ถามผู้รู้ ในเรื่องแนวคิดศาสนาและวิทยาศาสตร์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย สุพจน์, 8 สิงหาคม 2005.

  1. สุพจน์

    สุพจน์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +5
    สวัสดีครับ ผมเพิ่งสมัครสมาชิกใหม่เมื่อก่อนเที่ยงวันนี้นี่เอง
    ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ผมยังเป็นคนเขลาอยู่ยังมีองค์ความรู้ที่น้อยนิด เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนเพียงบางข้อเท่านั้น แต่ที่ยึดถือมาตลอดคือ โอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งได้น้อมนำมาเป็นครรลองเป็นทางเดินเพื่อตามพระตถาคตเจ้า ไปยังนิพพานอันเป็นจุดสูงสุดของความปราถนา เพื่อที่จะหลุดพ้นจากบ่วงทั้งหลาย
    และบังเอิญผมได้เข้าเวปมาโดยบังเอิญ จึงอยากสอบถามท่าน ผู้รู้ในธรรม ทั้งหลายเพื่อช่วยเปิดทางสว่างเพื่อนำไปสู่ความปราถนาสูงสุดต่อไป
    ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ศึกษาทางโลกมาพอสมควรจบบ้างไม่จบบ้าง นั่นมิใช่สาระสำคัญเท่าใดนัก แต่สิ่งที่ทำให้ผมเข้ามาโพสถามท่านผู้รู้ทั้งหลาย เพราะบางขณะจิตของผมนั้นมีความอยากรู้ ในสิ่งที่เป็นไปในธรรม แต่บางครั้งก็หาเหตุได้จากผลที่ได้รับรู้ แต่ในบางครั้งก็ไม่สามารถรับรู้ได้เพราะความโง่ความเขลาและกิเลสตัณหายังมีอยู่ปัญญาจึงไม่เกิด
    ผมชอบวิทยาศาสตร์มิใช่เพราะพิสูจน์อะไรต่างๆได้ แต่หากเพราะวิทยาศาศตร์ได้เปิดโลกทัศน์ในหลายส่วน ซึ่งผมคิดว่าบางครั้งเราเกิดมาก็เพื่อที่จะเรียนรู้แบบนี้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อศึกษาไปพอสมควรกลับได้รู้ซึ้งว่า วิทยาศาสตร์กับพระพุทธศาสนากลับเป็นคนละเรื่องเดียวกัน เหมือนกับการตีเกลียวของเชือกสองเส้นคู่กันไป
    วิทยาศาตร์ผมคิดว่าเป็นธรรมะ พอๆกับธรรมะก็เป็นวิทยาศาสตร์ ในวิทยาศาสตร์มิว่าแขนงใดๆก็มิได้มีข้อขัดแย้งกับธรรมะของพระพุทธองค์เลยแม้แต่ข้อเดียว และในทางวิทยาศาตร์ก็ยังกล่าวถึง" พระพุทธเจ้า"ว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์เอกของโลกอีกด้วย
    ดังนั้นแนวความคิดของผมจึงออกไปทางวิทยศาสตร์ การศึกษาของผมส่วนใหญ่จึงต้องทดลอง บางครั้งลองผิดลองถูกเอง บางครั้งก็ได้รับคำแนะนำบ้าง บางครั้งเห็นผิดเป็นถูก บางครั้งเห็นถูกเป็นผิด ซึ่งจากการนี้ทำให้บางครั้งคนรอบๆตัวผมบางครั้งเห็นความคิดเพี้ยนๆแบบนี้ก็ตำหนิบ้าง บ้างก็ว่าใกล้บ้า และแต่โลกีย์วิสัยแต่ละคนจะวิจารณ์
    แต่ผมก็ได้ปฏิบัติ วิปัสสนาสมาธิ บ้าง(สมัยเด็กผมชอบทำเพราะ ทำให้จิตใจสงบ แต่เมื่อโตขึ้น กิเลสหนาขึ้นนานๆครั้งจึงมีโอกาสทำ แต่ไม่มีผลเท่าที่ควรเหมือนตอนเด็ก จะเกิด ปีติประจำ) แต่ตอนนี้นั่งไม่นานพญามารก็ส่งลูกสาวมาร้องเพลงกล่อมให้หลับซะแล้ว ไม่เคยเข้าถึง ฌาณ เลย

