ทำอย่างไรให้เจ้ากรรมนายเวรที่อาฆาตแรง ได้อโหสิกรรมเราครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย thanan, 24 มิถุนายน 2011.

  1. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,666
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,210
    ทำอย่างไรให้เจ้ากรรมนายเวรที่อาฆาตแรง ได้อโหสิกรรมเราครับ

    บางครั้งเค้าไม่ได้ต้องการให้เราตาย แต่ต้องการให้เราอยู่ชดใช้กรรมให้เค้า

    ซึ่งนับวันก็ยิ่งส่งกระแสพลังมาแรงขึ้นทุกที

    ท่านใดที่มีกรณีคล้าย ๆ แบบนี้ ช่วยมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังหน่อยนะครับ
     
  2. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    ทำทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนา สร้างบุญบารมีให้ตัวเองเยอะๆ

    แล้วก็อุทิศบุญกุศลเหล่านั้น ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

    สาธุๆ
     
  3. jiab_pink

    jiab_pink เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    340
    ค่าพลัง:
    +469
    เจออยู่เหมือนกัน ก็พยามสร้างกรรมดี สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน ทำทาน ใส่บาตร ถวายสังฆทาน เจ้ากรรมนายเวรทำให้เราติดขัดทุกอย่าง
     
  4. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    ท่านพอทราบหรือเปล่าว่า เจ้ากรรมนายเวรนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร

    เพราะถ้าทราบจะดีมาก เพราะเราสามารถทำบุญอุทิศกุศลได้ตรงบุคคล

    แนะนำให้ท่านไปถวายมหาสังฆทานกับพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ใกล้บ้านท่าน

    ก่อนออกจากบ้านให้จุดธูป 16 ดอก ปักกลางแจ้ง บอกกล่าวเจ้าที่และเจ้ากรรมนายเวรว่า จะไปถวายมหาสังฆทานอุทิศให้จะเชิญไปอนุโมทนา

    มหาสังฆทานนี้คือ ชุดสังฆทานสำหรับถวายพระบวชใหม่โดยมีอัฐบริขารสำหรับภิกษุครบชุด แล้วต้องมีพระพุทธรุปปางสมาธิหรือปางประทานพรหน้าตักไม่น้อยกว่า 4 นิ้ว น้ำเปล่า 1 ขวด บทสวดมนต์ 7 ตำนาน และข้าวสาร 1 ถุง

    เมื่อบอกกล่าวจุดประสงค์กับพระคุณเจ้าแล้ว ก็ตั้งจิตอุทิศสว่นกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร บอกไปเลยว่าเมื่อท่านอนุโทนา รับกุศลไปแล้วขออโหสิกรรมให้เราด้วย

    และเมื่อเวลา ยถา สัพพี กรวดน้ำอุทิสส่วนกุศล "ให้กล่าวชื่อหรือตั้งจิตอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรผู้นี้ แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่แบ่งปันผู้ใด" อันนี้สำคัญมาก เพราะเค้าจะได้รับอานิสงค์เต็มๆแล้วจะปลดปล่อยเรา

    ส่วนใหญ่ถ้าทำถูกต้อง จะสำเร็จผลทุกกรณี ครับ ลองไปทำดู
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    ถ้าเขาอาฆาตแรงจริงๆ นะ สังฆทานก็เอาไม่อยู่หรอก ต้องภาวนาอุทิศไปให้เขา
    เรื่อยๆ.. พระอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่าบวชอยู่ 6 พรรษาถึงหลุด แต่ก็ทำให้
    หมดทุกอย่างแหละครับ ทาน ศีล ภาวนา อุทิศให้เขาเรื่อยๆ ที่สำคัญเน้นบุญจาก
    การภาวนา นั่งสมาธิแล้วอุทิศบุญให้เขา
     
  6. Red Leaf

    Red Leaf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +4,547
    ต้องหาคนกลางที่สามารถเทศน์ให้เขาเห็นโทษของความผูกโกรธ และคุณอันยิ่งใหญ่ของอภัยทาน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีบุคคลที่สาม ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และมีจิตที่สื่อสารกับโลกทิพย์ได้ คุณเองในฐานะคู่กรณี ไม่สามารถทำได้หรือทำได้ยากมากค่ะ

