เรื่องเด่น ประมวลภาพทริปนมัสการพระพุทธบาท 9 รอยเมืองจันท์-ถ้ำน้ำเขาศิวะ 24-25 ธ.ค.54

พระพุทธบาทแก้วมณีศรีสัตบงกช ​

ทริปธรรมเฉพาะกิจ (๑๓) ๙ พระบาท นมัสการสักการะพระพุทธบาท ๙ รอยเมืองจันท จ.จันทบุรี วันที่ ๒๔-๒๕ ธ.ค.๕๔ (๒ วัน ๑ คืน)


กำหนดการเดินทาง โดยรถตู้ปรับอากาศ ๑๓ ที่นั่ง

วันเสาร์ที่ ๒๔ ธ.ค. ๕๔
๐๖.๐๐ น. จุดนัดพบ ปั๊มน้ำมัน ปตท.สนามเป้า
- ตรวจสอบรายชื่อ
- ล้อหมุน

เดินทางถึงสำนักปฏิบัติธรรมพระพุทธบาทจันทาราม ต.ทุ่งขนาน อ.เขาสอยดาว จ.จันทบุรี
<label for="rb_iconid_31"></label> กราบนมัสการครูบาสันยาสี ภิกขุ
<label for="rb_iconid_31"></label> กราบสักการะพระพุทธบาท ๔ รอย น้ำตกแก้วมณี
<label for="rb_iconid_31"></label> กราบสักการะพระพุทธบาทแก้วมณีโชติ
<label for="rb_iconid_31"> </label>กราบสักการะพระพุทธบาทแก้วมณีรัตนะ
<label for="rb_iconid_31"> </label>กราบสักการะพระพุทธบาทลานหินขาว เมืองบาดาล

๒๐.๐๐ น. เข้าที่พัก พักผ่อนปฎิบัติธรรมตามฺิอัธยาศัย


วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ธ.ค.๕๔
๐๕.๐๐ น. ตื่นทำธุระส่วนตัว
๐๖.๓๐ น. รับประทานอาหารเช้า
<label for="rb_iconid_31"> </label>กราบสักการะพระพุทธบาทเขาพริก (พระบาทเกือกแก้ว)
<label for="rb_iconid_31"> </label>กราบสักการะพระพุทธบาทเขาระฆังทอง
<label for="rb_iconid_31"> </label>กราบสักการะพระพุทธบาทจันทาราม
<label for="rb_iconid_31"> </label>กราบสักการะพระพุทธบาทแก้วมณีศรีสัตตบงกช
<label for="rb_iconid_31"> </label>กราบสักการะรอยหัตถบาท (รอยมือพระพุทธเจ้า)

๒๐.๐๐ น. เดินทางถึงกรุงเทพฯ โดยประมาณ

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่านละ ๑,๒๐๐ บาท
(ราคานี้รวมค่าเดินทาง-ค่าทีี่พัก-ประกันอุบัติเหตุ)


ทริปธรรมเฉพาะกิจ (๑๒) ปิดรับจองที่นั่งและโอนเงินในวันศุกร์ที่ ๑๖ ธ.ค. ๕๔ เวลา ๒๐.๐๐ น. หรือจนกว่าที่นั่งจะเต็ม


ท่่านที่ประสงค์จะร่วมเดินทาง กรุณาโอนเงินค่าพาหนะเดินทางตามจำนวนที่กำหนดข้างต้นเข้าบัญชีตามข้างล่างนี้ และมาโพสต์ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้และจำนวนเงินที่โอนให้ทราบด้วย

ชื่อบัญชี : ณญาดา ศราภัยวานิช
ธนาคาร : กรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาบางบัวทอง
เลขที่บัญชี : ๑๒๑-๐-๑๐๕๔๕-๔ (121-0-10545-4)
โทรศัพท์ : ๐๘๑-๗๓๕๙๒๖๑ (081-7359261)


ท่านที่สำรองที่นั่งหรือโอนเงินแล้วต่อมาประสงค์จะยกเลิกการเดินทาง ขอให้แจ้งภายในวันที่ ๑๕ ธ.ค. หากไม่แจ้งภายในกำหนดดังกล่าว ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินค่าเดินทางให้หากปรากฏว่าการยกเลิกล่าช้า ของท่านทำให้ตัดสิทธิ์ของบุคคลอื่นและก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้จัด