    แต่คงจะเป็นวาสนาหรือเปล่าผมไม่รู้ได้ที่มาเจอเวปนี้เข้า จึงมีโอกาสถามผู้รู้เพื่อความกระจ่างคลายข้อสงสัย และชี้ทางสว่างให้ผู้เขลาคนนี้

    มาถึงคำถามของคนเขลาบ้าง
    1.ถ้าหากว่ามมนุษย์ต่างดาวจริงๆ เมื่อมนุษย์ต่างดาวได้ตายไป จะไปนรกหรือสวรรค์ที่เดียวกันกับ เราหรือไม่
    2.ถ้าหากว่าเราถอดจิตได้ อยากถามว่ารูปร่างของเราจะมีลักษณะใด และหากเรามีความพิการแขนขาขาด เมื่อดวงจิตออกจากร่างจะมีแขนขา ขึ้นมาหรือไม่
    3.เป็นคำถามแบบเด็กๆ สวรรค์ของฝรั่ง(นับถือศาสนาอื่น)กับของไทยอันเดียวกันหรือไม่ เทวดาของเขาใส่ชุดแบบไหนและคุยภาษาอะไรบ้าง
    -คำถามเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
    1.ถ้ากล่าวถึงพระนิพพาน คือสถานที่ใด
    2.ถ้าหากเราได้ ฌาณ ญาณ หรือ อภิญญา นี่ถือว่าเราเขาถึง พระธรรม หรือไม่
    3.ถ้าหากการ ที่เราจะบรรลุ อะไรก็ตามเป็นเพราะพรหมลิขิตด้วยหรือเปล่า เช่นหากเราบรรลุโสดาบัน นั่นก็เป็นเพราะ สวรรค์ลิขิตให้บรรลุหรือเปล่า เพราะการเข้าใจของผมยังเป็นวิทยาศาสตร์อยู่ ซึ่งผมมีแนวความคิดที่เกี่ยวกับกาลเวลาและพรหมลิขิตสามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งผมอธิบายไว้ที่ http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=104518#post104518

    เหตุที่มีแนวคิดหรือคำถามทำนองนี้เพราะผมยังเป็นคนธรรมดาที่ต้องการเห็นแสงสว่างในทางเดินไปสู่นิพพาน

    นี่คือคำถามของคนที่ยังเขลาอยู่ ท่านผู้รู้ โปรดชี้ทางด้วยครับ

    และผมยังมีคำถามเกี่ยวกับจิต ในการถามก็จะยังเป็นวิทยาศาสตร์อยู่เช่นเดิม แต่จะขอถามในครั้งต่อไปหลังจากที่ได้คำตอบจากทั้งผู้รู้ทั้งหลายในหัวข้อนี้แล้ว
     
  2. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,331
    คุณบอกว่า คุณรู้จักแ่ต่โอวาทพระปาฏิโมกข์ เป็นส่วนใหญ่นั้น
    ผมก็ขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามโอวาทพระปาฏิโมกข์ต่อไป
    เพราะข้อความในพระไตรปิฎก 48,000 พระธรรมขันธ์นั้น
    ย่อใ้ห้สั้นสุด มีแค่สามอย่างเอง คือ
    1. เว้นจากการทำทุจริต
    2. ประกอบแต่สิ่งสุจริต
    3. ทำจิตใจให้สดใสหมดจด

