ถามอาหมู (amu) หน่อย

อามู นายอยู่ที่กรุงเทพใช่ป่ะ เรามีเรื่องจาถามนิดนึง

คลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์ คลื่นทั้งหลายแหล่ในเมืองน่ะมีผลต่อการใช้พลังจิตหรือปล่าว แล้วมีผลมากมั๊ย เพราะปีหน้าเราจาลองแอดมิดเข้าธรรมศาสตร์น่ะ แต่ถ้าเจอคลื่นรบกวนแล้วพลังจิตหายอาจจะไม่ไปก็ได้ เพราะเราใช้พลังจิตจำหนังสือเรียน ถ้าไปแล้วพลังจิตหายก็โง่เป็นควายเลย ไม่อยากเรียนให้เสียเวลา เสียพลังจิต
​

ตอบด้วยนะ แท้งกิ้วมากๆ

ป.ล. เค้าจาแอดมิดเข้าแพทย์ธรรมศาสตร์ เหอๆๆๆ
​

 

จิตแพทย์ครับ (ลืมบอกโทดที)

 

อะนะ ถามผู้ใหญ่ๆจิคับ ถามผม จะเอาไรมาตอบละ

นั่งสมาธิจิคับ ให้ปิติโผล่ออกมาแล้ว อามูว่ามันน่าจะช่วยได้มากนะ

แต่อย่าทำจนถึงแบบที่อามูทำล่ะ อามูว่ามันอันตรายถ้านายคุมไม่อยู่

 

-*-

 

เมื่อก่อน ผมอยู่อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นกับผมบ่อยมา แต่พอย้ายมาอยู่ เมืองทีคนตกท่อ มันก็ค่อยๆหายไป จนไม่มีไรเหลือ
ไม่รู้อะนะว่าเกี่ยวกันไหม - -

 

ไม่ใช่ amu แต่ก็อย่าถือว่ามาตอบเลยครับ

แค่มาแสดงความคิดเห็น

พลังจิต มันเป็นคลื่นความถี่สูงมากกว่า คลื่นที่คุณพูดถึงมากนะ ยิ่งทำสมาธิได้ดี พลังจิตยิ่งละเอียด ความถี่สูงมาก เทียบกับคลื่นที่ว่ามา มันคนละชั้นกันเลย

เอาง่ายๆ พลังจิตที่ใช้สื่อสาร เอาแค่ข้ามประเทศ ข้ามทวีป ไม่เอาถึงจักรวาลอื่น ยังเร็วกว่าคลื่นที่เราใช้สื่อสารกันมากเลยเลยครับ

จะกลัวไปทำไม ไม่เข้าใจจริงๆ

 

น้องเค้าคงไม่มีใครชี้แนะเรื่องการเรียนแพทย์น่ะค่ะอาจารย์00000

น้องจ๊ะยายผีป่าขอบอกนะคะว่า จงอยู่กับความเป็นปัจจุบัน หรือที่พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสไว้แล้วว่าให้เดินสายกลาง ชีวิตบนความเป็นจริง มันไม่ใช่อย่างที่น้องคิดนะคะ จริงอยู่น้องสนใจเรื่องพลังจิตเพื่อบำบัดจิต(โรคจิต) แต่น้องอย่ากลายเป็นคนป่วยเสียเองนะคะ สิ่งที่น้องสนใจ น้องกำลังฝึกนี้มันเป็นแรงบันดาลใจแรงกระตุ้นพิเศษที่น้องปารถนาให้มันได้เป็นจริงสักวัน

พลังจิตเป็นคลื่นพลังงานชนิดหนึ่งค่ะ และรวนได้หากมีคลื่นแฝงอื่นๆ รบกวน เรียกได้ว่าคลื่นแทรกก็ได้ แต่ที่น้องมุ่งว่า จำตำราจากการใช้พลังจิต ยายผีป่าขอบอกเลยนะคะว่า ดีค่ะแต่มันไม่ใช่เรื่องเลย น้องต้องขยันอ่านหนังสือตำหรับตำราด้วยความเข้าใจ สนใจเรียน ซักถามครูหรือค้นคว้าเพิ่มเติม พลังจิตของน้องคือความตั้งมั่นว่า ฉันต้องทำให้ได้ เมื่อเราตั้งมั่นว่าจะทำให้ได้ เราก็ต้องมีสมาธิ จิตเราไม่ว่อกแว่กกับเรื่องไร้สาระ ไม่เพ้อเจ้อ เราเอาแต่เนื้อหาที่สำคัญมาเป็นประเด็นเท่านั้น น้องอยากเป็นหมอรักษาคนหรือหมอดูล่ะคะ เลือกเอา