ในการโอนเงินคืนจะมีค่าธรรมเนียมการโอน ๒๕ บาท ซึ่งจะหักจากยอดเงินค่าเดินทางของท่าน หากมีเงินเหลือหลังจากชำระค่าใช้จ่ายทุกส่วนแล้ว ผู้จัดขออนุญาตนำเงินคงเหลือทั้งหมดเข้ากองทุนบึงลับแลเพื่อใช้ในทุกกิจกรรมบุญต่อไป


หมายเหตุ
เนื่องจากกิจกรรมบุญนี้ต้องมีการเดินป่า มุดถ้ำและเดินผ่านแนวน้ำตก เพราะฉะนั้นสมาชิกท่านใดที่ประสงค์จะร่วมเดินทาง จะต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายให้เต็มที่ เส้นทางเดินอาจจะไม่หฤโหดเท่าบึงลับแลและแม่สาน แต่ป่าก็คือป่า..... แม้จะเป็นป่าที่ได้รับการแผ้วถางจากชาวบ้านแล้วก็ตามที

 

รายนามผู้ร่วมบุญ-ร่วมเดินทาง

รายนามผู้ร่วมบุญ
๑. กองทุนบึงลับแล จำนวน ๒,๙๐๐ บาท (ระบุถวายค่าพาหนะ ๒,๔๐๐ บาท ค่าภัตตาหาร ๕๐๐ บาท)
๒. หลาน ๆ สกุล "ศราภัยวานิช" จำนวน ๕๐ บาท
๓. คุณ vietnam จำนวน ๑๐๐ บาท
๔. คุณ t1 จำนวน ๓๐๐ บาท
๕. คุณนก จำนวน ๑๐๐ บาท
๖. คุณวีรศักดิ์ และครอบครัว จำนวน ๑๐๐ บาท

รวมเงินร่วมบุญ ณ วันที่ ๒๐ ธ.ค. ๕๔ จำนวน ๓,๕๕๐ บาท



รายนามผู้ร่วมเดินทาง ตรวจสอบผังที่นั่ง ทริปไหว้สาพระธาตุดอยตุง-จอมกิตติ-พิธีหล่อระมังหลวง"พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์" วัดแสงแก้วโพธิญาน จ.เชียงราย ๖-๘ ม.ค.
เรียนเชิญร่วมกองบุญพิเศษเพื่อบูรณะวัดและทุกกิจกรรมบุญปี ๕๕ น้อมรับวัตถุมงคลวัดท่าขนุนมูลค่า ๘๔,๐๐๐ บาท ชุดที่ ๑ ปิดรับ ๑๐ ม.ค.

 

มารู้จักประวัติสถานที่ ๆ จะไปในทริปนี้กันเถอะ.....

​

ครูบาสันยาสี ภิกขุ

​

ประวัติย่อของพระครูบาสันยาสีผู้ค้นพบ

เขาถ้ำพระ เขาจำปา เขาระฆัง และพัฒนามาเป็นสำนักปฎิบัติธรรมพระพุทธบาทจันทาราม ผู้เปิดตำนานรอยพระพุทธบาทเกือกแก้ว และรอยพญานาคสู่สาธารณชนได้รับรู้ รับทราบถึงความมหัศจรรย์ลี้ลับของพญานาคผู้เฝ้าดูแลรักษาพระพุทธบาท เพื่อรอคอยการกลับมาของใครคนหนึ่ง ในการจะไขปริศนาอันลี้ลับซับซ้อนให้กับผู้คนต่าง ๆ ได้รับทราบถึงสิ่งที่ถูกปกปิดซ่อนเร้นไว้เป็นเวลานานนับพันปี และปลายปีพุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้มีภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ศิษย์กรรมฐาน สายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ได้บำเพ็ญเพียรศีลภาวนา อยู่ ณ. เทือกเขาคอยภูคา จ.น่าน ได้รับนิมนต์จากโอปาติกะ ดวงวิญญาณ ๒ ดวงผู้เฝ้าดูแลรักษาสถานที่เขาถ้ำพระ เขาจำปา เขาระฆัง มาเป็นเวลานับพันปี บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่บ้านเมืองแห่งนี้ จักเจริญรุ่งเรืองสืบพระพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