    ตามคำถามที่คุณต้องการทราบดีกว่า
    1.ถ้ากล่าวถึงพระนิพพาน คือสถานที่ใด
    นิพพานไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นสภาวะจิตที่หมดจากกิเลส
    2.ถ้าหากเราได้ ฌาณ ญาณ หรือ อภิญญา นี่ถือว่าเราเขาถึง พระธรรม หรือไม่
    ถ้าเราได้ ฌาน อภิญญา แล้วไปใช้ในทางที่ผิด ถือว่า ไม่เข้าถึงพระธรรม
    ส่วนได้ญาณ คือ ความรู้ยิ่ง ๓ อย่าง เพื่อการตรัสรู้ ถือว่า เข้าถึงพระธรรม
    3.ถ้าหากการ ที่เราจะบรรลุ อะไรก็ตามเป็นเพราะพรหมลิขิตด้วยหรือเปล่า เช่นหากเราบรรลุโสดาบัน นั่นก็เป็นเพราะ สวรรค์ลิขิตให้บรรลุหรือเปล่า
    ไม่ใช่พรหมลิขิต ศาสนาพุทธปฏิเสธ พรหมลิขิต แต่เชื่อ กรรมลิขิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _____9.jpg
      _____9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      139.6 KB
      เปิดดู:
      87
  3. ผู้เดินทาง

    ผู้เดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +407
    ขออนุญาตตอบในส่วนของพุทธศาสนาครับ

    -คำถามเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

    1.ถ้ากล่าวถึงพระนิพพาน คือสถานที่ใด

    พระนิพพานมีอยู่ แต่จะ"ไปอยู่"พระนิพพานได้อย่างถาวร ต้องกิเลสนิิพพานก่อนครับ นั่นคือต้องฆ่ากิเลสตัณหาในสันดานให้หมดก่อน การปราถนาในนิพพานชนิดที่อยากไปอยู่ อยากไปเป็นนั้น เป็นการปราถนาด้วยภวตัณหา การปราถนานิพพานเพราะไม่อยากเกิดอีก ไม่อยากเป็นนั่นเป็นนี่อีก ก็เป็นการปราถนาด้วยวิภวตัณหา ตราบใดยังมีตัณหาอยู่ ไม่มีทาง"ไปอยู่" นิพพานได้ถาวรครับ แม้นิพพานจะมีอยู่ แต่ต้องวางเฉย แล้วเพียรขัดเกลากิเลสครับ สร้างเหตุไว้ตรงแล้ว ผลย่อมมาเอง

    2.ถ้าหากเราได้ ฌาณ ญาณ หรือ อภิญญา นี่ถือว่าเราเขาถึง พระธรรม หรือไม่

    ฌาณ ญาณ หรือ อภิญญา จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระธรรม แต่ยังไม่ใช่แก่นธรรมครับ การทำให้กิเลสในสันดานดับสนิทลงได้อย่างถาวรไม่กลับกำเริบขึ้นอีก (นิโรธ) นั้น คือแก่นธรรมครับ

    3.ถ้าหากการ ที่เราจะบรรลุ อะไรก็ตามเป็นเพราะพรหมลิขิตด้วยหรือเปล่า เช่นหากเราบรรลุโสดาบัน นั่นก็เป็นเพราะ สวรรค์ลิขิตให้บรรลุหรือเปล่า เพราะการเข้าใจของผมยังเป็นวิทยาศาสตร์อยู่

    สร้างเหตุให้ตรงแล้วผลจะตามมา (กฏแห่งกรรม) ธรรมทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย (อนัตตา) ไม่มีใครบังคับหรือทำให้เป็นไปได้ดังใจได้ตลอดเวลา การเป็นพระโสดาบันได้ ก็เพราะเจริญมรรค 8 ได้พร้อมถูกส่วนดีแล้ว ทำให้ละกิเลสหยาบๆได้เด็ดขาด มิใช่ใครมาเนรมิตให้เป็นไป อาจทำได้แค่อำนวยความสะดวกให้บางประการ
     
  4. สุพจน์

    สุพจน์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอบคุณครับที่ชี้ทางเห็นธรรม ให้กับผู้ที่ยังเขลาอยู่
     
  5. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    ลองไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่กระทู้นี้ได้นะคะ
    อาจจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกบ้างค่ะ

    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=11731
     
  6. Gaze from Darkness

    Gaze from Darkness สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +20
    ..........................