ถ้าน้องคิดว่าจะใช้พลังจิตตามที่น้องฝึกมานั้นทำข้อสอบโดยไม่ทำความเข้าใจกับบทเรียน ไม่ปรับตัวให้เป็นคนปกติ รับรองได้ค่ะว่าต่อให้น้องสอบผ่าน น้องก็ไม่สามารถรักษาคนไข้ได้ดีค่ะ ยายคนหนึ่งล่ะที่ไม่ไปรักษากับน้อง เพราะน้องไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่มีจุดยืน น้องจะไปให้ใครมั่นใจในตัวน้องได้ล่ะคะ น้องทำตัวไม่ต่างกับเครื่องซีล็อคเอกสาร คือก๊อบปี้อย่างเดียว

ยายผีป่าไม่ปากหวานนะคะ เพราะถ้าไม่บอกอย่างนี้ น้องหลงทางแล้วจะทำให้น้องเตลิดไปใหญ่เลย

ฝึกต่อไปเถอะกับเทคนิคที่น้องกำลังฝึก เพราะยายผีป่าก็เคยเอาตำราของฝรั่งมาหัดฝึกกับเพื่อนๆ ตอนสมัยวัยแรกรุ่นเช่นกัน แต่ที่สมองดี มีความคิดรอบคอบกว่าคือ การฝึกอาณาปานสติค่ะ ตามรอยพระพุทธเจ้าเดี๊ยเลย การฝึกของน้องเป็นอานาปานสติแบบหนึ่งค่ะ

เอ...แล้วยายผีป่ามายุ่งอะไรกับห้องวิทยาศาสตร์ทางจิตล่ะเนี่ย ชื่อก็บอกอยู่โทนโท่แร้วว่า ห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต ไปแระ

 

เป็นจิตแพทย์ก็ดีนิ จะได้ช่วยรักษาคนที่เป็นโรคจิตแถวๆ นี้ซะหน่อย .. แห่ะๆ หมายถึงคนนี้นะ ---> ###อ่อน###

ฮิฮฺฮิ

 

บางครั้ง "ความมั่นใจตัวเอง" นี่ล่ะ จะเปล่งพลังทำให้เรามีรัศมี บางอย่างได้แหย่ะ เชื่อกิ อามูเชื่อมั่น ในความมั่นใจตัวเอง นะ

 

หรอคับ ใช้พลังจิตดำข้อสอบได้ก็คงดี จะได้เต็มเลย ใช้พลังจิตเดาว่าข้อไหนถูก
ปีหน้าผมก็ต้องสอบ แอสมิสชั่นเหมือนกัน แต่ว่ามันติดตรงที่ว่าขี้เกียจอ่านหนังสืออ่ะคับ จะทำเยี่ยงไรดี

ฝึกสมาธิเนี้ยก็ดีเหมือนกันเนอะ ทำให้เรียนดีขึ้นระดับ 1 หมายความว่าเรียนดีขึ้น สมองมีที่ว่างเพิ่มขึ้นมั่ง 5555

 

ขอตอบ ด้วยคนนะครับ คลื่นวิทยุไม่มีผลอะไรหรอกครับ การันตีด้วยใบ ปริญญา อิเล็กทรกนิกส์ เพราะมนุษย์คนธรรมดาๆ ไม่สามารถที่จะรับคลื่นความถี่เหล่านั้นได้หรอกครับ เพราะตลืนเหล่านี้จะมีตัวส่งและตัวรับที่สามรถที่จะถอดสัญญาณคลื่นความถี่ต่าง คิดง่ายๆ นะครับ เปรียบเทียบโทรศัพท์ มือถือ ไงครับ ถ้ามีผลจริงๆ ก็คนเป็นกันทั่วโลกแล้วละครับ หรือ รีโมท TV ก็ได้นะครับ คุณเอารีโมทมากดใส่ตัวคุณดูสิ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกครับ เพราะมันไม่มีตัวรับสัญญาณ และปัจจุบัน นี้คลื่นต่างๆ ที่วิ่งอยู่ในอากาศ มันมีเยอะแยะไปหมด แต่คนเราก็ดำเนินชีวิต ได้ตามปรกติ..คิดง่ายๆนะครับ อย่าไปคิดมาก

 