" โยมทั้ง ๒ ขอกราบอาราธนานิมนต์พระคุณเจ้า ขอได้โปรดกลับไปเปิดบ้านเปิดเมือง ตามคำมั่นสัญญาที่ให้กับโยม"
" แล้วโยมมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร"
" โยมมีชื่อว่าแม่นางจันทาเทวี ส่วนอีกคนชื่อว่าแม่นางแก้ว หรือเจ้าหญิงรัตนะวดีศรีสัตตบงบช ขอกราบอาราธนานิมนต์พระคุณเจ้าขอได้โปรดกลับไปเปิดบ้านเปิดเมืองโปรดลูกหลาน ข้าทาสบริวารที่รอคอยการกลับมาของพระคุณเจ้า จักได้มีหูตาสว่างเห็นแสงธรรม ได้มีโอกาสทำนุบำรุง รักษาพระพุทธศาสนา ขอพระคุณเจ้าได้โปรดเมตตากับโยมทั้งสองด้วยเถิด"

และนี่คือปฐมเหตุในการกลับมาไขปริศนาอันลี้ลับ ซับซ้อน และเกือบเอาชีวิตไม่รอดของภิกษุหนุ่มรูปนั้น เนื่องด้วยวิบากกรรมต่าง ๆ ในอดีตชาติได้เข้ามาส่งผลทำให้การกลับมาครั้งนี้ เป็นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่และเป็นตำนานบทหนึ่งควรแก่การศึกษา ค้นคว้า วิจัย หาเหตุผล กับโลกของวิญญาณที่ผู้คนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองปัจจุบันนี้พยายามปฎิเสธ ว่าเป็นสิ่งที่งมงาย ไร้สาระ เชื่อถือไม่ได้ แต่กับผู้คนที่เข้ามาสัมผัสกับเทือกเขาแห่งนี้ทุกท่าน จะเปลี่ยนมุมมองวิถีชีวิตในการเชื่อถือสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ทุกท่านจะสัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน ความรัก การรอคอย การอธิษฐานเฝ้ารอคอยการกลับมา เป็นการพิสูจน์ในความรักที่ดวงวิญญาณทั้ง ๒ มีต่อคนรักของแม่นาง ถึงขนาดเฝ้ารอคอยมาเป็นเวลานับพัน ๆ ปี ต้องอยู่ด้วยแรงอธิษฐาน ภพชาติมิอาจขวางกั้น ในความรักความเคารพ เทิดทูน จึงเป็นที่มาของรอยพญานาค ภาพ ๓ มิติ ภาพพญานาค ภาพผู้หญิง ๒ คน ซึ่งแต่งชุดเจ้าหญิงโบราณ จะปรากฎที่ลานโขดหินสีขาวหน้าเขาถ้ำพระทุกค่ำคืน เพื่อให้อนุชนรุ่นหลัง ได้รับรู้ รับทราบถึงแรงปราถนาของแม่นางทั้ง ๒ ท่าน บัดนี้แรง
ปราถนา แรงอธิษฐานของแม่นางทั้งสองสัมฤทธิ์ผลแล้ว สถานที่แห่งนี้กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นวัดสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป

ขอบูชาแด่ความรัก แด่ทุก ๆ ดวงวิญญาณที่รอคอยอยู่ ณ.สถานที่แห่งนี้ ขอให้ได้รับผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญบารมีมาทุกชาติทุกภพ ขอส่งผลให้ดวงวิญญาณ ทั้งหลายจงได้รับผลบุญทุกท่านเทอญ …


ขอบคุณที่มา : เว็บไชต์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี
จัดพิมพ์โดย คุณภิมฬภัค สีหะราช
นักจัดรายการวิทยุชุมชน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
​

 

พระพุทธบาท ๔ รอย น้ำตกแก้วมณี

พระพุทธบาท ๔ รอย น้ำตกแก้วมณี

เป็นรอยพระพุทธบาทเกือกแก้ว จำนวน ๔ รอย อยู่บริเวณน้ำตกแก้วมณี ซึ่งไหลผ่านรอยพระพุทธบาท ขนาดของรอยพระพุทธบาท กว้าง ๑ เมตร ยาว ๒ เมตร ลึก ๑ เมตร อยู่บนลานหินสีดำ ค้นพบโดยครูบาสันยาสีทางนิมิตภาวนา นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีน้ำพุธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในบริเวณลานน้ำตก เป็นน้ำพุที่ผุดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในอนาคตถ้ามีการพัฒนาจากหน่วยงานต่าง ๆ สถานที่แห่งนี้คงจะสวยงามไม่แพ้ที่ไหนในเมืองไทย
​

