เรื่องเด่น ทางธรรมพระฝรั่ง “พระอาจารย์ชยสาโร” ณ บ้านบุญ-บ้านไร่ทอสี

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 31 ตุลาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    277 -พลังจิต.jpg


    สืบเนื่องจากวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทรงบำเพ็ญพระกุศล และสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ ฌอน ชยสาโร ณ สถานปฏิบัติธรรมบ้านไร่ทอสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    เรื่องนี้ สร้างความปลาบปลื้มปีติแก่พสกนิกชาวไทย ที่ได้เห็นพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ทีฯ พร้อมกันนั้นหลายคนก็มีความสนใจที่จะรับทราบเรื่องราวของพระอาจารย์ฌอน ชยสาโร มากยิ่งขึ้น


    พระอาจารย์ชยสาโร มีนามเดิมว่า ฌอน ชิเวอร์ตัน เป็นบุตรของนายเค็น และนางจูน ชิเวอร์ตัน กำเนิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2501 ณ เกาะไอล์ออฟไวต์ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ

    จากนั้นผู้เป็นบิดาและมารดาจึงได้อพยพครอบครัวไปอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศอังกฤษ โดยมีข้อมูลระบุว่า เมื่อยังเล็กท่านมีสุขภาพไม่ดี มีอาการหอบหืด แม้จะต้องหยุดโรงเรียนบ่อย แต่ก็ได้ใช้เวลาในการศึกษาด้วยตนเอง

    และด้วยความขยันบากบั่น จึงมีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม จนครอบครัวตั้งความหวังให้ท่านสอบชิงทุนเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศอังกฤษ แต่สิ่งที่ท่านสนใจ กลับเป็นเรื่องของ “การแสวงหาสัจธรรมความจริง”

    ท่านจึงเริ่มอ่านหนังสือต่างๆ มากมาย โดยช่วงวันเสาร์ หนุ่มฌอนเวลานั้น มักจะขึ้นรถเมล์ไปเที่ยวเมืองเคมบริดจ์ ไปขลุกอยู่ที่ร้านหนังสือแต่เช้า โดยไม่ต้องเสียสตางค์ จากความมีน้ำใจของผู้ดูแลร้านที่โดยมากจะเป็นนิสิตนักศึกษาเก่าๆ โดยแนวของหนังสือที่ชอบ คือ เรื่องจิตใจ เรื่องปรัชญา เรื่องจิตศาสตร์ มนุษยศาสตร์

    จนที่สุด มาพบกับหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น “สัจธรรมความจริง” ที่กำลังแสวงหาอยู่ ท่านจึงเดินหน้าที่จะฝึกจิตและศึกษาหาความรู้ทางพุทธศาสนา จากนั้นเริ่มทำงานเก็บเงินและขออนุญาตจากคุณพ่อ ขอไปหาประสบการณ์ต่างประเทศก่อนที่จะเรียนต่อ

    เมื่อคุณพ่ออนุญาตแล้ว ก็ออกเดินทางไปประเทศอินเดีย โดยข้ามไปทางเบลเยียม เยอรมนี ออสเตรีย ยูโกสลาเวีย กรีซ ตุรกี อิหร่าน ปากีสถาน ในที่สุดถึงอินเดีย โดยใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 เดือน ก็อยู่เพื่อเรียนรู้ศึกษาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่อังกฤษ

    แต่การกลับมาครั้งนี้ เป็นการกลับมาเพื่อที่จะขออนุญาตพ่อแม่ที่จะไม่เรียนต่อ ซึ่งเป็นเรื่องยากมากกว่าจะทำให้ครอบครัวเข้าใจ แต่ท่านก็ทำสำเร็จ

    โดยนับจากท่านใช้เวลาค้นหาสิ่งนี้ตั้งแต่อายุ 17 ปี จนเมื่ออายุ 20 หรือช่วงปี 2521 ก็ได้พบกับพระอาจารย์สุเมโธ (พระราชสุเมธาจารย์ ในปัจจุบัน และเป็นพระชาวต่างชาติรูปแรกที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา) ที่วิหารแฮมสเตด ประเทศอังกฤษ ท่านก็ได้ถือเพศเป็นอนาคาริก (ปะขาว) อยู่กับท่านพระอาจารย์สุเมโธ ถือศีล 10 เป็นเวลา 1 พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย

    และที่ประเทศไทยนี่เอง คือจุดหมายของชีวิต เพราะที่สุดท่านได้บวชเป็นสามเณรช่วงปี 2522 และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2523 ที่วัดหนองป่าพง โดยมีพระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ และยึดถือแบบอย่างตามหลวงปู่ชา ที่ใช้ชีวิตแบบพระวัดป่า ที่เข้มงวดในวินัย และการฝึกปฏิบัติตามรอยพระพุทธเจ้า และการอยู่ร่วมกับคณะสงฆ์ชาวไทย จนรู้ทั่วกันว่าท่านมีความผูกพันกับหลวงปู่ชาเป็นอันมาก

    ต่อมาช่วงปี 2529-2539 ท่านเป็นรองเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ จังหวัดอุบลราชธานี กระทั่งต่อมาช่วงปี พ.ศ 2540-2545 เป็นเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ

    โดยนับแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน ท่านปลีกวิเวกที่ สถานพำนักสงฆ์บ้านไร่ทอสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    อย่างไรก็ดี ท่านอาจารย์ชยสาโร ยังเป็นประธานที่ปรึกษาของมูลนิธิปัญญาประทีป จัดตั้งโดยคณะผู้บริหารโรงเรียนทอสี ด้วยความร่วมมือจากคณะครู ผู้ปกครอง และญาติโยมซึ่งเป็นลูกศิษย์อีกด้วย

    สำหรับหลักธรรมคำสอนของพระอาจารย์ชยสาโรมีมากมาย ที่สำคัญ เช่น “การให้ธรรมเป็นทานคือการให้อันยอด เพราะเป็นการช่วย ‘หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักเห็นรูปได้’ ใครมีส่วนร่วมในการส่งเสริม ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา ในจิตใจของเพื่อนมนุษย์ ย่อมได้บุญอย่างยิ่ง”

    ทั้งนี้ ยังมีการรวบรวมคติธรรมของท่าน ซึ่งขอคัดบางส่วนมาจากหนังสือ “ชาวพุทธหรือชาวพูด” โดยให้แง่คิดแบบเข้าใจได้ง่าย แต่แหลมคม เช่น

    “เป็นชาวพุทธหรือชาวพูด ทุกวันนี้เราก็เป็นชาวพูดมากกว่าชาวพุทธ พูดจริง แต่ไม่ค่อยทำ… ชาวพูด พูดเฉยๆ”

    “เราไม่ได้เป็นชาวพุทธเพราะทะเบียน เราเป็นชาวพุทธเพราะความเพียร เราเพียรพยายามเลิกละสิ่งที่ไม่ดี ไม่งาม พยายามบำเพ็ญสิ่งที่ดีงามในชีวิต พยายามทำสมาธิภาวนาให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหาในชีวิต”

    “หลวงพ่อชาเคยสอนว่า ผู้ที่ไม่มีสติเป็นบ้า ขาดสติ 5 นาทีเท่ากับเป็นบ้า 5 นาที ท่านว่าอย่างนั้น ขาดสติชั่วโมงก็บ้าชั่วโมง”

    ทุกวันนี้ ท่านยังเป็นที่รู้จักเรียกขานกันว่า “พระฝรั่ง” และดำรงตนอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ ถึงพร้อมไปด้วยความกรุณา ปัญญา ความบริสุทธิ์ใจ ตามรอยพระพุทธองค์

    ………………………………………………………….


    ขอบคุณข้อมูลจากนิตยสารโลกทิพย์ เดือนมีนาคม 2543 โดย พันธกานต์ กิ้มทอง

    เว็บไซต์ www.dharma-gateway.com

    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.komchadluek.net/news/people/300567
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 พฤศจิกายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...