    จริงๆ การที่เขาอยู่กับความผูกโกรธ มันทุกข์มากนะคะ ไปไหนไม่ได้สักที ถ้ามีคนที่อธิบายให้เขาเข้าใจได้ มันอาจจะเหมือนกับการถอดสลัก ซึ่งอาจจะง่ายนิดเดียวเอง

    ระหว่างนี้ก็ขอให้คุณใช้ความอดทนนะคะ หากกุศลบารมีถึงพร้อม คุณอาจจะได้พบบุคคลที่สามารถทำหน้าที่นั้นค่ะ
     
  7. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    ใช้วิธีเบิกบุญให้ค่ะ
    คุณลองไปศึกษาดูนะ ดิฉันเคยใช้วิธีนี้ ช่วยได้เยอะ อาจจะไม่หมดซะทีเดียว แต่ก็ค่อยๆเบาบางลงค่ะ ต้องใช้เวลาสักหน่อย...
     
  8. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    สิ่งที่ผมได้รับคำแนะนำ มาจากท่านผู้รู้ อย่างชัดเจน ทำไปแล้วได้ผลดี มีดังนี้

    1.ให้ทำสังฆทาน 7 วัด
    2.ไปปฏิบัติธรรม 7 วัน
    3.ถวายพระประธาน 7 องค์(ใช้เวลา และงบเพิ่มตามกำลัง)
    4.บวชเพื่ออุทิศบุญ
    ได้ทำตามข้อ1-3 มาเรื่อยๆ หลายปี ประมาณ5 ปี

    อย่าลืมว่าเรา เวียนตาย เกิด หลายแสนชาติ ก่อกรรมนับไม่ถ้วน
    จึงต้องทำบุญใหญ่ๆ ส่งไปให้เจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้นเรื่อยๆ อุทิศ แผ่เมตตา เสมอ ๆ จนเป็นกิจวัตร

    ผลที่เกิดขึ้น

    การทำบุญต่อเนื่องนั้นกลายเป็นอาจิณกรรม เราได้ทำบุญและศึกษาธรรมต่อเนื่อง จนปัจจุบัน แผ่เมตตา เช้า กลางวัน เย็น ในทุกสถานที่ที่เราไป

    จิตเย็นลง จนเห็นการก่อตัว ของกิเลสชัดขึ้น และใฝ่ในธรรมมากขึ้น

    ลงมือทำ ทำอย่างยิ่งยวด ผลจะเกิดเร็ว

    แต่ทั้งนี้คงต้องไปถามผู้รู้เป็นการเฉพาะ เพราะบุพกรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

    ลองดูเป็นแนวทาง ขอให้โชคดี
     
  9. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +782
    ขอโทษด้วยความจริงใจ และทำให้เขารู้ว่าเราสำนึกผิดในสิ่งที่เราเคยล่วงเกินเขาไปแล้ว
     
  10. แมวธนู

    แมวธนู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +856
    ถ้าเขาอาฆาตแรงจริงๆ มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นครับที่อาจจะทำให้เขายอมอโหสิกรรมให้คุณได้ นั่นคือ คุณต้องเอา บุญที่ใหญ่ที่สุดในพุทธศาสนา อุทิศให้เขาเพื่อขอให้เขาอโหสิกรรมซึ่งบุญนั้นคือ "การปฏิบัติกรรมฐาน"

    แต่การอโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร ไม่ใช่ โรยด้วยกลีบกุหลาบนะครับ ทำใจไว้เลยว่า ยังไงก็ต้องชดใช้ หนีไม่พ้น เพราะเขาจะเอาคืนตอนปฏิบัติกรรมฐาน นี้แหละ

    ในระหว่างปฏิบัติกรรมฐานให้สังเกต.... ยิ่งเขาอาฆาตคุณแรงขนาดไหน เวทนาที่เกิดกับคุณก็จะมากเป็นเงาตามตัว เรียกได้ว่า แม้แต่ผู้ชายอกสามศอกอาจจะ เจ็บปวดจนน้ำตาร่วง เลยก็ได้ ... ครูบาอาจารย์เคยบอกว่า เวทนาที่เกิดในขณะกรรมฐาน ให้อดทนให้ได้ รีบใช้หนี้เขาซะ เพราะถ้ารอให้เขามาทวงเอง(ตอนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด) หรือ ถ้ารอไปชดใช้ตอนหมดบุญ (ตาย) ความรุนแรงของเวทนาจะมหาศาลกว่าที่เจอในกรรมฐานมากนัก