 

พระพุทธบาทแก้วมณีโชติ

พระพุทธบาทแก้วมณีโชติ

เป็นรอยพระพุทธบาทเกือกแก้ว ๔ รอย ขนาดกว้าง ๑ เมตร ยาว ๑.๕๐ เมตร ลึกประมาณ ๑ เมตร ตั้งอยู่บนลานหินเป็นลักษณะภูเขาลูกน้อย เรียกว่าเขาหินปูน ขนาดกว้างของลานหินประมาณ ๕๐ เมตร สูง ๕ เมตร สามารถเดินทางเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน เป็นรอยพระพุทธบาทที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ

ในสมัยก่อนช่วงสงครามเขมรแดง ได้มีปืนใหญ่ซึ่งยิงจากฝั่งกัมพูชามาตกที่ลานหินเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีลูกปืนลูกไหนแตก สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่พักพิงชั่วคราวและหลบภัยสงครามของชาวเขมร และทำการกราบไหว้บูชาเทพเทวดาที่ดูแลรักษา ต่อมาเมื่อสงครามเขมรแดงสงบลง ชาวเขมรส่วนใหญ่ที่รอดตายจากภัยสงคราม ได้ข้ามมาฝั่งไทยเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต และขอบคุณเทพเจ้าที่สงเคราะห์ช่วยเหลือพวกเขาให้รอดตาย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครรู้เรื่องรอยพระพุทธบาท ๔ รอย ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ มีการถากถางทำไร่ข้าวโพดโดยรอบ ๆ ของลานหินแห่งนี้ และมักมีการพบเห็นดวงไฟขนาดใหญ่ลอยวนไปวนมารอบลานหินในวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ พร้อมเสียงมโหรีปี่พาทย์ ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นเมืองบังบดลับแล

ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๕๒ ครูบาสันยาสี แห่งสำนักปฏิบัติธรรมพระพุทธบาทจันทาราม ได้ถือธุดงค์วัตรไปเจริญภาวนาในสถานที่แห่งนี้ และได้นิมิตรติดต่อกับโอปาติกะ ผู้ดูแลรักษาสถานที่แห่งนี้ ว่าขอให้พระคุณเจ้าช่วยบูรณะสถานที่แห่งนี้ ให้เจริญรุ่งเรืองเนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีรอยพระพุทธบาท ๔ รอย ที่พวกตนได้เฝ้าดูแลรักษาอยู่ ขอให้พระคุณเจ้าโปรดพัฒนาให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสืบต่อพระศาสนาจักเจริญรุ่งเรืองสถาพรสืบไป และด้วยมโนปนิธานอันมุ่งมั่นของครูบาสันยาสีจึงได้ทำการเปิดเผยสู่สาธารณชนชาวไทยทั่วประเทศ และหวังว่าสถานที่แห่งนี้จะเจริญรุ่งเรืองเป็นที่กราบไหว้สักการะบูชาของคนไทยทั้งแผ่นดิน
​

 

พระพุทธบาทแก้วมณีรัตนะ

พระพุทธบาทแก้วมณีรัตนะ

พระพุทธบาทแก้วมณีรัตนะ พระพุทธบาท ๔ รอย ตั้งอยู่ที่บริเวณเขาน้อย บ้านซับตารี ห่างจากหมู่บ้าน ๒ ก.ม. เป็นภูเขาดินแดงปนหินปูน ภายในภูเขามีถ้ำ อยู่ ๒ ถ้ำ มีหินงอกหินย้อยสวยงดงามวิจิตรตระการตา มีภาชนะดินเผาโบราณกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป บ่งบอกถึงการดำรงชีพของมนุษย์สมัยโบราณ สภาพภูเขาโดยทั่วไป มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมทั้งภูเขา มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว สามารถทำเป็นจุดชมวิวได้เป็นอย่างดี ส่วนการเจริญจิตภาวนาของนักกรรมฐาน ในบริเวณถ้ำสามารถพักปฏิบัติธรรมได้ ถ้ามีการบูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