เราว่าไม่เกี่ยวนะ เพราะ ไม่มีใครที่ไหนใช้พลังจิตอ่านหนังสือหรอก นายอาจคิดไปเองว่าใช้พลังจิตจำข้อความอ่านหนังสือ แต่นายรู้หรือไม่ว่า นายอาจอ่านด้วยความเคยชิน อ่านหลายๆรั้งจนนายจำได้ เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับพลังนะ เพราะว่าเราเองก็ฝึกนะพลังจักรวาล เราอยู่ในขั้นที่สูงมากด้วย ไม่เห็นใช้พลังในการจำข้อสอบได้เลยแฮ่ะ เราว่าไม่น่าจะเกี่ยว เราไม่ได้มาตอบนะ เราแค่มาเสนอความคิดเห็น เราว่านายควรอ่านหนังสือเยอะๆจะดีกว่า มาพุดถึงการจำด้วยพลังจิตอะไรทำนองนี้ นะ

 

จ๊าก ไม่ใช่แบบนั้นครับยาย (โดนด่ายับเลย) พลังที่ผมใช้จำหนังสือเป็นสายวิญญาณ หรืออันที่จริงมันก็คือจินตนาการนั่นเอง จินตนาการของผมมากกว่าชาวบ้านเค้านิดหน่อย ผมก็ลเยใช้จินตนาการสร้างรูปแบบของความจำแบบโครงร่างขึ้นมา เพื่อป้องกันการลืม แต่ก่อนจะจำได้ต้องเข้าใจในสิ่งที่จะจำก่อนเพื่อนำไปผูกกับความทรงจำที่มีอยู่เดิม การจำแบบนี้ทำให้เมื่อเรานึกถึงเรื่องๆหนึ่งแล้วจะนึกโยงไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องด้วย เวลาเรียนเวลาสอบก็จะจำได้ทั้งหมด การนึกก็จะง่าย ถ้าใช้พลังจิตแล้วจำได้หมดผมคงเรียนเก่งกว่านี้อีกเยอะเลยละครับ

โดนแล้วสิเรา ใครก็ได้เรียกยายมาอ่านด้วยน้า เดี๋ยวยายจะเข้าใจผิดไปตลอดกาล TT

ป.ล. การจำแบบนี้ใช้เนื้อที่ในสมองเยอะมาก... ควรหัดจำแบบปรกติบ้าง ด้วยความปรารถนาดี
จากน้องอ้น


​

 

หุหุหุ แบบว่าก่อนอ่านก็นั่งสมาธิก่อน พอนั่งสมาธิออร่าก็มา แล้วก็จับออร่านี้แหละเอาไปทำเป็นพันธะเชื่อมความทรงจำซะเลย

 

ก็ของผมมันยังมีความถี่ไม่มากนี่ครับ เดี๋ยวคลื่นมันเกิดการแทรกสอด แล้วผมไม่แย่รึเนี่ย

 

ชื่อของ อามู และ อีมู เหมือนๆ กับเคยเจอที่ไหนซักแห่ง

อืมม์ ... น่าจะ ตอน "กำเนิดหุ่นยนต์ ผู้พิชิต ผู้ครองโลก"

ฮ่า ห่ะ หะ 555

 

อืม ถ้ามีความตั้งใจจริงอ่านหนังสือแค่นี้แป๊บเดียวก็จำแล้วค่ะ

 

ถ้าสัมผัสแรงจริง คงจะต้องมีอาการปวดเศียรเวียนเกล้าบ้างหละครับ
แต่ก็สำหรับ กทม. แค่มลพิษทางกาศ+เสียง จิตก็กระเจิงแล้วครับถ้าไม่แน่นจริง
ต้องใช้หลักปฎิบัติทางพุทธศาสนาเข้ามาช่วย เพราะต่อให้ใช้พลังจิตได้สูงอย่างไร แต่เอามาใช้ไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์นะครับ งิงิ



...พูดไปนั่นหละตู

 

แต่จากเนื้อหาหัวข้อกระทู้แล้ว
ไม่น่าจะมีผลอะไรนะครับ
แค่พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าทำการใดให้จิตฟุ้งซ่านก็พอแล้ว
การจดจำแบบนั้นมันจำแม่นกว่าจริงๆ
แต่มีข้อเสียคือมันไม่บันทึกลงในจิตใต้สำนึก เป็นความทรงจำระยะสั้น
เคยทำแบบนี้ แล้วเวลาผ่านไปมันนึกไงก็นึกไม่ออก โมโหตัวเองซะงั้น

 

น้าน คนนี้สิเคยทำจริง ก็เพราะมันจำได้ในระยะสั้นนั่นเอง ผมเลยใช้ปิติ (ตามที่อามูบอก) มาเชื่อมความจำเข้าด้วยกัน พอนั่งสมาธิมันก็จะมาเอง เหมือนไปจี้ถูกจุดยังไงยังงั้นแหละ