    และ ถ้าคิดว่าทนเวทนาไม่ได้แล้ว ให้คิดไว้เลยว่าตายเป็นตาย...ซึ่งอันนี้คือการแสดงความจริงใจในการสำนึกผิดขั้นสุดของเรา ถ้าต้องการให้จบกรรมหมดเวรกันตรงนี้ คุณต้องทนให้ได้สถานเดียว ไม่มีตัวช่วย ไม่มีวิธีลัด แต่ส่วนมากพอถึงขั้นนี้ เจ้ากรรมนายเวรมักจะยอมปล่อยให้

    ครูบาอาจารย์บอกว่า ยังไม่เคยเห็นใครตายในกรรมฐาน แต่ถ้าต้องตายในขณะปฏิบัติกรรมฐาน นั่นก็จะมี สุขคติภพเป็นที่ไป (ขึ้นสวรรค์) อันนี้คือที่ท่านว่ามา ....

    ส่วนตัวของผม ..ตอนหัดกรรมฐาน แรกๆก็จำไม่ได้หรอกว่า ไปล่วงเกินอะไรใครเขาไว้ (ว่ะ) ถึงต้องมาเจอเหตุแบบนี้ แต่พอกรรมฐานในซักช่วงระยะหนึ่ง ก็อ้อ นึกออก แต่เนื่องจากกำลังของกรรมฐานยังไม่แข็งแรง เลยระลึกได้แค่ชาติปัจจุบัน ... พอถึงตอนนั้น ทุกคำถามที่มีในหัวว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ (ว่ะเฮ๊ย) ก็มีคำตอบปรากฏขึ้นมาในหัวให้หายสงสัยเลยว่าเคยไปทำอะไรกับใครไว้ ถึงต้องโดนแบบนี้ ...เช่น ทำไมผมต้องจากบ้าน จากพ่อจากแม่ ไประหกระเหินตั้งแต่ยังเด็กจนอายุป่านนี้แล้ว ก็ยังกลับบ้านไปอยู่กับแม่ไม่ได้ ...ภาพก็แว๊ปมาในหัวว่า อ้อ เพราะตอนเด็ก เคยเลี้ยงวัวแล้ว พอวัวเกิดลูกเป็นตัวผู้ ก็ขายลูก เก็บแม่เอาไว้ (พรากลูกพรากแม่เขา)...ทุกวันนี้ เลยต้องเป็นอย่างนี้ ..ภาพเหล่านี้มันจะแว๊ปขึ้นมาเอง รู้เอง ด้วยการปฏิบัติกรรมฐาน อย่างนี้แล ....

    พอรู้ต้นตอของเหตุ ถึงแม้เขายังไม่ยอมยกโทษให้คุณหมดซะทีเดียว คุณก็จะเบาไประดับหนึ่ง และที่สำคัญที่สุดคือ คุณก็จะมีกำลังใจ คุณจะรู้ว่า ที่เป็นทุกวันนี้ ไม่ใช่ สวรรค์กลั่นแกล้งคุณ และสูงที่สุด คือ คุณจะเกิดสัมมาทิฐฐิ ว่า ทุกข์และวิบากทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิต เกิดจากฝีมือตัวเองทั้งนั้น ...อย่างที่สมเด็จพระสังฆราชเคยบอกว่า คนเราเลือกเกิดได้ทุกขณะจิต คุณจะรู้ซึ้งเลยว่า ความหมายจริงๆคืออะไร..พอรู้ได้อย่างนี้ ก็จะเชื่อกฏแห่งกรรม..พอเชื่อกฏแห่งกรรม เดี๋ยวกำลังแห่ง หิริ โอตัปปะ ก็จะเกิดขึ้นเอง และพอมีกำลังแห่งหิริโอตัปปะ ...แรงกุศลผลบุญก็จะช่วยพาคุณหนีจากวิบากครับ ช่วยบรรเทาความทุกข์ได้