รอยพระพุทธบาทมีลักษณะเหมือนเป็นการก้าวเดินขึ้นภูเขา แต่ละรอยห่างกันประมาณ ๑๐ เมตร มีทั้งหมด ๔ รอย ลักษณะรอยกว้าง ๑ เมตร ยาว ๒ เมตร ลึก ๑ เมตร สภาพสมบูรณ์ เหมาะแก่การขึ้นมานมัสการกราบไหว้ขอพร ขอความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวท่านเองและครอบครัว ค้นพบโดยครูบาสันยาสี แห่งสำนักปฏิบัติธรรมพระพุทธบาทจันทาราม โดยการนิมิตรภาวนาเจริญกรรมฐาน โดยสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองโบราณ เป็นที่อยู่ของคนในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จึงมีอะไรให้ค้นหา ถ้านักปฏิบัติธรรมท่านใดได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ จะมีความรู้ทางกรรมฐานเพิ่มเติมขึ้นมาก เพราะที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในอนาคตสถานที่แห่งนี้สามารถจัดตั้งเป็นวัดเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป จึงขอแรงใจ แรงศรัทธาจากคนไทยทั้งแผ่นดิน ให้ช่วยกันพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เจริญ รุ่งเรืองสืบศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป​

 

พระพุทธบาทลานหินขาว เมืองบาดาล

พระพุทธบาทลานหินขาว เมืองบาดาล

เป็นรอยพระพุทธบาท ที่อยู่ใต้ดินบริเวณหน้าเขาถ้ำพระ ซึ่งทำการขุด โดยครูบาสันยาสีจากนิมิตรกรรมฐาน บริเวณใกล้กันยังมีรอยพญานาค ขนาดกว้าง ๔๐ ซม.ยาว ๑๐ เมตร อยู่บนลานหินขาว ซึ่งในเวลากลางคืน สามารถชมสิ่งมหัศจรรย์ภาพ ๓ มิติ พญานาค ฤๅษี โยคี คนโบราณ เป็นต้นได้ทุกคืน และสิ่งพิเศษสุดยังมีบั้งไฟพญานาคปรากฏขึ้นในวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ในบริเวณรอยพญานาคอีกด้วย ท่านใดสนใจสามารถเยี่ยมชมได้ทุกวัน และสามารถพักปฏิบัติธรรมเจริญกรรมฐานกับครูบาสันยาสี ศิษย์กรรมฐานสายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ​

 

พระพุทธบาทเขาพริก (พระบาทเกือกแก้ว)

พระพุทธบาทเขาพริก (พระบาทเกือกแก้ว)

พระพุทธบาทเขาพริก อยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งขาน บ้านเขาพริก มีรอยพระพุทธบาททั้งหมด ๒ รอย อยู่บนยอดเขา ๑ รอย ลักษณะรอยกว้าง ๕๐ ซม. ยาว ๑ เมตร ลึกประมาณ ๕๐ ซม.เป็นพระบาทเกือกแก้วอยู่บนยอดเขาพริก เป็นลานหินสีดำ บริเวณด้านหน้ารอยพระบาทเป็นหน้าผาสูงชัน สามารถชมทิวทัศน์บริเวณโดยรอบของ ต.ทุ่งขนาน จ.จันทบุรี ได้สวยงาม และยังมีถ้ำซึ่งอยู่ห่างจากรอยพระพุทธบาทประมาณ ๕๐๐ เมตร ภายในถ้ำมีภาชนะดินเผาโบราณยังขาดการตรวจสอบอายุเครื่องปั้นดินเผาจากหน่วยงานราชการ มีช่องสุริยัน-จันทา (พระอาทิตย์-พระจันทร์) ตามคติความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ ทางขึ้น-ทางลง บริเวณถ้ำกับรอยพระพุทธบาทยังไม่มีการพัฒนาปรับปรุง

ซึ่งการค้นพบรอยพระพุทธบาท โดยชาวบ้านขึ้นไปล่าสัตว์ และเห็นดวงไฟลอยขึ้นจึงตามไปดู จึงพบเห็นรอยพระพุทธบาทด้านบนในช่วงปี ๒๕๔๐ ส่วนรอยพระบาทด้านล่างตีนเขาห่างจากวิหารหลวงพ่อขาวประมาณ ๒๐๐ เมตร ไปทางทิศเหนือค้นพบโดยครูบาสันยาสี ทางนิมิตรภาวนาเจริญกรรมฐาน จึงได้ทำการตรวจสอบ และค้นพบในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ เดือนเมษายน เป็นลักษณะรอยพระบาทเกือกแก้ว กว้างประมาณ ๑ เมตร ยาว ๒ เมตร ลึกประมาณ ๑ เมตร สภาพสมบูรณ์
​

