล่านี้ ไปปลูกตามสถาณที่หลบภัยต่างๆ อย่างเร็วที่สุด (เพราะพืชยืนต้นกว่าจะทานได้ต้องใช้เวลา 1ปีขึ้นไป)เพื่อรอวันที่เกิดภัยพิบัติขึ้น

หรือถ้ายังไม่เกิดภัยพิบัติ องค์ความรู้เกี่ยวกับพืชเเละสมุนไพรเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์เเก่ชาวบ้านเเละชุมชนให้มีสุขภาพเเข็งเเรงโดยที่ไม่ต้องพึ่งพายาแผนปัจจุบันไม่น้อยเลยทีเดียว

การค้นคว้าครั้งนี้จะเเบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ

1.ช่วงค้นคว้าหาพืชสมุนไพรที่น่าสนใจ เเละสามารถอุดช่องโหว่การขาดสารอาหารได้ 100% เเล้วรวบรวมทำเป็น Hand Book เผยเเพร่ให้บผู้ที่สนใจ
2.ช่วงจัดหารพืชพรรณสมุนไพรไปปลูกตามสถานที่ที่เป็นที่หลบภัยพิบัติ
3.นำไปปลูกในสถานที่จริง เเละ การติดตามผลว่าสามารถปลูกในสถานที่เเห่งนั้นได้หรือไม่

จะเห็นได้ว่าต้องการผู้ที่สนใจเเละมีความรู้ในศาสตร์เเละสายอาชีพต่างๆมากมายทีเดียว

การค้นคว้าครั้งนี้ยิ่งพัฒนาได้อย่างเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีครับ...เพราะพวกเราเองก็ไม่รู้ว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

จึงใครขอความร่วมมือ เเละ อนุโมทนาทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

น่าสนใจมากเลยครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพฤกษศาสตร์เท่าไหร่แต่ถ้ามีอะไรที่พอช่วยได้ก็ยินดี ตอนนี้สนใจวิชาการแพทย์แผนตะวันออกกับสมุนไพรอยู่เหมือนกัน

ปล.ลิงค์ไปกระทู้ที่มีการพูดคุยกันเรื่องพืชและสมุนไพร

 

น่าสนใจนะจ๊ะ ตอนนี้นกก็กำลังเริ่มดำเนินการอยู่นะจ๊ะ ซื้อที่ดินแถวบ้าน(สุรินทร์)ไว้แล้วประมาณ 1.78 ไร่ เพื่อจะปลูกพืช ผัก ผลไม้ และสมุนไพร พวกสมุนไพรก็พยามรวบรวมข้อมูลการ ปรุงยา และ การรักษา และตัวสมุนไพรเพื่อนำไปปลูก ถ้าทำได้ตามเป้าก็จะร่วมช่วยบริจาคยามเมื่อเกิดภัยนะจ๊ะ แต่ตอนนี้ทำงานอยู่ภูเก็ต(กำลังเก็บกะตังค์เพื่อไปทำอย่างเต็มตัว) ก็ดำเนินการได้ในระดับหนึ่งแล้ว หลังจากนี้อาจใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี ในการดำเนินการ ซึ่งมีเพื่อนๆ จากเว็บเกษตรพอเพียงคอยแนะนำ มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะจ๊ะ mail นะจ๊ะ nok_patongvilla@hotmail.com

 

ยอดเยี่ยมเลยครับ มาช่วยกัน

สำหรับข้อมูลเดิมที่ผมมีอยู่

มีพืชโตเร็วสายพันธุ์หนึ่งซึ่งในอดีตเคยมีภัยพิบัติเมื่อพันปีก่อน พืชนี้ก็ช่วยเป็นแหล่งอาหารเข้มข้นมาหลายอารยะธรรม มาก่อนครับ

สาหร่ายเกลียวทอง ที่องค์พระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทดลองเพาะในโครงการสวนจิตรลดา

ปัจจุบัน ทางเกษตรกรจ.ร้อยเอ็ด ได้เพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทองในอ่างซีเมนต์แบบง่ายๆแต่ได้ผลดี ใช้งบประมาณน้อย เทคโนโลยี่ไม่ยุ่งยากเกินไปครับ

