ทำไมเราถึงควรบูชาพระราหู และ"#พระนารทพุทธเจ้า" คือใคร.??

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เพชรฉลูกัน, 20 กรกฎาคม 2017.

  1. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,163
    ทำไมเราถึงควรบูชาพระราหู และ"#พระนารทพุทธเจ้า" คือใคร.?? สนใจอ่านดูได้นะครับเพื่อนๆสมาชิก "นะโม ตัสสะ" คำสรรเสริญพระพุทธเจ้าที่พระราหู มีส่วนร่วมการจารึกคำนี้ อย่างไร "ตัสสะ" ไปอ่านกันเลย....!!!
    #ในพระไตรปิฏกเล่าว่าว่า พระราหูนั้นเคยคิดเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แต่ดำริในใจว่าตนเองนั้นร่างกายใหญ่โต ไฉนเลยจะเข้าไปกราบพระพุทธองค์ได้ พระพุทธองค์สามารถรู้ถึงความคิดของพระราหูทุกประการ ได้เนรมิตร่างกายตนให้ใหญ่กว่าพระราหูหลายร้อยหลายพันเท่า อยู่ในกิริยานอนประทับปางไสยยาสน์ เมื่อราหูมาถึงที่ประทับยังนึกในใจอยู่ว่าพระองค์คงร่างเล็กนิดเดียว ก้มลงมองหาเท่าไหรก็ไม่พบ จนท้อใจคิดจะกลับอยู่แล้วจึงได้ยินเสียงพระพุทธเจ้าตรัสทัก เมื่อมองขึ้นไปจึงพบว่าร่างกายของพระพุทธเจ้าใหญ่โตยิ่งกว่าตนมากมายนัก ทั้งประทับนอนสีหไสยยาสน์ พระราหูจึงเกิดความเกรงในพระพุทธบารมี
    นอกจากนี้พระพุทธองค์ยังได้แสดงปาฏิหาริย์พาอสุรินทราหูขึ้นไป ณ พรหมโลก บรรดาพรหมทั้งหลายที่พากันมาเข้าเฝ้า ล้วนมีร่างกายเล็กกว่าพระพุทธองค์ และต่างพากันเบิ่งตา มองอสุรินทราหูเหมือนประหนึ่งมนุษย์จ้องมองมดปลวกตัวเล็ก ๆ แล้วกราบทูลถามว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญได้พาตัวอะไรมาด้วยหรือพระเจ้าข้า ” อสุรินทราหูบังเกิดความกลัวต้องหลบอยู่หลังพระบรมศาสดา นับตั้งแต่นั้นมาก็ลดมานะทิฏฐิเลิกหลงทะนงอวดตัว หลัง #จากได้ฟังพระธรรมเทศนาจึงเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ถือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสรณะ ไปตลอดชีวิต แล้วจึงกราบทูลลากลับไปยังพิภพ และถือว่าพระรูปปางสีหไสยยาสน์นั้นเป็นปางปราบอสุรินทร์ราหู ผู้ที่มีราหูเข้าแทรกในดวง ได้บูชาพระพุทธรูปปางนึ้จะดีกับตนเองยิ่งนัก ในครั้งนั้นพระพุทธองค์ยังได้กล่าวถึงบุพกรรมแต่หนหลังของพระราหูว่า เคยตั้งปณิธานไว้ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งการบำเพ็ญบารมีของพระราหูทุกภพชาติที่ผ่านมานั้นก็เพื่อพระโพธิญาณนี้และจะสำเร็จแน่นอนในอนาคตกาล พระราหูจะสำเร็จเป็นพระโพธิญาณ หรือ บรรลุเป็นอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้พระราหูปลาบปลื้ม พระราหูมีความเลื่อมใสในพระพุทธองค์ยิ่งๆขึ้น และตั้งใจบำเพ็ญเพียรทางพระโพธิญาณให้มากยิ่งๆขึ้น #ในพระไตรปิฎกล่าวว่าพระราหูจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านามว่า พระนารทพุทธเจ้า นับเป็นองค์ที่ห้าถัดจากพระศรีอารยเมตไตรพุทธเจ้า จากคติดังกล่าวนี้จึงถือว่าพระราหูนั้นมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์ และเป็นหน่อเนื้อพระพุทธางกูรแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่น่าเคารพกราบไหว้ของชาวพุทธเรา การกราบไหว้พระโพธิสัตว์นันเป็นคตินิยมอยู่แล้วของมหายาน แต่ฝ่ายหินยานหรือในบ้านเรานั่นรู้จัดเรื่องพระโพธิสัตว์น้อย พระโพธิสัตว์นั้นบางครั้งมีรูปกายสวยงาม บางครั้งในรูปกายน่ากลัว และสามารถบังเกิดในภพภูมิใดก็ได้ อย่างพระราหูเป็นพระโพธิสัตว์ที่รูปกายน่ากลัว และเป็นพระโพธิสัตว์ที่เกิดขึ้นในแดนอสูร ทำหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนา ให้พรคนดี ย่ำยีคนชั่ว บำเพ็ญบารมีสร้างภพชาติเพื่อสืบพระพุทธวงศ์มิให้สิ้นสูญ โปรดสรรพสัตว์ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นมหาบารมีมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ สมควรที่จะได้รับการกราบไหว้บูชาเช่นเทพยเจ้าองค์อื่นๆ #นอกจากนี้หลายท่านคงไม่เคยทราบว่าคำกล่าวขึ้นต้นก่อนสวดมนต์บทใดๆ ก็ตาม คือ นะโมตัสสะ นั้นเป็นคำกล่าวนอบน้อมพระพุทธเจ้าที่เทพยดาหลายพระองค์ร่วมกันแต่งขึ้น จนกลายเป็นประโยค “นะโม ตัสสะ” ที่เราสวดกัน ในบทดังกล่าวพระราหูเป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมรจนาบทคาถา “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหัตโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” โดย คำว่า
    “นะโม”ผู้กล่าวคือ พญายักษ์สันตาคีรี
    “ตัสสะ” #ผู้กล่าวคือองค์สุรินราหู
    “ภะคะวะโต"ผู้กล่าวคือ ท้าวมหาราชทั้งสี่ ได้แก่ ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรุฬปักษ์ และท้าวเวสสุวัณ
    “อะระหัตโต”ผู้กล่าวคือ พระอินทร์ เป็นคำนอบน้อมต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    “สัมมาสัมพุทธะสะ”ผู้กล่าวคือ ท้าวมหาพรหมสหัมปติ
    #นี่แหละเราถึงต้องบูชาพระราหูไม่ใช่แค่เทพแต่พระราหูมีความสำคัญต่อศาสนาพุทธทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต
     

แชร์หน้านี้

Loading...