 

พระพุทธบาทเขาระฆังทอง

พระพุทธบาทเขาระฆังทอง

เป็นรอยพระพุทธบาทเกือกแก้ว จำนวน ๑ รอย ขนาดกว้าง ๕๐ ซม. ยาว ๑ เมตร ลึก ๑ เมตร อยู่บริเวณกลางป่าปาล์มติดกับเขาระฆัง ซึ่งมีถ้ำที่มีความสวยงาม ภายในถ้ำมีพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก ภูมิประเทศของเขาระฆัง จัดเป็นจุดชมวิวฝั่งประเทศกัมพูชาและฝั่งไทยได้เป็นอย่างดี ภายในถ้ำมีภาชนะดินเผาโบราณอายุ ๔,๐๐๐ ปี ค้นพบสถานที่แห่งนี้ โดย ร.อ.พรศักดิ์ คันโธ ผบ.ร้อย.นย. ฐาน ๕๒๓ และครูบาสันยาสี ได้ร่วมกันพัฒนาสถานที่แห่งนี้ ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

บนยอดเขาระฆังทองมีก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายรูปบาตรก้อนใหญ่ ชาวบ้านท้องถิ่นนิยมขึ้นไปเคาะหินรูปบาตร ซึ่งจะดังกังวานเหมือนระฆัง และมักบนบานขอลูก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะสมปรารถนาทุกราย บริเวณข้างเคียงยังมีเขาจำปา ซึ่งเป็นถ้ำที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน และสิ่งที่ไม่มีเหมือนที่ไหนก็คือ ปล่องภูเขาไฟ ซึ่งมอดดับสนิทแล้ว เป็นลักษณะปล่องลึกลงไปจากยอดเขาถึงพื้นดิน
​

 

พระพุทธบาทจันทาราม

พระพุทธบาทจันทาราม

เป็นรอยพระพุทธบาท อยู่ในบริเวณถ้ำพระโพธิสัตว์ อยู่ในเขาถ้ำพระ ลักษณะรอยพระพุทธบาท กว้าง ๒๐ ซม. ยาว ๕๐ ซม. เท่ากับรอยเท้าคน ๘ ศอก ค้นพบโดยครูบาสันยาสี ภายในถ้ำมีภาชนะดินเผาโบราณ กระดูกคนโบราณ ๘ ศอก ถ้ำหินงอก หินย้อย มีทั้งหมด ๙ ถ้ำมีความวิจิตรงดงามแตกต่างกันไป และยังมีช่องสุริยัน-จันทรา เหมือนปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ทุกวันพระ ๑๕ ค่ำ จะมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ พระจันทร์จะสาดแสงลงมาในบริเวณช่องสุริยัน–จันทรา จะปรากฏรูปภาพคนโบราณในบริเวณถ้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นรูปทหาร นักรบในสมัยโบราณ และที่นี้ยังมีพิธีกรรมอาบน้ำมนต์จันทรประภา (อาบน้ำมนต์วันเพ็ญ) ทุกวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เวลาเที่ยงคืน ภายในช่องสุริยันต์-จันทรา เพื่อเสริมดวงชะตาบารมีหนุนส่งวาสนาบารมีให้ดีขึ้น แก้ไขเคราะห์ทุกข์โศกโรคภัยให้หายไป​

 

พระพุทธบาทแก้วมณีศรีสัตตบงกช

พระพุทธบาทแก้วมณีศรีสัตตบงกช

ตั้งอยู่ที่บ้านสวนส้ม ต. ทุ่งขนาด อ. เขาสอยดาว จ.จันทบุรี ถูกค้นพบทางนิมิตรภาวนาระหว่างครูบาสันยาสี กับเจ้าหญิงรัตนวดีศรีสัตตบงกช หรือแม่นางแก้ว ผู้ดูแลรักษาพระพุทธบาท ๔ รอย (พระพุทธบาทเกือกแก้ว) ลักษณะรอยพระพุทธบาท กว้าง ๑ เมตร ยาว ๔ เมตร ลึกประมาณ ๑ เมตร มีทั้งหมด ๔ รอย ซึ่งทางครูบาสันยาสีและลูกศิษย์ได้ทำการบูรณะปรับปรุงสถานที่ค้นพบให้สวยงาม เหมาะแก่การกราบไหว้บูชารอยพระพุทธบาท และทำการเปิดเผยสู่สาธารณะชน

สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับสำนักสงฆ์เขาถ้ำ ห่างออกไปประมาณ ๕๐๐ เมตร มีบ้านอยู่ ๒ หลังคาเรือนสร้างอยู่ใกล้ ๆ รอยพระพุทธบาท สำนักสงฆ์เขาถ้ำยังมีสิ่งที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่น ถ้ำหินงอก หินย้อย จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นฝั่งประเทศกัมพูชาได้ชัดเจน การเดินทางไปสะดวกสบายติดกับถนนใหญ่ห่างจากตำบลทุ่งขนาน ๕ ก.ม. เหมาะแก่การพักปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีรอยพระพุทธบาทเกือกแก้วขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นักปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ ผู้แสวงหาโมกข์ธรรม ความหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ได้มาสัมผัสธรรมชาติ แมกไม้ นานาพันธุ์ วิถีชีวิตของชาวจันทบุรี ได้ร่วมกันมุ่งมั่น พัฒนาให้สถานที่แห่งนี้เจริญรุ่งเรือง สืบต่ออายุพระศาสนา
​

 

รอยหัตถบาท

รอยหัตถบาท

รอยหัตถบาท (รอยมือพระพุทธเจ้า ) เป็นนิ้ว ๕ นิ้ว ซึ่งสามารถมองเห็นได้เห็นชัดเจนและสวยงาม ตั้งอยู่ในเขาถ้ำพระ บริเวณด้านข้างของเขา ค้นพบโดยครูบาสันยาสี ในปี พ.ศ.๒๕๕๑


บทส่งท้าย

วัตถุประสงค์ในการรวบรวมและค้นหารอยพระพุทธบาทเกือกแก้วในครั้งนี้ ข้าพเจ้าครูบาสันยาสี ในฐานะผู้ค้นพบได้ใช้เวลาค้นหาทางจิตภาวนาเป็นเวลา ๓ ปี จึงสามารถรวบรวมรอยพระพุทธบาททั้งหมด ๙ สถานที่มหามงคลซึ่งล้วนแต่เป็นรอยพระพุทธบาทเกือกแก้ว ซึ่งหาได้ยากมากกว่ารอยพระพุทธบาทธรรมดา ข้าพเจ้าในฐานะผู้ค้นพบจึงหวังว่า สถานที่มหามงคลทั้ง ๙ แห่งนี้ จะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่พุทธศาสนิกชนสามารถเข้ามานมัสการกราบไหว้ได้ภายในเวลา ๑ วัน ซึ่งจะเป็นบุญบารมีที่จะหาได้ยากยิ่งนักที่จะมีรอยพระพุทธบาทเกือกแก้วอยู๋ในพื้นที่เดียวกันถึง ๙ แห่ง นับว่าเป็นบุญบารมีของชาวพุทธทุกท่านที่ได้มีโอกาสเข้ามากราบไหว้นมัสการขอพร

สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้ค้นพบ และบูรณะ ขอตั้งจิตอธิษฐานขอให้คนไทยทุกคนได้มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงธรรมที่พระพุทธองค์ทรงบรรลุแล้วทุกท่านเทอญ

ครูบาสันยาสี ภิกขุ

ขอบคุณที่มา : คุณสาวเอ็ฟเอ็ม

​

 

ประมวลภาพ ความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่....พระพุทธบาท ๙ รอยเมืองจันท์

ขออนุญาตนำภาพจากกระทู้ของคุณสาวเอฟเอ็มมาฝาก จุดประสงค์ของการเดินทางในกิจกรรมบุญ ๙ พระบาท นมัสการสักการะพระพุทธบาท ๙ รอยเมืองจันท์ในครั้งนี้ เพื่อกราบถวายเป็นพุทธบูชา และเืพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลมหาราช เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา

​

 

เครดิตภาพ : คุณสาวเอฟเอ็ม
​