ตัวผมเองก็ยังสนใจจะไปเรียนวิธีเพาะเลี้ยงสาหร่ายจากที่ร้อยเอ็ดเช่นกัน

ที่สนใจเนื่องจาก

สาหร่ายชนิดนี้ มีผลดูดซึม สารกัมมันตรังสี พิษจากโลหะหนัก จากร่างกายได้

รักษาฟื้นฟู อาร์เอ็นเอ ดีเอ็นเอ ให้สมบูรณ์ขึ้นได้

มีโปรตีนสูงต่อน้ำหนักและมี โปรตีนกลุ่มที่กระตุ้นโกร์ธฮอร์โมนสูง

มีวิตตามินต่อน้ำหนักสูง

จัดว่าเป็นแหล่งอาหาร เข้มข้นที่สำคัญในอนาคตยามเกิดภัยพิบัติอีกตัวครับ

ลองมารวบรวมกันดู หลายๆตัว หลายชนิดครับ ยิ่งรวบรวมได้หลายชนิดยิ่งเกิดประโยชน์มากครับ

และที่สำคัญ มีข้อมูลเรื่องประโยชน์ของมะรุมอีกมากครับ ขอคุณpatthawit ช่วยเล่าให้ฟังด้วยครับ

 

กิมจิ -- การทำกิมจิ -- อาหารในยามเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ - การเกษตรดอทคอม

 

เคยกินสาหร่ายเกลียวทองเม็ดอยู่เหมือนกัน...

เห็นในใบโฆษณาระบุว่า องค์การอนามัยโลกยอมรับว่าเป็นอาหารแห่งอนาคต

(คนขายบอกว่า กิน 8 เม็ด แทนข้าว 1 มื้อ)

 

ช่วยกันปลูกต้นไม้กินใบกินยอด หัวเผือก หัวมัน กันเอาไว้ ตามที่ว่างเปล่า ริมทาง ริมถนน ให้ไปที่ไหนก็มีแต่แหล่งอาหาร

 

โมทนาสาธุครับ หน้าจะทำรายการผักไว้สักหนึ่งเล่มที่จะต้องปลูกในวาระดังกล่าวนี้

..........................

ตอนนี้ผมได้เตรียมปลูกสเบียงธรรมไว้รองรับช่วยเหลือคนอยู่ที่หนึ่งที่ จ.นครศรีธรรมราช

สิ่งที่ได้ปลูกไว้แล้วมีดังนี้ และค่อย ๆ ปลูกเพิ่มขึ้น ถึงจะปลูกกินได้แล้ว เมื่อจะนำมาปรุงอาหารต้องน้ำมาล้างด้วย น้ำยาด่างทับทิมก่อนทุกครั้ง สาเหตุเพราะต่อไป เชื้อโรคที่มาจากแบคทีเรียบางชนิดร้ายแรงมาก โรคระบาดที่มาจากผักสู่คน ก็เริ่มระบาดกันหนัก สมมุติว่าเกิดนิวเคลียไม่ว่า ผลกระทบจากพายุสุริยะ หรือน้ำมือของคน รังสีเหล่านี้กระจายไปในอากาศทุกคนจะต้องรับเคราะห์แม่แต่ผักก็ต้องโดน
ฉะนั้น ผักทุกอย่าง ต้องล้างด้วยด่างทับทิมก่อนนำมาปรุงเป็นอาหารทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นเมื่อร่างกายได้รับสารพิษไปสะสมในร่างกายมากเข้า ร่างกายก็จะอ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย และพืชสมุนไพรขาดไม่ได้ตอนนี้กำลังหา พืชสมุนไพรที่ต้องนำมาปลูกเตรียมเพื่อไว้ทำยาด้วยครับ ผักพวกตระกูลถั่วมีประโยชน์ " ถั่วเหลือง" มีคุณประโยชน์มากเมื่อถึงเวลา

ผักที่ปลูกมีดังนี้
1 ฝักทอง
2 ฝักเขียว
3สัปรด
4มะระขี้นก
5 กล้วย ฯ

ปลูกเพื่อรองรับคนที่รอดจากภัยพิบัติ อย่างน้อยคนใกล้บ้านที่ไม่ได้เตรียมการไว้ ก็จะได้ไม่อดกันครับ

 