    ..........อืม...........
    ข้อ1.ไม่สามารถตอบได้ด้วยภาษาใดๆที่มีอยู่ในปัจจุบันได้
    ข้อ2.เป็นการเห็นโดยตัวเองหรือเป็นการเห็นโดยผู้อื่น ย่อมต่างกัน
    ข้อ3.ใช่หรือไม่นั้นเช่นเดียวกับ 1. ผมปฏิเสธการเห็นสิ่งเหล่านั้น(โดยส่วนตัว) ภาษาหากได้ยินด้วยหูแบบคนทั่วไป จะได้ยินราวกับเสียงร้องเพลง
    -เกี่ยวกับพุทธศาสนา ขอไม่ตอบก็แล้วกัน ผมไม่ได้นับถือศาสนาใดๆแล้ว
     
  7. gap975

    gap975 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอตอบครับ

    1. ในจักรวาลนี้พระพุทธองค์ทรงตรัสว่ามี 4 ทวีป โลกของเราคือชมภูทวีป และมนุษย์แต่ละทวีปก็มีลักษณะไม่เหมือนกัน มนุษย์ของโลกอื่น (ที่เราเรียกว่ามนุษย์ต่างดาวนั้น) เมื่อตายไปย่อมเป็นไปตามกรรมที่ได้กระทำไว้แล้วดั่งเช่นมนุษย์บนโลกนี้ อาจจะเกิดในอบายภูมิหรือสุขคติภูมิก็ได้
    2.ในกามาวจรภูมิ (รวมถึงอบายภูมิ มนุษยภูมิ และภูมิของเทวดา 6 ชั้น เว้นรูปพรหมภูมิและอรูปพรหมภูมิ) จิตจะเกิดโดยปราศจากรูปไม่ได้ ดังนั้นคนที่บอกว่าสามารถถอดจิตจากกายไปไหนมาไหน เช่น ไปนรก ไปสวรรค์ ย่อมเป็นไปไม่ได้
    3.มนุษย์เมื่อตายไปแล้วจะไปเกิดที่ภูมิไหน ย่อมเป็นไปตามกรรมที่ได้กระทำแล้ว ไม่เว้นว่ามนุษย์นั้นจะเกิดชาติใด พูดภาษาใด

    ตอบคำถามเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
    1.พระนิพพานมี 2 ความหมาย อย่างแรกคือความหมายที่ว่าเป็นอารมณ์ของโลกกุตรจิต ต้องแต่โสดาปัตติมรรคจิต ก็ต้องมีนิพพานเป็นอารมณ์ โสดาปัตติผลจิตก็ต้องมีนิพพานเป็นอารมณ์ ... จนถึงอรหัตมรรคจิตและอรหัตผลจิตก็ต้องมีนิพพานเป็นอารมณ์เช่นเดียวกัน อีกความหมายหนึ่งคือ การตายของพระอรหันต์ เมื่อจุติจิตของพระอรหันต์ดับแล้ว ย่อมไม่เป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตและรูปเกิดอีกเลย ดังนั้นเมื่อพระอรหันต์นิพพานแล้ว จึงไม่มีการเกิดอีก
    2.ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติหรือการเกิดดับของนามธรรมและรูปธรรม ตามใดที่เรายังไม่บรรลุธรรมขั้นตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป เมื่อตายไปก็ย่อมมีปัจจัยให้เราเกิดในอบายภูมิได้ ถึงแม้ว่าเราจะได้ญาณหรืออภิญญาขั้นสูงแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นจึงควรปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมะ โดยยึดหลักมรรคมีองค์ 8 หรือสติปัฏฐาน 4
    3.การจะบรรลุธรรมขั้นฌาน หรือโลกุตตรจิต นั้นไม่ใช่การบังเอิญ หรือพรหมลิขิตแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยที่เราอบรมมาแล้ว เช่นการที่ทำสมาธิ (สมถภาวนา) แล้วจะให้ผลคือการบรรลุโลกกุตรจิตนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย ดั่งจะเห็นว่าพุทธศาสนิกชนสมัยนี้เข้าใจในหลักพระพุทธศาสนาไม่ถูกต้องมาก เห็นเขาบอกว่าต้องทำสมาธิก่อน ก็ทำตามโดยไม่ได้อาศัยหลักเหตุและผลเลย แต่การจะบรรลุโสดาบันได้ต้องมีเหตุสมควรแก่ผล ซึ่งเหตุก็คือในขณะนี้นี่เอง แล้วแต่ว่าบุคคลใดจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ศึกษาเอาเองละกัน ในพระไตรปิฎกนะ
    ไปละ บ๊าย บาย
     