    แต่อย่างที่บอกครับ ทำไว้ ยังไงก็ต้องชดใช้ แค่บรรเทา ยังไงก็หนีไม่พ้น แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

    ขอให้เจริญในกุศลครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  11. sazukia007

    sazukia007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +710
    ลองศีล 8 กรรมฐาน ของหลวงปู่จรัญซักเดือน

    ช่วงนี้เปิดเทอมไม่ค่อยมีคนมั้งของเวฬุวัณนะ

    แต่ขอว่าต้องระวังดังนี้

    1.อย่าทำเพราะคิดว่าต้องทำ
    2.ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ อย่าคิดว่ามันเป็นภาระ
    3.จะมีผู้ที่ไปเพราะโดนบังคับบ้างบางคนถ้าเราเจออย่ามีอัคติ ดูที่เราอย่าเอาเรื่องเขามาร้อนตัว มันไม่ใช้เรื่อง
    4.มีเรื่องให้คุยเยอะแยะ แต่จะดีมากถ้าไม่รบกวนชาวบ้านเขา ประมาณหุบปากนั้นแหละ เพราะคุยที กรรมฐานหลุดที ไม่คุ้มเลย


    มีอะไรก็ถามได้ครับ ซัมเมอเราไปอยู่ประมาณเดือนหนึ่งคือ อยู่ทั่วไปแล้วก็เข้าเข็มเหล็ก

    แล้วกลับมาบ้านทำเรื่องทหาร แล้วกลับไปอีกครึ่งเดือน เข้าแก่นเพชรแล้วก็เป็นพี่เลี้ยงดรุณธรรม

    ปล.เรือนไม้จะดูน่ากลัวนิดหน่อยโดยเฉพาะเวลาออกมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน
    ปล2.เราไม่ได้ทำงานนะ ก็เรียนปิดเทอมก็ว่าง ที่จริงซัมเมอร์ที่ผ่านมาต้องฝึกงานแต่เราเอาไว้ก่อนไปวัดก่อนดีกว่า
    ปล3.วันที่ 3 ท่าานจะอยากกลับบ้านอย่างขีดสุดสู้เอาแล้วกัน หลังจากนั้นก็ชิลๆ เว้นช่วงเข้าเข็มเหล็ก จะรู้สึกว่าได้ค้นพบอะไรใหม่ๆเสมอทุกวัน
     
  12. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,244
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,001
    ที่พี่ suthipongnuy พูดมานั้นถูกหมดเเล้วครับ ขอให้คุณ จขกท ตั้งใจรักษาศีล สวดมนต์ นั่งสมาธิ เเผ่เมตตา เเละทําความดีทุกประเภทในทุกๆวัน เเล้วก็เเผ่เมตตาอุทิศไปให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณครับ ถ้าเราทําดีทุกวัน เเล้วตั้งใจอุทิศให้เขา ซักวันเขาจะใจอ่อนเองครับ ไม่มีใครจะใจเเข็ง ไม่ยอมให้อภัยเราหรอก ถ้าเราสํานึกเเล้วกลับตัว ตั้งใจทําดีครับ เพียงเเต่บางทีอาจต้องใช้เวลาหน่อยเท่านั้น ขอให้อดทน เเละปฎิับััติไปทุกวันอย่าได้ขาดครับ การปฎิบัติธรรมจะทําให้เราใจของเราสงบ ไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆทั้งปวง มีเเต่ได้กับได้ครับ ปฎิบัติเสร็จเเล้วยังเเผ่ไปให้คนอื่นได้อีก เวลาสงบ สติปัญญาที่เเ้ท้จริงก็จะเกิด ถ้ามีปัญหาเข้ามา เราก็จะรู้วิธีเเก้ปํญหานั้นๆอย่างถูกทางด้วย อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  13. budsayamasp

    budsayamasp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +278
    ขอเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์และความคิดเห็นค่ะ ผิด-ถูก คงไม่ว่ากัน

    ครูบาอาจารย์ให้สวดมนต์ รักษาศีล ปฏิบัติภาวนา แล้วก็แผ่เมตตา (สำหรับตัวเองใช้บทเมตตาหลวง) ให้ได้ทุกวันค่ะ เช้า-เย็น