ขอแนะนำ ตอนนี้ทำสวนเล็กๆอยู่
เราจะเลือกที่ปลูกได้ พวกที่แมลง มด หนอน ไม่ค่อยสนใจ ม่ายงั้นเราต้องฆ่ามัันตลอดชาติแหละ
1. กล้วยเล็บมือนาง มันต้นไม่สูงมาก ออกลูกเร็ว (มีตังค์ก็ไปซื้อกล้วยน้ำหว้ากาบขาวมา ต้นเตี้ยๆ)
2. มะละกอ พื้นบ้าน ปลูกไปก่อนให้มากที่สุด แล้วค่อยถอนทิ้งพวกไม่แข็งแรง
3. ผักเหมียง ทางใต้เยอะ ขึ้นง่าย ไม่เอาแดด ไม่ปรากฏว่ามีแมลงไรไปทำำำำำำมัน ถ้าจะเริ่มปลูกตอนนี้ ต้องรองพื้นหนักๆ หาต้นใหญ่ๆ ม่ายงั้นกินไม่ทัน
4. มะรุม แน่นอน ต้นไม้วิเศษ มีประโยชน์ทุกส่วน คนไม่เคยกิน อย่าผลีผลาม รองนิดๆก่อน เดี่ยวเจอพวกแพ้ (1 ในล้านมั้ง)
5. ใบแม่ย่านาง ก็เป็นหมออีกตัวหนึ่ง
6. อันชัน ต้มน้ำกินง่าย เป็นยาบำรุงสายตา
7. ตำลึง หว่านให้ทั่ว ใต้ต้นมะรุม ผักเหมียง ไม่มีอด เรางี้เก็บไม่ทัน
8. กระเจี๊ยบเขียว ถั่วพลู สองตัวนี้ พอได้ปลูก ก็มีเชื้อของมันเป็นไปตลอดเอง ถึงมีแมงลงก็พอแค่นได้
9. ผักบุ้ง ปลูกเป็นกอหญ้าไปเลย เด็ดยอดกินไปเรื่อย ๆจะอดได้ไง
10. ใบชะพลู ง่ายๆๆๆๆๆๆๆๆใส่แกงเปล่าๆกินยังได้เลย
11. มันสำปะหลัง เลือกปลูกตรงที่ๆไม่สำคัญ รกๆหน่อย หรือที่ๆเราทิ้งขยะแหละดี ไม่มีอด
12. มะเขือโบราณ ทางใต้เรียงเขือพวง ประโยชน์มะหาสาน ปลุฏใกล้มือหน่อย ตัวนี้ ต้องไม่ให้มีมด มดคือเพลี้ย ผีกับโลงเลย มันอาศัยกัน
13. พริกกะเหรี่ยง มันทนดี นอกนั้นต้านเพลี้ยไม่ไหว
หมดแล้ว
มีผักตัวหนึ่งที่แมลงไม่ค่อยสนใจ ตอนเล็กๆมันมีรสขม คือผักที่เขาเอามาทำผักกาดดองแหละ เรากะว่า ถ้าอดอยากจริง จะลงตัวนี้ กับผักบุ้ง

ปุ๋ยหรือ อย่าห่วง ใบไม้ใบหญ้า อย่าเผา ยัดใส่ถึงปุ๋ยไว้มีดินบ้าง นานๆก็ดีเอง
เศษอาหาร ขุดหลุมฝัง นานๆก็คืออีเอ็ม อย่าไปเสียเงินซื้อปุ๋ยให้มากนัก
เราว่าตอนนั้น อุจจาระ มนุษย์คือปุ๋ยที่วิเศษที่สุด
สมมุติว่า ไม่มีน้ำประปา เฮอะ เรื่องจริงนะเนี่ย

 

มีข้อมูลเพิ่มว่า พระท่านสอนว่าเวลาจะปลูกพืชกินหัวใต้ดิน ให้ศึกษาก่อนด้วยว่า

มันเผือกบางชนิดพอทิ้งไว้เกิน 6 เดือน หรือปีหนึ่งหัวจะแข็งหรือมีเส้นใยทำให้กินไม่ได้

แต่บางชนิดเก็บปลูกทิ้งได้สามปี สี่ปียิ่งนานยิ่งโต จำพวกสาคูแดง หรือพวกมันบางชนิดครับ

 

กำลังคิดเรื่องอาหารที่สามารถอยู่ได้นานพอดี น่าสนใจมากค่ะ
มีข้อมูลอันใดจะแจ้งให้ทราบ

