ต้องวางทั้งสมมุติและวิมุติจึงจะถึงความร่มเย็น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 17 ตุลาคม 2017.

  1. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :p:p:mad:เขาเรียกชี้ขุมทรัพย์ กัลยาณมิต..มองแต่ด้านดีเดียวนี่แหละ-จะทนผัสสะแรงๆไม่ได้ขึ้มาเลยไง อีคิวสูงนี่ ลองผัสสะดูก็เท่านั้น อิอิ
     
  2. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ปัจจัตตัง เวทิตับโพ...มีความหมายมากแต่ไม่เคยเกินเอื้อมคับ เหมือนกับความคิดของคนแต่ละคนนั้นไม่มีใครที่จะไปเปลี่ยนแปลงความคิดของคนอื่นๆได้ ดังนั้นมันจึงเกิดขึ้นแลเป็นเพราะตัวเขาเอง..ไม่ว่าจะอะไรถ้าคิดว่ามันเป็นสมมุติก็อาจจะเป็นได้แต่ไม่ทั้งหมดในความเป็นจริงนั่นหมายถึงมีทั้งสิ่งที่ถูกบัญญัติขึ้นจริงกับสิ่งเป็นไปโดยธรรมชาติแต่ถ้าเราไม่ทราบว่าแล้วอะไรคือจริงอะไรคือสมมุติผลลัพธ์คือหลง...ซึ่งมีหลายรูปแบบมากมายตามแต่จะคิด...บ้างก็คิดว่าเป็นเทพบ้างก็คิดว่าเป็นพรหมบ้างก็คิดว่า....ทั้งหมดนี้มีเหตุจากการฟังอ่านเขียน ทั้งสมมุติและวิมุติต่างก็ถูกสร้างในฐานะเดียวกันคือความปรุงแต่งแต่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ผู้วิมุติจะไม่แบแสหรือใส่ใจกับความหมายมันก็จะกลับมาที่เรื่องเเดิมๆ คือ แล้วอะไรสมมุติอะไรวิมุติ สิ่งที่ควรทำคือการใส่ใจในสิ่งที่เหนือกว่่าคำพูด ความคิดที่ยึดว่าถูกเพราะฟังตามกันมาก็หายไปเพราะพิสูจน์จากตัวเอง วิมุติจึงไม่ใช่ประเด็นที่เป็นประเด็นคือยึดมั่นในสิ่งใดด้วยสิ่งใดและความจำเป็นของการยึดมั่นมีมากแค่ไหนการนำคำสอนมาก็ไม่ใช่นำมาแบบตรงตัวไปทั้งหมดหลายอย่างเป็นเพียง...อาจจะแค่แนวทางแต่หลายอย่างก็เป็นจริงตามนั้นแต่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ใครก็รู้ได้ อุปมาเหมือนคนไม่เคยกินเผ็ดจะรู้ได้ไงว่าเผ็ดคืออะไรไปจนถึงคนที่กินแต่ของเผ็ดมาแต่แรกแต่ไม่รู้ว่านั่นคือเผ็ด เพราะทั้งหมดล้วนสมมุติขึ้นตามเหตุปัจจัย...หลายอย่าง
     
  3. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ธรรมใดเกิดแต่เหตุพระศาสดาตรัสเหตุแห่งธรรมนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...