    ตอนนี้ตัวเองก็โดนหนักมากถึงมากที่สุดเหมือนกัน ทุกๆ ด้านในชีวิต ทั้งญาติพี่น้อง การเงิน การงาน ฯลฯ สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าต้องพบต้องเจอก็พบ โลกธรรมแปด เกิดขึ้นกับตัวเองให้ได้พิจารณาทุกอย่างเลยค่ะ สำหรับสิ่งที่เผชิญอยู่ พูดให้เห็นภาพสนุกๆ ถ้าเคยดูหนังจีนกำลังภายใน ก็เปรียบเหมือนอยู่ในค่ายกลกำแพงเหล็ก 4 ด้าน ที่มีปลายดาบฝังไว้ บีบเข้ามาทุกขณะ จะทำอย่างไรให้รอด ต้องใช้กำลังภายในดีดตัวขึ้นข้างบน ไม่งั้นไม่รอดแน่ๆ :d สำหรับตัวเองก็ใช้การปฏิบัตินี่แหละค่ะเป็นทางช่วยให้ค่อยๆ ดีดตัวขึ้น ทีละน้อยก็ยังดี

    แต่อย่างที่หลายท่านว่า ทำเค้ามา ก็ใช้เค้าไป แล้วก็เร่งทำบุญ-ทาน ปฏิบัติให้มากๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นทุนของเราต่อไป สำหรับตัวเองตั้งมั่นไว้ว่าจะมีความเพียรปฏิบัติให้ตัดภพตัดชาติให้น้อยลงไปเรื่อยๆ ชีวิตเห็นทุกข์แล้ว รู้เหตุแล้ว ก็ปฏิบัติให้พ้นทุกข์ตามเส้นทางธรรมของพระพุทธองค์ค่ะ ไม่อยากกลับมาเกิดอีก เพราะมันทุกข์นัก

    แต่ในสิ่งร้ายๆ ที่ได้เจอ ก็มีด้านดีที่สุดในชีวิตค่ะ ได้กราบครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นเสมือนพ่อผู้ให้กำเนิดทางธรรม นำทางเข้าสู่ทางธรรม ทำให้ยิ้มได้ นิ่ง มีสติ ทั้งที่ยังยังอยู่บนกองทุกข์ กองปัญหามากมาย

    เป็นกำลังใจให้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2011
  14. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ถ้าท่านไม่มั่นใจในกำลังของตนเอง พึ่งกำลังบารมีอันไม่มีประมาณของพระพุทธเจ้าท่านสิครับ แต่เราก็ต้องบำเพ็ญบารมีสิบของเราให้เต็มด้วย เช่น

    จุดธูปตั้งสัจจะสวดสรรเสริญบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยบทพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณวันละ 108 จบต่อเนื่องกันเจ็ดวัน โดยให้ตั้งใจทำเพื่อตอบแทนคุณพระรัตนตรัยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน เมื่อทำครบเจ็ดวันก็อุทิศผลบุญทั้งหมดให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วขอบารมีพระพุทธเจ้าอันไม่มีประมาณ โปรดเมตตานำส่งผลบุญทั้งหมดที่เราทำการบูชาคุณพระรัตนตรัยโดยการสวดมนต์ตามสัจจะตลอดเจ็ดวัน ให้ถึงแก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่มีเจตนาจะประทุษร้ายเราและมีกำลังใหญ่ต่อชีวิตเราในชาตินี้ ขอให้ทุกท่านได้โมทนาส่วนกุศลนี้ ให้พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับที่เราจะพึงได้รับจงทุกประการ เมื่อโมทนาแล้วก็ขออโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด นับแต่บัดนี้ไปจนกว่าจะเข้าพระนิพพาน และขอบารมีพระพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณและบุญกุศลทั้งหมดที่เราเคยทำมา ได้โปรดเป็นกำลังเป็นที่พึ่งช่วยปกปักรักษาปัดเป่าเคราะห์ภัยอันตรายใดๆ ให้พ้นไปจากชีวิตเรานับแต่บัดนี้ไปตลอดชีวิต
     

แชร์หน้านี้

Loading...