 

ตอนนี้ผมเริ่มปลูกมันเทศ และเผือกเอาไว้ใกล้ๆบ้านแล้วครับ
ประมาณ 30 กว่าหลุม กะว่าถ้ามันแทงยอดเมื่อไหร่ ก็จะปลูกเพิ่ม
โดยขยายไปยังไหล่ถนน ริมทาง ในป่าริมทาง ภูเขาต่างๆ

 

ร่วมช่วยค่ะ nutrition ค่ะ

 

คุณ patthawit หายเงียบไปเลยนะไม่ทราบว่ายังทำHand Book เผยเเพร่ให้บผู้ที่สนใจ
อยู่หรือเปล่า
ผมมีผักสองชนิดที่น่าสนใจมาแนะนำ
1วอเตอร์เครส
2โมโรเฮยะ

ไม่ทราบว่า คุณ patthawit ยังทำHand Book เผยเเพร่ให้กับผู้ที่สนใจ อยู่หรือเปล่า
ผมจะช่วยหาข้อมูลผักสองชนิดนี้ให้นะครับ

 

ตอนนี้ผมกำลังเพาะพันธุ์มันเลือดนกเพื่อเป็นเสบียงในอนาคต มีใครสนใจจะร่วมโครงการบ้างเนี่ย เพราะอยากให้ช่วยกันขยายพันธุ์กันมากๆครับ และสถานที่ปลูกควรเป็นที่ๆน้ำไม่ท่วมมาก่อนในระยะ 6 ปีมานี้

ในอีก 5-6 ปีข้างหน้า ผมคิดว่ามีความจำเป็นที่ต้องเตรียมเสบียงไว้ในหลายๆแหล่งที่คิดว่าจะเป็นที่หลบภัยพิบัติร้ายแรงได้ ที่ผมเป็นห่วงคือ สงครามนิวเคลียร์ครับ จึงต้องช่วยกันขยายพันธุ์พืชสำรองไว้ ใกล้วัด ใกล้ที่หลบภัย ริมถนน ที่รกร้าง และในป่าเขา เป็นพืชอาหารและสมุนไพรต่างๆ ท่านใดอยู่ใกล้ๆป่าเขาก็เอาพืชพันธุ์ที่ช่วยยังชีพได้ไปปลูกทิ้งๆไว้เรื่อยๆ เอาพวกเมล็ดพันธุ์พืชไปโปรยๆไว้ก็ยังดี ในอนาคตอีก 5-6 ปีอาจได้ใช้ประโยชน์ครับ

 

มีที่คุณพ่อทิ้งไว้ให้แถวชัยบาดาล จ. ลพบุรี อยากลองปลูกพืชอยู่เหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าดินตรงนั้นเค้าปลูกอะไรกัน ก่อนคุณพ่อเสียปลูกมะม่วง มะขามเทศ แต่ไม่มีเวลาไปดูเลย อยู่ริมน้ำ
มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะคะ น่าจะยังมีคนงานอาศัยอยู่

 

ผมสนใจครับ อยากปลูกไว้ให้เยอะๆ
เพราะผมมองดูแล้ว สิ่งที่ทรหดก็น่าจะเป็นพวกมันนี่แหละครับ
คิดดูนะ ไฟไหม้ป่า เถามันไหม้ แต่หัวยังอยู่ใต้ดิน ฝนตกก็ยังมีโอกาสงอกใหม่
น้ำท่วม ถ้าท่วมไม่นาน พอน้ำลด ก็ยังพอขุดขึ้นมาเป็นอาหารได้

 

เท่าที่ผมศึกษามา มันเลือดนกนี่คือเสบียงอาหารที่น่าสนใจมากชนิดหนึ่งทีเดียวครับ เพราะว่าปลูกง่ายตายยาก หัวมันสามารถมีขนาดใหญ่ได้มากไม่ต่ำกว่า 5 กิโลกรัม ถ้าดินดี มีธาตุอาหารสูง