  8. อักขรสั จร

    อักขรสั จร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +343
    1.ถ้าหากว่ามมนุษย์ต่างดาวจริงๆ เมื่อมนุษย์ต่างดาวได้ตายไป จะไปนรกหรือสวรรค์ที่เดียวกันกับ เราหรือไม่

    - กรรมเดียวกันก็ที่เดียวกันครับ

    2.ถ้าหากว่าเราถอดจิตได้ อยากถามว่ารูปร่างของเราจะมีลักษณะใด และหากเรามีความพิการแขนขาขาด เมื่อดวงจิตออกจากร่างจะมีแขนขา ขึ้นมาหรือไม่

    - ถ้าถอดจิต กายที่สร้างขึ้นมาก็เป็นตามจิต มีแขนขาหรือไม่ก็ตามใจชอบ
    ถ้าถอดกายทิพย์ก็อีกเรื่องครับ

    3.เป็นคำถามแบบเด็กๆ สวรรค์ของฝรั่ง(นับถือศาสนาอื่น)กับของไทยอันเดียวกันหรือไม่ เทวดาของเขาใส่ชุดแบบไหนและคุยภาษาอะไรบ้าง

    - กรรมเดียวกันก็ไปที่เดียวกันครับ เทวดาแต่งชุดตามใจชอบ คุยภาษาเทพครับ

    คำถามเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
    1.ถ้ากล่าวถึงพระนิพพาน คือสถานที่ใด

    - คือภพอันมีแต่ผู้ดับกิเลสจนสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษแล้ว

    2.ถ้าหากเราได้ ฌาณ ญาณ หรือ อภิญญา นี่ถือว่าเราเขาถึง พระธรรม หรือไม่

    - ไม่แน่ครับ ถ้าอภิญญาหกก็เข้าถึงแล้วแน่นอน

    3.ถ้าหากการ ที่เราจะบรรลุ อะไรก็ตามเป็นเพราะพรหมลิขิตด้วยหรือเปล่า เช่นหากเราบรรลุโสดาบัน นั่นก็เป็นเพราะ สวรรค์ลิขิตให้บรรลุหรือเปล่า เพราะการเข้าใจของผมยังเป็นวิทยาศาสตร์อยู่ ซึ่งผมมีแนวความคิดที่เกี่ยวกับกาลเวลาและพรหมลิขิตสามารถอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์
    - กรรมลิขิตครับ พรหมเองก็โดนกรรมลิขิตเหมือนกัน ส่วนสวรรค์เป็นสถานที่ แค่จะเดินยังไม่ได้เลย อย่าว่าแต่ลิขิต ความเข้าใจของคุณยังไม่เป็นวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำครับ อย่าเพิ่งรีบอธิบายก่อนตัวเองจะเข้าใจเลย เดี๋ยวจะเดือดร้อนเปล่าๆ
     
  9. สุพจน์

    สุพจน์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอบพระคุณ กัลยาณมิตรทุกท่านครับ ที่แบ่งปันองค์ความรู้ในธรรม ทำให้ผมได้เข้าใจมากขึ้น

    แต่ผมยังมีคำถามในกระทู้ต่อไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...