มันชนิดนี้จะเริ่มงอกช่วงหน้าฝน เป็นเถาเลื้อยพันเกาะเกี่ยวต้นไม้ได้สูงมาก ดังนั้นควรปลูกไว้ใกล้ต้นไม้ให้เขาเกาะเกี่ยวขึ้นไปด้วยนะครับ พอโตได้ที่จะมีลูกมันเล็กๆออกอยู่ตามข้อของเถา บางต้นจะมีลูกเล็กๆได้หลายสิบลูก บางต้นอาจไม่มีเลย เข้าใจว่าเกี่ยวกับธาตุอาหารในดิน ถ้ามีธาตุอาหารมากจะออกลูกได้ดกตามไปด้วย และเถาจะเหี่ยวแห้งตายไปช่วงเข้าฤดูหนาว เหล่าลูกมันก็จะทะยอยตกลงมาบนดิน รองอกเป็นต้นใหม่ในหน้าฝนถัดไป ส่วนหัวมันที่อยู่ใต้ดินก็จะมีขนาดใหญ่และเก็บเกี่ยวได้ในราวเดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายน

ในกรณีที่มันยังหัวเล็กไป ควรปล่อยทิ้งไว้ให้เขางอกต่อในปีถัดไป ทุกครั้งที่งอกใหม่หัวมันเดิมจะฝ่อลง และมันหัวใหม่จะเกิดขึ้นใหญ่กว่าเดิมในปีถัดมา ควรปลูกมันชนิดนี้ลงดินเสมอ ไม่ควรปลูกในกระถาง เพราะหัวเขาจะไม่โต เนื่องจากเขาจะแทงรากลงไปลึกในดินเพื่อหาอาหารมาสะสม

เขาชอบดินที่มีแร่ธาตุโปตัสเซียมสูง เคยปลูกไว้ใกล้บริเวณหลุมถ่านเก่า พบว่ามีขนาดใหญ่มากทีเดียวครับ เอาขี้เถ้าไปใส่แทนปุ๋ยก็ยังทนได้ดีครับ

ลักษณะที่เขาออกลูกมันบนต้นไว้ที่เขาเกี่ยวขึ้นไป ทำให้เขาสามารถกระจายตัวไปได้กว้างไกลถ้านำไปปลูกไว้บนยอดเขาที่ไม่ชันนัก จะทำให้มีการขยายพันธุ์ไปได้ตามแนวลาดชันของภูเขาได้เอง

มันชนิดนี้สามารถนำไปต้มจิ้มน้ำตาล หรือใส่น้ำกระทิ อร่อยมากครับ

คุณ suthipongnuy แจ้งชื่อที่อยู่จัดส่งมาให้ผมทาง pm นะครับ

ถ้าท่านใดอยากร่วมโครงการขยายพันธุ์เพื่อเป็นเสบียงสำรองในอนาคตก็แจ้งชื่อมาได้ครับ ผมพอมีแจกได้อีกจำนวนหนึ่งขออีกไม่เกิน 5 ท่านครับ อยากให้ท่านช่วยขยายพันธุ์เพื่อช่วยเหลือส่วนรวมด้วยนะครับ และระวังอย่าปลูกในที่น้ำท่วมได้ง่ายนะครับ

การเพาะพันธุ์ก็เพียงนำหัวมันที่แจกไปปลูกในดิน ด้วยการขุดหลุมตื้นๆแล้วฝังหัวมันลงไป พอให้ผิวด้านบนโผล่มาเล็กน้อยก็พอ ถ้าเขางอกแล้วก็ให้โผล่มาในส่วนที่งอก รดน้ำพอตั้งตัวได้แล้ว ถ้าฝนตกตามปกติก็ไม่ต้องรดอีกเลยก็ยังได้ แต่ถ้าแล้งก็ช่วยรดน้ำบ้างตามสมควร อย่าให้น้ำท่วมจะเน่าตายได้

 

ขอบคุณจริงที่มีหัวข้อนี้ กำลังหาข้อมูลจะปลูกผักสวนครัว ไว้กินยามปรกติและยามเกิดภัยพิบัติ ว่าจะปลูกทั้งผลไม้ พวกมัน ผักต่างๆ

 

ท่าน aries ผมส่งรายละเอียดไปทาง PM แล้วนะครับ

การขยายพันธุ์ของมันเลือดนก คงเหมือนๆกับมันพันธุ์อื่นๆใช่หรือเปล่าครับ

รูปข้างล่างเพิ่งถ่ายวันนี้ครับ หลังจากปลูกได้ประมาณ 1 สัปดาห์

มีมันพื้นบ้าน กับ เผือก